Share

บทที่ 398

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
นางอยู่ห่างไปเพียงเอื้อมมือจนได้กลิ่นหอมจากเส้นผมของนาง มีสตรีที่งดงามและอบอุ่นประดุจหยกอยู่อ้อมกอดเช่นนี้ เขาก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

ทันทีที่นางขยับ ริมฝีปากของเขาก็ปัดผ่านพวงแก้มของนาง เสี้ยววินาทีนั้น นางพลันไม่กล้าขยับต่อและก็ไม่กล้าส่งเสียงด้วย

ผ่านไปครู่หนึ่ง นางถึงลองเรียกเขาว่า “จิ่นเหยียน”

“เมื่อครู่เจ้ามิใช่เรียกข้าว่าท่านพี่หรือ?” นางไม่เคยเรียกเขาเช่นนี้มาก่อน

จางอวี่มั่วถึงนึกขึ้นได้ว่า ถึงท่าทางที่ตนฝึกเรียกเขาว่า ‘ท่านพี่’ อยู่ที่หน้ากระจกเมื่อครู่ สุดท้ายแม้แต่ตัวนางเองก็รู้สึกไม่มีความมั่นใจ จากนั้นจึงไปนั่งรอเขาที่โต๊ะ รอไปรอมาก็หลับไปเสียแล้ว จากนั้นเมื่อครู่ท่ามกลางความมืด นางก็เรียกเขาว่า ‘ท่านพี่’ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว

แต่ว่า หากเขามิได้ชมชอบนางจากใจจริง นางสามารถเรียกเขาว่าท่านพี่ได้หรือ?

เขากล่าวต่อว่า “อันที่จริง ตอนอยู่ที่ชายแดนข้าก็คิดไว้แล้ว ว่าหากข้ากลับมาได้ พวกเราก็มาใช้ชีวิตด้วยกันดีๆ ตอนนี้เจ้าเป็นภรรยาของข้าแล้ว เรียกข้าว่าท่านพี่สักคำก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว”

นางประหม่าจนไม่กล้าขยับและไม่กล้าเอ่ยวาจา รอบกายมืดมิดไปหมด นางรู้ว่าใบห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 404  

    เซี่ยซางเห็นนางมีสภาพอนาถถึงเพียงนี้ก็เกือบนึกไม่ออกว่าเป็นใคร “เจ้ามิได้อยู่ที่เมืองเซิ่งจิงหรือ เหตุใดจึงมาโผล่อยู่ที่นี่?” ซูถิงหว่านยิ่งคิดยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ จึงทรุดตัวลงซบบนตักเซี่ยซาง “เดิมที่หม่อมฉันตั้งใจจะกลับเรือน แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลใดหม่อมฉันเกิดหลงทางกลางคัน แล้วยังไปเจอโจรป่า พวกมันสังหารผู้ติดตามของหม่อมฉันจนหมดแล้วยังจับหม่อมฉันไปขังไว้ในถ้ำ กว่าหม่อมฉันและอิ๋นซิ่งจะหนีรอดออกมาไม่ง่ายเลยเพคะ…” ซูถิงหว่านหลังจากจัดการฝังศพจีเฉินเรียบร้อย นางก็ออกเดินทางจากเมืองเซิ่งจิงทันที ตอนแรกยังเดินทางอยู่ดี ๆ กลับคิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะบังเอิญเจอกับนักต้มตุ๋น ต่อมานางถึงได้รู้ว่าคนพวกนั้นใช่นักต้มตุ๋นเสียที่ไหน แท้จริงแล้วคือโจรป่าต่างหาก พวกมันไม่เพียงปล้นเอาเงินของนางไปจนหมด ซ้ำร้ายอาภรณ์กันความหนาวของนางก็ยังถูกชิงเอาไปด้วย พวกมันยังจับนางไปขายให้เรือนคณิกา หากมิใช่เพราะนางมีวรยุทธ์ติดตัว นางคงเสียตัวไปแล้ว แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้นางมิได้เล่าออกไป หลังจากหนีออกมาจากเรือนคณิกาได้แล้ว นางก็ไม่กล้าไปฟ้องทางการ ด้วยฐานะของนางเป็นถึงพระชายารองของเหิงอ๋อง เรื่องนี้หากถูกคน

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 403  

    หลินเฟิงเองก็นั่งลงด้วยเช่นกัน “สถานการณ์อันตรายเพียงนี้ อีกทั้งการรบก็ดุเดือด หากเป็นคนทั่วไปคงพากันหนีหัวซุกหัวซุนแล้ว คิดไม่ถึงว่าแม่นางเย่จะเข้าร่วมการคัดเลือกแพทย์ในเมืองเซิ่งจิงเพื่อมาที่เขตชายแดน” “โชคดีที่ได้แพทย์อาสากลุ่มนี้อย่างพวกท่านมาช่วยเหลือ มิเช่นนั้นหากจะพึ่งพาเพียงแพทย์ทหารในกองทัพอย่างเดียว ทุกคนจะต้องวุ่นวายมือไม้พัลวันกันไปหมด และมีทหารบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนแน่ แต่เพราะได้กลุ่มแพทย์อาสามาช่วยไว้ทัน ทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ต้องทนทรมานมากนัก” เย่ซู่ซู่ตอบกลับว่า “ซู่ซู่มิบังอาจรับความดีความชอบไว้เพียงคนเดียว หนนี้หมอชาวบ้านที่อาสาเข้ามาเป็นกำลังหนุนมีมากถึงสามสิบกว่าคน ราชสำนักเองก็มิได้ให้พวกข้ามาเปล่า ยังให้เงินจุนเจือในจำนวนที่เพียงพอด้วย การที่สตรีตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งสามารถให้การช่วยเหลืออะไรพวกท่านได้ ข้าก็รู้สึกปีติยินดียิ่งนักแล้ว ซู่ซู่กลับรู้สึกว่าทหารต่างหากที่กล้าหาญ พวกเขาต่อสู้ต้านทานศัตรูโดยไม่สนใจความปลอดภัยของตนเอง เพื่อปกป้องพวกเราประชาชนไว้ ในฐานะราษฎรคนหนึ่งของต้าโจว แม้ราชสำนักจะมิได้ให้เงินจุนเจือ แต่ด้วยคุณธรรมแล้วข้าจะมาที่ชายแดนเพื่อร่วมปกป้

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 402  

    เขาเองแสร้งทำเป็นฟังอะไรไม่เข้าใจ รีบเปลี่ยนประเด็นสนทนาโดยเร็ว “กินข้าวเสร็จแล้ว พวกเราไปเดินชมโคมไฟที่ถนนกันเถิด!” ได้ยินคำว่าถนนขึ้นมา เจียงจื้อชินตื่นเต้นเป็นคนแรก โพล่งออกมาด้วยความดีใจว่า “ดีเลย!” พวกเด็ก ๆ อีกหลายคนก็ดีใจกันยกใหญ่เช่นกัน “พวกข้าเองก็จะไปด้วย จะไปกับท่านลุงด้วย” หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย เจียงเฟิ่งหัวมิได้มาชมความครึกครื้นที่ท้องถนน นางอยู่ในเรือนคอยเป็นเพื่อนบิดาเจียงและมารดาเจียง สามพี่น้องสกุลจินเองก็ตื่นเต้นกับการออกไปข้างนอกมาก ดังนั้นเจียงหรูเมิ่งสามีภรรยาจึงจำเป็นต้องออกไปด้วย จางอวี่มั่วถามเพื่อความแน่ใจครั้งแล้วครั้งเล่า “น้องหญิงสาม เจ้าจะไปออกไปข้างนอกกับพวกข้าจริงหรือ?” เจียงเฟิ่งหัวเอ่ย “ข้าไม่ไปรบกวนช่วงเวลาหวานชื่นของท่านกับพี่ใหญ่หรอก พวกท่านรีบไปเถิด!” จางอวี่มั่วเอ่ย “ข้ารู้แล้ว น้องหญิงสามคงอยากรอให้เหิงอ๋องกลับมาก่อน แล้วค่อยออกไปเดินเล่นกับเขาสินะ” เจียงเฟิ่งหัวไม่เคยมีความคิดนี้แวบเข้ามาในหัว นางรู้สึกว่าตั้งครรภ์ท้องโตแบบนี้ออกไปข้างนอกไม่สะดวกก็เท่านั้น นางจึงแสร้งทำเป็นเขินอายแล้วเอ่ยว่า “ใช่แล้วเจ้าค่ะ พวกท่านล้วนอยู

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 401  

    มารดาเจียงและคนสกุลเจียงกลับมาถึงโถงหน้าแล้ว มองเห็นสำรับอาหารเต็มโต๊ะ ทว่าทุกคนกลับไม่มีความคิดจะยกตะเกียบแม้แต่คนเดียว พวกบ่าวรับใช้นั่งอยู่เต็มสองโต๊ะด้านข้าง เห็นเจ้านายไม่ขยับตะเกียบ พวกเขาเองก็ไม่กล้าขยับเช่นกัน ไม่เคยเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นในสกุลเจียงมาก่อน มารดาเจียงกลับมาก็มิได้ดุด่าสั่งสอนสามพี่น้องสกุลจินจริงจังอะไร หลานแสนน่ารักของนาง นางจะกล้าใจแข็งขึ้นเสียงตวาดได้อย่างไร กลับเป็นเจียงจื้อชินเสียอีกที่ถูกต่อว่าอย่างเจ็บแสบ บัดนี้ก็สงบเสงี่ยมเรียบร้อยดีแล้ว เฝิงจิ้งย่วนยังรู้สึกยินดีปรีดาที่สุดท้ายบุตรชายก็เริ่มคิดได้เสียที การที่เขาเปิดใจยอมรับจางอวี่มั่วได้ก็แสดงว่าเขาตัดใจจากสวี่อิ๋งเอ๋อร์ได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางกลัวมาตลอดว่าสวี่อิ๋งเอ๋อร์จะเป็นปมในใจของบุตรคนโต หากเขาไม่สามารถปล่อยวางได้ เขาก็จะต้องจมอยู่ในความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต และเขาจะไม่มีวันได้พบกับความสุขไปตลอดชีวิต ที่ขอบของมารดาเจียงพลันเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา เจียงหวยเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยว่า “ฮูหยิน เหตุใดเจ้ายังร้องไห้อีก ดูสิพวกลูก ๆ มองอยู่” “ข้าก็แค่มีความสุข” มารดาเจียงปาดน้ำต

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 400

    เฝิงจิ้งย่วนกล่าวว่า “คอยดูนะ ข้าจะต้องจัดการกับจินหมิงตงแน่ รายงานข่าวปลอม ช่างน่าขายหน้าเกินไปแล้ว”เจียงหวยเดินเข้ามาใกล้ “เจียงจิ่นเหยียนรังแกเมียเขาอย่างไรหรือ?”เฝิงจิ้งย่วนรีบปิดปากของเขาไว้ จับมือเขาได้ก็ดึงออกไปทันที วันนี้เป็นวันที่นางขายหน้าที่สุดในชีวิตแล้วเจียงหรูเมิ่งกับเจียงเฟิ่งหัวสบตากันทีหนึ่ง “ที่แท้พี่ชายของพวกเราก็มิใช่นักบวช เขาก็มีหกอารมณ์เจ็ดปรารถนาเหมือนกัน ดูท่าบ้านเราจะมีสมาชิกเพิ่มอีกแล้ว”เจียงเฟิ่งหัวเดินไปที่ข้างหน้าต่าง เอ่ยปากอย่างปรารถนาว่า “พวกท่านทำต่อไปเถอะ คืนนี้ไม่ต้องออกมาฉลองเทศกาลโคมไฟแล้ว ดึกกว่านี้หน่อยข้าจะให้คนส่งของกินมาให้พวกท่าน จะได้เพิ่มพูนพลังกาย!”พูดจบ นางก็ช่วยพวกเขาปิดหน้าต่างด้วยความหวังดี แล้วกล่าวอีกว่า “พี่ใหญ่อย่าลืมลงกลอนประตูล่ะ ไปที่เตียงในห้องชั้นในเถอะ โต๊ะนั่นไม่สบายเลย”เจียงเฟิ่งหัวดึงเจียงหรูเมิ่งไปแล้ว ยังดีที่สาวใช้สกุลเจียงต่างมีระเบียบวินัย ล้วนอยู่ในห้องอาหารมิได้ตามเข้ามาด้วย เจ้านายทะเลาะกัน พวกนางยังคงหัวไวนัก จึงไม่มาร่วมชมเรื่องขายหน้าของเจ้านายด้วย นี่ถึงได้เลี่ยงไม่ให้เรื่องดีอันน่าตื่นตะลึงของคนทั

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 399

    อาศัยแสงสว่างจากภายนอก เขาถึงสามารถมองเห็นสภาพของผู้ที่อยู่ในอ้อมกอดได้อย่างชัดเจน บนขนตายาวๆ ของนางยังมีหยดน้ำตาเกาะอยู่ ใบหน้างดงามแดงระเรื่อ เอิบอิ่มเปล่งปลั่งดั่งบุษบงที่โผล่พ้นน้ำดวงตาทั้งสองคู่สบประสาน ในระยะใกล้เพียงเอื้อม องคาพยพทั้งห้าของเขาคมสันงดงาม สันจมูกโด่งสูง เขาตกอยู่ในอารมณ์อันเงียบงัน ดวงตาลึกล้ำกำลังจับจ้องมาที่ใบหน้านางจางอวี่มั่วรีบเช็ดรอยน้ำตาบนใบหน้า คิดว่ายังดีที่เมื่อครู่มิได้จุดไฟ ทำให้ในห้องมืดสนิท เขาเลยมิได้เห็นท่าทางน่าเขินอายที่นางร้องไห้เมื่อครู่ มิเช่นนั้นคงขายหน้าจนหมดสิ้นแล้วนางโมโหตัวเองว่าเหตุใดจึงไปร้องไห้ต่อหน้าเขากัน? เหตุใดจึงอดกลั้นไว้ไม่อยู่นะ?นางผลักเขาออกอย่างขวยเขิน ขณะที่นางจะเปิดประตูออกไปนั้นเอง วินาทีถัดมา เจียงจิ่นเหยียนก็ดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด ไม่สนใจว่านางจะเต็มใจหรือไม่ก็จุมพิตลงมาบนริมฝีปากของนางทันทีเวลานี้จางอวี่มัวตะลึงงันไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว นางรู้สึกว่าลมหายใจของตนเปลี่ยนเป็นกระชั้นขึ้น หัวใจราวกับจะกระโจนออกมาแล้ว นางเบิกตากว้าง ขนตากะพริบไหวอยู่บนใบหน้าของเขา ในชั่วขณะหนึ่งนางก็ไม่กล้าขยับไปมั่วแล้ว แสงจันทราสาดต้องใ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 398

    นางอยู่ห่างไปเพียงเอื้อมมือจนได้กลิ่นหอมจากเส้นผมของนาง มีสตรีที่งดงามและอบอุ่นประดุจหยกอยู่อ้อมกอดเช่นนี้ เขาก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวทันทีที่นางขยับ ริมฝีปากของเขาก็ปัดผ่านพวงแก้มของนาง เสี้ยววินาทีนั้น นางพลันไม่กล้าขยับต่อและก็ไม่กล้าส่งเสียงด้วยผ่านไปครู่หนึ่ง นางถึงลองเรียกเขาว่า “จิ่นเหยียน”“เมื่อครู่เจ้ามิใช่เรียกข้าว่าท่านพี่หรือ?” นางไม่เคยเรียกเขาเช่นนี้มาก่อนจางอวี่มั่วถึงนึกขึ้นได้ว่า ถึงท่าทางที่ตนฝึกเรียกเขาว่า ‘ท่านพี่’ อยู่ที่หน้ากระจกเมื่อครู่ สุดท้ายแม้แต่ตัวนางเองก็รู้สึกไม่มีความมั่นใจ จากนั้นจึงไปนั่งรอเขาที่โต๊ะ รอไปรอมาก็หลับไปเสียแล้ว จากนั้นเมื่อครู่ท่ามกลางความมืด นางก็เรียกเขาว่า ‘ท่านพี่’ ออกมาอย่างไม่รู้ตัวแต่ว่า หากเขามิได้ชมชอบนางจากใจจริง นางสามารถเรียกเขาว่าท่านพี่ได้หรือ?เขากล่าวต่อว่า “อันที่จริง ตอนอยู่ที่ชายแดนข้าก็คิดไว้แล้ว ว่าหากข้ากลับมาได้ พวกเราก็มาใช้ชีวิตด้วยกันดีๆ ตอนนี้เจ้าเป็นภรรยาของข้าแล้ว เรียกข้าว่าท่านพี่สักคำก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว”นางประหม่าจนไม่กล้าขยับและไม่กล้าเอ่ยวาจา รอบกายมืดมิดไปหมด นางรู้ว่าใบห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 397

    หลายเดือนมานี้ เขาก็เข้าสู่สนามรบกับเหิงอ๋องอยู่สองสามครั้ง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นตอนกลางคืน ทัพศัตรูเลือกมาลอบโจมตีในยามราตรี ทุกค่ำคืนอันดึกสงัดหรือในตอนที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย สิ่งที่เขาคิดถึงอยู่ในสมอง นอกจากคนในครอบครัวแล้วก็คือจางอวี่มั่ว เขากระทั่งรู้สึกโชคดีที่ไม่ได้ร่วมหอกับนาง เพราะเขากลัวว่าหากตายอยู่ในสนามรบจะเป็นการทำร้ายนางในคืนวิวาห์นั้นเขาดื่มจนเมามายเกินไป กระทั่งเช้าวันถัดมาเมื่อตื่นขึ้น เขารู้สึกเพียงว่าใบหน้าเต็มไปด้วยความละอายยามเผชิญหน้ากับนางวันต่อมาเขาก็ได้รับข่าวจากเหิงอ๋องอย่างกะทันหัน ชายแดนจะทำศึกแล้ว ให้เขาเตรียมพร้อมออกจากเมืองหลวงทุกเมื่อ เขาคิดไปคิดมาจึงมิได้เข้าหอกับนางเมื่อมาถึงห้องนอน จางอวี่มั่วก็กล่าวว่า “ข้าจะไปเทน้ำก่อน”“อื้ม” เขาปล่อยมือของนาง เข้าห้องชั้นในไปหาเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยนเพียงลำพังเสื้อผ้าของเขาถูกจางอวี่มั่วจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ เสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวก็ถูกนางค้นออกมาแล้ว ยังมีการเพิ่มของใหม่เข้ามาด้วยเขาแอบคิดในใจว่า ‘พวกนี้ล้วนเป็นฝีมือของท่านแม่ หรือ จางอวี่มั่วกันแน่ นางน่าจะไม่รู้ขนาดตัวของเขากระมัง!’จางอวี่มั่วเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 396

    ใบหน้าราชครูเจียงเต็มไปด้วยความภูมิใจ “กลับมาก็ดีแล้ว”ในดวงตาของเจียงฮูหยินก็คลอไปด้วยหยาดน้ำตา “ในที่สุดก็กลับมาสักที”เจียงหรูเมิ่งเห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัยในใจก็รู้สึกยินดี แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความรังเกียจ “เขายังใช่พี่ใหญ่ของพวกเราอีกหรือ? พี่ใหญ่กลายมามีสภาพแบบนี้ได้อย่างไร? ไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือนเหตุใดจึงหนวดเครารกรุงรังเช่นนี้”เจียงเฟิ่งหัวมองไปที่ด้านหลังของเขาอย่างไม่รู้ตัวทีหนึ่ง “พี่ใหญ่กลับมาคนเดียวหรือ”เจียงจิ่นเหยียนอธิบายว่า “ตอนข้ากลับมาท่านอ๋องยังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่ค่ายทัพ ตอนนี้น่าจะอยู่ระหว่างทางกลับเมืองแล้ว ในศึกครั้งสุดท้าย เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่หรวนหร่วนไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต มีแพทย์ทหารคอยดูแลอยู่ข้างกายเขา ที่ท่านอ๋องไม่ได้ส่งข่าวที่เขาบาดเจ็บกลับเมืองหลวง ก็เพราะกลัวว่าเจ้าจะเป็นห่วงด้วยนี่แหละ”“เป็นเช่นนั้นก็ดี” เจียงเฟิ่งหัวถามต่ออีกว่า “ซูถิงหว่านไปที่ชายแดน นางได้พบท่านอ๋องหรือยัง?”“สถานการณ์การศึกอันตรายมาก พวกเราไม่เห็นชายารองซูเลย”เจียงจิ่นเหยียนเป็นรองเจ้ากรมคลัง ภารกิจของเขาก็คือการจัดส่งเสบียงสิ่งของ จึงมิได

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status