ตงเฟยหลง ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปหาคนตัวเล็ก มือหนายกขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากออกให้นางอย่างเบามือ
จ้าวเฟยเทียน ขยับออกมาให้สหายของตนเข้ามาประคองนางแทน ตอนนี้นางหยุดอาเจียนแล้ว แต่ร่างกายยังของนางอ่อนแรงอยู่ " ลู่เอ๋อ ... เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง " จ้าวเฟยเทียน เอ่ยถามน้องสาวที่ตอนนี้นางอยู่ในอ้อมแขนของท่ายแม่ทัพ นางหันมายิ้มบาง ๆ ให้เขา " ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ " นางเอ่ยตอบเสียงเบา และมองไปรอบตัว ทุกคนที่อยู่ที่นี่มองมาที่นางเป็นตาเดียว " พวกท่านมาทำอะไรกันหรือเจ้าคะ " จ้าวฟางลู่ นางมองหน้าทุกคนอย่างสงสัย แล้วหันมามองหน้าสามีของตนแทน แต่คิ้วของนางก็ต้องขมวดเข้าหากัน เมื่อนางมองหน้าเขาตรง ๆ กับพบว่าท่านแม่ทัพมีรอยคล้ำที่ใต้ดวงตา และมีใบหน้าซูบผอม มือเรียวของนางยกขึ้นมาลูบแก้มสากเบา ๆ เขาจึงส่งยิ้มบาง ๆ มาให้นาง " ทำไมท่านถึงได้มีสภาพแบบนี้ล่ะเจ้าค่ะ ข้าหลับไปแค่วันเดียจ้าวเฟยเทียน เดินเข้ามาในห้องโถงของจวนแม่ทัพ เขามองดูน้องสาวของตนที่กำลังนั่งมองเด็ก ๆ เล่นกันอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม " พี่ใหญ่ " จ้าวฟางลู่ นางเอ่ยทักเขาแล้วส่งยิ้มหวานมาให้ ส่วนเจ้าเสาหินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นาง ก็ดูจะสดชื่นขึ้นมากกว่าเมื่อวาน รอยคล้ำใต้ดวงตาก็จางหายไปแล้ว " ลูเอ๋อ..เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง " " ดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะพี่ใหญ่ " " ก็ดีแล้ว......ท่านพ่อทราบข่าวแล้ว...กำลังเดินทางกลับมาจากเมืองหรงอัน " " เป็นเพราะข้า...ท่านพ่อเลยต้องกลับมาก่อนกำหนด " " ท่านไม่โทษเจ้าหรอก...ขอเพียงเจ้าปลอดภัย รักษาตัวให้หายไว ๆ ก็พอแล้ว " " เจ้าค่ะ " จ้าวเฟยเทียน มองดูเด็ก ๆ ตัวขาว ๆ อวบอ้วนน่ารักน่าชังที่คลานไปมาบนพื้นพรมอย่างสนุกสนาน เด็กสาวตัวเล็กคลานมาหาเขาและมองหน้าเขาตาแป๋ว มือหนาจึงยื่นไปอุ้มเอาเจ้าก้อนแป้งน้อยมาไว้ในอ้อมแขน อย่างทะนุถนอม " หากอยากได้แบบนี้.....เจ้าต้องหาฮูหยินให้ได้เสียก่อนนะ "
ตงเฟยหลง ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปหาคนตัวเล็ก มือหนายกขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากออกให้นางอย่างเบามือ จ้าวเฟยเทียน ขยับออกมาให้สหายของตนเข้ามาประคองนางแทน ตอนนี้นางหยุดอาเจียนแล้ว แต่ร่างกายยังของนางอ่อนแรงอยู่ " ลู่เอ๋อ ... เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง " จ้าวเฟยเทียน เอ่ยถามน้องสาวที่ตอนนี้นางอยู่ในอ้อมแขนของท่ายแม่ทัพ นางหันมายิ้มบาง ๆ ให้เขา " ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ " นางเอ่ยตอบเสียงเบา และมองไปรอบตัว ทุกคนที่อยู่ที่นี่มองมาที่นางเป็นตาเดียว " พวกท่านมาทำอะไรกันหรือเจ้าคะ " จ้าวฟางลู่ นางมองหน้าทุกคนอย่างสงสัย แล้วหันมามองหน้าสามีของตนแทน แต่คิ้วของนางก็ต้องขมวดเข้าหากัน เมื่อนางมองหน้าเขาตรง ๆ กับพบว่าท่านแม่ทัพมีรอยคล้ำที่ใต้ดวงตา และมีใบหน้าซูบผอม มือเรียวของนางยกขึ้นมาลูบแก้มสากเบา ๆ เขาจึงส่งยิ้มบาง ๆ มาให้นาง " ทำไมท่านถึงได้มีสภาพแบบนี้ล่ะเจ้าค่ะ ข้าหลับไปแค่วันเดีย
ตงเฟยหลง นั่งมองหน้าลูก ๆ ทั้งสองที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ใบหน้าคมก้มลงจุมพิตเด็กทั้งสองด้วยความรักและความห่วงใย พอเขาส่งเด็ก ๆ เข้านอนแล้วจึงเดินออกมาเพื่อที่จะเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนภรรยาตัวน้อยของตนที่นางยังนอนไม่ได้สติอยู่ " นายน้อยขอรับ " ร่างสูงหยุดชะงักทันทีที่ ได้ยินเสียงของอาเต๋อ เขาหันมามองตามเสียงเรียก " ได้ข่าวว่าอย่างไรบ้าง " ตงเฟยหลง เอ่ยถามทันทีที่อาเต๋อ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา " ท่านเจ้ากรมจ้าวให้มาเชิญท่านไปที่กรมยุติธรรมขอรับ " ตงเฟยหลง พยักหน้ารับทันที เพราะรู้แล้วว่าเจ้าน้ำแข็งนั้นต้อง จับพวกมันได้แล้วแน่ ๆ แววตาของเขาแข็งกร้าวขึ้นในทันที ร่างสูงเดินมาหยุดยืนอยู่ที่ข้างเตรียงของภรรยาของตนที่ตอนนี้นางยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย ใบหน้าหวานที่เคยสดใสมาวันนี้กลับดูซีดเซียวยิ่งนัก ตงเฟยหลง นั่งลงข้างเตียงของนาง มือหนายกมือเรียวขึ้นมากุมไว้ เขามองแหวนที่นางสาวมมันให้กับเขา แล้วบอกว่านางจะอยู่กับเขาตลอดไป
" ลู่เอ๋อ " ตงเฟยหลง มองเลือดที่กำลังไหลออกจากแผลที่ยังมีลูกธนูปักอยู่ของคนตัวเล็กในอ้อมแขนอย่างตกใจ สายตาคมมองไปตามทิศทางที่ลูกธนูถูกยิงมา ก็เห็นห้าวชวนกับอาเต๋อ กำลังตามคนร้ายไป สายตาของเขาแข็งกร้าวจ้องมองไปยังมือสังหารผู้นั้นแล้วขบกรามแน่น ไอสังหารแผ่กระจายออกมารอบตัวของเขา ก่อนที่จะก้มมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่นางกำลังส่งยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน มือหนากำลูกธนูไว้แน่นเขาสบตาคนตัวเล็ก นางจึงพยักหน้าให้เขาเบา ๆ " มันจะเจ็บหน่อยนะ....เจ้าแน่ใจหรือ " " แน่ใจเจ้าค่ะ ... ท่านช่วยเอามันออกไปที " ตงเฟยหลง กำลูกธนูให้แน่นขึ้นอีก แล้วดึงลูกธนูออกอย่างรวดเร็ว เขาโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี " โอ๊ย " " ลู่เอ๋อ ลู่เอ๋อ พี่อยู่นี่ พี่ยังอยู่กับเจ้าตรงนี้ " เขาโอบกอดนางไว้แน่นนางมีสีหน้าที่เจ็บปวดมากเลือดของนางเปลี่ยนเป็นสีดำ เขามองใบหน้าของนางด้วยความหวาดกลัว กลัวว่านางจะเป็นอะไรไป จนทำอะไรไม่
จ้าวฟางลู่ มองหน้าพี่ชายอย่าง งง ๆ เห็นทีพี่ใหญ่คงต้องมีคนในใจแล้วแน่เลย " พวกท่านอยู่นี่เอง...ข้าตามหาเสียตั้งนาน " เหวินเยี่ยนเดินเข้าใกล้ ๆ นางกับพี่ชายแล้วเอ่ยขึ้น ทำให้คนทั้งสองต้องหันไปมอง " ทำไมเจ้าไม่พาคุณหนูจาง ไปเดินเล่นก่อนล่ะ จะรีบกลับมาทำไม " นางถามเหวินเยี่ยนบ้าง เผื่อเจ้านี่จะสนใจคุณหนูจางหลิน " ผู้หญิงปากร้ายแบบนั้นใครจะอยากยุ่งด้วย....เจ้าก็อีกคน...ท่านแม่ทัพของเจ้ากำลังเดินมาโน้นแล้ว...เจ้าอยู่ให้ห่างข้าไว้นะ ข้าเจอเจ้าทีไร ข้ามีอันต้องซวยทุกครั้งไป " นางมองเหวินเยี่ยน ที่ทั้งพูดทั้งขยับถอยห่างจากนางไปหลบอยู่ข้างหลังพี่ใหญ่ เมื่อท่านแม่ทัพเดินใกล้เข้ามามากทุกที จ้าวฟางลู่ มองเหวินเยี่ยน แล้วส่ายหน้าเบา ๆ ' อะไรจะกลัวขนาดนั้น สามีข้าออกจะน่ารัก ' ตงเฟยหลง มองภรรยาตัวน้อยของตนที่กำลังส่งยิ้มหวานมาให้เขา นางอยู่ในชุดสีฟ้าอ่อนแลดูงดงามอ่อนหวานน่าทนุถนอม
จ้าวฟางลู่ นางลืมตาขึ้นมามองคนที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ข้าง ๆ นาง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อพบว่า คุณสามีของนางนอนเปลือยท่อนบนอยู่และมีร่องรอยสีกุหลาบเต็มตัวเขาไปหมด มือเรียกขึ้นมากุมขมับตนเอาเบา ๆ เมื่อนึกย้อนไปว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง ' นี่ข้าเมาขนาดนั้นเลยหรอ .... ' " เจ้ายังมีแรงยั่วพี่ต่ออีกหรือ " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้นาง เขาขยับไปใกล้ ๆ และกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู " เอาไว้วันหลังพี่จะซื้อสุราดอกไม้มาฝากเจ้าอีกดีหรือไม่....โอ๊ย...." เสียงทุ้มร้องออกมาแล้วลูบต้นแขนของตนปอย ๆ เมื่อมือเล็ก ๆ ของนางตีไปที่ต้นแขนของเขาอย่างแรง " คนบ้า " " หึ...เจ้ายั่วพี่ก่อนเองเองนะ " " ก็ข้าเมานี่นา...ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นเสียหน่อย " นางตอบเสียงเบา มือหนาดึงตัวนางเข้ามากอดไว้แนบอก " ต่อไปนี้ถ้าพี่ไม่อยู่ด้วย...เจ้าห้ามดื่มเข้าใจไหม "
ตงเฟยหลง เดินกุมมือภรรยาตัวน้อยของตนเข้ามาในห้องที่มีสหายของเขารออยู่ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ช่างแตกต่างกับตอนที่ออกไปอย่างลิบลับ จนคนในห้องเองยังอดแปลกใจไม่ได้ ผิดกับสตรีที่เดินตามหลังเข้ามา ใบหน้าของนางงอง้ำ ตัวของนางถูกสวมทับด้วยผ้าคลุมตัวโต ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นของใคร จ้าวฟางลู่ มองหลี่เวยที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ พี่รอง แต่นอกจากนั้นก็ไม่มีคนอื่นอีก " พี่ใหญ่ พาตัวแม่นางหวี่โหล ไปส่งที่กรมยุติธรรมแล้ว " ยังไม่ทันได้ถาม พี่รองเหมือจะรู้ว่านางมองหาอะไรอยู่จึงได้บอกออกมาก่อน จ้าวฟางลู่ นางจึงหันไปมองตัวต้นเหตุที่ทำให้นางมาไม่ทันพบหน้าแม่นางหวี่โหล " ท่านพี่.....ท่านจงใจใช่หรือไม่ " นางถามผู้เป็นสามีเสียงเย็น พร้อมส่งสายตาดุไปให้.....เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่นางถาม ' ฮึ...ฝากไว้ก่อนเถอะ ' " เวยเวย เจ้าได้ชิมอาหารเลิศรสของที่นี่หรือยัง " นางเลิกสนใจเขาแล้วหันไปถามหลี่เวยแทน เพราะพึ่งนึกได้ว่าจุดประสงค์แรกที่พวกนางออกมานอ
ตงเฟยหลง มองบุรุษที่อยู่ด้านล่างเวทีที่กำลังมองฮูหยินของตนด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม ' เจ้าพวกนี้น่าจับไปควักลูกตาออกมาให้หมด ' สายตาที่เขามองคนพวกนั้นเหมือนอยากจะฉีกเนื้อคนพวกนั้นออกเป็นชิ้น ๆ เลยทีเดียว ไอสังหารแผ่กระจายออกมารอบ ๆ ตัวเขา จนสองพี่น้องสกุลจ้าวต้องหันไปมองหน้ากัน ' ขนาดอยู่ในสนามรบ เขายังไม่หน้ากลัวเท่านี้เลย ' จ้าวฟางลู่ นางเงิยหน้าขึ้นมาสบตากับคุณสามีที่จ้องมองนางอยู่ก่อนแล้ว นางส่งยิ้มหวานมาให้เขานิดนึง แล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ' เจ้าอยากจะลองดีกับข้าจริง ๆ ใช้ไหม ' ตงเฟยหลง ใช้วิชาตัวเบากระโดดลงมาจากระเบียงชั้นสอง โรยตัวลงมากลางเวทีอย่างสง่างาม และใช้ผ้าคลุมของตนคลุมตัวให้ฮูหยินของเขาในทันที และพานางลงจากเวทีไปบนห้องส่วนตัวอย่างรวดเร็วทำให้ทุกคนตกอยู่ในความอึ้งไปชั่วขณะ ทุกคนในที่นี้มองตามที่คนทั้งคู่ไปอย่างไม่เชื่อสายตา ว่าท่านแม่ทัพจะถูกใจสาวงาม นางนี้จนห้ามใจไม่ไหวถึงขนาดมาอุ้มนางไปจากเวทีการประกวด โดยไม่สนใจผู้ใด
หลี่เวย มองตามแผ่นหลังกว้างของคู่หมั้นของนางไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เท้าเล็กก้าวตามหลังเขาไปในทันที " เดี๋ยวก่อนเวยเวย อย่าพึ่งวู่วามสิ...เดี๋ยวพวกเขาก็รู้ตัวกันหมดหรอก " จ้าวฟางลู่ เข้ามาห้ามนางไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นนางได้ตามเข้าไปแหกอกอีตากุนซือนั่นแน่ ๆ ' สืบคดีหรือ.....เดี๋ยวก็รู้ว่าสืบคดีจริงหรือไม่ ' จ้าวฟางลู่ นางมองแม่นางน้อยหลี่เวย ยิ้ม ๆ ท่าทางนางจะเป็นคนใจร้อนไม่เบาเลย ' หึ...พี่รองงานนี้ท่านตายแน่ ๆ ' " พวกเขามาธุระของเขา ก็ปล่อยให้เขาทำไป ...ส่วนเรา....ก็จะทำในส่วนของเราสิ จะไปยากอะไร " " เจ้าหมายความว่าอย่างไร " หลี่เวย เอ่ยถามพร้อมกับทำหน้างง ๆ นางจึงขยับเข้าไปกระซิบใกล้ ๆ ให้รู้กันเพียงสองคน จนคนฟังทำท่าทางลังเล " ทำแบบนั้น มันจะดีหรอฟางลู่ ข้าว่า " " หรือเจ้าไม่อยากรู้แล้ว ว่าพวกเขามาทำอะไรกันแน่.....ไปกันได้แล้ว แค่ไปดูเฉิย ๆ หากเป็นแค่งานก็แล้วไป "