Share

บทที่ 607

Author: จิ้งซิง
แผ่นหลังของเวินจื่อเยวี่ยเมื่อครู่นี้ก็ถูกแส้เฆี่ยนหนึ่งครั้งเช่นกัน เจ็บปวดจนเขาสูดลมเย็นเข้าปาก

หากจะบอกว่าคนที่ใช้แส้ได้เก่งกาจที่สุดก็คือหลินเนี่ยนฉือหญิงผู้นี้นั่นเอง

แส้ในมือของนางอาจดูธรรมดาทั่วไป แต่ความจริงแล้วมันคืออาวุธที่สกุลหลินจ้างช่างใหญ่และใช้วัสดุพิเศษผลิตขึ้นมาเพื่อนางโดยเฉพาะ ดุดันยิ่งกว่าแส้กฎประจำตระกูลในจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาเสียอีก

ดังนั้นแม้ว่าเขาและเวินเยวี่ยจะถูกตีจนผิวหนังเหวอะหวะ แต่หลินเนี่ยนฉือบอกว่าจะปรานี ก็ต้องปรานีจริง ๆ

เพราะหากนางใช้กำลังไปสิบส่วนจริง ๆ ทันทีที่ฟาดแส้ลงไป โอกาสที่จะตีกระดูกของพวกเขาหักก็มีสูงมาก!

“หลินเนี่ยนฉือ เจ้าใจเย็นลงหน่อยได้ไหม?”

เวินจื่อเยวี่ยกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด พูดกับหลินเนี่ยนฉือว่า “เจ้าไม่พอใจน้องหกตรงไหนกันแน่? เจ้าพูดออกมาสิ ทำไมจะต้องลงไม้ลงมือให้ได้? เป็นผู้หญิงด้วยกัน เหตุใดเจ้าต้องกลั่นแกล้งนางเช่นนี้?”

“คำพูดแบบนี้ท่านควรไปถามน้องหกของท่าน ว่าตอนนั้นนางไม่พอใจอะไรในตัวอาซื่อของข้ากันแน่? พยายามบีบบังคับอาซื่ออย่างหนัก บังคับจนต้องออกบวชเป็นชียังไม่พอ ยังปล่อยให้พวกท่านรังแกนาง ดูถูกนางต่อไปอีก ถึงขนาดให
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 622

    ฝ่ายหนึ่งเป็นเพราะเรื่องเงินของตน อีกฝ่ายเป็นเพราะใบหน้าของตนแต่เมื่อครึ่งปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นเวินเยวี่ยหรือเวินจื่อเฉินก็ตาม ใครจะคาดคิดได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะมีวันมาถึงจุดนี้ได้พวกบ่าวรับใช้ที่อยู่รอบๆ ต่างก็ถูกพวกเขาสองคนทำให้ตกใจกลัวจนตัวสั่นในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังมาจากด้านนอกประตูที่เวินจื่อเฉินใช้หลังพิงอยู่“ก๊อก ก๊อก!”“เจ้าสอง เช้าตรู่เช่นนี้ เจ้ามาก่อเรื่องวุ่นวายอะไรในเรือนของน้องสาวเจ้า? ยังไม่รีบเปิดประตูอีก!”เมื่อได้ยินเสียงนี้ ดวงตาของเวินเยวี่ยก็พลันเป็นประกาย ร้องตะโกนด้วยความยินดี “ท่านพ่อ! ช่วยข้าด้วย! พี่รองเขาบ้าไปแล้ว เขาจะทำร้ายข้า!”ผู้ที่มาเยือนด้านนอกประตูก็คือเวินเฉวียนเซิ่งตรงกันข้ามกับความยินดีของเวินเยวี่ย คือใบหน้าที่พลันเคร่งขรึมลงของเวินจื่อเฉิน เขายังคงใช้แรงยันประตูไว้แน่น ไม่พูดจาและไม่คิดจะเปิดประตู“ปัง ปัง!”คนที่อยู่ด้านนอกราวกับจะรับรู้ความคิดของเวินจื่อเฉินได้ เสียงเคาะประตูในตอนแรกจึงเปลี่ยนเป็นการทุบประตูอย่างแรงในเวลาอันรวดเร็วเวินเฉวียนเซิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าสอง เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”เวินเยวี่ย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 621

    เวินเยวี่ยเพิ่งพูดจบ วินาทีต่อมาเวินจื่อเฉินก็พลันพุ่งพรวดมาอยู่ตรงหน้าของนาง“เพียะ!”ฝ่ามือข้างหนึ่งตบลงมาเสียงดังฟังชัด ฟาดลงบนใบหน้าของเวินเยวี่ยอย่างแรงเวินเยวี่ยถูกตบจนวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลายทั้งคนล้มลงไปกองกับพื้นทันที แถมยังกระแทกเข้ากับประตูเสียงดัง “ปึง” ผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่ได้สติ“ว้ายยย! คุณหนูหก!”“คุณชายรอง โปรดหยุดเถิด!”“เร็วเข้า ห้ามคุณชายรองไว้!”บ่าวรับใช้ในเรือนของเวินเยวี่ยต่างตกตะลึงกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้าจนหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าเวินจื่อเฉินตบไปฉาดหนึ่งแล้วยังไม่คิดจะหยุดมือ กลับยกมือขึ้นหมายจะตบซ้ำอีก!พวกบ่าวรับใช้หน้าซีดเผือด รีบพุ่งเข้าไปใช้ร่างกายขวางเขาไว้ต่างคนต่างยื้อยุดฉุดกระชาก พยายามรั้งเขาไว้สุดกำลังหากคุณหนูหกเป็นอะไรไปเพราะถูกคุณชายรองทำร้ายจริงๆ ล่ะก็ เกรงว่าบ่าวรับใช้ทุกคนในเรือนนี้คงต้องจบสิ้นกันหมดแน่ดังนั้น แม้ว่าจะหวาดกลัวเวินจื่อเฉินที่กำลังเดือดดาลอย่างยิ่ง แต่ทุกคนก็ยังคงรีบร้อนเข้าไปขัดขวางเขาอยู่ดีเวินจื่อเฉินถูกพวกเขาออกแรงลากตัวออกห่างจากเวินเยวี่ยเป็นระยะสามเมตรแต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังคงจ้องเขม็งไปยัง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 620

    “ขอทานที่ไหนเนี่ย กล้ามาก่อกวนถึงจวนเจิ้นกั๋วกง ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”“แม่เจ้าสิไสหัวไป!”พลันเวินจื่อเฉินกระชากคนเฝ้าประตูออกมา “ลืมตาเจ้าดูให้ดีๆ ว่าข้าเป็นใคร!”หลังจากเข้าไปใกล้ๆ ในที่สุดคนเฝ้าประตูก็รู้แล้วว่าเป็นใคร เขาเบิกตากว้างกล่าว “คุณชายรอง? ท่านคือคุณชายรอง?!”“ในเมื่อรู้ว่าข้าเป็นใคร ยังไม่รีบเปิดประตูให้ข้าอีก!”คนเฝ้าประตูแทบจะไปเปิดประตูโดยไม่รู้ตัว แต่ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้ การกระทำหยุดชะงัก“คือ…คุณชายรอง ไม่ใช่บ่าวไม่เปิดประตูให้ท่าน แต่ท่านกั๋วกงสั่งไว้ ท่านไม่ใช่คุณชายรองของจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ดังนั้นห้ามเข้าออกจวนเจิ้นกั๋วกงตามใจชอบ”“ได้”เมื่อเวินจื่อเฉินได้ยินคำพูดนี้ เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม และให้ความร่วมมืออย่างคาดไม่ถึงแต่วินาทีต่อมา คนเฝ้าประตูยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เวินจื่อเฉินก็ยกเท้าถีบใส่ประตูใหญ่จวนเจิ้นกั๋วกงกะทันหัน“เจ้าไม่เปิดให้ข้า ข้าเปิดเองก็ได้!”หลังจากถีบประตู เวินจื่อเฉินก็เดินปรี่เข้าไปในจวนเจิ้นกั๋วกง หลังจากนั้นตรงไปที่เรือนเล็กของเวินเยวี่ยอย่างไม่ลังเลท่าทางที่จะทำร้ายคนทำให้คนเฝ้าประตูตกใจจนตะโกนเสียงดัง “ใครก็ได้! ใค

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 619

    “ไม่ใช่? พี่รอง ข้าจะไปเรียกน้องหกกลับมาอย่างไร? ข้าบอกท่านไปแล้ว ตอนนี้น้องหกได้รับบาดเจ็บ จำเป็นต้องพักฟื้นในจวน นางมาที่นี่ไม่ได้”เวินจื่อเยวี่ยเริ่มรู้สึกว่าเวินจื่อเฉินไร้เหตุผลขึ้นเรื่อยๆ “ท่านต้องการเงิน ข้าให้ท่านก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ? แม้ตอนนี้ยังให้ไม่ได้ แต่อีกหน่อย ข้าสามารถกลับจวนเจิ้นกั๋วกงแน่นอน ถึงเวลาท่านต้องการเท่าไร? อืม? ห้าร้อยตำลึง? หรือหนึ่งพันตำลึง? ข้าคืนให้ท่านสองเท่าเลย เช่นนี้ท่านน่าจะพอใจแล้วกระมัง?”“ไสหัวไป!”เวินจื่อเฉินถลึงตาใส่เขา “ข้าบอกไปแล้ว ข้าไม่ต้องการเงินของเจ้า สิ่งที่ข้าต้องการคือเงินของข้า! เงินทองแดงที่ข้าเก็บพวกนั้น จึงจะเป็นของข้า! ใครก็แตะต้องไม่ได้!”“เศษเหรียญทองแดงที่ท่านต้องการมีอะไรดีนักหนา? เงินหรือตั๋วเงินมันไม่ดีหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยไม่เข้าใจ“เพราะนั่นเป็นเงินที่ข้าหามาด้วยตัวเอง!”เวินจื่อเฉินยืนอยู่ตรงที่เดิม เขากำหมัดแน่น “นั่นเป็นเงินที่ข้าหาให้น้องหญิง เงินทุกแดงล้วนแลกมาด้วยหยาดเหงื่อของข้า ไม่ว่าเท่าไร อย่างน้อยก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า ยิ่งไม่เกี่ยวกับจวนเจิ้นกั๋วกง”น้องหญิงรังเกียจจวนเจิ้นกั๋วกง ดังนั้นสิ่งที่เขา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 618

    ตอนที่เวินจื่อเยวี่ยเดินทางจากเมืองหลวงกลับถึงภูเขาหนานอีกครั้ง ก็ดึกมากแล้วแต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ คืนนี้ในกระท่อมฟางของพี่ชายรองยังมีแสงไฟส่องสว่างอยู่เมื่อผลักประตูเข้าไป เห็นเวินจื่อเฉินนั่งอยู่ที่ข้างเตียง และบนโต๊ะยังมีอาหารที่เย็นแล้ววางอยู่“พี่รอง เหตุใดท่านยังไม่พักผ่อน? ท่านคงไม่ได้กำลังรอข้ากับน้องหกกลับมากระมัง?”เวินจื่อเยวี่ยเดินไปที่ข้างโต๊ะ มองดูอาหารที่จืดชืดไม่ค่อยน่ากินนัก แล้วถามด้วยความประหลาดใจเหมือนว่าเวินจื่อเฉินกอดของบางอย่างไว้ในอก หลังจากได้ยินเสียงเวินจื่อเยวี่ยกลับมา เขามองไปที่เวินจื่อเยวี่ยด้วยสายตาแข็งทื่อเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่ประตูอีกครั้ง“เวินเยวี่ยล่ะ? นางไปไหนแล้ว?”เสียงของเวินจื่อเฉินแหบเล็กน้อย ฟังแล้วเหมือนกำลังพยายามข่มอารมณ์เวินจื่อเยวี่ยที่ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติหยิบตะเกียบขึ้นมา ลองชิมอาหารไปสองคำ แต่วินาทีต่อมาก็ขมวดคิ้วโยนตะเกียบลงบนโต๊ะ“อาหารนี่เรียบง่ายเกินไปกระมัง? รสชาติก็แย่เช่นนี้ พี่รอง ท่านจะหาของที่มันอร่อยหน่อยไม่ได้เลยหรือ? เนื้อผัดผักสักจานก็ยังดี มีแต่ผักเช่นนี้จะกินอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยไม่ได้ตอบคำถามข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 617

    “ดังนั้นเจ้าไม่ต้องสนใจมันเลย ปกติมันจะซ่อนตัวอยู่เงียบๆ เจ้าแค่ทำเหมือนไม่มีอะไรก็พอ”“ได้ ข้าเข้าใจแล้ว!”เวินซื่อเตรียมการทุกอย่างให้หลินเนี่ยนฉือแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ นางก็ยังไม่วางใจนั้นก่อนหลินเนี่ยนฉือนอน นางรินน้ำทิพย์ให้อีกฝ่ายดื่มหนึ่งแก้ว“นี่คือยาน้ำบำรุงร่างกายที่ข้าปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ เพราะวัตถุดิบหายากและมีไม่เยอะ เจ้าต้องดื่มให้หมดนะ”“ยาน้ำ?”หลินเนี่ยนฉือรับแก้วมา มองน้ำที่ใสแจ๋วข้างในแก้ว รู้สึกงงงวยเล็กน้อย “เจ้าแน่ใจนะว่านี่ไม่ใช่น้ำเปล่า แต่เป็นยาน้ำ?”“แน่นอนสิ เจ้ารีบดื่มให้หมดเถอะ หลังจากดื่มเสร็จเจ้าก็นอนเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาเจ้าก็รู้เอง”เมื่อหลินเนี่ยนฉือได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็แหงนหน้าดื่มไปหลายอึกจริงๆ“อืม…รสชาติเหมือนเย็นสดชื่นเล็กน้อย”หลินเนี่ยนฉือดื่มเสร็จก็ลองสัมผัสดู นางพบว่าเหมือนนี่จะไม่ใช่น้ำเปล่าจริงๆ เป็นความรู้สึกที่ดื่มไปแล้วทำให้ร่างกายสดชื่นในพริบตา แม้แต่บาดแผลตามร่างกายก็บรรเทาลงมาก“เอาล่ะ รีบนอนเถอะ”เวินซื่อตบไหล่นาง “พรุ่งนี้ตื่นมา ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องประหลาดใจ และยิ่งห้ามพูดออกไป เพราะนี่คือความลับที่ลับที่สุดขอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 616

    “อะไรนะ?”เร็วเช่นนี้เลย!เวินซื่อตะลึงหลินเนี่ยนฉือยักไหล่ “ไทเฮาทรงรู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว”“เช่นนั้นเจ้าล่ะ?”เวินซื่อมองนางด้วยความกังวลหลินเนี่ยนฉือยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าเมื่อไรก็ได้”อย่างไรเสียนางก็ได้เตรียมใจไว้ก่อนแล้วเพียงแต่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยเวินซื่อมองดูท่าทางที่แสร้งไม่ใส่ใจของนางเงียบๆผ่านไปครู่หนึ่งจึงจะกล่าว “ดังนั้นพวกคนที่ลอบสังหารเจ้า เพราะรู้ข่าวการแต่งตั้งเฮาฮอง ดังนั้นจึงอยากชิงลงมือฆ่าเจ้าก่อน?”ทุกคนรู้ดีว่าตั้งแต่ฮ่องเต้น้อยขึ้นครองบัลลังก์ มีคนเท่าไรในราชสำนักที่กำลังจ้องตำแหน่งฮองเฮาของเขาก่อนหน้านี้มีฮองเฮาอยู่ จึงได้ผัดผ่อนเรื่องนี้มาตลอดโดยอ้างว่าฝ่าบาทยังทรงพระเยาว์ แต่ตอนนี้ฝ่าบาทก็ทรงเจริญพระชนมายุครบยี่สิบปีแล้ว เรื่องการคัดเลือกฮองเฮาจึงไม่อาจผัดผ่อนไปได้อีกต่อไปแต่ว่าหากเปิดการคัดเลือกขึ้นเมื่อใด ไม่ว่าจะในราชสำนักหรือในหมู่ขุนนาง ย่อมต้องเกิดการแย่งชิงแข่งขันกันอย่างดุเดือดแน่นอนดังนั้นในเมื่อจะเลือก ราชวงศ์ก็ต้องถือไพ่ที่เหนือกว่าเท่านั้นและหลินเนี่ยนฉือก็คือฮองเฮาที่ไทเฮาเลือกอย่างลับๆไม่รู้เพราะเหตุใด ข่าวนี้จึง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 615

    หลังจากนั้นก็แทบจะเป็นการฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว หลินเนี่ยนฉือมองดูคนปิดหน้าสิบกว่าคนที่ล้อมนาง ตายภายใต้เงื้อมมือของร่างเงาที่งดงามสายนั้นอย่างรวดเร็วด้วยความประหลาดใจ“คุณหนูเนี่ยนฉือ นายหญิงให้ข้ามารับท่าน”หลินเนี่ยนฉือที่เพิ่งจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ดวงตาลุกวาวทันที “จู๋เยวี่ย? ที่แท้เป็นเจ้านี่เอง!”จู๋เยวี่ยที่ฆ่าคนอย่างเฉียบขาดเสร็จ เดินเข้าไปประคองนาง “คุณหนูเนี่ยนฉือ ยังเดินไหวหรือไม่?”“ยังพอไหว”หลินเนี่ยนฉือกล่าว ทันใดนั้นก็นึกถึงอะไรบางอย่าง…ใช่แล้ว อันหลันซิน!หลินเนี่ยนฉื่อหันไปมองฉับพลัน นางพบว่าตรงจุดที่อันหลานซินยืนอยู่ในตอนแรกไม่มีคนแล้วจู๋เยวี่ยกล่าว “ข้าเพิ่งลงมือ นางก็หนีไปแล้ว”ในน้ำเสียงของนางปนความสงสัยเล็กน้อยเพราะเมื่อครู่อันหลันซินสวมหมวกปิดบังใบหน้า ดังนั้นจู๋เยวี่ยที่ไม่รู้ว่านางเป็นใครรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้จากนางหรืออย่างไร ถึงกับวิ่งหนีอย่างไม่ลังเลเช่นนั้น“เหอะ นางต้องหนีให้ไวอยู่แล้ว”หลินเนี่ยนฉือย่อมรู้ว่าเพราะเหตุใดอันหลันซินถึงวิ่งหนียังไม่พูดถึงว่าจู๋เยวี่ยแข็งแกร่งแค่ไหน เพราะแทบจะทันทีที่ลงมือก็เห็นความแตกต่างชัดเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 614

    “เจ้า?”หลินเนี่ยนฉือมองนางอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้าทำอะไร?”อันหลันซินกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “เจ้าไม่รู้หรือ? ข้าคิดว่าคุณหนูใหญ่หลินอย่างเจ้ารู้ทุกเรื่องเสียอีก เพราะหลังจากที่อาซื่อกลายเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ ครั้งแรกที่เดินทางไปขอฝนที่จินโจวจนชื่อเสียงเลื่องลือ มันเป็นฝีมือของข้า”สีหน้าหลินเนี่ยนฉือเต็มไปด้วยความโกรธทันที “ครั้งนั้นเป็นฝีมือของเจ้าจริงๆ ด้วย!”“อันหลันซิน เจ้าไปเอาความหน้าด้านเช่นนี้มาจากไหน ยังกล้ายอมรับว่าเรื่องนั้นเป็นฝีมือของเจ้าอีกหรือ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่า เจ้าเกือบฆ่าอาซื่อตาย!”ตอนนั้นพยายามไม่พูดถึงเรื่องที่ถูกลอบสังหารต่อหน้าหลินเนี่ยนฉือ แต่หลินเนี่ยนฉือกลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ หลังจากถามอยู่หลายครั้งจึงจะรู้ว่าเวินซื่อถูกลอบสังหารระหว่างทางไปจินโจวหลายครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนคอยปกป้องตลอดทาง เกรงว่าอาซื่อของนางกลับมาไม่ได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าชื่อเสียงเลื่องลือหรือไม่!“เจ้าจะไปรู้อะไร? ฐานะและความมั่งคั่งได้มาจากการเสี่ยง ถ้าหากเป็นแค่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่มีแต่ชื่อ เช่นนั้นสักวันอาซื่อก็จะถูกเวินเยวี่ยเหยียบอยู่ใต้แทบเท้า มีเพียงนางก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status