Share

วางแผนออกนอกจวน

Penulis: zuey
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-04 14:28:42

ซินเยว่กลับมาเข้าสู่โหมดจริงจัง ทุกการทำงานของนางจะต้องมีการวางแผนเอาไว้ก่อนทุกครั้ง ก่อนที่จะหาเงินนางจะต้องหาทางหนีทีไล่เอาไว้เผื่อคนทั้งสามก่อน

"รู้เจ้าค่ะคุณหนูบ่าวใช้ทางนั้นออกไปนอกจวนประจำตอนที่บ่าวแอบไปทำงานที่เหลาอาหารในเมือง"

ฮุ่ยหลิงยืดอกตอบอย่างภูมิใจ

"ดี เช่นนั้นคืนนี้เจ้าบอกทางให้ข้าเราจะออกไปหาเงินกัน"

ซินเยว่จัดแจงวางแผนกับฮุ่ยหลิงหลังจากเซวี่ยฟังเฟยออกไปจากห้องแล้วนางไม่อยากให้มารดารู้ในสิ่งที่นางกับสาวใช้ตัวน้อยกำลังจะทำ ถ้าเซวี่ยฟังเฟยรู้คงต้องห้ามนางทั้งสองเป็นแน่

ยามจื่อ (23.00-24.59) ซินเยว่แต่งตัวด้วยชุดดำที่นางให้ฮุ่ยหลิงไปหามา นางรวบผมหางม้าขึ้นผูกด้วยผ้าสีดำจากนั้นนำหลัววั่งจื่อ (มะขาม) ที่ฮุ่ยหลิงแอบไปเอามาจากครัวใหญ่เมื่อตอนเย็นผสมน้ำแล้วคั้นเอาแต่เนื้อมาทาหน้าทาแขนจนเป็นสีกระดำกระด่างรอให้แห้งแล้ว จากนั้นจึงย่องไปที่กำแพงด้านหลังจวน ที่นางได้ดูลาดเลาไว้แล้วเมื่อตอนเย็น บริเวณมุมกำแพงด้านหลังมีเถาวัลย์และต้นไม้ขึ้นหนาทึบเพราะไม่ได้รับการดูแลเป็นเวลานาน ซินเยว่และฮุ่ยหลิงแหวกเถาวัลย์แล้วมุดลอดรอยแตกของกำแพงออกไปด้านนอกได้อย่างง่ายดาย

บริเวณด้านหลังจวนแม่ทัพหยางมีต้นไม้ขึ้นประปราย เลยออกไปเป็นภูเขาลูกเล็กๆ มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงทำให้มองเห็นบริเวณโดยรอบได้อย่างชัดเจนเสียงหรีดหริงเรไรดังระงมมีลมพัดผ่านเบาๆ ทำให้รู้สึกวังเวงอย่างไรชอบกล

ทั้งสองขนลุกซู่ขึ้นมาพร้อมกันได้แต่มองหน้ากันไปมา

"คุณหนูจะทำแบบนี้จริงๆ หรือเจ้าคะบ่าวว่ามันน่ากลัวเกินไป"

ฮุ่ยหลิงพูดจบก็ขยับตัวเข้ามาจับแขนซินเยว่เอาไว้เเน่นแล้วกลอกตามองไปรอบๆ อย่างกล้าๆ กลัวๆ

"วันนี่แหละดีอย่าขี้ขลาดนักเลยนำทางข้าไปที่โรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งของที่นี่"

ซินเยว่ดันหลังฮุ่ยหลิงให้ออกเดิน นางสองคนเดินลัดเลาะกำแพงด้านหลังจวนออกมาสักพักก็เจอกับถนนเส้นเล็กๆ ที่เป็นทางลัดเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวง ถนนเส้นนี้ไม่ค่อยมีคนใช้เพราะเส้นทางเปลี่ยวและมีบรรดาขอทานมากมายที่จับจองใช้เป็นที่หลับนอน คล้ายๆ กับสลัมในเมืองหลวงของบางประเทศ ที่นางเคยเดินทางไปเมื่อต้องทำงานตามคำสั่งของสองสามีภรรยาเกา ด้านข้างมีเพิงที่มุงด้วยหญ้าแห้งประปรายตามรายทาง

เมืองหลวงเเคว้นฉิงดูรุ่งเรืองเฟื่องฟูสิ่งปลูกสร้างทำด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ แต่ดูแข็งแรงทนทานคล้ายเมืองจีนโบราณที่เคยดูในหนังหรือ ซีรีส์ย้อนยุค รอบด้านเงียบสงัดเพราะดึกมากแล้วได้ยินเพียงแว่วเสียงคนเดินยามขานบอกเวลา ซินเยว่ในชุดสีดำดูทะมัดทะแมงเดินตามถนนในเมืองหลวงอย่างไม่รีบร้อนท่าทางเอื่อยเฉื่อยสบายอารมณ์ยิ่ง ใช้เวลาเพียงหนึ่งเค่อ (15นาที) ก็มาถึงโรงเตี๊ยมที่หมายตา

"ถึงแล้วเจ้าค่ะคุณหนูที่นี่แหละโรงเตี๊ยม 'เทียนหลง' โรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งในเมืองหลวง"

ฮุ่ยหลิงกระซิบเบาๆ ทั้งสองคนยืนหลบอยู่ในมุมมืด

"สมเป็นโรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าไปเดี๋ยวเดียว อย่าให้ใครเห็นเล่าหลบให้ดี"

ซินเยว่มองไปรอบๆ หาทางหนีทีไล่ไว้เผื่อโดนจับได้เพราะที่นี่ไม่เหมือนที่ที่นางจากมา ด้านหน้าทางเข้ามียามเฝ้าอยู่สองคน ซินเยว่เดินลัดเลาะเข้าตรอกเล็กๆ ด้านข้างโรงเตี๊ยมจนถึงด้านหลัง มีกำแพงสูงล้อมรอบด้านแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับซินเยว่เพราะนางถูกฝึกมาทุกรูปแบบตั้งแต่ห้าขวบ เพื่อให้เป็นนักโจรกรรมฝีมือดีและดูเหมือนนางจะมีพรสวรรค์ในด้านนี้

ตรงหัวมุมกำแพงมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นด้านข้างซินเยว่ปีนขึ้นต้นไม้แล้วกระโดดเกาะกำแพง ปีนเข้าไปด้านในได้อย่างง่ายดาย นางมองซ้ายขวาเห็นว่าไม่มีใครจึงแอบเข้าไปด้านหลังปีนขึ้นชั้นสองที่มีระเบียงยื่นออกมา ตามคำบอกเล่าของฮุ่ยหลิง โรงเตี๊ยมเทียนหลงมีสี่ชั้นนางคิดว่าชั้นบนสุดเป็นห้องพิเศษที่คหบดีคนมีเงินเข้าพักหรือพวกองค์ชายองค์หญิง ขุนนางตระกูลใหญ่ส่วนมากจะนัดเจอกันที่นี่ ซินเยว่ใช้ทักษะที่เรียนรู้มาจากโลกเก่าอย่างชำนาญ

ถึงแม้ว่าร่างกายของหยางซินเยว่จะไม่เเข็งเเรงเท่าร่างเก่าของนางแต่ก็เล็กกะทัดรัด ทำให้การปีนป่ายไม่ใช่เรื่องที่เป็นปัญหา เมื่อถึงระเบียงชั้นสี่ซินเยว่จุดกำยานยาสลบ ที่นางทำขึ้นเองจากสมุนไพรง่ายๆ ที่ให้ฮุ่ยหลิงไปซื้อมาจากร้านขายสมุนไพร

นับเป็นความโชคดีของซินเยว่ที่นางชอบอ่านตำราสมุนไพรและสนใจการปรุงยา เพราะนางชอบออกปฏิบัติงานคนเดียวจึงต้องมีอะไรไว้ทุ่นแรงสักหน่อยไม่เพียงยาสลบที่นางสามารถปรุงขึ้นมาได้ยังมียาอีกหลายตัวที่นางสามารถทำได้ขอเพียงมีวัตถุดิบเท่านั้น

นี่ต้องขอบคุณสองสามีภรรยาแซ่เกาที่เคี่ยวเข็ญซินเยว่ตั้งแต่ยังเล็ก พึ่งผู้อื่นหรือจะเท่าพึ่งพาตนเองเพื่อไม่ให้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ทั้งยาและอุปกณ์อาวุธซินเยว่เป็นผู้ที่ทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง หลังจากที่รอสักพักนางก็เปิดประตูอย่างแผ่วเบาเข้าไปสำรวจทีละห้องอย่าเงียบเชียบสมเป็นนักโจรกรรมมือฉกาจ

นางกวาดทรัพย์ผู้เข้าพักลงในห่อผ้าที่นางเย็บเองลักษณะคล้ายย่ามในโลกเก่า หลังจากดูทุกห้องแล้วเดินมาถึงห้องสุดท้ายนางค่อยๆ แง้มประตูเปิดออกเล็กน้อยให้เเสงจันทร์ลอดเข้ามาข้างในแล้วจุดกำยานยาสลบโยนเข้าไปในห้องรอสักพักนางจึงเดินเข้าไปด้านใน

ซินเยว่สังเกตว่าห้องนี้ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยของประดับที่ดูราคาแพง ส่วนของห้องนอนแยกจากห้องรับเเขกมีห้องอาบน้ำแยกไปอีกด้านซินเยว่สอดส่ายสายตามองหาของมีค่าที่นางน่าจะหยิบฉวยไปได้

เดินเข้าไปด้านในสุดเป็นเตียงนอน ด้านข้างมีตู้สี่เหลี่ยมไม่สูงนักไว้เก็บของนางค่อยๆ เปิดออกข้างในไม่มีอะไรเลย

"ทำไมรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ นะ"

ซินเยว่พึมพำกับตัวเองเบาๆ และอยู่ๆ นางก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบกำลังจะหันกลับไปมอง พลันมีกระบีสีเงินวาววับพาดมาที่คอของนางซินเยว่สะดุ้งเฮือกหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

'เเย่แล้วโดนจับได้ตายแน่ๆ'

แสงสีเงินสะท้อนกับแสงจันทร์สว่างวาบสะท้อนเข้ามาในดวงตาหงส์ ความเย็นเยียบของกระบี่ที่พาดอยู่ที่ลำคอทำให้ซินเยว่ไม่กล้าขยับตัว ได้ยินเพียงเสียงหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นโครมครามนี่เป็นครั้งแรกที่นางทำงานพลาด ถูกจับได้แล้วตอนนี้ในหัวของซินเยว่ขาวโพลนไปหมดลืมคิดกระทั่งต้องหาทางออกให้ตนเอง

 

"เจ้าเป็นใคร" -............-

 

"ข้าเป็นคนทำความสะอาด"

ซินเยว่ตอบออกไปโดยไม่ทันได้คิดลืมไปว่าตอนนี้เวลาไหน

-_-!

ไม่มีเสียงตอบกลับจากบุคคลด้านหลัง ซินเยว่หันกลับไปมองช้าๆ บุรุษผิวเข้มรูปร่างสูงใหญ่อายุราวๆ ยี่สิบปีแต่งกายด้วยชุดจีนโบราณสีน้ำเงินตัดเย็บอย่างดี รวบผมสูงหน้าตาหล่อเหลาคมคาย กำลังถือกระบี่พาดไว้ที่คอของนาง ซินเยว่แอบกลืนน้ำลายลงคอ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   บทส่งท้าย ความย่อยยับของนครเทียนจิ่ง

    “เสี่ยวเป่าเจ้าต้องช่วยข้า”เสี่ยวเป่าเหมือนจะรู้ว่าเสี่ยวหงต้องการจะทำอะไร มันกระโดดไปที่นางแล้วคายแก่นพลังของมันวางไว้บนมือของเสี่ยวหง ซินเยว่ที่กำลังโรมรันอยู่กับไป๋ซวี่เฟิงไม่ทันเห็นสิ่งที่พวกเขากำลังทำ‘ฝากเจ้าดูแลนางด้วยนะแล้วอย่าลืมไปตามหาข้าเล่า’เสี่ยวหงพูดกับเสี่ยวเป่าที่ตัวหดเล็กลงกลายเป็นก้อนขนอีกครั้ง เสี่ยวหงใช้แก่นพลังของนางและเสี่ยวเป่าที่บำเพ็ญมายาวนานเพื่อผนึกร่างของไป๋ซวี่เฟิงเอาไว้จากนั้นนางระเบิดแก่นพลังของตนเพื่อทำลายดวงจิตของเขาก่อนที่นางจะหายไป เสี่ยวหงส่งกระแสจิตมาที่ซินเยว่‘แม้ว่าข้าจะตายไปแล้วเกิดใหม่อยู่ที่ใดข้าและเจ้าจะยังคงผูกพัน ในชาตินี้ข้าตายไปก่อนเมื่อถึงเวลาจุติอีกครั้งหวังว่าเจ้าจะตาหาข้าจนพบ’น้ำตาหยดสุดท้ายหลั่งออกมาจากดวงตาหงส์คู่งามของเสี่ยวหง ไป๋เยี่ยนหลงดึงร่างของซินเยว่ให้ออกห่างจากรัศมีแรงระเบิด ไป๋ซวี่เฟิงดินรนเพื่อให้หลุดจากการผนึกของเสี่ยวหงแต่เพราะมีแก่นพลังของเสี่ยวเป่าด้วยเขาจึงต้องสลายหายไปพร้อมกับนางท้องฟ้าที่เคยเเดงฉานกำลังมีฝนตกลงมาเหมือนท้องว่ากำลังหลั่งน้ำตาให้กับเสี่ยงหง ซินเยว่ร้องเรียกหาเสี่ยวหงทั้งน้ำตา เสียงร้องไห้ของนางดั

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   เจ้าฆาตกรโรคจิต

    ชายชุดดำนับร้อยค่อยๆ เปิดเผยตัวแต่ละคนมีพลังขั้นเจี๋ยตันขึ้นไปทั้งนั้น ไป๋เยี่ยนหลงยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้นเหมือนกับเขามิได้หวันเกรงให้กับคนของไป่ซวี่เฟิงเลยสักนิดด้านซินเยว่ยังคงหลับไม่ตื่นวนเวียนอยู่ในภาพฝันที่นางได้อยู่ร่วมกับคนตระกูลหยางอีกครั้ง นางรู้สึกมีความสุขเมื่อได้อยู่กับพวกเขาแต่ความรู้สึกลึกๆ เหมือนกำลังโหยหาบางสิ่งแต่นางไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร นางนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียวในศาลาใกล้สระบัวท่าทางของนางเหงาหงอยเหมือนกำลังรอคอยบางสิ่ง“หลานรักปู่มีของที่ต้องการมอบให้เจ้า”ท่านปู่ของนางเดินเข้ามาในศาลา ซินเยว่หันมาสนใจ หยางตงฉวนท่านปู่ของนาง“นี่คือสิ่งที่จำกัดพลังของเจ้าเอาไว้ เมื่อถึงเวลาเจ้าจะต้องได้ใช้มันแน่”เขาได้มอบป้ายหยกรูปหงส์ให้นางถึงเวลาที่หลานจะต้องไปแล้ว อย่าลืมว่าพวกเราตระกูลหยางทุกคนอยู่ข้างหลานตลอดเวลาไม่เคยไปไหน”ซินเยว่พยักหน้า ครอบครัวของนางมายืนรอส่งนางที่หน้าประตูจวนทุกคนโบกมือให้นางทั้งยังอวยพรให้ซินเยว่ได้พบกับเขาผู้นั้น นางไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นหมายถึงอะไร ก่อนที่ซินเยว่จะฟื้นกลับมาร่างของนางเปล่งแสงสีแดงเปลวเพลิงค่อยก่อตัวเป็นรูปร่างเหมือนไข่

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   ปลดผนึก

    ซินเยว่นั่งมองภาพของการต่อสู้ของตระกูลหยางจนจบ นางค่อยๆ ออกเดินไปท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาจนกระทั่งถึงหน้าประตูจวนของตระกูลเจียว ซินเยว่สะบัดมือหนึ่งครั้งประตูบานใหญ่สองบานแตกกระจุยไม่เหลือชินดี“เจียวเมิ่งออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้ วันนี้ข้าหยางซินเยว่จะไม่ยอมปล่อยพวกเจ้าไปแม้แต่คนเดียว”ซินเยว่ยืนถือกริชอยู่ท่ามกลางสายฝนดวงตาของนางแดงก่ำไปด้วยความคั่งแค้น พลังของนางทำให้องครักษ์ที่เฝ้าประตูต้องถอยห่างเพราะแรงกดดันและความร้อนที่แผ่ออกมา เสี่ยวเป่าในร่างสัตว์อยู่ตัวยักษ์คำรามเสียงดังก้องฟ้า องครักษ์ขั้นเจี๋ยตันถึงกับกระอักเลือดออกมาองครักษ์ของตระกูลเจียวออกมาล้อมซินเยว่เอาไว้ ทุกคนล้วนระดับขั้นเจี๋ยตันขึ้นไปแต่สายตาของนางไม่มีความหวาดหวั่นแม้แต่น้อย เจียวมิ่งเดินออกมาพร้อมองครักษ์ที่คอยกางร่มให้เขามองมาที่ซินเยว่ด้วยความสงสัยตอนนี้ใบหน้าของนางได้ถูตี้ซางพรางเอาไว้ทำให้มองเห็นเป็นผู้อื่น“แม่นางน้อยเจ้าบุกมาทำลายประตูจวนตระกูลเจียวเช่นนี้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยหรือซินเยว่หัวเราะออกมาอย่างไม่ไว้หน้าเขา“เจ้าเฒ่าสารพัดพิษ”นางสบถด่าเจียวเมิ่งออกไปอย่างสะใจ“นา

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   บทลงโทษต่อผู้ที่คิดร้ายต่อนาง

    “ทะ... ท่านจ้าวผู้ครองนครได้โปรด....”ลี่ผิงยังไม่ทันที่จะเอ่ยจบประโยคร่างของนางก็กระเด็นออกไปไกลหลายจั้ง นางพยายามพยุงร่างที่บอบช้ำของตนหมอบคลานมาเบื้องหน้าของไป๋เยี่ยนหลง ลี่ผิงเห็นสายตาที่แสนอำมหิตของเขานางก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ“โปรดเมตตาหม่อมฉันด้วยเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้ว”ไป๋เยี่ยนหลงไม่สนใจลี่ผิงอีกต่อไป เขาอยากรีบกลับไปอยู่กับสตรีแสนซุกซนที่เอาแต่บ่นทำปากขมุบขมิบน่ารักอยู่ด้านในแล้ว“ทำลายตันเถียนส่งไปส่วนลึกของหุบเขาทมิฬ”สิ้นคำของไป่เยี่ยนหลงลี่ผิงก็กรีดร้องขอความเมตตาแต่คนของไป๋เยี่ยนหลงก็เข้ามาลากนางออกไปจากตรงนั้น เยี่ยจื่อส่ายหน้าด้วยความจนใจพลางมองร่างของลี่ผิงที่กำลังถูกลากออกไป แค่ถูกส่งไปยังส่วนลึกของหุบเขาทมิฬโอกาสรอดของนางก็แทบไม่มีแล้ว นี่นายท่านยังให้ทำลายตันเถียนของนางอีกชีวิตนี้ของลี่ผิงไม่มีทางรอดกลับมาอย่างแน่นอน เมื่อจัดการตัวต้นเรื่องเสร็จแล้วจากนั้นไป่เยี่ยนหลงก็หันมาจัดการคนที่มาจากแผ่นดินชิวหลิง“ทำลายตันเถียนแล้วส่งกลับไปที่แคว้นฉิง ป่าวประกาศการกระทำของพวกเขาให้คนแผ่นดินชิวหลิงได้รู้ให้ทั่ว”สิ้นคำไป่เยี่ยนหลงก็ลุกออกไปจากท้องพระโรงทันที ที่ไป๋เยี่ยนหล

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   การแสดงที่ไร้ที่ติ

    ฉิงอิงหลางดันเจ้ามังกรตัวโตหัวมันเยิ้มไปด้วยน้ำหวานของสตรีใต้ร่างเขาทีเดียวจนสุดลำ เสียงของนางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ฉิงอิงกลางทนไม่ไหวอีกต่อไปเขาไม่มีเวลามาปลอบโยนนางเพราะเขาต้องทำให้นางเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์เสียก่อน องค์ชายสามแห่งแคว้นฉิงกระแทกเอวสอบเข้าใส่สตรีใต้ล่างอย่างไม่ยั้งผ่านไปเพียงไม่นานเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของนางก็เปลี่ยนเป็นเสียงร้องครวญครางอย่างเสียวซ่าน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังพับพับตลอดเวลา ชายหญิงในห้องร้องครวญครางประสานกันดังแว่วออกมาด้วยความเสน่หารัญจวนอย่างไม่เกรงกลัวว่าใครจะมาได้ยินก่อนหน้าที่ฉิงอิงหลางจะมาถึงบ้านร้างนอกเมือง เงาสองร่างยืนตระกองกอดกันอยู่บนต้นไม้เหมือนเฝ้ารอใครบางคน และเพียงไม่นานฉิงอิงหลางที่อยู่ในชุดดำก็อุ้มร่างของสตรีหายเข้าไปในบ้านร้างจากนั้นเสียงครวญครางอย่างรัญจวนของทั้งสองก็ดังแว่วมาอย่างไม่ขาดสาย สตรีที่ยืนอยู่บนต้นไม้เมื่อได้ยินเสียงน่ารังเกียจของชายหญิงในบ้านร้าง ใบหน้างามของนางก็แดงซ่านลามไปถึงลำคอ ไป๋เยี่ยนหลงมองสตรีอันเป็นที่รักในอ้อมแขนด้วยสายตาเอ็นดู"ช่างน่าตายยิ่งนัก"เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นมาก็คือซินเยว่ตัวจริงที่อยู่ในร่างของไซซีย

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   ลักพาตัว

    ชายชุดดำอีกคนเอ่ยขึ้นเขาก้าวเข้าหาซินเยว่เพียงก้าวเดียวก็ถึงตัวของนางได้อย่างง่ายดาย ชายชุดดำใช้สันมือฟาดไปที่ต้นคอของซินเยว่อย่างไม่ออมมือนางสลบไปทันที แต่ก่อนที่ชายชุดดำทั้งสองจะทันได้เคลื่อนย้ายร่างของซินเยว่ที่สลบไม่ได้สติออกไปจากห้องนั้น ชายชุดดำผ้าปิดหน้าห้าคนกระโดดออกมาขวางเอาไว้ ผู้มาทีหลังไม่รั้งรอให้ชายชุดดำทั้งสองได้ตั้งตัวพวกเขาฟาดพลังปราณใส่ชายชุดดำทั้งสองทันทีชายชุดดำทั้งสองกระโดดหลบพลังที่ผู้มาทีหลังซัดมาที่พวกเขาได้อย่างหวุดหวิดแล้วภายในห้องก็เกิดการต่อสู้ขึ้น ชายชุดดำทั้งสองที่มาก่อนหน้าไม่มีโอกาสที่จะพาร่างของซินเยว่ออกไปจากห้องนั้น เพราะมัวแต่พัวพันอยู่กับการต่อสู้กับชายชุดดำที่มาทีหลังคนหนึ่งได้โอกาสจึงอุ้มร่างของซินเยว่แล้วกระโดดหายออกไปจากตรงนั้นทันที"พวกเจ้าเป็นใครเหตุใดจึงมาขัดขวางภารกิจของข้าเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วหรืออย่างไร"ชายชุดดำที่เหลืออยู่อีกสี่คนไม่มีใครตอบคำถามชายชุดดำทั้งสองที่มาก่อนเมื่อพวกเขาเห็นสหายอุ้มร่างของซินเยว่ออกไปแล้วพวกเขาทั้งสี่ก็แยกตัวกันหนีออกไปจากห้องนั้นทันทีชายชุดดำที่มาก่อนเมื่อเห็นว่าตนถูกชิงตัวเป้าหมายไปแล้วก็คิดจะติดตามไปเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status