“เจ้าอยากโดนของใคร... พูด” ซ่งหยวนซีคาดคั้น
หลี่รี่ตอบแบบไม่คิด
“หม่อมฉันอยาก... ทั้งสองพระองค์”
ซ่งหยวนซีเดินไปอยู่เบื้องหน้าหญิงร่าน นางรีบลุกขึ้นมาเพื่อถอดกางเกงตัวในออกจากสะโพกสอบ
“โอ...” หลี่รี่ครางเสียงแผ่ว
นางกอบกุมท่อนเนื้อใหญ่ยาวด้วยสองมือ ส่วนปลายหนาหนักทำให้มันชี้ลงต่ำ นางแลบปลายลิ้นชื้นเลียกินหยาดหยดน้ำกามบนหัวเห็ดสีแดงก่ำ เลาะไล้รอบขอบบานบากระรัว จะก่อนอ้าปากครอบดุ้นเอ็นเขื่องเอาไว้ ห่อกระพุ้งแก้มดูดดื่มรสชาติความเป็นชาย แล้วผงกศีรษะขึ้นลง ขึ้นลง... ด้วยจังหวะลีลาอันเร้าใจ
“อาาา...” ซ่งหยวนซีครางสยิว เอาฝ่ามือประคองท้ายทอยของหญิงสาว พลางเดาะสะโพกสอบ ดันความยาวทะลวงผ่านลำคอของนาง แทงเข้าไปจนสุด ดึงออกมา แล้วแทงเข้าไปใหม่...
หลี่รี่คับปากคับคอจนน้ำตาปริ่ม นางใช้มือข้างหนึ่งปรนเปรอความสุขให้ตัวเอง พลางชำเลืองไปทางอี๋ชินอ๋องซึ่งกำลังจ้องมององค์รัชทายาทเล่นเสียวกับปากของนางอย่างเมามัน
ซ่งเหยียนหมิงยกสุราดื่มจนหมดจอก จากนั้นก็ลุกขึ้นถอดกางเกงชั้นใน แล้วเดินเข้าไปร่วมวงสังวาสกับสหายรักและพระสนมคนงาม
ดุ้นเอ็นแข็งร้อนในมือแต่ละข้างของหลี่รี่ มีขนาดยาวใหญ่จนกุมนิ้วไม่รอบ ทว่านางกลับอยากครอบครองมันพร้อมกันในคราวเดียว ต่อให้โดนชำเราจนขาดใจตายคาเตียงตั่ง นางก็ไม่เสียดายชีวิต
ซ่งหยวนซีกระทั้นความยาวใส่โพรงปากของสตรีจอมละโมบ สามสี่ครั้งเร็วๆ แรงๆ เป็นการทิ้งทวน เขาจับร่างยั่วกามโก่งโค้งบนตั่งและเข้าหานางจากด้านหลัง
หลี่รี่แอ่นบั้นท้ายให้องค์รัชทายาท นางคายของใหญ่ในปากแต่มือยังกุมดุ้นเอ็นเขื่องชักเป็นจังหวะ พลางเอี้ยวตัวหันไปมองอีกฟากตั่งยาว
ซ่งหยวนซีใช้มือข้างหนึ่งแยกกลีบสวาทอ้าออก จนเห็นเนื้อในสีแดงสด เอาปลายบานบากละเลงร่องเปียกลื่นขึ้นลง กดหัวเห็ดมุดเข้าออกในรูเสียว เสียดเสยกับเกสรกระสัน ทำให้พระสนมร่านกระดกบั้นท้ายส่ายเสาะหาของใหญ่อย่างลืมอาย รู้สึกกระหายกามจนดวงตาพร่ามัว หลี่รี่เอื้อมมือไปกุมท่อนเนื้อแข็งยาวราวกับทวนเหล็กแทงเข้ามาในโยนีอันอวบอูมชุ่มฉ่ำของนาง พลางแอ่นระแน้สวนทางของแข็งด้วยท่วงท่ายั่วตัณหา
“ซี๊ดดด...” ซ่งหยวนซีสูดปากครางสยิว สะโพกสอบเคลื่อนไหวเนิบช้า สอดใส่เข้าออกในรูเสียวเพียงครึ่งความยาว ขณะที่จ้องมองสหายรักสอยกามกับปากของพระสนมหลี่รี่ เขารอจังหวะที่นางคายของใหญ่ในปากเพื่อหอบหายใจ เมื่อสบโอกาสจึงเสือกดุ้นเอ็นยาวเก้านิ้วกระแทกเข้าไปในความสาวของนางแบบเน้นๆ แรงๆ จนสุดขนาด
“อ๊าาา!!! ทะ ไท่จื่อ... บะ เบาๆ เพคะ... ซี๊ดดด อ๊ะ! อ๊าา อ๊าาา...”
หลี่รี่ร้องครางเสียงหลง นางกางขาเปิดทางให้ไท่จื่อทะลวงของใหญ่เข้ามาในกายให้เต็มรักเต็มลำ ก่อนจะหันกลับมาดูดดุ้นเอ็นอันเขื่องที่อยู่ตรงหน้าต่อ อย่างเมามัน
ซ่งหยวนซีใช้สองมือตรึงแก้มก้นของนาง เพื่อให้เขากับซ่งเหยียนหมิงมองเห็นเครื่องเพศของเขากับหลี่รี่สอดใส่เสียดสีกันแบบถึงเนื้อถึงน้ำ ยามกระแทกกระทั้นเข้าออกแต่ละครั้ง ได้ยินเสียง ตับ! ตับ! ตับ! ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วห้อง
“อุ๊ก! อุ๊ก! อุ๊ก! ...” หลี่รี่น้ำหูน้ำตาไหลพราก เพราะโดนของใหญ่บุกอัดทั้งด้านหน้าด้านหลังพร้อมกันอย่างไร้เมตตา ทำให้นางคับปากคับร่อง รู้สึกจุกแน่นจนหายใจหายคอแทบไม่ออก ทว่าความเสียวซ่านที่ตอบสนองกลับคืนมานั้น ช่างถึงอกถึงใจยิ่งนัก...
“พอได้แล้ว” ซ่งเหยียนหมิงฉุดหญิงสาวขึ้นมาเกยทับบนร่าง “ต่อให้เจ้าเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อน หรือเป็นสตรีไม่รู้ประสีประสาอะไรเลย ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็รักเจ้า”เขาหยัดสะโพกให้ส่วนปลายองชาตเสียดเสยรองกลีบสวาทของนางอย่างอดใจไม่ไหว แต่หญิงสาวก็ไม่ยินยอมถูกครอบครองโดยง่าย“หม่อมฉันจะทำเองเพคะ” ดวงตากลมโตของนางเป็นประกาย พลางใช้นิ้วเรียวงามแหวกกลีบสวาทแล้วกดบั้นท้ายลงช้าๆยามนั้น... แสงจันทร์ขาวนวลที่สาดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างได้อาบย้อมร่างของเขาและนางที่หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง“องค์รัชทายาทเสด็จ”เสียงของขันทีดังไปทั่วตำหนักเหม่ยฮวา หลี่รี่แทบจะพุ่งเข้าไปกอดร่างสูงใหญ่งามสง่าทันทีที่เห็นชายหนุ่มปรากฏตัว ทว่าซ่งหยวนซีกลับเดินเลี่ยงไปนั่งที่เก้าอี้ เหมือนกับว่าเขาจงใจท
หญิงสาวเงื้อฝ่ามือขึ้นอย่างเชื่องช้า แล้ววางลงบนโต๊ะเสียงดังปัง! ใบหน้างามปรากฏรอยยิ้มภาคภูมิใจ นัยน์ตากลมโตหวานฉ่ำราวกับเคลือบคลอด้วยหยาดน้ำผึ้ง“คำพูดคนเมาเชื่อได้รึ?” เขาหัวเราะอย่างเอ็นดูในยามมีสติหลงเหลือเพียงน้อยนิดหญิงสาวกลับยิ่งรู้สึกหยิ่งพยอง เธอไม่มีวันยอมให้ใครมากล่าวหาว่าเป็นคนพูดจาหลอกลวงเด็ดขาด“อยากพิสูจน์ความจริงหรือไม่เพคะ” เธอทำเสียงจิ๊กจั๊กในปากขัดใจ“ข้าอยาก... แต่สภาพเช่นนี้ เจ้าจะทำอะไรได้”คำพูดท้าทายของซ่งเหยียนหมิง กลายเป็นแรงยั่วยุซึ่งฉุดกระชากหญิงสาวลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ ท่าทางยอมตายไม่ยอมแพ้ของนาง ทำให้ดวงตาคู่คมของอี๋ชินอ๋องเป็นประกายวาววับร่างอรชรเยื้องย่างเข้าหาชายหนุ่มด้วยท่วงท่าเฉิดฉันท์งามสง่าราวกับนางพญามาร ซ่งเหยียนหมิงกะพริ
“หลี่น่า ข้ามีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นเพราะหน้าที่ แต่สำหรับเจ้า... ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความปรารถนาของตัวข้าเอง”กอดอบอุ่นและน้ำเสียงอ่อนโยนทำให้ทิฐิที่ลีน่าใช้เป็นเกราะป้องกันหัวใจพังทลายลง น้ำในดวงตาเอ่อล้นออกมาอย่างไม่อาจจะกลั้นเธอเผลอรักเขาไปแล้ว โดยไม่รู้ตัว... แต่ทำไมเธอถึงได้เจ็บปวดนัก ทั้งที่รู้แก่ใจดีว่าเธอก็เป็นเพียงแค่พระสนมลำดับสุดท้าย ในจำนวนพระสนมชายาทั้งสิบหกคนของค์รัชทายาทแห่งซ่งเยว่เริ่มแรกลีน่าเพียงต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป เธอจึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงร่างกายนี้เพื่อหาหนทางออกไปใช้ชีวิตนอกรั้ววังอย่างอิสระ หากทุกอย่างก็เลยเถิดกระทั่งเธอไม่สามารถถอนตัวถอนใจลีน่ากอดร่างที่เย็นเยือกของตัวเอง หญิงสาวเฝ้ามองรถม้าของวังไป๋อวี้เคลื่อนออกไปจนลับสายตา จึงหันกลับมาแล้วพบว่าซ่งเหยียนหมิงกำลังยืนจ้องเธออยู่เงียบๆ “อี๋ชินอ๋อง” เธอยิ้มให
ลีน่าตกใจจนแทบจะเป็นลม เมื่อจู่ๆ ม่านผ้าดิบถูกคนด้านนอกเปิดเข้ามาอย่างพรวดพราด ขณะที่อี๋ชินอ๋องกำลังอุ้มนางแหวกว่ายอยู่ในธารน้ำตกด้วยเรือนร่างที่ไร้อาภรณ์ สายตาหวงแหนที่มองมาทำให้หญิงสาวรู้สึกกระดาก จนต้องขืนกายออกจากวงแขนแข็งแรงที่โอบกอด“ท่านมาเร็วกว่าที่คิด”ซ่งเหยียนหมิงเอ่ยทักทายญาติผู้พี่อย่างไม่รู้สึกร้อนหนาว“ยังมีอีกหลายสิ่งที่ข้าทำได้เร็วกว่านี้” ซ่งหยวนซีถอดเสื้อผ้าออกจากร่างอย่างว่องไง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ล้อนจ้อนจะเดินลงไปในธารน้ำตก และว่ายน้ำไปแย่งเอาพระสนมตัวน้อยกลับคืนมา“เหยียนหมิงรังแกเจ้าไปกี่ครั้ง” เขาถามนาง น้ำเสียงหงุดหงิด“ครั้งเดียวเพคะ” เธอไม่กล้าสบตากับชายหนุ่มซ่งหยวนซีไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ไม่พูดพร่ำสิ่งใดให้เป็นการเสียเวลาอีก เขาอุ้มร่างอรชรเดินไปท
ลีน่าถูกเขาเคี่ยวกรำอย่างหนัก เธอสุดจะกลั้นเสียงร้องครวญคราง ร่างอรชรบิดเร่าแอ่นระแน้ด้วยความสยิวทรมาน สาสมใจคนเจ้าเล่ห์“อาา... ข้างในของเจ้าเหมือนสวรรค์ ช่าง... ดี... ดีเหลือเกิน” ซ่งเหยียนหมิงใช้ฝ่ามือใหญ่โอบอุ้มสะโพกผายกลมกลึงเอาไว้ เขาโก่งบั้นท้ายและยกร่างบางขึ้น ก่อนจะกดนางลงพร้อมกับกระแทกกระทั้นแก่นกายแกร่งชูชันใส่ความสาว“อ่ะ! หม่อมฉัน... มะ ไม่ไหวแล้ว อ๊าา...”นางเว้าวอนอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงครวญครางกระเส่าสะอื้น ใบหน้างามแดงเรื่อราวกับมีพิษไข้ หากไม่อาจจะหยุดยั้งเรือนกายแกร่งที่เคลื่อนไหวราวกับบ้าคลั่งซ่งเหยียนหมิงประคองสะโพกผายกลมกลึงวางเกยบนขอบบ่อน้ำแร่ร้อน แล้วดันท่อนขาเพรียวสะล้างของนางพับขึ้น ระดับความสูงพอเหมาะช่วยหนุนเนินโหนกอวบอูมลอยเด่นจนเห็นชัดถนัดใจ แววตาของชายหนุ่มเป็นประกายวาวโรจน์ราวกับจะล
ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือเรือนกายเปลือยเปล่าของซ่งเหยียนหมิง และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ลีน่าจะทำใจให้เคยชินกับความบ้าระห่ำเหนือการคาดเดาของเขา“เจ้าอายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว” น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ เขาจับข้อเท้าของนางแยกออกจากกัน แล้วพิศมองเนื้อในความสาวความร้อนทำให้ผิวบอบบางบริเวณนั้นแดงก่ำและดูยิ่งโป๊เปลือยชวนให้ขัดเขิน เมื่อตกอยู่สภาพที่ถูกมองเห็นแบบชัดเจนถึงรูขุมขนขนาดนี้แล้ว ทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกทรวงอก“พอแล้วเพคะ อย่าจ้องหม่อมฉันแบบนั้น” ลีน่าเอาฝ่ามือปิดบังของสงวนแววตาของซ่งเหยียนหมิงเกือบลุกเป็นไฟ เขาอยากเอาตัวตนที่เหยียดขยายจนแข็งชูชันชำแรกเข้าไปในความสาวสดรัดรึงของนางแทบใจจะขาด แต่ทั้งคู่เพิ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำแร่ร้อน หากลงไม้ลงมืออย่างบุ่มบ่ามเขาจะทำให้หลี่น่าเจ็บ“ข้าอยากดื่มน้ำหวานในตัวเจ้า” ซ่งเหยียนหมิงดึงมือเรียวเล็กออกจากเนินเนื้ออวบอูม แล้วก้ม