บทที่18.ทวงรัก ทวงหัวใจ
สายตาฝ้าฟางตามกาลเวลามองตามเด็กชายอ้วนท้วนคนหนึ่งไป อรัญนั่งมองนิ่งๆ เขาไม่ได้ปริปากพูดสักคำ หลังจากที่อีธานฉุดรั้งมาด้วยจนได้ ชายหนุ่มกระซิบบอกมารดา ถึงเรื่องที่จะทำ นางสนับสนุน เมื่อรู้ดีว่า อันนา น่ารักเพียงไหน หากสามียอมเปิดใจ เขาจะยอมรับอันนาได้ในไม่ช้า
“อันอัน...ผู้ชายคนนั้นเป็น ‘ลุง’ หรือปะป๋าของอันอันกันแน่?”
ระหว่างเล่นของเล่นในลานกว้างของโรงเรียนอนุบาลที่อันนาเป็นนักเรียนของที่นี่
อันนาเบ้ปาก เด็กชายรู้สึกหงุดหงิด ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเพื่อนยังไง เมื่อมารดายังตีหน้านิ่ง ไม่ยอมตอบคำถาม ที่ตนเองวนเวียนถาม
“ปะป๋า บอกเป็นปะป๋า ไม่ใช่ ‘ลุง’ แต่หม่าม๊ายังไม่ยอมตอบเลย”
“ถ้าใช่ก็ดีเนอะ ปะป๋าอันอันหล่อเว่อร์” เพื่อนกล่าวเสียงดัง เพราะอีธานน่ะหล่อเด้ง บรรดาคนรุ่นเดียวกันไม่มีใครเที
“เห้อ!!” ชายสูงวัยกว่าถอนใจดังๆ เขามองหน้าว่าที่ลูกเขยตรงๆ “นับวัน พวกคุณทั้งครอบครัวยิ่งรุกคืบเข้ามาในชีวิตอันอันมากขึ้น... ถามหน่อยเถอะ ต้องการอะไรกันแน่?” ไม่ว่าจะมาดามจาง ตัวลูกชายของมาดาม เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตประจำวันของหลานชาย จนเก่งกาจเริ่มหวั่นใจ วันใดที่พวกเขาทั้งหมดถอนตัวไป...อันนาล่ะ จะเป็นอย่างไร“ผมต้องการ ‘ครอบครัว’ นั่นหมายถึงทั้งเมรีและอันอันครั
บทที่18.ทวงรัก ทวงหัวใจ สายตาฝ้าฟางตามกาลเวลามองตามเด็กชายอ้วนท้วนคนหนึ่งไป อรัญนั่งมองนิ่งๆ เขาไม่ได้ปริปากพูดสักคำ หลังจากที่อีธานฉุดรั้งมาด้วยจนได้ ชายหนุ่มกระซิบบอกมารดา ถึงเรื่องที่จะทำ นางสนับสนุน เมื่อรู้ดีว่า อันนา น่ารักเพียงไหน หากสามียอมเปิดใจ เขาจะยอมรับอันนาได้ในไม่ช้า“อันอัน...ผู้ชายคนนั้นเป็น ‘ลุง’ หรือปะป๋าของอันอันกันแน่?”ระหว่างเล่นของเล่นในลานกว้างของโรงเรียนอนุบาลที่อันนาเป็นนักเรียนของที่นี่อันนาเบ้ปาก เด็กชายรู้สึกหงุดหงิด ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเพื่อนยังไง เมื่อมารดายังตีหน้านิ่ง ไม่ยอมตอบคำถาม ที่ตนเองวนเวียนถาม“ปะป๋า บอกเป็นปะป๋า ไม่ใช่ ‘ลุง’ แต่หม่าม๊ายังไม่ยอมตอบเลย”“ถ้าใช่ก็ดีเนอะ ปะป๋าอันอันหล่อเว่อร์” เพื่อนกล่าวเสียงดัง เพราะอีธานน่ะหล่อเด้ง บรรดาคนรุ่นเดียวกันไม่มีใครเที
“คุณลินคงปวดหัวสินะครับ” อีธานกล่าวยิ้มๆ“ค่ะ...ป๊าเอาแต่ใจตัวเอง ไม่นึกถึงใจลินเลย” หญิงสาวถอนใจแรงๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ“ผู้ใหญ่มักจะคิดว่าตัวเองทำถูก...พวกเขาลืมไปว่า หัวใจไม่ใช่แค่ก้อนเนื้อ แต่มันคือกลไกที่บงการตัวตนของเรา มั
บทที่17.ครอบครัวสุขสันต์ “พ่อเข้าใจหนูนะเมรี แต่ว่า...” เก่งกาจเปรยในตอนเช้า หลังจากออกไปส่งอันนาที่โรวเรียนประจำ เขาเจอบุตรสาวที่โต๊ะกินข้าว เมรีกำลังจิบกาแฟ สลับกับการค้นหาข้อมูลตำแหน่งงานในแล็ปท็อปขนาดเท่าฝ่ามือ“พ่อคะ...หนูรู้ว่าพ่อจะพูดอะไร...เขาประกาศโจ่งแจ้งขนาดนั้นจะให้หนูเสนอหน้าพาอันอันเข้าไปร่วมวงศ์วานของเขาได้ยังไง” เมรีพูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองบิดา ดังนั้นเก่งกาจจึงไม่เห็นรอยเจ็บช้ำในดวงตาบุตรสาว“เห้อ!!” ชายสูงวัยถอนใจแรงๆ เขาทรุดนั่ง เอื้อมมือจับมือเมรีไว้ “พ่อรู้...แต่อันนาต้องการพ่อนะลูก พ่อเขาก็ไม่ได้รังเกียจ เขาแสดงเจตตนาที่ดีและเต็มใจต้อนรับ”“ในฐานะอะไรล่ะคะ ‘ลูกนอกสมรส’ งั้นเหรอ?”เมรีเงยหน้าขึ้น เธอพูดเสียงสั่น ริมฝีปากสีระเรื่อสั่นระริก กับแรงกดดันจากภายในใจเก่งกาจอึ้ง! ความจริงที่เขาเองก
บทที่16.วิมานฉิมพลี... “หม่าม๊ามาทำอะไรที่นี่คร๊าฟ” อันนาเงยหน้าขึ้นมองมารดา เขาถามเสียงใส เมื่อพบเจอมารดาแบบไม่คาดคิด...“หม่าม๊าเดินหางานทำจนเมื่อยน่ะอันอัน เลยแวะพักขาหน่อย” เมรีตอบบุตรชาย สายตาจับจ้องแค่หน้าของอันนา ไม่เหลือบแลไปยังผู้ชายตัวใหญ่ด้านหลังอีธานอมยิ้ม...เขารู้ว่าเพราะอะไรเมรีถึง...เหนื่อย...ชายหนุ่มอมยิ้มมุมปาก เขาสอดมือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง พร้อมกับแตะสิ่งสงวนของตัวเองที่เริ่มมีปฏิกิริยาทันที ที่พบเจอกับหญิงสาวตรงหน้า‘เย็นไว้โยม เย็นไว้’ ความต้องการมากล้นที่แอบซุกซ่อนอยู่ในร่างกายของเขา มันเตรียมพร้อมที่จะออกมาประกาศความเก่งกล้า แต่ทว่า...มันยังไม่ถึงเวลา อีธานนึกขำตัวเอง...มีใครรู้บ้าง...ผู้ชายวัยสามสิบห้าปีคนนี้ กำลังจะกลายเป็นคนบ้ากาม หลังจากหงอยเหงามาหลายปี...“หม่าม๊า
บทที่15.ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้น สมาชิกในบ้านเมฆาไกร ยกเว้นอันนา เก่งกาจนั่งหน้าตึง มีไพลินนั่งยิ้มเจื่อนๆ อยู่ด้านข้าง เสียงอันนาหัวเราะลั่น เพราะกำลังถูกใจกับของฝากกองมหึมาที่มัทนาขนมาประเคน มาดามจางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นางชี้ชวนให้หยางดูอากัปกิริยาของ ‘หลานชาย’ จนลืมสนใจสีหน้าของบิดา-มารดาของเมรี หรืออีกนัยหนึ่ง นางกำลังแสร้งไม่รับรู้ เมื่อวัตถุประสงค์ของมัทนา คือการมาเจรจากับคนในบ้านเมฆาไกรทุกคน...“อันอันไม่เคยมีของเล่นแบบนี้เลย คุณตาดูซิครับ หุ่นยนต์ตัวนี้พูดได้ด้วย”อันนาวิ่งหน้าตั้งเข้าไปหาเก่งกาจ มือป้อมๆ ยกชูหุ่นยนต์ตัวใหม่เอี่ยมให้ญาติผู้ใหญ่ได้เห็นเก่งกาจกดมุมปากจนบิด เขาสูดลมหายใจแรงๆ พยายามสะกดความไม่พอใจเอาไว้ภายใน“อันอัน...ไปเล่นตรงนู้นก่อนลูก ขอตาคุยกับแขกสักครู่”มือเหี่ยวๆ ยกขึ้นลูบผมเปียกๆ บนศีรษะหลานชาย