Share

บทที่ 1012

Author: โม่เสียวชี่
ฉู่จืออี้แท้จริงแล้วคาดเดาได้ว่าตระกูลเมิ่งไม่มีทางส่งตัวคนมา

อย่างไรเสีย แปดปีนั้นมันนานเกินไป

นานเสียจนผู้คนในท้องพระโรงต่างก็ลืมไปแล้วว่า ในปีนั้นเป็นผู้ใดกันที่อาศัยเพียงกำลังของตน สงบเหตุการณ์ความวุ่นวายของกษัตริย์ทั้งห้า ทำให้บัลลังก์ของฮ่องเต้มั่นคงได้

ดังนั้น ครบหนึ่งชั่วยาม ฉู่จืออี้ก็กลับมาที่จวนเมิ่งอีกครั้ง

องครักษ์หน้าจวนเมิ่งได้รับคำสั่งไว้นานแล้ว พอเห็นฉู่จืออี้ก็เพียงทำความเคารพเล็กน้อย แล้วกางแขนกั้นทางไว้ “ท่านอ๋อง ใต้เท้าเมิ่ง...อ้าก!”

องครักษ์ยังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น

แสงเย็นวาบหนึ่งไม่รู้มาจากที่ใด ตัดแขนขององครักษ์คนนั้นขาดสะบั้นโดยง่ายดาย

ฉู่จืออี้สวมอาภรณ์ยาวสีดำ ยืนไขว้มืออยู่ด้านหลัง ไม่ไหวติงแม้แต่น้อย

แต่องครักษ์พยัคฆ์สิบคนกลับทะยานลงมาจากฟ้า เกราะเหล็กดำเต็มยศ พร้อมกันบุกเข้าไปยังจวนเมิ่ง

องครักษ์ของจวนเมิ่งไม่เคยเห็นเหตุการณ์น่าหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน ต่างพากันขวัญเสียจนขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

ประตูใหญ่ของจวนเมิ่งกลับถูกเปิดออกในยามนี้

พ่อบ้านจวนเมิ่งก้าวออกมา พอเห็นภาพตรงหน้าก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก แต่ยังฝืนเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1030

    ฉู่จืออี้เดินตรงเข้าไปหาเขาเซียวเหอทำความเคารพอย่างนอบน้อม “คารวะท่านอ๋อง”“ไปกันเถอะ”ฉู่จืออี้เอ่ยเสียงทุ้มแล้วก็ก้าวเดินนำไปเองเซียวเหอชะงักเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าฉู่จืออี้หมายความให้เดินคุยไปด้วย จึงยกยิ้มแล้วก้าวตามไปแน่นอนว่าหน้าห้องทรงอักษรไม่ใช่สถานที่เหมาะแก่การสนทนาแต่ไม่รู้ว่าทั้งสองเดินมาไกลเพียงใด จนกระทั่งมาถึงอุทยานหลวง มองเห็นต้นเหมยในอุทยานหลวง เซียวเหอจึงเอ่ยขึ้นก่อนในที่สุด“ต้นเหมยในอุทยานหลวงนี้ ก็ยังสู้ต้นที่จิ่งเหยียนปลูกไม่ได้”เขาพูดความจริงต้นเหมยในอุทยานหลวง แม้จะรวมกันอยู่สองสามต้น แต่ก็ดูไม่สะพรั่งและแข็งแรงเท่ากับที่จิ่งเหยียนปลูกเพียงแต่เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออกมา ย่อมแฝงนัยบางอย่างอยู่เซียวเหอถึงเพิ่งตระหนักได้ รีบจะอธิบาย แต่ฉู่จืออี้กลับพูดขึ้นก่อน “ในใจของเนี่ยนเนี่ยน ไม่มีใครเทียบจิ่งเหยียนได้”ข้อนี้ เขาย่อมรู้ดีจิ่งเหยียนคือน้ำหล่อเลี้ยงในห้วงเวลามืดมนของนาง ตอนที่ทุกคนทอดทิ้งนาง จิ่งเหยียนคือผู้ที่มอบคำมั่นว่าจะไม่ทอดทิ้งเพราะเช่นนั้น ไม่มีผู้ใดเทียบได้กับจิ่งเหยียนเซียวเหอพยักหน้าช้าๆ ริมฝีปากยกยิ้มบาง “แต่ก็ไม่มี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1029

    ดวงตาฉู่จืออี้สลดเล็กน้อย “ครั้งนี้กลุ่มชนเตอร์กิกพ่ายศึก ส่งเกอซูอวิ๋นมาสานสัมพันธไมตรี ภายนอกเหมือนเป็นการแสดงความอ่อนแอ แท้จริงแล้วก็เพียงเพื่อมาสร้างความน่าขยะแขยงแก่ข้าเท่านั้น”ความแค้นระหว่างเขากับคนเผ่าทูเจี๋ย เกรงว่าให้ร่ายยาวไปถึงยมโลกก็ยังนับไม่หมด บัดนี้กลับยังจะให้เขาแต่งกับคนเผ่าทูเจี๋ยอีกหรือ?อย่าว่าแต่เขามีเฉียวเนี่ยนแล้ว ต่อให้ไม่มี ก็ไม่มีวันตอบรับการแต่งงานเช่นนี้ได้ฮ่องเต้ก็เข้าใจ “เราเข้าใจ แต่กระนั้นองค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิกก็ใช่ว่าจะอยู่ในจวนของเจ้าตลอดไปโดยไม่มีสถานะอะไรเลยมิใช่หรือ? เฉียวเนี่ยนนั้นยังพอพูดได้ว่าเป็นน้องสาวบุญธรรมของเจ้า... เจ้าอยากจะรับน้องสาวบุญธรรมเพิ่มอีกคนกระนั้นหรือ?”ฉู่จืออี้ส่ายหน้าไม่ว่าจะเป็นน้องสาวบุญธรรมหรือคนรัก มีเฉียวเนี่ยนคนเดียวก็เพียงพอแล้วชั่วชีวิตนี้ จะไม่มีสตรีอื่นใดได้ใกล้ชิดเขาอีก“เฮ้อ!”ฮ่องเต้ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง จึงว่า “ถ้าเช่นนั้นก็คิดให้ดี ว่าจะจัดการองค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิกผู้นี้อย่างไร!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฉู่จืออี้รับคำ ก่อนลุกขึ้น คารวะขอตัวกลับเพียงแต่ ก่อนที่เขาจะก้าวออกพ้นประตูห้องทรงอักษร ฮ่องเต้ก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1028

    รุ่งขึ้น เรื่องซากศพที่ปรากฏขึ้นอย่างน่าตกใจตรงหัวเตียงของเมิ่งซ่างซู ก็แพร่สะพัดไปทั่วทุกตรอกซอกซอยจริงดังว่าเล่าปากต่อปาก เติมไข่ใส่สีไปเรื่อยๆ พอไปถึงหูฮ่องเต้ ก็กลายเป็นว่าฉู่จืออี้หั่นศพผู้นั้นเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าเมิ่งซ่างซูกระทั่งยังมีอีกหนึ่งรูปแบบ ว่าฉู่จืออี้จับมือเมิ่งซ่างซูลงมือหั่นศพด้วยตนเองสุดท้ายแล้ว ข่าวลือเหล่านั้นที่ฟังดูไม่น่าเชื่อ ฮ่องเต้ย่อมไม่เชื่อแน่แต่มีอย่างหนึ่งที่ฮ่องเต้เข้าใจได้แน่ชัด นั่นคือเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฉู่จืออี้อย่างแน่นอน!ดังนั้น วันที่สองของปีใหม่ ฉู่จืออี้จึงถูกเรียกเข้าวังในห้องทรงอักษร ฮ่องเต้กับฉู่จืออี้นั่งคนละฝั่งของกระดานหมากล้อมหมากดำหมากขาวกำลังห้ำหั่นบนกระดาน ศึกดุเดือดกำลังคุกรุ่นฮ่องเต้หยิบหมากขาวขึ้นหนึ่งเม็ด แต่ยังไม่รีบลง กลับหันไปมองฉู่จืออี้แวบหนึ่ง ก่อนจะวางหมากลงในจุดสำคัญฉู่จืออี้มองกระดาน ขมวดคิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดพลางหยิบหมากดำขึ้นมา แล้ววางลงอย่างไม่ลังเลราวกับเจอทางแก้“ฮึ่ย...” ฮ่องเต้ขมวดคิ้วแน่น เพียงรู้สึกว่าหมากเม็ดนี้ของฉู่จืออี้วางได้อย่างยอดเยี่ยมกลับไม่ได้รีบหาทางแก้ แต่หันไปมองฉู่จืออี้ถามว่า “เ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1027

    เมื่อเห็นเมิ่งซ่างซูโกรธขึ้นมา ฮูหยินเมิ่งถึงได้ปลอบ “เอาล่ะๆ ดูซิ ข้าพูดหน่อยท่านก็ไม่พอใจแล้ว!”พูดแล้ว ฮูหยินเมิ่งก็หันไปมองสาวใช้คนนั้นทีหนึ่ง เร่งว่า “ทำเสร็จหรือยัง เสร็จแล้วก็รีบออกไป!”“เจ้าค่ะ!” สาวใช้รีบรับคำ แล้วก็ถอยออกไปอย่างเร่งรีบจนกระทั่งสาวใช้ออกไป ฮูหยินเมิ่งถึงได้ก้าวไปปิดประตูห้อง แล้วหันกลับมามองเมิ่งซ่างซู “ที่จริงแล้ว ก็ต้องโทษท่านไม่ใช่หรือ? ถ้าไม่ใช่ว่าท่านทำให้อิ้งจือ… เช่นนั้นก็ราวกับยั่วยุบรรพบุรุษมิใช่หรือ?”ทีแรกก็สังหารกันใหญ่โตในจวน ทำให้หน้าประตูจวนมีเลือดไหลนองเป็นสายลำธาร คราบเลือดนั้นนางสั่งคนไปล้างทั้งบ่ายยังล้างไม่ออก!ตอนนี้ ยังได้รับศพที่ถูกชำแหละมาอีก ดันเป็นช่วงปีใหม่พอดี ช่างอัปมงคลยิ่งนัก!เมิ่งซ่างซูถลึงตามองฮูหยินเมิ่ง “โทษข้ารึ? ก็ต้องโทษเจ้าเหมือนกันนั่นแหละ ดูแลลูกสาวไม่ดี ปล่อยให้นางเข้าไปในห้องหนังสือของข้า เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นมากมาย! ถ้านางพูดออกไป เก้าชั่วโคตรของเราจะถูกล้างบางจนหมด!”ฮูหยินเมิ่งสูดลมหายใจลึก เมื่อนึกถึงสิ่งของในห้องหนังสือของเมิ่งซ่างซู นางก็ไม่ยอมเหมือนกัน “ข้าก็ไม่ได้ให้ท่านทำสิ่งเหล่านั้น เป็นท่านเองที่…

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1026

    ศีรษะ แขนขา ร่างกาย ล้วนแยกออกจากกันไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดเอามาแขวนไว้ และก็ไม่รู้ว่าแขวนไว้ตั้งแต่เมื่อใดเมิ่งซ่างซูรู้เพียงว่า พอตนเองลืมตาตื่นขึ้น ก็เห็นศีรษะนั้นแขวนอยู่ตรงหัวเตียง ประจันหน้ากับเขาตรงๆ เขาตกใจจนแทบไม่รับรู้อะไรอีกเลยแม้แต่บรรดาองครักษ์ที่วิ่งเข้ามาเป็นคนแรกๆ ก็พากันตกใจจนทรุดลงไปนั่งบนพื้น ไม่อาจขยับได้ท้ายที่สุดก็ต้องหาคนใจกล้าเข้ามาในห้อง เอาศพที่ถูกแขวนเป็นพวงนั้นลงมาจากเตียงศพถูกนำมาวางต่อเข้าด้วยกันเป็นนักรบพลีชีพที่เคยทำร้ายเฉียวเนี่ยนนั่นเอง!มีคนเมิ่งซ่างซูพยุงลงมาจากเตียงร่างท่อนล่างเปียกชุ่มไปหมดฮูหยินเมิ่งรีบสั่งคนมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เมิ่งซ่างซู แล้วเรียกหมอมาตอนกลางคืนเขาตกใจจนเกินไปหมอได้ฝังเข็มและจัดยาให้เพียงรอจนเมิ่งซ่างซูดื่มยาลดอาการตกใจหมดหนึ่งชาม ถึงค่อยๆ ตั้งสติกลับมาได้เล็กน้อย“เป็นฉู่จืออี้แน่!”เสียงสั่นเครือของเขาพูดออกมาเช่นนั้นนักรบพลีชีพคนนั้น เขาเป็นคนส่งตัวไปให้ฉู่จืออี้เองแต่บัดนี้กลับถูกส่งคืนมาในสภาพเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องเป็นฝีมือฉู่จืออี้แน่!ฮูหยินเมิ่งไม่ทันได้เห็นภาพที่ศพถูกแขวนเป็นพวงอยู่บนเตี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1025

    ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ท้องฟ้าก็พลันมีเสียงดังขึ้นมาครืนหนึ่ง"งานเลี้ยงดอกไม้ไฟของหอจุ้ยเซียงเจ้าค่ะ!" หนิงซวงพูดอย่างยินดี แต่ก็เหมือนนึกขึ้นได้ รีบหันไปมองเฉียวเนี่ยนนางยังจำได้ชัดเจนจนถึงทุกวันนี้ ว่าตอนคุณหนูของนางกลับจวนใหม่ๆ ตอนที่กลางท้องฟ้ามีดอกไม้ไฟจุดขึ้นมา เป็นสีหน้าแบบไหนนางกลัวคุณหนูจะนึกถึงเรื่องไม่ดีในอดีตขึ้นมาอีกแต่ไม่คิดเลยว่าตอนนี้บนใบหน้าเฉียวเนี่ยนกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มดอกไม้ไฟบนท้องฟ้าสว่างเจิดจ้า ปรากฏขึ้นทีแล้วทีเล่าแสงอันงดงามยังสะท้อนบนใบหน้าเฉียวเนี่ยน ทำให้รอยยิ้มของนางยิ่งดูสดใสขึ้นไปอีกหนิงซวงถึงได้วางใจทันทีดีเหลือเกิน!ดอกไม้ไฟนี่ช่างสวยงามนัก!แต่คุณหนูของนาง ยิ่งสวยงามกว่า!ฉู่จืออี้ก็พลันหันไปมองเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัว บริเวณหัวใจเหมือนถูกเติมเต็มด้วยบางสิ่ง รู้สึกพึงใจเป็นพิเศษเมื่อก่อนตลอดแปดปีนั้น เขาไม่เคยรู้สึกว่าตนเองโดดเดี่ยวสักเท่าไหร่แม้องครักษ์พยัคฆ์ต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว คืนสิ้นปีของทุกปีก็ไม่เคยมาฉลองด้วยกัน แต่ในวันปกติก็ยังมีการพบปะไม่ขาดยิ่งไปกว่านั้น เขายังค่อนข้างชอบการใช้ชีวิตเพียงลำพังเสียด้วยซ้ำแต่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status