“คุณศิ อย่า อ๊า!” จากเสียงห้ามกลับกลายเป็นเสียงครางเมื่อมือหยาบใหญ่บุกรุกมาที่กึ่งกลางกายสาวอย่างอุกอาจ ท้องนิ้วสากกดลงบนปุ่มกระสันอย่างชำนิชำนาญ แม้จะสัมผัสผ่านเนื้อผ้าลูกไม้ตัวบาง หากทว่าคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์อย่างเธอก็ตกใจมากและตั้งตัวไม่ทัน ขนอ่อนในกายสาวพาลลุกชัน
เธอปัดป้องเขาเท่าที่มีเรี่ยวแรงและสติมากพอจะทำได้ แต่ศิระก็ไม่สนคำทัดทานและสองมือเรียวที่ปัดป่ายแต่อย่างใด เขาแทบจะฉีกทึ้งเสื้อยืดตัวบางของเธอออกจากร่างสาว ความช่ำชองทำให้ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นวริษาก็แทบจะเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าเขา
หญิงสาวยกสองแขนกอดอกปิดบังทรวงอกสร้างอวบใหญ่ แม้ไม่ได้ใหญ่โตเป็นพิเศษ แต่มันพอดิบพอดีกับรูปร่าง ตั้งเต้าสวยมากจนคนมองกดยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ
พอดีมาก พอดีกับมือเขานี่แหละ ปกติก็ดูดแค่หัว นมใหญ่ไปก็ใช้การอะไรไม่ค่อยได้
“อย่านะคะคุณศิ” วริษาวอนขอเสียงอ่อน น้ำตาคลอเบ้า เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ฉันแค่หมั้นกับคุณเพราะความจำเป็น ฉันถูกบังคับ ไม่ได้เต็มใจเลยคุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นน้องพี่ฟ้านะ”
“เธอไม่ได้โง่ขนาดนั้นวริษา” ใครมันจะมาบังคับคนอายุยี่สิบแปดที่ไอคิวสูงลิ่วมีดีกรีเป็นถึงแพทย์หญิงอย่างเธอได้ง่าย ๆ กันล่ะ
ล่าสุดกำลังทำงานด้านจิตวิทยา ไม่มีเหตุผลอะไรให้ใครมาบังคับหรือล่อลวงเธอง่าย ๆ หรอกถ้าเจ้าหล่อนไม่เต็มใจ
“แล้วก็ไม่มีใครลากเธอมาเข้าพิธีกับฉัน”
“แต่ฉันจำเป็นต้องทำ!”
“งั้นก็บอกเหตุผลมา ว่าเธอจะเข้าพิธีแทนพี่สาวเธอไปทำไม!” คนตัวตัวแทบคำราม มองสบตาเธอนัยน์ตาขุ่นคลั่ก วริษาตกใจมากหากก็พยายามทำใจดีสู้เสือไว้
เธอจะร้องไห้ให้ใครเห็นไม่ได้เด็ดขาดแม้ในใจจะสั่นแค่ไหนก็ตาม แต่เขามันซาตานชัด ๆ
“คุณศิคะ ฝนมีคนรักแล้ว อย่าขืนใจฝนเลยได้ไหม” เธอกำลังร้องขอ คงดีกว่าการดื้อรั้น กับคนอย่างศิระที่รักศักดิ์ศรีตัวเองมากคงไม่นิยมตีท้ายครัวใคร และยิ่งผู้หญิงไม่เต็มใจด้วยแล้วเขาคงไม่คิดจะขืนใจกันหรอกกระมัง...
ได้ผล! เมื่ออยู่ ๆ เขาก็ลุกออกจากตัวเธอทันใด ร่างสูงเปลี่ยนเป็นไปนั่งพิงโซฟาสีแดงตัวยาว
วริษารีบตวัดผ้าห่มมาคลุมร่างแล้วลุกขึ้นนั่งพลางถอนหายใจโล่งอก มองเขาอย่างขอบคุณที่ยอมปล่อยกัน
หากฉับพลันนั้นหญิงสาวแทบจะกลืนคำขอบคุณลงคอไม่ทันเมื่อเขาพูดออกมาว่า...
“แก้ผ้า แล้วมานั่งคุกเข่า” ชายหนุ่มสั่งพลางใช้สายตามองไปที่หว่างขาแข็งแรงที่แยกอ้า ท่าทางล่อแหลมทำวริษาคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
“ขอร้องล่ะค่ะ” เสียงระโหยโรยแรง ครั้งแรกเธอจะมอบให้คนอื่นไปได้อย่างไรในเมื่อมีคนรักอยู่แล้ว แม้แต่ปากก็อยากเก็บซิงไว้ให้เขา ไม่ใช่ผู้ชายของพี่สาว!
“ถ้าไม่อยากทำ เธอก็ลงไปบอกถอนหมั้นซะ”
ข้อนั้นยิ่งแล้วใหญ่ ยากกว่าเปิดซิงก็คือการบากหน้าไปบอกบิดามารดาว่าต้องการถอนหมั้น
“ฉัน... ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก” ถ้าทำเธอคงไม่เหลือแม้แต่ลมหายใจ
ชายหนุ่มมองตาเธอแล้วเลิกคิ้วพลางเอียงองศาคอเล็กน้อย หล่ออยู่หรอกนะแต่ดูอ้อนตีนมากเช่นกัน เป็นท่าทางที่ราวกับมีเสียงทุ้มลอยเข้ามาปะทะกับโสตประสาทว่า... ‘แล้วยังไง?’
“ฉันไม่เคยฝืนใจใคร”
ไม่ฝืนกับผีน่ะสิ! วริษาตะโกนด่าในใจทันทีที่ได้ยินคำบอกเล่าจากปากคุณหมอแสนเอาแต่ใจ
“งั้นคุณก็ไม่ควรทำแบบนี้” นัยน์ตาคู่สวยสั่นระริกพอ ๆ กับเสียงที่เพิ่งเปล่งออกไป เมื่อเห็นว่ารางดุมกางเกงของชายหนุ่มค่อย ๆ ถูกเขาปลดลงทีละเม็ด ทีละเม็ด เธอเสียววาบราวกับตัวเองกำลังถูกจับเปลื้องผ้าอีกครั้งอย่างไรอย่างนั้น
เสื้อสูทและเชิ้ตทางการที่สวมใส่ก็ถูกเขาสลัดออกแล้ววางพาดไว้กับพนักโซฟา เผยเรือนกายกำยำ เขามีความเป็นบถรถษเพศที่สาว ๆ เห็นเป้นต้องหลงใหลทุกประการ หากทว่าดวงตาคู่คมเยือกเย็นที่มองมายังเธออย่างไม่อาจคาดเดาความหมาย
เขาดู... อ่านยาก ลึกล้ำ และดูอันตราย
ผู้ชายที่ดูสูงส่ง ทรงอำนาจ และแสนร้ายกาจตรงหน้าทำเอาก้อนเนื้อในอกของวริษาสั่นไหว
มือหนาตบหน้าขาสองเป็นจังหวะเนิบช้าแต่หนักแน่นสองครั้ง เขากำลังเชิญชวนในแบบที่วริษารู้ได้ทันทีว่าต่อไปนี้เธอคงไม่อาจปฏิเสธเขาได้อีกต่อไป
“หึ! ลีลาไปทำไม สุดท้ายเธอก็ต้องกลายของฉันอยู่ดี เรน”
@หลายปีต่อมา...“วันเกิดปีนี้ลูกสาวป๋าอยากได้อะไรคะ” ศิระกอดลูกสาวสุดที่รักไว้แนบอกแล้วหอมหน้าผากนวลอย่างทะนุถนอมรักใคร่ครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว ลูกสาวของตนกำลังโตเป้นสาวสะพรั่ง ยิ่งโตก็ยิ่งสวยมาก สวยจัดเหมือนแม่ สวยจนคนเป็นพ่อทั้งหวงทั้งห่วง ไม่อยากให้คลาดสายตาไปไหน“อืม... อยากได้เยอะแยะไปหมดเลยค่ะป๊ะป๋า” เซญ่ากอดเอวสอบของบิดา ออดอ้อนออเซาะเหมือนอย่างเคย เธอไม่เคยขาดอะไรเลยในชีวิตเพราะครอบครัวอบอุ่น กินดีมีสุข มีแต่คนรักคนคอยเอาใจและทุกคนพร้อมจะประเคนทุกอย่างให้แต่ก็นะ... ป๊ะป๋าถามแบบนี้ เด็กเอาแต่ใจอย่างเธอจะไม่อ้อนขอนั่นขอนี่เพิ่มก็กระไร“เอาอะไรว่ามา ป๋าเสกให้หนูได้ทุกอย่างเลย รู้ใช่ไหม” ศิระว่า ถึงจะเอาดาวเอาเดือน ป๊ะป๋าก็จะไปควานหาหินอุกกาบาตมาให้จนได้“นี่ ๆ อย่าเยอะ ทั้งคู่น่ะ” อิษยะที่เดินโอบไหล่วริษาเมียรักเข้ามา มืออีกข้างถือจานคุกกี้ของเมียมาวางไว้บนโต๊ะกลางก่อนจะรีบถลามาแยกศิระและเซญ่าออกจากกันจะปล่อยให้มันตามใจลูกจนเสียคนแบบนี้ไม่ได้“ลูกโตเป็นสาวแล้ว มากอดมาหอมแบบนี้ได้ไง” คนต่อว่าคนอื่นกลับคว้าลูกมากอดแนบอกแล้วจูบกลางกระหม่อมลูกสาวรัว ๆ เรียกเสียงหัวเราะของสาวน้อยเซญ่
“ไม่! เซจะอาบน้ำกับพี่คี!” เสียงเด็กหญิงโวยวายจนคนมีศักดิ์เป็นลุงอย่างชยินแทบจะกุมขมับ ไม่รู้จะจัดการอย่างไร“หนูเป็นผู้หญิงนะเซญ่า พี่คีเป็นผู้ชาย..” ชยินที่กำลังจะอธิบายให้หลานสาวตัวน้อยฟังใหม่อีกรอบก็ต้องชะงักเพราะเจ้าตัวเถียงทันควัน“หม่ามี้บอกว่าผู้หญิงกับผู้ชายสิทธิเท่าเทียมกันนี่คะ” เซญ่ากอดอกเชิดหน้า น่ารักอยู่หรอก แต่บางทีก็น่าตีเป็นบ้า“เฮ้อ... กูจะบ้า!” ชยินกัดฟันข่มใจเวลาเซญ่าดื้อมาก ๆ บางทีก็อยากจะจับมาตีให้ก้นลาย แต่ติดตรงที่เขาเอ็นดูเด็กน้อยเอามาก ๆ อย่างกับลูกในไส้ และที่สำคัญคือเซญ่าเป็นคุณหนูแห่งตระกูลลีละวีระพันธุ์ เป็นยอดดวงใจของศิระและเป็นหลานรักของท่านสันต์ ใครจะมาแตะต้องมั่วซั่วไม่ได้ ขืนเผลอไปแตะให้เนื้อตัวเป็นรอยแดงแค่เสี้ยวปลายเล็บ เขาคงได้โดนจับโบกปูนถ่วงน้ำตายแหง ๆ“มีอะไรกันคะ” วริศราที่ได้ยินเสียงดังโวยวายจากในห้องน้ำก็รีบจ้ำอ้าวเข้ามาดู หัวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันทันทีที่มองพ่อของลูกกำลังยืนเท้าสะเอวแล้วพรูลมหายใจท่าทางแบบนี้คงเพราะจนปัญญา จัดการยัยหลานตัวแสบไม่ได้ล่ะสิท่าหึ! สมน้ำหน้า“เซญ่าอยากอาบน้ำกับผมฮะ แต่พ่อจัดการไม่ได้” คีรินที่ยืนรออาบน้ำอยู่ก็ตอ
เพราะนวัตกรรมและหัตถการความสวยความงามในปัจจุบันล้ำหน้าไปไกล ยิ่งทำงานไม่หนัก พักผ่อนเพียงพอ ที่สำคัญคือเมื่อมีความสุขหน้าตาผิวพรรณก็ยิ่งดูสดใส อ่อนกว่าวัย“เมียสวยเนอะ” อิษยะกระแทกไหล่ศิระที่ยืนเต๊ะท่า สองมือล้วงกระเป๋าเหมือนจะไม่สนใจโลกหรือสนใจใคร หากทว่านัยน์ตาสีถ่านกลับจ้องมองแต่วริษาไม่คลาดสายตาผู้หญิงสวยจัดที่อยู่ในชุดเจ้าสาวราคาแปดหลักกำลังเดินมาหยุดต่อหน้าพวกเขา ที่ยืนอยู่บนบัลลังก์ดอกไม้ แต่เธอช่างเลอค่าเหลือเกิน จนเขาคิดว่าชุดเจ้าสาวราคาแปดหลักก็ยังถูกเกินไป ไม่คู่ควรเลยสักนิดอยากจะหาเพชรที่มีค่าสูงที่สุดในโลกเอามาประโคมบนชุดเพื่อที่จะได้ทัดเทียมเท่า คู่ควรกับเจ้าสาวของเขา หากทำได้งานแต่งที่แสนเรียบง่าย ณ โรงแรมใหญ่ติดทะเล วิวแหลมพันวาอยู่ด้านหลัง เห็นผืนน้ำจรดฟ้าอย่างที่วริษาวาดฝันเธอมักจะฝันถึงงานแต่งงานที่อบอุ่น สวยงาม และเรียบง่ายพวกเขาทั้งสองก็พร้อมที่จะเนรมิตให้ ส่วนเรื่องอลังการให้ไปอยู่ที่ค่าใช้จ่าย สองหนุ่มแค่ปิดโซนหนึ่งของโรงแรมมาจัดเลี้ยงเป็นเวลาสองวันหนึ่งคืนเท่านั้นแขกก็มีเพียงเพื่อนสนิท พันธมิตรทางธุรกิจรายสำคัญ และญาติ ๆ เท่านั้น แต่ที่ว่ามาก็ปาไปเกือบร้อย
เจ้าสาวแสนสวยใช้ปลายนิ้วเรียวยาวลูบไปตามข้อความแต่ละบรรทัด สลับกับภาพถ่าย หากฉับพลันก็มีเสียงเรียกขานจากทีมงานออแกไนซ์ปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตนะคะเจ้าสาว อีก 10 นาทีจะถึงเวลาแล้วค่ะ”“หน้าเลอะหมดแล้ว” เสียงของอบอุ่นสั่นเครือเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนรัก นัยน์ตาคู่สวยที่แม้จะมีน้ำตา หากทว่าก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขล้นจากใจหญิงสาวรับกระดาษทิชชูจากคิมหันต์มาช่วยซับตรงปลายหางตาและหัวตาของว่าที่เจ้าสาวอย่างรู้งาน กันไม่ให้หน้าตาสะสวยเลอะเปรอะเปื้อนมาสคาร่า“เดี๋ยวก็เป็นหมีแพนต้าออกไปหรอก” คิมหันต์แซวแล้วก็ต้องร้องโอดโอยเมื่อวริษายกมือฟาดอกเข้าให้“เพราะแกนั่นแหละ เอามาให้พี่ตอนนี้ทำไมก็ไม่รู้” สู้ให้ตอนจบงานเสียยังจะดีกว่า รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องของมารดาผู้ให้กำเนิดนั้นมีอิทธิพลต่อวริษาแค่ไหนตั้งแต่เธอได้เป็นแม่คนก็ยิ่งเข้าใจว่ามารดารักเธอแค่ไหน ท่านต้องเสียสละอะไรบ้างในการมีชีวิตหนึ่งออกมา และท่านต้องทรมานแสนสาหัสในการที่ต้องโดนพรากลูกจากอกอย่างไรเธอรับรู้และเข้าใจแม้กระทั่งความเอื้ออารีจากคุณหญิงศรีนาง ผู้ที่เธอเคยคิดว่าร้ายกาจ หากท่านไม่มีความเอ็นดูอยู่บ้างก็คงปล่อยให้เธ
ร่างระหงในชุดแต่งงานสีขาวยืนมองตัวเองผ่านกระจกเงาด้วยแววตาเป็นประกายสุกใส เธอในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อหลายปีก่อนเหลือเกินบนใบหน้ามีแต่ประกายความอิ่มเอิบ ความสุขที่เอ่อล้นจนกลายเป็นแสงออร่าส่องผ่านม่านดวงตา ใบหน้า และรอยยิ้มทุกขณะ แทบจะทะลุออกมาผ่านทุกอณูเนื้ออยู่แล้วหากเป็นไปได้“สวยจังครับ” เสียงทุ้มแผ่วพร่าวริษาละสายตาจากกระจกเงาหันไปมองชายหนุ่มผู้ที่จ้องเธอจากด้านหลังด้วยนัยน์ตาคมเป็นประกายหนึ่งในผู้ชายอีกคนในชีวิต ที่นับวันเธอก็ยิ่งรักยิ่งผูกพัน จนบางครั้งสองผัวก็หึงขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล“ใช่ม้า! พี่ก็ว่างั้นแหละ” วริษาหันกลับมาสบตาแล้วก็ยิ้มจนตาหยีให้น้องชาย เสียงหวานหยอกล้อ“แหม ไม่ปฏิเสธเลย? หึหึ” คิมหันต์ส่ายหน้าระอาใจกับคนหลงตัวเอง หากก็ไม่เถียงหรอก เพราะวริษาสวยสง่าออร่าจริง ๆเขาเอ่ยชมพี่สาวต่างบิดาด้วยความจริงใจ ใบหน้าของวริษาราวกับกำลังมีเงาของมารดาทาบทับอยู่บนนั้น นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มของท่านนานเหลือเกิน... แต่ก็ยังติดอยู่ในความทรงจำเชื่อว่า ณ ตอนนี้มารดาคงกำลังมองพี่สาวของเขาที่กำลังมีความสุข ยิ้มมองลงมาด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มพอ ๆ กันกับวริษาตอนนี้ ณ ที
“งื้อ! ไม่ได้สิคะ อ๊ะ!” วริษาที่สถาปนาตัวเองเป็นสาววายมือสมัครเล่นไม่ทันได้เก็บเกี่ยวภาพความทรงจำนั้นเลยด้วยซ้ำเพราะมัวแต่กะพริบตา จะร้องท้วงแต่แล้วก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นกรี๊ดลั่นเมื่อร่างสวยโดนศิระคว้าหมับเข้าให้“มานี่เลยยายตัวแสบ” เขาอุ้มเธอขึ้นมาในท่าอุ้มแตงแต่หันหลังให้เขา หันหน้าเธอไปหาอิษยะหญิงสาวผวาเฮือก ไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำคนตรงหน้าก็ย่อตัวลงนั่งในระดับที่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายสามารถทักทายกับกลีบกายสาวได้แบบพอดิบพอดี นิ้วหยาบยาวลูบสำรวจสองกลีบอวบอูมแล้วแยกออกจากกันเพื่อที่เรียวลิ้นร้อนจะสามารถปาดเลียร่องรักของเธอได้ถนัด อิษยะรัวเรียวลิ้นซ้ำ ๆ จนน้ำลายเหนียวเหนอะเปรอะเปื้อนปะปนกับหยาดน้ำรักสีใสที่รินไหล“ฮื้อ! พวกพี่ขี้โกง อ๊า!” วริษาอยากจะทักท้วงเหลือเกินแต่กระนั้นก็ทำได้เพียงร้องครวญครางแทบไม่เป็นภาษาเพราะอิษยะสอดนิ้วกลางเข้าสำรวจภายในโพรงกำมะหยี่คับแน่น“อ่า... แน่นจังเลยครับ” ครั้งแรกที่ได้รุกล้ำเธอหลังจากทำรีแพร์มา เมียเขาแน่นมาก ตอดตุบ ๆ จนนิ้วเดียวยังยากขยับ แล้วแบบนี้เขาจะยัดท่อนลำเข้าไปได้อย่างไร “ดะ เดี๋ยว ๆ อื้อ!” สองเรียวขาโดนจับถ่างอ้า สอดสองแขนกำยำช้อนไว้ใต้ข้อพับข