“เฮ้อ~~” เสียงถอนหายใจยาวเหยียดจากร่างที่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงกว้าง
ร่างสมส่วนที่สวมชุดนอนสายเดี่ยวตัวบาง เธอนอนพลิกกายไปมา เพราะอาการนอนไม่หลับอีกเช่นเคย เธออุตส่าห์อาบน้ำจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ใครบางคนชอบเป็นที่สุด แต่เขาก็ยังมาไม่ถึงสักที
“เมื่อไหร่จะมาถึงนะ”
พรึ่บ หญิงสาวดีดตัวขึ้นนั่งเพราะฝืนข่มตาหลับไม่ไหว พอลุกขึ้นมาภาพตรงหน้าก็สะท้อนใบหน้าสวยแต่ทว่าหัวกลับกระเซอะกระเซิงดูไม่ดีเอาเสียเลย
เจ้าของใบหน้าสวยสดคนนี้ก็คือ ‘คะนิ้ง’ เด็กสาววัยยี่สิบสาม เธอเป็นนักศึกษาและกำลังจะเรียนจบแล้ว เธอเป็นคนสวยตั้งแต่เด็กแถมนิสัยก็น่ารัก และมักจะขี้อ้อน ทำให้ใครต่อใครเห็นเป็นต้องหลงหัวปักหัวปำ อย่างตาแก่สี่สิบแบบคนที่เธอเฝ้ารออยู่ตอนนี้ก็เช่นกัน
แกร๊ก~ และแล้วเวลาแห่งการรอคอยของเธอก็ได้สิ้นสุดลง เสียงประตูที่เปิดออกก็นับว่าเป็นเสียงสวรรค์แล้ว แต่ทว่าเสียงที่ดังตามมายิ่งกว่าเสียงสวรรค์ชั้นที่เจ็ดแปดเก้าสิบซะอีก เธอดีใจจนรีบวิ่งเข้าไปกอดอีกฝ่ายแน่นอย่างคนคิดถึง คิดถึงมาก…
“หนูคิดถึงปะป๊าที่สุดเลย”
คะนิ้งแนบหน้าเข้ากับอกแกร่งที่เธอชื่นชอบ เพราะเวลาที่อยู่ในอ้อมกอดเขาเธอมักจะรูู้สึกอบอุ่น และปลอดภัยอยู่เสมอ
“ปะป๊าก็คิดถึงหนูเหมือนกันค่ะ คิดถึงมากเลย”
คนที่แทนตัวเองว่า ‘ปะป๊า’ ในตอนนี้ไม่ใช่พ่อเธอ แต่เขาเป็นผู้ชายที่นอนร่วมเตียงเดียวกับเธอในฐานะ ‘ผัว’
เขาคือ ‘ภูผา’ ชายหนุ่มร่างบึกบึนใบหน้าหล่อคมตามแบบฉบับไทยแท้ จมูกโด่งเป็นสัน ผิวพรรณก็สะอาดสะอ้าน การแต่งกายของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าเรียกได้ว่าเนี๊ยบทุกอณูรูขุมขน
หากมองครั้งแรกคงไม่มีใครคิดว่าเขาอายุเลขสี่แล้ว ปีนี้เขาอายุก็ปาไปสี่สิบสองแต่กลับเหมือนหนุ่มสามสิบ เพราะเขาค่อนข้างดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
“ปะป๊านึกว่าหนูหลับไปแล้วซะอีก บอกว่าให้นอนก่อนไม่ใช่หรือครับ?”
เมื่อเห็นว่าร่างที่กอดเขาแน่นเริ่มคลายอ้อมแขน คนตัวโตกว่าก็เชยคางอีกฝ่ายขึ้นมาสบตา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงอันน่าหลงใหล
“หนูนอนไม่หลับหรอกค่ะ หนูรอนอนพร้อมปะป๊าอยู่”
หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานพลันส่งสายตาหยาดเยิ้มให้อีกฝ่าย เป็นลูกอ้อนไม้ตายที่เธอใช้ตกเขาให้ใจอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ
“หนูก็รู้ว่าถ้าป๊ามาแล้วหนูไม่ยอมหลับ คืนนี้หนูก็จะไม่ได้นอนเลย”
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ความหมายของเขาเธอเองย่อมรู้ดี เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอและเขาจะทำเรื่องอย่างว่านั้น
“ยังไงปะป๊าก็ต้องให้หนูนอนอยู่แล้ว เพราะพรุ่งนี้หนูมีเรียนเช้า”
“หูย~~งั้นตอนเย็นล่ะ?”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างคนเสียดาย ต่อให้เขาคิดถึงร่างกายอันเร่าร้อนใต้ชุดนอนนี่มากแค่ไหน แต่หากสิ่งใดมีผลต่อการเรียนของเด็กน้อย เขาก็จะไม่ทำเด็ดขาด
“ตอนเย็นหนูก็อยู่กับปะป๊าเต็มที่ได้ วันนี้ปะป๊ามาถึงดึกเอง ก็คงได้แค่นอนกอดนะคะ” หญิงสาวแสร้งทำเป็นเอ่ยเสียงอ้อน ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นแนบแขนแกร่งของอีกฝ่ายไว้
เธอคิดถึงและชอบการสัมผัสร่างกายของเขาจนติดเป็นนิสัย เเต่เพราะเขามีงานต้องทำ ส่วนเธอเองก็มีหน้าที่เรียนหนังสือ จึงต้องอดทนกับความห่างไกล แม้ในแต่ละครั้งเขาเองก็ไม่เคยไปนานเกินเดือน แต่เธอก็คิดถึงเขามากอยู่ดี
ปะป๊าของเธอบอกกับเธอว่า หากเธอเรียนจบเขาจะพาเธอไปอยู่ด้วยกัน และแต่งงานอย่างถูกต้อง เด็กสาวก็ดีใจวาดฝันถึงวันวิวาห์ชื่นมื่นกับชายที่รัก
เธอเป็นเด็กตัวคนเดียวตั้งแต่อายุสิบแปดปี เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้านมา เพราะสาเหตุมาจากครอบครัวที่ไม่ใช่เซฟโซนสำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
ถูกทำร้าย…
ทุบตี…
ด่าทอสารพัด…
ชีวิตบัดซบขั้นสุด!
พ่อของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเด็กเธอจึงต้องอยู่กับผู้เป็นแม่ ที่มักจะด่าทอเธอทุกวันว่าเมื่อไรจะเอาร่างกายที่ท่านมอบให้ไปขายเอาเงินมาให้แกได้ใช้จ่ายสักที
แม่ของเธอไปแย่งสามีคนอื่นมา เธอทำใจรับกับการกระทำของผู้เป็นแม่ไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอดทนอยู่ต่อได้ แต่สิ่งที่ทำให้เธอเปลี่ยนความคิด และเปลี่ยนชีวิตตัวเธอเองก็คือ เธอเกือบถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน
โชคดีที่เอาตัวรอดมาได้ แต่แทนที่ผู้เป็นแม่จะช่วยเหลือเธอกลับไม่พอใจเธอเสียอย่างนั้น ต่อว่าเธอว่าเป็นฝ่ายยั่วพ่อเลี้ยงบ้ากามนั่นเอง มันทำให้เธอเจ็บปวดและผิดหวังจนกระทั่งหนีออกจากบ้านมาในคืนนั้น โชคดีเหลือเกิน… โชคดีที่มาเจอเขา
“งั้นดีเลย รอบนี้ปะป๊ามีเวลาอยู่กับหนูตั้งสองอาทิตย์แน่ะ”
ชายหนุ่มเอ่ยพลันลูบเรือนผมนุ่มอย่างเบามือ ท่าทีอบอุ่นและทะนุถนอมอีกฝ่าย เป็นสิ่งที่เธอได้รับจากเขาเป็นคนแรกในชีวิต เธอจึงรักปะป๊าของเธอมาก รักแบบที่ไม่สามารถให้ใครอื่นใดบนโลกใบนี้ได้เลย เขาให้ชีวิตใหม่ ให้ทุกอย่างที่เธอโหยหามาตลอด
“จริงเหรอคะ? หนูดีใจที่สุดเลย งั้นปะป๊าไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวหนูนวดให้นะ ป๊าทำงานมาคงเหนื่อยแย่เลย”
เธอไม่เพียงเอ่ยเพื่อเอาใจเขาเท่านั้น เธอรู้ว่าเขานั้นเหนื่อยมากแค่ไหนที่ต้องทำงานอยูู่คนเดียว เขาให้เงินเธอใช้จ่ายมากมาย จนเธอเองมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเขาเป็นคนดูแลทั้งหมด บ้านที่อยู่ตอนนี้เขาก็ลงทุนซื้อให้เธอเพื่อเป็นของขวัญ เธออยากได้อะไรเขาก็หามาให้ทั้งนั้น ทั้งเอาใจและตามใจเธอแบบสุด ๆ เรียกว่าเป็นเเด๊ดดี๊ที่เฝ้าฝันเลยก็ว่าได้
“ไม่ต้องนวดให้ป๊าหรอกครับ มันดึกมากแล้วต้องพักผ่อนเข้าใจไหม ป๊าขอแค่นอนกอดก็พอแล้ว”
เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยอย่างใจเย็น เขามักจะให้ความสำคัญกับเธอเป็นพิเศษ แม้ว่าตนนั้นจะทำงานมาหนักมากแค่ไหนก็ตาม เขาก็จะพยายามใจเย็น และใจดีมากที่สุด เขาอยากให้เธอเป็นผู้หญิงที่ถูกรักและถนอมยกเว้นเวลาอยู่บนเตียง เรื่องนั้นเขาขอยกเว้นไว้ เพราะความชอบส่วนตัวทั้งเธอและเขาเอง
“งั้นก็ได้ค่ะ งั้นหนูนอนรอนะคะ ป๊ารีบไปอาบน้ำเถอะค่ะ”
คนตัวเล็กพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยเสียงหวาน ก่อนที่เจ้าหล่อนจะวิ่งขึ้นไปรอเขาบนเตียง ท่าทีน่ารักน่าเอ็นดูทำให้คนแก่ใจกระชุ่มกระชวยได้จริง ๆ เขาอมยิ้มให้กับหญิงสาวที่กุมหัวใจเขามาเป็นเวลาสองปีแล้ว
คนอะไรก็ไม่รู้ แค่ยิ้มก็เสียวแล้ว…
Sun Su
Talk
:
ปะป๊าช่วยใจเย็น ๆ ด้วยค่าาาา เพิ่งเปิดมาตอนแรกเนอะป๊าเนอะ><
วันนี้ไรท์มาอัปให้ 4 ตอนจุก ๆ ไปเลยค่าา
ฝากกดติดตาม กดหัวใจให้ไรท์หน่อยนะคะที่รัก^^
“โอ๊ย โอ๊ย! ป๊าเจ็บจริงนะเนี่ย”พอเขาพาเธอเข้ามาในรถเรียบร้อย ใช่ว่าจะง่ายอย่างที่คิด คะนิ้งแผลงฤทธิ์ขั้นสุดเช่นเดียวกัน เธอทั้งทุบทั้งตีเขาจนเริ่มเจ็บเข้าแล้วจริง ๆ“ก็ปล่อยหนูไปสักทีสิ!” คะนิ้งยังกัดฟันทุบอีกฝ่ายเป็นเบาะรองมือ จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวต้องโทรเรียกใครบางคนทันที“มาขับรถให้เฮียที เร็ว ๆ ”ขืนเป็นแบบนี้เขาคงขับรถไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ หากไม่จับตัวเธอไว้มีหวังขับรถไปแหกโค้งกันพอดี คนที่เขาโทรหาเมื่อกี้คือเลขาเขาเอง ก่อนหน้านี้ไม่เคยโผล่มาหรอก เพราะหากมาที่นี่เขาจะให้หาโรงแรมพัก เพราะเขานั้นต้องอยู่กับคะนิ้ง ไม่อยากให้หมอนั่นมาเห็นเข้า“นิ้ง นิ้ง หนูใจเย็น ๆ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันก็ได้นี่ครับ ตีป๊าแบบนี้บาปนะ”เขาถึงขั้นต้องเอาเรื่องบาปบุญมาอ้าง เพราะคะนิ้งยังทุบตีเขาไม่ยั้งมือ เธอเก็บกดอะไรขนาดนั้นกัน เธอไม่เคยทำตัวก้าวร้าวแบบนี้มาก่อนนี่?“เหอะ! บาปงั้นเหรอ?”“แล้วคนที่มันนอกใจเมียตัวเองมามีคนอื่นล่ะ? แล้วลากคนที่มันไม่รู้เรื่องอะไรให้เป็นคนเลวไปด้วย แบบนี
“เด็กดี”“!!!”เสียงหลอนหูดังขึ้นหน้าประตูห้องนอน คะนิ้งที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บของสำคัญก็ตกใจขีดสุด ดวงตากลมเบิกกว้าง ภายในตาเกิดเส้นสีเเดงฉาน นั่นเพราะความโกรธและเจ็บปวดเเล่นพล่านในใจ บวกกับที่เธอร้องไห้อยู่นานดวงตาจึงยิ่งน่ากลัว“หนูเปิดประตูให้ป๊าหน่อยได้ไหมคะ ป๊าอยากเข้าไปหา” คนด้านนอกเอ่ยด้วยโทนเสียงอบอุ่นและอ่อนโยนช่างน่าสะอิดสะเอียนสิ้นดี …เธอกำหมัดกัดฟันเเน่น คิดหาทางว่าจะหนีไปจากผู้ชายใจร้ายคนนี้อย่างไรดี!“......”“ป๊าขอโทษนะ” น้ำเสียงเขาฟังดูเศร้าสร้อย หากเป็นเมื่อก่อนคะนิ้งคงเชื่อสนิทใจไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้ามรักมากก็ยิ่งเจ็บมาก รักได้ก็เกลียดได้เช่นเดียวกัน!“ป๊ายอมรับผิดทุกอย่างเเล้วครับ เปิดประตูให้ป๊าหน่อยนะคนดี”ภูผาที่ยืนอยู่หน้าประตู มือถือดอกไม้ช่อใหญ่ แม้ใบหน้าและแววตาจะฉายชัดถึงอาการเหนื่อยล้า แต่ทว่าเขากลับปรับน้ำเสียงให้ฟังดูปกติที่สุด เขายอมรับผิดทุกอย่าง เขากระทำสิ่งที่ไม่ควรกระทำลงไปจริง ๆ เพราะขาด
“!!!”คะนิ้งยืนตะลึงค้าง จู่ ๆ เธอก็โดนชี้หน้าพร้อมกับถูกพ่นคำด่าจนหน้าชา!“หน้าตาก็ดีแต่ไม่มีสมอง!”“นี่คุณ! มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” หญิงสาวกำหมัดแน่น พยายามข่มกลั้นอารมณ์สุดชีวิต แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สนเลยสักนิด ยังคงพูดต่อไม่ยอมหยุด“มันไม่มากเกินไปสำหรับยัยเด็กใจแตกชอบแย่งผัวชาวบ้านแบบเธอหรอกนะ”เธอคนนั้นยังคงยืนด่าเธอฉอด ๆ ต่อหน้าผู้คนมากมายที่มาเดินตลาด คะนิ้งถึงกับยืนนิ่งหน้าชา เมื่อจู่ ๆ ก็โดนตราหน้าว่าไปแย่งผัวชาวบ้าน ทั้ง ๆ ที่เธอมีแฟนแล้ว เขาเป็นผู้ชายที่ดูแลเธออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น เขาไม่เคยบอกเธอเลยว่ามีภรรยาอยู่แล้ว เธอเองก็ไม่เคยสงสัยมาก่อน จนกระทั่งวันนี้“นะ หนูเปล่านะ หนูไม่เคยแย่งผัวใคร”หญิงสาวที่ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา เธอยืนกำหมัดไม่คลาย สายตาก็มองรอบตัว ที่เวลานี้มีคนมามุงดูอย่างคนอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้าน ตอนนี้เธอทั้งอายทั้งเสียใจ เธอก็อยู่ของเธอดี ๆ แต่กลับต้องมาโดนด่าเช่นนี้“เหอะ ตอแหล ถ้าแกไม่แย่งมาพี่ภูผาเขาไม่มีทางเลิกกับฉันมาเ
“อื้อ~~”เสียงดังอู้อี้ในลำคอเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น แม้ร่างกายจะระบมซ้ำยังเหนื่อยล้าจนแทบไม่อยากตื่น แต่ก็ต้องฝืนร่างกายตนเองลุกให้ไหว สาเหตุล้วนมาจากเมื่อคืนทั้งนั้น เพราะการกระทำรุนแรงป่าเถื่อนของคนที่เธอรัก ซึ่งบัดนี้ข้างกายไร้วี่แวว เขาหายไปแล้ว…“ฮึก~”เสียงสะอื้นถูกกลืนลงอก ยิ่งพอเธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็ยิ่งปวดหนึบในใจ น้ำตาพลันไหลอยู่รอมร่อ เธอที่เคยถูกรักถูกทะนุถนอมมาดุจเจ้าหญิง แต่ทว่าเพียงชั่วข้ามวันข้ามคืนเขากลับปฏิบัติกับเธอเหมือนวัตถุระบายอารมณ์วัตถุทางเพศ?ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เธอไม่สมควรถูกกระทำแบบนี้ด้วยซ้ำหายไปอีกแล้ว...คะนิ้งพาร่างเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ มองหาเขาคนนั้นก็หาไม่เจออีก เธอได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับยกมือเรียวขึ้นปาดน้ำตาที่ห้ามไม่อยู่ ยิ่งพอในกระจกปรากฏร่างขาวเนียนที่มีทั้งรอยเเดงรอยช้ำเด่นชัด ยิ่งเธอผิวขาวยิ่งทำให้รอยนั่นชัดเจนและตอกย้ำว่าเธอโดนกระทำอย่างไรแถมครั้งนี้ยังไร้ซึ่งคำขอโทษ ไร้ทั้งเงาคน......&ldqu
“ป๊า !!”คะนิ้งร้องตะโกนเสียงดังลั่น เมื่อร่างของอีกฝ่ายจู่โจมเข้ามากอดจูบเธออย่างคนคลั่ง เธอไม่ได้รังเกียจเขา แต่ทว่าเธอกลับกำลังเกิดกลัวขึ้นมา! มือเรียวสองข้างดันเขาออกห่างแต่ไม่เป็นผล คนตัวโตกว่ายังใช้กำลังเข้ารั้งตัวเธอไว้ พร้อมกับเอาแต่ใจตัวเองขั้นสุด!“ป๊าปล่อยหนูนะ!”“นิ้ง อย่ามาสั่งป๊า”“อื้อ!”สิ้นเสียงตะคอกจากคนที่ปากเคยพร่ำบอกแค่คำว่ารัก และมักจะพูดจาอ่อนหวานอ่อนโยนกับเธอเสมอ มาบัดนี้ราวกับเป็นคนละคน ทั้งดุร้ายและรุนแรงอย่างไร้เหตุผล ไม่สิ! เหตุผลของเขาก็คือเขานั้นเครียดแต่เครียดขนาดไหนก็ไม่ควรมาลงกับเธอไม่ใช่หรือไง!“อื้อ อ่อย~~”เสียงที่เปล่งออกมาอู้อี้จนแทบฟังไม่ออก แต่ความหมายล้วนบอกให้เขานั้นปล่อยเธอ ตอนนี้ภูผาเมาหนักจนถึงขั้นขาดสติ เขาใช้แรงมากกว่าทุกครั้ง ทั้งบีบเคล้นนวดคลึงจนเธอปวดระบมไปหมด หน้าอกก็โดนเขาบีบแรงมาก เจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมผ่อนแรงลงเลยสักนิด“อื้ม~”ริมฝีปากหนายังคงสอดแทรกสำรวจโพลงปากนุ่มพร้อม
“หนูไปเรียนแล้วนะคะ”“…”“ป๊าคะ”“ครับ ครับ”เพราะเขานั้นง่วนอยู่แต่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ตื่นมาก็เอาแต่คุยโทรศัพท์บ้างพิมพ์แชท เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยจนกระทั่งจะออกไปเรียน อีกฝ่ายก็ยังวุ่นอยู่แต่กับโทรศัพท์เช่นเดิมเขาเงยหน้ามายิ้มให้เธอทีหนึ่ง ก่อนที่จะก้มหน้าสนใจอย่างอื่นต่อ วันนี้เธอคงต้องขับรถไปเรียนเองสินะ“เอ๊ะ”คะนิ้งรู้สึกเอะใจเล็กน้อย เธอเดินลงมายังหน้าบ้านเตรียมเปิดประตูรถเก๋งคันมินิคู่ใจ แต่ทว่ากลับรู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจดจ้องมาที่เธอ เธอรับรู้ได้แบบนั้นจริง ๆพอหันไปยังหน้าบ้านก็มองเห็นเพียงแค่อะไรแว่บ ๆ ผ่านถนนหน้าบ้านไปเท่านั้น หรืออาจจะคิดมากไป ช่วงนี้มีเรื่องให้คิดเยอะจนอ๋องไปหมดแล้ว คงแค่คนเดินผ่านหน้าบ้านหรือไม่ก็เพื่อนบ้านปั่นจักรยานไปซื้อของเท่านั้นล่ะมั้ง“หลอนไปหมดแล้ว”คะนิ้งเปิดประตูเข้าไปในรถ เธอมองเข้าไปในตัวบ้านอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะตัดใจขับรถออกไปเรียนด้วยตัวเอง ในระหว่างทางก็คิดอะไรไ