ถึงแม้จะดูน่าขยะแขยงอยู่บ้าง แต่เห็นได้ชัดว่ากลยุทธ์ “ยืมมีดฆ่าคน” นี้ใช้ได้ผลแล้วแต่เวินเฉวียนเซิ่งก็ไม่ได้คาดหวังว่าโอวหยางอวี้เทียนจะสามารถฆ่าหลานซื่อได้จริง ๆเขาสู้กับหลานซื่อมาหลายครั้งยังฆ่าไม่สำเร็จ คนโง่เขลาแบบนี้จะทำสำเร็จก็แปลกแล้วเขาทำเช่นนี้ เพียงเพื่อให้หลานซื่อเสียสมาธิเท่านั้นตลอดเส้นทางนี้เขากำลังจับตาดู “ลูกสาวแสนดี” ของเขา และ “ลูกสาวแสนดี” ของเขามีหรือจะไม่จับตาดูเขาเช่นกัน?ทั้งสองคนต่างกำลังรอโอกาสและโอกาสนี้จะมาถึงเมื่อไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาอยู่ห่างจากจุดหมายปลายทางแค่ไหน ยิ่งใกล้เท่าไหร่ก็ย่อมเร็วขึ้นเท่านั้นในค่ำคืนนั้นเป็นไปตามที่เวินเฉวียนเซิ่งคาดเดาไว้จริง ๆคนที่ไม่สงบสุขบางคนเริ่มลงมือแล้วพอตกดึก โอวหยางอวี้เทียนก็แง้มช่องหน้าต่าง แล้วโยนคำสั่งที่เป็นกระดาษแผ่นหนึ่งออกไปคนที่รออยู่ด้านนอกมานาน พอได้รับคำสั่งจากเจ้านายก็เริ่มปฏิบัติการทันทีเงามืดกว่าสิบเงาพุ่งขึ้นไปบนชั้นสามของโรงเตี๊ยมอย่างเงียบ ๆบนชั้นสามของโรงเตี๊ยมไหลฟูมีห้องชั้นหนึ่งทั้งหมดเพียงสองห้องเท่านั้นห้องหนึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออก อีกห้องอยู่ทางฝั่งตะวันตกเนื่องจา
“พี่ใหญ่?”โอวหยางอวี้ซู่ที่ถูกห้ามไว้หันไปมองโอวหยางอวี้เทียนอย่างไม่เข้าใจ“ท่านห้ามข้าทำไม? ท่านไม่เห็นหรือว่าหญิงคนนั้นหยิ่งยโสขนาดไหน?!”“พอได้แล้ว!”โอวหยางอวี้เทียนจับแขนของนางไว้ ขมวดคิ้วตำหนิว่า “แค่ห้องพักห้องเดียวเท่านั้น ในเมื่อคนอื่นเขาไม่อยากสละให้ ก็แล้วไปเถอะ”โอวหยางอวี้ซู่ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจทันที มองพี่ชายของนางราวกับเห็นผีปกติแล้วเวลาพี่ชายของนางทำอะไรจะวางอำนาจบาตรใหญ่มากกว่านางเสียอีกทำไมวันนี้จู่ ๆ ถึงได้เปลี่ยนนิสัยไป ซ้ำยังบอกว่า “ในเมื่อคนอื่นเขาไม่อยากสละให้ ก็แล้วไปเถอะ?”จำได้ว่าคนก่อนหน้าที่เคยยั่วโมโหพี่น้องคู่นี้ ก็ถูกพี่ชายของนางหักขาทันที จนตอนนี้คนผู้นั้นนั้นยังคงเดินขาเป๋อยู่เลยโอวหยางอวี้ซู่รู้สึกว่าโอวหยางอวี้เทียนแปลกไปจริง ๆเห็นเขาเป็นแบบนี้ จึงชักมือกลับไว้ก่น รอดูว่าพี่ชายของนางจะมาไม้ไหนกันแน่ดังนั้นในวินาทีถัดมา นางก็เห็นพี่ชายของนางข้ามผ่านนางไป พลางก้าวขาเดินตรงไปที่หน้าโต๊ะของหลานซื่อกับพวกห่างออกไปสามหมี่จากนั้นก็ประสานมือ ทำความเคารพอย่างมีมารยาท“แม่นางโปรดอภัยด้วย น้องสาวของข้าผู้นี้ถูกตามใจ
เมื่อได้ยินเวินเฉวียนเซิ่งโยนปัญหามาให้ตน หลานซื่อก็ปรายตามองเขาอย่างเฉยเมย“ลูกสาว?”คำสั้น ๆ ซ้ำกันสองคำนี้ เต็มไปด้วยการเหน็บแนมของหลานซื่อที่มีต่อคำพูดของเขาเมื่อเห็นแววตาของหลานซื่อที่ไม่มีความเคารพและความรู้สึกใด ๆ ต่อตนเองแม้แต่น้อย เวินเฉวียนเซิ่งก็รู้สึกทั้งไม่พอใจและสับสนอยู่ภายในใจในขณะนี้เอง เขาพลันนึกย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน ก่อนพิธีปักปิ่นนั้นตอนนั้นบุตรสาวคนนี้ของเขายังคงเป็นเด็กดีที่มีสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวังในตัวเขาแม้ว่าต่อมาตนจะเริ่มแสดงความรำคาญ ดุด่า และลำเอียงต่อนางเพราะเวินเยวี่ย แต่หลังจากที่นางรู้สึกน้อยใจ ก็ยังคงเข้ามาหาเขา เรียกเขาว่า “ท่านพ่อ”น่าเสียดาย เวลาผ่านไปหนึ่งปี ทุกสิ่งยังคงที่แต่ผู้คนนั้นเปลี่ยนไปบุตรสาวที่แสนดีในตอนนั้น บัดนี้กลายเป็นบุตรสาวเนรคุณที่ต้องการชีวิตของเขาแล้ว“ใช่แล้วลูกสาวแสนดีของพ่อ การเดินทางครั้งนี้เราสองพ่อลูกมาพร้อมกับภารกิจ เพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงด้วยดี ลูกต้องคิดให้ดี ๆ ก่อนจะพูดอะไร เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเรื่อง”เวินเฉวียนเซิ่งพูดกับหลานซื่อทีละคำอย่างไม่เร่งรีบเนื่องจากสถานะของเวินเฉวียนเซิ่งและ
หลานซื่อหันไปมอง ก็เห็นว่าทางด้านนั้นมีหลายคนกำลังซักถามเจ้าของโรงเตี๊ยมอยู่ในบรรดาคนเหล่านั้นมีชายหญิงคู่หนึ่งหน้าตาคล้ายกัน ดูอ่อนเยาว์มาก เหมือนจะเป็นพี่น้องกันเมื่อพวกเขาได้ยินเจ้าของบอกว่าห้องถูกเหมาไปแล้ว สีหน้าของพี่น้องคู่นั้นก็เปลี่ยนเป็นแย่มากทันที“ถ้าโรงเตี๊ยมอื่นยังมีห้องว่างอยู่ ท่านคิดว่าคุณชายและคุณหนูของเราจะมาที่โรงเตี๊ยมโทรม ๆ ของพวกท่านอย่างนั้นหรือ!”“คุณชายและคุณหนูของเราเป็นคนของสกุลโอวหยาง ได้มาพักของพวกท่านสักคืน ก็ถือเป็นบุญของโรงเตี๊ยมแห่งนี้แล้ว ถ้าไม่อยากทำให้สกุลโอวหยางไม่พอใจ วันนี้ห้องของพวกท่านจะว่างหรือไม่ ก็ต้องทำให้ว่าง!”เมื่อสาวใช้พูดออกมาอีกครั้ง คำว่า “สกุลโอวหยาง” ที่พูดออกไปก็ทำให้ท่าทางของเจ้าของเปลี่ยนไปทันที สีหน้าหวาดกลัวขึ้นมาก“ที่...ที่แท้ทั้งสองท่านก็เป็นคุณชายและคุณหนูของสกุลโอวหยางนี่เอง ขอทั้งสองโปรดให้อภัย ข้าน้อยมีตาแต่หามีแววไม่ จดจำมาเยือนของคุณชายและคุณหนูทั้งสองไม่ได้ ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ขอคุณชายโอวหยางและคุณหนูโอวหยางโปรดให้อภัย!”เมื่อเห็นเจ้าของคนนั้นคล้ายกำลังจะร้องไห้ออกมา ก็รีบวิ่งออกมาจากหลังโต๊ะ
ไม่ว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะพาใครมา หลานซื่อก็ไม่เห็นอยู่ในสายตาทั้งนั้นก่อนหน้าที่จะรู้เรื่องราวของสกุลหลาน คนที่นางเกลียดที่สุดก็คือเวินเยวี่ยอย่างไม่ต้องสงสัยแต่เมื่อนางรู้ว่าเบื้องหลังของแผนการชั่วร้ายทั้งหมดนี้ มาจากน้ำมือของบิดาของนาง คนที่นางเกลียดที่สุดก็คือเวินเฉวียนเซิ่งแล้วมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดแล้วทำไมหรือ?บนโลกนี้ มีผู้คนที่ใช้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดในการวางแผนร้ายมากมายเกินไปแล้วแต่การวางแผนแบบเวินเฉวียนเซิ่งนี้ ใช้ประโยชน์จากครอบครัวของภรรยาจนหมดสิ้นแล้ว ก็กำจัดทุกคนในตระกูลรวมถึงสายเลือดเดียวกันกับตัวเองด้วย แม้แต่ประโยชน์เพียงน้อยนิดก็ไม่เหลือไว้ บนโลกนี้คงมีเขาเพียงคนเดียว ไม่มีใครโหดเหี้ยมไปกว่าเขาอีกแล้วหลานซื่อรู้สึกว่า คนที่นางเรียกว่าพ่อผู้นั้นช่างน่ากลัวจริง ๆหากไม่ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ความจริงทั้งหมดนี้ใครจะรู้ได้?ความเคียดแค้นดุจทะเลเดือดอย่างหนักหน่วงนี้ ใครจะมาแก้แค้นแทนได้?บางทีสวรรค์อาจต้องการให้นางกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ก็เพื่อให้นางรู้เรื่องทั้งหมดนี้ก็ได้ดังนั้นหลังจากที่ฆ่าเวินเยวี่ยไปสองครั้ง ความเกลียดชังที่นางมีต่อเวินเยวี่ย
เพื่อที่จะจัดการคดีนี้ เป่ยเฉินหยวนได้พาผู้คนมาทำงานอยู่หลายวัน จนกระทั่งวันก่อนที่หน่วยค้นหาเซียนจะออกเดินทาง เขาถึงจะจัดการเรื่องสำคัญเสร็จเรียบร้อยได้ในที่สุด จากนั้นก็รีบรุดมาพบหลานซื่อ“ครั้งนี้ข้าไม่สามารถไปกับท่านในฐานะอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนได้แล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ตอนแรกหลานซื่อก็ตะลึงไปชั่วขณะแต่ไม่นานนางก็เข้าใจความหมายอีกนัยหนึ่งของเป่ยเฉินหยวนได้ นางเอ่ยด้วยความแปลกใจ “ท่านต้องการปลอมตัวหรือ? เพื่อไปจับอันเทียนซินบุตรชายอนุภรรยาและอันกุ้ยเหรินที่หนีออกจากสกุลอันอย่างนั้นหรือ?”เป่ยเฉินหยวนเห็นนางมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาผงกศีรษะกล่าวว่า “ตอนที่คดียาอายุวัฒนะยังไม่สิ้นสุด สกุลอันก็ถูกตรวจพบว่ามีตราสัญลักษณ์ของชาวต่างเผ่า ตลอดจนร่องรอยของวิชาซากกู่ของชาวต่างเผ่า เหมือนอย่างที่ท่านเคยคาดเดาไว้ การฟื้นคืนชีพของเวินเยวี่ยเกี่ยวข้องกับสกุลอันจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หลังจากเวินเยวี่ยถูกหลอมขึ้นมาแล้ว กลับหนีออกไปจากสกุลอัน”“เดิมทีสกุลอันก็กำลังตามหาเบาะแสของเวินเยวี่ยอยู่ แต่กลับไม่นึกว่าจะแสดงพิรุธออกมา จนถูกพวกเราจับตาม