เมื่อเดินเข้ามาตามทางเดินเธอได้ยินเสียงเพลงที่เปิดจังหวะมัน ๆ และได้ยินเสียง หนุ่มสาวกรีดร้อง เธอหันไปมองหน้าเขาเหมือนเป็นคำถาม
“อ๋อ เพื่อน ๆ ผมเองน่ะครับ นัดกันมาสังสรรค์ คุณขิงคงไม่รังเกียจที่จะมาสนุก ด้วยกันนะครับ”
เขาวิสาสะจับมือเธอที่ว่างอยู่ให้เดินตาม และพาเธอไปยังกลุ่มคนเหล่านั้น มืออีก ข้างของขิงกระชับกระเป๋าสะพายแน่น มีชายหญิงที่กำลังนัวเนียกอดรัดกันอยู่หลายคู่ ขิงหันไปเห็น เธอหน้าร้อนผ่าว ๆ และบางคู่ก็กำลังเต้นเล้าโลมเหมือนจะสอดใส่กันเสียให้ได้ตรงนั้น เธอหันหน้าไปอีกทางรู้สึกหายใจหายคอไม่คล่อง
เขาฉุดมือเธอเบา ๆ เมื่อเดินไปถึงหนุ่มสาวในกลุ่มหันมาส่งเสียงทักทายเขาเกรียวกราว มีผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มเดินตรงเข้ามาสวมกอดเขา และจุ๊บไปที่ปากเขาทีหนึ่ง ก่อนที่เธอจะเลียริมฝีปากของเขา สองคนจูบกันอย่างดูดดื่มทั้ง ๆ ที่อีกมือของเขายังกุมมือเธออยู่ ขิงได้แต่ยืนตัวชา ในชีวิตยังไม่เคยเห็นอะไรที่มันจัง ๆ อย่างนี้ เมื่อสองคนผละออกจากกันเขาล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะดึงกล่องบรรจุถุงยางอนามัยหลายกล่องโยนไปให้เพื่อนผู้ชายที่รอรับอยู่
เธอเห็นชายวัยกลางคนคนนั้นเดินเข้ามาวางขวดเหล้าที่เขาซื้อมาด้วยไว้บนโต๊ะชงเครื่องดื่มก่อนที่จะเดินออกไป
“คุณหินคะ เออ... ขิงขอตัวไปพักก่อนได้ไหมคะ รู้สึกไม่ค่อยดีเลยค่ะ” เธอบอกเขา เมื่อเขาฉุดเธอให้นั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งบนโต๊ะที่เหมือนจัดไว้ให้เขาเป็นพิเศษ เสียงกรีดร้องและเสียงครางของหลายคู่ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมอง ตอนนี้นึกอะไรไม่ออกมันมึนไปหมดแล้ว
เขาเดินไปยังโต๊ะชงเครื่องดื่ม หินเดินกลับมาพร้อมกับถาดเครื่องดื่ม บนถาดมีแก้วค็อกเทลเครื่องดื่มสีฟ้าสดใสอยู่ในนั้น แล้วขวดบรั่นดีกับแก้วที่ใส่น้ำแข็งก้อนกลม ๆ อีกสองแก้ว เขายื่นแก้วค็อกเทลให้เธอเมื่อนั่งลงใกล้ ๆ
“ดื่มสักหน่อยสิครับจะได้รู้สึกดีขึ้น” เธอหันไปมองหน้าเขาสีหน้าเป็นกังวลก่อนจะถามออก
“อะไรคะ”
“GOSSIP GIRL ครับอร่อยลองชิมดู” เขาพูดโดยไม่ได้คะยั้นคะยออะไร เธอเสียอีกที่หันไปมองเขา แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองที่เขากระดกบรั่นดีเข้าปากเหมือนไม่รู้สึกอะไร เธอมองเครื่องดื่มในมือ กลืนน้ำลายลงคอแบบหนืด ๆ ไม่คิดว่าตัวเธอเองจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจยกแก้วค็อกเทลที่เขายื่นให้ดื่มแบบรวดเดียวหมด
“แก้วนั้นแค่ออเดิร์ฟครับ ต่อด้วยแก้วนี้ดีกว่าครับ คุณขิงจะได้รู้สึกดีขึ้น” พูดจบเขายื่นแก้วบรั่นดีอย่างดีที่มีน้ำแข็งก้อนกลม ๆ อยู่ในแก้วเขาแกว่งแก้วเบา ๆ เพื่อเพิ่มความเย็นให้บรั่นดีไปมาก่อนที่จะยื่นให้เธอ ขิงรับไว้ หินจะยกแก้วของตัวเองขึ้นมาชนกับเธอ หญิงสาวชนแก้วอย่างเสียไม่ได้
“กริ๊ง” เสียงแก้วที่ชนกันน้ำเสียงใสกังวานทำให้เธอรู้ว่าเป็นแก้วน้ำดี
‘มันอะไรกันเนี่ย’ เธอคิดในใจก่อนจะยกแก้วบรั่นดีแก้วนั้นเทลงคอ เธอนึกแปลกใจว่า ทำไมเธอกลืนมันได้คล่องขึ้น
เธอหันไปมองรอบ ๆ เมื่อเสียงเพลงถูกปิดลง ตอนนี้ไม่มีชายหญิงเพื่อนของเขาเหลืออยู่ตรงนั้นสักคน เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ”เฮ้อ”
“กินอะไรสักหน่อยไหมครับ จะได้หลับสบาย” เขาเอ่ยชวน
“ไม่ดีกว่าค่ะ ขิงว่าขิงพอแล้ว” เธอค่อยหายใจหายคอได้โล่งหน่อย นั่งหลังพิงพนักเก้าอี้ทอดสายตามองไปทั่ว ๆ เธอเห็นสระว่ายน้ำขนาดกำลังดี และอาณาบริเวณที่ กว้างมาก
“ติดทะเลด้วยหรือคะ” เธอถามเขา เพราะเมื่อปิดเพลงแล้วก็ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่ง สายลมที่พัดมากระทบกายเย็นสบาย และมีกลิ่นอายทะเลด้วย
“ครับตอนนี้ก็จะเป็นลมบกพัดลงทะเลอากาศจะเย็นสักหน่อยนะครับ” เขาพูดพลางรินบรั่นดีส่งไปให้กับเธอและเขา จากนั้นก็ปล่อยความเงียบให้ครอบงำ ทำให้หินอดถามไม่ได้อย่างสงสัย “ปกติคุณขิงดื่มไหมครับ”
“ก็เฉพาะมีปาร์ตี้หรืองานเลี้ยง แต่ขิงก็ดื่มไม่เยอะนะคะ” เธอบอกเขา แต่วันนี้มัน ยังไงไม่รู้อยากดื่มขึ้นมาจับใจ ถ้าจะให้นั่งเฉยก็ทำตัวทำหน้าไม่ถูก ให้หน้ามันแดง ๆ ด้วย ฤทธิ์ แอลกอฮอล์นี่แหละเธอคว้าแก้วที่วางอยู่ตรงหน้ากระดกรวดเดียวลงคอ
“เราช่วยกันดื่มให้หมดตรงนี้ดีไหมครับ ก่อนที่จะเข้านอน” เขาชวนเธอยกขวดบรั่นดี ที่เหลือไม่มากให้เธอดู หญิงสาวพยักหน้ารับ เขายกขวดบรั่นดีเทรินให้เธอก่อนแล้วที่ เหลือเขาเทใส่แก้วตัวเองจนหมดขวด ก่อนจะยกแก้วขึ้นชนกับแก้วของเธอหญิงสาวยก แก้วขึ้นชนกับเขา และเทบรั่นดีร้อนผ่านลงคอไป
“ผมพาคุณไปส่งที่ห้องนะครับ” เขายื่นมือมาให้เธอจับก่อนจะฉุดเธอขึ้นเบา ๆ ขิงเซ ไปเล็กน้อย รู้สึกมึนหัวอย่างบอกไม่ถูก เขาจึงใช้มืออีกข้างประคองเธอไว้แล้วพาเธอเข้า ไปยังห้องที่อยู่ใกล้ ๆ
“ถึงแล้วครับ” เขาบอกเธอ เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เธอเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอวางอยู่และมีกระเป๋าอีกใบวางใกล้ ๆ เข้าไปในห้องเห็นเตียงขนาดใหญ่สองเตียงวาง ห่างกันเล็กน้อย
“เอ่อ... วันนี้ทน ๆ นอนฟังเสียงกรนของผมก่อนนะครับเพื่อน ๆ ของผมใช้ห้องกันไปหมดแล้ว” เขาหันหน้ามาบอกเธอ แล้วพาเธอเดินเข้าไปส่งในห้องน้ำ คว้าผ้าเช็ดตัวผืน ใหม่ที่พับอยู่ส่งให้ไปด้วย เธอรับไว้ก่อนจะผลักประตูเข้าไปแล้ว ก็ปิดลงกลอนอย่างแน่นหนา
“มีความสุขไหมจ๊ะคนสวย” เขาลุกขึ้นยืนใช้แขนรั้งตัวเธอให้ลุกขึ้นด้วย ขิงที่หอบเหนื่อยอย่างแรงขาสั่นแทบยืนไม่ไหวต้องโอบรัดตัวพี่หินไว้ยึดเหนี่ยว เขาก้มลงไปหา ความหวานที่ริมฝีปากอวบอุ่นนั้นอีกครั้งอย่างไม่รู้จักเบื่อ เธอจูบตอบเขาแบบเร้าใจสมใจ คนตัวสูงที่เร้าอารมณ์ปรารถนาให้สาวเจ้ากระเจิดกระเจิง“พี่คิดถึงขิงทุกคืนเลย คิดถึงริมฝีปากอุ่น ๆ นี้ด้วย” เขายกมือแตะริมฝีปากของเธอส่งสายตาเว้าวอน อีกมือจับมือของภรรยาสาวให้ลงไปกุมกล่องดวงใจที่ตอนนี้กำลังหาทาง ระบายของออกมันตึงมันแน่นอัดอยู่ข้างในจนบวมเป่งเห็นเส้นเลือดปูดพองเธอสบตาเขารู้ได้ว่าพี่หินต้องการอะไรหญิงสาวทรุดตัวนั่งลงคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า มือหนึ่งลูบไล้หยอกล้อกับกล่องดวงใจ อีกมือจับกำรูดเอาไว้แน่น แค่นี้คนที่ไม่ได้นอนกับเมียเกือบเดือนแทบดิ้นตาย เสียงซี้ดซ้าดลอดไรฟันออกมาไม่ขาดปากจนต้องทรุดนั่งลงที่ขอบอ่าง ขิงยกหน้าขึ้นไปยิ้มให้แบบยวนใจส่งปลายลิ้นแตะเบา ๆ ตัวพี่หินแทบกระเด้ง สวนขึ้นทันทีตอนเธออ้างับปลายเนื้อแข็งตัน ๆ นั้น“อือ” ยิ่งครางประท้วงตอนที่เขากระแทกลำใหญ่อัดเข้ามาแทบชนคอหอย สองมือพี่หินลูบปลอบโยนทั้งสองแก้มที่ตอนนี้ตอบเข้าดูดจ๊วบ
“จะไหวหรือคะนายแม่” ขิงถามด้วยความเป็นห่วง“เออน่ะ ถ้าไม่ไหวยังไงแม่จะโทรไปตาม” เธอพูดก่อนจะส่งเสียงหัวเราะขึ้นอีกครั้ง นายแม่ลองเอาหลานไปนอนด้วยทีไรต้องเอามาส่งแม่ขิงทุกที“งั้นเราสองคนไปก่อนนะครับ เพราะว่าจะพาขิงไปร้านทำผมด้วยกลัวสวยน้อยกว่าแฟนของเพื่อนคนอื่น ๆ” ปากบอกแม่แต่สายตาก็จ้องสบภรรยาสาวตลอดขิงรีบเข้าไปอุ้มเจ้าตัวเล็กก่อนจะหอมแก้มเด็กน้อยไปหลายที“อย่าดื้ออย่าซนกับคุณย่าคุณยายนะครับ” ขิงสั่งลูกชายเด็กน้อยทำตาปริบ ๆ ไม่เข้าใจหรอก แต่ก็หัวเราะเอิ้กอ้ากตอนแม่หอมไปที่พุง“ม้วนเอ้ย... ม้วน เอาปาปูนไปเดินเล่นก่อนไป เดี๋ยวเห็นแม่เดินหายไปลับตาจะร้องเอาเปล่า ๆ” นายแม่เรียกม้วนที่ทำงานอยู่ใกล้ ๆ เธอรีบวางมือจากกองผ้าก่อนจะมารับปาปูนไปจากมือของขิง“จะห้าโมงแล้ว” หินมองนาฬิกาที่ข้อมือใช้ฝ่ามือแตะข้อศอกให้ลุกขึ้นตาม พอพ้นออกมาจากตรงนั้น“พี่หินต้องทำเวลา คิดถึงเมียอยากเอากับเมียใจจะขาด” เขากระซิบข้างหูของเธอ ขิงเงยหน้าขึ้นมองเขาทำหน้าแดง“อะไรก็ไม่รู้ พี่หินเนี่ย” เธอค้อนเขาทุบเอาเบา ๆ ที่หัวไหล่ พี่หินรีบจับมือขิงเอาไว้ก่อนจะพาเดินไปขึ้นรถ ตอนนี้เขาทำทางให้รถวิ่งเข้าไปถึงบ้านพักได้และ
สิบเอ็ดเดือนต่อมา“ไหน ไหน ไหย มาหายายสิลูก” ป้าใหญ่มาถึงก็ตรงดิ่งเข้าหาเจ้าตัวเล็กที่กำลังจ้ำม่ำเต็มไม้เต็มมือ เด็กน้อยยิ้มให้คลานอย่างเร็วเข้าไปหา ขิงมองตามลูกชายส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนจะยกมือไหว้ป้าของเธอ“ใครเรียกไปหมดเลยค่ะป้า หน้าเป็นมาก ๆ เจ้าเด็กคนนี้รู้ว่าจะมีคนอุ้มหรือพาไปเดินเล่นไปกับเขาทันที ดูท่าทางเจ้าชู้แต่เด็กเลยค่ะ” ขิงเล่าพลางหัวเราะ อยู่ที่นี่เธอก็ไม่เหนื่อยเท่าไรเพราะมีคนเยอะกว่าที่กรุงเทพฯ ได้ช่วยกันเลี้ยงกลายเป็นว่าหนุ่มน้อยปาปูนเข้าคนได้ง่ายเหลือเกิน“สงสัยได้เชื้อพ่อมาหรือเปล่าเนี่ย” ป้าใหญ่แซวคนตัวโตที่ไปรับเธอจากสนามบิน แล้วนั่งรถมาด้วยกันจากกรุงเทพฯขิงกับปาปูนมาอยู่ที่ปราณบุรีกับคุณย่าลิ้นจี่เพราะทนเสียงรบเร้าทุก ๆ วันของคุณย่าไม่ไหว แล้วยิ่งตอนนี้ปาปูนกำลังน่ารักน่าชังสุด ๆ สองแม่ลูกมาอยู่ที่นี่ได้เกือบเดือนหนึ่งแล้วหินกะว่าจะหยุดงานสักสิบวัน ป้าใหญ่ประจวบเหมาะอยากมาเยี่ยมทั้งสองคนจึงบินมาจากเชียงใหม่ ให้หินไปรับที่สนามบินแล้ววิ่งรถตรงดิ่งยาวมาปราณบุรีกันเลย“เป็นยังไง เหนื่อยกันไหมเธอ” ลิ้นจี่เดินมาจากหลังบ้านเพราะได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจึงออกมาดูเอ่ยทักเพื่
“เต็มที่แล้วค่ะ” เธอพูดแค่นั้นก่อนจะก้าวไว ๆ เปิดประตูเรียกคุณหมอที่รออยู่แล้วให้เข้ามาทำคลอด“คุณพ่อคะ เตรียมกล้องได้เลยนะคะ” พยาบาลคนเดิมหันมาบอกให้หินที่ยังนิ่งยืนดูทีมพยาบาลและแพทย์ที่กำลังช่วยขิงทำการเบ่งคลอดเขากระวีกระวาดหยิบกล้องขึ้นมา มือไม้สั่นกดเปิดและเริ่มถ่าย คุณหมอช่วยนับการหายใจและสั่งงานพยาบาลไปด้วย ยิ่งตอนนี้เบ่งคลอดจนหน้าแดง“อ้าว เด็กโผล่แล้วนะครับ” แพทย์ผู้ทำการคลอดบอกออกมา พยาบาลช่วยลุ้นอยู่ใกล้ ๆ ส่งผ้ารองรับเด็กให้คุณหมอ ก่อนจะช่วยกันเบ่งและคุณหมอจับเด็กดึงออกมา“ผู้ชายนะครับ” คุณหมอเปล่งเสียงบอกคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ว่าได้ลูกชาย หินถลาเข้ามาดูหน้าลูกและจับภาพตอนที่คุณหมอยื่นเด็กน้อยให้กับพยาบาลที่รอรับอยู่ พยาบาลอีกคนส่งอุปกรณ์ในการตัดสายสะดือให้“คุณหินจะตัดสายสะดือให้ลูกชายไหมครับ” เสียงคุณหมอผู้ทำคลอดหันไปถามคุณพ่อมือใหม่ที่มีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัดหินรับกรรไกรจากมือคุณหมอด้วยอาการสั่นเทา ก่อนจะตัดไปยังสายสะดือของลูก เสียงเขาถอนหายใจออกมาดัง ๆ เหมือนโล่งอก ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา“สิบเอ็ดนาฬิกาสิบเก้านาทีค่ะ” พยาบาลที่จ้องนาฬิกาอยู่ส่งเสียงบอกเวลาคลอด ทุกค
“อะไรกันคะ” เธอถามบุรุษพยาบาล “เป็นลมหน้ามืดเลยต้องเข็นมาส่งครับ” เขาทำหน้ายิ้ม ๆ บอกขิง“ไม่เป็นอะไรมากหรอก พี่จะกลับบ้านหมอบอกว่าถ้าไม่ดีขึ้น ให้กลับมาเติมน้ำเกลือ พรุ่งนี้” หินบอกออกมาสีหน้าเรื่อย ๆ“เดี๋ยวเชิญญาติจ่ายเงินทางด้านนี้ครับ” บุรุษพยาบาลผายมือให้ขิงเดินตามไปที่เคาน์เตอร์ฝ่ายการเงินที่อยู่ใกล้ ๆ“มะม่วง คุณปั๋งไม่ได้กินของผมหมดนะครับ” เขายังมีแรงทวงของกินนึกเปรี้ยวปากมาอีกตงิด ๆ มองปั๋งด้วยตาขวาง“โธ่คุณหิน ผมกินไปคำเดียวคายออกแทบไม่ทันมะม่วงอะไรเปรี้ยวสาด” ปังลาก เสียงต้องตีแขนเขาดังเพี้ยะ“ก็มันจริงนี่น่า กินเข้าไปได้ยังไง” ทั้งยังทำสีหน้าท่าทางแบบเปรี้ยวสุด ๆ“กลับกันได้แล้วค่ะ เผื่อคนเปื่อยต้องการพักผ่อนค่ะ” ขิงหยอกเป็นสามีเน้นคำว่า เปื่อย... แทนคำว่าป่วย“ผมจะแพ้ท้องอีกนานไหมครับ” หินส่ายหน้าเบา ๆ ด้วยความอ่อนใจตอนนี้ยกมือปิดปากทำท่าจะอ้วกออกมาอีก“นอนที่นี่ไม่ดีกว่าเหรอคะ” ขิงบอกออกมาด้วยความเป็นห่วง“ไม่เอา จะกลับบ้านอยากนอนกอดเมีย นอนที่นี่ก็ไม่ได้นอนกอดขิงอะดิ” ยังไม่วายออดอ้อนเมีย“พี่หินเนี่ย อายเพื่อน ๆ มั่ง” ขิงออกอาการเขิน“ไม่เป็นไร พี่เริ่มจะชิน” ปั๋งแซว
“ครับค่อยยังชั่วได้มะม่วงเข้าไป” เขาหน้ามีสีเลือดขึ้นมาบ้าง เดินก้าวขยับคล้องแขนขิงเข้าไปในโรงพยาบาล โชคดีโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้เปิดบริการทุกแผนกจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง“เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลเข้าบริการเอาใจคนทำงานนะ” ต้องเอ่ยชม“เอกชนนี่คะ เงินทั้งนั้น” ขิงตอบทำท่านับธนบัตรพนักงานต้อนรับลงทะเบียนแล้วพาทั้งสามคนไปยังฝ่ายสูตินรีแพทย์นั่งไม่นานก็ถึงคิวตรวจ“แล้วพี่หินต้องตรวจที่นี่ด้วยหรือต้อง” ขิงทำหน้าสงสัยถามเพื่อนเพราะต้องเธอเป็นคนจัดการทุกอย่าง“เออน่ะ เดี๋ยวรู้เอง” ต้องยกยิ้มให้ทั้งสองคนนั่งได้สักพักพยาบาลก็พาขิงไปตรวจตามขั้นตอน เมื่อรออีกสักครู่ก็เรียกให้เข้าพบแพทย์ ต้องดันหลังพี่หินที่นั่งหน้าตรงยังมึนหัวอยู่นิด ๆ เข้าไปกับขิงด้วย“สรุปคุณสุกฤษตาท้องนะครับ” ขิงกับหินมองหน้าคุณหมอก่อนจะหันมามองกัน พี่หินเฮขึ้นมาทันที“ท้องแสดงว่าผมจะมีลูกหรือครับ” เขาถามคุณหมอออกไปน้ำเสียงตื่นเต้นเอามาก ๆ“ครับ ท้องครับ” หมอหัวเราะขันในท่าทางของเขาที่แสดงออกมาเขากระโดดตัวโยน จนขิงต้องลุกขึ้นดึงกระตุกแขนเขาเอาไว้“เก็บความดีใจเอาไว้ก่อนครับ วันนี้คุณพ่อคุณแม่อยากเห็นหน้าลูกหรือยัง” คุณหมอทำเสียงหลอกล่อหินเ