Share

5

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-02 20:45:36

หนึ่งเค่อต่อมา

สุวิมลหรือซูวี่ในยุคนี้กลับมาถึงบ้านพักที่ทางร้านจัดหาเอาไว้ให้คนงานได้พักอาศัย 

“วันนี้เจ้ากลับดึกนะซูวี่”

“อือ ข้าไปหาซื้อยาให้ลี่ชุนแต่ร้านยาปิด ก็เลยซื้อโจ๊กมาให้นางแทน” เธอตอบเพื่อนร่วมงานที่พักอยู่ห้องติดกัน

“ตัวนางร้อนมาก ข้าเพิ่งไปช่วยเช็ดตัวให้นางมา”

“ขอบใจนะ” ซูวี่กล่าวอย่างซาบซึ้งน้ำใจแล้วเดินเข้าห้องพัก “ข้ากลับมาแล้วลี่ชุน”

“กลับมาแล้ว.. ปากเจ้าไปโดนอะไรมาซูวี่!” ลี่ชุนพยายามประคองตัวเองจากที่นอน

“ไม่ต้องลุก นอนพักไป” ซูวี่รีบวางของแล้วประคองให้หญิงสาวนอนลง

“หน้าเจ้าไปโดนอะไรมา”

“ข้าแค่ซุ่มซ่ามนิดหน่อย” นางตอบแล้วแตะมือกับหน้าผากของลี่ชุนด้วยความเป็นห่วง “ตัวเจ้าร้อนมากเลย มีอาการอื่นด้วยไหม” 

หญิงสาวใบหน้าซีดเซียวคลี่ยิ้มเนือย ๆ นางรู้สึกเวียนหัว เริ่มปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ บางครั้งร้อนบางครั้งหนาวสั่น แต่ก็ไม่อยากให้คนอื่นต้องวิตกกังวล

“ข้าไม่เป็นไร”

“แน่ใจนะ”

ลี่ชุนจับมือของสตรีที่นางเคยให้ความช่วยเหลือเอาไว้เพียงเล็กน้อย แต่นางกลับตอบแทนบุญคุณมาให้จนรู้สึกว่ามันมากเกินไป 

“ไม่ต้องห่วงข้านักหรอก ข้ารู้จักร่างกายของข้าดีกว่าเจ้านะพี่สาว”

“ถ้ารู้สึกไม่ดีก็รีบบอกข้านะ”

“อือ”

“กินข้าวก่อนเถอะ เจ้าคงจะหิวแล้วสิ”

“ไม่หิวหรอก ข้ารู้สึกอิ่มอยู่ตลอดเวลา”

“ทำไมถึงอิ่มล่ะ หรือว่าหลิวหลิวแบ่งข้าวมาให้เจ้าด้วย” นางหมายถึงเพื่อนข้างห้องที่มาช่วยดูแลนาง

“เสี่ยวหมานน่ะ เขาแวะมาเยี่ยมข้าตั้งแต่ตอนหัวค่ำ”

“เสี่ยวหมาน” ซูวี่ถามเสียงสูง ชักสีหน้าไม่ค่อยพอใจ “มิน่าถึงรีบออกจากร้าน” หลังจากที่ฝ่ายนั้นหาเรื่องนางแล้วก็คงแล่นมาที่นี่เลยสินะ หน้าด้านเสียจริง! 

“เจ้าทะเลาะกับเขาอีกแล้วใช่ไหม” ลี่ชุนเดาจากสีหน้าท่าทางของอีกฝ่าย ถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“เปล่าหรอก ข้าก็แค่โมโหเขาที่ทิ้งงานไว้ให้พวกข้าแล้วมาเสนอหน้าเยี่ยมเจ้า”

คนป่วยที่ใบหน้าซีดเซียวคลี่ยิ้มด้วยความขบขัน “จริง ๆ แล้วเสี่ยวหมานเขาไม่มีอะไรหรอก ถ้าเจ้าเปิดใจให้เขาสักนิดเจ้าจะรู้ว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจคนหนึ่งเลยทีเดียว”

ซูวี่ถอนหายใจแรง ๆ ด้วยความขัดเคืองใจอย่างที่สุด คงมีแค่นางคนเดียวที่มองว่าไอ้ยักษ์ปักหลั่นนั่นเป็นคนดี และคงมีนางแค่คนเดียวอีกเหมือนกันที่มันทำดีด้วย

“นอนพักเถอะ ข้าจะไปอาบน้ำก่อน”

“ข้าต้มน้ำให้ไหม”

“ลี่ชุน”

“หือ” 

“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดีมีน้ำใจ แต่เจ้าควรดูสังขารตัวเองด้วยนะ” ซูวี่ตำหนิเด็กสาววัยสิบแปดปี นางมีอายุน้อยกว่าเธอถึงเจ็ดปี แต่เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นกรำงานหนักจนมือเท้าแตกด้าน ถ้าเทียบกับวัยเดียวกันในยุคที่เธอเคยอยู่ ส่วนใหญ่ยังเกาะพ่อเกาะแม่กิน มีหน้าที่เรียนอย่างเดียวเท่านั้น “นอนซะ ถ้าข้าเห็นเจ้ายังลืมตาอยู่ ข้าจะโกรธ”

“นอนก็ได้” อีกฝ่ายฝืนยิ้มสู้กับอาการปวดศีรษะที่พุ่งปรี๊ดเข้ามาอย่างไร้เหตุผล รีบพลิกตัวเข้าหาผนังแล้วเม้มปากข่มกลั้นความเจ็บปวด ไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็นเพราะกลัวจะเป็นห่วง….

กลางดึกขณะที่ซูวี่กำลังนอนหลับอยู่นั้น หูของเธอก็แว่วได้ยินเสียงครางกระสับกระส่าย เธอลืมตาแล้วตั้งใจฟังก่อนจะรีบลุกขึ้นไปดูคนที่นอนห่างออกไปไม่ถึงวา.. วางมือทาบกับหน้าผากที่ร้อนระอุของนางแล้วก็รีบปลุกให้รู้สึกตัว หยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้

“เป็นอย่างไรบ้าง” 

“หนาวแล้วก็ปวดหัวปวดตัวมากเลย”

“เจ้าเป็นไข้หวัดใหญ่แน่ ๆ” ซูวี่คาดเดาอาการป่วยเริ่มต้นของหญิงสาวขณะหยิบผ้าห่มที่มีอยู่ทั้งหมดห่มให้นาง เอาผ้าชุบน้ำวางที่หน้าผาก

“ไข้หวัดใหญ่คืออะไร ข้าไม่เคยได้ยินเลย”

“ก็เป็นไข้นี่แหละ เจ้าควรรักษาตัวให้ดีก่อนที่อาการมันจะหนักกว่านี้ ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้ ดื่มน้ำอุ่นเยอะ ๆ แล้วก็ต้องกินยาให้ตรงเวลา แต่ถ้าตัวร้อนก็ต้องเช็ดตัวบ่อย ๆ จนตัวเริ่มเย็น มันจะทำให้ไข้ลดและหายไข้เร็วขึ้น” แต่ปัญหาตอนนี้คือไม่มียาให้นางกินสักอย่างเดียว อาการของนางก็ดูหนักมากเสียด้วยสิ “นอนพักซะ” 

ซูวี่เฝ้าดูอาการของหญิงสาวอย่างใกล้ชิด แต่ยิ่งเห็นก็ยิ่งหนักใจ เพราะนางเอาแต่นอนกระสับกระส่าย ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนา ฟันกระทบกันดังกึก ๆ ตลอดเวลา

แล้วอยู่ ๆ ก็นึกถึงชายหนุ่มรูปงามที่เธอรู้เพียงว่าเขาคือท่านชายกับผู้ติดตามที่ชื่ออวี่กง เธออยากเจอเขาตอนนี้แล้วถามว่าพอจะมียาที่รักษาลี่ชุนบ้างไหม 

เพราะเมื่อตอนบ่ายที่เจอกัน เขาสังเกตเห็นมือที่เป็นแผลพองจากการโดนกระทะของเธอ แล้วก็ขอยาจากคนที่ชื่ออวี่กงมาให้ พร้อมกับบอกสรรพคุณว่าดีเลิศที่สุดเท่าที่มีในลั่วอาน แค่ทาครั้งเดียวก็รู้สึกดีขึ้น 

และมันก็เป็นจริงอย่างที่เขาว่า อาการพองน้ำยุบแห้งหลังจากทาได้ไม่ถึงชั่วโมง อาการปวดแสบปวดร้อนก็ทุเลาเบาบางลงแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว พอตกเย็นก็แทบไม่เหลืออาการใด ๆ นอกจากรอยบาดแผลแดงจาง ๆ

บางทีเขาอาจจะเป็นหมอเทวดาก็เป็นได้ นางอยากเจอเขาเพื่อขอซื้อยามารักษาให้ลี่ชุน.. แต่ตอนนี้สิ่งที่นางทำได้ไม่ใช่มานั่งคิดถึงเขา แต่ต้องรีบไปเคาะประตูร้านขายยาเพื่อขอซื้อยาถึงจะถูก

“ลี่ชุน อดทนหน่อยนะ” เธอกระซิบบอกหญิงสาวที่เอาแต่ครางฮือ กระสับกระส่ายไปมา แล้วรีบออกไปจากห้องพัก ไปเคาะเรียกหลิวหลิวที่อยู่ห้องติดกัน และฝากฝังให้นางช่วยดูแลลี่ชุนแทนสักพัก

“รีบไปเถอะ ข้าจะช่วยดูแลนางให้เอง”

“ขอบคุณมากนะหลิวหลิว ขอโทษอาจางด้วยนะที่รบกวน” ซูวี่กล่าวกับหญิงสาวและสามีของนาง

“ไม่เป็นไรหรอก ให้ข้าไปซื้อยาให้ก็ได้นะ” อาจางรับอาสาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

“ไม่เป็นไร แค่ช่วยดูแลลี่ชุนให้ข้าก็พอ” นางไม่อยากให้ใครไปแทนเพราะกลัวจะบอกอาการไม่ถูกและได้ยาที่ไม่ตรงกับโรคมา “ข้าจะรีบไปรีบกลับ”

แค่เที่ยงคืนกว่า ๆ ที่นี่ก็เงียบกริบไร้ผู้คนเดินสวนกัน ความมืดบวกกับความวังเวงทำให้นางกลัวจนขนหัวลุก รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อไปถึงร้านขายยาให้เร็วที่สุด

“ใครน่ะ!” 

เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากด้านข้างทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว แต่ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเมื่อเห็นเป็นทหารยามสองคน 

“ดึกดื่นป่านนี้ออกมาทำอะไรเพียงลำพัง ไม่รู้หรือว่ามันอันตราย” 

“น้องสาวของข้าป่วยหนัก ข้ากำลังจะไปซื้อยาให้นาง” 

“เจ้ามาจากไหน” 

“ข้ามาจากท้ายตรอกไหมทอง”

“น้องสาวเจ้าอาการหนักมากเลยเหรอ”

“ใช่ นางมีอาการหนาวสั่นและเพ้อตลอดเวลา”

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะเดินไปเป็นเพื่อนเจ้า เพราะตอนนี้ที่นี่ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ามันจะลำบากต่อการทำงานของพวกเรา”

“ขอบคุณท่านทั้งสองมาก” หญิงสาวกล่าวอย่างซาบซึ้ง

“แต่เรากำลังอยู่ในหน้าที่นะอาสวง” ทหารอีกนายหนึ่งที่มาด้วยกันติงอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก “เอาอย่างนี้ดีกว่าไหม ส่งนางกลับไปก่อนแล้วเราค่อยไปรายงานต่อหัวหน้า ขอยาจากท่านแล้วเอาไปให้นางที่บ้านจะดีกว่านะ เพราะอีกไม่นานเราก็จะเปลี่ยนเวรแล้ว”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เจ้าสาวมังกร   61

    ห้องทำงานต้าเสินมองคนรักที่ยกถาดอาหารเข้ามากลางดึกด้วยสายตามึนตึง“เพิ่งกลับมาถึงไม่ทันไรก็รีบวิ่งเข้าครัวแล้ว เจ้านี่รักอาหารมากกว่าข้าอีกนะซูวี่”คนถูกต่อว่ายิ้มกว้าง วางถาดอาหารลงบนโต๊ะแล้วเดินไปหาคนรักที่นั่งเขียนอะไรอยู่ กอดคอและหอมแก้มเขาหนึ่งทีอย่างเอาใจ“ข้ารักท่านมากกว่าอาหารนะเจ้าคะ ถึงได้รีบเข้าครัวไปเตรียมอาหารรอบดึกให้ท่านด้วยตัวเอง เพราะหลายวันมานี้ข้าเห็นท่านกินได้น้อย ร่างกายก็ดูซูบลง” เห็นเขาอมยิ้มก็รีบหยอดคำอ้อนอ่อนหวานรอยยิ้มบางเบาค่อย ๆ คลี่กว้างขึ้นจนสุดฝีปาก ดึงร่างระหงที่สวมกอดอยู่ด้านหลังให้มานั่งบนตัก หอมแก้มหลายทีด้วยกัน“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าซูบเพราะกินได้น้อย”“ก็ข้าเห็น”“ข้าก็กินได้เป็นปกติของข้านั่นแหละ อยู่กับเจ้านี่แหละที่ข้ากินมากเกินไป”“แต่ท่านผอมลงจริง ๆ นะ ข้า..ข้ากอดอยู่ทุกคืนข้ารู้สึกได้” เธอตอบอย่างขัดเขินแต่ก็กล้าสู้สายตาด้วย“หึ..” ต้าเสินส่งสายตาหยอกเย้า “ที่ข้าผอมเพราะข้ากินเจ้

  • เจ้าสาวมังกร   60

    “หรือเจ้าจะให้ข้ากลับไปกับจี้เฟิงก่อนล่ะ แล้วเจ้าค่อยตามกลับไปพร้อมกับซูวี่ทีหลัง”เจอคำถามนี้เข้าไปอวี่กงถึงกับพูดไม่ออก นึกโมโหใส่คนตัวใหญ่ที่ยืนนิ่งเหมือนกลายเป็นรูปปั้นหินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขา มันก็คงไม่อึดอัดแบบนี้ตู้จี้เฟิงสบตาสู้กับสายตาเอาเรื่องที่เจตนามองมาที่ตนเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องในคืนนั้น คิ้วเข้มข้างขวาค่อย ๆ เลิกสูงขึ้น“ถ้าเจ้าไม่อยากไป ข้าไปคนเดียวก็ได้”“พูดแบบนี้อยากจะเอาหน้าคนเดียวเหรอ!”“ก็เจ้าไม่อยากไปเอง”“ไม่ต้องมาพูดให้ดูดีเลยนะ!”“อวี่กง”“พ่ะย่ะ..ขอรับท่านชาย”“จี้เฟิงเขาทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจหรือเปล่า” เขาสังหรณ์ใจว่าระหว่างสองคนนี้ต้องมีปัญหาอะไรกันแน่ ๆ แม้ปกติจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด แต่เขาก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้ให้เห็น“ปะ ๆ เปล่านี่ท่านชาย ทำ ๆ ไมถึงถามอย่างนั้นล่ะขอรับ” บุรุษร่างเล็กกว่าใครเพื่อนไม่กล้าสู้สายตาหลักแหลมของผู้เป็นนาย“ถ้าจี้เฟิงแกล้งเจ้า

  • เจ้าสาวมังกร   59

    “หวังว่าข้าจะไม่ได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของท่านอีก.. ส่วนเจ้า” ฮองเฮาหันไปทางหลานสาว มองนางด้วยสายตาจริงจัง “ข้าก็จะบอกเจ้าด้วยความหวังดีเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน เจ้าคิดว่าฝ่าบาทปล่อยให้องค์รัชทายาทไปอยู่นอกวังนานหลายเดือน จะไม่ส่งคนไปสืบดูเลยอย่างนั้นเหรอ”“ฝ่าบาททรงทราบเหรอเพคะ”“ใช่ ฝ่าบาททรงรู้เรื่องนี้ดี แต่พระองค์ก็ไม่ว่าอะไร ขอแค่นางเป็นคนที่องค์รัชทายาทรัก พระองค์ก็จะยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข ด้วยเหตุนี้ข้าจึงบอกให้เจ้าออกมาจากตำหนักนั้นซะ เพราะฝ่าบาทมีคำสั่งให้องค์รัชทายาทกลับมาพร้อมกับคนรักของพระองค์แล้ว เข้าใจที่ข้าพูดไหม”“เพคะฮองเฮา” เถียนเถียนยอมรับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่ได้เสียใจ แต่อับอายจนไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร นางพยายามดิ้นรนหาทางที่จะได้เป็นองค์หญิงรัชทายาท แต่ทุกคนกลับไม่ช่วยเพราะรู้เรื่องของสตรีต่างแคว้นผู้นั้นดี แบบนี้นางก็คงไม่ต่างกับตัวตลกในคณะละครเร่คฤหาสน์ชิวเทียน“อวี่กง”เสียงเรียกคุ้นหูทำให้คนที่ถูกเรียกไม่ได้หันไปมอง แต่รีบสาว

  • เจ้าสาวมังกร   58

    “ออกมาจากที่นั่นเถอะเถียนเถียน คนอย่างองค์รัชทายาทไม่ใช่คนที่ข้าสามารถต่อกรได้ด้วยหรอกนะ เพราะแม้แต่ฝ่าบาทยังไม่กล้ายุ่งเรื่องส่วนตัวของพระองค์”“ถ้าเราเอาความมั่นคงของบัลลังก์มาอ้าง บางทีพระองค์”“อย่าพูดคำนั้นในตำหนักของข้านะใต้เท้ากวง” ฮองเฮารีบปรามก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ แม้นางจะเป็นพี่น้องกับเขา แต่ตอนนี้คนที่สำคัญกับนางที่สุดก็คือฮ่องเต้ และองค์รัชทายาทก็คือพระโอรสเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องปกป้อง“พระองค์เปลี่ยนไปมากนะพ่ะย่ะค่ะ ถ้าท่านพ่อรู้”“เลิกเอาท่านพ่อมาอ้างสักทีเถอะใต้เท้า” พระนางขึ้นเสียงใส่พี่ชายที่เคยเดียดฉันท์นาง “ข้าจะบอกอะไรให้นะ เผื่อบางทีท่านอาจจะลืมไปแล้ว ไม่ว่าท่านพ่อจะมีอำนาจมากเพียงใด เราก็คานอำนาจของตระกูลหรงไม่ได้หรอก เห็นเขานิ่ง ๆ อย่าคิดว่าเขาหมดเขี้ยวเล็บ เขาก็แค่รักความสงบเท่านั้น แต่ถ้าเราไปสะกิดโดนแผลเขาเมื่อไหร่ คนที่เดือดร้อนไม่ใช่พวกเขาแน่ ดังนั้นอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ รักษาชีวิตเอาไว้ดูหน้าหลานจะดีกว่า”&ldqu

  • เจ้าสาวมังกร   57

    ตู้จี้เฟิงฝากรอยรักไว้ตามเนื้อตัวนุ่มนิ่มหอมกรุ่นจนพอใจแล้วจึงผละออก มองหน้าแดงซ่านที่มีมือปิดปากเอาไว้.. วันนี้เขาจะทำแค่นี้ก่อน แต่ครั้งหน้าเขาไม่ยอมจบเพียงแค่นี้แน่“ใส่เสื้อผ้าซะ” เขาหันหลังให้เมื่อพูดจบ แต่เห็นอีกฝ่ายยังนอนนิ่งไม่ขยับจึงเหลียวไปมอง “อยากให้ข้าทำต่อใช่ไหม”“ไม่!” อวี่กงตวาดใส่ใบหน้าแดงก่ำ รีบลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้ามาสวมมือไม้สั่น ใช่ว่าเขากับเพื่อนจะไม่เคยแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันมาก่อน แม้กับองค์รัชทายาทก็เคยแก้ผ้าเล่นน้ำด้วยกันมาแล้วแต่ทำไมความรู้สึกครั้งนี้มันถึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำไมเขาต้องอับอายจนใจสะท้าน ไม่กล้าแม้แต่จะด่าทอหรือทำตัวให้เป็นปกติ“ข้าจะไปเตรียมม้า แต่งตัวเสร็จแล้วรีบตามลงไปล่ะ”“ฟ้ายังไม่สางเลย ทำไมถึงรีบนัก” อวี่กงถามเมื่อหันไปมองที่หน้าต่าง“อีกครึ่งชั่วยามฟ้าก็แจ้งแล้ว นอนต่อก็คงไม่หลับ เดินทางเลยดีกว่า” จี้เฟิงตอบคำถามของเพื่อนแล้วเปิดประตูเดินออกไปขืนยังอยู่ในห้องต่อ เขาคงทนไม่ไหวแน่ตำหนักฮองเฮา

  • เจ้าสาวมังกร   56

    ตู้จี้เฟิงมองเพื่อนรักที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด คีบอาหารใส่ปากอย่างต่อเนื่อง เหมือนกำลังเคี้ยวเสี่ยวเอ้อร์ตัวแสบอยู่ก็ไม่ปาน“หยุดนะ!”องครักษ์หนุ่มมองตามจอกเหล้าที่ถูกแย่งไปจากมือ แล้วค่อยมองหน้าตาบูดบึ้งของเพื่อน“หือ” เขาเลิกคิ้วถามหน้ามึน เพราะไม่รู้ว่าทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจอีก“กินข้าวบ้างเถอะ”“ก็กินเหล้าแล้วไง”“เจ้าบ้า! ดีแต่สอนข้าแต่ไม่เคยสอนตัวเอง”“เจ้าโมโหเพราะข้าไม่ยอมกินข้าวเหรอ”“เปล่า ข้าโมโหเพราะเจ้าจะดื่มเหล้าจอกสุดท้ายของข้าต่างหาก” พูดจบเขาก็ดื่มเหล้าในจอกจนหมดตู้จี้เฟิงนิ่งอึ้งไร้คำพูดเพราะพูดไม่ทัน เหล้าที่เขาดื่มนั้นรสชาติแรงมาก เหมาะสำหรับชาวยุทธ์ที่ร่างกายแข็งแรงมากกว่า คนที่ไม่เคยฝึกยุทธ์ดื่มไปแค่ครึ่งจอกก็อาจจะเมาแล้วได้แต่มองหน้าคนที่ส่งยิ้มเหมือนเยาะมาให้...อวี่กงสะบัดศีรษะไปมาแรง ๆ เมื่อภาพใบหน้าของสหายรักร่างใหญ่เริ่มดูเบลอ เขาค่อย ๆ ยกมือที่หนักอึ้งไปหาใบหน้าคมคายคล้ำแดดองครักษ์หนุ่มคว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status