共有

บทที่ 4 สตรีของชินอ๋อง

last update 最終更新日: 2025-09-30 21:36:21

บทที่ 4

สตรีของชินอ๋อง

หลังจากพูดคุยกันอย่างชัดเจนแล้วเหมยซิงก็ได้แก้ผ้าที่มัดแขนขาของเว่ยสือหยาง ก่อนที่นางจะรีบคุกเข่าขออภัยเขา บุรุษหนุ่มผู้สูงศักดิ์ไม่ได้ถือสานางนัก ทั้งยังถูกใจที่นางกล้าทำกับเขาเช่นนี้เสียด้วย นับว่าเป็นความแปลกใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับจากสตรีแปลกหน้า เพราะไม่เคยมีผู้ใดกล้าทำกับเขาเช่นนี้มาก่อนจึงทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก!

"คืนนี้เจ้าก็นอนที่นี่กับข้าเสีย"

"ทะ ทำไมเล่าเพคะ หม่อมฉันเคยบอกแล้วว่าจะไม่ขายเรือนร่างของตนนะเพคะ" แววตาคู่สวยสั่นไหวอย่างรุนแรง

แม้เขาจะเป็นบุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย นัยน์ตาคมดุ จมูกโด่งเป็นสัน สันกรามชัดเจนจนทำให้นางเผลอใจสั่น และริมฝีปากหยักหนาที่ดูเย้ายวนใจ รวมถึงเรือนร่างอันแข็งแรงกำยำอย่างนักรบ ทว่าตัวนางไม่ได้ต้องการหลับนอนกับเขาเสียหน่อย

"ข้าแค่บอกให้นอนที่นี่ไม่ได้บอกว่าจะนอนกับเจ้าเสียหน่อย อย่างไรข้าก็เลือก... อีกทั้งข้าไม่ชอบข่มเหงคนที่ไม่เต็มใจด้วย แต่คนในนี้ยังมีคนของจวนเจ้าเมืองที่มารับใช้ข้าด้วย เจ้าคิดว่าไม่แปลกหรือที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่แต่กลับปล่อยเจ้าเอาไว้โดยไม่แตะต้องเจ้าเลย ทีเรื่องอย่างนี้ล่ะโง่เขลานัก!"

เว่ยสือหยางทำสีหน้าด้วยความหน่ายใจ คิดว่าเขาพิศวาสนางมากหรือไร น่าขันนัก!

เหมยซิงถึงกับพูดไม่ออก ชินอ๋องผู้นี้ปากคอช่างเราะร้ายนัก ตั้งแต่พบหน้าเขานางทั้งโดนข่มขู่ เอามีดจ่อคอ และยังโดนด่าว่าโง่เขลาอีก... เขาคือบุรุษที่นางไม่อยากจะเสวนาด้วยเลย คิดแล้วก็ให้ปวดหัวนัก หากมีทางเลือกอื่นนางคงไม่ยอมฝืนทนกับเขาเป็นแน่

"หม่อมฉันโง่เขลาเอง ขออภัยท่านอ๋องเพคะ"

เหมยซิงหลับตาลงด้วยอาการปลงตก ก่อนที่นางจะเดินไปนอนบนเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายที่แต่งตัวด้วยผ้าน้อยชิ้นของตน อากาศเวลานี้ก็ช่างหนาวเย็นเหลือเกิน

"รู้ตัวก็ดี แล้วผู้ใดอนุญาตให้เจ้ามานอนบนเตียงเดียวกับข้ากัน" คิ้วกระบี่กระตุกเมื่อเห็นสตรีผู้นี้ขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกับเขา

นางไม่รู้หรือว่าเขาไม่เคยให้ผู้ใดมานอนกับเขา!

"หม่อมฉันอนุญาตตัวเองเพคะ"

เหมยซิงเอ่ยตอบหน้าตาเฉยแล้วหันหลังให้กับเว่ยสือหยาง เวลาผ่านไปไม่กี่ลมหายใจนางก็เข้าสู่ห้วงนิทราทันที โดยที่เว่ยสือหยางได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันสตรีหน้าหนาผู้นี้

นางช่างกล้ายิ่งนัก! เขาอยากจะถีบนางให้ตกเตียงไปเสียเลย

"เหอะ! เห็นแก่ที่เจ้าบอกเรื่องนี้ข้าจะยอมเจ้าสักครั้งก็แล้วกัน"

เพราะสายตาคู่คมเห็นว่าร่างกายของนางสั่นไหวด้วยความหนาวเย็น ตัวเขาจึงใจดีเดินไปหยิบผ้าห่มอีกผืนที่อยู่ในหีบ ก่อนจะโยนส่ง ๆ ไปทางที่นางนอน ผ้าห่มผืนนั้นได้ลอยไปคลุมหน้าของเหมยซิงจนนางรู้สึกอึดอัด ร่างบอบบางดิ้นไปมาแล้วจึงหยิบผ้าห่มออกจากใบหน้าของตน โดยที่ดวงตาของนางไม่ได้ลืมขึ้นมามองเลย

"จะนอนแล้วยังไม่เอาผ้าคลุมหน้าออกอีก"

ร่างสูงบ่นอุบก่อนจะเอื้อมมือไปดึงผ้าคลุมหน้าของนางให้ออกไป ทว่าทันทีที่เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเหมยซิง ตัวเขากลับรู้สึกลมหายใจติดขัด แววตาคู่คมสั่นไหวอย่างรุนแรง ช่างไม่เหมือนกับตัวเขาในยามปกติเสียเลย เพียงแค่พบสตรีงดงามผู้หนึ่งถึงกับแสดงอาการเช่นนี้เลยหรือ

นางก็แค่... มีดวงหน้ารูปไข่เรียวยาว หน้าผากนูนเด่นรับกับคิ้วเรียวดั่งคันศร ขนตาเรียงเส้นเป็นแพหนางามงอน นัยน์ตากลมโตที่หลับใหลทว่ายามตื่นกลับแวววาวดั่งดวงดาราบนฟ้า จมูกโด่งสวยเชิดรั้นน้อย ๆ อย่างคนดื้อรั้น และริมฝีปากเล็กอวบอิ่มสีแดงระเรื่อราวกับผลอิงเถา ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากจะลองสัมผัสดูสักครั้งหนึ่ง...

"อื้อ..." เหมยซิงครางออกมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าหายใจสะดวกขึ้น

นี่ถือเป็นข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของนาง ถึงแม้ว่านางจะถูกฝึกมาเป็นอย่างดี หากนางได้นอนหลับแล้วจะหลับเป็นตายเชียวล่ะ นางหลับลึกจนถึงกับตัดขาดความรู้สึกจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง หากมีคนคิดจะมาสังหารก็คงสำเร็จไปเสียแล้ว

"เป็นสายลับอะไรเหตุใดถึงขี้เซานักเล่า"

เว่ยสือหยางนั่งมองสตรีที่หลับลึกจนน่าโมโห นางทำให้เขาเผลอใจเต้นแรงเพียงเพราะได้เห็นใบหน้านี้ ทว่าตัวนางกลับหลับสนิทไม่รับรู้สิ่งใดเสียได้ กายสูงพลันลุกขึ้นแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานก็ได้ยินเสียงครางต่ำที่ร้องครางออกมาเบา ๆ ก่อนที่ตัวเขาจะเดินกลับมานอนบนเตียงเดียวกับเหมยซิง เข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมกับนางโดยมีกลิ่นกายหอมกรุ่นลอยเข้ามากระทบกับจมูก เผลอสูดดมเข้าไปเต็มปอดด้วยความเคลิบเคลิ้ม...

วันรุ่งขึ้นเหมยซิงก็ยังคงอยู่ที่จวนของชินอ๋อง โดยที่ตัวนางได้ถูกเขาซื้อตัวมาจากหอหลันฮวาแล้ว ตอนนี้ชีวิตของนางถือเป็นสิทธิ์ขาดของเขาแต่เพียงผู้เดียว ตัวเขาคือเจ้าชีวิตอย่างสมบูรณ์ ทว่าสถานะของนางในตอนนี้คือสตรีอุ่นเตียงที่เว่ยสือหยางถูกใจจนรับเข้ามาอยู่ในจวนแห่งนี้ด้วย

"แม่นางเหมยซิง ท่านตื่นหรือยังเจ้าคะ"

เสียงสาวใช้ที่ฟังดูหงุดหงิดใจเอ่ยเรียกอยู่หน้าห้อง เหมยซิงที่ตื่นนานแล้วทว่ายังคงนอนคิดทบทวนกับความฝันของเมื่อคืนด้วยความสงสัย นางไม่รู้ว่าที่นางฝันนั้นเป็นเรื่องจริงหรือความฝันกันแน่ ในฝันนางเอาแต่นอนกอดชินอ๋องผู้นั้นตลอดทั้งคืน ต้องโทษความไม่สติของตนเอง!

"ข้าตื่นแล้ว"

เหมยซิงรีบหยิบผ้าคลุมหน้าที่ตกอยู่ข้างตัวขึ้นมาอำพรางใบหน้าของตนทันที จะให้คนอื่นเห็นใบหน้าที่แท้จริงไม่ได้เป็นอันขาด นางไม่อยากเพิ่มความยุ่งยากให้กับตนเอง

"เช่นนั้นข้าเข้าไปนะเจ้าคะ"

ประตูถูกผลักเข้ามาด้วยสาวใช้ที่มีหน้าตาจิ้มลิ้ม นางคือคนที่คุณหนูอี้ไว้วางใจให้มาช่วยเป็นหูเป็นตาในจวนชินอ๋อง ทว่าใครจะคิดว่าเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องจะนำตัวนางคณิกากลับมากกกอด และยังซื้อตัวนางเอาไว้แล้วเสียอีก แม้เหมยซิงจะเป็นเพียงสตรีอุ่นเตียงที่หาได้มีเกียรติอันใดไม่ แต่เพราะเป็นสตรีอุ่นเตียงของชินอ๋องจึงต้องดูแลให้ดีเสียหน่อย

"มีอะไรหรือ"

"ท่านอ๋องสั่งให้ข้ามาดูแลแม่นางเหมยซิงเจ้าค่ะ และมาพาตัวท่านไปยังเรือนหลังเล็ก"

เหมยซิงหรี่ตามองสาวใช้ตรงหน้านิ่ง นางไม่เคยมีความแค้นอะไรกัน แต่เหตุใดถึงรู้สึกได้ถึงความเป็นศัตรูเล่า

"เข้าใจแล้ว เจ้าช่วยหาชุดมาให้ข้าเปลี่ยนได้หรือไม่"

"เจ้าค่ะ" สาวใช้ผู้นั้นหันไปสั่งการกับสาวใช้อีกคนที่น่าจะมีฐานะต่ำกว่านาง "เจ้าน่ะ ช่วยไปหยิบอาภรณ์ให้กับแม่นางเหมยซิงหน่อยสิ ถ้าได้สีแดงหรือสีเขียวคงดี เพราะแม่นางเหมยซิงคงชมชอบสองสีนี้เป็นพิเศษเลยล่ะ คิกคิก"

เหมยซิงจ้องหน้าสาวใช้ผู้นั้นนิ่ง พูดจาดูถูกนางต่อหน้าเลยอย่างนั้นหรือ รู้จักนางน้อยไปเสียแล้ว!

"ข้าไม่ชอบสีแดงเพราะสีแดงเป็นสีที่ฮ่องเต้กับฮองเฮานิยมสวมใส่ ข้าขอเป็นสีชมพูอ่อนหรือสีฟ้าก็ได้" เหมยซิงกระตุกยิ้มเย็น ดูสิว่าสาวใช้ผู้นี้ยังจะกล้าพูดอะไรได้อีก

"เจ้าค่ะ"

สาวใช้ที่ถูกใช้งานรีบเดินจากไปทันที ก่อนจะไปนางยังหันไปมองหน้าพี่หลิงหลิง ผู้เป็นคนบอกให้นางเอาอาภรณ์สีแดงหรือสีเขียวมาให้กับแม่นางเหมยซิง ดูท่าพี่หลิงหลิงจะเจอคนจริงที่ไม่ยอมให้ผู้ใดมาพูดจาเหน็บแนมเสียแล้ว

ดีจริง! นางเองก็อยากจะให้มีใครสักคนมาลดความหยิ่งผยองของพี่หลิงหลิงนัก

"แม่นางเหมยซิง ขะ ข้าไม่ได้ตั้งใจพูดให้ท่านรู้สึกไม่ดีนะเจ้าคะ" ใบหน้าที่เคยหัวเราะร่าพลันหุบยิ้มลงในทันใด

เหมยซิงคลี่ยิ้มบาง ทว่าดวงตาของนางกลับวาววับอย่างน่ากลัว "ข้าก็ไม่ได้คิดมากถึงเพียงนั้น เจ้ากังวลเกินไปแล้ว ว่าแต่... เจ้าชื่ออะไร"

"ขะ ข้าชื่อหลิงหลิงเจ้าค่ะ" นางเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก จะไม่บอกก็ไม่ได้เสียด้วย

"หลิงหลิง เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าข้าเป็นสตรีของท่านอ๋อง เข้าใจหรือไม่"

"จะ เจ้าค่ะ"

"ดีมาก เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปก่อนเถิด"

"เจ้าค่ะ"

หลิงหลิงรีบออกไปจากห้องทันที นางทั้งรู้สึกเจ็บใจและหวาดกลัวในคราวเดียวกัน ไม่ได้การแล้ว... จะต้องรายงานเรื่องของเหมยซิงให้คุณหนูอี้รับรู้ สตรีผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย ยิ่งตอนที่ได้สบตากับเหมยซิงนั้นช่างน่ากลัวนัก ราวกับมีอำนาจบางอย่างที่กดข่มนางเอาไว้อย่างนั้นแหละ

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   ตอนพิเศษ 2 เมิ่งเอ๋อร์

    ตอนพิเศษ 2เมิ่งเอ๋อร์เหมยซิงต้องมาอยู่ไฟในห้องด้านข้างเพื่อปรับสมดุลร่างกายที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตร ทว่าในทุกวันเว่ยสือหยางจะอุ้มบุตรสาวตัวน้อยมาหานาง เพื่อมาดื่มน้ำนมจากอกของนางทุก ๆ 1 ชั่วยาม (2 ชั่วโมง) หลังจากนั้นก็จะส่งเว่ยซิงเมิ่งให้กับแม่นมไปดูแลต่อ ส่วนเว่ยสือหยางก็จะอยู่เป็นเพื่อนเหมยซิง พูดคุยกับนางเพื่อให้คลายความเหงาลง"พรุ่งนี้ท่านหมอเทวดาและท่านแม่ยายก็น่าจะเดินทางมาถึงแล้วล่ะ พี่ได้ส่งคนไปคอยรับพวกท่านทั้งสองแล้ว""ขอบพระทัยเพคะเสด็จพี่ ยังคงเป็นเสด็จที่นึกถึงข้าเสมอมา""ก็เจ้าเป็นคนที่พี่รักอย่างไรเล่า ตอนนี้เจ้าคงอยากจะพบหน้าท่านแม่ยายมากที่สุดใช่หรือไม่ รออีกนิดนะซิงเอ๋อร์""เพคะเสด็จพี่ ว่าแต่... ไทเฮาก็ยังทรงประทับที่จวนของเราหรือเพคะ นี่ก็นานกว่าสิบวันแล้วนะเพคะ""หึ ๆ เห็นทีไทเฮาจะทรงมาเป็นแขกของจวนเราไปอีกนานเลยล่ะ พระนางทรงเอ็นดูเมิ่งเอ๋อร์ของเรามากเหลือเกิน ในทุกวันจะต้องไปที่ห้องของเมิ่งเอ๋อร์เพื่อพูดคุยหยอกล้อ แม้ส่วนมากเมิ่งเอ๋อร์จะนอนหลับก็ตาม" ใบหน้าหวานพลันคลี่ยิ้มหวานเมื่อรู้เช่นนี้ "ทำไมหม่อมฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองจะถูกแย่งบุตรสาวไปเลยล่ะเพคะ" นางเอ่ย

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   ตอนพิเศษ 1 ดวงใจของทุกคน

    ตอนพิเศษ 1ดวงใจของทุกคนท้องของเหมยซิงโตขึ้นมากทุกวัน จนตอนนี้ก็ใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เจิ้งไทเฮาได้ส่งหมอหญิงที่มีฝีมือดีในการทำคลอดมาที่จวนชินอ๋อง ในขณะที่กู้ฮองเฮาได้ส่งนางกำนัลให้มาช่วยดูแลเหมยซิงทุกฝีก้าว การดูแลเหมยซิงที่ท้องแก่จะต้องระวังทุกฝีก้าวย่าง จะให้ผิดพลาดไม่ได้เป็นอันขาด "โอ๊ย! ข้าเจ็บท้องเหลือเกินจูจู" เหมยซิงจับท้องของตนเมื่อรู้สึกถึงความปวดหน่วงตรงท้อง ใบหน้าหวานขมวดมุ่นด้วยความทรมานที่เคยพานพบเป็นครั้งแรก "พระชายาจะคลอดแล้วหรือเพคะ มะ หม่อมฉันจะรีบไปทูลท่านอ๋องเพคะ"จูจูรีบวิ่งไปบอกกับท่านหลิ่งเอ้อร์ให้ไปส่งข่าวท่านอ๋องที่อยู่ในท้องพระโรงทันที ในขณะที่นางกำนัลของกู้ฮองเฮาก็เข้ามาประคองเหมยซิงไปยังห้องทำคลอด โดยมีท่านหมอหญิงรีบเข้ามาดูอาการโดยไวหลังจากนั้นภายในจวนชินอ๋องก็ได้ตกอยู่ในสถานการณ์วุ่นวาย บ่าวไพร่ในจวนต่างมายืนรอกันอยู่หน้าเรือนของเหมยซิง เฝ้ารอที่จะร่วมยินดีกับการให้กำเนิดท่านชายหรือท่านหญิงน้อยเว่ยสือหยางที่ทราบข่าวก็รีบตรงดิ่งกลับจวนทันที ถึงแม้ว่าในขณะนั้นในท้องพระโรงกำลังประชุมเรื่องสำคัญ ทว่าเขาหาได้สนใจไม่ ซึ่งเว่ยเฟยอวี่ก็ได้สั่งให้เลิกประชุ

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายหลังจากงานแต่งงานไม่กี่วัน ก็มีเหตุให้เว่ยสือหยางต้องเร่งเดินทางไปยังแคว้นเซี่ย เพื่อไปช่วยศิษย์น้องเล็กทำสงครามกับพวกไม่กลัวตาย กล้าดีอย่างไรถึงกล้ามาชิงสตรีในดวงใจของเซี่ยหย่งจื้อช่างไม่กลัวตายเสียเลย!หลายเดือนต่อมากองทัพของชินอ๋องได้เดินทางเข้าสู่เมืองหลวงหลังจากที่ใช้ระยะเวลาเกือบสามเดือน ทั้งที่ความจริงควรจะถึงตั้งแต่เดือนที่แล้วทว่าเพราะเว่ยสือหยางเป็นห่วงเหมยซิงและท่านแม่ยาย จึงได้ระมัดระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งตัวของเหมยซิงก็มีอาการไม่สู้ดีนัก เขาผู้เป็นสามีก็ต้องดูแลนางให้ดีที่สุด"ในที่สุดเจ้าก็มาถึงสักทีนะอาหยาง ข้ารอเจ้ามาหลายเดือนแล้ว เสด็จแม่เองก็ทรงบ่นหาเจ้าทุกวันจนข้าตอบไม่ถูกแล้ว"'เว่ยเฟยอวี่' ฮ่องเต้แห่งแคว้นเว่ย ผู้เป็นพระเชษฐาต่างมารดาของเว่ยสือหยาง ถึงแม้ว่าไทเฮาผู้เป็นพระมารดาของฮ่องเต้จะไม่ใช่มารดาแท้ ๆ ของเว่ยสือหยาง แต่เพราะรับเลี้ยงเว่ยสือหยางมาตั้งแต่เยาว์วัย จึงรักใคร่มิต่างจากบุตรชายตนเอง อีกทั้งเว่ยเฟยอวี่ก็ทรงรักเอ็นดูน้องชายผู้นี้เป็นอย่างมาก"ขออภัยฝ่าบาทที่กระหม่อมเดินทางมาถึงล่าช้าพ่ะย่ะค่ะ"เว่ยเฟยอวี่โบกมือให้เว่ยสือหยางลุกขึ้น ที่พระองค

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทที่ 30 ชุดเจ้าสาวที่เปื้อนเลือด

    บทที่ 30ชุดเจ้าสาวที่เปื้อนเลือดฉินจินมิอาจรับความจริงในเรื่องนี้ได้ ตัวเขารู้สึกสมเพชตัวเองยิ่งนัก ทว่าความรู้สึกที่เด่นชัดมากที่สุดคือความโกรธ ที่เหมยซิงมาล่วงรู้ความในใจของตน"เจ้าไม่คิดจะรักข้าใช่หรือไม่""ใช่! คนเดียวที่ข้ารักคือท่านอ๋อง และจะเป็นท่านอ๋องตลอดไป""ดี ดีมาก... เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าเสียใจไปตลอดกาลที่มาทำร้ายความรู้สึกของข้าเช่นนี้ ย๊ากกก!"ดาบในฝักถูกควักออกมาฟาดฟันใส่ร่างของเหมยซิงด้วยความรุนแรง ทว่าตัวนางที่ได้รับคำชื่นชมเรื่องวรยุทธ์ในหมู่สายลับ จะพลาดท่าให้กับฉินจินในดาบเดียวได้อย่างไร "หึ! ฝีมือเจ้าต่ำกว่าข้ามากนักฉินจิน"ร่างบอบบางเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ทว่ากลับพลิ้วไหวดุจดั่งสายลมในวสันต์ฤดู ตัวนางดีดกายหลบการโจมตีทุกกระบวนท่าของฉินจินได้ทั้งหมด ก่อนที่มีดสั้นในมือจะเขวี้ยงเข้าใส่จุดตายของฉินจิน แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้อ่อนด้อยถึงเพียงนั้น "ใช่ ข้ายอมรับว่าข้าสู้เจ้าไม่ได้"ใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินจินผุดยิ้มร้าย ก่อนจะสาดผงสลายลมปราณเข้าใส่ร่างของเหมยซิงอย่างรวดเร็ว เหมยซิงที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วหมุนตัวหลบออกไปได้ทัน แต่เพราะสายลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทที่ 29 แหย่หนวดพยัคฆ์

    บทที่ 29แหย่หนวดพยัคฆ์หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเช้าในการคำนับฟ้าดินและพ่อแม่แล้ว เหมยซิงก็ถูกแม่สื่อพาตัวไปนั่งรออยู่ในห้องหอ ในขณะที่เว่ยสือหยางจำต้องไปดื่มสุรากับแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งงานนี้โจวหมิงลู่ได้เป็นตัวตั้งตัวตีในการขอคารวะจอกสุรากับเว่ยสือหยางไปหลายจอก ด้วยตัวเองก็รู้สึกหมั่นไส้ท่านอ๋องผู้นี้ไม่น้อยเลยทางด้านเหมยซิงที่นั่งรออยู่ในห้องหอนั้น โดยมีจูจูผู้บัดนี้ได้กลายมาเป็นสาวใช้ข้างกายของนางแล้ว สาวใช้ตัวน้อยเดินถือถาดอาหารของว่างเข้ามา ด้วยกลัวว่าผู้เป็นนายจะรอนานจนหิว "พระชายาทรงหิวหรือไม่เพคะ หม่อมฉันได้ให้คนครัวจัดทำน้ำแกงปลามาให้เพคะ และยังมีขนมดอกกุ้ยฮวาด้วยนะเพคะ"เหมยซิงคลี่ยิ้มบางด้วยความขอบคุณ ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะเพื่อทานอาหารรองท้อง ในตอนที่นางกำลังตักอาหารเข้าปาก สัมผัสอันว่องไวพลันได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากบนหลังคา เหมยซิงวางช้อนลงบนโต๊ะ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วจุ่มลงไปในถ้วยน้ำชา เขียนอักษรให้จูจูได้อ่าน 'มีคนร้าย ไปตามท่านอ๋อง'นับว่าไม่เสียแรงที่เหมยซิงเคยสอนตัวอักษรให้กับจูจู และอีกฝ่ายก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วนัก "เอ่อ พระชายาอยากได้สิ่งใดอีกหรือไม่เพคะ" จูจูพยายามไม่

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทที่ 28 แก้วตาดวงใจ

    บทที่ 28แก้วตาดวงใจจวนเจ้าเมืองเป่ยซีหานซีอิ๋งผู้เป็นมารดาของเหมยซิงกำลังบรรจงปักปิ่นทองระย้า อันเป็นปิ่นที่สืบทอดมาจากคนตระกูลหานลงบนมวยผมของเหมยซิงด้วยความตื้นตันใจ ทุกคราที่มองปิ่นปักผมอันนี้ นางจะคิดถึงวันที่ท่านพ่อปักปิ่นให้นางในวันที่ถูกส่งตัวเข้าสู่วังหลังของจ้าวเทียน เพราะสูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเยาว์วัย นางจึงมีเพียงท่านพ่อที่อยู่ข้างกายนางมาโดยตลอด"ซิงเอ๋อร์ของแม่งามมากเหลือเกิน หากท่านตายังอยู่คงจะดีใจกับเจ้าอย่างแน่นอน" หานซีอิ๋งถอยออกมาพินิจดูบุตรสาวที่แต่งกายด้วยชุดมงคลสีแดงสดอย่างงดงาม ดวงตาคู่สวยที่เหมือนกับบุตรสาวเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความดีใจ นางดีใจที่บุตรสาวสามารถแต่งงานกับบุรุษที่รักได้อย่างภาคภูมิ ถึงแม้ตัวนางจะไม่ได้มีโอกาสนั้น ทว่าขอเพียงได้ยืนส่งบุตรสาวขึ้นเกี้ยวมงคลแปดคนหามนางก็ดีใจแล้ว"ท่านแม่คิดถึงท่านตามากเลยใช่หรือไม่เจ้าคะ" เหมยซิงเอื้อมมือไปจับมือมารดาเพื่อปลอบประโลมหานซีอิ๋งพยักหน้ารับว่าตนคิดถึงบิดาจริง ๆ เมื่อเห็นว่าบุตรสาวมีสีหน้าเป็นกังวลนางจึงคลี่ยิ้มหวาน วันมงคลของบุตรสาวจะมาคิดเรื่องที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองไม่ได้"ยามนี้ไม่เช้าแล้ว เราอ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status