"ไปถ่ายแบบมาเป็นยังไงบ้าง" หลังจากจบคลาสฉันกับเพื่อนสนิทอย่างแองจี้ก็พากันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือหลังมหาวิทยาลัย เพราะฉันอยากกินกากหมูเจียว
"สนุกมาก แต่ฉันคงต้องรับงานให้เยอะกว่านี้แล้วแหละ" "ทำไม แกไปทำรถเขาเป็นรอย?" สมกับเป็นเพื่อนรักของฉันซะจริง "บ้าหรอ ฉันอยากได้รถสวยๆ แบบนั้นบ้างต่างหาก" "หาแฟนรวยง่ายกว่า" ก็จริงนะ! แต่จะหาจากไหนละ คนรวยเขาก็มีชอบนางเอกแถวหน้ากันทั้งนั้นแหละ ใครจะมามองนางแบบตัวเล็กตัวน้อยอย่างเรากัน "หรือมีแล้ว?" "มะ มีอะไร ไม่มี" ไม่ดูมีพิรุธใช่มั้ยนะ "หรือจะเป็นนายแบบที่ถ่ายกับแก ได้ข่าวว่าโปรไฟล์เริ่ดไม่ใช่?" ทำไมวันนี้แองจี้พูดเยอะจังนะ "เฉยๆ นะ" ก็ไม่ได้เริ่ดอะไรมาก แค่มีซิกแพคแน่นๆ ผิวขาวใสเหมือนอาบน้ำวันละสิบรอบจมูกโด่งเป็นสัน ขนตางอนยาวเป็นแพร เป็นเจ้าของธุรกิจมากมายและขับรถหรู เท่านั้นเอง คุณลุง : ได้ยิน ตายแล้ว! ฉันลืมไปเลยว่าค้างสายตาลุงไว้ตั้งแต่ในคลาสก็ตั้งแต่เช้านั่นแหละ เพราะเขาบินไปสิงคโปร์ด่วนตั้งแต่เมื่อวาน มาวันนี้ก็โทรมาปลุกฉันแต่เช้าและไม่ยอมวางอีกเลย จนฉันต้องเปิดบลูทูธเชื่อมต่อกับแอร์พอดแล้วเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าสะพาย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาพูดเข้ามาในสายนั่นแหละ หรือจะแกล้งเป็นแบตหมดดี จะได้เมาท์ได้สะดวกหน่อย ไวเท่าความคิดฉันเลยหยิบมือถือขึ้นมาเปิดโหมดเครื่องบินซะเลย "แล้วเป็นไง ไปถ่ายซีรีย์วันแรก" "ก็ตื่นเต้น โดนเข้าห้องเย็นไปสองรอบ" "ธรรมดาหน่า แค่นี้ก็เก่งมากแล้ว" ฉันปลอบใจแองจี้เพราตอนที่ฉันถ่ายโฆษณาครั้งแรกก็โดนเข้าไปทำสมาธิในห้องเย็นเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะสามารถกินก๋วยเตี๋ยวเรือไปถึงสี่ชามยังไม่รวมกากหมูเจียวอีกหนึ่งถ้วยเรียกว่าอิ่มจนพุงป่องออกมาเลยแหละ รีบกลับห้องโทรไปง้อคนแก่ดีกว่า... "ฮัลโหล พี่แพท" "น้องฝันเกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ" "เรื่องอะไรคะ" "ข่าวน้องฝันกับคุณตริติณเต็มหน้าฟีดเลยค่ะ เปิดดูเร็ว" จากที่กำลังจะกดโทรศัพท์วิดีโอคอลไปหาเขา กลับต้องเปลี่ยนมาเปิดดูข่าวตามที่พี่แพทบอก ในภาพข่าวฉันกับคุณตริติณกำลังยืนมองหน้าตาหวานเยิ้มกันอยู่ แต่ถ้าฉันจำไม่ผิดนี่มันตอนที่เราเจอกันหน้าร้านที่ไปเลี้ยงฉลองหลังถ่ายแบบเสร็จกันนี่นา เป็นพี่แพทที่ชวนคุณตริติณคุยทั่วไป ส่วนฉันก็ยิ้มตามมารยาท แต่ทำไมรูปถึงออกมาแบบนี้ได้ แถมหัวข้อข่าวแต่ละเพจพาชาวเน็ตเข้าใจผิดกันไปใหญ่ เฮ้อ...ทำยังไงดีละทีนี้ My secret : ลุง ยุ่งอยู่มั้ย สองชั่วโมงหลังจากวางสายจากเธอ เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าเวลามันน้อยเกินไปให้ผมได้เคลียร์ข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับไอ้ติณเพื่อนของผม แน่นอนว่าไอ้ติณก็ร้อนใจไม่แพ้กันเพราะกลัวหมูอ้วนจะเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ลืมที่จะโทรมาเคลียร์กับผมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ใช่...ไอ้ติณรู้ เราสองคนแบ่งกันไปคุยให้แต่ละเพจลบข่าวและเขียนขอโทษลงในทุกแพลตฟอร์มไม่อย่างนั้นจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินสดหนึ่งล้านบาท ซึ่งกว่าจะไล่โทรครบก็ทำเอาเราสองคนคอแห้ง หลังจากวางสายสุดท้ายเด็กดื้อก็ส่งข้อความมาหา ต่างจากทุกครั้ง คงจะเห็นข่าวแล้วสินะ เพียงเท่านั้นผมก็กดวิดิโอคอลหาเธอทันที ไม่รู้ว่าป่านนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปหรือยัง "ฮัลโหล" "ยุ่งอยู่หรอ" เด็กดื้อรับสายและเปิดกล้องทันทีมาพร้อมกับใบหน้าดูเศร้า "อืม เพิ่งเคลียร์ข่าวให้ใครบางคนเสร็จ" "เห็นด้วยหรอ" "แปลก?" เธอคงไม่รู้ว่าทุกเรื่องของเธออยู่ในสายตาของผม "อยากกอดลุงจัง" เสียงหงอยๆ หน้าอ้อนๆ แบบนี้ ทำผมแทบอยากจะบินกลับไปหากลับไปกอดซะเดี๋ยวนี้ "เป็นอะไรกันจะมากอด" จะคล้อยตามเหมือนเวลาเมามั้ยไม่รู้ "จิ๊ ไปกอดคนอื่นก็ได้ ไม่ง้อหรอก" มันน่าฟาดก้นมั้ยแบบนี้! "รู้งี้ปล่อยให้ร้องไห้ขี้มูกโป่งก็ดี" มุมปากยกยิ้มมองเธอในหน้าจอที่หันมามองตาขวาง "แล้วอยู่ไหนหรอ" "ห้อง" "อยู่กับใครอะ" คงจะได้ยินเสียงทีวีที่ผมเปิดเสียงทิ้งไว้ "อืม เรียกเด็กมาคลายเครียดนิดหน่อย" "..." เพียงเท่านั้นปลายสายก็เงียบกริบ วางโทรศัพท์ทิ้งไว้ปล่อยให้ผมนั่งมองหน้าตุ๊กตาสีเหลืองตัวใหญ่บนเตียง สงสัยพึ่งซื้อมาใหม่เพราะก่อนหน้านี้วันที่ผมไปนอนด้วยยังไม่มีมาให้เห็น "เธอทำอะไรอยู่" "เก็บกระเป๋า" "เก็บไปไหน" "ไปหาผู้ชาย" "พูดให้มันดีดี" ขยันยั่วโมโหจังวะ! เสียงเข้มดังขึ้นจนทำให้เธอรู้สึกขนลุกซู่ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรผิด เพราะผู้ชายที่เธอจะไปหาก็คือเขา ไหนๆ สัปดาห์นี้ก็หยุดหลายวันและพึ่งโดนยกเลิกงานไป เพราะงั้นแอบบินไปเซอร์ไพรส์เขาดีกว่า อยากไปขอบคุณที่ช่วยแก้ปัญหาให้อย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่ต้องเอ่ยปากขอและอยากแอบไปดูด้วยว่าเรียกเด็กมาอย่างที่แกล้งพูดให้เธอหงุดหงิดมั้ย "ลุงวางก่อนนะ" "ตลกหรอฝัน" "อืม แค่นี้แหละ บาย" เธอวางสายหลังจากรถที่เธอเรียกผ่านแอพไปสนามบินมาถึง ปล่อยให้เขานั่งหน้าบึ้งตึงทั้งโมโหทั้งหงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะระยะทางที่ไกลกันและเขายังมีงานสำคัญที่ทำให้ต้องอยู่ที่นี่ เวลานี้คงทำได้เพียงเดินไปหยิบเครื่องดื่มเย็นๆ ในตู้มานั่งดื่มดับอารมณ์ที่มันร้อนรุ่มอยู่ในอก ก๊อก ก๊อก ก๊อก "ดึกขนาดนี้ ใครมาเคาะเรียกวะ" ร่างสูงพาตัวเองลุกจากโซฟาเดินไปส่องตาแมวที่ประตูอย่างสงสัย จนเห็นใครบางคนดูคุ้นตาผู้หญิงหน้าตาดีสูงเพียวราวกับนางแบบในชุดสีดำยืนยิ้มอยู่หน้าประตู ทำมุมปากได้รูปยิ้มกว้างดีใจอย่างปิดไม่มิด ก่อนจะแสร้งทำหน้านิ่งเปิดประตูให้เธอเข้ามา "เซอร์ไพร์ส" พรึ่บ! เด็กดื้อปล่อยมือออกจากกระเป๋าเดินทางแล้วโผลเข้ากอดเขาอย่างเต็มแรงจนพากันเซไปข้างหลัง ก่อนจะวางปลายคางลงบนหน้าอกแกร่งเงยหน้ามองคนขี้เก๊กอย่างออดอ้อน "ไม่ดีใจ?" "..." "โอเค งั้นฉันไปเปิดห้องแยก" "อื้อ" ผมรีบดึงแขนเล็กที่ปล่อยกอดออกจากเอวสอบจับมาวางไว้ที่เดิม ก่อนจะใช้ฝ่ามือรั้งแผ่นหลังบางเข้ามาแนบนิด ประคองหน้าสวยเงยขึ้นมารับรสจูบจากผม จูบที่บ่งบอกถึงอารมณ์ครุกรุ่นเพราะโดนเธอปั่นประสาทเปลี่ยนเป็นความคิดถึงและปลอบใจเธออยู่เนิ่นนาน จากรสขมติดปลายลิ้นของรสแอลกอฮอล์เปลี่ยนเป็นรสหอมหวานคละคลุ้งไปทั่ว"จะไปไหน""ห้องน้ำ"เสียงทุ้มงัวเงียถามคนในอ้อมกอดที่ค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมแขน ก่อนจะยอมปล่อยให้เธอไปทำธุระส่วนตัว ส่วนเขาก็นอนรออยู่ที่เดิมรอเธอกลับมานอนกอดกันต่อ เพราะทั้งเขาและเธอพึ่งพากันนอนเมื่อตอนแสงพระอาทิตย์ส่องผ่านผ้าม่านมาให้เห็น"ไปคุยงานกี่โมง""สิบโมง"คนตัวเล็กกลับมามุดผ้าห่มผืนเดียวกับเขาอีกครั้ง ส่วนเขาจากที่นอนคว่ำหน้าก็พลิกตัวตะแคงเลื่อนตัวลงไปซบหน้าอกนุ่มนิ่มของคนน้องแบบที่ชอบพาดแขนแกร่งกอดเอวบางไว้แน่นมีมือเล็กคอยลูบผมเขาเล่นเพลินๆ พากันเคลิ้มจนหลับสนิท"จะออกไปเดินเล่นรึป่าว" ผมหันไปถามเด็กดื้อที่นั่งมองผมแต่งตัวตาแป๋ว"อืม ว่าไปถ่ายรูปนะ" "รอสักสองชั่วโมงได้มั้ย" เพราะผมตั้งใจว่าพอประชุมเสร็จก็จะหนีกลับมาพาเธอไปเดินเที่ยว"รอทำไมอะ" มองหน้ากวนๆ แบบนี้ คงไม่พ้นจะปั่นประสาทให้ผมหัวหมุนแน่ มีเมียเด็กทำไมมันเหนื่อยจังวะ? "ก็อยากไปถ่ายรูป?" "อ่าฮะ" เด็กแสบพยักหน้าอมยิ้ม"แล้วจะให้ใครถ่ายให้" ผมยืนท้าวเอวถามมองเธอหน้านิ่ง เล่นเป็นเพื่อนซะหน่อย ดูซิ จะยั่วโมโหอะไรอีก"ก็ต้องมีหนุ่มๆ แถวนั้นถ่ายให้บ้างละ" ลอยหน้าลอยตาพูดสุดๆ ถ้าไม่ติดว่าใกล้ถึงเวลาประชุม เธอโดนเล่น
"ไปถ่ายแบบมาเป็นยังไงบ้าง" หลังจากจบคลาสฉันกับเพื่อนสนิทอย่างแองจี้ก็พากันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือหลังมหาวิทยาลัย เพราะฉันอยากกินกากหมูเจียว"สนุกมาก แต่ฉันคงต้องรับงานให้เยอะกว่านี้แล้วแหละ" "ทำไม แกไปทำรถเขาเป็นรอย?" สมกับเป็นเพื่อนรักของฉันซะจริง"บ้าหรอ ฉันอยากได้รถสวยๆ แบบนั้นบ้างต่างหาก""หาแฟนรวยง่ายกว่า" ก็จริงนะ! แต่จะหาจากไหนละ คนรวยเขาก็มีชอบนางเอกแถวหน้ากันทั้งนั้นแหละ ใครจะมามองนางแบบตัวเล็กตัวน้อยอย่างเรากัน"หรือมีแล้ว?""มะ มีอะไร ไม่มี" ไม่ดูมีพิรุธใช่มั้ยนะ"หรือจะเป็นนายแบบที่ถ่ายกับแก ได้ข่าวว่าโปรไฟล์เริ่ดไม่ใช่?" ทำไมวันนี้แองจี้พูดเยอะจังนะ"เฉยๆ นะ" ก็ไม่ได้เริ่ดอะไรมาก แค่มีซิกแพคแน่นๆ ผิวขาวใสเหมือนอาบน้ำวันละสิบรอบจมูกโด่งเป็นสัน ขนตางอนยาวเป็นแพร เป็นเจ้าของธุรกิจมากมายและขับรถหรู เท่านั้นเองคุณลุง : ได้ยินตายแล้ว! ฉันลืมไปเลยว่าค้างสายตาลุงไว้ตั้งแต่ในคลาสก็ตั้งแต่เช้านั่นแหละ เพราะเขาบินไปสิงคโปร์ด่วนตั้งแต่เมื่อวาน มาวันนี้ก็โทรมาปลุกฉันแต่เช้าและไม่ยอมวางอีกเลย จนฉันต้องเปิดบลูทูธเชื่อมต่อกับแอร์พอดแล้วเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าสะพาย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนท
"หืม ใครอะ" ตัวเล็กยืนเอนไปเอียงมาจนเขาต้องโอบเอวบางไว้แน่นจนใกล้กันมากพอให้เธอยกมือมาดึงแก้มสากให้ยืดออกเหมือนเป็นพิซซ่าขอบชีส พยายามปรือตามองหน้าอย่างสงสัย"ผัวมั้ง" ส่วนเขาก็เหล่ตามองตัวเล็กพร้อมกับตอบทีเล่นทีจริง อยากรู้ว่าเด็กขี้เมาจะโวยวายหรือจะยอมรับเขาง่ายๆ"ผัวหรอ" นิ้วสวยๆ เคาะลงบนแก้มสากของเขาเบาเบาอย่างใช้ความคิด เหมือนจะใช่คนนี้หรือว่าไม่ใช่กัน"อืม" "มั่วๆๆๆ ผัวฉันหล่อกว่านี้" จะมีใครหล่อกว่านี้อีกวะ? มือเล็กโบกตรงหน้าไปมาปฏิเสธสถานะที่เขายัดเยียดให้ แล้วผละตัวออกทำเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า มือใหญ่เลยต้องรีบคว้าเอวบางเข้ามาใกล้จนอะไรต่อมิอะไรของเขาและเธอแนบแน่น และใช้แขนแกร่งอีกข้างล็อคสะโพกมนเอาไว้ไม่ให้เธอดิ้นจนเซล้ม"มีผัวแล้ว? " คิ้วเข้มขมวดเป็นปมกัดฟันแน่น ไม่เคยมีใครทำเขาหงุดหงิดได้เท่านี้มาก่อน"ช่ายยย" "ผัวชื่ออะไร" จะลองให้โอกาสอีกครั้ง ถ้าตอบได้ดีเขาก็จะไม่ทำโทษเธอที่ทำให้เขาโมโหมาค่อนวัน"ลุง ฟิล์ม" หน้าสวยซบลงแนบอกแกร่งตอบคำถามอย่างแผ่วเบา แต่เขาได้ยินชื่อคุ้นหูนี้ชัดเจนติ๊ง! ผมย่อตัวช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นบนสุดคอนโดของผม ก่อนจะ
หลังจากทีมงานเตรียมความพร้อมด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งสัญญาณผ่านเลขาไอ้ติณให้ผมกับเพื่อนเดินออกไป แน่นอนว่าใครบางคนที่อยู่ห้องข้างๆ ก็กำลังเปิดประตูออกมาเหมือนกัน และที่ทำให้ผมหัวร้อนขึ้นมาจนแทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก็เพราะชุดเดรสหนังเงาๆ สีดำที่มันรัดคนตัวเล็กซะจนผมหายใจไม่ออกสายก็เส้นเล็กไหนจะก้อนกลมๆ ที่โผล่พ้นขึ้นมาให้เห็นอีก เดินทีซิปแทบจะปริอยู่แล้ว"ร้อนหรอวะ""อืม" ไอ้ติณถามเพราะเห็นหน้าบึ้งตึงของผม จนทีมงานไม่กล้าเข้ามาใกล้"โทษทีหว่ะ กูขอสามรูปสวยๆ พอ" เพื่อนถึงกับตบไหล่ผมเบาเบาให้ผมใจเย็น และหันไปบรีฟทีมงานให้รีบถ่ายให้เสร็จ พร้อมกับให้เลขาเอาร่มมากางและพัดลมมาเป่าให้ผม"อืม"เพื่อให้งานของเพื่อนราบรื่น ผมพยายามปรับอารมณ์และสีหน้าเป็นปกติที่สุด เดินไปยืนรอที่รถสีเมทัลลิครอร่างบางที่กำลังเดินตามมาฟังบรีฟจากทีมงานอีกครั้ง"น้องฝันขา พี่ขอพริกสิบเม็ดเลยนะคะ""ได้ค่ะ"'อะไรคือพริกสิบเม็ดวะ' คำถามที่เกิดขึ้นในหัวถูกตอบเป็นท่าโพสต์โดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว คนที่ทำให้ผมหงุดหงิดก็จัดแจงจัดท่าทางให้ผมยืนพิงกระโปรงรถก้าวเข้ามายืนตรงหน้า โพสต์ท่าเหมือนกำลังถอดแจ๊คเก็ตหนังของผมแล้วหันไป
"ลุงจะกลับเลยมั้ย""ไล่?" เป็นคนแก่ขี้งอนอย่างแท้ทรู"ไม่ได้ไล่ วันนี้ฉันมีถ่ายงานทั้งวัน""...""หรือจะไปส่ง" นี่ฉันง้อแล้วนะ เห็นแก่คนแก่นั่งหน้างอตาดำดำ"วันนี้ฉันมีธุระ" เขาพูดเท่านั้นก็ลุกจากที่นอนพาร่างสูงเปลือยเปล่าเดินเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉย ทำฉันที่ยืนอยู่หน้ากระจกร้อนวูบวาบจนแก้มเปลี่ยนสีทั้งที่ยังไม่ได้ปัดบลัชออน หลังจากที่ฉันกับเขาสั่งของมากินรองท้องเบาเบาของเขาเป็นอเมริกาโน่เย็นกับครัวซองค์แฮมชีส ส่วนของฉันเป็นมัทฉะเย็นกับเบเกิ้ลแสนอร่อย เราสองคนก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง และนัดกลับมาเจอกันที่คอนโดทำมื้อเย็นง่ายๆ กินด้วยกัน บอกตามตรงฉันติดใจฝีมือทำอาหารของเขาเข้าอย่างจัง"น้องฝัน วันนี้เป็นงานคู่นะคะ" พี่แพทถือร่มยืนรอเตรียมบรีฟงานให้ฟังทันทีที่ฉันลงจากรถ"งานคู่? ไม่เห็นบอกกันก่อนเลยค่ะ" "ทางลูกค้าพึ่งส่งบรีฟมาให้พี่เมื่อคืนเองค่ะ""คู่กับใคร พี่แพทรู้มั้ยคะ""เหมือนจะเป็นนักธุรกิจหนุ่มเพื่อนของคุณตริติณนะคะ""โห ฝันเริ่มเกร็งแล้วสิ" ลำพังถ้าเป็นคนในอาชีพเดียวกันฉันคงไม่ต้องกังวลอะไรมาก"พี่เชื่อว่า คุณน้องทำได้ค่ะ"งานในวันนี้เป็นงานถ่ายแบบคู่กับรถหรูราคาหลายสิ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เธอ รอแป็บนะ" ผมบอกคนในสายที่กำลังนั่งตาปรืออยู่คุยเป็นเพื่อนผม"อืม"เขาวางแมคบุ๊คลงบนที่นอน และพาร่างสูงเหมือนนายแบบเดินไปส่องตาแมวที่ประตูห้องพักด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่ได้โทรไปสั่งอาหารหรือของแต่อย่างใด จะว่าเลขา รายนั้นก็พึ่งส่งข้อความมาบอกว่าขอออกไปช้อปปิ้งเมื่อครู่"สวัสดีค่ะ คุณฟิล์ม" คนตรงหน้าสร้างความแปลกใจให้ผมไม่น้อย เพราะเธอเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่เดินทางมางานเดียวกัน เคยพบปะพูดคุยกันตามงานโดยไม่มีอะไรเกินเลย ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามส่งสายตาอยู่หลายครั้งก็ตาม เธอสวยแต่บอกเลยว่าไม่ใช่สเปคผมรู้จักห้องผมได้ยังไงวะ? "ครับ" ร่างสูงตอบรับด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มใดๆ "เมลพักอยู่ห้องข้างๆ นี่แหละค่ะ" "อ่อ ครับ" โลกกลมเกินไปมั้ง"คือเมลอยากชวนคุณฟิล์มไปดินเนอร์ด้วยกันค่ะ" "คือ ผมติดประชุม วันนี้คงไม่สะดวก" ผมคิดว่าการตอบปฏิเสธแบบนี้ดูสุภาพมากที่สุด เพราะคงต้องเจอกันอีกหลายงาน"งั้น ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ ห้ามปฏิเสธกันนะคะ" "อะ เอ่อ..." "จุ๊บ บายค่ะ" เธอคนนั้นกระโดดเข้ามากดจูบที่แก้มสากโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองที่อยู่ข้างกัน แต่ย
"น้องฝัน หนูได้งานนี้นะคะ" วันนี้พี่แพทขับรถมารับฉันไปทำทรีทเมนต์หน้าที่คลินิกซึ่งฉันเพิ่งเซ็นต์สัญญาไปเมื่อวันก่อนและมีคิวถ่ายรูปโปรโมทในเดือนหน้า เลยต้องมาเตรียมความพร้อมให้ผิวกันสักหน่อย"งานไหนคะพี่แพท" เพราะพี่แพทส่งโปรไฟล์ของฉันไปหลายงานมาก "ก็งานพรีเซ็นเตอร์รถหรูไงคะ" "จริงหรอคะ ดีใจจัง" เป็นอีกหนึ่งงานที่เหมือนเป็นความฝันของฉันเลยนะ ไม่คิดว่านางแบบน้องใหม่อย่างฉันจะได้งานนี้กับเขาด้วย"ดีใจ แต่หน้าหงอยมากค่ะลูกสาวแม่" หงอยหรอ? ฉันว่าปกตินะ"สรุปว่าดีใจหรือไม่ดีใจคะ" "ต้องดีใจสิคะ ดีใจม๊ากมากค่ะ" ฉันหันไปยิ้มจนตาหยีให้ผู้จัดการส่วนตัวเชื่อในคำตอบของฉันก่อนจะแยกกันไปทำทรีทเมนต์คนละห้อง เพราะพี่แพทนางอยากเติมตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ส่วนฉันขอแค่บำรุงผิวเติมวิตามินแค่นั้นพอ เดี๋ยวใครบางคนกลับมาจะจำกันไม่ได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้นอนฝันหวานไปถึงไหน"พี่แพท ไปหาที่ถ่ายรูปกันมั้ยคะ" ไหนๆ วันนี้ก็แต่งตัวน่ารักๆ ออกมาแล้ว ขอทำคอนเทนต์นิดนึงแล้วกัน"อารมณ์ไหนคะ""อารมณ์คนเหงามั้งคะ" "ถ้าน้องฝันลองเปิดใจคุยกับหนุ่มๆ ที่ไดเรคมาหาทุกวัน ก็ไม่เหงาแล้วค่ะ""ไม่
เหมือนว่าข้อตกลงระหว่างเธอกับผมมันมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยจากความเนียนของผมเองนี่แหละ เนียนเสียจนเด็กแสบไม่รู้ตัวหรือว่าอาจจะรู้แต่ทำเป็นไม่สนใจ ผมก็เดาใจเธอไม่ถูกเหมือนกัน อย่างที่บอก วาดฝันไม่เหมือนคนอื่นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปที่ว่าก็คือ จากที่ตกลงกันไว้ว่าผมกับเธอจะนอนด้วยกันสัปดาห์ละสี่วัน มาวันนี้เป็นวันที่ห้าของสัปดาห์ที่ผมอยู่ที่คอนโดเด็กแสบ เพราะสัปดาห์หน้าผมต้องบินไปดูงานต่างประเทศหลายวัน นั่นแหละเหตุผลที่ใช้เป็นข้ออ้างบอกเธอ"สวัสดีครับ คุณตริติณ" หลังจากส่งเด็กแสบที่มหาวิทยาลัยเรียบร้อย ผมก็ขับรถเลยมาคุยธุระกับเพื่อนรักก่อนไปสนามบินสักหน่อย"..." เพื่อนมาหาทั้งที แต่เจ้าของบริษัทนำเข้ารถหรูกลับต้อนรับโดยการกลอกตาบนใส่ดูเหนื่อยหน่ายที่ได้เห็นหน้าผม"หาพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ได้ยังวะ" ที่ผมมาก็เพราะไอ้ติณแชทไปปรึกษาให้ผมมาช่วยเลือกนางแบบ บอกตามตรงมันเป็นงานที่ทำให้ผมลำบากใจไม่น้อย "ยังหว่ะ""น้องกูไง" ตัวเลือกนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในหัวไอ้คนขี้หวงอย่างไอ้ติณแน่นอน"ไม่""มินิน" "ไม่" เป็นอีกหนึ่งชื่อที่ถูกคุณบอสใหญ่ปัดตก เพราะตอนที่มินินเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไอ้ติณถึงขนาด
ปึก! "โอ๊ย! นี่เธอ" สุดท้ายเธอก็ทนความเอาแต่ใจของคนนิสัยไม่ดีไม่ไหว กระแทกส้นรองเท้าลงบนรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่โตเต็มแรงและผละตัววิ่งหนีออกมาได้ ก่อนจะปรับสีหน้าและท่าทางของตัวเองไม่ให้มีพิรุธจนเพื่อนจับสังเกตได้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าริมฝีปากแดงสวยเปลี่ยนเป็นบวมเจ่ออย่างเห็นได้ชัด"ไปกัน""เดี๋ยว ปากแกไปโดนอะไรมา ฝัน" ทำไมหูตาไวอย่างนี้นะ"คือ ฉันแพ้หอยเม่นหน่ะ""ไปหาหมอก่อนมั้ย" ฉันซาบซึ้งในความเป็นห่วงของเพื่อนอยู่หรอก แต่พาฉันหนีไปจากสายตาคมเหมือนมีดที่มองมาตอนนี้ก่อนจะได้มั้ย...แองจี้"ไม่เป็นไร กลับไปกินยาแก้แพ้เดี๋ยวก็หาย""อืม"เธอเดินเข้าไปเกาะแขนเพื่อนราวกับเป็นเกาะกำบังที่ดีที่สุดในเวลานี้ จนแองจี้ทำหน้างงหันมามองอย่างสงสัย นางแบบสาวเลยต้องรีบดึงแขนพาเดินออกมาที่ลานจอดรถอ้างว่าอยากจะกลับไปกินยานอน"เฮ้อ ถึงห้องสักที" ฉันทิ้งตัวลงนอนแผ่หลากลางที่นอนสีขาว ค่อยๆ หลับตาลงพยายามลบภาพวุ่นวายที่คอยวิ่งเข้ามาในหัวรบกวนจิตใจจนรู้สึกเหนื่อย วาดฝันเหนื่อยมาก...เพราะคนนิสัยไม่ดีคนเดียวเลยพรึ่บ! "..." ทำไมอยู่ๆ ฉันถึงรู้สึกเหมือนถูกผีอำเลยละ อุตส่าห์เลือกซื้อคอนโดสร้างใหม่แล้วนะ ต้องไม่