"น้องฝัน หนูได้งานนี้นะคะ" วันนี้พี่แพทขับรถมารับฉันไปทำทรีทเมนต์หน้าที่คลินิกซึ่งฉันเพิ่งเซ็นต์สัญญาไปเมื่อวันก่อนและมีคิวถ่ายรูปโปรโมทในเดือนหน้า เลยต้องมาเตรียมความพร้อมให้ผิวกันสักหน่อย
"งานไหนคะพี่แพท" เพราะพี่แพทส่งโปรไฟล์ของฉันไปหลายงานมาก "ก็งานพรีเซ็นเตอร์รถหรูไงคะ" "จริงหรอคะ ดีใจจัง" เป็นอีกหนึ่งงานที่เหมือนเป็นความฝันของฉันเลยนะ ไม่คิดว่านางแบบน้องใหม่อย่างฉันจะได้งานนี้กับเขาด้วย "ดีใจ แต่หน้าหงอยมากค่ะลูกสาวแม่" หงอยหรอ? ฉันว่าปกตินะ "สรุปว่าดีใจหรือไม่ดีใจคะ" "ต้องดีใจสิคะ ดีใจม๊ากมากค่ะ" ฉันหันไปยิ้มจนตาหยีให้ผู้จัดการส่วนตัวเชื่อในคำตอบของฉัน ก่อนจะแยกกันไปทำทรีทเมนต์คนละห้อง เพราะพี่แพทนางอยากเติมตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ส่วนฉันขอแค่บำรุงผิวเติมวิตามินแค่นั้นพอ เดี๋ยวใครบางคนกลับมาจะจำกันไม่ได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้นอนฝันหวานไปถึงไหน "พี่แพท ไปหาที่ถ่ายรูปกันมั้ยคะ" ไหนๆ วันนี้ก็แต่งตัวน่ารักๆ ออกมาแล้ว ขอทำคอนเทนต์นิดนึงแล้วกัน "อารมณ์ไหนคะ" "อารมณ์คนเหงามั้งคะ" "ถ้าน้องฝันลองเปิดใจคุยกับหนุ่มๆ ที่ไดเรคมาหาทุกวัน ก็ไม่เหงาแล้วค่ะ" "ไม่เอาหรอก ฝันไม่อยากปวดหัว" แค่ตาลุงคนเดียวก็เวียนหัววันละหลายรอบแล้ว แล้วพี่แพทก็ขับรถพาฉันมาดูงานศิลปะ ฉันชอบนะได้เดินดูงานสวยๆ ได้อยู่กับตัวเอง ชื่นชมผลงานที่ออกมาจากจินตนาการของศิลปินให้ความรู้สึกหลากหลายอารมณ์ดี "น้องฝันเปลี่ยนเป็นสะพายกระเป๋าใบนี้ค่ะ" ผู้จัดการส่วนตัวหยิบกระเป๋าแบรนด์ไทยรุ่นล่าสุดในถุงกระดาษส่งมาให้ฉัน "โอเคค่ะ" ที่สำคัญที่นี่มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ ฉันเดินถ่ายเกือบทุกห้องที่มีงานแสดงเลยพร้อมกับรีวิวกระเป๋าไปในตัว เพอร์เฟ็คกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว และรูปที่ฉันชอบมากที่สุดเวลานี้และเลือกที่จะเอามาโพสต์ลงโซเชียลเป็นรูปแรกก็คือ... ฉันในชุดเอี๊ยมยีนส์ขาสั้นมีผ้าโพกผมสีขาวลายลูกไม้กำลังยืนหันหลังดูภาพวาดขนาดใหญ่ เป็นภาพหอนาฬิกาของประเทศหนึ่งและท้องถนนยามค่ำคืนกลางห้องจัดแสดงสีขาว D****e : I wish you were here. แคปชั่นนี้แหละ เข้ากับอารมณ์ของฉันตอนนี้ที่สุด หลังจากที่ฉันกดโพสต์ไป ก็มีคอมเมนต์ทั้งจากเพื่อนๆ และแฟนคลับนับร้อยคอมเมนต์ที่เข้ามาชื่นชม บ้างก็ถามหาคนที่ถ่ายรูปนี้ให้ฉัน แต่ส่วนใหญ่ถามหาคนที่ฉันอยากให้มายืนอยู่ตรงนี้ด้วยมากกว่า แน่นอนว่า...คนคนนั้นถูกเก็บไว้ในตู้เซฟที่ถูกล็อคอย่างแน่นหนาเก็บไว้เป็นความลับของฉัน "น้องฝัน บอกพี่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ" พี่แพทยื่นไอศกรีมโคนรสนมมาให้ พร้อมกับแววตาจ้องจับผิด แต่ก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปให้น้องสาวคนนี้ด้วย "บอกอะไรคะพี่แพท" คนน้องค่อยๆ ละเมียดละไมกินไอศกรีมรสโปรดทีละนิด "ใครคะที่น้องฝันหมายถึง" "ไม่มีค่ะ" ถึงจะมี แต่ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะให้พี่แพทรู้ "อะ อะ ไม่มีก็ไม่มีค่ะ" "กลับกันเลยมั้ยคะ ฝันอยากงีบนิดหน่อย" "ไปจ๊ะ" อันที่จริงเป็นเพราะว่าฉันแอบเห็นมิสคอลในมือถือเป็นสายจากเขา เลยทำทีเหมือนง่วงอยากกลับไปนอนกลางวันเต็มแก่ ซึ่งพี่แพทก็พากลับอย่างตามใจใช้เวลาไม่นานก็พาฉันกลับถึงคอนโดโดยสวัสดิภาพ 'คุณลุง' (สายโทรออก) "ฮัลโหล ตื่นแล้วหรอ" พอขึ้นมาบนห้องปุ๊บ ฉันก็วิ่งมานั่งที่โซฟากดวิดีโอคอลโทรหาเขาปั๊บ "..." เขาทำเพียงปรายตามองมา แต่ไม่ตอบคำถาม เหมือนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วสินะ "มีคุยงานกี่โมงเอ่ย" "..." คนตัวโตนั่งคิ้วขมวดกดแป้นพิมพ์ยุกยิกๆ ยุ่งอยู่หรอ แต่แค่พูดสั้นๆ ก็ได้นี่ ไม่เป็นไรไว้ค่อยคุยกันก็ได้ "โอเค งั้น...ฉันวางนะ บาย" "ห้ามวาง" มาอีกแล้วเสียงนี้ เสียงเข้มๆ ดูเอาแต่ใจแบบนี้ "จะวาง" "จิ๊ งอนอยู่" "ห๊ะ ว่าอะไรนะ" ขอถามย้ำอีกทีให้แน่ใจว่าคนที่กำลังทำหน้างอแงเหมือนเด็กอยู่ตอนนี้ไม่ได้พูดผิด "จิ๊ ฉันงอนเธออยู่" "งอนอะไรไม่ทราบ" งงค่ะ วาดฝันเป็นงง "เธอไปเที่ยวกับใครถึงไม่ยอมรับสายฉัน" "กลัวใครรู้ขนาดนั้นเลยรึไง" คำพูดยาวเหยียดออกมาจากปากเขาอย่างตัดพ้อ "โอ๊ย ไปกันใหญ่แล้ว" นี่ไง น่าปวดหัวมั้ยละ แต่หน้าเขาตอนนี้ทำฉันอดขำไม่ได้ สีหน้าดูงอนมากจริงๆ แถมทำแก้มป่องเหล่มองกันด้วยหางตาอีก ไปเอาท่าทางแบบนี้มาจากไหนนะ "พี่แพทพาไปทำหน้า แล้วก็พาไปถ่ายรูป ตามประสาคนโสดหน่ะ" เพื่อไม่ให้เข้าใจผิดพาลทะเลาะกันใหญ่โต ฉันต้องรีบอธิบายอย่างใจเย็น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ขอแกล้งสักหน่อยเถอะ "กวน?" "ก็โสดจริงอะค่ะ คุณลุง" "อืม กลับไปเจอดีแน่" จากหน้างอนๆ กลับหันมามองอย่างคาดโทษชวนขนลุก แต่เพียงไม่นานคนแก่ขี้งอนก็อารมณ์ดียอมคุยเล่นกวนประสาทกันเหมือนเดิม บังคับให้ฉันเล่าว่าวันนี้ไปไหนไปทำอะไรมาบ้าง แถมไม่ยอมวางสายให้ฉันนั่งฟังเขาประชุมออนไลน์จนจบ ส่วนฉันก็นั่งทำการบ้านเงียบๆ ไม่ส่งเสียงรบกวน "จะนอนกี่โมง" "อืม เที่ยงคืนมั้ง" ไหนๆ พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์นอนดึกหน่อย ไม่เป็นไร "ค้างสายเหมือนเดิม" "ค่าโทรศัพท์แพงหูฉี่แน่เลยอะ" ถ่ายแบบกว่าจะได้แต่ละบาท ต้องเอามาจ่ายค่าโทรศัพท์เสียนี่ "เดี๋ยวจ่ายให้" "ป๋าสุดๆ" ฉันถึงกลับเบะปากใส่ "คิดถึงป๋ามั้ยคะ" เขาไม่พูดเปล่า ยื่นหน้าเข้ามาใกล้กล้อง ทำสายตากรุ่มกริ่มดูเจ้าชู้ใส่จนอยากจะจิ้มตาคมๆ นั่นสักที น่าหมันไส้นัก "อี๋ ขนลุก" "เร็ว บอกมา" "อะไรอีก" "คิดถึงฉันป่ะ" ใครเขาจะตอบกัน "..." #ชวนมาดูเขาจีบกัน 🫣 #อ่านเพลินๆ ฟินๆ กันเหมือนเดิมนะคะ"เธอหาคาเฟ่นั่งกัน" อยากเช็คอีเมล์สักหน่อย เพราะเลขาส่งข้อความมาให้ผมช่วยอนุมัติงานให้ด่วน เลยอยากไปหาที่นั่งอ่านเงียบๆ"คุณลุงเหนื่อยแล้วหรอ..." สองมือเล็กประคองแก้มสากบีบเล่นเบาเบาพร้อมน้ำเสียงหยอกล้อแววตาดูซุกซนเหมือนว่าผมแก่นักแก่หนา"เดี๋ยวจะโดน" จนผมต้องใช้หลังนิ้วเคาะที่จมูกเชิดรั้นไปหนึ่งทีระบายความมันเขี้ยวที่มี"งั้นไปที่นี่กันมั้ย รอดูน้ำพุด้วย" เธอเปิดรูปในมือถือให้ผมดูสถานที่ที่เธออยากไป"อืม"ผมและเธอเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลเพราะเธออยากไปขอพรที่น้ำพุแห่งความมั่งคั่งและรอดูการแสดงน้ำพุประกอบแสงเลเซอร์และเสียงเพลงอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่เธอไม่อยากพลาดกลัวจะมาไม่ถึง"ลุง รออยู่ตรงนี้นะ" หลังจากเดินขอพรครบสามรอบ เราก็พากันมาหาที่นั่งในคาเฟ่ ซึ่งผมเลือกนั่งมุมริมกระจกจะได้มองเห็นวิวด้านนอกมาก็หลายครั้งแล้ว แต่ผมยังไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด อาจเป็นเพราะครั้งนี้มีเด็กช่างพูดอยู่เป็นเพื่อน มองอะไรก็เธอก็พาผมตื่นเต้นไปด้วยทุกอย่าง ชักอยากจะพาเธอใส่กระเป๋าไปกับผมทุกที่แล้วละซิ..."แล้วเธอ?""จะไปซื้อของฝากให้พี่แพทหน่ะ""อืม เอาบัตรไป
"จะไปไหน""ห้องน้ำ"เสียงทุ้มงัวเงียถามคนในอ้อมกอดที่ค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมแขน ก่อนจะยอมปล่อยให้เธอไปทำธุระส่วนตัว ส่วนเขาก็นอนรออยู่ที่เดิมรอเธอกลับมานอนกอดกันต่อ เพราะทั้งเขาและเธอพึ่งพากันนอนเมื่อตอนแสงพระอาทิตย์ส่องผ่านผ้าม่านมาให้เห็น"ไปคุยงานกี่โมง""สิบโมง"คนตัวเล็กกลับมามุดผ้าห่มผืนเดียวกับเขาอีกครั้ง ส่วนเขาจากที่นอนคว่ำหน้าก็พลิกตัวตะแคงเลื่อนตัวลงไปซบหน้าอกนุ่มนิ่มของคนน้องแบบที่ชอบพาดแขนแกร่งกอดเอวบางไว้แน่นมีมือเล็กคอยลูบผมเขาเล่นเพลินๆ พากันเคลิ้มจนหลับสนิท"จะออกไปเดินเล่นรึป่าว" ผมหันไปถามเด็กดื้อที่นั่งมองผมแต่งตัวตาแป๋ว"อืม ว่าไปถ่ายรูปนะ" "รอสักสองชั่วโมงได้มั้ย" เพราะผมตั้งใจว่าพอประชุมเสร็จก็จะหนีกลับมาพาเธอไปเดินเที่ยว"รอทำไมอะ" มองหน้ากวนๆ แบบนี้ คงไม่พ้นจะปั่นประสาทให้ผมหัวหมุนแน่ มีเมียเด็กทำไมมันเหนื่อยจังวะ? "ก็อยากไปถ่ายรูป?" "อ่าฮะ" เด็กแสบพยักหน้าอมยิ้ม"แล้วจะให้ใครถ่ายให้" ผมยืนท้าวเอวถามมองเธอหน้านิ่ง เล่นเป็นเพื่อนซะหน่อย ดูซิ จะยั่วโมโหอะไรอีก"ก็ต้องมีหนุ่มๆ แถวนั้นถ่ายให้บ้างละ" ลอยหน้าลอยตาพูดสุดๆ ถ้าไม่ติดว่าใกล้ถึงเวลาประชุม เธอโดนเล่น
"ไปถ่ายแบบมาเป็นยังไงบ้าง" หลังจากจบคลาสฉันกับเพื่อนสนิทอย่างแองจี้ก็พากันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือหลังมหาวิทยาลัย เพราะฉันอยากกินกากหมูเจียว"สนุกมาก แต่ฉันคงต้องรับงานให้เยอะกว่านี้แล้วแหละ" "ทำไม แกไปทำรถเขาเป็นรอย?" สมกับเป็นเพื่อนรักของฉันซะจริง"บ้าหรอ ฉันอยากได้รถสวยๆ แบบนั้นบ้างต่างหาก""หาแฟนรวยง่ายกว่า" ก็จริงนะ! แต่จะหาจากไหนละ คนรวยเขาก็มีชอบนางเอกแถวหน้ากันทั้งนั้นแหละ ใครจะมามองนางแบบตัวเล็กตัวน้อยอย่างเรากัน"หรือมีแล้ว?""มะ มีอะไร ไม่มี" ไม่ดูมีพิรุธใช่มั้ยนะ"หรือจะเป็นนายแบบที่ถ่ายกับแก ได้ข่าวว่าโปรไฟล์เริ่ดไม่ใช่?" ทำไมวันนี้แองจี้พูดเยอะจังนะ"เฉยๆ นะ" ก็ไม่ได้เริ่ดอะไรมาก แค่มีซิกแพคแน่นๆ ผิวขาวใสเหมือนอาบน้ำวันละสิบรอบจมูกโด่งเป็นสัน ขนตางอนยาวเป็นแพร เป็นเจ้าของธุรกิจมากมายและขับรถหรู เท่านั้นเองคุณลุง : ได้ยินตายแล้ว! ฉันลืมไปเลยว่าค้างสายตาลุงไว้ตั้งแต่ในคลาสก็ตั้งแต่เช้านั่นแหละ เพราะเขาบินไปสิงคโปร์ด่วนตั้งแต่เมื่อวาน มาวันนี้ก็โทรมาปลุกฉันแต่เช้าและไม่ยอมวางอีกเลย จนฉันต้องเปิดบลูทูธเชื่อมต่อกับแอร์พอดแล้วเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าสะพาย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนท
"หืม ใครอะ" ตัวเล็กยืนเอนไปเอียงมาจนเขาต้องโอบเอวบางไว้แน่นจนใกล้กันมากพอให้เธอยกมือมาดึงแก้มสากให้ยืดออกเหมือนเป็นพิซซ่าขอบชีส พยายามปรือตามองหน้าอย่างสงสัย"ผัวมั้ง" ส่วนเขาก็เหล่ตามองตัวเล็กพร้อมกับตอบทีเล่นทีจริง อยากรู้ว่าเด็กขี้เมาจะโวยวายหรือจะยอมรับเขาง่ายๆ"ผัวหรอ" นิ้วสวยๆ เคาะลงบนแก้มสากของเขาเบาเบาอย่างใช้ความคิด เหมือนจะใช่คนนี้หรือว่าไม่ใช่กัน"อืม" "มั่วๆๆๆ ผัวฉันหล่อกว่านี้" จะมีใครหล่อกว่านี้อีกวะ? มือเล็กโบกตรงหน้าไปมาปฏิเสธสถานะที่เขายัดเยียดให้ แล้วผละตัวออกทำเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า มือใหญ่เลยต้องรีบคว้าเอวบางเข้ามาใกล้จนอะไรต่อมิอะไรของเขาและเธอแนบแน่น และใช้แขนแกร่งอีกข้างล็อคสะโพกมนเอาไว้ไม่ให้เธอดิ้นจนเซล้ม"มีผัวแล้ว? " คิ้วเข้มขมวดเป็นปมกัดฟันแน่น ไม่เคยมีใครทำเขาหงุดหงิดได้เท่านี้มาก่อน"ช่ายยย" "ผัวชื่ออะไร" จะลองให้โอกาสอีกครั้ง ถ้าตอบได้ดีเขาก็จะไม่ทำโทษเธอที่ทำให้เขาโมโหมาค่อนวัน"ลุง ฟิล์ม" หน้าสวยซบลงแนบอกแกร่งตอบคำถามอย่างแผ่วเบา แต่เขาได้ยินชื่อคุ้นหูนี้ชัดเจนติ๊ง! ผมย่อตัวช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นบนสุดคอนโดของผม ก่อนจะ
หลังจากทีมงานเตรียมความพร้อมด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งสัญญาณผ่านเลขาไอ้ติณให้ผมกับเพื่อนเดินออกไป แน่นอนว่าใครบางคนที่อยู่ห้องข้างๆ ก็กำลังเปิดประตูออกมาเหมือนกัน และที่ทำให้ผมหัวร้อนขึ้นมาจนแทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก็เพราะชุดเดรสหนังเงาๆ สีดำที่มันรัดคนตัวเล็กซะจนผมหายใจไม่ออกสายก็เส้นเล็กไหนจะก้อนกลมๆ ที่โผล่พ้นขึ้นมาให้เห็นอีก เดินทีซิปแทบจะปริอยู่แล้ว"ร้อนหรอวะ""อืม" ไอ้ติณถามเพราะเห็นหน้าบึ้งตึงของผม จนทีมงานไม่กล้าเข้ามาใกล้"โทษทีหว่ะ กูขอสามรูปสวยๆ พอ" เพื่อนถึงกับตบไหล่ผมเบาเบาให้ผมใจเย็น และหันไปบรีฟทีมงานให้รีบถ่ายให้เสร็จ พร้อมกับให้เลขาเอาร่มมากางและพัดลมมาเป่าให้ผม"อืม"เพื่อให้งานของเพื่อนราบรื่น ผมพยายามปรับอารมณ์และสีหน้าเป็นปกติที่สุด เดินไปยืนรอที่รถสีเมทัลลิครอร่างบางที่กำลังเดินตามมาฟังบรีฟจากทีมงานอีกครั้ง"น้องฝันขา พี่ขอพริกสิบเม็ดเลยนะคะ""ได้ค่ะ"'อะไรคือพริกสิบเม็ดวะ' คำถามที่เกิดขึ้นในหัวถูกตอบเป็นท่าโพสต์โดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว คนที่ทำให้ผมหงุดหงิดก็จัดแจงจัดท่าทางให้ผมยืนพิงกระโปรงรถก้าวเข้ามายืนตรงหน้า โพสต์ท่าเหมือนกำลังถอดแจ๊คเก็ตหนังของผมแล้วหันไป
"ลุงจะกลับเลยมั้ย""ไล่?" เป็นคนแก่ขี้งอนอย่างแท้ทรู"ไม่ได้ไล่ วันนี้ฉันมีถ่ายงานทั้งวัน""...""หรือจะไปส่ง" นี่ฉันง้อแล้วนะ เห็นแก่คนแก่นั่งหน้างอตาดำดำ"วันนี้ฉันมีธุระ" เขาพูดเท่านั้นก็ลุกจากที่นอนพาร่างสูงเปลือยเปล่าเดินเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉย ทำฉันที่ยืนอยู่หน้ากระจกร้อนวูบวาบจนแก้มเปลี่ยนสีทั้งที่ยังไม่ได้ปัดบลัชออน หลังจากที่ฉันกับเขาสั่งของมากินรองท้องเบาเบาของเขาเป็นอเมริกาโน่เย็นกับครัวซองค์แฮมชีส ส่วนของฉันเป็นมัทฉะเย็นกับเบเกิ้ลแสนอร่อย เราสองคนก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง และนัดกลับมาเจอกันที่คอนโดทำมื้อเย็นง่ายๆ กินด้วยกัน บอกตามตรงฉันติดใจฝีมือทำอาหารของเขาเข้าอย่างจัง"น้องฝัน วันนี้เป็นงานคู่นะคะ" พี่แพทถือร่มยืนรอเตรียมบรีฟงานให้ฟังทันทีที่ฉันลงจากรถ"งานคู่? ไม่เห็นบอกกันก่อนเลยค่ะ" "ทางลูกค้าพึ่งส่งบรีฟมาให้พี่เมื่อคืนเองค่ะ""คู่กับใคร พี่แพทรู้มั้ยคะ""เหมือนจะเป็นนักธุรกิจหนุ่มเพื่อนของคุณตริติณนะคะ""โห ฝันเริ่มเกร็งแล้วสิ" ลำพังถ้าเป็นคนในอาชีพเดียวกันฉันคงไม่ต้องกังวลอะไรมาก"พี่เชื่อว่า คุณน้องทำได้ค่ะ"งานในวันนี้เป็นงานถ่ายแบบคู่กับรถหรูราคาหลายสิ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เธอ รอแป็บนะ" ผมบอกคนในสายที่กำลังนั่งตาปรืออยู่คุยเป็นเพื่อนผม"อืม"เขาวางแมคบุ๊คลงบนที่นอน และพาร่างสูงเหมือนนายแบบเดินไปส่องตาแมวที่ประตูห้องพักด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่ได้โทรไปสั่งอาหารหรือของแต่อย่างใด จะว่าเลขา รายนั้นก็พึ่งส่งข้อความมาบอกว่าขอออกไปช้อปปิ้งเมื่อครู่"สวัสดีค่ะ คุณฟิล์ม" คนตรงหน้าสร้างความแปลกใจให้ผมไม่น้อย เพราะเธอเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่เดินทางมางานเดียวกัน เคยพบปะพูดคุยกันตามงานโดยไม่มีอะไรเกินเลย ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามส่งสายตาอยู่หลายครั้งก็ตาม เธอสวยแต่บอกเลยว่าไม่ใช่สเปคผมรู้จักห้องผมได้ยังไงวะ? "ครับ" ร่างสูงตอบรับด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มใดๆ "เมลพักอยู่ห้องข้างๆ นี่แหละค่ะ" "อ่อ ครับ" โลกกลมเกินไปมั้ง"คือเมลอยากชวนคุณฟิล์มไปดินเนอร์ด้วยกันค่ะ" "คือ ผมติดประชุม วันนี้คงไม่สะดวก" ผมคิดว่าการตอบปฏิเสธแบบนี้ดูสุภาพมากที่สุด เพราะคงต้องเจอกันอีกหลายงาน"งั้น ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ ห้ามปฏิเสธกันนะคะ" "อะ เอ่อ..." "จุ๊บ บายค่ะ" เธอคนนั้นกระโดดเข้ามากดจูบที่แก้มสากโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองที่อยู่ข้างกัน แต่ย
"น้องฝัน หนูได้งานนี้นะคะ" วันนี้พี่แพทขับรถมารับฉันไปทำทรีทเมนต์หน้าที่คลินิกซึ่งฉันเพิ่งเซ็นต์สัญญาไปเมื่อวันก่อนและมีคิวถ่ายรูปโปรโมทในเดือนหน้า เลยต้องมาเตรียมความพร้อมให้ผิวกันสักหน่อย"งานไหนคะพี่แพท" เพราะพี่แพทส่งโปรไฟล์ของฉันไปหลายงานมาก "ก็งานพรีเซ็นเตอร์รถหรูไงคะ" "จริงหรอคะ ดีใจจัง" เป็นอีกหนึ่งงานที่เหมือนเป็นความฝันของฉันเลยนะ ไม่คิดว่านางแบบน้องใหม่อย่างฉันจะได้งานนี้กับเขาด้วย"ดีใจ แต่หน้าหงอยมากค่ะลูกสาวแม่" หงอยหรอ? ฉันว่าปกตินะ"สรุปว่าดีใจหรือไม่ดีใจคะ" "ต้องดีใจสิคะ ดีใจม๊ากมากค่ะ" ฉันหันไปยิ้มจนตาหยีให้ผู้จัดการส่วนตัวเชื่อในคำตอบของฉันก่อนจะแยกกันไปทำทรีทเมนต์คนละห้อง เพราะพี่แพทนางอยากเติมตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ส่วนฉันขอแค่บำรุงผิวเติมวิตามินแค่นั้นพอ เดี๋ยวใครบางคนกลับมาจะจำกันไม่ได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้นอนฝันหวานไปถึงไหน"พี่แพท ไปหาที่ถ่ายรูปกันมั้ยคะ" ไหนๆ วันนี้ก็แต่งตัวน่ารักๆ ออกมาแล้ว ขอทำคอนเทนต์นิดนึงแล้วกัน"อารมณ์ไหนคะ""อารมณ์คนเหงามั้งคะ" "ถ้าน้องฝันลองเปิดใจคุยกับหนุ่มๆ ที่ไดเรคมาหาทุกวัน ก็ไม่เหงาแล้วค่ะ""ไม่
เหมือนว่าข้อตกลงระหว่างเธอกับผมมันมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยจากความเนียนของผมเองนี่แหละ เนียนเสียจนเด็กแสบไม่รู้ตัวหรือว่าอาจจะรู้แต่ทำเป็นไม่สนใจ ผมก็เดาใจเธอไม่ถูกเหมือนกัน อย่างที่บอก วาดฝันไม่เหมือนคนอื่นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปที่ว่าก็คือ จากที่ตกลงกันไว้ว่าผมกับเธอจะนอนด้วยกันสัปดาห์ละสี่วัน มาวันนี้เป็นวันที่ห้าของสัปดาห์ที่ผมอยู่ที่คอนโดเด็กแสบ เพราะสัปดาห์หน้าผมต้องบินไปดูงานต่างประเทศหลายวัน นั่นแหละเหตุผลที่ใช้เป็นข้ออ้างบอกเธอ"สวัสดีครับ คุณตริติณ" หลังจากส่งเด็กแสบที่มหาวิทยาลัยเรียบร้อย ผมก็ขับรถเลยมาคุยธุระกับเพื่อนรักก่อนไปสนามบินสักหน่อย"..." เพื่อนมาหาทั้งที แต่เจ้าของบริษัทนำเข้ารถหรูกลับต้อนรับโดยการกลอกตาบนใส่ดูเหนื่อยหน่ายที่ได้เห็นหน้าผม"หาพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ได้ยังวะ" ที่ผมมาก็เพราะไอ้ติณแชทไปปรึกษาให้ผมมาช่วยเลือกนางแบบ บอกตามตรงมันเป็นงานที่ทำให้ผมลำบากใจไม่น้อย "ยังหว่ะ""น้องกูไง" ตัวเลือกนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในหัวไอ้คนขี้หวงอย่างไอ้ติณแน่นอน"ไม่""มินิน" "ไม่" เป็นอีกหนึ่งชื่อที่ถูกคุณบอสใหญ่ปัดตก เพราะตอนที่มินินเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไอ้ติณถึงขนาด