Share

บทที่ 868

Author: จิ้งซิง
หลังจากได้ยินเสียง “ตุบ” อันหนักอึ้งดังขึ้น ฟ่านจุ้ยก็ยืนอยู่ที่ขอบหน้าผา ชะโงกศีรษะมองลงไปด้านล่างแวบหนึ่ง จากนั้นจึงเลิกคิ้วกล่าวอย่างพึงพอใจ “อืม ตกลงไปได้ไม่เลวเลยทีเดียว”

ทันใดนั้นเขาก็ตบฝุ่นบนเสื้อผ้าของตน “เอาละ ได้เวลากลับไปรายงานผลเอาความดีความชอบกับพี่หญิงสุดที่รักของข้าแล้ว~”

ขณะที่มือข้างหนึ่งของเขาตบฝุ่นอยู่นั้น ในมืออีกข้างกลับมีปอยผมหนึ่งกระจุกอยู่

เห็นได้ชัดว่าเขาไปดึงมาจากศีรษะของเวินอวี้จือตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้

ฟ่านจุ้ยนำปอยผมนี้ กลับมายังเมืองจงซินอย่างรวดเร็ว

เดิมทีเขาตั้งใจจะไปดูที่ค่ายของกองทัพธงดำก่อน แต่น่าเสียดายที่ไม่เห็นพี่หญิงสุดที่รักของเขา

เขาจึงได้ไปยังเมืองจงซินอีกครั้ง จากนั้นก็พบเวินซื่อที่กำลังจัดเรียงสมุนไพรขึ้นบนชั้นวางในร้านขายยาที่เพิ่งเปิดใหม่แห่งหนึ่ง

“ให้ช่วยหรือไม่?”

เวินซื่อที่ได้ยินเสียงหันหน้าออกไปมอง ก็เห็นฟ่านจุ้ยที่ทำหน้าทะเล้นอยู่

“เจ้าจัดการเสร็จแล้วหรือ?”

เวินซื่อเลิกคิ้ว เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

ฟ่านจุ้ยพยักหน้าหงึกๆ ติดต่อกันหลายครั้ง ราวกับเด็กน้อย แล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ก็แค่การฆ่าคน สำหรับน้องชายอย่างข้าแล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 882

    ฮ่องเต้อยากฟัง เวินซื่อเองก็ไม่มีสิ่งใดไม่สะดวกเพราะอย่างไรฮ่องเต้เองก็อยากเห็นโจรเฒ่าอย่างเวินเฉวียนเซิ่ง ที่กุมอำนาจในราชสำนักมาหลายปีโดนโค่นและขายหน้าดังนั้นสำหรับเรื่องนี้ เวินซื่อเชื่อว่าฮ่องเต้ยินดีที่จะได้เห็นมันเกิดขึ้นต่อมา เวินซื่อได้บอกเล่าแผนการของนางในห้องทรงพระอักษรให้หมิงฉี่เฉียนฟังเป็นไปตามคาดฮ่องเต้องค์นี้ดวงตาลุกวาวทันที พร้อมเอ่ยอย่างดีใจ “ดีๆ ๆ นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะเตรียมการเช่นนี้เอาไว้ ถ้าเป็นเช่นนี้คงทำได้”หลังหมิงฉี่เฉียนครุ่นคิด จึงเอ่ยกับเวินซื่อ “อีกเดี๋ยวเจ้าอยู่เป็นเพื่อนฮองเฮาให้มากหน่อย วันนี้ไม่ต้องรีบร้อนกลับอารามสุ่ยเยว่ เจ้ายึดจวนสกุลหลานในเมืองหลวงคืนมาแล้วไม่ใช่หรือ ค่ำแล้วก็ค้างแรมที่เมืองหลวงสักคืนเถอะ เพราะการว่าราชการในวันรุ่งขึ้นจะสายไม่ได้”ระหว่างที่พูดเขาหันมองเป่ยเฉินหยวน “เสด็จอาอย่าลืมจัดองครักษ์คุ้มกันธิดาศักดิ์สิทธิ์ให้ดี”เป่ยเฉินหยวนเลิกคิ้วพร้อมพยักหน้าคราวนี้ไม่มีคนนอก สีหน้าของเขาช่างเป็นธรรมชาติเสียเหลือเกิน“เมื่อเอ่ยถึงองครักษ์ ครั้งนี้การเดินทางไปชางโจวของธิดาศักดิ์สิทธิ์ มีอันตรายมากมาย ดังนั้นกระหม่อมอยากจะเสนอฝ่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 881

    “ดังนั้นวันนี้ เราอยากตกรางวัลให้ผลงานของเจ้า ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด ทรัพย์สินเงินทอง ที่ดินบ้านเรือน หรือของล้ำค่าหายาก ขอเพียงเราสามารถให้ได้ เจ้าว่ามาได้เลย”เมื่อได้ยินดังนั้น สองมือเวินซื่อพนมแล้วกล่าวอมิตตาพุทธ “ฝ่าบาทตรัสชมเกินไปแล้ว นี่เป็นหน้าที่ของอู๋โยว ซึ่งได้รับความรักจากฝ่าบาทและราษฎร ไม่กล้าเอามาเป็นผลงานของตนเองเพคะ”“แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เราอยากประทานรางวัลแก่ขุนนางมีคุณ ดังนั้นธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูงหมิงไม่ต้องปฏิเสธ”ได้ยินฮ่องเต้กล่าวดังนั้น เวินซื่อจึงครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้น “ขอบพระทัยฝ่าบาท แต่สำหรับอู๋โยวทรัพย์สินเงินทองไม่มีประโยชน์ ที่ดินบ้านเรือนไม่ใช่สิ่งที่อู๋โยวต้องการ เพียงแต่อู๋โยวมีสิ่งหนึ่งอยากขอร้อง ไม่ทราบฝ่าบาทจะช่วยสงเคราะห์ได้หรือไม่เพคะ?”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ว่ามาเถอะไม่เป็นไร”เวินซื่อหลุบตากล่าว “ฝ่าบาทเองคงทราบดี อู๋โยวมีนามทางโลกว่าเวินซื่อ ตั้งแต่ออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงสกุลเวิน อู๋โยวได้ตัดขาดกับครอบครัวเจิ้นกั๋วกงแล้ว หากยังใช้นามเวินซื่อ เกรงว่าจะไม่เหมาะสม ดังนั้นอู๋โยวขอฝ่าบาททรงอนุญาต ให้อู๋โยวเปลี่ยนเป็นแซ่หลาน เหมือนกับมารดาเพคะ”เมื่อได้ยิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 880

    อันหลันซิน?!เวินซื่อตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็ขมวดคิ้วถามว่า “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”และเสื้อผ้าที่นางสวมใส่อยู่ก็ดูเหมือนกุ้ยเฟยในวังอย่างชัดเจน“บังอาจ! กล้าพูดจากับอันกุ้ยเฟยของเราด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ได้อย่างไร!”เมื่อเยวี่ยหลิ่วเห็นความสัมพันธ์อันดีเลิศระหว่างเวินซื่อและฮองเฮา นั่นคือคู่อริของกุ้ยเฟยของนาง จึงเอ่ยปากตำหนินางแทนกุ้ยเฟยโดยจิตใต้สำนึกแต่ทันทีที่นางพูดจบ แววตาของหลินเนี่ยนฉือก็เฉียบขาดในทันที...“บังอาจนัก! เป็นแค่นางกำนัลกล้าดีอย่างไรถึงได้เสียมารยาทกับธิดาศักดิ์สิทธิ์ เด็ก ๆ ตบปากให้ข้าที!”นางกำนัลใหญ่ที่รับใช้หลินเนี่ยนฉือก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ เช่นกัน เมื่อได้ยินคำสั่งจากฮองเฮาของตัวเอง ก็จ้ำพรวด ๆ ทันที รีบก้าวไปถึงหน้าเยวี่ยหลิ่ว แล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นฟาดไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายโดยตรง“ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!”ตบสามครั้งอย่างเฉียบขาดและคล่องแคล่ว ตบจนเยวี่ยหลิ่วมึนงง ยังมองไปทางอันซินรุ่ยโดยสัญชาตญาณแต่ใครจะรู้ว่าอันซินรุ่ยกลับนิ่งเฉย พลางหัวเราะเบา ๆ กล่าวว่า “มองข้าทำไม ไม่ได้ยินที่ฮองเฮาพูดหรือ? เป็นแค่นางกำนัลบังอาจเสียมารยาทกับธิดาศักดิ์สิท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 879

    ไม่นานเงาร่างอรชรอ่อนแอ้นที่อยู่นอกตำหนักก็เดินเข้ามา“หม่อมฉันขอถวายบังคมฝ่าบาท ถวายบังคมฮองเฮา”อันซินรุ่ยทำความเคารพตามประเพณี หลังจากที่หมิงฉี่เฉียนบอกให้ลุกขึ้นจึงเงยหน้าขึ้น หลังจากดวงตาคู่นั้นกวาดตามองหลินเนี่ยนฉือและหมิงฉี่เฉียนที่อยู่บนตำแหน่งสูงในตำหนักด้วยรอยยิ้มแล้ว ความเหยียดหยามเล็ก ๆ ได้ปรากฏขึ้นในใจของนางกล่าวกันว่านางเข้ามาในวังเพื่อแย่งชิงให้เป็นที่โปรดปราน แย่งชิงฮ่องเต้กับว่าที่ฮองเฮาแต่นางกลับหวังว่าชายที่เป็นเจ้าแห่งใต้หล้าจะไม่เข้ามาในตำหนักของนางแม้แต่ครึ่งก้าวเหตุผลที่นางเข้าวัง ก็เพียงเพื่อทำให้หลินเนี่ยนฉือรู้สึกสะอิดสะเอียน บวกกับการบีบบังคับของตาเฒ่าอันปี่เค่อนั่น นางไม่มีทางเลือกอื่นหลังจากเข้าไปในวังแล้ว ก็อยู่ในตำหนักกุ้ยเฟยของนางเป็นเวลาหลายวันโดยไม่ออกไปไหนโชคดีที่หลินเนี่ยนฉือก็ไม่ต้องการพบนางเช่นกันดังนั้นต่อให้นางไม่ไปแสดงความเคารพ หลินเนี่ยนฉือก็ไม่ได้ส่งใครมาจับผิดนางทั้งสองคนก็พอจะถือได้ว่า “อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข” มาจนถึงวันนี้แต่ในวันนี้ จู่ ๆ อันซินรุ่ยก็ตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ท่ามกลางความประหลาดใจของนางกำนัลเหล่านั้นภายในตำหนักข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 878

    อีกอย่างในตอนนั้นหลินเนี่ยนฉือยังได้หมั้นหมายกับเวินจื่อเยวี่ยแล้วด้วยดังนั้นต่อมาทั้งสองจึงไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยแม้แต่จดหมายสักฉบับก็ไม่เคยส่งหากันแต่วนเวียนไปมา หลินเนี่ยนฉือก็กลับมาที่เมืองหลวงอีกครั้ง สิ้นสุดสถานะหมั้นหมายกับเวินจื่อเยวี่ย แต่กลายมาเป็นฮองเฮาของเขาแทนหลินเนี่ยนฉือไม่รู้ว่าฮ่องเต้หมิงฉี่เฉียนผู้นี้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ความรู้สึกของนางค่อนข้างซับซ้อนในตอนแรกต่อมาเมื่อได้พบกับหมิงฉี่เฉียนตอนเข้าวัง ได้เริ่มไปมาหาสู่กับเขาใหม่หลายครั้ง อารมณ์ที่ซับซ้อนของหลินเนี่ยนฉือก็หายไปอย่างรวดเร็วเพราะเดิมทีนางคิดว่าหมิงฉี่เฉียนที่ได้เป็นฮ่องเต้แล้วต้องเปลี่ยนแปลงไปมากแน่นอน และอาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่าจะกลายเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคยสำหรับนางไปแล้วแต่นึกไม่ถึงว่า ความรู้สึกที่หมิงฉี่เฉียนแสดงออกมากลับยังเหมือนตอนที่เขายังเป็นเด็กสามารถรำลึกถึงอดีตกับนางได้ พานางไปขี่ม้าเที่ยวเล่น ไม่บังคับอุปนิสัยของนาง และไม่ให้นางต้องทำแบบนี้ทำแบบนั้น ไม่วางมาดของฮ่องเต้เลยแม้แต่นิดเดียววันนั้นหมิงฉี่เฉียนในฐานะฮ่องเต้ถึงกับกล่าวคำพูดตอนหนึ่งกับหลินเนี่ยนฉือว่า “เรารู้ว่านิสัยเจ้าร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 877

    “อู๋โยว”เวินซื่อยังไม่ทันเข้าใกล้ เป่ยเฉินหยวนก็ยกเท้าก้าวไปหานางโดยสัญชาตญาณ สายตาของเขาจับจ้องไปที่จวี้เอ๋า ราวกับคาดเดาอะไรบางอย่างได้แล้ว พลางเลิกคิ้วถามว่า “คนผู้นี้คือหนึ่งในคนที่ท่านเคยได้รับมาตอนที่อยู่ในอำเภอหลินเจียงก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”เวินซื่อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ก็ถือว่าใช่ เดิมทีเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของอ๋องชางแห่งราชสำนักต่างถิ่น มีพละกำลังมหาศาลน่าสะพรึงกลัว แต่นิสัยยังไม่โตเต็มที่ เมื่อก่อนถูกอ๋องชางควบคุมด้วยแมลงกู่มาโดยตลอด หลังจากถูกแม่ชีกำจัดแมลงกู่ทิ้งแล้ว ก็เลยเก็บเขาไว้”“จวี้เอ๋า รีบมาคารวะท่านอ๋อง”จวี้เอ๋าเอียงศีรษะ หัวเราะเจื่อน ๆ พลางเอ่ยด้วยเสียงดังลั่นของเขา “ได้ คำนับท่านอ๋อง คำนับพี่หญิง จวี้เอ๋าสบายดี!”จวี้เอ๋าที่ไม่เข้าใจเรื่องมารยาทใด ๆ พูดได้แต่คำว่าคำนับ เมื่อเวินซื่อเห็นฉากนี้ก็แอบพูดในใจว่า ดูเหมือนว่าประเดี๋ยวจะต้องสั่งสอนจวี้เอ๋าเสียหน่อย เพื่อที่เขาจะได้ไม่เสียมารยาทต่อหน้าฝ่าบาททันทีที่เป่ยเฉินหยวนได้ยินที่เขาพูด ก็รู้ว่าที่เวินซื่อบอกว่า “นิสัยยังไม่โตเต็มที่” หมายความว่าอย่างไรแล้ว“ท่านต้องการเก็บเขาไว้ข้างกายหรือ?”ใช่แล้ว ท่านอ๋อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status