“ชัญญ่าเป็นอะไรหรือเปล่าถึงไม่อยากให้พี่เข้าไปไหว้พ่อกับแม่ในบ้าน แล้วบอกเขาหรือเปล่าว่าจะออกมากับพี่”
“ชัญญ่าบอกแล้วค่ะ เอาไว้พี่ทินค่อยเข้าไปวันหลังนะคะ”
“ใครทำอะไรให้ชัญญ่าหงุดหงิดหรือเปล่า” ชายหนุ่มอดแปลกใจไม่ได้เพราะตั้งแต่คุยกับเธอมาหลายครั้งก็ไม่เห็นว่าหญิงสาวจะหงุดหงิดเหมือนกับวันนี้เลย
“มีปัญหากับพี่สะใภ้นิดหน่อยค่ะเพราะเหตุนี้หรือเปล่าชัญญ่าถึงไม่อยากอยู่ในบ้าน”
“ก็ประมาณนั้นค่ะ ชัญญ่ารู้สึกว่าบรรยากาศในบ้านไม่ค่อยน่าอยู่เลยค่ะ” มญชุ์ชัญญาทำหน้าเบื่อ
“เล่าให้พี่ฟังได้ไหม” ชายหนุ่มเห็นท่าทางของเธอแล้วก็พอจะเดาออกว่าปัญหาคงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
“ได้ค่ะแต่พี่สัญญากับชัญญ่าก่อนนะว่าฟังแล้วพี่จะไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง”
“สัญญาเลยแต่ก่อนจะเล่าพี่ขอถามชัญญ่าก่อนว่ากลางวันนี้อยากจะกินอะไรหิวหรือยัง”
“ยังไม่หิวเลยค่ะพี่ทินล่ะ”
“พี่ก็ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่แล้วชัญญ่าอยากจะกินอะไรล่ะ เอาเป็นอาหารไทยไหม”
“อยากกินอาหารทะเลค่ะ”
“พี่มีให้เลือกสองทางนะทานอาหารทะเลร้านในเมืองหรือจะไปทานอาหารทะเลแล้วก็สัมผัสบรรยากาศริมทะเลไปด้วย”
“อย่างหลังน่าสนใจมากค่ะ แต่วันนี้เรามีเวลานิดเดียว”
“เอาไว้อาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวทะเลกันดีไหมล่ะ” ทินภัทรเองก็อยากจะไปเที่ยวพักผ่อนบ้างหลังจากทำงานหนักติดต่อกันมาตลอด
“ชัญญ่ายังให้คำตอบพี่ทินตอนนี้ไม่ได้หรอกค่ะ เอาไว้ใกล้ๆ ถึงวันเสาร์แล้วค่อยบอกได้ไหมคะ”
“ถ้างั้นวันนี้เราหาร้านอาหารทะเลที่ขายใกล้ๆ ไปก่อนโอเคมั้ย”
“ค่ะ”
ชายหนุ่มพามญชุ์ชัญญาไปยังร้านอาหารทะเลที่ตกแต่งด้วยบรรยากาศเหมือนกับอยู่ริมทะเลจริงๆ ด้านในติดแอร์เย็นสบายมีอาหารทะเลให้เลือกหลายชนิดหลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้วทินภัทรก็พาหญิงสาวมายังคาเฟ่เล็กๆ แห่งหนึ่งบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ เมื่อสั่งกาแฟและเค้กจากทางร้านแล้วทั้งสองก็เริ่มคุยกัน
“ไหนลองเล่าให้พี่ฟังสิว่า มีปัญหาอะไรกับพี่สะใภ้”
มญชุ์ชัญญาเล่าปัญหาที่เธอกับพี่สะใภ้มักจะกระทบกระทั่งกันเสมอตั้งแต่เธอกลับมาอยู่ที่บ้านได้ประมาณสองเดือนมันทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดมากๆ แต่ก็ไม่สามารถเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังได้เลย
เพราะมญชุ์ชัญญาไม่อยากมีปัญหากับพี่ชายทั้งสอง ครั้นจะเล่าเรื่องนี้ให้บิดามารดาหรือคุณปู่คุณย่าฟังก็กลัวว่าท่านจะไม่สบายใจที่เห็นว่าลูกหลานไม่รักใคร่กันอย่างที่แสดงออกต่อหน้าท่าน
“ชัญญ่าคงอึดอัดมากใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ มันอึดอัดมากบอกใครก็ไม่ได้ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวใหญ่ทุกคนช่วยกันทำงานอย่างที่พี่สะใภ้สองคนพูด ชัญญ่าก็รู้ตัวว่าตัวเองทำงานไม่เท่าพี่ชายทั้งสองคนแต่ก็ได้ปันผลจากหุ้นเท่าๆ กัน แต่ชัญญ่าก็พยายามเต็มที่แล้วนะคะ ชัญญ่าเพิ่งเรียนจบและเข้ามาทำงานที่บริษัทได้ไม่นานก็ยังไม่เก่งเหมือนพี่ชายและพี่สะใภ้พวกเขาก็เลยคิดว่าชัญญ่าแค่ทำงานไปวันๆ เพราะยังไงก็ได้เงินเท่ากันอยู่แล้วจะต่างกันก็แค่เงินเดือนชัญญ่าไม่ชอบระบบการทำงานแบบนี้เลย”
“ถ้าเบื่อที่จะทำงานที่บริษัทตัวเองชัญญ่าก็ลาออกแล้วมาทำงานกับพี่ที่บริษัทดีไหมล่ะ”
“มันจะยิ่งแย่สิคะเพราะชัญญ่ามีหุ้นเท่ากับพี่ชาย ถ้าไปทำงานที่อื่นพวกเขาก็ต้องหาว่าชัญญ่าเอาเปรียบ”
“เรื่องนี้มันก็พูดยากนะ แต่ถ้าเราแต่งงานกันแล้วชัญญ่าก็ลองเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากจะขอออกมาทำงานกับพี่ที่บริษัท อย่างน้อยก็ในระยะที่เรายังแต่งงานกันอยู่ ชัญญ่าก็รับแค่เงินปันผลจากหุ้นเหมือนผู้ถือหุ้นคนอื่นส่วนเงินเดือนก็มารับจากพี่ดีไหมล่ะ”
“ชัญญ่าไม่อยากเอาเปรียบพี่ทินค่ะ เพราะชัญญ่าทำงานไม่เก่ง”
“เรื่องการทำงานมันฝึกกันได้”
“ก็จริงค่ะ แต่ลักษณะการทำงานของเรามันไม่เหมือนกันเลยนะบริษัทพี่ทินเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าคอนโดค้าขายที่ดินสร้างบ้านจัดสรรส่วนบ้านของชัญญ่าทำเกี่ยวกับการส่งออกเครื่องประดับอัญมณีและเพชรมันไปกันคนละทิศคนละทางเลยนะนะ”
“นั่นสินะพี่ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย แล้วชัญญ่าว่าจะจัดการยังเรื่องนี้ยังไง”
“บางทีชัญญ่าอาจจะไม่ไปทำงานที่บริษัทค่ะ แล้วจะมาช่วยคุณแม่ขายทองที่ร้านเพราะตอนนี้คุณแม่บอกว่าอยากได้พนักงานบัญชีเพิ่ม”
“แต่ชัญญ่าไปเรียนบริหารมาไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะคนเราก็ไม่จำเป็นจะต้องทำงานตรงกับสาขาที่ตัวเองเรียนมานี่คะ ออกมาขายทองกับคุณแม่น่าจะสนุกและมีอิสระมากกว่านะคะ
“ไม่ว่าชัญญ่าจะทำงานอะไรพี่ก็ขอให้ประสบความสำเร็จก็แล้วกันนะ แต่ถ้าหากเปลี่ยนใจอยากมาช่วยงานพี่ที่บริษัทก็ได้นะ”
“ขอบคุณค่ะพี่ทิน”
เมื่อได้คุยกับทินภัทรแล้วมญชุ์ชัญญาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นอันที่จริงแล้วมารดาของเธอก็ไม่อยากจะให้เธอเข้าไปทำงานในบริษัทท่านอยากให้ช่วยทำงานที่ร้านทองมากกว่าเพราะนอกจากจะต้องขายอยู่หน้าร้านแล้วยังมีการบริหารงานหลังร้านอีกซึ่งตอนนี้ มารดาของเธอรับผิดชอบทั้งงานบัญชีสต๊อกสินค้า
เนื่องจากพนักงานคนเก่าลาออกไปเมื่อหลายเดือนก่อนและท่านยังไม่ได้รับใครเข้ามาทำงานเพราะงานตำแหน่งนี้ต้องหาคนที่ไว้ใจได้และซื่อสัตย์จริงๆ
“สบายใจขึ้นบ้างแล้วใช่ไหม” ทินภัทรถถามเมื่อเห็นว่าหน้าตาของเธอไม่ได้เครียดเหมือนตอนที่เขาไปรับที่บ้าน
“ค่ะ ชัญญ่าคุยกับพี่ทินแล้วสบายใจมากๆ เลยค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นไปช้อปปิ้งกันต่อ”
“ชัญญ่ายังไม่รู้จะซื้ออะไรเลยค่ะ พี่ทินล่ะอยากซื้ออะไรหรือเปล่า”
“พี่ก็ไม่รู้จะซื้ออะไรเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นเราไปเดินดูก่อนไหมเผื่อมีอะไรน่าสนใจ”
“ดีเหมือนกันค่ะ”
ทินภัทรขับรถพาหญิงสาวมายังศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทั้งสองเดินคุยกันไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีใครสนใจจะซื้ออะไร
“พี่ทินคะ เราไปดูโซนที่จัดแสดงสินค้าดีไหมชัญญ่าเห็นป้ายโฆษณาว่าเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์จากทางเหนือ”
“น่าสนใจนะ”
ทั้งสองลงมาอย่างลานจัดโปรโมชั่นของศูนย์การค้าขนาดใหญ่ซึ่งตอนนี้มีทั้งสินค้าประเภทอาหารสด อาหารสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ผ้าไหมรวมถึงเครื่องจักสานและร้านค้าต่างๆ กระจายจนเต็มพื้นที่ไปหมด
“พี่ทินว่าผ้าพันคอผืนนี้สวยไหม” มญชุ์ชัญญาหยิบผ้าพันคอสีกลีบบัวที่ทำจากผ้าไหมผืนหนึ่งให้กับชายหนุ่มดู
“สวยนะ แต่พี่ว่าไม่เหมาะกับชัญญ่าเลยมันดูสูงอายุไปพี่ว่าเลือกแบบอื่นดีไหม” ชายหนุ่มออกความคิดเห็นไปตามความจริง
“ก็ชัญญ่าไม่อยากซื้อให้ตัวเองนี่คะ ชัญญ่าแบบนี้คุณย่าเราสองคนน่าจะชอบ เราซื้อไปฝากท่านดีไหมซื้อให้ย่าของพี่ทินผืนหนึ่งและซื้อให้ย่าของชัญญ่าอีกผืนหนึ่ง”
“ได้สิแล้วจะเอาสีเดียวกันหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะสีชมพูเอาให้ย่าของพี่ทินค่ะ ส่วนของย่าประไพเอาสีเขียวค่ะ”
“ซื้อให้แต่คุณย่าแล้วคุณปู่ล่ะ”
“เราจะซื้ออะไรให้คุณปู่ดีล่ะคะ”
“พี่ว่าเดินดูให้ทั่วดีไหมเผื่อจะนึกออก”
“ได้ค่ะ”
ทินภัทรถอนหายใจอย่างหนักเมื่อสายจากบ้านยังคงโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับ“พี่ทินอยู่ไหนคะ” เสียงหวานที่ดังมาจากปลายสายทำให้เขารู้สึกตกใจจนตัวชา“ชัญญ่าเหรอ”“ค่ะ พี่ทินอยู่ที่ไหนทำไมไม่กลับบ้านมีประชุมด่วนหรือออกไปกับลูกค้าคะ” หญิงสาวถามเขาออกมาเป็นชุดด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้เธอกับเขาไม่ได้คุยกันเลยตลอดทั้งวัน“ชัญญ่าจริงๆ ใช่ไหม”“พี่ทินถามอะไรแปลกๆ คะหรือจำเสียงชัญญ่าไม่ได้ น่าน้อยใจจังเลยนะคะ”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ชัญญ่าแล้วโทรศัพท์ของชัญญ่าไปไหน”“ชัญญ่าลืมกระเป๋าไว้บนรถเมล์ค่ะ รู้ตัวอีกทีก็ลงมาจากรถเมล์แล้ว พอกลับมาที่บ้านคุณย่ากับพี่ทินก็ไม่อยู่ นี่ก็เพิ่งจัดการโทรอายัดบัตรเครดิตและเปลี่ยนรหัสผ่านพวก Facebook กับไอจีเพิ่งเสร็จ แล้วพี่ทินล่ะคะอยู่ไหนทำอะไรอยู่”“ชัญญ่าพี่ดีใจมากๆ เลยพี่ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่ไปตามนัดขอโทษจริงๆ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชัญญ่ารู้ว่าพี่ทินอาจจะงานยุ่ง”“โกรธพี่หรือเปล่า”“ไม่โกรธหรอกค่ะแค่น้อยใจนิดหน่อยที่พี่เงียบหายไปไม่โทรมาบอกชัญญ่าเลยว่าตัวเองไม่ว่าง พี่ทินตอบชัญญ่ามาก่อนได้ไหมว่าตอนนี้พี่ทินอยู่ที่ไหน”“พี่อยู่ที่โรงพยาบาล”“อะไรนะ พ
เสียงหวอของรถกู้ภัยดังมาก่อนที่ตัวรถจะมาถึงหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อรถจอดสนิทพนักงานของโรงพยาบาลก็รีบตรงไปเปิดประตูด้านหลังด้านในเป็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งเนื้อตัวและเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดถูกเข็นลงมาจากรถกู้ภัย จากนั้นร่างของเธอก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็ถูกย้ายขึ้นไปบนเตียงของโรงพยาบาล พนักงานที่มากับรถกู้ภัยก็รายงานอาการเบื้องต้นให้กับคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินอย่างคร่าวๆ ก่อนจะขอตัวออกมา“ชีพจรอ่อนมากหายใจลำบากเตรียมอุปกรณ์สอดท่อและแจ้งห้องผ่าตัดให้เตรียมเลือดไว้ด้วยนะ คนเจ็บเสียเลือดมาก เรียกเอกซเรย์เคลื่อนที่มาด้วยบริเวณขาน่าจะหักมีหมอออร์โธฯไหมเรียกให้เขาตามไปดูคนไข้ที่ห้องผ่าตัดด้วยนะ” คุณหมอประจำแผนกสั่งงานกับทั้งพยาบาลและหมอรุ่นน้องอีกให้ “ครับ / ค่ะ”“คนเจ็บมีญาติไหม”“ไม่มีเลยค่ะกู้ ภัยบอกว่าข้างตัวเธอมีแต่กระเป๋าใบนี้ตกอยู่”“ค้นกระเป๋าหาหาหลักฐานแล้วประสานงานกับญาติด่วนนะ”“ค่ะหมอ”“หมอคะตอนนี้คลำชีพจรไม่ได้แล้วค่ะ”“ขึ้นปั๊มเลย” คุณหมอหันมาสั่งหมอรุ่นน้องให้ขึ้นไปปั๊มหัวใจคนเจ็บส่วนตัวเขาเองกำลังสอดท่อช่วยหายใจอยู่ขณะที่กำลังปั๊มหัวใจยื้อชีวิตหญิ
การได้อยู่กับคนรักในทุกๆ วันมันทำให้เวลาผ่านไปเร็วมากตอนนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้วที่มญชุ์ชัญญาและทินภัทรจดทะเบียนสมรสกัน ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์หญิงสาวได้ให้ทนายเตรียมเอกสารการหย่าไว้ให้เรียบร้อยเธอเซ็นชื่อลงในทะเบียนหย่าใส่ซองสีน้ำตาลและจะส่งให้ทินภัทร์เซ็นที่บริษัทหลังจากไปทำงานที่บริษัทของสามีได้ห้าเดือนมญชุ์ชัญญาก็กลับมาช่วยงานมารดาที่ร้านทองเหมือนอย่างเคยเนื่องจากเลขาของเขากลับมาทำงานได้ตามปกติแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับทินภัทรหญิงสาวไม่ได้ปรึกษาเขาก่อนเพราะคิดว่าเขาคงไม่ยอม แต่เธอปรึกษากับคุณย่าอรุณีแล้วเพราะเธออยากจะคืนสมบัติทุกอย่างให้กับชายหนุ่ม แต่หลังจากนั้นจะจดทะเบียนสมรสกับเขาอีกครั้ง เรื่องนี้คุณย่าอรุณีไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่มญชุ์ชัญญาก็ยืนยันว่าอยากจะทำแบบนั้นเพราะอยากคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับทินภัทรเธออยากใช้ชีวิตกับเขาเหมือนคู่สามีภรรยาที่รักกันจริงๆ ไม่ได้รั้งกันไว้ด้วยพินัยกรรม ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาได้เธอจะเปิดใจและยอมรับว่าต่างฝ่ายต่างก็มีความรักให้แก่กันด้วยใจจริง แต่เรื่องนี้มันก็ยังคาใจหญิงสาวอยู่ หญิงสาวคิดว่าหลังจากหย่าจากเขาและจดทะเบียนกับเขาครั้งใหม่เธอกับเขาจะใ
ทินภัทรขับรถพามญชุ์ชัญญามายังคอนโดมิเนียมของเขาซึ่งตั้งแต่แต่งงานเขาก็เคยพาเธอมาค้างที่นี่อยู่สองสามครั้งเมื่อประตูห้องปิดลงทินภัทรก็รวบตัวภรรยาเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อนมือก็รีบถอดชุดของหญิงสาวออก มือเล็กของมญชุ์ชัญญาก็แกะกระดุมเสื้อของเขาออกเช่นกัน ร่างเปลือยเปลาสกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่หน้าประตูห้องก่อนที่ผู้เป็นสามีจะอุ้มเธอมาวางบนโซฟาเขาผละจูบออกจากริมฝีปากอิ่มแล้วจูบพรมไปทั้งซอกคอขาวเนียน สูดกลิ่นกายหอมเข้าเต็มปอด มือใหญ่ฟอนเฟ้นเคล้นคลึงหน้าอกอวบอิ่มอย่างไม่ปรานี เสียงหวานครางอยู่ในลำคอกับการจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวของคนรัก เธอก็ตอบสนองไปตามสัญชาตญาณอกอิ่มแอ่นเข้าหาริมฝีปากร้อน กายสาวเบียดเข้าหากายแกร่ง เสียงหวานครางฮืออยู่ในลำคอเมื่อทินภัทรใชฟันครูดเบาๆ บนเนินอกอิ่มสร้างความวาบหวามเสียวซ่านจนหญิงสาวรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อยแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายของทั้งสองเป็นตัวกระตุ้นให้สัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ตื่นตัวขึ้นมา เขาดูดดุนเม็ดเชอร์รี่สีสดเข้าปากจนพอใจก็จับเท้าของหญิงสาวไปวางบนโซฟาแยกเข่าทั้งสองข้างแยกจากกันจนกว้าง“อื้อ.....”มญชุ์ชัญญาครางกระเส่าเมื่อปากก้มลงดูดรวบกลีบกุหล
กลับมาจากฮันนีมูนครั้งนี้โลกทั้งใบของมญชุ์ชัญญากลายเป็นสีชมพู หญิงสาวเข้ามาช่วยงานที่บริษัทในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของทินภัทร แม้จะทำงานยังไม่ค่อยคล่องแต่เธอก็พยายามเรียนรู้จากพี่กัญญาหรือพี่แก้วที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนหญิงสาวต้องเรียนรู้ทุกอย่างก่อนที่เลขาของเขาจะลาคลอด“พี่แก้วคะเอกสารตรงนี้ชัญญ่าเรียงถูกแล้วหรือเปล่าคะ”“ถูกแล้วน้องชัญญ่าเรียนรู้งานได้เร็วมากๆ แบบนี้พี่น่าจะลาคลอดได้อย่างสบายใจ”“พี่แก้วแค่ลาคลอดนะคะไม่ใช่ว่าเลี้ยงลูกเพลินแล้วไม่กลับมาทำงานล่ะ” มญชุ์ชัญญารีบบอกเพราะกลัวว่าเธอจะไม่มาทำงานเป็นเลขาของทินภัทรอีก“ถ้าพี่ไม่กลับมาจริงๆ ล่ะ” กัญญาถามภรรยาของเจ้านายที่สอนงานจนตอนนี้เริ่มสนิทกันมากแล้ว“ไม่ได้นะคะพี่แก้ว ชัญญ่าไม่ถนัดงานแบบนี้เลย”“แต่พี่ว่าชัญญ่าก็ทำได้ดีนะ”“พี่แก้วแกล้งชมชัญญ่าเพราะรู้ว่าชัญญ่าเป็นภรรยาพี่ทินหรือเปล่า”“เปล่าเลยพี่ไม่ได้แกล้งชมพี่พูดทุกอย่างไปตามเนื้อผ้า”“พี่แก้วรำคาญไหมคะที่ชัญญ่าชอบถามพี่แก้วบ่อยๆ” หญิงสาวรู้สึกเกรงใจมากแต่ถ้าไม่ถามก็กลัวว่าจะทำงานไม่เรียบร้อยและปัญหาจะตามมาถ้าหากพี่กัญญาลาคลอดไปแล้ว“ไม่หรอกที่ชัญญ่าถามพี่เพราะช
คำสารภาพรับที่ออกมาจากปากของทั้งสองมันเหมือนเชื้อไฟที่โหมกระหน่ำลงบนกองเพลิงแห่งตัณหาทินภัทรก้มลงจูบเธออย่างเร่าร้อนก่อนจะใช้เข่าดันเรียวขาของหญิงสาวให้แยกออกจากกัน มือใหญ่จับท่อนเอ็นร้อนลากลงบนกลีบกุหลาบให้น้ำหวานอาบทั่วปลายหยักแล้วกดแก่นกายเข้ามาหาเธอทีเดียวจนสุดความยาว“อ๊ะ!....”หญิงสาวสะดุ้งตกใจเพราะไม่คิดว่าทินภัทรจะกระแทกเข้ามาพรวดเดียว แต่เธอก็รับความใหญ่โตของเขาไว้ได้ทั้งหมด“อ่า...ตอดแน่นจัง”“ก็ชัญญ่าเสียวของพี่ทินทั้งใหญ่ทั้งยาว”“ชอบหรือเปล่า”“ถ้าตอบว่าชอบมันจะน่าเกลียดเกินไปไหม”“ไม่น่าเกลียดเลยพี่ชอบกินของชัญญ่าพี่ยังพูดตรงๆ พี่ก็อยากรู้ว่าชัญญ่าชอบน้องชายของพี่บ้างหรือเปล่า”“ชอบค่ะพี่ทิน พี่ทินสัญญากับชัญญ่าได้ไหมว่าจากนี้จะมีแค่ชัญญ่าคนเดียวจะไม่ไปนอนกับผู้หญิงอื่น”“พี่ไม่สัญญาแต่พี่สาบานเลยนะว่าจากนี้พี่จะมีชัญญ่าเป็นเมียคนเดียว จะทำให้ชัญญ่ามีความสุขแบบนี้คนเดียว”ชายหนุ่มพูดขณะที่สะโพกก็เริ่มปรับจังหวะให้เร็วขึ้นไปตามอารมณ์ มือใหญ่ฟอนเฟ้นอกอิ่ม หญิงสาวแอ่นโค้งเข้าหาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงหวานครางชื่อเขาไม่ขาดปากเมื่อปลายท่อนเอ็นกระแทกกระทั้นเข้าหาจุดอ่อนไหว ปากร