"ละ ล้วงงั้นเหรอคะ" เจ้าสาวหมาดๆ เบิกตาโพลง ริมฝีปากเอิบอิ่มเผยอค้าง อีกฝ่ายไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะกดยิ้มที่มุมปากแล้วหลุดเสียงในลำคอเบาๆ
@หนึ่งชั่วโมงต่อมา ซ่าาาาา~ เสียงน้ำจากฝักบัวที่ในตอนแรกแรงจัดค่อยๆ เงียบลงเมื่อมือเรียวค่อยๆ บรรจงปิดน้ำอย่างเชื่องช้า ใบหน้างดงามแนบเข้ากับผนังกระเบื้องเย็นเฉียบของห้องน้ำ ดวงตากลมโตหรี่ลงพยายามฟังเสียงจากทางด้านนอกว่ามีเสียงของการเคลื่อนไหวหรือเสียงของใครเล็ดลอดให้พอได้ยินอยู่หรือเปล่า เปี่ยมรักสัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า เอ๋ หรือว่าเขาจะหลับไปแล้ว? รอยยิ้มกรุ้มกริ่มประดับบนใบหน้างดงาม มือเรียวยกขึ้นมาวางทาบบนอก ค่อนข้างโล่งเมื่อสิ่งที่อยากให้เกิด สุดท้ายแล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ มือเรียวเลื่อนไปเปิดประตูห้องน้ำ ก้าวขาแตะลงพื้นอย่างระมัดระวัง แล้วร่างสูงโปร่งที่นอนเหยียดตัวยาวบนเตียงขนาดคิงไซส์ก็ทำให้คนตัวเล็กระบายรอยยิ้มได้กว้างมากกว่าเดิม "ค่อยยังชั่วหน่อย คิกๆ" มือเรียวยกขึ้นมาป้องปากเปล่งเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ อย่างชอบอกชอบใจ อย่าพึ่งคาดหวังเถอะว่าจะได้ล้วงเธอ แค่ให้เห็นขาอ่อนก็ยังไม่อยากจะยอมเท่าไหร่เลย ยังไงช่วงนี้เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงออกไปก่อน ถึงเธอจะยอมแต่งด้วยความเต็มใจ ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากได้เวลาศึกษาดูใจเขาสักหน่อย อย่างน้อยๆ เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง เปี่ยมรักเดินไปแต่งตัว พยายามรักษาจังหวะการเดินแทบทุกย่างก้าว ไม่นานก็ปิดไฟภายในห้องนอน ค่อยๆ ก้าวขาขึ้นเตียงแบบเนียนๆ บนมุมปากกระตุกรอยยิ้มน้อยๆ เมื่อแผ่นหลังบางสัมผัสกับความนุ่มของเตียงนอนราคาแพงที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ไอความเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบลงมาบนแก้มนวล เตียงนอนของเขามันกว้างมาก มากชนิดที่ว่า เธอสามารถนอนสบายโดยที่แขนไม่แตะโดนร่างกายของคนที่นอนข้างๆ เลย ในยามที่นึกอะไรได้สักอย่าง เปี่ยมรักค่อยๆ ดันตัวลุก กราบลงที่หมอนก่อนนอนเหมือนตอนอยู่บ้าน ในยามที่ทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง ดวงตากลมโตถึงยอมปิดลง หมับ~ "เฮือก..." คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงเมื่อท่อนแขนแกร่งตวัดพาดลงมาบนเอวคอดกิ่วทั้งที่พึ่งจะหลับตา ลมหายใจเข้าออกที่ปกติในตอนแรกเริ่มแรงเพราะคนข้างๆ ขยับเข้ามาใกล้ ปลายจมูกโด่งเฉียดมาโดนที่แก้มของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ คนที่ถูกกอดนอนตัวแข็งทื่อ พยายามควบคุมลมหายใจที่เข้าออกเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาใหม่ ราวห้านาทีที่เปี่ยมรักนอนนิ่งไม่เคลื่อนไหว สุดท้ายเมื่อเห็นว่า อีกฝ่ายไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรต่อ มือเรียวจึงค่อยๆ คว้ามือหนา หวังจะดันเขาออกห่างจนเธอหลุดพ้นจากพันธนาการ "หอมจัง..." "เฮือก..." ในความมืดดวงตากลมโตเบิกกว้าง หญิงสาวหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างและเลือกที่จะนอนนิ่งแบบเดิมอีกครั้ง หญิงสาวกลืนก้อนเหนียวๆ ลงคอหนักๆ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามเบาๆ "ยะ ยังไม่นอนเหรอคะ" "..." "ฮะ เฮีย" "..." "นอนรึยังคะ" ไร้เสียงตอบรับจากคนข้างๆ หมายความว่าเสียงที่หลุดออกมาละเมอสินะ "วันนี้ทำไมหมอนหอมจังวะ" เสียงพึมพำจากริมฝีปากหนาดังออกมาอีกครั้ง เป็นจังหวะที่ใบหน้าคมคายซุกไซ้ ฝังปลายจมูกโด่งลงมาที่ซอกคอของเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนผะผ่าวที่เป่ารดลงมาบนต้นคอ ความรู้สึกแปลกๆ ถาโถมเข้าใส่จนอยากจะถอยหนี ทั้งซุกทั้งกอด ทำไมเธออยากจะมองว่าเขายังไม่หลับ เธอควรดันตัวเองให้ลุก จากนั้นจะได้พิสูจน์ว่าสิ่งที่เธอคิดมันเป็นจริงหรือเปล่า แต่ถ้าเธอทำแบบนั้น หากตอนนี้เขาหลับอยู่จริงๆ นั่นก็หมายความว่าเธอกำลังปลุกให้เขาตื่น และถ้าเขาตื่น มันจะเป็นไปได้ไหมว่าเขาจะทวงสิทธิ์ของเขา สิทธิ์ของความเป็นสามีภรรยา เปี่ยมรักนอนนิ่งอย่างคิดไม่ตก เกิดมาเคยถูกใครนอนกอดเสียที่ไหน แต่เอาวะ ระหว่างถูกกอดกับถูกล้วง กอดยังจะดีเสียกว่า อย่างน้อยๆเธอก็ยังไม่สูญเสียสิ่งที่หวงแหนในคืนวันแรกที่แต่งงาน ท่องไว้ยัยรัก เดี๋ยวสักพักเขาก็คงขยับออกไป หรือไม่ก็คงต้องเปลี่ยนท่านอนใหม่ในเร็วๆ นี้แหละ คนตัวเล็กปลอบตัวเอง พยายามหักห้ามใจไม่ให้รู้สึกหวั่นไหวไปกับกลิ่นกายหอมของคนตัวโต หมับ~ "เฮือก..." คราวนี้หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรงแทบหลุดออกมานอกเบ้า มือของเขาวางหมับลงที่เนินเนื้ออวบอิ่มที่ไม่เคยมีใครหน้าไหนได้สัมผัสมาก่อน คนตัวเล็กกัดฟันแน่น ท้ายที่สุดในตอนที่นิ้วเรียวทั้งห้าขยับบีบเคล้นที่เนินอกอวบอิ่ม เปี่ยมรักคว้าหมับที่มือหนา ตั้งใจจะปัดทิ้งทันที แต่สุดท้ายคำว่า หากเขาตื่นเธอจะเจอมากกว่านี้ หญิงสาวจำต้องหยุดมืออย่างจงใจ ต้องปล่อยให้กอด ให้จับ ให้บีบเพราะยังไม่อยากโดนล้วงแค่นั้นเอง @วันต่อมา "อื้อออ~" ร่างสูงโปร่งบนเตียงขยับตัวเชื่องช้า หางตาแอบเห็นว่าคนที่หลับนอนบนเตียงเดียวกันเมื่อคืนนั่งอยู่บนโซฟาในมือถือโทรศัพท์ "เช้าแล้วเหรอเนี่ย หลับไปตอนไหนวะ" คนฟังกรอกตาไปมา สรุปเมื่อคืนคงละเมอ แค่ละเมอยังหื่นขนาดนี้ ทั้งซุก ทั้งบีบ ทั้งเคล้น หากเวลาปกติจะเป็นแบบไหนกัน "เป็นไรอ่ะ ทำไมเงียบ คิดอะไรอยู่" "เปล่าค่ะ รักตื่นนานแล้วแต่ต้องรอลงไปด้านล่างพร้อมกันเพราะเมื่อคืนผู้ใหญ่กำชับไว้" "อ้อ เมื่อคืนหลับไปได้ไงวะ เธออาบน้ำนาน?" "ปะ เปล่าค่ะ รักอาบไม่นาน เฮียคงเหนื่อยแล้วผล็อยหลับไป" "งั้นเหรอ เลยไม่ได้..." คนถูกมองเฉไฉมองไปทางอื่น เหมือนเธอจะรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร "เมื่อคืนหลับสบายไหม โทษทีนะ ฉันลืมไปเลยว่าเมื่อคืนเธอนอนข้างๆ แอร์เย็น ชุดเครื่องนอนใหม่ ทั้งหอมทั้งนุ่ม คุณแม่เลือกได้ดีจริงๆ" "ไปอาบน้ำไหมคะเราจะได้ลงไปด้านล่าง รักหิวแล้ว" "ปกติฉันไม่ใช่คนตื่นสายหรอกนะ แต่การนอนเมื่อคืนมันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ แล้วทำไมฉันมานอนตรงนี้ ฉันเบียดเธอเหรอ?" เปี่ยมรักปรายตาไปมองที่เตียง รอยยับของที่นอนเพียงฝั่งเดียวบ่งบอกว่าเมื่อคืนเขานอนเบียดเธอ เบียดชนิดที่ว่า ไม่สามารถมีอะไรมาแทรกกลางระหว่างเธอและเขาได้อย่างแน่นอน "ค่ะ เฮียขยับมานอนเบียดรัก" "เหรอ แล้วฉันได้จับอะไรเธอรึเปล่า" คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำถามนี้จากเขา หญิงสาวขบกัดกลีบปากตัวเองแน่น ไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนมุมปากของอีกคน เธอแกล้งอาบน้ำนานเพราะอยากให้เขาหลับ เขาเลยแกล้งจับแบบเนียนๆ ------ แกล้งเมียแบบเนียนๆ เฮียไงจะใครล่ะ 555555"โอ้โห! นี่กล้าทำน้องเลยเหรอเฮีย...อ้าวเจ้!" เสียงของภูพิงค์ในประโยคท้ายส่งผลให้คนตัวโตที่ยืนหันหลังให้กับใครบางคนที่อาจจะอยู่ทางด้านหลังของเขาชะงักไป"อย่ามากวนตีน""อ้าวเฮีย พูดไม่เพราะเลยว่ะ เฮียคิดว่าน้องแกล้งว่างั้น?" ภูพิงค์เลิกคิ้วถามพลางยกยิ้มที่มุมปาก ท่าทีแบบนี้นั่นแหละที่ทำให้ภูมิรพียังคงอยู่ในอิริยาบทเดิม "เฮียกำลังจะบอกว่าเฮียไม่เชื่อน้องที่น้องเรียกเจ้งั้นเหรอ?" คนฟังชักสีหน้าด้วยความหงุดหงิด ไม่ได้สละเวลาคิดด้วยซ้ำว่าที่ภูพิงค์เรียกใครอีกคนจากทางด้านหลังมันคือเรื่องจริงรึเปล่า แต่คราวนี้เขาเลือกที่จะหันกลับไปยังทิศทางด้านหลังของตัวเองด้วยตัวของเขาเอง ครั้นพอดวงตาคมกริบประสานเข้ากับร่างแบบบางที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาจริงๆ ภูมิรพีชะงักไปทันที เสียงภายในห้องครัวเงียบลง ส่วนคนที่พึ่งจะเข้ามาใหม่ก็ได้แต่ยิ้มเจือนๆ กลับไปเช่นกัน "ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะค่ะ พอดีว่ารักอยากได้น้ำส้มเพิ่มก็เลยเดินลงมา" คนฟังจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น เห็นชัดเจนว่าหญิงสาวในชุดนอนสีขาวลายตัวการ์ตูนสีดำ เลี่ยงการสบตากับเขาอย่างชัดเจน "...เชิญ" ภูมิรพียอมหลีกทางจากพื้นที่หน้าตู้เย็นแต่โดยดี ส่
"ยิ้มอะไรอ่ะ" "แล้วคิดว่าไงล่ะ" คำพูดยอกย้อนของคนตัวโตส่งผลให้เจ้าสาวป้ายแดงเผลอถลึงตากลับ แต่ครั้นพอเห็นดวงตาคมหรี่ลงต่ำมองในระดับที่ต่ำกว่าลำคอระหง คนถูกมองรีบดันตัวลุกจากเตียงกว้าง ไม่สนแม้ว่าตนจะเปลือยเปล่า เลือกที่จะก้าวขาลงจากเตียงแล้วเดินนวยนาดเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็วคนที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนอย่างภูมิรพีไล่สายตามองตามหลังแบบไม่ละสายตา ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคออีกครั้ง หน้าเป๊ะ หุ่นปัง สุดท้ายชายหนุ่มจำต้องละสายตาจากร่างเย้ายวนแล้วเหลือบมองที่แกนกายของตัวเองด้วยความหนักใจทั้งที่พึ่งจะปลดปล่อย แต่เท่าที่เห็นตอนนี้ความใหญ่โตก็คงจะสู้ไม่ถอย ตั้งเด่นเป็นลำยาว เจ้าแกนกายยักษ์มันสั่งให้เขาสาวเท้าตามแล้วเข้าไปซ้ำอีกสักดอกสองดอกตรงไหนดีล่ะ อ่างอาบน้ำหรือเคาร์เตอร์ล้างหน้าที่มีเงาสะท้อนของกระจกดี ตรงไหนนะที่มันจะฟินและดีมากกว่ากัน!ใบหน้าหล่อเหลาหลุดความพอใจให้กับความคิดของตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วบางความคิดที่หลุดเข้ามาในหัวก็ทำให้เขาแทบหุบยิ้มไม่ทัน"...ขืนทำแบบนั้นเดี๋ยวยัยนั่นก็หาว่าติดใจ ติดใจงั้นเหรอ เหอะ! ไม่มีทาง" ครึ่งชั่วโมงต่อมา"สรุป วันม
บ้าเอ้ย อีตาบ้า! เปี่ยมรักกรีดร้องในใจพลันแก้มนวลก็ร้อนผะผ่าว เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มที่มุมปาก ในจังหวะที่กำลังจะผละตัวออกห่าง อีกฝ่ายเลื่อนมือเข้ามาประคองสองแก้มนวลเนียน ดวงตากลมโตเบิกกว้างพลางตวัดขึ้นประสานกับเจ้าของมือเย็นที่เป็นเจ้าของพันธนาการ ในตอนที่สบตากันหัวใจดวงน้อยยิ่งเต้นรัวแรงไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใด ริมฝีปากร้อนก็ประกบลงมาครอบครองเรียวปากนุ่มเอิบอิ่มอย่างรวดเร็ว"อื้อออ~" สัมผัสที่รวดเร็วแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนส่งผลให้ขาสวยอ่อนระทวยสัมผัสที่ปาก แต่คล้ายว่าเขากำลังดูดกลืนเรี่ยวแรงไปจากเธอจนหมดสิ้น เจ้าสาวป้ายแดงหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ลิ้นสากรุกรานเข้ามาในโพลงปากบางโดยไร้การต่อต้านใดๆ จากเธอหมับ~"อื้อออ~" มือหนารั้งเอวคอดกิ่วเข้ามาประชิดลำตัว ขายาวมันคงสาวไปที่เบื้องหน้า ดันร่างแบบบางให้ขยับถอยหลัง ไม่นานนักขาสวยก็ประชิดกับเตียงกว้าง ท่อนขาแกร่งดันหุ่นเย้ายวนให้ล้มลงไปกับเตียง ตามด้วยร่างหนาที่ถาโถมตัวทาบทับลงไปส่งผลให้ความใหญ่โตบดกระแทกเข้ากับกลีบกุหลาบอวบนูนที่ถูกห่อหุ้มด้วยกางเกงชั้นในอย่างดีและเนื้อผ้าอีกตัวที่สวมใส่อยู่ชั้นนอก"ระ รีบร้อนจังเลยนะคะ" คนที่พยายามไขว่คว
"เฮียภูมิแต่งงานกับรักเพราะแม่เบญและพ่อภีมอยากอุ้มหลาน จะบอกว่าที่ยอมให้แม่ของลูกเป็นรัก เพราะเฮียชอบรักแบบนั้นเหรอคะ?" ความตกใจกับคำพูดที่ได้ฟังส่งผลให้เปี่ยมรักย้อนถาม ใบหน้าขาวนวลแดงก่ำขึ้นมาเรื่อยๆ โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัวแม้จะไม่ค่อยอยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ฟังเท่าไหร่นัก แต่คนอย่างภูมิรพีจะพูดเล่นๆ แบบนี้ให้มันได้อะไรขึ้นมา"แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ""อ้าว..." คิ้วสวยขมวดยุ่ง มองคนตัวโตที่ยักคิ้วมองเธอด้วยท่าทีกำกวม"ฉันบอกไปแล้ว และฉันก็เป็นคนที่ไม่ชอบพูดอะไรซ้ำๆ" "ดะ เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยวสิคะ" เปี่ยมรักคว้าหมับที่มือหนาเมื่อคนตัวโตเลื่อนมือลงไปที่ระดับเข็มขัด และเสียงปลดเข็มขัดนั่นแหละที่ทำให้เธอร้อนรนในประโยคหลังจนตั้งรั้งมือของเขาด้วยมือของตัวเองเกิดกลัวว่าผัวหมาดๆ จะแก้ผ้าต่อหน้าเธอขึ้นมา! "อะไร" "รักยังคุยกับเฮียภูมิไม่รู้เรื่องเลยนะคะ" "โตๆ กันแล้ว เรื่องแค่นี้ทำไมต้องทำเป็นไม่รู้เรื่อง" "อ้าว..." "แล้วมือนี่ยังไง อยากถอดให้เหรอ?""ไม่ใช่สักหน่อย" คนตัวเล็กรีบชักมือกลับ ลืมคิดไปว่ามือของเธอมันอยู่ในระดับที่ไม่ควรเท่าไหร่นัก แล้วไหนจะหน้าหล่อๆ นิ่งๆ ที่เป็นเสน่ห์ของเขา มันทำให้เธอ
"อ้าว..." เปี่ยมรักพึมพำตามหลังคนตัวโตที่ลุกจากโซฟาแล้วก้าวขายาวๆ ออกไปจากห้องนั่งเล่นในเวลาต่อมาหน้าตึงๆ กับคิ้วหนาเข้มที่ขมวดเข้าหากันยุ่ง ไม่เข้าใจเลยว่าคนตัวโตรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องอะไรถึงอย่างนั้นความรู้สึกเขินอายในสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งจะรับรู้เกี่ยวกับเธอมันก็ทำให้เปี่ยมรักลืมลงลึกค้นหาความหมายในท่าทีไม่พอใจที่คนตัวโตเพิ่งจะแสดงมันออกมามือเรียวยกขึ้นลูบแก้มของตัวเองเบาๆ ความรู้สึกในใจมันต่อต้าน ต่อให้เธอจะอ่านหนังสือและเสพเนื้อหาสิบแปดบวกอย่างลึกซึ้ง ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้เก่งแบบในนางเอกนิยายสักหน่อยเนื้อหาในนิยาย นางเอกสายหื่นขย่มได้ขย่มดี แต่พระเอกก็ชอบซะด้วยสิ ทั้งรักทั้งหลง มีร้อยให้ร้อย มีล้านให้ล้าน หลงเมียหัวปักหัวปำ หรือเธอควรเอาอย่างนางเอกในหนังสือดี?"บ้าเอ้ย ยัยรักนี่!" มือเรียวตบเบาๆ ที่แก้มของตัวเองเป็นเชิงเรียกสติ เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ที่เผลอไปคิดเรื่องอะไรที่มันไร้สาระบรรยากาศบนโต๊ะอาหารในมื้อค่ำ ทุกคนยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบเดิม พ่อแม่สามียังคงพูดคุยหยอกล้อสร้างความคุ้นเคยไม่หยุดหย่อน น้องเล็กของบ้านยังขี้เล่นสร้างความเป็นกันเองจนผู้ที่ก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้
มื้อเช้าผ่านพ้นไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนภายในบ้านภีมพลและเบญญามีร้านอาหารเล็กๆ ที่บรรยากาศแสนอบอุ่นที่ยังอยู่ในความดูแลหลังจากที่ปล่อยงานที่บริษัทให้ลูกๆ จัดการและดูแลภูมิรพีและภพนิพิฐสองหนุ่มวัยสามสิบกว่าสายเลือดนักธุรกิจโดยแท้ตอนนี้รับผิดชอบงานแทนพ่อแม่เต็มตัวภูพิงค์ที่เรียนจบมาไม่นานกำลังอยู่ในช่วงเข้าไปเรียนรู้งานตั้งเป้าว่า รออีกสักสองสามปีพอที่เด็กหนุ่มที่กำลังรักสนุกและอยากเที่ยวอย่างภูพิงค์อิ่มตัว ก็คงจะเข้ามาเรียนรู้อย่างจริงจังเพื่อช่วยพี่ๆ บริหารต่อไปบริษัทส่งออกอะไหล่ยนต์ เหมือนจะเข้าท่า เพราะเบญญาและภีมพลมีลูกสามคนล้วนเป็นหนุ่มๆ ทั้งสาม ผู้ชายก็คงจะถนัดและเรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของรถได้ไม่ยาก ทุกอย่างจึงเดินหน้าไปได้อย่างสวยงามและลงตัวหลังจากมื้ออาหาร ทุกคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของใครของมัน ส่วนคนที่พึ่งแต่งงานไปหมาดๆ พ่อและแม่กำชับอยู่บ่อยครั้ง ว่าควรใช้เวลานี้อยู่ด้วยกันเพื่อเรียนรู้กันและกันอ่านอะไรนักหนา อ่านไปอ่านมาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ภูมิรพีปรายตามองเมียสาวที่นั่งเหยียดขาบนโซฟาด้วยความสนใจทีวีจอใหญ่ภายในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ในขณะที่อีกคนกำลังอ่านห