แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-19 11:29:39

บทที่ 3

ม้าที่ถูกวางยา

               รับผิดชอบ!?

               หมายความว่าอย่างไร

               คำถามนั้นวนเวียนอยู่ในหัวของหรงหรานทุกวันทุกคืน

               แม้ในหัวจะเต็มไปด้วยคำถามมากมาย แต่จนใจที่นางทำได้เพียงนอนเป็นผักบนเตียง ซ้ำยังพูดไม่ได้ เพราะเลือดอาการเลือดคลั่ง

               ท่ามกลางความสงสัย หรงหรานปล่อยให้ชายหนุ่มเคราดกรักษาตนต่อไป  

               วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า แม้ไม่รู้ว่าช่วงเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปแล้วกี่วัน แต่ในที่สุดหรงหรานก็ไม่ต้องนอนเป็นผักอยู่บนเตียงอีกแล้ว

               นางขยับแขนขาได้ ลุกขึ้นมากินโจ๊กได้ แม้แต่เรื่องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้านางก็ทำเองได้แล้วเช่นกัน นี่เป็นเรื่องที่นางโล่งใจเป็นอย่างมาก

               แต่อย่างไรก็ตาม นางยังคงต้องรักษาตัวเองต่อในบ้านของเหล่ยเซินอยู่ดี

               หลายวันถัดมา อาการบาดเจ็บของนางหายดี แม้ยังเหลือร่องรอยแผลเป็นนิดๆ หน่อยๆ แต่หมอชราประจำหมู่บ้านบอกว่าหากขยันทายา แผลเป็นเหล่านี้ก็จะจางหายไปเอง

               “จริงสิ เหล่ยเซินได้บอกเจ้าหรือยังว่าม้าที่ตกหน้าผาพร้อมกับเจ้าตายแล้วน่ะนะ”

               ในขณะที่หมอชราประจำหมู่บ้านกำลังนำยาทาแผลภายนอกและยารักษาภายในออกมาวางเรียงบนโต๊ะทีละขวด อีกฝ่ายได้พูดประโยคนั้นกับหรงหราน

               “เขาช่วยม้าไว้ด้วยหรือ” นางถามด้วยความสงสัย

               เห็นหน้าตาโหดเหี้ยมเช่นนั้น ไม่คิดว่าจะใจดีถึงเพียงนี้

               ทว่า

               ถึงนางจะเสียใจที่ม้าตัวนั้นตาย หากก็ช่วยไม่ได้ หน้าผาสูงถึงเพียงนั้น ตกลงมาแล้วไม่ตาย ถือว่าสวรรค์เมตตานางมากแล้ว

               “ใช่แล้ว” หมอชราพยักหน้าตอบ สักครู่ก็ทำหน้าสงสัยไม่ต่างจากหรงหราน “ว่าแต่เจ้าไม่รู้เรื่องนี้หรอกหรือ หลังจากช่วยเจ้าในคืนนั้น เหล่ยเซินได้ย้อนกลับไปที่ใต้หน้าผา แล้วก็พบว่ามีม้าตัวหนึ่งนอนแน่นิ่ง แต่เพราะมันยังหายใจอยู่ ก็เลยพากลับมาให้ข้าช่วยรักษาด้วย ปัดโธ่เอ๊ย! ข้าเป็นหมอคนไม่ใช่หมอสัตว์ จะรักษาม้าตัวนั้นให้รอดก็ค่อนข้างยาก แต่ว่าก็ว่าเถอะนะ ข้าตรวจอาการของมันแล้วเจอเรื่องแปลกประหลาดอย่างหนึ่งด้วย”

               “อะไรหรือ”

               อดสงสัยไม่ได้ นางจึงถามกลับทันที

               “ม้าของเจ้าถูกวางยาน่ะสิ”

               ร่างกายของหรงหรานแข็งทื่อเมื่อได้ยินอย่างนั้น 

               ถูกวางยา?

               เป็นแบบนั้นจริงหรือ

               ทำไม ใครกัน ถึงได้ทำแบบนั้น

               หรงหรานครุ่นคิดอย่างติดใจสงสัย ถึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ถึงอย่างไรแล้ว นางกลับไม่ได้ตื่นตระหนกมากนัก ม้าตัวนั้นเป็นม้าที่นางขี่ทุกวัน แต่แล้ว จู่ๆ กลับมีอาการตื่นตกใจ วิ่งเตลิดจนผลัดตกเขา อาการเช่นนั้นนับว่าแปลกอย่างมาก

               มิน่าเล่า มันถูกวางยานี่เอง...

               ในหลายวันถัดมา ร่างกายของหรงหรานแข็งแรงขึ้นแล้ว นางตั้งใจว่าจะเดินทางกลับจวนสกุลโจวทันที มิคาดว่า ทันทีที่เปิดประตูก้าวเท้าออกจากบ้าน ผู้คนทั้งหมู่บ้านกลับมายืนหน้าสะลอนที่หน้าบ้านของเหล่ยเซิน ทั้งยังหอบหิ้วหมูเห็ดเป็ดไก่มาร่วมแสดงความยินดี

               “ยินดีด้วยนะแม่นาง” ท่านป้าคนหนึ่งยื่นตะกร้าผักมาให้

               หรงหรานรับมาเพราะคิดว่าถ้าปฏิเสธจะเป็นการเสียมารยาท

               “ส่วนนี่คือของขวัญของข้า รับไว้สิ”

               ชายคนนั้นยื่นไก่ที่ถูกรีดเลือดออกจนหมดตัวมาให้

               “ของข้าด้วย ช่วยรับไว้ทีนะ”

               “ข้าด้วย”

               จากนั้น พวกเขาต่างแห่มอบของขวัญมากมายมาให้นาง

               “เอ๊ะ!?” ตอนแรก นางร้องด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักครู่ นางก็ยิ้มเขินให้กับชาวบ้านที่มายืนออกัน ก่อนจะตอบรับความห่วงใยของทุกคน “พวกท่านช่างใจดียิ่งนัก ไม่เห็นจะต้องมายินดีที่ข้าหายจากอาการบาดเจ็บเลย ลำบากพวกท่านแล้ว”

               ทั้งที่ไม่รู้จักกันแท้ๆ แต่คนพวกนี้กลับมีน้ำใจ ถึงขั้นแสดงความยินดีหลังจากที่นางรักษาตัวจนหาย ช่างน่าซาบซึ้งใจเสียจริง

               ชาวบ้านที่มานี้ มีทั้งเด็กและคนแก่ พวกเขาต่างยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรพร้อมยัดข้าวของต่างๆ ใส่มือหรงหราน พอมอบของให้นางเสร็จ กล่าวคำยินดีไม่กี่ประโยค ก็ทยอยกลับบ้านของตนไป

               มาเร็วไปเร็วราวกับพายุ

               ถึงอย่างนั้น นางกลับไม่คิดรับเกียจ ตรงข้าม นางยกมือถูจมูกด้วยความเขิน ก่อนจะถือข้าวของมากมายไปเก็บในครัว

               ตอนอยู่จวนสกุลโจว นอกจากครอบครัวของนางแล้ว ก็ไม่เคยมีใครแสดงความยินดีกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ด้วยความจริงใจเหมือนผู้คนในหมู่บ้านนี้เลย   

               พวกเขาช่างใจดีและเป็นมิตรอย่างไม่น่าเชื่อ  

               ในตอนนั้นเอง เหล่ยเซินกลับมาจากข้างนอกพอดี

               เพราะอารมณ์ดีอยู่ หรงหรานจึงชวนอีกฝ่ายคุย

               “เมื่อครู่คนในหมู่บ้านนำอาหารมาให้ ข้าเอาไปเก็บในครัวแล้ว”

               บอกตรงๆ ถึงตอนแรกนางจะไม่ชอบชายเคราดกคนนี้เท่าไร แต่ตราบใดที่ยังอาศัยเขาอยู่ อาศัยเขากิน สำคัญกว่านั้น เขายังเป็นคนช่วยชีวิตของนางเอาไว้ นางจึงต้องพูดคุยกับเขาเพื่อแสดงความเป็นมิตร  

               ชายหนวดดกตอบกลับมาสั้นๆ ว่า “อืม”

               หรงหรานถอนหายใจเบาๆ แต่นอกจากนั้นก็ไม่ได้ถือสากับคำตอบ

               ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่หรงหรานทำใจยอมรับนิสัยด้านนี้ของเหล่ยเซิน

               “ข้าอยากกินไก่ตุ๋น เจ้าทำอาหารเป็น ทำให้ข้าด้วยแล้วกัน”

               นางบอกความต้องการออกไป เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่ถือสาหากนางเรียกร้อง หลายวันที่อยู่ด้วยกันก็เป็นแบบนี้เสมอ

               ชายหนุ่มยังคงเสมอต้นเสมอปลาย ตอบรับสั้นว่า “อืม”

               นางไหวไหล่เบาๆ อย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน   

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 41

    บทที่ 41ปลอบโยนชายา ตั้งแต่ถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนหลังม้า ฟางถิงถิงก็อยู่ไม่สุข นางเอาแต่คลอเคลียเจ้าของร่างหนา ไม่เพียงแหวกสาบเสื้อของเซียวอวิ้นหยางให้เปิดกว้าง ตลอดทางกลับจวนอ๋อง มือน้อยยังซุกซนไต่ไปทั่วแผงอกแข็งแกร่ง ลูบคลำตรงนั้น จับตรงนี้ ทำให้ผู้อื่นปั่นป่วนหัวใจ โชคดีที่เซียวอวิ้นหยางมีจิตใจมั่นคงและอ่านสถานการณ์ออก อ๋องหนุ่มใช้เสื้อคลุมตัวใหญ่ของตนคลุมร่างของฟางถิงถิงเอาไว้ ให้พูดตรงๆ เซียวอวิ้นหยางไม่ได้อายหากผู้อื่นเห็นว่าตนถูกชายาลวนลาม แค่ไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นความเย้ายวนอันงดงามของภรรยาเท่านั้นเอง เมื่อควบม้าผ่านประตูเข้ามาภายในตำหนัก เซียวอวิ้นหยางตวัดตัวลงจากหลังม้าพร้อมอุ้มฟางถิงถิงเดินเข้าห้องนอนใหญ่ ใบหน้าของฟางถิงถิงแดงก่ำเหมือนจะกลั่นเลือดออกมาได้อยู่แล้ว หนำซ้ำยังชื้นไปด้วยเหงื่อ ดวงตาหรี่ปรือคล้ายคนเลื่อนลอย เซียวอวิ้นหยางปัดปอยผมชื้นเหงื่อที่แนบติดกับแก้มนวลพลางถามด้วยความห่วงใย “ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง” คำตอบของฟางถิงถิงคือเสียงครางและพยายามถอดเสื้อผ้าของนางออกจากตัว “ร้อน...อื้อ

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 40

    บทที่ 40ยืมดาบฆ่าคน (2) “แม่นางช่างสุนทรีย์ไม่น้อย นี่เป็นกลิ่นไม้จันทร์หอมผสมกับหลันฮวา(ดอกกล้วยไม้)อบแห้งขอรับ” หนุ่มน้อยคนนั้นกล่าว “แม่นาง เชิญดื่มขอรับ” คราวนี้เป็นชายหนุ่มรูปงามอายุราวๆ ยี่สิบต้นๆ เขารินสุราใส่จอกให้กับฟางถิงถิง ก่อนจะเดินไปนั่งที่ตั่งกลางห้องซึ่งถูกจัดเตรียมไว้สำหรับบรรเลงพิณ ฟางถิงถิงดื่มสุราท่ามกลางเพลงพิณที่ถูกบรรเลงอย่างอ่อนช้อย นางพริ้มตาลงด้วยความรู้สึกผ่อนคลายและ...ร้อน... ร้อนหรือ!? คิดแล้วนางรีบยกจอกสุราขึ้นมองด้วยความสงสัย เพิ่งดื่มไปได้เพียงจอกเดียว คงไม่ได้เมาเร็วขนาดนี้หรอกกระมัง ตอนนั้นเอง จู่ๆ ลมหายใจของนางก็หอบกระชั้นอย่างน่าสงสัย ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่นาง เสียงพิณหยุดลง ก่อนเสียงหอบหายใจของชายหนุ่มหน้าหล่อกับหนุ่มน้อยจะดังขึ้นตามทีหลัง “ระระ ร้อนจัง แฮ่ก...ทำไมเล่า” หนุ่มน้อยหน้ามนพูดด้วยท่าทีกระสับกระส่าย “...ข้าก็ด้วย” ชายหนุ่มเจ้าของพิณกุมอกพร้อมพูดกับตัวเอง “มีบางอย่างแปลกๆ” ฟางถิงถิงพึมพำ ชายหนุ่มทั้งสองได้ยินอย่างนั้นก็มีท่า

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 39

    บทที่ 39ยืมดาบฆ่าคน (1) ขนอ่อนบนหลังคอของเซียวจื้ออี้กับหลินซวงเอ๋อร์ลุกชัน พวกเขาไม่เคยรู้สึกหนาวสะท้านราวกับกำลังย่างเท้าลงสู่ขุมนรกเช่นนี้มาก่อน แต่สายตาของหยางอ๋องทำให้รู้สึกเช่นนั้นได้! หลินซวงเอ๋อร์ดึงสติกลับมาได้เร็วกว่ารัชทายาทเซียวจื้ออี้ นางที่ยังประกบมือบนแก้มฝั่งที่ถูกตบใช้จังหวะนั้นทวงความยุติธรรม “ท่านอ๋อง หม่อมฉันแค่มาเยี่ยมพระชายาฟาง แต่...แต่ถูกพระชายาทำร้ายร่างกาย จะให้คิดอย่างไรได้เพคะ” ยามพูด หลินซวงเอ๋อร์ทำหน้าเศร้าสร้อย ร่างกายของฝ่ายนั้นผอมบางอยู่แล้ว ประกอบกับแก้มซ้ายที่บวมแดง พอมายืนอยู่ตรงหน้าอ๋องนักรบที่มีร่างสูงใหญ่อย่างเซียวอวิ้นหยาง ท่าทางอ่อนแอเปราะบางนั้นแลดูน่าสงสารมากกว่าเดิม ทว่า... คำตอบของหยางคือ...สายตาดุดันที่สาดมอง หลินซวงเอ๋อร์สะดุ้ง แม้จะหวาดกลัว แต่ยังคงทำใจกล้า มองตอบเซียวอวิ้นหยางแกมขอร้อง “ท่านอ๋อง ได้โปรดมอบความยุติธรรมให้กับหม่อมฉันด้วยเพคะ” “ยุติธรรมหรือ ได้สิ” หยางอ๋องพยักหน้าบอก “ข้าจะลงโทษคนของข้าเอง” หลินซวงเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 38

    บทที่ 38ใครกล้าแตะต้องนาง...ตาย! (2) หลายวันต่อมา ในที่สุดรัชทายาทเซียวจื้ออี้ก็หาจังหวะมายังตำหนักหยางอ๋องจนได้ หลังจากสืบทราบมาว่าฮ่องเต้เรียกเซียวอวิ้นหยางเข้าเฝ้าในเช้าวันหนึ่ง รัชทายาทเซียวจื้ออี้ก็หาได้รอช้า รีบเดินทางมาตำหนักหยางอ๋องพร้อมกับหลินซวงเอ๋อร์ เมื่อมาถึง ทั้งสองก็วางอำนาจใหญ่โตทันที เทียบกันแล้ว ระหว่างตำแหน่งรัชทายาทกับชายาอ๋อง แน่นอนว่าฟางถิงถิงต้องให้ความเคารพรัชทายาทที่มีศักดิ์สูงกว่า แต่สำหรับหลินซวงเอ๋อร์ที่ไม่มีตำแหน่งอะไรเลย นางจึงเมินเฉยฝ่ายนั้นอย่างสมบูรณ์ ฟางถิงถิงย่อกายให้กับรัชทายาท แต่กับหลินซวงเอ๋อร์ นางเมินหน้าหนี หลินซวงเอ๋อร์เห็นอย่างนั้นก็เขย่าแขนรัชทายาท ทั้งยังส่งสายตาแง่งอน รัชทายาทเข้าใจความหมายจึงหันไปกล่าวตำหนิฟางถิงถิง “พระชายาฟาง หยางอ๋องคงตามใจเจ้าจนทำให้ลืมฐานะของตนไปแล้วหรืออย่างไร ถึงได้ไม่ให้ความเคารพคนของข้า” ฟางถิงถิงย่อมเข้าใจคำพูดนั้น รัชทายาทต้องการให้นางมอบความเคารพหลินซวงเอ๋อร์ เพราะยิ่งเข้าใจ ฟางถิงถิงจึงยิ่งรู้สึกไม่พอใจ นางแสร้งมอ

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 37

    บทที่ 37ใครกล้าแตะต้องนาง...ตาย! (1) แสงอรุณส่องผ่านหน้าต่างฉลุลายอันประณีต แสงสว่างนั้นปลุกฟางถิงถิงให้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางอาการปวดระบม มือน้อยนวดเฟ้นเอวและสะโพกของตนป้อยๆ พร้อมกับดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนข้างกายที่ยังหลับสนิท เซียวอวิ้นหยางมีรูปร่างสูงใหญ่ ด้วยเพราะเป็นอ๋องนักรบ ถึงได้มีกล้ามเนื้อบึกบึนสมส่วน ส่วนฟางถิงถิงรูปร่างบอบบาง เทียบกันแล้ว นางไม่ต่างจากกระต่ายตัวน้อยที่ถูกราชสีห์รังแก แรกเริ่มแม้เขาจะทำอย่างอ่อนโยนและค่อยเป็นค่อยไป แต่เมื่ออารมณ์ปะทุถึงขีดสุด ความอ่อนโยนนั้นเปลี่ยนเป็นโจนจ้วง นางเองก็สุขสมจนสติหลุด ส่งเสียงร้องครวญครางอย่างเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่า พอคิดถึงเรื่องน่าอายนั้น หัวใจเจ้ากรรมก็สั่นสะท้านขึ้นมา ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าว ถึงอย่างนั้นนางกลับพลิกตัวนอนตะแคงโดยหันหน้าไปทางเซียวอวิ้นหยาง จ้องใบหน้าเขาคล้ายต้องการเก็บทุกรายละเอียด ยามที่ถูกเขาจับจ้อง ดวงตาคมคู่นี้ช่างลึกล้ำและเต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา เพียงแค่ถูกจ้องมองนาง ร่างกายของนางก็เหมือนถูกสะกด ระหว่างคิด ฟางถิงถิงลูบมือบนเปลือ

  • สามีข้า คือคนป่าคลั่งรัก   บทที่ 36

    บทที่ 36คืนเข้าหอมีค่าดั่งทองพันชั่ง เมื่อเทียนทุกเล่มดับลงภายในห้องหอก็ตกอยู่ในความมืด มีเพียงแสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างฉลุลายประณีต ท่ามกลางความมืดสลัวนั้น ฟางถิงถิงได้ยินเสียงลมหายใจของเซียวอวิ้นหยางที่หนักหน่วงขึ้น ชัดเจนขึ้น มิหนำซ้ำทรวงอกของเขายังขยับขึ้นๆ ลงๆ ราวกับกำลังพยายามข่มกลั้นความปรารถนา หญิงสาวยื่นมือแตะแผงอกร้อนผ่าวของหยางอ๋อง พูดเสียงอ่อนเสียงหวานคล้ายกำลังวอนขอ “ท่านอ๋อง” ทันใดนั้น... ใบหน้าหล่อเหลาโน้มต่ำ ริมฝีปากบางบดขยี้กลีบปากเนียนนุ่ม แล้วร่างของนางก็สั่นระริก เสียงครางหวานๆ ดังอยู่ในลำคอ “อ...อือ...” เซียวอวิ้นหยางระดมจุมพิตครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงแค่ถูกจูบ ฟางถิงถิงก็แทบจะเสียอาการ ร่างแบบบางสะท้านไม่หยุด ...อยากได้มากกว่านี้ หญิงสาวปรือตารับจูบเร่าร้อนอย่างเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากเนียนนุ่มเผยอเปิดเล็กน้อย ชั่วอึดใจสั้นๆ นั้นปลายลิ้นร้อนก็ดุนดันเข้ามาในโพลงปาก อ๋องหนุ่มกระหวัดลิ้นพัวพันกับลิ้นของฟางถิงถิง ระหว่างจูบมือหนาค่อยๆ ปลดชุดกลางสีขาวขอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status