“เอ่อ คือว่า…”
ศุภนัทมองหมอติณณ์ ที่ยังโอบไหล่ของยี่หวาไม่ปล่อย ก็เริ่มไม่พอใจทันที เขายอมรับว่าสนใจในตัวยี่หวามาก เพราะเธอเป็นผู้หญิงเก่ง มีความสามารถ
“คุณมีแฟนแล้ว ทำไมต้องรับปากมาดูตัวกับผมล่ะ คุณเห็นผมเป็นของเล่นเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ คือเรื่องนี้ ฉันอธิบายได้”
“ไหนลองว่ามาสิ ทำไมคุณถึงคิดว่า ตัวเองสำคัญมากกว่าประชุมสัญญาพันล้านของผม”
“คือเรื่องดูตัว ที่จริงเป็นคุณแม่ที่จัดการ เรื่องนี้ฉันไม่ทราบมาก่อน พอคุณแม่บอก ก็เลยรีบมาเพราะเห็นบอกว่าทางคุณเป็นคนรีบนัดมาเอง”
หมอติณณ์ถึงกับกลั้นขำ ที่แท้ก็เป็นเพราะแม่ของเธอนี่เอง ไม่ใช่ตัวยี่หวาเอง ส่วนศุภนัทที่ฟัง รีบเบือนหน้าหนีทันที เขาเห็นรูปเธอที่ส่งมา ก็สั่งให้คนรีบนัดเจอให้เร็วที่สุด ซึ่งก็คือวันนี้
“บ้าที่สุด เสียเวลาจริง ๆ”
“เอ่อ…”
ศุภนัทคว้ามือถือ และลุกขึ้นจากโต๊ะทันที เขาเดินออกไปโดยไม่บอกลาสักคำ ยี่หวาหันมามองหน้าหมอติณณ์ ที่ยังยืนยิ้มอยู่ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินโมโหออกไปจากร้าน
“คุณหมอมาที่นี่ได้ยังไงคะ”
“ผมเหรอ ก็แค่… มาทำธุระนิดหน่อย ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”
“งั้นเหรอคะ บังเอิญจริง ๆ เลยนะคะ โรงแรมนี้กับโรงพยาบาล ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลย ถ้าบังเอิญจริง ๆ งั้นก็ขอตัวก่อนค่ะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ เมื่อกี้ผมอุตส่าห์ช่วยคุณเอาไว้นะ ไม่คิดจะเลี้ยงข้าวตอบแทนผมสักหน่อยเหรอ”
“อะไรนะคะ เลี้ยงข้าวเหรอคะ ไม่เกินไปหน่อยเหรอคะ”
“คุณไม่เลี้ยงไม่เป็นไร ผมเลี้ยงคุณเองก็ได้ ไหน ๆ ก็อยู่ที่ร้านแล้วนี่ จริงไหม นั่งก่อนสิ ผมหิวมากเลย”
“นี่คุณ…”
เขาพูดและดันเธอไปนั่งเก้าอี้ตัวในสุด และเขานั่งข้าง ๆ เพื่อไม่ให้เธอหนี ยี่หวาทำตัวไม่ถูก แต่วันนี้ที่จริงแล้ว เธอคงต้องขอบคุณเขาจริง ๆ ที่ช่วยเธอเอาไว้ เพราะไม่คิดว่าศุภนัทจะตื๊อเก่งขนาดนั้น
“อยากกินอะไรดีล่ะ ที่นี่มีอาหารที่คุณชอบกินหลายอย่างเลยนะ เลือกร้านได้ดีจริง ๆ”
“ฉันไม่ได้เลือกเองหรอกค่ะ”
“อ้องั้นเหรอ หรือว่าเราจะไปกินที่อื่นกันดีล่ะ”
“ไม่ค่ะ คุณหมอทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่คะ”
หมอติณณ์หันไปมองบริกร ที่กำลังจะเดินมารับออเดอร์ เขาจึงสั่งอาหารสองสามอย่างโดยที่ไม่ถามเธอ ยี่หวานั่งนิ่งไม่พูดอะไร เมื่อเขาสั่งเสร็จก็หันมามองเธออีกครั้ง
“ไม่รู้จริง ๆ เหรอ ว่าทำไปเพราะอะไร”
ยี่หวาใจเต้นแรง เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มานานแล้ว และตอนนี้เขากำลังจะทำให้เธอ ไม่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
“คุณหมอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ เรื่องที่ผ่านมาแล้ว ยังไงก็กลับคืนไปไม่ได้”
“ผมก็ไม่ได้บอกว่า สนใจเรื่องที่ผ่านมา ที่ผมต้องการคือตอนนี้ต่างหาก”
“คุณต้องการอะไร”
“โอกาส อย่างที่เคยพูดไปแล้ว ยังไงก็จะไม่มีทางหยุด และไม่มีวันถอยหลังเป็นอันขาด”
ยี่หวานิ่งไปทันที แต่สายตาและท่าทางของเธออ่อนลง ไม่ขัดขืนเหมือนเดิมแล้ว ไม่นานอาหารก็ถูกยกมาวาง ซึ่งแต่ละจานคืออาหารที่เธอชอบ เธอไม่คิดว่าหมอติณณ์จะจำได้เลยด้วยซ้ำ
“นี่….”
“ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ผัดผักสี่สหาย เต้าหู้ทรงเครื่อง แล้วก็ไข่เจียวปู ลองอโวคาโดปั่นหน่อยสิ ดูว่าเหมือนที่เคยชอบกินเมื่อก่อนหรือเปล่า”
เขายกแก้วน้ำอโวคาโดปั่นมาให้เธอ ยี่หวาลืมไปแล้วว่า เมื่อก่อนเธอชอบดื่มมาก แต่ตั้งแต่เลิกกับเขา เธอก็พยายามจะไม่กินอะไรที่ทำให้นึกถึงเขา และเปลี่ยนไปดื่มกาแฟแทน
“เป็นไงบ้าง ดื่มกาแฟบ่อย ๆ แม้ว่าจะช่วยทำให้ตื่นตัวได้ แต่ก็สู้น้ำผลไม้ไม่ได้นะ ดื่มอีกสิ เดี๋ยวพี่… ผมตักข้าวให้”
“ขอบคุณนะคะ”
หมอติณณ์หันมามองเธอแล้วยิ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพูดขอบคุณเขาออกมา เขาพึ่งจะรู้ว่า ตอนสมัยเรียน เธอต้องใช้ความกล้ามากขนาดไหน ที่ตามตื๊อเขาถึงหน้าคณะแพทย์ทุกวัน เพราะตอนนี้เขาก็ไม่ต่างกับเธอในตอนนั้น แต่จะทำให้มากกว่าเธอในตอนนั้น จะทำจนกว่ายี่หวาจะยอมให้อภัยเขา
“ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว กินเยอะ ๆ นะ วันนี้คุณเหนื่อยมาก ทั้งทำงานวิ่งวุ่นทั้งวัน แล้วยังต้องมาเจอไอ้คนบ้าน้ำลายนั่นอีก”
“อะไรนะคะ คุณไปว่าเขาแบบนั้นได้ยังไง”
“หรือไม่ใช่ล่ะ ผมแอบเห็นคุณชักสีหน้า และทำหน้าง่วงมาหลายรอบแล้ว ขนาดกาแฟยังเอาไม่อยู่เลย”
“นี่คุณหมอ มาที่นี่นานแล้วเหรอคะ”
“ผมนั่งโต๊ะข้างหลังคุณนี่เอง กระจกมันสะท้อน ผมก็เลยเห็นน่ะ”
“ทำไมคุณหมอถึงทำแบบนี้ล่ะคะ เป็นพวกโรคจิตเหรอ ไหนเมื่อกี้บอกว่ามาทำธุระไงล่ะคะ”
“เชื่อจริง ๆ เหรอ ว่าผมมาทำธุระ”
“ก็คุณบอกแบบนั้น”
“ถ้าผมยอมรับไปแต่แรก ก็เสียฟอร์มน่ะสิ ลองกินปูนิ่มดูสิ ชอบกินไม่ใช่เหรอ”
เขาไม่ลืมที่จะเอากระดูกอ่อนปูออก ก่อนจะตักให้เธอใสจาน ซึ่งมักจะทำเป็นประจำ เวลาไปทานข้าวด้วยกัน บรรยากาศตอนนี้ก็แทบจะไม่ต่างกันเลย กับตอนนั้นที่ทั้งคู่คบกันอยู่
“อร่อยไหม”
“เผ็ดไปหน่อยนะคะ”
“อะไรนะ เผ็ดเหรอ เอานี่ดื่มน้ำก่อน พี่ไม่รู้ว่าที่นี่จะทำเผ็ดขนาดนี้ไม่ได้ทำตามรสชาติของฝรั่งหรอกเหรอ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ที่จริงฉันไม่ค่อยทานเผ็ดมานาน ก็เลยไม่ชิน ขอบคุณนะคะ”
“ไม่ทานเผ็ดเหรอ แต่ว่าเมื่อก่อนหวาชอบกินส้มตำเผ็ด ๆ รสจัด ไม่ใช่เหรอ”
ยี่หวาเงียบไป เธอดื่มน้ำไปอึกใหญ่ ทุกอย่างที่เขาพูดมาไม่ผิด แต่หลังจากที่เธอเลิกกับเขา แม้แต่เรื่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม เธอก็เปลี่ยนไปหมด แต่มีแค่อย่างเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย ก็คือหัวใจของเธอ ที่ยังรักเขาอยู่
“เคยเป็นโรคกระเพาะน่ะค่ะ ก็เลยทานเผ็ดไม่ค่อยได้”
“แบบนี้นี่เอง วันหลังมาตรวจที่โรงพยาบาลนะ พี่จะตรวจให้”
“ไม่รบกวนคุณหมอหรอกค่ะ”
เธอพยายามใช้คำพูดที่ห่างเหิน ส่วนเขาพยายามจะรุกคืบเข้ามาใกล้ แต่ดูเหมือนว่ายี่หวาจะไม่ใจอ่อนเลยสักนิด
“เอ่อ ผมก็แค่เป็นห่วงคุณน่ะ งานคุณยุ่งจนแทบไม่มีเวลาทานข้าว จะดื่มแต่กาแฟไม่ได้นะ มันไม่ดีต่อสุขภาพ”
“หวาก็รักพี่ติณณ์ค่ะ ขอบคุณที่พี่ติณณ์รู้ใจตัวเองเร็ว ก่อนที่หวาจะรู้สึกหมดหวังแล้วจริง ๆ”“ห้าปีที่ผ่านมา พี่จะใช้ทั้งชีวิตนี้ ชดเชยให้หวา ไม่ว่าจะรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความอ่อนโยนและความรักของพี่ จะมอบให้หวาทั้งหมด พี่สัญญา”“ขอบคุณค่ะพี่ติณณ์”“นี่ก็ดึกแล้ว รีบนอนกันดีกว่า ช่วงนี้ต้องพักผ่อนมาก ๆ หน่อย เดี๋ยววันจริงจะโทรมเอานะ”“อุ้มไปหน่อยสิคะ ฝึกเอาไว้วันจริง เวลารับเจ้าสาวไงล่ะคะ”“ยินดีอยู่แล้วครับคุณภรรยาที่รัก”หมอติณณ์อุ้มคู่หมั้นสาว เดินกลับไปที่เตียงในห้องนอน ตอนนี้เรือนหอของทั้งคู่สร้างเสร็จแล้ว และอยู่ในระหว่างการตกแต่งภายใน ซึ่งมีแม่ ๆ ทั้งสองคนคอยกำกับดูแล ทั้งสองแอบตกแต่งห้องของหลาน ๆ เอาไว้แล้วด้วย โดยที่คู่บ่าวสาว ยังไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำไปสามวันต่อมา / พิธีแต่งงานเจ้าสาวในชุดไทยสีทอง พร้อมกับเจ้าบ่าวในชุดไทยเข้าคู่กัน เดินเข้ามาในงานหมั้นในช่วงเช้า ซึ่งขบวนขันหมาก ที่แห่อยู่ด้านหน้าเรือนหอของทั้งคู่นั้น ยาวจนทั้งหมู่บ้านต้องออกมาดูเมื่อเข้าสู่พิธีหมั้น เจ้าบ่าวก็ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความตื้นตัน ทำให้คนทั้งงาน อดปลาบปลื้มไปด้วยกับทั้งสองคนไม่ได้ โดยเฉพาะกล
สิบวันถัดมา“ตายจริงยี่หวา ในที่สุดฉันก็มีโอกาสได้เห็นแกใส่ชุดเจ้าสาวเสียที ยอดไปเลยนะ ว่าแต่แกจะไปถ่ายรูปที่ไหน"“เกาะเสม็ด”“โอ้โห ไปถึงโน่นเลยเหรอ”"อืม ครั้งก่อนไปกับพี่ติณณ์แล้วติดใจน่ะ แกไปด้วยกันมั้ย พี่ติณณ์บอกว่าจะชวนคุณหมอธนิตไปด้วย"“คุณหมอธนิต…อ่อ! จำได้แล้วคนที่แนะนำตัวเองว่า โสด!”“ใช่ ๆ คนนั้นแหละ ว่าไงอยากไปด้วยกันมั้ย จะได้ให้พี่ติณณ์จองห้องให้แกด้วย ฉันจะได้มีเพื่อนคุย”“อืม ก็ดีนะช่วงนี้ฉันว่าง ๆ อยู่ งานที่กระทรวงยังไม่มีอะไรมาก พอจะลางานไปได้”“ยอดไปเลย”เกาะเสม็ดหมอติณณ์เช่าเรือเพื่อข้ามฝั่งไปที่เกาะ ครั้งนี้เขาไปพร้อมกับทีมงานสตูดิโอถ่ายภาพ เพื่อจะได้เก็บภาพสวย ๆ ของยี่หวา ซึ่งเป็นเจ้าสาวของเขาเอาไว้ให้มากที่สุด ใยไหมมาเป็นผู้ช่วยของยี่หวา โดยมีหมอธนิตที่คอยเดินตาม เสิร์ฟน้ำและร่มให้เธอไม่ขาด“ระวังจะร้อนนะครับ ผมกางร่มให้ นี่ครับครีมกันแดด”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”ใยไหมที่พึ่งเลิกกับแฟนมาได้ปีกว่า เมื่อได้รับการเอาใจ และคอยดูแลจากคุณหมอธนิต ที่คุยเก่งและเข้ากับทุกคนได้ดี ก็ทำให้เธอรู้สึกสนุกกับทริปนี้ไปด้วย แน่นอนว่ารวมถึงความก้าวหน้าระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งคู่ด้ว
“แต่ว่าข้างบนชั้นสอง ก็ไม่มีใครขึ้นมานี่นา พวกพ่อแม่สนุกกันอยู่ข้างล่างโน่น ตอนนี้ก็คงจะเริ่มเมาแล้วด้วย ไม่มีเวลามาสนใจพวกเราหรอก”ยี่หวายิ้มออกมาอย่างรู้สึกเห็นด้วย และห้องของยี่หวาอยู่บนชั้นสอง ซึ่งอยู่ไกลจากเรือนชานชั้นล่าง ที่กำลังกินดื่มกันอยู่ “ก็จริงอย่างที่พี่ติณณ์พูดนะคะ”เขาจับเธอพลิกตัวลงและเป็นฝ่ายรุกแทน ยี่หวาเมื่อถูกงับไปที่ยอดอก ก็ถึงกับครางออกมาสุดเสียงเพราะความเสียว และตื่นเต้น เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นในห้องนอนของเธอ “อ๊าาา พี่ติณณ์ เสียวมากเลย อุ๊ยย…เสียง น่าเกลียด”ลิ้นของเขาโลมเลียไปทั่วตัวของเธอ ก่อนจะไปหยุดที่ร่องรักที่เขาโหยหา ตรงนี้ติณณ์ภพมักจะใช้เวลานานที่สุดในการสำรวจ กว่าเขาจะเงยหน้าขึ้นมาได้ ยี่หวาก็ถึงฝั่งไปก่อนเขาล่วงหน้าแล้ว เมื่อร่างบางกระตุกเกร็งขึ้นมา เขาเริ่มดันแก่นกายร้อนเข้าไปทันที“อ๊าา พี่ติณณ์ อึ๊ยยย เสียวมากเลย อ๊าาา….”เตียงไม้สักสั่นและเกิดเสียง จนทำให้ทั้งสองคนตื่นเต้นมากกว่าเดิม ไม่เหมือนกับเตียงที่คอนโด ซึ่งแข็งแรงและอยู่กับที่ เมื่อหมอติณณ์เริ่มกระแทกไม่ยั้ง เหงื่อของเขาเริ่มผุดออกมา ยี่หวาก็เริ่มกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ไหว ไฟปรารถนาโหมจนแ
“ได้เลยครับลุงภาส ผมจัดการเอง”“จริงสิยี่หวา ตอนนี้ก้าวข้าเข้ามาครึ่งหนึ่งแล้ว คราวนี้หุ้น 5% นั่น หนูก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธแล้วนะ”“ค่ะคุณลุง ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ หวาจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดเลยค่ะ”“ต้องแบบนี้สิ มา ๆ ดื่มกันสักหน่อย”หมอติณณ์โอบไหล่ยี่หวา และยิ้มให้กับภาสกร ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยี่หวาต้องเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาล ซึ่งทุกคนทราบดีว่า ยี่หวาเก่งมากขนาดไหน และตอนนี้ เธอยังพ่วงตำแหน่งสะใภ้ของท่านประธานบอร์ดบริหารอีกด้วย ความรู้ความสามารถ และฐานะของเธอ ถือว่าไม่ธรรมดาปีใหม่ / เชียงรายดาหราถึงกับตกใจ กับขบวนรถตู้สามคัน ที่วิ่งเข้ามาในบ้านของเธอในตัวอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ยี่หวาบอกแม่ไปแล้วว่า พ่อแม่ของติณณ์ภพจะมาเยี่ยมเธอ และมาเพื่อสู่ขอลูกสาว เมื่อแม่ของติณณ์ภพลงจากรถได้ ก็รีบเดินเข้าไปหาแม่ของยี่หวาทันที“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีค่ะคุณดาหรา แหมพึ่งจะมีโอกาสได้เจอตัวจริงนะคะ รู้เลยว่ายี่หวาได้ความสวยจากใคร คุณคะ! เร็ว ๆ เข้าสิ คุณภาคภูมินี่ไม่ได้เรื่องเลยค่ะ ช้ามากไม่ทันใจเลย”“ใจเย็น ๆ ค่ะคุณรัศมี เดินทางมาเหนื่อย ๆ เข้ามานั่งพักกันก่อนนะคะ”“ตายจริงอากาศดีมาก ๆ เลย หนาวมากกว่าที
“ไม่ใช่พี่แน่นอน คืนนั้นพี่ก็แค่ขู่เธอไปเท่านั้นเองนะ แต่พี่ไม่เคยโพสอะไรลงไปเลย ไม่เชื่อก็เข้าไปดูสิ”“ทำไมต้องร้อนตัวด้วยล่ะคะ ก็แค่ถามเฉย ๆ เท่านั้นเอง แล้วพี่ติณณ์รู้หรือยังว่า ใครที่เป็นคนปล่อยคลิป”“รู้แล้ว”“ใครคะ”“รุ่นน้องที่อยู่กับมีนาในห้องน้ำ”“รุ่นน้อง คนที่หวาไปช่วยเหรอคะ”“ใช่ เห็นว่าชื่อ… ริกะอะไรนี่แหละ”“แต่เธออยู่ในเหตุการณ์ และไม่ได้ถืออะไรไว้ในมือเลยนี่คะ”“ฝ้ายบอกหมอเจย์ว่า คนที่ถ่ายไว้คือเพื่อนสนิทของริกะ ที่ชื่อชะเอม เธอเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานว่า มีนาพยายามทำร้ายริกะ แต่ริกะรู้สึกโกรธมาก ที่มีนาจะตบเธอ ก็เลยปล่อยคลิปนี้ออกมา จนแพร่กระจายไปทั่วโซเชียล แม่ของมีนาก็เลยอยากพาเธอหลบไปสักพักน่ะ”“พี่ติณณ์จะไปส่งเธอมั้ยคะ”“ไม่ล่ะ พี่ไม่มีอะไรต้องขอโทษเธอนี่นา ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเกิดมาจากตัวเธอทั้งนั้น พวกเราไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดกับเรื่องนี้หรอกนะยี่หวา”ยี่หวานิ่งไปทันที ฟังจากน้ำเสียงของคู่หมั้นหนุ่ม เธอก็รู้ทันทีว่า เขายังโกรธมีนาอยู่มาก และคงไม่ให้อภัยเธอง่าย ๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้มีนา จะพบเจอเรื่องร้าย ๆ แบบนี้ก็ตาม“จริงสิเกือบลืมไปเลย ทนายอภิวัตรโทรมาหาพี่แล้วนะ
สองวันถัดมา“กลับไปถึงบ้านแล้วก็รีบโทรมาด้วยนะคะ”“รู้แล้วน่า ทำเหมือนว่าแม่เป็นเด็ก ๆ ไปได้แกนี่นะ”"แม่ละก็"“เอาล่ะ ๆ แกอยู่กับหมอติณณ์ ก็ต้องคอยดูแลเขาให้ดีด้วยนะ เข้าใจมั้ย หมอน่ะงานยุ่งมาก แจนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน แม่สังเกตเห็นว่าหมอติณณ์ดูเพลีย ๆ ช่วงนี้เขาทำงานหนัก แล้วยังต้องแบ่งเวลามาดูแลแกกับแม่อีก”“แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หวาจะดูแลพี่ติณณ์เอง ช่วงนี้ยังปกติอยู่ค่ะ ก่อนหน้านั้นพี่ติณณ์ทำงานหนักกว่านี้ก กลับมาก็หลับเป็นตายเลย หวาก็ทำอาหารบำรุงให้หลายอย่าง แต่แม่เองก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ”“เอาล่ะ ๆ พอแล้ว อีกไม่นานก็จะต้องเตรียมงานแต่งงานแล้ว พ่อแม่ของเขาจะกลับมาจากต่างประเทศช่วงไหนนะ”“ก็น่าจะอีกสองเดือนนะคะ เห็นพี่ติณณ์บอกว่าพวกท่านตื่นเต้นมาก อยากจะไปหาแม่เร็ว ๆ จะได้รีบเตรียมตัว”“ดีแล้วล่ะ ช่วงนี้ก็ดูแลกันให้ดี อย่าป่วยไปอีกล่ะ หมอติณณ์บอกแม่แล้วว่า ก่อนหน้านั้นแกน่ะไม่เอาใจใส่สุขภาพเลย ก็ดีเหมือนกัน ที่มีเขาคอยดูแลแก อย่างน้อยเขาก็เป็นหมอ แกป่วยก็ยังดูแลได้”“ดูแลหรือคุมความประพฤติกันแน่ แม่ไม่รู้หรอกว่า ตอนที่หวาอยู่โรงพยายาล พี่ติณณ์เอาแต่บังคับ”“ก็แกมันดื้อนี่ สมแล้วที่