Share

บทที่ 2

last update Dernière mise à jour: 2025-08-18 11:33:44

บทที่ 2

ข้าจะรับผิดชอบเอง

               กลางป่าเขามีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บ้านแต่ละหลังทำจากไม้ และสร้างห่างๆ กันเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ทำเกษตร

               แม้จะเป็นเวลากลางคืน แต่มองปราดเดียวหรงหรานก็รู้แล้วว่าที่นี่คือหมู่บ้านเล็กๆ ใต้หุบเขาเล่อฉาง มิหนำซ้ำยังธรรมดากว่าที่คิด

               หลังจากชายขนดกพาหรงหรานเข้ามาในบ้านไม้หลังเล็ก เขาวางนางลงบนเตียงไม้ไผ่ที่ปูด้วยหนังสัตว์ จากนั้นก็ก้าวพรวดพราดออกไปข้างนอกโดยไม่พูดไม่จา

               สักครู่หนึ่ง ชายชราเคราขาวก็เข้ามา ชายชราเมื่อมาถึงก็รีบจับชีพจรหรงหรานทันที สักพักก็หันไปพูดกับชายร่างหมีหนวดครึ้ม

               “นอกจากบาดแผลภายนอก นางก็ไม่มีอาการคลั่งเลือดหรือช้ำใน แต่ก็เป็นความโชคดีของนาง ที่เจ้าเอะใจเลยไปดูใต้หน้าผาแถวนั้นกระทั่งเจอนางเข้า หากพ้นคืนนี้แล้วยังไม่มีใครพบเจอนางละก็ เกรงว่านางเองก็คงไม่รอดเหมือนกัน”

               “อืม”

               “อีกอย่าง ในปากของนางมีแผล ตอนตกหน้าผานางคงกัดปากตัวเองจนเป็นแผลใหญ่ เพราะฉะนั้นนางคงยังพูดไม่ได้ไปสักระยะหนึ่ง”

               หมอชราวิเคราะห์ออกมาอย่างชัดเจนและละเอียดยิบ ต่อให้หรงหรานไม่รู้วิชาการแพทย์ แต่พอได้ยินอย่างนี้ก็รู้สึกโล่งใจ ชีวิตของนางรอดพ้นจากเงื้อมือมัจจุราชแล้ว

               “อืม”

               เช่นเคย ชายหนวดดกร่างหมีตอบเพียงแค่  ‘อืม’ เท่านั้นเอง ทั้งที่หมอชราอุตส่าห์อธิบายยืดยาวอย่างตั้งใจ

               นางเหลือบตามองเขา จากนั้นก็กรอกตามองบน

               จากการสื่อสารของชายคนนี้คงอยู่ระดับต่ำ พื้นฐานคงเป็นคนพูดน้อย แต่เอาเถอะ อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่คนใบ้

               ตอนนี้หรงหรานพอจะรู้นิสัยของชายหนวดดกขึ้นมานิดหน่อยแล้ว นอกจากชายคนนี้จะพูดน้อย ทั้งท่าทางยังชวนให้เข้าใจผิดว่านางอาจถูกคนป่าอย่างเขาจับกลับมาต้มยำทำแกง มิคาด ชายป่าเถื่อนคนนี้กลับพานางมาบ้านเพื่อรักษา ถือว่ามีพระคุณกับนางแล้ว  

               ทว่าเรื่องที่เขามีพระคุณก็ส่วนเรื่องมีพระคุณ ส่วนเรื่องที่ทำรุนแรงกับนางก็เป็นสิ่งที่อภัยให้ไม่ได้เช่นกัน  

               ทันใดนั้น สายตานึกอยากขอบคุณแปรเปลี่ยนเป็นอาฆาตรอย่างฉับพลัน ตั้งแต่ต้นเขาไม่เคยอ่อนโยนกับนางเลย แล้วจะให้นางซาบซึ้งในบุญคุณของเขาสุดหัวใจได้อีกหรือ!

               เขาออกไปข้างนอกกับหมอชรา ตอนกลับมาก็ยื่นถ้วยยามาตรงหน้านาง

               นางมองยาสีเขียวเข้ม กลิ่นแรงและคาดว่าน่าขมไม่น้อย

               ชั่งใจชั่วครู่ นางเงยหน้ามองชายร่างหมี

               อย่าว่าแต่ยานี้น่าจะขมปี๋ อาการเจ็บทำให้นางขยับแขนขาไม่ได้ แล้วจะดื่มยาอย่างไร

               เพิ่งคิดเช่นนั้น เขาก็ย่อตัวนั่งลงข้างเตียงไม้ไผ่ จากนั้นยื่นมือมาบีบจมูกนาง นางเลี่ยงไม่ได้ต้องอ้าปากพะงาบๆ พริบตาสั้นๆ ยารสขมก็ถูกกรอกยาเข้ามาในลำคออึกแล้วอึกเล่า

               “อึก...อั่ก...”

               เป็นการดื่มยาที่ทุกข์ทรมานที่สุดในชีวิต และเชื่อหรือไม่ ถ้านางไม่ตายเพราะตกหน้าผา ก็คงต้องตายเพราะถูกจับกรอกยานี่แหละ!

               ท้ายที่สุด หรงหรานต้องดื่มยาในสภาพที่ถูกบังคับด้วยประการเช่นนี้

               “เสื้อผ้า”

               เพียงไม่นานหลังจากหรงหรานดื่มยาจนหมด ชายหนวดดกกล่าวสั้นๆ กับตัวเอง ก่อนจะก้าวออกจากบ้าน

               หรงหรานเบิกตาโต ลางสังหรณ์ที่ผุดขึ้นกะทันหันบอกนางว่าการกระทำต่อไปของเขากำลังทำให้นางอยู่มิสู้ตาย!

               ตอนที่ชายหนวดดกร่างหมีกลับมาที่เตียงอีกครั้ง คราวนี้เขาถือผ้าที่ใหญ่เทอะทะและถังน้ำมาด้วย

               อย่าบอกนะ

               อย่าบอกนะว่า...

               เขาไม่พูดพล่าม จับนางลอกคราบทันที

               และเป็นอีกครั้งที่นางทำได้แค่นอนนิ่งเป็นผักในสภาพจำยอม โดยมีเขาเช็ดตัวให้

               หรงหรานนอนขยุ้มหนังสัตว์ด้วยความอดสู เมื่อชายหนวดดกเช็ดเลือดที่แห้งกรังตามเนื้อตัวนางจนมาถึงเรียวขา นางก็ได้โยนความอายทิ้งไปนานแล้ว ทำได้เพียงจ้องหน้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย หากสายตาของนางคือใบมีด ป่านนี้เขาได้ตายไปหลายครั้งแล้ว

               คืนนั้น เป็นครั้งแรกที่นางนอนคิดแบบโง่ๆ

               วันพรุ่งนี้นางไม่อยากตื่นขึ้นมาอีกแล้ว น่าอายสิ้นดี!

               แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ หมอชรามีฝีมือเก่งกาจราวกับหมอเทวดา เช้าวันรุ่งขึ้นนางยังคงตื่นขึ้นมา ยืนยันข้อเท็จจริงว่านางยังมีชีวิตอยู่ และต่อให้หรงหรานจะนอนนิ่งเป็นผักเช่นเดิม ถูกชายหนวดดกดูแลนางเหมือนเดิม หากทว่ามีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป  

               สองสามวันให้หลัง อาการห่อเลือดในปากของหรงหรานเริ่มดีขึ้น ในตอนนี้หรงหรานขยับปากพูดได้แล้ว ซ้ำนางยังด่าชายหนวดดกได้คล่องปรือเลยด้วย!

               “เจ้าคนสารเลว เอามือหยาบๆ ของเจ้าออกไปจากตัวข้านะ อ๊ะ...ไม่! อย่านะ ตรงนั้น ไม่นะ...@#€%€**”

               ทุกครั้งที่เจ้าเคราดกเช็ดตัวให้นาง บ้านน้อยหลังนี้จะมีเสียงด่าไม่หยุด

               ทว่าสิ่งที่ชายหนวดดกตอบกลับมาคือน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยและสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน

               “ข้าชื่อเหล่ยเซิน ไม่ได้ชื่อคนสารเลว”

               หลังจากแนะนำตัวเองแล้ว เหล่ยเซินก็ยังเช็ดตัวให้หรงหรานต่อไป

               ผ้าที่ถูกชุบน้ำหมาดๆ ถูบนหน้าอกนุ่มนิ่ม ลากยาวลงมาตามหน้าท้องแบนราบ จากนั้นก็วนเวียนอยู่บริเวณบุปผางามและเรียวขาขาว   

               ถึงตอนนี้ทั้งตาทั้งปากของนางแทบจะพ่นไฟออกมาได้อยู่แล้ว

               หลังจากเช็ดตัวเสร็จ เหล่ยเซินแต่งตัวให้หรงหรานอย่างละเอียดลออไม่เหมือนกับมือที่หยาบกระด้างของเขา เมื่อดูแลนางเรียบร้อยเขาก็เดินออกจากบ้านหน้าตาเฉย ตอนกลับมาอีกครั้ง ในมือใหญ่มีถ้วยโจ๊กมาด้วย

               โจ๊กนี้เป็นฝีมือของเหล่ยเซิน เป็นโจ๊กใส่เกลือง่ายๆ

               เขาป้อนโจ๊กให้นางทีละคำ จากนั้นก็เป็นยารสขม

               ในแต่ละวันดำเนินไปเช่นนี้

               ดูเอาเถิด ขนาดด่าแล้วก็ยังทำนิ่ง ไม่สนใจระยะห่างระหว่างชายหญิง  

               “คนป่าเถื่อน คอยดูเถอะ ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้”

               “ได้”

               คำพูดสั้นๆ ที่เป็นเหมือนการท้าทายทำเอาหรงหรานโมโหแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยง

               “ข้าบอกจะฆ่าเจ้า”

               “เช่นนั้นข้าก็จะรับผิดชอบเจ้า”

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 47

    บทพิเศษต่างก็คลั่งรักพอกลับมาถึงตำหนักท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว เซียวอวิ้นหยางถอดเสื้อคลุมออกแล้วเดินไปนั่งบนเตียงขนาดใหญ่เอ่ยปากบอกพร้อมกับตบลงบนตักของตนด้วยประกายตาที่สั่นไหว “มานี่” ทีแรกฟางถิงถิงงุนงงเล็กน้อย แต่แล้วก็นึกได้ว่าตอนขี่ม้ารับลมชมวิวอยู่ข้างนอก เซียวอวิ้นหยางทั้งบอกรักทั้งจูบนางอย่างดูดดื่ม ช่วงเวลานั้นบรรยากาศเป็นใจยิ่งนัก หากไม่ติดว่าอยู่ข้างนอก เขาคงครอบครองนางตรงนั้นแล้วกระมัง นางยิ้มน้อยๆ พร้อมเดินเข้าไปนั่งลงบนตักของสามี จากนั้นยกสองมือขึ้นโอบรอบลำคอแข็งแรง ภายในห้องไม่ได้จุดเทียน มีเพียงแสงสว่างสีเงินยวงจากดวงจันทร์ที่ลอดเข้ามาทางกรอบหน้าต่าง กระนั้นตอนที่สบประสานสายตากันก็ยังมองเห็นว่าพวกเขาต่างก็โหยหากันมากแค่ไหน เซียวอวิ้นหยางโอบกอดเอวบาง ซ้ำยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปกดจูบกลีบปากอิ่มสวย “อื้อ...” เสียงของนางดังลอดออกจากริมฝีปากแผ่วเบา มิหนำซ้ำยังเผยอริมฝีปากเพื่อเปิดรับลิ้นร้อนที่ชอนลึกเข้ามาในโพรงปาก ทันใดนั้นราวกับเปลวไฟแห่งราคะถูกจุดให้ลุกโชยขึ้นกลางอก มือใหญ่ที่ป

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 46

    บทที่ 46คลี่คลาย (2) ย้อนกลับมาทางเซียวอวิ้นหยาง ทันทีที่กลับเข้าตำหนักก็ถูกภรรยาวิ่งเข้ามาสวมกอด “เป็นอย่างไรเพคะ ถูกฝ่าบาทลงโทษหรือไม่” ฟางถิงถิงร้อนรนถามหลังจากผละออกไป ทั้งยังมองสำรวจร่างกายของเซียวอวิ้นหยางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสีหน้ากังวล เซียวอวิ้นหยางยิ้มมองพระชายาสุดที่รัก ยื่นมือลูบเส้นผมนุ่มลื่นของนางพลางกล่าวว่า “ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง แค่ถูกฝ่าบาทตำหนินิดหน่อยเท่านั้นเอง” “แค่นั้นจริงๆ หรือเพคะ” “แค่นั้นจริงๆ” เซียวอวิ้นหยางย้ำ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังบอกเล่าเกี่ยวกับราชโองการให้นางฟังตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องที่เซียวจื้ออี้ถูกถอดออกจากตำแหน่งรัชทายาท หลินซวงเอ๋อร์ถูกเนรเทศ และเสนาบดีหลินถูกพักงาน รวมถึงเรื่องที่เขาและนางจะต้องเดินทางกลับดินแดนซีโจวด้วยกัน เมื่อมองจากสีหน้าแล้วเห็นเซียวอวิ้นหยางไม่ได้โกหก ฟางถิงถิงจึงถอนใจด้วยความโล่งอก “จะอยู่เมืองหลวงหรือต่างแดนหม่อมฉันไม่คิดมากหรอกเพคะ แต่ที่สงสัย พระองค์ร่วมมือกับองค์ชายสามตั้งแต่เมื่อไร” “ที่แท้เจ้าก็ติดใจ

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 45

    บทที่ 45คลี่คลาย (1) เพียงคืนเดียว วีรกรรมของเซียวออวิ้นหยางก็ดังมาถึงพระกรรณฝ่าบาท โดยเฉพาะฆ้องปากแตกอย่างเสนาบดีหลินจะอยู่เฉยได้หรือในเมื่อบุตรสาวของตนถูกกระทำเช่นนั้น เสนาบดีหลินรีบเข้าวังตั้งแต่เช้าตรู่ ใช้เรื่องที่หยางอ๋องกับองค์ชายสามรังแกบุญสาวของตนมาเรียกร้องหาความเป็นธรรม แน่นอนว่าเซียวอวิ้นหยางก็ถูกเรียกเข้าเฝ้าภายในตำหนักส่วนพระองค์เช่นเดียวกัน “คราวนี้เจ้าทำเกินไปแล้ว ถ้ารัชทายาทเจ็บตัวขึ้นมา เจ้ารับผิดชอบไหวหรือ” “ไม่เจ็บตัวหรอกพ่ะย่ะค่ะ ตรงนั้นยังมีทหารตั้งสองนายคอยคุ้มกันรัชทายาท” “ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ภาพลักษณ์ที่รัชทายาทถูกจับมัด ร้องไห้ฟูมฟายถูกแพร่งพรายออกไปแล้ว คราวนี้เจ้าตัวจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ยังมีอีก คุณหนูหลินเองก็เสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย เจ้ารู้หรือไม่” “ฝ่าบาทคงลืมไปแล้วกระมัง ชื่อเสียงของหลินซวงเอ๋อร์เสื่อมเสียตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ความผิดของกระหม่อมสักหน่อย” “แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ไม่ควรทำเช่นนี้...เฮ้อ!” ทันทีที่มาถึงตำหนักส่วนพระองค์ เซียวอวิ้นห

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 44

    บทที่ 44มีแค้นต้องชำระ (2) “จับข้ามัดเนี่ยนะคือเล่นสนุก?” รัชทายาทถามหน้าตาขึงขัง “ถูกต้อง ข้าอยากลองเปลี่ยนจากผู้ล่าให้เป็นผู้ถูกล่าบ้าง” “เจ้าสาม เจ้ากล้าพูดกับข้าเช่นนี้รึ!?” รัชทายาทเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่องค์ชายสาม หากแต่ฝ่ายหลังกลับไม่มีท่าทีว่าจะหวาดกลัว ตรงข้าม องค์ชายสามยิ้มครึ้มใจแล้วกล่าวด้วยสีหน้าเบิกบาน ทว่าน้ำเสียงกลับน่าขนลุกสุดๆ “เสด็จพี่รัชทายาท ข้าได้ยินมาว่าเสด็จอาของเราเก่งเรื่องล่าสัตว์ สมัยอยู่ที่ซีโจวแค่ผิวปากครั้งเดียว ฝูงหมาป่าละแวกใกล้ๆ ก็กรูกันเข้ามา ข้าอยากเห็นเสด็จอาควบคุมฝูงหมาป่ากับตาตัวเอง ท่านอยากเห็นหรือไม่” “มะ...หมายความว่ายังไง” “มาดูวิธีเรียกหมาป่าของเสด็จอากันดีกว่า ข้าอยากเห็น เสด็จพี่รัชทายาทก็ช่วยให้ความร่วมมือหน่อยเถอะ” เมื่อองค์ชายสามพูดจบ เสียงผิวปากยาวแหลมก็ดังขึ้นอย่างไม่มีการเตือนล่วงหน้า ก่อนเสียงเห่าหอนของฝูงหมาป่าจะดังตามหลัง รัชทายาทกับหลินซวงเอ๋อร์ที่ถูกมัดขยับไปไหนไม่ได้หวาดกลัวตัวสั่นเทิ้ม สักครู่ต

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 43

    บทที่ 43มีแค้นต้องชำระ (1) ภายในกระโจม ฟางถิงถิงนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์โดยมีม่านเอ๋อร์ สาวใช้ประจำตัวคอยบีบนวดไหล่ให้ “อือ...ม่านเอ๋อร์บีบนวดได้ดีที่สุด” “ขอบคุณเจ้าค่ะคุณหนู อ๊ะ ไม่สิๆ ขอบพระทัยเพคะพระชายา ว่าแต่ พระชายามีเรื่องอะไรสนุกๆ หรือเพคะ เห็นอมยิ้มตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” “ข้ายิ้มหรือ” ฟางถิงถิงถามพลางแตะหน้าตัวเอง ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังยิ้มอยู่ “พระชายายิ้มอยู่จริงๆ เพคะ” ม่านเอ๋อร์ย้ำ “อย่างนั้นหรือ” “เพคะ” เมื่อครู่นั้น ฟางถิงถิงกำลังคิดถึงเซียวอวิ้นหยาง และเรื่องสนุกๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น อาจเพราะเหตุนี้นางจึงอารมณ์ดีจนเผลอยิ้มออกมาก็เป็นได้ ฟางถิงถิหันไปหยิบขนมชิ้นหนึ่งแล้วส่งให้กับม่านเอ๋อร์ “อะไรหรือเพคะ” ม่านเอ๋อร์ถามด้วยความใสซื่อ “วันนี้ข้าอารมณ์ดี อีกอย่าง ฝีมือการนวดของเจ้าก็พัฒนาขึ้น ข้าให้รางวัลน่ะ” “ขอบพระทัยเพคะ” ม่านเอ๋อร์ย่อกายทำความเคารพ ก่อนจะรับขนมจากเจ้านายด้วยสีหน้าเบิกบานแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย ฟางถ

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 42

    บทที่ 42เอาคืน ฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดทำให้ฟางถิงถิงถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง ตอนได้สติและตื่นขึ้นมาร่างกายของนางจึงปวดระบมมากกว่าปกติ หนำซ้ำนางยังรู้สึกผิดต่อเซียวอวิ้นหยาง เขาช่วยเหลือนางครั้งแล้วครั้งเล่า แม้แต่ช่วยบรรเทาความร้อนจากพิษกำหนัดก็ด้วย...คิดแล้วก็หันมองชายหนุ่มข้างกายด้วยสายตาหลงใหล “ขอบคุณ...สามี” นางกระซิบบอกเขาด้วยความซาบซึ้ง ดวงตาคู่งามยังคงจับจ้องใบหน้าคมสันของสามี ในมุมมองของเซียวอวิ้นหยาง ตั้งแต่ที่สัมผัสได้ถึงสายตาของใครบางคนกำลังจ้องมองตน สัญชาตญาณของนักล่าก็ตื่นตัว ทว่าคนที่กำลังจ้องมองเขาอยู่หาใช่คนอื่น หากเป็นฟางถิงถิง ชายาของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงแกล้งหลับต่อไป ทว่าตอนที่ได้ยินนางเรียกเขาว่า 'สามี' วิญญาณนักล่าราวกับประทับลงร่าง ทันทีที่เปลือกตาของเขาเปิดขึ้น มือใหญ่ก็เอื้อมมือออกไปโอบกอดเอวบางแล้วดึงนางเข้ามาแนบอก ครั้นร่างนุ่มนิ่มแนบชิดหน้าอกแกร่ง เซียวอวิ้นหยางอดจะสูดหายใจลึกไม่ได้ แค่ได้กอดภรรยา ความปรารถนาก็พลอยจะตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ตรงข้ามกับฟางถิงถิง พอถูกโอ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status