ตงเฟยหลง เดินกุมมือภรรยาตัวน้อยของตนเข้ามาในห้องที่มีสหายของเขารออยู่ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ช่างแตกต่างกับตอนที่ออกไปอย่างลิบลับ จนคนในห้องเองยังอดแปลกใจไม่ได้
ผิดกับสตรีที่เดินตามหลังเข้ามา ใบหน้าของนางงอง้ำ ตัวของนางถูกสวมทับด้วยผ้าคลุมตัวโต ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นของใคร จ้าวฟางลู่ มองหลี่เวยที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ พี่รอง แต่นอกจากนั้นก็ไม่มีคนอื่นอีก " พี่ใหญ่ พาตัวแม่นางหวี่โหล ไปส่งที่กรมยุติธรรมแล้ว " ยังไม่ทันได้ถาม พี่รองเหมือจะรู้ว่านางมองหาอะไรอยู่จึงได้บอกออกมาก่อน จ้าวฟางลู่ นางจึงหันไปมองตัวต้นเหตุที่ทำให้นางมาไม่ทันพบหน้าแม่นางหวี่โหล" ท่านพี่.....ท่านจงใจใช่หรือไม่ "นางถามผู้เป็นสามีเสียงเย็น พร้อมส่งสายตาดุไปให้.....เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่นางถาม' ฮึ...ฝากไว้ก่อนเถอะ '" เวยเวย เจ้าได้ชิมอาหารเลิศรสของที่นี่หรือยัง "นางเลิกสนใจเขาแล้วหันไปถามหลี่เวยแทน เพราะพึ่งนึกได้ว่าจุดประสงค์แรกที่พวกนางออกมานอตงเฟยหลง เดินกุมมือภรรยาตัวน้อยของตนเข้ามาในห้องที่มีสหายของเขารออยู่ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ช่างแตกต่างกับตอนที่ออกไปอย่างลิบลับ จนคนในห้องเองยังอดแปลกใจไม่ได้ ผิดกับสตรีที่เดินตามหลังเข้ามา ใบหน้าของนางงอง้ำ ตัวของนางถูกสวมทับด้วยผ้าคลุมตัวโต ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นของใคร จ้าวฟางลู่ มองหลี่เวยที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ พี่รอง แต่นอกจากนั้นก็ไม่มีคนอื่นอีก " พี่ใหญ่ พาตัวแม่นางหวี่โหล ไปส่งที่กรมยุติธรรมแล้ว " ยังไม่ทันได้ถาม พี่รองเหมือจะรู้ว่านางมองหาอะไรอยู่จึงได้บอกออกมาก่อน จ้าวฟางลู่ นางจึงหันไปมองตัวต้นเหตุที่ทำให้นางมาไม่ทันพบหน้าแม่นางหวี่โหล " ท่านพี่.....ท่านจงใจใช่หรือไม่ " นางถามผู้เป็นสามีเสียงเย็น พร้อมส่งสายตาดุไปให้.....เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่นางถาม ' ฮึ...ฝากไว้ก่อนเถอะ ' " เวยเวย เจ้าได้ชิมอาหารเลิศรสของที่นี่หรือยัง " นางเลิกสนใจเขาแล้วหันไปถามหลี่เวยแทน เพราะพึ่งนึกได้ว่าจุดประสงค์แรกที่พวกนางออกมานอ
ตงเฟยหลง มองบุรุษที่อยู่ด้านล่างเวทีที่กำลังมองฮูหยินของตนด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม ' เจ้าพวกนี้น่าจับไปควักลูกตาออกมาให้หมด ' สายตาที่เขามองคนพวกนั้นเหมือนอยากจะฉีกเนื้อคนพวกนั้นออกเป็นชิ้น ๆ เลยทีเดียว ไอสังหารแผ่กระจายออกมารอบ ๆ ตัวเขา จนสองพี่น้องสกุลจ้าวต้องหันไปมองหน้ากัน ' ขนาดอยู่ในสนามรบ เขายังไม่หน้ากลัวเท่านี้เลย ' จ้าวฟางลู่ นางเงิยหน้าขึ้นมาสบตากับคุณสามีที่จ้องมองนางอยู่ก่อนแล้ว นางส่งยิ้มหวานมาให้เขานิดนึง แล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ' เจ้าอยากจะลองดีกับข้าจริง ๆ ใช้ไหม ' ตงเฟยหลง ใช้วิชาตัวเบากระโดดลงมาจากระเบียงชั้นสอง โรยตัวลงมากลางเวทีอย่างสง่างาม และใช้ผ้าคลุมของตนคลุมตัวให้ฮูหยินของเขาในทันที และพานางลงจากเวทีไปบนห้องส่วนตัวอย่างรวดเร็วทำให้ทุกคนตกอยู่ในความอึ้งไปชั่วขณะ ทุกคนในที่นี้มองตามที่คนทั้งคู่ไปอย่างไม่เชื่อสายตา ว่าท่านแม่ทัพจะถูกใจสาวงาม นางนี้จนห้ามใจไม่ไหวถึงขนาดมาอุ้มนางไปจากเวทีการประกวด โดยไม่สนใจผู้ใด
หลี่เวย มองตามแผ่นหลังกว้างของคู่หมั้นของนางไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เท้าเล็กก้าวตามหลังเขาไปในทันที " เดี๋ยวก่อนเวยเวย อย่าพึ่งวู่วามสิ...เดี๋ยวพวกเขาก็รู้ตัวกันหมดหรอก " จ้าวฟางลู่ เข้ามาห้ามนางไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นนางได้ตามเข้าไปแหกอกอีตากุนซือนั่นแน่ ๆ ' สืบคดีหรือ.....เดี๋ยวก็รู้ว่าสืบคดีจริงหรือไม่ ' จ้าวฟางลู่ นางมองแม่นางน้อยหลี่เวย ยิ้ม ๆ ท่าทางนางจะเป็นคนใจร้อนไม่เบาเลย ' หึ...พี่รองงานนี้ท่านตายแน่ ๆ ' " พวกเขามาธุระของเขา ก็ปล่อยให้เขาทำไป ...ส่วนเรา....ก็จะทำในส่วนของเราสิ จะไปยากอะไร " " เจ้าหมายความว่าอย่างไร " หลี่เวย เอ่ยถามพร้อมกับทำหน้างง ๆ นางจึงขยับเข้าไปกระซิบใกล้ ๆ ให้รู้กันเพียงสองคน จนคนฟังทำท่าทางลังเล " ทำแบบนั้น มันจะดีหรอฟางลู่ ข้าว่า " " หรือเจ้าไม่อยากรู้แล้ว ว่าพวกเขามาทำอะไรกันแน่.....ไปกันได้แล้ว แค่ไปดูเฉิย ๆ หากเป็นแค่งานก็แล้วไป "
มือเรียวลูบไล้แผงอกกว้างของผู้เป็นสามีเบา ๆ มือหนายกขึ้นมากอบกุมมือของนางไว้ แล้วยกขึ้นมาจุมพิตเบา ๆ ที่หลังมือของนาง " คืนนี้พี่ต้องกลับดึกหน่อยนะ เจ้ากับลูกเข้านอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอพี่ " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นขณะที่จมูกยังคลอเคลียอยู่กับแก้มนวลของภรรยาตัวน้อย นางจึงใช้มือเล็ก ๆ ดันหน้าเขาออกก่อนที่จะต้องโดนจับกินอีกรอบ เมื่อคืนนี้กว่าจะได้นอนก็ทำเอานางแทบหมดแรง หากจะต่ออีกรอบนางคงไม่มีแรงไปรับมือกับเจ้าสองแสบนั้นแน่ ๆ เลย " พอได้แล้วเจ้าค่ะท่านพี่ ป่านนี้เจ้าสองแสบคงใกล้ตื่นแล้ว ให้ข้าช่วยแต่งตัวให้ท่านก่อนดีกว่านะเจ้าค่ะ " " อืม...ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือ " เสียงทุ้มครางในลำคออย่างขัดใจ " หากท่านจะรังแกข้าอีกละก็ข้าจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้รบกับเจ้าสองแสบละเจ้าค่ะ.....ท่านพี่ ท่านจะมิใจร้ายไปหน่อยหรือเจ้าค่ะ " " ก็ได้...ครั้งนี้พี่จะปล่อยเจ้าไปก่อนก็แล้วกัน..." แต่ก่อนที่จะปล่อยให้นางเป็นอิสระก็ยังมิ
จวนแม่ทัพ ตงเฟยหลง มองร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง ลมหายใจสม่ำเสมอ แสงเทียนเพียงหนึ่งเล่มที่นางจุดทิ้งไว้ทำให้เขามองเห็นใบหน้าของนางชัดเจน ใบหน้าหวานดูสดใส มีน้ำมีนวลขึ้นมากกว่าตอนที่เขาจากไป ร่างสูงล้มตัวลงนอนข้าง ๆ นางมือหนาโอบกอดคนตัวเล็กไว้ จุมพิตหน้าผากนูนด้วยความคิดถึง สูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากซอกคอขาวผ่อง ชวนให้เลือดในร่างสูบฉีด " อืมมม " เสียงหวานครางเบา ๆ เมื่อมีอะไรบางอย่างมาคลอเคลีย ที่ซอกคอของนางมือเล็ก ๆ ยกขึ้นมาปัดป่ายเพื่อให้เจ้าสิ่งนั้นออกไปให้พ้น โดยที่นางยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร คนตัวโตหยุดนิ่ง มองคนขี้เซายิ้ม ๆ ที่ตอนนี้ดึงเอาผ้าห่มผืนบางขึ้นมาคลุมตัวไว้ ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง ในตอนใกล้รุ่งสางของวันใหม่ อากาศเริ่มเย็นลงทำให้ร่างบางขยับเขาหาไออุ่นจากผ้าห่มผืนใหญ่ที่อ้าแขนรับนางเข้าไปกอดไว้ กลิ่นอายจากคนตัวโตและสัมผัสที่คุ้นเคยทำให้นางยิ่งบดเบียดร่างกายเข้าไปแนบชิดกับแผงอกกว้างมากยิ่งขึ้
เว่ยอิ่นฉี ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ที่ลูกชายนำคนมาช่วยตนได้ทันเวลา แล้วมองแม่ทัพตงอย่างท้าทาย " หึ ... เห็นทีจะไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าคิดเสียแล้วล่ะ ตงเฟยหลง " " ไม่เห็นจะยากตรงไหน..แค่เพิ่มห้องขังอีกซักสองสามห้องก็เท่านั้น " ท่านแม่ทัพยังตอบด้วยท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย แถมยังยิ้มแย้มมากขึ้นอีกด้วย " ทำเป็นพูดดี ไปเถอะ .......ฆ่าพวกมันให้หมด " พอสิ้นเสียงของใต้เท้าเว่ย ลูกชายและลูกสมุนของเขาก็เข้าปะทะกันกับเหล่าทหารในทันที " มู่เฉิน...เจ้าเฝ้าเขาไว้ " " ขอรับ " ตงเฟยหลงที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับใต้เท้าเว่ยที่ยืนนิ่งขยับไม่ได้ เขาผลักใต้เท้าเว่ยไปให้มู่เฉิน ก่อนที่จะเข้าปะทะกับคนของฝ่ายตรงข้าม อย่างดุเดือด " ท่านพ่อ ... ส่งตัวท่านพ่อข้ามาเดี๋ยวนี้นะ " " อยากได้ก็เข้ามาเอาเองสิ " " เจ้าหน้าหยก..ข้าฝากด้วยนะ ...ข้าเหม็นขี้หน้าเจ้าบ้านี่เต็มทีแล้ว...ขอสักทีแหะ " กุนซือจ้าว
ตงเฟยหลง ให้ห้าวชวนนำตำแหน่งที่ตั้งของเมืองแร่ และแผนการ การบุก ไปส่งให้รองแม่ทัพมู่เฉิน ที่ปักหลักรออยู่นอกเมือง ให้พวกเขาได้เตรียมพร้อมในการล้อมจับในครั้งนี้ " ท่านแม่ทัพ ข้าว่ามันดูรายรื่นจนเกินไปนะขอรับ " เมื่อกุนซือจ้าวเอ่ยเช่นนั้น ทำให้ท่านแม่ทัพที่กำลังนั่งเช็ดดาบคู่ใจอยู่ ต้องชะงักไป เงิยหน้าขึ้นมาสบตา กุนซือหน้าหยก ที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว " แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ " " งานใหญ่ขนาดนี้พวกมันต้องมีกำลังพลมากเป็นแน่......หรือไม่ก็ต้องจ้างนักฆ่าฝีมือมีดีไว้เรียบร้อยแล้ว " ท่านแม่ทัพคิดตามสิ่งที่เจ้ากุนซือหน้าหยกพูด หากเป็นเช่นนั้นจริงล่ะก็... " หรือเจ้าคิดว่านี่เป็นกับดัก " กุนซือจ้าวพยักหน้ารับ แล้วพูดต่อ " ใช่หากเป็นท่านจะทำอย่างไร จึงจะปกปิดหลักฐานทั้งหมดได้ในเวลาอันสั้น " " ง่ายนิดเดียว...ระเบิดทั้งก็สิ้นเรื่อง .....หรือเจ้าคิดว่าพวกมันจะล่อพวกเราเข้าไปข้างในแล้วระเบิดไปพร้อมกับของกลาง " " ใช่...
จวนท่านแม่ทัพ จ้าวฟางลู่ นางนั่งอ่านจดหมายที่ท่านแม่ทัพส่งมาให้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นางรู้สึกว่าคุณสามีของนางช่วงนี้ชอบพูดแต่คำหวาน ๆ เขียนจดหมายมาบอกรักบอกคิดถึงนางกับลูกได้ทุกวัน อาเต๋อ ยื่นหน้าไปใกล้ ๆ กับเจียวซิน ที่ยืนเก็บดอกไม้อยู่และสะกิดร่างบางเบา ๆ เมื่อนางหันมาทำให้ริมฝีปากบางสัมผัสกับแก้มสากพอดี ทำให้คนตัวโตยิ้มอย่างพอใจ นางผลักเขาออกเบา ๆ อย่างขวนอาย จ้าวฟางลู่ มองดูคนทั้งคู่หยอกเย้ากันไปมาแล้วยิ้มบาง ๆ ' เห็นที ท่านพี่กลับมาต้องจัดงานแต่งให้สองคนนี่ เสียที ' เมืองหนานซี ตงเฟยหลง ให้หยางหลี่เวย พามาเดินเที่ยวเล่นที่ตลาดก่อนเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย จ้าวเฟยหลิง มองตามหลังร่างบางที่วันนี้ แม่นางน้อยหลี่เวย นางดูเหมือนจะรักษาระยะห่างจากเขา อย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาเดินเข้าใกล้นาง นางก็จะเดินหนีไปอีกทาง ไม่มองหน้าไม่สบตา พวกเขาเดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย ๆ จน
จวนนายอำเภอหยาง ตงเฟยหลง มาถึงเมืองหนานซี ก็รีบปรึกษาหารือกันกับท่านลุงของเขาทันที " ภูเขาลูกนี้ลุงให้คนไปสืบมาแล้ว ที่บริเวณหลังเขา มีการเกณฑ์ชาวบ้านไปทำงาน ขุดเหมืองแร่ และ ลักรอบผลิตอาวุธ แต่ลุงยังไม่แน่ใจว่ามีทางเข้ากี่ทาง " ท่านนายอำเภอหยางชี้แผนที่ให้บุคคลทั้งสองดู " ไม่เป็นไรขอรับท่านลุง พวกข้าจะสืบต่อเอง " " แต่พวกเจ้าไม่ชำนาญพื้นที่ ข้าจะให้คนนำทางพวกเจ้าเอง " กุนซือจ้าว เองก็พยักหน้าเห็นด้วย เขามองแผนที่ และจดจำจุดเด่นต่าง ๆ ของสถานที่เอาไว้ในหัว " ข้าขออาสา พาพี่ชายทั้งสองไปเที่ยวเองเจ้าค่ะ " เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นที่หน้าประตู ทำให้บุรุษทั้งสามหันไปมองนางด้วยสายตาที่แตกต่าง " เจ้าจะมาป่วนให้แผนล่มนะสิไม่ว่า " นายอำเภอหยาง เอ่ยเสียงเข้มใส่ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา ที่นางทำตัวไม่เหมือนกุลสตรีเอาเสียเลย ชาตินี้ไม่รู้ว่าจะมีบุรุษโชคร้าย คนไหนที่จะได้แต่งกับนาง " ให้ หลี่เวย พาพวกข้าไปก็ได้ขอรับ ผ