เขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพียงเอ่ยเสียงทุ้ม "พอดีล่าหมีได้ตัวหนึ่ง จึงต้องรีบลากไปที่ตัวเมืองก่อนที่มันจะตาย"ขณะพูดก็หยิบโสมต้นเล็ก ๆ หนึ่งต้นออกมาจากในอกเสื้อ "พรุ่งนี้รบกวนป้าตุ๋นไก่ใส่โสมให้ทีเถอะนะ"ในหมู่บ้านไม่มีของกินดี ๆ อะไรมากนัก น้ำซุปไก่ก็ถือเป็นของบำรุงชั้นยอดแล้วนางรอดตายมาได้ก็นับว่าโชคดี แต่ร่างกายยังอ่อนแอเกินไป ต้องบำรุงให้มากหน่อยพูดจบก็หยิบเงินตำลึงออกมาสองสามตำลึงและยื่นให้ป้าชุนป้าชุนรีบปฏิเสธ "ไม่เป็นไร ๆ ก่อนหน้านี้ก็ให้มาตั้งห้าตำลึงแล้วไม่ใช่เหรอ?""ก่อนหน้านี้ก็คือก่อนหน้านี้" ฉู่จืออี้แรงเยอะ ป้าชุนไม่อาจฝืนเขาได้ ก็ได้แต่รับมันมาอย่างเลี่ยงไม่ได้"เช่นนั้นรอข้าก่อนนะ เดี๋ยวข้าไปตักข้าวให้เจ้า!"พูดจบก็เดินกลับไปยังบ้านของตัวเองฉู่จืออี้จึงเดินไปที่ครัว ตักน้ำเย็นจากโอ่งมาหนึ่งกระบวยและยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจากมุมที่เฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ สามารถมองเห็นแผ่นหลังของเขาขณะดื่มน้ำพอดีรวมถึงคราบเลือดขนาดใหญ่ที่เปรอะอยู่บนเสื้อเขานางขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เมื่อครู่คำพูดของฉู่จืออี้กับป้าชุนนางก็ได้ยินหมดแล้วล่าหมีงั้นหรือ ต้องอันตรายมากแน่ ๆเ
นางอดไม่ได้จะมองพิจารณาฉู่จืออี้อีกครั้งถึงแม้ตอนนี้เขาจะสวมเพียงเสื้อผ้าฝ้ายหยาบ ๆ แต่เส้นกล้ามเนื้อบนร่างกลับยังคงเด่นชัดแม้จะเห็นแค่ราง ๆสายตาคมกริบดั่งเหยี่ยว รอยแผลบนใบหน้านั้น กลับยิ่งทำให้โฉมหน้าที่หล่อเหลาอยู่เดิมเพิ่มความคมเข้มดุดันขึ้นมาอีกเป็นอย่างมากอีกทั้งเขายังสามารถฆ่าหมีได้ ถ้าจะจัดการกับนาง ก็คงไม่ยากเลยแต่เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนเลวแม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านเหอวานต่างก็พูดถึงเขาในทางดี เรียกได้ว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ถ้าเป็นคนดีจริง ย่อมไม่บังคับฝืนใจใครคิดได้ดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกไปว่า "พี่ไป๋ ข้าไม่อยากแต่งงาน เงินถุงนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้เจ้าค่ะ""..."ฉู่จืออี้เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเนี่ยนอย่างตกตะลึง ยามนี้ท้องฟ้าได้มืดสนิท ภายในห้องมีเพียงแสงเทียนริบหรี่ที่ส่องสว่างอยู่เขามองไม่ชัดนักว่าใบหน้าของนางเป็นเช่นไร แต่กลับเห็นชัดถึงดวงตากลมใสคู่นั้น ที่สั่นระริกอย่างตื่นตระหนกฉู่จืออี้จึงรู้ตัวทันทีว่าเป็นเพราะคำพูดของตนเมื่อครู่ทำให้นางเข้าใจผิด จึงเอ่ยอธิบายเบา ๆ "แม้หมู่บ้านเหอวานจะเงียบสงบ แต่ก็ใช่ว่าจะ
ตกลงนางมีสถานะอะไรกันแน่?……เมื่อเซียวเหอกลับมาจากกองทหารรักษาพระองค์ เขาก็ตรงไปยังห้องหนังสือของตนแต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับเซียวเหิงแววตาของเขาหม่นหมองลง และเดินเข้าไปข้างหน้าอย่างไม่ใส่ใจ แล้วถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า "ทำไมถึงมาที่นี่? ทางฝั่งแม่น้ำฉางหยางไม่ต้องเฝ้าแล้วหรือ?""ไม่ต้อง ส่งคนไปเฝ้าแล้ว" เซียวเหิงก็ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ดวงตาทั้งสองจ้องมองเซียวเหอราวกับเหยี่ยวเมื่อเห็นสายตาของเซียวเหอที่กวาดไปบนโต๊ะอย่างไม่ตั้งใจ เซียวเหิงก็หัวเราะเยาะออกมาเสียงเบา ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคีบกระดาษจดหมายแผ่นหนึ่งขึ้นมา "พี่ใหญ่กำลังหาสิ่งนี้อยู่หรือไม่?"เซียวเหอสีหน้าลำบากใจ ไม่ได้พูดอะไรนั่นคือจดหมายที่ส่งมาจากคนที่ถูกส่งไปประจำสาขาแม่น้ำฉางหยาง ทุกวันจะมาส่ง และทุกวันก็จะเขียนว่ายังหาไม่พบมุมปากของเซียวเหิงกลับยิ้มเยาะมากขึ้นเรื่อยๆ "พี่ใหญ่ทำลับๆ ล่อๆ เช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? คิดจะหาเนี่ยนเนี่ยนแล้วหนีตามกันไปโดยไม่บอกข้าหรือ?"ท่าทางของเขาราวกับกำลังจับชู้ทำจนเซียวเหออดขำไม่ได้ "เซียวเหิง นางเป็นภรรยาของข้า ข้าจะไปกับนางที่ใด ก็ไม่เกี่ยวกับเ
หมัดนั้น ชกเข้าที่ใบหน้าของเซียวเหออย่างแรงจนร่างของเซียวเหอกระเด็นไปด้านข้างทำให้แม่เซียวซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเซียวเหออุทานออกมาด้วยความตกใจ "เหอเอ๋อร์!"นางรีบเข้าไปประคองเซียวเหอ ดวงตาทั้งสองเอ่อคลอด้วยน้ำตา แล้วมองเซียวเหิงด้วยความเคียดแค้น "เจ้าบ้าไปแล้ว! เจ้ากล้าลงมือกับพี่ใหญ่เจ้าได้อย่างไร?!"เซียวเหิงเองก็ไม่คิดว่าแม่เซียวจะปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน หมัดเมื่อครู่นั้นเดิมทีเซียวเหอหลบได้แต่หากเขาหลบ คนที่จะโดนหมัดนั้นก็คือแม่เซียวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คิ้วของเซียวเหิงก็ขมวดแน่น ในขณะนั้นเอง ความโกรธในใจก็ถูกกดลง และค่อยๆ สงบลงเซียวเหอถูกชกจนมุมปากมีเลือดซึม แม่เซียวประคองเขาลุกขึ้นด้วยความปวดใจ "เหอเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้าง? บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?"เซียวเหอส่ายหน้านิดๆ และเหลือบมองเซียวเหิงแม้เซียวเหิงจะโกรธ แต่เขาก็ยังยั้งแรงไว้มิเช่นนั้น หมัดนั้น ฟันทั้งปากของเซียวเหอคงรักษาไว้ไม่ได้แม่เซียวค่อยๆ สงบลง แต่ก็หันมองเซียวเหิง "ทำไมยังไม่รีบขอโทษพี่ใหญ่เจ้าอีก!"เซียวเหิงเหลือบมองเซียวเหออย่างเย็นชา ไม่สนใจ และยกเท้าเดินจากไป!คนที่ทำผิดก่อนคือเซียวเหอ จะให้เขาขอโทษอย่าง
ในใจแม่เซียวรู้สึกผิดมากแต่นางก็รู้ดีว่า ความรู้สึกผิดหรือน้ำตาจำนวนมากของนางไม่มีประโยชน์อีกแล้ว...อีกฝั่ง เซียวเหิงออกจากเรือนของเซียวเหอ แล้วตรงไปยังนอกจวนทันทีแต่ไม่ทันไรก็เห็นหลินเย่ว์รีบวิ่งเข้ามาถึงหน้าประตูเขารู้สึกตกใจจึงรีบเข้าไปหา "มีข่าวของเนี่ยนเนี่ยนแล้วใช่หรือไม่?"แต่หลินเย่ว์กลับคว้าคอเสื้อเขาแล้วตะคอก "ยวนเอ๋อร์ล่ะ?"คิ้วของเซียวเหิงขมวดมุ่นลงทันที ยกมือปัดมือของหลินเย่ว์ออกไป สีหน้าเริ่มเย็นชา "ไปถามฮ่องเต้สิ!"หลินยวนถูกเนรเทศไปยังหนิงโจว เป็นพระบัญชาของฮ่องเต้ เกี่ยวอะไรกับเขา?แต่หลินเย่ว์ยังคงตามตอแย "ยวนเอ๋อร์หายตัวไป! ขุนนางที่คุมตัวยวนเอ๋อร์ไปบอกว่า เมื่อคืนนางถูกคนลักพาตัวไปแล้ว! เป็นฝีมือเจ้าใช่หรือไม่!"เซียวเหิงผลักหลินเย่ว์ออกไป "ข้าจะลักพาตัวนางไปทำไม?""ยังไม่ยอมรับอีกรึ? หากไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร? ต้องเป็นเจ้าแน่ที่คิดว่ายวนเอ๋อร์ทำร้ายเนี่ยนเนี่ยน ถึงได้ลักพาตัวนางไปแก้แค้น! แต่เซียวเหิง หยวนเอ๋อร์ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ นางก็ถูกแม่ที่เป็นหมอตำแยคนนั้นหลอกเช่นเดียวกัน!"คำพูดเพียงประโยคเดียว ทำให้ความโกรธของเซียวเหิงที่มีต่อเซียวเหอและเพิ่ง
หลินเย่ว์เดินโซซัดโซเซกลับจวนทันทีที่เข้าประตูไป ก็เห็นท่านโหวหลินเมื่อเห็นหลินเย่ว์กลับมา ท่านโหวหลินก็แสดงสีหน้าเป็นห่วง "เป็นอย่างไรบ้าง? เซียวเหิงว่าอย่างไร?"ดวงตาของหลินเย่ว์แดงก่ำ "เขาบอกว่า ท่านเป็นคนสั่งให้คนไปลักพาตัวยวนเอ๋อร์ไป"ท่านโหวหลินนึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะคาดเดาออกในทันที จึงตกใจ "เขา เขาพูดเหลวไหล เจ้าอย่าไปเชื่อเขา!"แต่หลินเย่ว์จะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าท่านโหวหลินกำลังมีพิรุธ?ทันใดนั้นเอง เขาก็กระซิบเสียงทุ้มต่ำด้วยความโกรธว่า "ท่านพ่อ ท่านบ้าไปแล้วหรือ? หากเรื่องนี้ถึงหูฮ่องเต้ พวกเราทั้งตระกูลล้วนต้องตาย!"เขายังนึกว่าเป็นฝีมือของเซียวเหิงเสียอีก ถึงกับไปขอคนคืนจากเซียวเหิง!ไม่นึกเลยว่าจะเป็นพ่อของตัวเองที่ทำเรื่องโง่ๆ"เจ้าเสียงเบาหน่อย!" ท่านโหวหลินก็กระซิบเสียงทุ้มต่ำ แต่ต่อมาก็ดูเหมือนจนปัญญา "ข้าจะทำอย่างไรได้? แม่เจ้ารู้ว่ายวนเอ๋อร์จะต้องถูกเนรเทศไปยังหนิงโจว ก็ร้องไห้ทั้งวัน เนี่ยนเนี่ยนเกิดเรื่องแล้ว หากแม้แต่ยวนเอ๋อร์ก็...""ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรเอาชีวิตคนทั้งตระกูลมาล้อเล่น!" หลินเย่ว์ตำหนิเสียงทุ้มต่ำ "ยิ่งไปกว่านั้น ที่เนี่ยนเนี่ยนเกิดเรื่อ
แคว้นจิ้ง ยี่สิบแปดเดือนสิบสองมันเป็นวันที่อากาศกำลังหนาวเย็นพอดีเฉียวเนี่ยนซักเสื้อผ้าชุดสุดท้ายในตอนเช้าเสร็จ ยังไม่ทันเช็ดมือที่หนาวจนชาให้แห้งก็ได้ยินนางกำนัลอาวุโสจากกรมซักล้างตะโกนเรียกนางว่า “เฉียวเนี่ยน เร็วเข้า จวนโหวมีคนมารับเจ้าแล้ว!”นางยืนอึ้งอยู่ที่เดิมจวนโหว ช่างเป็นคําที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยยิ่งนักนางเคยเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของจวนโหวมาสิบห้าปี แต่เมื่อสามปีก่อนกลับได้รับแจ้งว่าตนเองเป็นตัวปลอมเป็นนางกำนัลอาวุโสที่ทําคลอดในตอนนั้นที่เห็นแก่ตัว นำลูกของตัวเองกับคุณหนูของจวนโหวแลกเปลี่ยนกัน และก่อนตายก็ค้นพบมโนธรรมและบอกความจริงออกมาเฉียวเนี่ยนจําได้แม่นว่าวันนั้นที่ท่านโหวสองสามีภรรยาได้รู้จักกับหลินยวนลุกสาวแท้ๆ นั้นตื่นเต้นแค่ไหน พวกเขากอดกันทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ส่วนนางยืนมองอยู่ข้างๆ อย่างทําอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ที่ตัวเองเรียกมาสิบห้าปี ทําไมจู่ๆ ถึงไม่ใช่พ่อแม่ของตัวเองแล้วอาจเป็นเพราะมองเห็นความผิดหวังของนางได้ ท่านโหวหลินจึงสัญญากับนางว่า นางยังคงเป็นคุณหนูของจวนโหว และยังให้หลินยวนเรียกนางว่าพี่สาว แม้แต่ฮูหยินหลินก็ยังบอกว่า พวกเขาย
เฉียวเนี่ยนชะงักงัน หัวใจที่คิดว่าไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วยังคงเต้นผิดจังหวะเพราะเสียงที่คุ้นเคยนั้นนางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มในรถม้าเป็นแม่ทัพหนุ่มที่ถูกแต่งตั้งผู้นั้น อดีตคู่หมั้นของนาง เซียวเหิงนางแทบจะคุกเข่าลงทันที “บ่าวคารวะแม่ทัพเซียวเจ้าค่ะ”คิ้วของเซียวเหิงขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สายตากวาดมองข้อเท้าของนางแวบหนึ่ง เอ่ยถามเสียงเรียบว่า “แม่นางหลินจะกลับจวนหรือ?”เฉียวเนี่ยนหลุบตามองเข่าทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วพยักหน้า “เจ้าค่ะ”สิ้นเสียงก็เงียบไปพักหนึ่งเซียวเหิงรอให้นางพูดต่อเพราะเมื่อก่อน ต่อหน้าเขานางมักมีเรื่องพูดไม่จบตลอดเขาไม่ชอบคนพูดมาก แต่เห็นแก่มิตรภาพของทั้งสองตระกูลจึงไม่ตําหนินางมากเกินไป แต่ก็ไม่เคยปิดบังความเบื่อหน่ายของตัวเองบางครั้งถูกรบกวนจนรําคาญจริงๆ ก็จะหยิบขนมกล่องหนึ่งออกมาอุดปากนาง ทุกครั้งที่ถึงเวลานั้น นางมักจะดีใจเหมือนเด็กๆ แต่ปากที่หนวกหูนั้นอย่างมากก็อุดได้แค่ครึ่งก้านธูปเท่านั้นนึกไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันสามปี นางตอบแค่คําสั้นๆ คําเดียวเซียวเหิงลงจากรถม้า ไม่ได้เข้าไปประคองนาง เพียงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเข้าวังไปรายงานพอดี แม่นา
หลินเย่ว์เดินโซซัดโซเซกลับจวนทันทีที่เข้าประตูไป ก็เห็นท่านโหวหลินเมื่อเห็นหลินเย่ว์กลับมา ท่านโหวหลินก็แสดงสีหน้าเป็นห่วง "เป็นอย่างไรบ้าง? เซียวเหิงว่าอย่างไร?"ดวงตาของหลินเย่ว์แดงก่ำ "เขาบอกว่า ท่านเป็นคนสั่งให้คนไปลักพาตัวยวนเอ๋อร์ไป"ท่านโหวหลินนึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะคาดเดาออกในทันที จึงตกใจ "เขา เขาพูดเหลวไหล เจ้าอย่าไปเชื่อเขา!"แต่หลินเย่ว์จะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าท่านโหวหลินกำลังมีพิรุธ?ทันใดนั้นเอง เขาก็กระซิบเสียงทุ้มต่ำด้วยความโกรธว่า "ท่านพ่อ ท่านบ้าไปแล้วหรือ? หากเรื่องนี้ถึงหูฮ่องเต้ พวกเราทั้งตระกูลล้วนต้องตาย!"เขายังนึกว่าเป็นฝีมือของเซียวเหิงเสียอีก ถึงกับไปขอคนคืนจากเซียวเหิง!ไม่นึกเลยว่าจะเป็นพ่อของตัวเองที่ทำเรื่องโง่ๆ"เจ้าเสียงเบาหน่อย!" ท่านโหวหลินก็กระซิบเสียงทุ้มต่ำ แต่ต่อมาก็ดูเหมือนจนปัญญา "ข้าจะทำอย่างไรได้? แม่เจ้ารู้ว่ายวนเอ๋อร์จะต้องถูกเนรเทศไปยังหนิงโจว ก็ร้องไห้ทั้งวัน เนี่ยนเนี่ยนเกิดเรื่องแล้ว หากแม้แต่ยวนเอ๋อร์ก็...""ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรเอาชีวิตคนทั้งตระกูลมาล้อเล่น!" หลินเย่ว์ตำหนิเสียงทุ้มต่ำ "ยิ่งไปกว่านั้น ที่เนี่ยนเนี่ยนเกิดเรื่อ
ในใจแม่เซียวรู้สึกผิดมากแต่นางก็รู้ดีว่า ความรู้สึกผิดหรือน้ำตาจำนวนมากของนางไม่มีประโยชน์อีกแล้ว...อีกฝั่ง เซียวเหิงออกจากเรือนของเซียวเหอ แล้วตรงไปยังนอกจวนทันทีแต่ไม่ทันไรก็เห็นหลินเย่ว์รีบวิ่งเข้ามาถึงหน้าประตูเขารู้สึกตกใจจึงรีบเข้าไปหา "มีข่าวของเนี่ยนเนี่ยนแล้วใช่หรือไม่?"แต่หลินเย่ว์กลับคว้าคอเสื้อเขาแล้วตะคอก "ยวนเอ๋อร์ล่ะ?"คิ้วของเซียวเหิงขมวดมุ่นลงทันที ยกมือปัดมือของหลินเย่ว์ออกไป สีหน้าเริ่มเย็นชา "ไปถามฮ่องเต้สิ!"หลินยวนถูกเนรเทศไปยังหนิงโจว เป็นพระบัญชาของฮ่องเต้ เกี่ยวอะไรกับเขา?แต่หลินเย่ว์ยังคงตามตอแย "ยวนเอ๋อร์หายตัวไป! ขุนนางที่คุมตัวยวนเอ๋อร์ไปบอกว่า เมื่อคืนนางถูกคนลักพาตัวไปแล้ว! เป็นฝีมือเจ้าใช่หรือไม่!"เซียวเหิงผลักหลินเย่ว์ออกไป "ข้าจะลักพาตัวนางไปทำไม?""ยังไม่ยอมรับอีกรึ? หากไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร? ต้องเป็นเจ้าแน่ที่คิดว่ายวนเอ๋อร์ทำร้ายเนี่ยนเนี่ยน ถึงได้ลักพาตัวนางไปแก้แค้น! แต่เซียวเหิง หยวนเอ๋อร์ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ นางก็ถูกแม่ที่เป็นหมอตำแยคนนั้นหลอกเช่นเดียวกัน!"คำพูดเพียงประโยคเดียว ทำให้ความโกรธของเซียวเหิงที่มีต่อเซียวเหอและเพิ่ง
หมัดนั้น ชกเข้าที่ใบหน้าของเซียวเหออย่างแรงจนร่างของเซียวเหอกระเด็นไปด้านข้างทำให้แม่เซียวซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเซียวเหออุทานออกมาด้วยความตกใจ "เหอเอ๋อร์!"นางรีบเข้าไปประคองเซียวเหอ ดวงตาทั้งสองเอ่อคลอด้วยน้ำตา แล้วมองเซียวเหิงด้วยความเคียดแค้น "เจ้าบ้าไปแล้ว! เจ้ากล้าลงมือกับพี่ใหญ่เจ้าได้อย่างไร?!"เซียวเหิงเองก็ไม่คิดว่าแม่เซียวจะปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน หมัดเมื่อครู่นั้นเดิมทีเซียวเหอหลบได้แต่หากเขาหลบ คนที่จะโดนหมัดนั้นก็คือแม่เซียวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คิ้วของเซียวเหิงก็ขมวดแน่น ในขณะนั้นเอง ความโกรธในใจก็ถูกกดลง และค่อยๆ สงบลงเซียวเหอถูกชกจนมุมปากมีเลือดซึม แม่เซียวประคองเขาลุกขึ้นด้วยความปวดใจ "เหอเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้าง? บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?"เซียวเหอส่ายหน้านิดๆ และเหลือบมองเซียวเหิงแม้เซียวเหิงจะโกรธ แต่เขาก็ยังยั้งแรงไว้มิเช่นนั้น หมัดนั้น ฟันทั้งปากของเซียวเหอคงรักษาไว้ไม่ได้แม่เซียวค่อยๆ สงบลง แต่ก็หันมองเซียวเหิง "ทำไมยังไม่รีบขอโทษพี่ใหญ่เจ้าอีก!"เซียวเหิงเหลือบมองเซียวเหออย่างเย็นชา ไม่สนใจ และยกเท้าเดินจากไป!คนที่ทำผิดก่อนคือเซียวเหอ จะให้เขาขอโทษอย่าง
ตกลงนางมีสถานะอะไรกันแน่?……เมื่อเซียวเหอกลับมาจากกองทหารรักษาพระองค์ เขาก็ตรงไปยังห้องหนังสือของตนแต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับเซียวเหิงแววตาของเขาหม่นหมองลง และเดินเข้าไปข้างหน้าอย่างไม่ใส่ใจ แล้วถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า "ทำไมถึงมาที่นี่? ทางฝั่งแม่น้ำฉางหยางไม่ต้องเฝ้าแล้วหรือ?""ไม่ต้อง ส่งคนไปเฝ้าแล้ว" เซียวเหิงก็ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ดวงตาทั้งสองจ้องมองเซียวเหอราวกับเหยี่ยวเมื่อเห็นสายตาของเซียวเหอที่กวาดไปบนโต๊ะอย่างไม่ตั้งใจ เซียวเหิงก็หัวเราะเยาะออกมาเสียงเบา ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคีบกระดาษจดหมายแผ่นหนึ่งขึ้นมา "พี่ใหญ่กำลังหาสิ่งนี้อยู่หรือไม่?"เซียวเหอสีหน้าลำบากใจ ไม่ได้พูดอะไรนั่นคือจดหมายที่ส่งมาจากคนที่ถูกส่งไปประจำสาขาแม่น้ำฉางหยาง ทุกวันจะมาส่ง และทุกวันก็จะเขียนว่ายังหาไม่พบมุมปากของเซียวเหิงกลับยิ้มเยาะมากขึ้นเรื่อยๆ "พี่ใหญ่ทำลับๆ ล่อๆ เช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? คิดจะหาเนี่ยนเนี่ยนแล้วหนีตามกันไปโดยไม่บอกข้าหรือ?"ท่าทางของเขาราวกับกำลังจับชู้ทำจนเซียวเหออดขำไม่ได้ "เซียวเหิง นางเป็นภรรยาของข้า ข้าจะไปกับนางที่ใด ก็ไม่เกี่ยวกับเ
นางอดไม่ได้จะมองพิจารณาฉู่จืออี้อีกครั้งถึงแม้ตอนนี้เขาจะสวมเพียงเสื้อผ้าฝ้ายหยาบ ๆ แต่เส้นกล้ามเนื้อบนร่างกลับยังคงเด่นชัดแม้จะเห็นแค่ราง ๆสายตาคมกริบดั่งเหยี่ยว รอยแผลบนใบหน้านั้น กลับยิ่งทำให้โฉมหน้าที่หล่อเหลาอยู่เดิมเพิ่มความคมเข้มดุดันขึ้นมาอีกเป็นอย่างมากอีกทั้งเขายังสามารถฆ่าหมีได้ ถ้าจะจัดการกับนาง ก็คงไม่ยากเลยแต่เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนเลวแม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านเหอวานต่างก็พูดถึงเขาในทางดี เรียกได้ว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ถ้าเป็นคนดีจริง ย่อมไม่บังคับฝืนใจใครคิดได้ดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกไปว่า "พี่ไป๋ ข้าไม่อยากแต่งงาน เงินถุงนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้เจ้าค่ะ""..."ฉู่จืออี้เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเนี่ยนอย่างตกตะลึง ยามนี้ท้องฟ้าได้มืดสนิท ภายในห้องมีเพียงแสงเทียนริบหรี่ที่ส่องสว่างอยู่เขามองไม่ชัดนักว่าใบหน้าของนางเป็นเช่นไร แต่กลับเห็นชัดถึงดวงตากลมใสคู่นั้น ที่สั่นระริกอย่างตื่นตระหนกฉู่จืออี้จึงรู้ตัวทันทีว่าเป็นเพราะคำพูดของตนเมื่อครู่ทำให้นางเข้าใจผิด จึงเอ่ยอธิบายเบา ๆ "แม้หมู่บ้านเหอวานจะเงียบสงบ แต่ก็ใช่ว่าจะ
เขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพียงเอ่ยเสียงทุ้ม "พอดีล่าหมีได้ตัวหนึ่ง จึงต้องรีบลากไปที่ตัวเมืองก่อนที่มันจะตาย"ขณะพูดก็หยิบโสมต้นเล็ก ๆ หนึ่งต้นออกมาจากในอกเสื้อ "พรุ่งนี้รบกวนป้าตุ๋นไก่ใส่โสมให้ทีเถอะนะ"ในหมู่บ้านไม่มีของกินดี ๆ อะไรมากนัก น้ำซุปไก่ก็ถือเป็นของบำรุงชั้นยอดแล้วนางรอดตายมาได้ก็นับว่าโชคดี แต่ร่างกายยังอ่อนแอเกินไป ต้องบำรุงให้มากหน่อยพูดจบก็หยิบเงินตำลึงออกมาสองสามตำลึงและยื่นให้ป้าชุนป้าชุนรีบปฏิเสธ "ไม่เป็นไร ๆ ก่อนหน้านี้ก็ให้มาตั้งห้าตำลึงแล้วไม่ใช่เหรอ?""ก่อนหน้านี้ก็คือก่อนหน้านี้" ฉู่จืออี้แรงเยอะ ป้าชุนไม่อาจฝืนเขาได้ ก็ได้แต่รับมันมาอย่างเลี่ยงไม่ได้"เช่นนั้นรอข้าก่อนนะ เดี๋ยวข้าไปตักข้าวให้เจ้า!"พูดจบก็เดินกลับไปยังบ้านของตัวเองฉู่จืออี้จึงเดินไปที่ครัว ตักน้ำเย็นจากโอ่งมาหนึ่งกระบวยและยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจากมุมที่เฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ สามารถมองเห็นแผ่นหลังของเขาขณะดื่มน้ำพอดีรวมถึงคราบเลือดขนาดใหญ่ที่เปรอะอยู่บนเสื้อเขานางขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เมื่อครู่คำพูดของฉู่จืออี้กับป้าชุนนางก็ได้ยินหมดแล้วล่าหมีงั้นหรือ ต้องอันตรายมากแน่ ๆเ
เฉียวเนี่ยนชะงักไปชั่วขณะยังไม่ทันได้ตั้งสติ ป้าชุนก็รีบพูดขึ้นว่า "อย่าไปฟังป้าตงฮวาพูดเรื่อยเปื่อยเลยนะ ไป๋อวี่กับพรานจากหมู่บ้านใกล้ ๆ อีกหลายคนจะเข้าไปลึกในป่าสักครั้งทุกสองสามเดือนน่ะ ในป่าลึกน่ะ มีของป่าหายากกว่าข้างนอกเยอะ!"ข้างนอกมากสุดก็แค่เจอไก่ป่า กระต่ายป่าแต่ในป่าลึกนั้นไม่เหมือนกันเลยมีทั้งหมูป่า หมี และบางครั้งถึงขั้นเจอเสือก็มีเมื่อหลายปีก่อน ไป๋อวี่เคยขึ้นเขากับกลุ่มพรานพวกนั้นแล้วได้เสือมาหนึ่งตัว พอเอาไปขายที่ในตัวเมือง ก็ได้เงินมาจำนวนมาก พอแบ่งกันแล้ว ไป๋อวี่ก็ไม่ต้องเข้าไปในป่าลึกอีกตลอดทั้งปีแต่ป้าตงฮวากลับแค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ "ข้าพูดผิดตรงไหนกัน? ไป๋อวี่เพิ่งเข้าไปในป่าลึกคราวที่แล้ว ยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ!"ในเดือนเดียวเข้าไปในป่าลึกถึงสองครั้ง ไม่ใช่เพราะต้องใช้เงินรักษาคนหรือไง?ป้าชุนกลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะคิดมากจึงอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่ป้าตงฮวา "โอ๊ย พูดให้น้อย ๆ หน่อย!"ดูเหมือนป้าตงฮวาเพิ่งรู้ตัว นางจึงหันมายิ้มแห้ง ๆ ให้เฉียวเนี่ยน "อะ… แม่หนูอย่าคิดมากนะ ไป๋อวี่น่ะเก่งจะตาย ไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน!"เฉียวเนี่ยนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและพย
อย่างไรเสีย เขาก็เคยเป็นแม่ทัพที่นำทัพมาหลายปี หากแม้แต่เล่ห์กลตื้น ๆ ของซุนเซี่ยนเขายังดูไม่ออก ก็เท่ากับเสียชาติเกิดแล้วใบหน้าของซุนเซี่ยนแดงบ้างซีดบ้างสลับกันไปมา"แต่ข้าก็ช่วยเจ้ามาไม่น้อยเลยนะ! อย่าลืมล่ะ ตอนที่เจ้าส่งคนไปตามหาที่แม่น้ำฉางหยาง ข้าก็ให้เจ้ายืมคนให้เจ้าตั้งเยอะ!""พูดถึงเรื่องนั้น…" เสียงของเซียวเหอเย็นเฉียบ สายตาที่มองซุนเซี่ยนก็ปกคลุมด้วยไอสังหาร "หากมิใช่เพราะใต้เท้าซุนตั้งใจแพร่ข่าวให้กระจายไปทั่ว เนี่ยนเนี่ยนคงไม่ตกอยู่ในกำมือโจรภูเขา และคงไม่ตกลงไปในแม่น้ำฉางหยางหรอก!"ได้ยินดังนั้น ซุนเซี่ยนก็สะดุ้งเฮือกในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเซียวเหอถึงแทงเขาจากด้านหลังทันใดนั้นก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ "เจ้าคนแซ่เซียว! เรื่องนี้เจ้าจะโยนมาให้ข้าไม่ได้! ตอนแรกมันก็เป็นเจ้าต่างหากที่ให้คนปล่อยข่าว ข้าแค่ช่วยนิดหน่อยเอง อีกอย่าง บางทีตอนที่ข้ายังไม่ทันแพร่ข่าวออกไป โจรภูเขาพวกนั้นก็อาจรู้เรื่องอยู่แล้วก็ได้!"ก็ใช่ มันมีความเป็นไปได้นั้นอยู่แต่ตอนนั้นเขาเดาแผนของเนี่ยนเนี่ยนออกแล้ว จึงให้จี้เยว่ไปปิดข่าวไว้ แต่เป็นซุนเซี่ยนนั่นแหละ ที่เอาแต่โหมไฟให้เรื่องใหญ่โต!
หลังจากท่านโหวหลินแสดงความขอบคุณเสร็จแล้วก็ออกไปภายในห้องทรงอักษรจึงเหลือเพียงเซียวเหอกับฮ่องเต้เมื่อเห็นสีหน้าหม่นหมองของเซียวเหอ ฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "เป็นอะไรไปหรือ? ไม่พอใจรึ? หรือเจ้าคิดจะกวาดล้างจวนโหวจนหมดสิ้นกันเล่า?"เซียวเหอรีบประสานมือคำนับ กล่าวเสียงเบา "กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ"ฝ่าบาทถอนพระทัยเบา ๆ "ตระกูลหลินก็เป็นขุนนางที่บุกเบิกแผ่นดินนี้ หากว่าข้าสามารถไม่ใยดีทุกสิ่งและกวาดล้างตระกูลหลินได้ ป่านนี้ตระกูลหลินก็คงไม่หลงเหลืออยู่แล้ว"หลังความวุ่นวายของกษัตริย์ทั้งห้า ตระกูลหลินก็ควรจะสิ้นชื่อไปแล้วเซียวเหอไม่ได้ตอบอะไร ฝ่าบาทเหลือบตามองเขาอีกครั้ง พลางยิ้มบาง ๆ "ยิ่งไปกว่านั้น นั่นก็คือบ้านเกิดของเนี่ยนเนี่ยน หากเจ้าอยากทำเพื่อเนี่ยนเนี่ยนจริง ๆ เจ้าก็ควรจะเก็บตระกูลหลินไว้"จะให้เฉียวเนี่ยน ไม่สิ หลินเนี่ยนต้องมีความแค้นลึกฝังใจกับบ้านเกิดของตนเองกระนั้นหรือ?สีหน้าเซียวเหอเรียบเฉย แต่ก็พยักหน้าเล็กน้อย "ฝ่าบาทตรัสถูกแล้ว"แต่ในใจเขากลับคิดว่า หากเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ นางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?นางคงไม่สนใจหรอกนางยังอยากจะตัดขาดกับจวนโหวเสียด้วยซ