แชร์

บทที่ 557

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
ในเวลานี้เอง ในลานบ้านพลันมีเสียงเคลื่อนไหวเล็กน้อยลอยมา

เฉียวเนี่ยนตกใจ รีบลุกขึ้นไปมองในลานบ้าน ก็เห็นเงาคนคนหนึ่งแกว่งไกวอยู่ในลานบ้าน"

"ใครกัน?"

"ข้าเอง"

เสียงค่อนข้างคุ้นเคย

เฉียวเนี่ยนถามหยั่งเชิงว่า "ฝูวั่ง?"

"ใช่!" ฝูวั่งรับคํา จากนั้นก็เดินไปที่ประตูแล้วพูดว่า "แม่ข้าบอกว่าตอนกลางคืนต้มแกงไก่ไว้ สุดท้ายลืมไปเพราะเรื่องป้าตงฮวา เมื่อครู่นำไปอุ่นใหม่อีกรอบ ให้ข้านํามาให้!"

ป้าชุนต้มแกงไก่ให้นางดื่มทุกวันจริงๆ นั่นแหละ

เฉียวเนี่ยนไม่ได้สงสัยอะไร จึงพูดว่า "ได้ เจ้าวางไว้ที่หน้าประตู เดี๋ยวข้าไปเอา"

"ได้!"

อีกฝ่ายตอบรับทันที

ไม่นาน เฉียวเนี่ยนก็เห็นฝูวั่งออกจากลานบ้าน

นางลุกขึ้นและเดินกะโผลกกะเผลกไปที่ประตู

เปิดประตูแล้ว บนพื้นมีแกงไก่ชามหนึ่งวางอยู่จริงๆ1

นางค่อยๆ ย่อตัวลง ยกแกงไก่ขึ้น แต่ไม่คิดว่าในเวลานี้ มีเงาคนคนหนึ่งกระโดดออกมาจากมุมห้อง ไม่รอให้นางได้ตอบสนอง ก็ปิดปากนางไว้

ในมือของอีกฝ่ายซ่อนยาสลบไว้

เพียงลมหายใจเดียว เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกหน้ามืด ไร้สติโดยสิ้นเชิง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว นางถึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองถูกคนแบกไว้บนไหล่

"เจ้าเดินเร็วๆ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 568

    ฉู่จืออี้ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับข้อเสนอของเจ้าหกเพราะเมื่อคราวก่อนที่แสร้งเมามาย พวกเขาได้ยินว่าเฉียวเนี่ยนไปเรียกให้ป้าชุนมาดูแลก็ล้วนแล้วแต่เกิดความชื่นชมในตัวนางไม่น้อยวันนี้ เขาบอกพวกเขาเกี่ยวกับฐานะของเฉียวเนี่ยน แน่นอนว่าเรื่องราวของนางก็เล่าร่วมไปด้วย แต่ละคนฟังแล้วล้วนรู้สึกหวาดหวั่น ไม่อยากจะเชื่อยิ่งมีสายสัมพันธ์กับจิ่งเหยียนเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขายิ่งอดรู้สึกเวทนาในใจมิได้ทว่าเรื่องที่เจ้าหกจะยกให้เฉียวเนี่ยนเป็นน้องสาวบุญธรรมนี้ ฉู่จืออี้ก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกเช่นกันจึงได้แต่หันไปมองเฉียวเนี่ยน พลางกล่าวเสียงราบเรียบ “เจ้าหกก็พูดไปอย่างนั้น หากเจ้ามิเต็มใจ ก็ไม่มีผู้ใดบังคับเจ้าได้”“ใช่ ๆ ข้าก็พูดลอย ๆ ไปตามใจเท่านั้น คุณหนูเฉียวอย่าได้รู้สึกกดดันเลย!”พวกเขาอยากยกให้นางเป็นน้องสาวบุญธรรม กลับมิได้เอ่ยถามความสมัครใจของนางก่อนทว่าคำพูดของเจ้าหกยังไม่ทันจบดี เฉียวเนี่ยนก็ยิ้มออกมา “พี่หกกล่าวเพียงลอย ๆ ข้ากลับเก็บเอาไปคิดจริงจังแล้วเจ้าค่ะ”องครักษ์พยัคฆ์อันเป็นตำนานในใจของราษฎรแห่งแคว้นจิ้ง จะยอมรับนางเป็นน้องสาวบุญธรรม ถือเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่จะไม่ยินด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 567

    ที่นี่มิใช่เมืองหลวง หากแต่คือหมู่บ้านเหอวานที่นี่ไม่มีอ๋องผิงหยาง มีเพียงพรานป่าไป๋อวี่เท่านั้นเห็นฉู่จืออี้ไม่ถือมารยาทพิธีรีตองอันใด เฉียวเนี่ยนจึงไม่กล่าวอะไรอีก เข้าไปในเรือนโดยดุษฎีครานั้นเฉียวเนี่ยนอาจนอนดึกเกินไป กระทั่งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตะวันก็ลอยสูงอยู่กลางฟ้าแล้วป้าชุนกำลังนั่งเย็บปะเสื้อผ้าอยู่ในร่ม เห็นเฉียวเนี่ยนลืมตาตื่นก็รีบลุกขึ้นไปตักโจ๊กมาให้ “ไป๋อวี่บอกว่าเจ้ารู้สึกไม่สบาย สั่งข้าอย่าเพิ่งรบกวน วันนี้เจ้าดีขึ้นหรือยัง?”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเบา ๆ เหลือบมองลานบ้านหน้าเรือนอันว่างเปล่าแล้วหัวเราะเบา ๆ “พี่ไป๋ออกไปทำงานกับฝูวั่งอีกแล้วหรือเจ้าคะ?”แต่ป้าชุนกลับส่ายหน้า “เปล่าหรอก ไป๋อวี่ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ เห็นทีจะมีเรื่องที่ต้องจัดการในตัวเมือง ส่วนฝูวั่งเมื่อวานปวดไปทั้งตัว ตอนนี้ยังนอนอยู่เลย!”ฟังดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างลางสังหรณ์ของนางบอกว่าการที่ฉู่จืออี้ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ น่าจะเกี่ยวข้องกับตัวนางเองเขาคงไม่ถึงขั้นไปแจ้งความจับนางหรอกกระมัง?ความรู้สึกเสียใจค่อย ๆ คืบคลานขึ้นมา เมื่อคืน นางเปิดเผยทุกอย่างกับฉู่จืออี้ไปอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 566

    ฉู่จืออี้ถูกเฉียวเนี่ยนทำให้งุนงง“เฉียวเนี่ยน? เจ้าไม่ใช่น้องสาวของจิ่งเหยียนหรอกหรือ?”เฉียวเนี่ยนมีท่าทีประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้น แต่ก็เข้าใจในทันที เดิมทีฉู่จืออี้เข้าใจว่านางคือจิ่งโหรว นางจึงยิ้มมุมปากแล้วกล่าวว่า “หม่อมฉันเป็นคู่หมั้นของจิ่งเหยียนเพคะ”ภายใต้แสงราตรี ดวงตาคมกริบคู่นั้นฉายแววประหลาดใจฉู่จืออี้ลุกขึ้นแล้วก้าวเข้ามา ประคองเฉียวเนี่ยนให้ลุกขึ้นก่อนจะกล่าวว่า “เช่นนั้น จิ่งเหยียนตายด้วยน้ำมือของโจรภูเขากลุ่มนั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย นางรับรู้ความโกรธที่แฝงในน้ำเสียงของฉู่จืออี้พวกโจรภูเขาเฮงซวยนั่น ฆ่าพวกพ้องของเขา แล้วยังทำลายชื่อเสียงของเขากับหน่วยองครักษ์พยัคฆ์อีก!ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ ฉู่จืออี้ก็ถามต่อว่า “แล้วเจ้ากับเซียวเหอมีความสัมพันธ์เช่นไร?”เฉียวเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็นึกได้ว่านางเคยแสดงฝีมือยิงลูกหินให้ฉู่จืออี้เห็นมาก่อน จึงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เซียวเหอ เคยเป็นสามีของหม่อมฉันเพคะ”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกจากปาก เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกได้ว่าสายตาของฉู่จืออี้ที่มองนางเปลี่ยนไปเดี๋ยวก็เป็นคู่หมั้นของจิ่งเหยียน เดี๋ยวก็เป็

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 565

    “ข้าไม่ได้คิดจะฆ่าท่าน” เสียงของเฉียวเนี่ยนสั่นเทา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจ็บ หรือเพราะเสียใจ น้ำตาก็ร่วงลงมา “ข้าแค่ต้องการล้างแค้นให้คู่หมั้นของข้าเท่านั้น!”คิ้วของฉู่จืออี้ขมวดเข้าหากันทันที “คู่หมั้นของเจ้า?”ในหัวของเขา มีใบหน้าหลายสิบหลายร้อยผุดขึ้นมาในพริบตา แต่เขาสังหารคนไปมากเสียจนจำไม่ได้เลยว่าคู่หมั้นของนางคือใครเฉียวเนี่ยนรู้ดีว่าวันนี้ตนไม่มีทางแก้แค้นได้สำเร็จแล้ว แต่ก็หาได้หวาดกลัวไม่ “ข้ารู้ว่าท่านคือผู้มีพระคุณของข้า แต่ท่านมีความเกี่ยวพันกับพวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ย! พวกเขาฆ่าคน ปล้นชิง ล้างบางหมู่บ้าน ทำทุกอย่างที่เลวร้ายที่สุด! ท่านเรียกพวกมันว่าพี่น้อง แบบนี้ก็ไม่ใช่คนดีอะไร!”ฉู่จืออี้ถึงเพิ่งเข้าใจว่าเฉียวเนี่ยนเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นโจรภูเขาเขาปล่อยนางทันที แล้วถอยหลังไปสองก้าวเฉียวเนี่ยนก็ลุกขึ้นนั่งตาม ขอบตาตาแดงกล่ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม นางมองเห็นฉู่จืออี้ก้มหน้าดึงเข็มเย็บปักออกจากร่าง ก็ได้แต่กัดริมฝีปากไว้แน่น ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อยตอนนางเข้าโจมตีเขาขณะนอนหลับ นางยังไม่ชนะ ตอนนี้เขาตื่นเต็มตา นางยิ่งไม่ใช่คู่มือ“ข้าไม่ใช่โจรภูเขา พี่น้องของข้าก็เช่นกัน” ฉ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 564

    ป้าชุนเห็นดังนั้นก็รีบพูดขึ้น “โอย ตายแล้ว! ข้าไปหยิบผ้ามาให้เช็ดก่อนนะ” พูดจบก็รีบเดินออกจากเรือนไปฝูวั่งเองดูเหมือนจะไม่อยากอยู่กับฉู่จืออี้นัก ก็เลยเดินตามป้าชุนออกไปด้วยฉู่จืออี้หันไปมองชายหนุ่มแวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าว “ในตู้มีเสื้ออยู่ เอามาเปลี่ยนเถอะ”เรือนของฉู่จืออี้เป็นทั้งห้องนอนและห้องโถงรวมกัน ตู้เก็บเสื้อผ้าจึงอยู่ไม่ไกลดูเหมือนเขาจะเข้าใจเจตนาของฉู่จืออี้ดี เขาเดินไปที่ตู้ หยิบเสื้อผ้าหยาบ ๆ ตัวหนึ่งออกมา แล้วก็เปลี่ยนเสื้อต่อหน้าเฉียวเนี่ยนทันทีรอยสักหัวเสือกลางหน้าอก เด่นชัดเป็นที่สุดเหมือนกับว่าความสงสัยบางอย่างได้รับการยืนยัน ความสับสนว้าวุ่นในใจของเฉียวเนี่ยนกลับค่อย ๆ สงบลงนางกลับไปนั่งที่เดิม แล้วเริ่มกินอาหารคำแล้วคำเล่าอย่างไม่ลังเล เมื่อป้าชุนกลับเข้ามาอีกครั้ง ใบหน้าของนางก็ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติชายหนุ่มรับผ้าขนหนูมาเช็ดตัว พลางเงยหน้าสบตาฉู่จืออี้อย่างไม่ได้นัดหมาย บางสิ่ง…ไม่ต้องพูด ก็เข้าใจตรงกันหลังมื้ออาหาร ฉู่จืออี้ก็ยังไปยืมเกวียนตามที่พูด ทว่าเฉียวเนี่ยนบอกว่านางรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ไม่อยากเข้าเมือง ฉู่จืออี้จึงไม่ได้ฝืนใจ และนำเกวียนไปคื

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 563

    ฉู่จืออี้ได้ยินเสียงจึงหันมามอง เมื่อเห็นสีหน้าของเฉียวเนี่ยนก็รู้สึกว่าผิดปกติ เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้าจะไปยืมเกวียนมาเข้าเมืองช่วงบ่าย แล้วจะตามหมอมาดูเจ้าเสียหน่อย!”เฉียวเนี่ยนไม่ตอบร่างของนางกลับสั่นเทาเล็กน้อยภาพของจิ่งเหยียนที่เลือดท่วมตัวกับฉากที่ฉู่จืออี้เข้ามาช่วยนาง สลับไปมาในหัวจนทำให้นางไม่รู้ควรทำอย่างไรดีแม้แต่จะพูดก็พูดไม่ออกทว่าไม่ทันที่ความคิดจะตกผลึก เสียงจากนอกรั้วไม้เรือนหลีปาก็พลันดังขึ้น “พี่ใหญ่!”ผู้มาเยือนดูแปลกหน้า เฉียวเนี่ยนจึงไม่แน่ใจว่าเขาคือคนที่เคยมาดื่มเหล้ากับฉู่จืออี้ที่เรือนคราวก่อนหรือไม่เพราะวันนั้นคนมากหน้าหลายตา นางจำหน้าได้ไม่หมดแต่ในเมื่ออีกฝ่ายเรียกฉู่จืออี้ว่าพี่ใหญ่ ก็แสดงว่าเป็นพวกเดียวกันแน่นอนฉู่จืออี้เดินออกไปต้อนรับ “เจ้ามาทำไมหรือ?”“มาบอกข่าวเรื่องหลี่ต้าหนิว” ชายคนนั้นพูดพลางพยักหน้าให้เฉียวเนี่ยนเล็กน้อยเป็นการทักทาย จากนั้นก็ดึงฉู่จืออี้ไปคุยกันลับ ๆเฉียวเนี่ยนฟังไม่ออกว่าพวกเขาพูดอะไรกัน ยิ่งทำให้นางรู้สึกไม่เข้าใจ หากเป็นแค่เรื่องหลี่ต้าหนิว เหตุใดต้องปิดบังด้วย?ทางด้านป้าชุนก็จัดสำรับเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 562

    หนอนอีกตัวในหมู่บ้านเหอวานก็คือชายแก่ไร้เมียชื่อหลี่ต้าหนิว ซึ่งเป็นคนที่สอนให้ฝูวั่งเล่นการพนันน่าขันก็ตรงที่ ตอนที่ชาวบ้านพากันไปหานั้น เขากลับเอาขาตัวเองที่ถูกกับดักสัตว์หนีบมาโชว์ บอกว่าเป็นแผลที่เกิดจากการพลาดเหยียบกับดักตอนที่ออกไปตามหาสือโถวกับพ่อของเขาแท้จริงแล้ว เขาหวังจะใช้เรื่องนี้ข่มขู่ครอบครัวของป้าตงฮวา หากไม่ได้ผลก็จะไปขอเงินจากหัวหน้าหมู่บ้านแทนแต่ใครจะคิดเล่าว่าชาวบ้านจะไม่สนใจคำแก้ตัว กลับมัดเขาไว้แน่นหนา แล้วพาตรงไปส่งต่อหน้าฉู่จืออี้ส่วนหลังจากนั้นจัดการอย่างไร เฉียวเนี่ยนไม่รู้ รู้แค่ว่าพอตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา หลี่ต้าหนิวก็ถูกส่งตัวไปยังจวนขุนนางเสียแล้วส่วนฝูวั่งนั้น ก็ถูกฉู่จืออี้พาไปยังท้องนาแต่เช้าตรู่เมื่อก่อนป้าชุนรักและตามใจลูกมมากจนไม่เคยปล่อยให้เขาแตะงานในไร่นาแม้แต่น้อย ทว่าภายใต้การควบคุมของฉู่จืออี้ วันนี้ฝูวั่งต้องทำงานกลางแดดจ้าอยู่ถึงสองชั่วยามกว่าจะได้กลับมาพอเห็นทั้งสองกลับมา ป้าชุนก็รีบยกน้ำมาให้ฝูวั่งรับมาแล้วดื่มรวดเดียวหมด จากนั้นก็หมดแรงทรุดตัวนั่งลงตรงข้าง ๆ แววตาไร้จุดหมายราวกับหมดสิ้นเรี่ยวแรงป้าชุนรู้สึกเป็นห่วงจึงเข้าไป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 561

    "เจ้านี่มันแข็งทื่อเป็นท่อนไม้เสียจริง" ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด อยู่ ๆ ป้าชุนก็พูดขึ้นมาฉู่จืออี้ไม่เข้าใจ "อะไร?"ป้าชุนจึงพูดเสียงเบาลง "แม่หนูนั่นขาซ้ายเจ็บ เจ้ายังไม่ยอมแบกนางอีก""……" ฉู่จืออี้ไม่ได้รู้สึกว่าตนทำอะไรไม่เหมาะสม เพียงกล่าวเสียงขรึม "นางบอกว่าเดินเองได้ ขอแค่ให้ข้าพยุงหน่อยก็พอ""เพราะอย่างนั้นข้าถึงได้บอกว่าเจ้าเป็นท่อนไม้อย่างไรเล่า!" ป้าชุนส่ายหน้าด้วยความจนใจ แล้วถอนหายใจอีกครั้ง "ฝูวั่ง ไอ้เจ้าเจ้าลูกคนนี้ กล้าทำเรื่องอย่างนี้ได้ ไป๋อวี่ เจ้าช่วยสั่งสอนแทนข้าทีเถอะ!"สายตาของฉู่จืออี้เย็นชาขึ้นเล็กน้อย "กลัวว่าท่านป้าจะทำใจลำบากเอา""ไม่มีอะไรต้องทำใจทั้งนั้น" ป้าชุนถอนหายใจ "เจ้าพูดถูก อย่างน้อยก็ยังดีกว่าที่ข้าจะต้องไปเก็บหัวของเขาที่ลานประหารในวันหน้า""อืม" ฉู่จืออี้ตอบรับเสียงเบา ก็ถือว่าเป็นการรับปากจะจัดการเรื่องการสั่งสอนฝูวั่งไม่นานนัก กลุ่มคนก็กลับถึงเรือนหลีปาก็เห็นฝูวั่งคุกเข่าอยู่ในลานของเรือน พอเห็นเฉียวเนี่ยนกลับมาก็โขกศีรษะไม่หยุด "ข้าผิดไปแล้ว พี่หญิง โปรดไว้ชีวิตข้าเถิด!""ข้าผิดไปแล้ว ข้ามันไม่ใช่คน ข้าไม่กล้าอีกแล้ว!""พี่หญิง โปร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 560

    กับดักสัตว์นั้น เฉียวเนี่ยนไม่มีแรงแกะออกจริงๆ นั่นแหละแต่หลังจากนางลองดูอยู่พักหนึ่งก็พบว่า กับดักสัตว์ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กเส้นเล็กๆ ปลายอีกด้านของโซ่เหล็กถูกทับอยู่ใต้ก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งนางใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงโซ่เหล็กออกมาจากใต้ก้อนหิน จากนั้นลากกับดักสัตว์ตัวนั้น เดินกะโผลกกะเผลกออกจากป่าแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเส้นทางควรเดินอย่างไร แต่นางก็รู้ว่าทิศทางที่นางมาคือทิศทางไหนแต่ไม่คิดเลยว่า เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นเงาคนวิ่งมาจากที่ไกลๆชั่วขณะหนึ่ง เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในภวังค์ เกือบจะคิดว่าเงาร่างนั้นคือจิ่งเหยียนไปแล้วนางคิดถึงจิ่งเหยียนมากเกินไปแล้วแต่ไม่นานนางก็รู้ตัวว่า คนคนนั้นที่จะอยู่เคียงข้างนางในยามที่นางหมดหนทางและเจ็บปวด จะไม่สามารถปรากฏตัวได้อีกแล้วในชีวิตนี้ดังนั้นนางจึงจํารูปร่างนั้นได้ทันที พยายามทําให้ตัวเองมองข้ามความเศร้าโศกในใจ ยกมุมปากขึ้นแล้วเรียก "พี่ไป๋"นางเดินกะโผลกกะเผลก ค่อนข้างหนักหนาเอาการอยู่ฉู่จืออี้เดินเข้าไปใกล้จึงพบว่านางกําลังลากกับดักสัตว์เดินมาด้วยแต่ก็รู้สึกโชคดีอยู่บ้างที่แผ่นไม้กั้นกับดักสัตว์ไว้ มิฉะนั้นด้วยแรงของกับดักสัตว์นี้ ข้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status