"คุณชาย.....คือ....ข้าเข้าห้องผิดถ้าข้ารบกวนท่านข้าต้องขออภัย" ซินเยว่ยกมือมองข้างขึ้นเป็นสัญลักษญ์ว่ายอมแพ้ นางเหลือบตามองเขาเล็กน้อยแต่อีกฝ่ายยังคงยืนนิ่งอยู่ในท่าเดิม
ทุกอย่างเงียบ!! จนนางแทบอยากจะหยุดหายใจ
"เอ่อ ถ...ถ้าท่านไม่มีอะไรแล้วเช่นนั้นข้าต้องขอตัว"
ซินเยว่ใช้นิ้วดันกระบี่ออกจากคอแล้วเดินไปทางระเบียงช้าๆ นางกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจวกกลับมาเล่นงานนางอีก
"เจ้าไปผิดทาง"
เสียงทุ้มดังขึ้นที่ด้านหลังของนาง -____-?
"อ่อ! ประตูอยู่อีกด้านขอบคุณ คุณชายที่เตือนข้า"
ซินเยว่พุ่งออกนอกประตูไปอย่างรวดเร็ว นางรีบหลบออกทางด้านหลังโรงเตี๊ยมตรงไปหาฮุ่ยหลิงที่กำลังรออยู่ คล้อยหลังหญิงสาวเสียงเย็นทุ้มต่ำดังออกมาจากมุมมืดภายในห้อง
"ตามไป"
บุรุษชุดน้ำเงินมองบุรุษปริศนาในความมืดด้วยสายตาไม่เข้าใจ
"นางไม่มีพลังปราณนะขอรับ หรือว่านางจะเป็น......"
บุรุษชุดน้ำเงินคาดเดาตัวตนของสตรีที่พึ่งออกจากห้องไป
"อืม.... ตามนางไป"
เสียงเย็นกดต่ำยิ่งกว่าเดิม
"ขอรับนายท่าน"
บุรุษชุดน้ำเงินขานรับแล้วหายวับไปทันที
"ข้ามาแล้วฮุ่ยหลิงเจ้าอยู่ไหน"
ซินเยว่เรียกหาสาวใช้เบาๆ ตรงที่นางได้นัดเอาไว้
"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะคุณหนูเรียบร้อยดีหรือไม่"
ฮุ่ยหลิงออกมาจากที่ซ่อนและสำรวจดูร่างกายคุณหนูของนางเมื่อเห็นว่าไม่มีส่วนใดบุบสลายนางก็เบาใจ
"กลับได้แล้วเดี๋ยวข้าเล่าให้ฟังแถวนี้ไม่ปลอดภัย"
สองนายบ่าวรีบสาวเท้าเดินกลับทางเดิมที่ออกมาเมื่อกลับถึงจวนตระกูลหยางก็เข้าสู่ปลายยามโฉ่ว (01.00-02.59) แล้ว
ก่อนกลับเข้าไปจวน ซินเยว่ทำการฝังของมีค่าที่พวกนางขโมยมาจากลูกค้าในโรงเตี๊ยมไว้ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ในป่า
"ฝังไว้ที่นี่แหละอันตรายเกินไปถ้าเอาติดตัวเข้าไปด้วย รอเราออกไปจากที่นี่เมื่อใดค่อยมาขุดไปขาย"
หลังจากที่กลับเข้ามาในจวนตระกูลหยางด้วยทางเดิมที่ออกไปนางก็บอกให้ฮุ่ยหลิงกลับไปพักผ่อนพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน ซินเยว่เปลี่ยนชุดสีดำ เอาไปซ่อนไว้แล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอนผ้าฝ้ายเนื้อหยาบจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปทันทีโดยลืมไปว่าตนได้เจอกับใครในคืนนี้
ปลายยามซื่อ (09.00-10.59) ซินเยว่งัวเงียตื่นเพราะเสียงดัง ด้านนอก
"ออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้นะนางสวะซินเยว่อย่าคิดว่ามุดหัวอยู่แต่ในเรือนผุๆ ของเจ้าแล้วข้าจะไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้"
ซินเยว่เดินงัวเงียออกมาด้านนอก โดยลืมไปว่าตนยังไม่ได้ล้าง หลัววั่งจื่อออกจากใบหน้า
"มีอันใด"
ซินเยว่เอ่ยถามเสียงเรียบ ไร้ความสนใจต่อผู้ที่มาใหม่ เมื่อคืนกลับมาถึงจวนสกุลหยางก็เกือบเช้าแล้วตอนนี้นางยังง่วงอยู่นะ รีบพูดแล้วรีบไสหัวไปซะที
"เจ้า...สตรีอัปลักษณ์เจ้าไม่มีสิทธิ์ใช้น้ำเสียงเช่นนี้กับข้า ตัวสวะไร้ค่าเช่นเจ้าสมควรตายไปซะ"
หยางหลันฮวามองซินเยว่ด้วยสายตาเหยียดหยามและเกลียดชัง ใบหน้าที่งดงามของนางบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
"เจ้ามันตัวไร้ค่าไม่คู่ควรกับองค์ชายสามเจ้ากับแม่ของเจ้ามันเป็นเพียงแค่ขยะ"
ซินเยว่ขมวดคิ้วทันทีเมื่อนางได้ยินหยางหลันฮวากล่าวเหยียดหยามมารดาของนาง
"พูดจบหรือยังถ้าพูดจบแล้วก็เชิญไสหัวไป"
ซินเยว่หันหลังกำลังจะเดินหนี นางไม่อยากจะเสียเวลามาสนใจน้องสาวต่างมารดาที่นางไม่รู้จักคนนี้ 'พวกประสาทมาหาเรื่องแต่เช้า'
หยางหลันฮวาคว้าแขนนางเอาไว้
"เจ้าคิดจะหนีไปที่ใดทั้งเจ้าและแม่ของเจ้าก็เป็นพวกเศษสวะเหมือนกันหึ! เพราะพวกเจ้าทั้งสองคนเป็นพวกไร้ค่าท่านพ่อจึงไม่เคยไยดีสักครั้ง อีกไม่นานท่านพ่อจะต้องขับไล่เจ้าสองแม่ลูกออกไปจากจวนตระกูลหยางอย่างแน่นอน”
ซินเยว่หมุนตัวต่อยเข้าที่ใบหน้าของหยางหลันฮวาเต็มแรง
"เจ้าจะด่าว่าข้าอย่างไรข้าไม่ว่าแต่อย่าได้มาลามปามถึงท่านแม่ของข้า...เจ้ามันสมควรโดน"
หยางหลันฮวากรีดร้องด้วยความโกรธแววตาของนางวาวโรจน์ด้วยความอำมหิต
"เจ้ากล้าทำร้ายข้า"
หยางหลันฮวาซัดพลังปราณสีเหลืองใส่ซินเยว่ด้วยความโกรธแค้น แรงกระแทกของพลังซัดซินเยว่กระเด็นชนเสาด้านหน้าเรือนนางกระอักเลือดออกมาคำโตแล้วสลบไปทันที
ฮุ่ยหลิงไปรับอาหารที่ครัวใหญ่ทันได้เห็นซินเยว่กำลังถูกทำร้ายนางทิ้งชามข้าวต้มรีบวิ่งเข้าไปประคองซินเยว่ขึ้นมาทันที
"คุณหนูรองเหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้ท่านคิดจะฆ่าคุณหนูใหญ่จริงๆ ใช่หรือไม่ ท่านก็รู้ว่านางไร้พลัง"
ฮุ่ยหลิงร้องไห้โฮเสียงดังกอดร่างของซินเยว่เอาไว้ บ่าวสองคนที่ติดตามหยางหลันฮวาคิดในใจว่าแย่แน่ถ้าคุณหนูรองฆ่าคุณหนูใหญ่ตาย คนที่รับโทษคงไม่พ้นพวกตนถึงหยางซินเยว่จะเป็นแค่สวะเเต่นางก็ยังคงเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนแม่ทัพ
จิงอีจึงรีบวิ่งไปตามเซวี่ยฟังเฟยให้รีบมาดูซินเยว่ หลังจากซินเยว่โดนพลังของหยางหลันฮวาซัดกระเด็นนางกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด
'นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ยหรือว่าเราตายอีกรอบแล้ว'
ซินเยว่มองไปรอบๆ เห็นหญิงสาวนางหนึ่งนั่งหันหลังให้จึงเดินเข้าไปถาม
"ขอโทษนะไม่ทราบว่าที่นี่คือที่ไหน"
เมื่อหญิงสาวนางนั้นหันมาซินเยว่ถึงกับตกใจ เพราะนางมีใบหน้าที่เหมือนซินเยว่มากคล้ายกับว่านางกำลังส่องกระจกเงา
หญิงสาวใบหน้างดงามผิวขาวผ่องจนแทบเปล่งแสงออกมา ดวงตากลมโตสองชั้นเป็นประกายเหมือนมีดวงดาวนับล้านกำลังส่องสว่างระยิบระยับอยู่ในนั้นทำให้มองแล้วรู้สึกหลงใหล ขนตางอนเป็นแพหนาทั้งบนล่างเมื่อนางกะพริบตาคล้ายผีเสื้อกระพือปีก ริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มสีเเดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าเล็กรูปไข่ได้สัดส่วนสวยงาม จมูกโด่งปลายเชิดบ่งบอกถึงความเอาแต่ใจ
'ปกติแล้วเราสวยขนาดนี้เลยหรือ'
ซินเยว่คิดในใจ
"เจ้ากลับมาแล้วหรือ"
เสียงใสดั่งกระดิ่งเงินเอื้อนเอ่ยนุ่มนวลชวนให้คนฟังรู้สึกเคลิบเคลิ้ม
"กลับมา....หมายความว่ายังไง"
นางเดินเข้ามาหาซินเยว่เอื้อมมือโอบกอดนางเอาไว้แล้วเอ่ยเสียงนุ่มนวลบางเบา
"สิ้นสุดการรอคอยที่แสนยาวนานของข้าแล้ว"
เมื่อเอ่ยจบร่างของหญิงสาวก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับซินเยว่ นางตกตะลึงแทบสิ้นสติ
ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง หยางจิ่งเทียนพูดกับมู่เซี่ยอี่ในโถงรับแขกเรื่องฮ่องเต้ต้องการให้องค์ชายสามหมั้นหมายกับคุณหนูใหญ่ตระกูล หยางแต่หยางหลันฮวาบังเอิญผ่านมาได้ยินเข้า ความโกรธเกลียดที่นางมีต่อหยางซินเยว่ยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม หยางหลันฮวาน้อยใจเหตุใดบิดาของนางถึงต้องให้นางสวะนั่นหมั้นหมายกับองค์ชายสามบุรุษที่นางมีใจปฏิพัทธ์มาหลายปี และนั่นเป็นเหตุผลที่หยางหลันฮวามาอาละวาดใส่ซินเยว่ที่เรือน
หลังจากที่เซวี่ยฟังเฟยได้ทราบข่าวว่าซินเยว่ถูกหยางหลันฮวาทำร้ายนางก็รีบกลับมาที่จวนทันที เมื่อนางกลับมาเห็นสภาพบุตรสาวที่นอนเลือดอาบไปทั่วร่างไร้ลมหายใจเซวี่ยฟังเฟยแทบหัวใจหยุดเต้น
"ไม่นะ!!!เยว่เอ๋อของแม่ลูกห้ามทิ้งแม่ไปแบบนี้ โลกใบนี้เเม่เหลือลูกเพียงคนเดียวเท่านั้นหากไม่มีลูกแล้วเเม่จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร"
เซวี่ยฟังเฟยกอดร่างซินเยว่ร้องไห้เจียนขาดใจ
"คุณหนู คุณหนู ท่านอย่าล้อเล่นกับบ่าวเช่นนี้กลับมาหาบ่าวเถิดได้โปรดอย่าทิ้งบ่าวไปเลยนะเจ้าคะ"
ฮุ่ยหลิงกอดขาซินเยว่ร้องไห้เสียงแหบเเห้ง เซวี่ยฟังเฟยเงยหน้าขึ้นจากร่างของซินเยว่นางก็อาละวาดทันที
"ทำกันถึงเพียงนี้พวกเจ้าอำมหิตเกินไปแล้ว"
พวกบ่าวที่มุงดูได้แต่ก้มหน้าไม่มีใครเอ่ยปากหรือตามหมอมารักษานางสักคน เซวี่ยฟังเฟยที่เคยอ่อนหวานนุ่มนวนตอนนี้แทบจะกลายร่างเป็นปีศาจร้ายที่พร้อมฆ่าทุกคนที่กล้ามาขวางนาง เซวี่ยฟังเฟยพุ่งไปที่เรือนหลักของหยางจิ่งเทียนด้วยดวงตาแดงก่ำ "เฮือก"!!
เห็นเขามองหน้านางอยู่นานแต่ไม่ยอมพูดอะไรสักที"เจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการหรือไม่เขาถามซินเยว่เบาๆ นางส่ายหน้าไปมาทำสีหน้าเบื่อหน่าย"ท่านลากข้ามาจากบ้านเพื่อที่จะมาดูอะไรที่น่าเบื่อแบบนี้เนี่ยนะ ช่างเสียเวลาของข้าซะจริงท่านจะรับผิดชอบอย่างไร"ซินเยว่ทำหน้างอง้ำ พานางมาทั้งที่นางไม่เต็มใจแถมยังต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุด"ข้าคิดว่ามีบางสิ่งที่เจ้าต้องการ"หลังจากที่ไป๋เยี่ยนหลงพูดจบด้านล่างก็บังเกิดเสียงฮือฮาของผู้คนดังขึ้น"เกิดอะไรขึ้นหรือ"ซินเยว่หันไปให้ความสนใจด้านล่าง ผู้ดูแลหอประมูลจันทราที่ก่อนหน้านี้เข้ามาทำความเคารพไป๋เยี่ยนหลงยืนอยู่กลางลานเวทีประมูลด้านข้างมีสาวงามชุดสีแดง ยืนถือถาดสีทองตรงกลางมีกล่องกำมะหยี่สีดำวางอยู่"สิ่งนี้คือของประมูลชิ้นสุดท้ายของวันนี้ บางท่านคงจะทราบดีอยู่แล้วว่าของที่อยู่ในกล่องนี้คือสิ่งใด"ผู้ดูแลกล่าวเสียงดังชัดเจน เขารับกล่องกำมะหยี่จากสาวงามมาวางไว้บนเเท่นศิลาสีดำกลางลานประมูล"สิ่งนี้ก็คือโอสถเพิ่มพลังปราณความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วน ซึ่งยังไม่มีผู้ใดเคยมีในครอบครองมาก่อน ผู้ที่กินโอสถนี้เข้าไปสามารถเลื่อนระดับพลังได้ถึงสามขั้นย่อยหนึ่งขั้นให
ตอนนี้ซินเยว่เขินจนต้องมุดหน้าหลบที่ซอกคอของไป๋เยี่ยนหลงนางตัวสั่นน้อยๆ ด้วยความตกใจระคนขัดเขิน ถึงแม้นางจะเคยเกิดมาแล้วสองรอบแต่นี่เป็นจูบแรกของนางเลยนะ จูบแรกของนาง ใบหน้าเล็กแดงก่ำทำปากบ่นขมุบขมิบคนเดียวหลังจากที่ซินเยว่ได้สติคืนมานางไม่กล้าดื้อที่จะลงจากตักของไป๋เยี่ยนหลงอีกนางกลัวว่าจะถูกเขาทำโทษอีกครั้ง ซินเยว่ได้แต่บ่นในใจเจ้าคนหน้าหนาทำโทษอะไรกันเอาเปรียบนางชัดๆ คอยดูเถอะนางจะวางยาถ่ายในอาหารของเขาซินเยว่ได้เเต่บ่นในใจคนเดียวไม่กล้าเอ่ยออกมาแม้เพียงครึ่งคำกลัวเขาจะเอาคืนมากกว่าเดิม รถม้าออกจากเรือนของซินเยว่วิ่งตามถนนผ่านหมู่บ้านต้งเถียนไปอย่างช้าๆ หม่าชิวหนิงมองตามจนลับสายตาจากนั้นจึงหันมาพูดกับหญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี"รถม้านั่นวิ่งมาจากบ้านของหญิงหม้ายแซ่เซวี่ยนี่นา........ หญิงเเพศยาไม่มีสามีแต่กลับพาบุรุษเข้ามาอยู่ในบ้าน"หม่าชิวหนิงบิดปากพูดออกไปด้วยความริศยา หวังให้หญิงวัยกลางคนเห็นด้วยกับตน ตั้งแต่ได้ยินชาวบ้านเล่าลือว่ามีหญิงหม้ายใบหน้างดงามมาอาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้านกับบุตรสาว นางก็บังเกิดความรู้สึกเกลียดชังทั้งๆ ที่นางไม่เคยพบหน้าเซวี่ยฟังเฟยเลยสักครั้ง ยิ่งมีคนเล
ซินเยว่พูดไม่ออกนางได้แต่ยกมือขึ้นโบกไปมาพลางพยักหน้า"เยี่ยนหลง"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบาเเต่ชัดเจนในโสตของเขา ซินเยว่เงยหน้าขึ้นสบสายตาที่กำลังมองมาที่นาง ใบหน้าของไป๋เยี่ยนหลงยังคงเรียบเฉยเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมีเพียงใบหูเท่านั้นที่เเดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด แต่ซินเยว่สังเกตเห็นมันได้นี่เขาอายหรือ ซินเยว่รู้สึกประหลาดใจเพียงแค่นางเอ่ยชื่อเขาเนี่ยนะ ซินเยว่มองหน้าไป๋เยี่ยนหลงตาปริบๆ ตอนนี้นางทำตัวไม่ถูกแล้วเสี่ยวเป่าที่เล่นดินอยู่ที่พื้นนอนกลิ้งไปมาส่งเสียง จิ๊ จ๊ะ คล้ายไม่พอใจที่พวกเขาไม่สนใจมัน"นายท่าน"เยี่ยเฉิงเดินเข้ามาคุกเข่ายกกำปั้นขวาขึ้นแนบอกด้านซ้ายทำท่าคารวะ เขาโบกมือหนึ่งทีให้เยี่ยเฉิงลุกขึ้น ซินเยว่เห็นว่าเยี่ยเฉิงมีเรื่องสำคัญจะคุยกับไป๋เยี่ยนหลงนางจึงอุ้มเสี่ยวเป่าเดินมาหามารดาที่นั่งคุยกับซ่งเว่ยหลงที่ระเบียงหน้าบ้าน คล้อยหลังซินเยว่เยี่ยเฉิงกางม่านพลังป้องกันเสียง"นายท่านมีการปะทะกันของสองกลุ่มทำให้เทพโอสถหนีไปได้ข้าน้อยไร้ความสามารถขอนายท่านโปรดลงโทษ "ไป๋เยี่ยนหลงยังคงเงียบเหม่อมองออกไปที่ซินเยว่"ตามต่อไป"พูดเพียงเท่านั้นไป๋เยี่ยนหลงก็เดินตรงไปหาซินเยว่ที่ระเบียงหน้าบ
"แม่จะไปรู้จักพวกเขาได้อย่างไรเขาบอกว่าเป็นสหายของลูกที่กำลังออกท่องเที่ยวผ่านมาทางนี้เลยแวะมาเยี่ยมเจ้า"ซินเยว่กลอกตาท่าทางหงุดหงิด ท่านแม่ท่าทางพวกเขาดูเหมือนเป็นสหายของข้าหรือท่านถูกคนพวกนั้นหลอกแล้วซินเยว่เค้นสมองคิดหาทางไล่สามคนนั้นกลับไป นางไม่อยากให้มารดารู้เรื่องที่นางเป็นตีนแมวย่องเข้าเรือนผู้อื่น ตอนนี้นางมีชนักติดหลังอยู่จึงโวยวายมากไม่ได้ อีกอย่างนางสู้พวกนั้นไม่ได้อย่างเเน่นอนหากสู้กันเรือนของนางคงพังไม่เหลือชิ้นดี และท่านแม่กับฮุ่ยหลิงอาจเป็นอันตรายได้ ซินเยว่ได้แต่ตอบรับไปส่งๆ เอาไว้ค่อยหาวิธีขับไล่พวกเขาไปทีหลัง"ชะ......ใช่ๆ ข้าลืมไปได้อย่างไรพวกเขาเป็นสหายของข้าเอง "ซินเยว่กัดฟันพูดนางลอบปาดเหงื่อบนหน้าผาก ได้แต่คาดโทษพวกเขาเอาไว้ในใจ"เช่นนั้นเราเข้าไปด้านในกันเถอะ”ซินเยว่ดันหลังมารดาเข้าไปก่อน เจ้าพวกนี้ทำให้อายุขัยของนางลดลงไปหลายปีเลยทีเดียว"คารวะคุณชาย..........."ซินเยว่ทำท่าประสานมือค้อมตัวแล้วมองหน้าบุรุษผมสีเงินสลับกับบุรุษทั้งสองที่อยู่ด้านหลัง เยี่ยจื่อเข้าใจสายตาที่ส่งมาเป็นคำถามของนางทันที" ข้าคือองครักษ์นามว่าเยี่ยจื่อและเยี่ยเฉิงส่วนท่านนี้คือคุณ
"นี่ นี่!!!......"คู่มือการใช้มิติจิตซินเยว่ถึงกับคิ้วกระตุกอะไรจะสะดวกขนาดนั้นอย่างกับซื้อของออนไลน์แล้วแถมคู่มือการใช้งานแบบนั้นเลย ซินเยว่อ่านวิธีใช้มิติจิตของนางคร่าว ๆ คือถ้าพลังเพิ่มในนี้ก็อุดมสมบูรณ์ เข้าออกโดยการใช้จิตควบคุม น้ำในบ่อ คือน้ำทิพย์มรกตใช้ดื่มเพื่อเพิ่มพลังปราณ ใช้ปรุงโอสถจะทำให้เม็ดยาที่หลอมขึ้นมามีคุณภาพมากกว่าเดิมห้าเท่าขวดที่วางบนชั้นคือโอสถหายากที่แผ่นดินชิวหลิงนี้ที่เคยบันทึกเอาไว้ในตำราโบราณ แต่ไม่เคยมีใครสามารถหลอมมันขึ้นมาได้มาก่อนตำราบนชั้นคือตำราสมุนไพรปราณธรรมดาหาง่ายไปจนถึงสมุนไพรปราณในตำนาน ถ้ารู้ว่าที่นี่มีตำราสมุนไพรตั้งแต่แรกนางคงไม่ต้องไปเสี่ยงตายที่ร้านตาเฒ่าคนนั้น และตำราฝึกพลังจิตหืม!!!"พลังจิตหรือ"ซินเยว่ให้ความสนใจตำราเล่มนี้เป็นพิเศษนางใช้เวลาในกระท่อมไปนานเท่าใดไม่รู้จนกระทั่งรู้สึกถึงเจ้าก้อนขนที่ตอนนี้ ใช้อุ้งเท้าหน้าเขี่ยๆ ที่ขาของนาง"ว่าอย่างไรเจ้าตัวน้อย ......ไม่สิเจ้ามีชื่อหรือไม่"ซินเยว่ถามมัน เจ้าก้อนขนส่ายหน้าทำตาปริบๆ"เช่นนั้นให้ข้าตั้งชื่อให้เจ้าดีหรือไม่ ชื่ออะไรดีนะที่ฟังดูแล้วไพเราะและจำได้ง่าย”ซินเยว่นิ่งคิดเล็กน
ยามห้าย (21.00-22.59) ท้องนภากระจ่างใสไร้เมฆหมอกดวงดารานับล้านกระจายเกลื่อนทั่วท้องฟ้า เสียงหวีดหวิวเป็นท่วงทำนองคล้ายเพลงพิณแว่วมาตามสายลมมองขึ้นไปไร้ที่สิ้นสุด ดวงตาสีดำสนิททอประกายแวววาวไม่ต่างจากสีของท้องนภาในยามนี้กะพริบขึ้นลงทำให้ขนตางอนยาวของนางกระพือตาม มองดูคล้ายปีกผีเสื้อสีดำกำลังโบยบิน ดวงหน้างามเด่นขาวราวหยกเหมันต์ชั้นดีตัดกับความมืดยามราตรีเห็นเด่นชัดซินเยว่ในชุดสีดำรวบผมตึงด้วยผ้าผูกผมสีแดงยืนอยู่หน้าร้านขายตำราร้านเล็กท้ายตลาดในเมืองเยว่กว่าง นางยกผ้าสีดำขึ้นมาปิดใบหน้าครึ่งล่างเห็นเพียงดวงตาดำขลับ ซินเยว่กระตุกยิ้มร้ายเมื่อนึกถึงสีหน้าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ในวันพรุ่งนี้ซินเยว่ทะยานตัวขึ้นไปบนหลังคาของร้านหนังสือ ไต่ไปตามแนวหลังคากระโดดลงไปในสวนที่น่าจะเป็นด้านหลังของร้านหนังสือ ไฟในห้องหลังร้านหนังสือดับลงไปนานแล้ว เพื่อความไม่ประมาทซินเยว่ได้จุดกำยานยาสลบโยนเข้าไปให้ห้องอีกที"หึหึ รับรองหลับยันเช้าแน่"ซินเยว่หัวเราะเบาๆ แล้วค้นหาตำรารายชื่อสมุนไพรปราณเล่มเก่าที่นางหมายตาทันที นางจำได้ว่าตาเฒ่าหยิบตำรามาจากตรงนี้นี่นา ซินเยว่มองไปที่ชั้นตำรารอบๆ ตัวนาง ตอนนี้ซินเยว่ไม่จำเ