“คุณย่าครับผมไม่อยากทำตามพินัยกรรมเลย” ทินภัทรพูดกับคุณย่าอรุณีเมื่อทนายธีระและอาวศินขับรถออกจากบ้านไปแล้ว
“ย่าก็ไม่เห็นด้วยกับพินัยกรรมนั้นเลยนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง”
“คุณย่าว่ามันมีทางอื่นที่เราจะไม่ต้องทำตามพินัยกรรมไหม”
“มันเป็นไปได้ยากคุณธีระเป็นทนายที่ตรงฉินมากๆ และท่านคงไม่ยอมแน่ๆ ถ้าหากทินจะไม่ทำตามพินัยกรรมที่คุณปู่เขียนไว้”
“ครอบครัวของปู่อำนาจที่เขาเป็นใครเหรอครับคุณย่า”
“ปู่อำนาจกับปู่สุทัศน์เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้ว ทางบ้านของปู่อำนาจเปิดร้านทองและค่อนข้างจะมีเงินช่วงนั้นปู่ของทินกำลังต้องการเงินทุนมาเปิดบริษัทก็ได้ปู่อำนาจนี่แหละที่ยื่นมือเข้ามาช่วยทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมีอะไรก็คอยช่วยเหลือกันตลอด”
“เหรอครับ”
“ใช้จ้ะ ปู่ของทินพูดกับย่าเสมอว่าถ้าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากเพื่อนรักในวันนั้นก็อาจจะไม่มีกิจการใหญ่โตเหมือนอย่างทุกวันนี้”
“แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องให้ผมไปแต่งงานกับหลานสาวของเขา ผมอยากรู้จริงๆ ว่าทำไมปู่ถึงคิดจะทำแบบนี้”
“ทานก็คงอยากจะตอบแทนบุญคุณฝั่งนั้น”
“ถ้าคุณปู่อยากจะตอบแทนบุญคุณจริงๆ คุณปู่ก็ให้เงินเขาไปก็ได้นี่ครับ เงินทองคุณปู่มีตั้งเยอะแยะหรือจะให้ที่ดินเขาสักผืนก็ยังได้เลยแต่นี่อะไรให้ผมไปแต่งงานกับหลานสาวของเขา” ยิ่งพูดทินภัทรก็ยิ่งโมโห
“แล้วทินจะเอายังไงล่ะลูกจะยอมทำตามพินัยกรรมไหม”
“ผมมืดแปดด้านไปเลยครับคุณย่าไม่รู้ว่าจะหาทางเปลี่ยนพินัยกรรมได้หรือเปล่าตอนนี้ผมยังให้คำตอบอะไรคุณย่าไม่ได้ ผมขอคิดดูก่อนนะครับ”
“ทินอย่าหาว่าย่าบังคับหลานเลยนะ ย่ารู้ว่าหลานลำบากใจกับเรื่องนี้มากๆ แต่สมบัติของคุณปู่ก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยถ้ามันไม่หนักหนาอะไรขึ้นก็แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นไม่มีลูกกับเธอหรือก็ทำให้เธอหย่าหลังจากแต่งงานครบหนึ่งปี แต่ถ้าแต่งแล้วทินกับเธอรักและเข้าใจกันและอยากจะใช้ชีวิตด้วยกันย่าก็จะไม่ว่าอะไรเลย” คุณอรุณีพูดกับหลานชายด้วยเสียงอ่อนลง
เธอเคยเจอกับหลานสาวของปู่อำนาจมาแล้วเมื่อหลายปีก่อนและคิดว่าถ้าทินภัทรได้เจอกับผู้หญิงคนนั้นเขาก็อาจจะยอมตกลงแต่งงานด้วยก็เป็นได้
“คุณย่าอยากให้ผมแต่งงานจริงๆ เหรอครับ” เขาถามทั้งที่เห็นท่าทางของท่านก็พอจะรู้คำตอบแล้ว
“ถ้าถามความเห็นของย่า ย่าก็อยากให้ทินทำตามพินัยกรรมแต่ย่าจะไม่บังคับหรอก ย่าว่าวันมะรืนนี้ลองเชิญคุณอำนาจและกับครอบครัวของเขามาทานข้าวที่บ้านเรา ทินกลับบ้านเร็วหน่อยนะมาทานข้าวที่บ้านมาทำความรู้จักกันไว้ก่อน ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงย่าจะให้ทินเป็นคนตัดสินใจอีกที”
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับคุณย่า คุณย่าคิดว่าฝั่งนั้นเขาจะยอมแต่งงานกับผมไหม”
“ย่าก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ถ้าหากเขาไม่ยอมแต่งปัญหาก็จะเกิดขึ้นแน่ๆ ผมว่าพินัยกรรมนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะ คุณปู่บอกให้ผมต้องแต่งงานกับหลานของปู่อำนาจแล้วถ้าเกิดหลานของปู่อำนาจไม่ยอมแต่งงานกับผมขึ้นมาผมไม่ต้องเสียมรดกของคุณปู่ไปฟรีๆ เหรอครับคุณย่า”
“นั่นสินะย่าก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยเพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำให้ฝ่ายนั้นยอมแต่งงานกับทินด้วยนะ”
“ยิ่งพูดผมยิ่งปวดหัวครับคุณย่า”
“ย่าเองก็ปวดหัวมากๆ เหมือนกัน”
“เย็นนี้ผมขอออกไปดื่มกับเพื่อนนะครับคุณย่า คิดว่าคงไม่กลับมานอนที่นี่”
“ไม่มานอนที่นี่เราจะไปนอนที่ไหนล่ะคงไม่ไปนอนห้องผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม”
“ใครเขาจะทำแบบนั้นครับย่า ผมจะไปนอนที่คอนโดนั่นแหละ ตอนเช้าตื่นไปทำงานจะได้ใกล้หน่อย”
“ถ้าอย่างงั้นก็ตามใจขับรถก็ระวังด้วยนะ”
“ครับคุณย่า”
หลังจากรับประทานอาหารเย็นกับคุณย่าอรุณีแล้วทินภัทรก็อาบน้ำแต่งตัวและโทรศัพท์นัดเพื่อนให้ไปเจอกันที่ผับซึ่งพวกเขาไปใช้บริการเป็นประจำ
ชายหนุ่มไปถึงที่ผับเป็นคนแรกเขาเดินไปโซนวีไอพีชั้นสองจากนั้นก็นั่งดื่มรอเพื่อนอยู่ตามลำพัง ไม่นานนักเพื่อนของเขาอีกสองคนก็เดินขึ้นมา
“เฮ้ย! ทำไมนั่งอยู่คนเดียวไม่ได้ไม่เรียกเด็กมานั่งด้วยล่ะ” ภูวเดชแปลกใจเพราะปกติเวลามานั่งดื่มเพื่อนจะเรียกเด็กของทางร้านมาคอยชงเครื่องดื่มให้เสมอ
“ฉันมีเรื่องจะปรึกษาพวกนายสองคนน่ะ” เขาอยากถามความเห็นของเพื่อนว่าจะเอายังไงกับพินัยกรรม
“เรื่องอะไรเรื่องพินัยกรรมใช่ไหมล่ะ” อรรณพซึ่งเป็นลูกชายของคุณธีระถามอย่างรู้ทัน
“เออก็เรื่องนั้นแหละนายก็รู้ข้อความในพินัยกรรมด้วยใช่มั้ยล่ะ”
“รู้สิ พ่อฉันเพิ่งบอกตอนที่กลับมาจากบ้านนายนั่นแหละว่าแต่นายจะเอายังไงต่อล่ะ”
“เดี๋ยวก่อนนะ นี่จะคุยกันแค่สองคนใช่ไหมเล่าให้ฉันฟังก่อนสิว่ามันเรื่องอะไรแล้วพินัยกรรมของใคร”
“ก็พินัยกรรมของปู่ไอ้ทินน่ะสิ”
“นี่คุณปู่ยกสมบัติให้นายทั้งหมดเลยเหรอ”
“ใช่ปู่รักฉันมากเลยว่ะ ท่านก็เลยยกสมบัติให้ฉันทั้งหมด” ทินภัทรพูดแล้วหัวเราะก่อนจะยกแก้วเหล้าข้างหน้าขึ้นดื่ม
“ก็ดีแล้วนี่ได้สมบัติทั้งหมด แล้วทำไมหน้านายดูเครียดๆ ล่ะทิน”
“ก็ในพินัยกรรมระบุไว้ไงว่าถ้าไอ้ทินถิ่นมันอยากได้สมบัติทั้งหมดมันก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณปู่หาไว้ให้และมีลูกกับลูกผู้ชายกับเธอ หรือถ้าไม่มีลูกด้วยกันก็จะต้องแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันห้าปีแล้วสมบัติทุกอย่างของคุณปู่ก็จะเป็นของไอ้ทิน แต่ถ้าไอ้ทินมันไม่ทำตามคุณปู่ท่านก็จะยกสมบัติทั้งหมดให้กับฝ่ายหญิง”
“เฮ้ยอย่าไปยอมนะทินปู่นายสมบัติตั้งกี่พันล้านจะยกให้คนอื่นได้ยังไง”
“ก็เพราะเหตุผลนี้ไงฉันถึงต้องเครียดและไม่รู้จะทำยังไง”
“ไม่เห็นจะต้องคิดมากอะไรเลย นายก็รีบแต่งงานจากนั้นก็จัดการปั๊มลูกแค่นั้นเองพอลูกคลอดก็เลิกกับเธอซะมันง่ายมากเลยนะ”
“ไอ้พูดน่ะมันพูดง่ายแต่มันทำยากนะสิ ตอนนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่ฉันจะต้องแต่งงานด้วยหน้าตาเป็นยังไง”
“นี่ไม่เคยเจอกันเลยเหรอ”
“ไม่หรอกแต่อีกสองวันข้างหน้าคุณย่าจะนัดมาเจอ”
“ฉันหวังว่าหน้าตาเธอคงสวยถูกใจนายนะทิน” ภูวเดชให้กำลังใจเพื่อน
“ณพนายเคยเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ไหม”
“ไม่เคยเห็นหรอกคุณพ่อบอกว่าเธอไปเรียนที่ต่างประเทศเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน”
“เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกแบบนี้ฉันว่าไอ้ทินคงได้ของมือสองแล้ว เผลอๆ ฝั่งนั้นอาจจะย้อมแมวขายก็ได้”
“เรื่องนั้นฉันไม่สนใจหรอกภู สมัยนี้หาบริสุทธิ์ยากจะตาย แต่ที่สนใจก็คือเธอจะหน้าตาเป็นยังไงหุ่นเป็นแบบไหน ต่างหากล่ะถึงแม้จำเป็นจะต้องแต่งงานกันจริงๆ ก็ขอคนที่หน้าตาๆ หุ่นดีๆ หน่อยก็แล้วกัน”
“หน้าตาดีแบบนั้นพอได้ไหมวะ” ภูวเดชพยักหน้าไปทางด้านล่างซึ่งตอนนี้ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามากับกลุ่มเพื่อนเธอดูเด่นสะดุดตากว่าทุกคน
“โอ้โหถ้าได้แบบนั้นนะกูจะปั๊มลูกเช้าปั๊มลูกเย็นเอาให้ท้องตั้งแต่เดือนแรกกันเลยทีเดียว” ทินภัทรมองผู้หญิงที่เพื่อนบอกด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย เธอคนนั้นหุ่นดีตรงใจเขามากผิวขาวขนาดมองไกลๆ ยังรู้สึกได้เลยว่ามันเนียนนุ่มน่าสัมผัส รูปร่างของเธอก็สูงโปร่งแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้หญิงตั้งมากมายเธอก็ยังโดดเด่นจนเขาละสายตาไม่ได้เลย
ทินภัทรถอนหายใจอย่างหนักเมื่อสายจากบ้านยังคงโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับ“พี่ทินอยู่ไหนคะ” เสียงหวานที่ดังมาจากปลายสายทำให้เขารู้สึกตกใจจนตัวชา“ชัญญ่าเหรอ”“ค่ะ พี่ทินอยู่ที่ไหนทำไมไม่กลับบ้านมีประชุมด่วนหรือออกไปกับลูกค้าคะ” หญิงสาวถามเขาออกมาเป็นชุดด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้เธอกับเขาไม่ได้คุยกันเลยตลอดทั้งวัน“ชัญญ่าจริงๆ ใช่ไหม”“พี่ทินถามอะไรแปลกๆ คะหรือจำเสียงชัญญ่าไม่ได้ น่าน้อยใจจังเลยนะคะ”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ชัญญ่าแล้วโทรศัพท์ของชัญญ่าไปไหน”“ชัญญ่าลืมกระเป๋าไว้บนรถเมล์ค่ะ รู้ตัวอีกทีก็ลงมาจากรถเมล์แล้ว พอกลับมาที่บ้านคุณย่ากับพี่ทินก็ไม่อยู่ นี่ก็เพิ่งจัดการโทรอายัดบัตรเครดิตและเปลี่ยนรหัสผ่านพวก Facebook กับไอจีเพิ่งเสร็จ แล้วพี่ทินล่ะคะอยู่ไหนทำอะไรอยู่”“ชัญญ่าพี่ดีใจมากๆ เลยพี่ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่ไปตามนัดขอโทษจริงๆ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชัญญ่ารู้ว่าพี่ทินอาจจะงานยุ่ง”“โกรธพี่หรือเปล่า”“ไม่โกรธหรอกค่ะแค่น้อยใจนิดหน่อยที่พี่เงียบหายไปไม่โทรมาบอกชัญญ่าเลยว่าตัวเองไม่ว่าง พี่ทินตอบชัญญ่ามาก่อนได้ไหมว่าตอนนี้พี่ทินอยู่ที่ไหน”“พี่อยู่ที่โรงพยาบาล”“อะไรนะ พ
เสียงหวอของรถกู้ภัยดังมาก่อนที่ตัวรถจะมาถึงหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อรถจอดสนิทพนักงานของโรงพยาบาลก็รีบตรงไปเปิดประตูด้านหลังด้านในเป็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งเนื้อตัวและเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดถูกเข็นลงมาจากรถกู้ภัย จากนั้นร่างของเธอก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็ถูกย้ายขึ้นไปบนเตียงของโรงพยาบาล พนักงานที่มากับรถกู้ภัยก็รายงานอาการเบื้องต้นให้กับคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินอย่างคร่าวๆ ก่อนจะขอตัวออกมา“ชีพจรอ่อนมากหายใจลำบากเตรียมอุปกรณ์สอดท่อและแจ้งห้องผ่าตัดให้เตรียมเลือดไว้ด้วยนะ คนเจ็บเสียเลือดมาก เรียกเอกซเรย์เคลื่อนที่มาด้วยบริเวณขาน่าจะหักมีหมอออร์โธฯไหมเรียกให้เขาตามไปดูคนไข้ที่ห้องผ่าตัดด้วยนะ” คุณหมอประจำแผนกสั่งงานกับทั้งพยาบาลและหมอรุ่นน้องอีกให้ “ครับ / ค่ะ”“คนเจ็บมีญาติไหม”“ไม่มีเลยค่ะกู้ ภัยบอกว่าข้างตัวเธอมีแต่กระเป๋าใบนี้ตกอยู่”“ค้นกระเป๋าหาหาหลักฐานแล้วประสานงานกับญาติด่วนนะ”“ค่ะหมอ”“หมอคะตอนนี้คลำชีพจรไม่ได้แล้วค่ะ”“ขึ้นปั๊มเลย” คุณหมอหันมาสั่งหมอรุ่นน้องให้ขึ้นไปปั๊มหัวใจคนเจ็บส่วนตัวเขาเองกำลังสอดท่อช่วยหายใจอยู่ขณะที่กำลังปั๊มหัวใจยื้อชีวิตหญิ
การได้อยู่กับคนรักในทุกๆ วันมันทำให้เวลาผ่านไปเร็วมากตอนนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้วที่มญชุ์ชัญญาและทินภัทรจดทะเบียนสมรสกัน ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์หญิงสาวได้ให้ทนายเตรียมเอกสารการหย่าไว้ให้เรียบร้อยเธอเซ็นชื่อลงในทะเบียนหย่าใส่ซองสีน้ำตาลและจะส่งให้ทินภัทร์เซ็นที่บริษัทหลังจากไปทำงานที่บริษัทของสามีได้ห้าเดือนมญชุ์ชัญญาก็กลับมาช่วยงานมารดาที่ร้านทองเหมือนอย่างเคยเนื่องจากเลขาของเขากลับมาทำงานได้ตามปกติแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับทินภัทรหญิงสาวไม่ได้ปรึกษาเขาก่อนเพราะคิดว่าเขาคงไม่ยอม แต่เธอปรึกษากับคุณย่าอรุณีแล้วเพราะเธออยากจะคืนสมบัติทุกอย่างให้กับชายหนุ่ม แต่หลังจากนั้นจะจดทะเบียนสมรสกับเขาอีกครั้ง เรื่องนี้คุณย่าอรุณีไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่มญชุ์ชัญญาก็ยืนยันว่าอยากจะทำแบบนั้นเพราะอยากคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับทินภัทรเธออยากใช้ชีวิตกับเขาเหมือนคู่สามีภรรยาที่รักกันจริงๆ ไม่ได้รั้งกันไว้ด้วยพินัยกรรม ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาได้เธอจะเปิดใจและยอมรับว่าต่างฝ่ายต่างก็มีความรักให้แก่กันด้วยใจจริง แต่เรื่องนี้มันก็ยังคาใจหญิงสาวอยู่ หญิงสาวคิดว่าหลังจากหย่าจากเขาและจดทะเบียนกับเขาครั้งใหม่เธอกับเขาจะใ
ทินภัทรขับรถพามญชุ์ชัญญามายังคอนโดมิเนียมของเขาซึ่งตั้งแต่แต่งงานเขาก็เคยพาเธอมาค้างที่นี่อยู่สองสามครั้งเมื่อประตูห้องปิดลงทินภัทรก็รวบตัวภรรยาเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อนมือก็รีบถอดชุดของหญิงสาวออก มือเล็กของมญชุ์ชัญญาก็แกะกระดุมเสื้อของเขาออกเช่นกัน ร่างเปลือยเปลาสกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่หน้าประตูห้องก่อนที่ผู้เป็นสามีจะอุ้มเธอมาวางบนโซฟาเขาผละจูบออกจากริมฝีปากอิ่มแล้วจูบพรมไปทั้งซอกคอขาวเนียน สูดกลิ่นกายหอมเข้าเต็มปอด มือใหญ่ฟอนเฟ้นเคล้นคลึงหน้าอกอวบอิ่มอย่างไม่ปรานี เสียงหวานครางอยู่ในลำคอกับการจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวของคนรัก เธอก็ตอบสนองไปตามสัญชาตญาณอกอิ่มแอ่นเข้าหาริมฝีปากร้อน กายสาวเบียดเข้าหากายแกร่ง เสียงหวานครางฮืออยู่ในลำคอเมื่อทินภัทรใชฟันครูดเบาๆ บนเนินอกอิ่มสร้างความวาบหวามเสียวซ่านจนหญิงสาวรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อยแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายของทั้งสองเป็นตัวกระตุ้นให้สัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ตื่นตัวขึ้นมา เขาดูดดุนเม็ดเชอร์รี่สีสดเข้าปากจนพอใจก็จับเท้าของหญิงสาวไปวางบนโซฟาแยกเข่าทั้งสองข้างแยกจากกันจนกว้าง“อื้อ.....”มญชุ์ชัญญาครางกระเส่าเมื่อปากก้มลงดูดรวบกลีบกุหล
กลับมาจากฮันนีมูนครั้งนี้โลกทั้งใบของมญชุ์ชัญญากลายเป็นสีชมพู หญิงสาวเข้ามาช่วยงานที่บริษัทในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของทินภัทร แม้จะทำงานยังไม่ค่อยคล่องแต่เธอก็พยายามเรียนรู้จากพี่กัญญาหรือพี่แก้วที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนหญิงสาวต้องเรียนรู้ทุกอย่างก่อนที่เลขาของเขาจะลาคลอด“พี่แก้วคะเอกสารตรงนี้ชัญญ่าเรียงถูกแล้วหรือเปล่าคะ”“ถูกแล้วน้องชัญญ่าเรียนรู้งานได้เร็วมากๆ แบบนี้พี่น่าจะลาคลอดได้อย่างสบายใจ”“พี่แก้วแค่ลาคลอดนะคะไม่ใช่ว่าเลี้ยงลูกเพลินแล้วไม่กลับมาทำงานล่ะ” มญชุ์ชัญญารีบบอกเพราะกลัวว่าเธอจะไม่มาทำงานเป็นเลขาของทินภัทรอีก“ถ้าพี่ไม่กลับมาจริงๆ ล่ะ” กัญญาถามภรรยาของเจ้านายที่สอนงานจนตอนนี้เริ่มสนิทกันมากแล้ว“ไม่ได้นะคะพี่แก้ว ชัญญ่าไม่ถนัดงานแบบนี้เลย”“แต่พี่ว่าชัญญ่าก็ทำได้ดีนะ”“พี่แก้วแกล้งชมชัญญ่าเพราะรู้ว่าชัญญ่าเป็นภรรยาพี่ทินหรือเปล่า”“เปล่าเลยพี่ไม่ได้แกล้งชมพี่พูดทุกอย่างไปตามเนื้อผ้า”“พี่แก้วรำคาญไหมคะที่ชัญญ่าชอบถามพี่แก้วบ่อยๆ” หญิงสาวรู้สึกเกรงใจมากแต่ถ้าไม่ถามก็กลัวว่าจะทำงานไม่เรียบร้อยและปัญหาจะตามมาถ้าหากพี่กัญญาลาคลอดไปแล้ว“ไม่หรอกที่ชัญญ่าถามพี่เพราะช
คำสารภาพรับที่ออกมาจากปากของทั้งสองมันเหมือนเชื้อไฟที่โหมกระหน่ำลงบนกองเพลิงแห่งตัณหาทินภัทรก้มลงจูบเธออย่างเร่าร้อนก่อนจะใช้เข่าดันเรียวขาของหญิงสาวให้แยกออกจากกัน มือใหญ่จับท่อนเอ็นร้อนลากลงบนกลีบกุหลาบให้น้ำหวานอาบทั่วปลายหยักแล้วกดแก่นกายเข้ามาหาเธอทีเดียวจนสุดความยาว“อ๊ะ!....”หญิงสาวสะดุ้งตกใจเพราะไม่คิดว่าทินภัทรจะกระแทกเข้ามาพรวดเดียว แต่เธอก็รับความใหญ่โตของเขาไว้ได้ทั้งหมด“อ่า...ตอดแน่นจัง”“ก็ชัญญ่าเสียวของพี่ทินทั้งใหญ่ทั้งยาว”“ชอบหรือเปล่า”“ถ้าตอบว่าชอบมันจะน่าเกลียดเกินไปไหม”“ไม่น่าเกลียดเลยพี่ชอบกินของชัญญ่าพี่ยังพูดตรงๆ พี่ก็อยากรู้ว่าชัญญ่าชอบน้องชายของพี่บ้างหรือเปล่า”“ชอบค่ะพี่ทิน พี่ทินสัญญากับชัญญ่าได้ไหมว่าจากนี้จะมีแค่ชัญญ่าคนเดียวจะไม่ไปนอนกับผู้หญิงอื่น”“พี่ไม่สัญญาแต่พี่สาบานเลยนะว่าจากนี้พี่จะมีชัญญ่าเป็นเมียคนเดียว จะทำให้ชัญญ่ามีความสุขแบบนี้คนเดียว”ชายหนุ่มพูดขณะที่สะโพกก็เริ่มปรับจังหวะให้เร็วขึ้นไปตามอารมณ์ มือใหญ่ฟอนเฟ้นอกอิ่ม หญิงสาวแอ่นโค้งเข้าหาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงหวานครางชื่อเขาไม่ขาดปากเมื่อปลายท่อนเอ็นกระแทกกระทั้นเข้าหาจุดอ่อนไหว ปากร