ชีวิตที่ตกต่ำอยู่แล้วไม่คิดว่าตกต่ำจนถึงขีดสุด เกรซได้แต่ก่นด่าแพรดาวอยู่ในใจ เธอโดนหมายหัวไม่สามารถเข้าไปที่ซีเคร็ท คลับ ได้อีกแล้ว และยังคลับอื่นๆที่เป็นพันธมิตรกับมิสเตอร์ดาร์ก “ผู้ชายนี่มันชอบผู้หญิงแอ๊บใสซื่อกันจริงๆ เลยสินะ” เกรซพึมพำกับตัวเอง ปกติก็หาเงินยากอยู่แล้ว ยังจะโดนบีบให้ออกจากแหล่งหาเงินอีก จากเดิมที่เธอพอจะเลือกลูกค้าชั้นดี หน้าตาดีนิดหนึ่งกระเป๋าหนักหน่อยหนึ่ง แต่ตอนนี้เธอเลือกลูกค้าไม่ได้ ซ้ำยังเจอแต่ลูกค้าเกรดต่ำ มีดีแค่กระเป๋าหนักแต่อย่างอื่นไม่ได้เรื่องเลย เกรซเพิ่งออกจากโรงแรม เธอก้มมองสมาร์ทโฟนดูแอปธนาคาร ยอดเงินเข้ามาครบแล้ว แต่เงินแค่นี้จะไปพออะไร เธอค้างค่าเช่าห้องตั้งสามเดือน ยังมีค่างวดรถยนต์และยังโทรศัพท์มือถืออีก นี่ยังไม่รวมเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ “เพราะยัยแพรดาวแท้ๆ ชีวิตฉันต้องมาลำบากอย่างนี้” เกรซไม่เคยโทษตัวเองเลยสักนิด แน่นอนว่ายังไงก็เป็นเพราะคนอื่นทั้งนั้นที่ทำให้เธอต้องตกต่ำ เห็นซื่อๆ ดูหัวอ่อนแต่สุดท้ายก็ซ่อนร้าย อุตส่าห์หลอกให้ไปเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่กลายเป็นเด็กเสี่ยเสียนี่ แ
“นี่เห็นผมเป็นร่างทรงหรือไง” ชายหนุ่มทำตาดุๆ ใส่แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มไร้ความหวาดกลัวใดๆ ทั้งสิ้น เขาถอนหายใจเบื่อหน่าย แต่ก่อนนั้น เธอมักทำตัวลีบเล็กหลบเขาตลอดเวลา เขาเองก็ไม่รู้ว่าแบบไหนดีกว่ากัน “มีธุระอะไรกับเจ้าดินมันเหรอ” “เรื่องเรียนทำขนมค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามตรง “พี่ชายเธออนุญาตแล้วเหรอ หน้าตาเขาก็ไม่ได้ชอบไอ้ดินสักเท่าไหร่ ถึงจะเป็นคนที่ช่วยเหลือกันมาก็เถอะ” “มิสเตอร์ดาร์กก็รู้เรื่องของแพรเหรอคะ” เธอถามทำตาโต “แล้วพี่ภัทรรู้เรื่องที่มิสเตอร์เป็นโรคสองบุคลิกด้วยเหรอคะ” “ไม่รู้ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะเที่ยวไปพูดกับใครต่อใคร” เขายกมือดีดหน้าผากหญิงสาวแต่ไม่แรงนัก ถึงยังไงก็หักห้ามใจทำร้ายเธอไม่ลง ช่างเถอะ ก็เหมือนแมวตัวหนึ่งนั้นแหละ หญิงสาวยกมือขึ้นลูบหน้าผากป้อยๆ แล้วยิ้มทะเล้นให้ “แพรอยากรู้จักมิสเตอร์ดาร์กกับพี่ดินมากขึ้นค่ะ” “เห็นเป็นพวกตัวประหลาดหรือนึกสงสาร” “ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ” เธอรีบส่ายหน้าไปมา “เพราะทั้งสองคนคือผู้มีพระคุณช่วยเหลือแพรมาต่างหากล่ะค่
คทาภัทรจ้องมองน้องสาวอย่างจับผิด แต่แพรดาวก็ฉีกยิ้มกว้างประจบเอาใจ “ไม่มีอะไรจริงๆค่ะพี่ภัทร น้องแพรอยู่ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยอยากไปเรียนทำขนมกับพี่ดิน” ตั้งแต่รับแพรดาวเป็นน้องสาว เธอก็ไม่ค่อยเอ่ยปากขออะไรจากเขา ที่เธอเป็นกังวลก็แค่เรื่องของศรีฟ้าหรือแม่จ๋าที่ยังพักรักษาตัวที่สถานพยาบาล ซึ่งแพรดาวก็แวะไปเยี่ยมเป็นระยะๆ แม้แม่กับพ่ออยากจะอยู่กับแพรดาวมากกว่านี้ แต่เพราะยังไม่สามารถเปิดเผยเรื่องแพรดาวได้ จึงไม่ได้พบกันบ่อยนัก “จะไปรบกวนคุณหัสดินเสียเปล่าๆ ถ้าอยากเรียนทำขนม พี่ว่าไปเรียนที่โรงเรียนสอนทำอาหารดีไหม พี่จ่ายค่าเรียนให้เอง” “คือแพรบอกพี่ดินไปแล้วนี่คะ” ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ แล้วยื่นมือไปลูบผมน้องสาว ทำเช่นเดียวกับที่เคยทำสมัยยังเป็นเด็กเล็กๆ แต่ตอนนี้น้องสาวของเขาโตเป็นสาวแล้ว ช่วงเวลาที่หายไปคือความปวดใจที่เขาทนกล้ำกลืนมาหลายปี และยิ่งรู้ว่าที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตยากลำบาก อดมื้อกินมื้อและยังต้องคอยหลบซ่อนจากคนที่อยากเอาชีวิตเธออีก “ได้ ถ้าคุณหัสดินไม่ว่าอะไรก็ตามใจแล้วกัน” “พี่ภัทรใจด
แววตาที่เปลี่ยนไปจากอ่อนโยนกลายเป็นแข็งกร้าว ทำให้แพรดาวได้แต่กัดริมฝีปากไม่กล้าแม้แต่ครึ่งคำ “อุตส่าห์ว่าจะนอนแล้วเชียว ก็ดันถูกปลุกจนได้” เขาทำเสียงรำคาญในลำคอแล้วเลื่อนมือข้างหนึ่งมาแตะลำคอของหญิงสาว “คะ...คุณ...คุณเป็นใคร” “แล้วคิดว่าไงล่ะ” เขาถามย้ำอีกครั้ง “นี่ห้องพี่ดิน...” “แล้วไงต่อ...คิดหน่อยสิ ปกติเธอก็ไม่ใช่คนโง่นี่นะ” ทุกอย่างบนตัวมิสเตอร์ดาร์กเหมือนกับพี่ดิน ตอนที่เปิดประตูเธอก็คิดว่าเขาเป็นพี่ดิน แต่ตอนนี้ น้ำเสียงที่ใช้และวิธีการเรียก ‘เธอ’ ไม่ใช่ ‘น้องแพร’ ตอกย้ำว่าเขาคือมิสเตอร์ดาร์ก “แพร...แพรไม่รู้ค่ะ...ไม่รู้จริงๆ” “ก็เธออยากรู้ไม่ใช่เหรอ รู้ไหม คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่น มันไม่ค่อยได้ตายดีนักหรอกนะ” มือใหญ่เลื่อนมากำลำของหญิงสาว นิ้วกร้านสัมผัสผิวบอบบางปลายนิ้วกดที่ลำคอของเธอ เพราะแรงบีบจากฝ่ามือของอีกฝ่ายทำให้แพรดาวหน้าซีดลงไปทันที เธอยกมือขึ้นทุบแผ่นเปลือยเปล่า เขาใช้เพียงมือข้างเดียวก็บีบคอเธอได้แล้ว “อะ...อึก...พะ...พี่
“มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ” ชายหนุ่มเอนตัวไปด้านหน้ากอดพวงมาลัยรถหลวมๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด “พักที่นี่สินะ คอนโดหรูเชียว นี่ถ้าไม่รู้ว่าแบ็คของเธอเป็นใคร คงนึกว่ามีเสี่ยเลี้ยงแน่ๆ” “แบ็คคืออะไรคะ” เธอเอียงคอถามเขา “คนที่หนุนหลังเธอไง” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “คนที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ของเธอ” “อ้อ...จะเรียกแบบนั้นก็ไม่ถูก...แต่...” เรื่องนี้ไม่อนุญาตให้พูดกับคนอื่น เธอก็เลยอ้ำอึ้งไม่รู้จะอธิบายยังไง “เข้าใจแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรหรอก” เขาโบกมือไปมา “ไปนอนเถอะ” “ขอบคุณค่ะ” แพรดาวยกมือไหว้แล้วลงจากรถ ถ้าคืนนี้ไม่มีเขาช่วยต้องแย่แน่ๆ “นี่!” “คะ” หญิงสาวหันกลับมามอง สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านทำให้ผมยาวปลิวไหวเล็กน้อยจนเธอต้องยกมือขึ้นจับปลายผม “เธอบอกว่ามีคนหน้าเหมือนผม” “อ้อ! ใช้ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ “แต่นิสัยไม่เหมือนกันเลย” “งั้นที่เธอละเมอก็คือเรียกชื่อคนๆนั้นสินะ” เพราะอยู่ในแสงสลัวจึงไม่เห็นว่าตอนนี้ใบหน้
ราวกับความฝัน แพรดาวลืมตามองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เธอนอนมองคนที่หลับตาพริ้มอยู่จนมั่นใจว่าไม่ได้ฝัน แต่เกิดลังเลว่าคนที่เธอมองเห็นตรงหน้านี้เป็นใคร ‘พี่ดิน’ หรือ ‘มิสเตอร์ดาร์ก’ ก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว คนที่แกล้งหลับอยู่นานก็ทนไม่ไหว ยื่นหน้าไปประกบริมฝีปากฉกจูบอย่างรวดเร็ว เสียงร้องอุทานถูกดูดกลืนไปหมดสิ้น กลายเป็นเสียงอู้อี้ครางในลำคอ ดวงตาที่เมื่อครู่ยังปิดอยู่นั้นลืมตาจ้องมองขณะที่เรียวลิ้นร้อนแทรกในโพรงปากสาว ดวงตาร้อนแรงทำให้แพรดาวดันแผ่นอกเขาออก ทว่าอีกฝ่ายกลับโอบรัดร่างนุ่มนิ่มแน่นขึ้น ราวกับรู้ว่าหญิงสาวจูบไม่เป็นและไม่เคยถูกจูบมาก่อน เธอเหมือนจะเป็นลมเพราะหายใจไม่ออก เขาจึงยอมผละจากริมฝีปากหวาน “พี่...พี่ดิน” ชายหนุ่มชะงักไปทันที เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างหอมกรุ่นที่โอบกอดตลอดคืน “เมื่อกี้...เรียกว่าอะไรนะ” “เอ่อ...” แพรดาวทำตาปริบๆ เธอก็ไม่รู้ทำไมเมื่อครู่คิดว่าเขาคือ ‘พี่ดิน’ ทั้งที่ตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องทำงานมิสเตอร์ดาร์ก เพราะไม่ได้ยินคำตอบที่พอใจ เขาโน้มหน้าลงกดหน้