"จะไปไหน"
"ห้องน้ำ" เสียงทุ้มงัวเงียถามคนในอ้อมกอดที่ค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมแขน ก่อนจะยอมปล่อยให้เธอไปทำธุระส่วนตัว ส่วนเขาก็นอนรออยู่ที่เดิมรอเธอกลับมานอนกอดกันต่อ เพราะทั้งเขาและเธอพึ่งพากันนอนเมื่อตอนแสงพระอาทิตย์ส่องผ่านผ้าม่านมาให้เห็น "ไปคุยงานกี่โมง" "สิบโมง" คนตัวเล็กกลับมามุดผ้าห่มผืนเดียวกับเขาอีกครั้ง ส่วนเขาจากที่นอนคว่ำหน้าก็พลิกตัวตะแคงเลื่อนตัวลงไปซบหน้าอกนุ่มนิ่มของคนน้องแบบที่ชอบพาดแขนแกร่งกอดเอวบางไว้แน่นมีมือเล็กคอยลูบผมเขาเล่นเพลินๆ พากันเคลิ้มจนหลับสนิท "จะออกไปเดินเล่นรึป่าว" ผมหันไปถามเด็กดื้อที่นั่งมองผมแต่งตัวตาแป๋ว "อืม ว่าไปถ่ายรูปนะ" "รอสักสองชั่วโมงได้มั้ย" เพราะผมตั้งใจว่าพอประชุมเสร็จก็จะหนีกลับมาพาเธอไปเดินเที่ยว "รอทำไมอะ" มองหน้ากวนๆ แบบนี้ คงไม่พ้นจะปั่นประสาทให้ผมหัวหมุนแน่ มีเมียเด็กทำไมมันเหนื่อยจังวะ? "ก็อยากไปถ่ายรูป?" "อ่าฮะ" เด็กแสบพยักหน้าอมยิ้ม "แล้วจะให้ใครถ่ายให้" ผมยืนท้าวเอวถามมองเธอหน้านิ่ง เล่นเป็นเพื่อนซะหน่อย ดูซิ จะยั่วโมโหอะไรอีก "ก็ต้องมีหนุ่มๆ แถวนั้นถ่ายให้บ้างละ" ลอยหน้าลอยตาพูดสุดๆ ถ้าไม่ติดว่าใกล้ถึงเวลาประชุม เธอโดนเล่นงานหนักแน่! "อืม มีผัวแล้ว รู้ตัวบ้างก็ดี" ผมทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าไอแพดเดินออกจากห้องพัก ปล่อยให้เธอนั่งทำหน้างงเหมือนปลาทองอยู่บนเตียงอย่างนั้น My secret : รอที่คาเฟ่นะ หลังจากประชุมเสร็จ ผมก็เปิดข้อความจากเธอที่ส่งมาเมื่อสิบห้านาทีก่อนแล้วรีบเดินไปหาตามโลเคชั่นที่เธอส่งมาให้เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกล ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่ร้านคาเฟ่ที่เธอว่า แต่ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปหาใครบางคนที่กำลังนั่งดื่มกาแฟเพลินๆ ขอแอบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเธอในมุมเผลอเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ดูสวยเหมือนภาพวาดจนผมอยากจะเก็บภาพนี้เอาไว้ "ลุง ทางนี้" โชคดีของผม ที่เธอหันมาในตอนที่กดชัตเตอร์จนได้รูปที่ถูกใจ ไม่อย่างนั้นเกิดโดนจับได้ว่าแอบถ่ายรูปเธอคงได้โวยวายให้ผมลบทิ้งแน่ ฟอด "กินอะไรยัง" เพราะที่นี่คนไม่พลุกพล่านผมเลยกล้าที่จะกดจมูกลงที่หน้าผากมน โดยที่ไม่ต้องแคร์สายตาใครหรือกลัวว่าเธอจะเป็นข่าว "ยัง รอกินพร้อมลุงไง" "อยากกินอะไร" "ข้าวมันไก่แล้วต่อด้วยน้ำแข็งใส" "ไม่กลัวอ้วน?" นางแบบเขาต้องคุมอาหารไม่ใช่? "มาเที่ยวทั้งที กลับไปค่อยลด" มือหนายื่นมือส่งไปให้คนน้องจับเพื่อพยุงตัวลุกจากเก้าอี้ไม่ให้เธอล้ม ก่อนจะจูงมือกันไปสั่งอเมริกาโน่เย็นอีกหนึ่งแก้วสำหรับเขา เพราะเมื่อเช้าเขานอนไปไม่ถึงสามชั่วโมงดีเลยอยากจะเติมคาเฟอีนเพิ่มอีกสักแก้วให้พอรู้สึกสดชื่นมีแรงไปเดินเที่ยวกับเด็กดื้อของเขา "ชิมมั้ย" ผมยื่นแก้วอเมริกาโน่เย็นให้เธอลองชิมความหอมของเมล็ดกาแฟที่นี่ เพราะปกติเธอจะเป็นสายมัทฉะหรือกาแฟใส่นมอะไรแบบนั้นซะมากกว่า "หืม ขมมากเลย" เด็กดื้อหลับตาปี๋ให้กับรสชาดที่ไม่คุ้นเคย "คนละจานหรือว่าหนึ่งจานใหญ่กินด้วยกัน" "คนละจานมั้ย อยากถ่ายรูปอะ" "อืม" ซึ่งผมก็สั่งอาหารให้เธออย่างตามใจ เพราะเข้าใจว่าเธอชอบถ่ายรูปอาหารลงโซเชียลไม่ต่างจากหมูอ้วนน้องสาวผม "อุ้ย ทำไมของลุงน่ากินกว่าละ" น่ากินกว่ายังไง เหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันตรงของผมมีหนังของเธอไม่มีหนัง "เธอไม่กินหนัง" "หรอ" เด็กแสบมองจานข้าวมันไก่ของผมตาห้อยจนผมสงสารตักแบ่งเนื้อไก่ติดหนังให้เธอครึ่งหนึ่ง ส่วนเธอก็ตักแบบไม่มีหนังในจานมาวางแทนที่กัน "ทีนี้เหมือนกันยังครับ" "อืม อืม" คนตัวเล็กนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถ่ายรูปเมนูแนะนำของสิงคโปร์ ก่อนจะหยิบช้อนตักกินคำโตเคี้ยวตุ้ยๆ เหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด ก็เป็นเด็กของผมนี่นะ... "อิ่มจนพุงออกเลยอะ" "ไม่เห็นมี" มือหนายื่นไปบีบเอวบางให้ยืดออกแต่กลับไม่เหมือนอย่างที่เธอกังวลเลยสักนิด "โอ๊ย เจ็บนะ" ทำเธอยู่ปากหน้ามุ่ยราวกับว่าเจ็บนักเจ็บหนาจนผมมันเขี้ยวยื่นมือไปตีหน้าผากมนเบาเบาก่อนจะก้มลงไปเป่าบริเวณที่ตัวเองตีหวังช่วยคลายความเจ็บ ทำเองปลอบเองนักเลงพอ! หลังจากเขาและเธอเลือกร้านน้ำแข็งใสได้ แขนแกร่งก็โอบไหล่บางพาเดินไปยังร้านน้ำแข็งใสอย่างเอาอกเอาใจ คอยเลือกมุมถ่ายรูปให้อย่างรู้หน้าที่ ทำคนน้องยิ้มจนตาหยีเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาเดินเที่ยวกับเขาแบบนี้ และเป็นอีกครั้งที่เขาทำให้เธอรู้สึกสนุกและมีความสุขที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาทำให้เธอยิ้ม คอยแกล้งให้เธอหัวเราะ "ลุง ไม่มีงานต่อหรอ" "ก็มี แต่ค่อยกลับไปอ่านเมล์ที่เลขาสรุปมาให้" "รู้สึกผิดเลยอะ พาคนโดดงาน" "ไถ่โทษสิ" เมื่อมีโอกาสดีดีผ่านเข้ามา แน่นอนว่านักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเขาก็ไม่พลาดที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ ฟอด ร่างสูงย่อตัวเล็กน้อยให้ใบหน้าดูในระดับเดียวกันกับร่างบางทำแก้มป่องเหมือนกำลังอมลูกอมอยู่ข้างหนึ่งให้คนน้องกดปลายจมูกเชิดรั้นลงมาที่แก้มสากเป็นการไถ่โทษในแบบที่เขาชอบ ทำคนตัวเล็กยืนหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศเพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยื่นปลายจมูกไปแตะแก้มใสๆ ของเขาเบาเบาก่อนจะวิ่งหนีปิดบังความเขินอายที่มันมีมากจนรู้สึกไม่เป็นตัวเอง "เธอสั่งถ้วยเดียวพอนะ" "ลุงไม่กินหรอ" "กินกับเธอ" เพราะของหวานกับเขาไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ แต่ถ้ามีคนคอยป้อนและนั่งกินเป็นเพื่อนเขาก็พอสู้ไหว "แต่อยากกินสองอย่างเลยอะ ปิงซู กับอันนี้สาคูมะม่วง" ตากลมโตเงยหน้าขึ้นมามองอย่างออดอ้อนทำแก้มป่องยู่ปากอย่างน่าสงสาร เพราะไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว เธออยากจะลองกินหลายๆ อย่างให้คุ้มกับค่าตั๋วเครื่องบินและเวลาอันมีค่าของเขา สุดท้ายตรงหน้าเขาก็มีถ้วยสาคูมะม่วงวางหนึ่งถ้วย ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีปิงซูถ้วยใหญ่ที่ให้เธอได้ถ่ายรูป และค่อยๆ ขยับเลื่อนเข้ามาใกล้ถ้วยของเขาเข้าทุกที ตัวก็เท่าลูกแมวจะกินเท่าไหร่กันเชียว คงหนีไม่พ้นให้เขาต้องรับผิดชอบกินทุกอย่างที่เธอคอยป้อน ไม่เป็นไรคืนนี้ชวนเด็กแสบออกกำลังกายให้หนักหน่อย เขาจะได้ไม่ลงพุง! *แอบมาสปอยล์สักหน่อย ตอนต่อไปเขาจะเป็นแฟนกันแล้วนะ "เป็นแฟนกันป่ะ" #อ่านเพลินๆ ฟินๆ สบายๆ กันเหมือนเดิมนะคะ"จะไปไหน""ห้องน้ำ"เสียงทุ้มงัวเงียถามคนในอ้อมกอดที่ค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมแขน ก่อนจะยอมปล่อยให้เธอไปทำธุระส่วนตัว ส่วนเขาก็นอนรออยู่ที่เดิมรอเธอกลับมานอนกอดกันต่อ เพราะทั้งเขาและเธอพึ่งพากันนอนเมื่อตอนแสงพระอาทิตย์ส่องผ่านผ้าม่านมาให้เห็น"ไปคุยงานกี่โมง""สิบโมง"คนตัวเล็กกลับมามุดผ้าห่มผืนเดียวกับเขาอีกครั้ง ส่วนเขาจากที่นอนคว่ำหน้าก็พลิกตัวตะแคงเลื่อนตัวลงไปซบหน้าอกนุ่มนิ่มของคนน้องแบบที่ชอบพาดแขนแกร่งกอดเอวบางไว้แน่นมีมือเล็กคอยลูบผมเขาเล่นเพลินๆ พากันเคลิ้มจนหลับสนิท"จะออกไปเดินเล่นรึป่าว" ผมหันไปถามเด็กดื้อที่นั่งมองผมแต่งตัวตาแป๋ว"อืม ว่าไปถ่ายรูปนะ" "รอสักสองชั่วโมงได้มั้ย" เพราะผมตั้งใจว่าพอประชุมเสร็จก็จะหนีกลับมาพาเธอไปเดินเที่ยว"รอทำไมอะ" มองหน้ากวนๆ แบบนี้ คงไม่พ้นจะปั่นประสาทให้ผมหัวหมุนแน่ มีเมียเด็กทำไมมันเหนื่อยจังวะ? "ก็อยากไปถ่ายรูป?" "อ่าฮะ" เด็กแสบพยักหน้าอมยิ้ม"แล้วจะให้ใครถ่ายให้" ผมยืนท้าวเอวถามมองเธอหน้านิ่ง เล่นเป็นเพื่อนซะหน่อย ดูซิ จะยั่วโมโหอะไรอีก"ก็ต้องมีหนุ่มๆ แถวนั้นถ่ายให้บ้างละ" ลอยหน้าลอยตาพูดสุดๆ ถ้าไม่ติดว่าใกล้ถึงเวลาประชุม เธอโดนเล่น
"ไปถ่ายแบบมาเป็นยังไงบ้าง" หลังจากจบคลาสฉันกับเพื่อนสนิทอย่างแองจี้ก็พากันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือหลังมหาวิทยาลัย เพราะฉันอยากกินกากหมูเจียว"สนุกมาก แต่ฉันคงต้องรับงานให้เยอะกว่านี้แล้วแหละ" "ทำไม แกไปทำรถเขาเป็นรอย?" สมกับเป็นเพื่อนรักของฉันซะจริง"บ้าหรอ ฉันอยากได้รถสวยๆ แบบนั้นบ้างต่างหาก""หาแฟนรวยง่ายกว่า" ก็จริงนะ! แต่จะหาจากไหนละ คนรวยเขาก็มีชอบนางเอกแถวหน้ากันทั้งนั้นแหละ ใครจะมามองนางแบบตัวเล็กตัวน้อยอย่างเรากัน"หรือมีแล้ว?""มะ มีอะไร ไม่มี" ไม่ดูมีพิรุธใช่มั้ยนะ"หรือจะเป็นนายแบบที่ถ่ายกับแก ได้ข่าวว่าโปรไฟล์เริ่ดไม่ใช่?" ทำไมวันนี้แองจี้พูดเยอะจังนะ"เฉยๆ นะ" ก็ไม่ได้เริ่ดอะไรมาก แค่มีซิกแพคแน่นๆ ผิวขาวใสเหมือนอาบน้ำวันละสิบรอบจมูกโด่งเป็นสัน ขนตางอนยาวเป็นแพร เป็นเจ้าของธุรกิจมากมายและขับรถหรู เท่านั้นเองคุณลุง : ได้ยินตายแล้ว! ฉันลืมไปเลยว่าค้างสายตาลุงไว้ตั้งแต่ในคลาสก็ตั้งแต่เช้านั่นแหละ เพราะเขาบินไปสิงคโปร์ด่วนตั้งแต่เมื่อวาน มาวันนี้ก็โทรมาปลุกฉันแต่เช้าและไม่ยอมวางอีกเลย จนฉันต้องเปิดบลูทูธเชื่อมต่อกับแอร์พอดแล้วเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าสะพาย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนท
"หืม ใครอะ" ตัวเล็กยืนเอนไปเอียงมาจนเขาต้องโอบเอวบางไว้แน่นจนใกล้กันมากพอให้เธอยกมือมาดึงแก้มสากให้ยืดออกเหมือนเป็นพิซซ่าขอบชีส พยายามปรือตามองหน้าอย่างสงสัย"ผัวมั้ง" ส่วนเขาก็เหล่ตามองตัวเล็กพร้อมกับตอบทีเล่นทีจริง อยากรู้ว่าเด็กขี้เมาจะโวยวายหรือจะยอมรับเขาง่ายๆ"ผัวหรอ" นิ้วสวยๆ เคาะลงบนแก้มสากของเขาเบาเบาอย่างใช้ความคิด เหมือนจะใช่คนนี้หรือว่าไม่ใช่กัน"อืม" "มั่วๆๆๆ ผัวฉันหล่อกว่านี้" จะมีใครหล่อกว่านี้อีกวะ? มือเล็กโบกตรงหน้าไปมาปฏิเสธสถานะที่เขายัดเยียดให้ แล้วผละตัวออกทำเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า มือใหญ่เลยต้องรีบคว้าเอวบางเข้ามาใกล้จนอะไรต่อมิอะไรของเขาและเธอแนบแน่น และใช้แขนแกร่งอีกข้างล็อคสะโพกมนเอาไว้ไม่ให้เธอดิ้นจนเซล้ม"มีผัวแล้ว? " คิ้วเข้มขมวดเป็นปมกัดฟันแน่น ไม่เคยมีใครทำเขาหงุดหงิดได้เท่านี้มาก่อน"ช่ายยย" "ผัวชื่ออะไร" จะลองให้โอกาสอีกครั้ง ถ้าตอบได้ดีเขาก็จะไม่ทำโทษเธอที่ทำให้เขาโมโหมาค่อนวัน"ลุง ฟิล์ม" หน้าสวยซบลงแนบอกแกร่งตอบคำถามอย่างแผ่วเบา แต่เขาได้ยินชื่อคุ้นหูนี้ชัดเจนติ๊ง! ผมย่อตัวช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นบนสุดคอนโดของผม ก่อนจะ
หลังจากทีมงานเตรียมความพร้อมด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งสัญญาณผ่านเลขาไอ้ติณให้ผมกับเพื่อนเดินออกไป แน่นอนว่าใครบางคนที่อยู่ห้องข้างๆ ก็กำลังเปิดประตูออกมาเหมือนกัน และที่ทำให้ผมหัวร้อนขึ้นมาจนแทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก็เพราะชุดเดรสหนังเงาๆ สีดำที่มันรัดคนตัวเล็กซะจนผมหายใจไม่ออกสายก็เส้นเล็กไหนจะก้อนกลมๆ ที่โผล่พ้นขึ้นมาให้เห็นอีก เดินทีซิปแทบจะปริอยู่แล้ว"ร้อนหรอวะ""อืม" ไอ้ติณถามเพราะเห็นหน้าบึ้งตึงของผม จนทีมงานไม่กล้าเข้ามาใกล้"โทษทีหว่ะ กูขอสามรูปสวยๆ พอ" เพื่อนถึงกับตบไหล่ผมเบาเบาให้ผมใจเย็น และหันไปบรีฟทีมงานให้รีบถ่ายให้เสร็จ พร้อมกับให้เลขาเอาร่มมากางและพัดลมมาเป่าให้ผม"อืม"เพื่อให้งานของเพื่อนราบรื่น ผมพยายามปรับอารมณ์และสีหน้าเป็นปกติที่สุด เดินไปยืนรอที่รถสีเมทัลลิครอร่างบางที่กำลังเดินตามมาฟังบรีฟจากทีมงานอีกครั้ง"น้องฝันขา พี่ขอพริกสิบเม็ดเลยนะคะ""ได้ค่ะ"'อะไรคือพริกสิบเม็ดวะ' คำถามที่เกิดขึ้นในหัวถูกตอบเป็นท่าโพสต์โดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว คนที่ทำให้ผมหงุดหงิดก็จัดแจงจัดท่าทางให้ผมยืนพิงกระโปรงรถก้าวเข้ามายืนตรงหน้า โพสต์ท่าเหมือนกำลังถอดแจ๊คเก็ตหนังของผมแล้วหันไป
"ลุงจะกลับเลยมั้ย""ไล่?" เป็นคนแก่ขี้งอนอย่างแท้ทรู"ไม่ได้ไล่ วันนี้ฉันมีถ่ายงานทั้งวัน""...""หรือจะไปส่ง" นี่ฉันง้อแล้วนะ เห็นแก่คนแก่นั่งหน้างอตาดำดำ"วันนี้ฉันมีธุระ" เขาพูดเท่านั้นก็ลุกจากที่นอนพาร่างสูงเปลือยเปล่าเดินเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉย ทำฉันที่ยืนอยู่หน้ากระจกร้อนวูบวาบจนแก้มเปลี่ยนสีทั้งที่ยังไม่ได้ปัดบลัชออน หลังจากที่ฉันกับเขาสั่งของมากินรองท้องเบาเบาของเขาเป็นอเมริกาโน่เย็นกับครัวซองค์แฮมชีส ส่วนของฉันเป็นมัทฉะเย็นกับเบเกิ้ลแสนอร่อย เราสองคนก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง และนัดกลับมาเจอกันที่คอนโดทำมื้อเย็นง่ายๆ กินด้วยกัน บอกตามตรงฉันติดใจฝีมือทำอาหารของเขาเข้าอย่างจัง"น้องฝัน วันนี้เป็นงานคู่นะคะ" พี่แพทถือร่มยืนรอเตรียมบรีฟงานให้ฟังทันทีที่ฉันลงจากรถ"งานคู่? ไม่เห็นบอกกันก่อนเลยค่ะ" "ทางลูกค้าพึ่งส่งบรีฟมาให้พี่เมื่อคืนเองค่ะ""คู่กับใคร พี่แพทรู้มั้ยคะ""เหมือนจะเป็นนักธุรกิจหนุ่มเพื่อนของคุณตริติณนะคะ""โห ฝันเริ่มเกร็งแล้วสิ" ลำพังถ้าเป็นคนในอาชีพเดียวกันฉันคงไม่ต้องกังวลอะไรมาก"พี่เชื่อว่า คุณน้องทำได้ค่ะ"งานในวันนี้เป็นงานถ่ายแบบคู่กับรถหรูราคาหลายสิ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เธอ รอแป็บนะ" ผมบอกคนในสายที่กำลังนั่งตาปรืออยู่คุยเป็นเพื่อนผม"อืม"เขาวางแมคบุ๊คลงบนที่นอน และพาร่างสูงเหมือนนายแบบเดินไปส่องตาแมวที่ประตูห้องพักด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่ได้โทรไปสั่งอาหารหรือของแต่อย่างใด จะว่าเลขา รายนั้นก็พึ่งส่งข้อความมาบอกว่าขอออกไปช้อปปิ้งเมื่อครู่"สวัสดีค่ะ คุณฟิล์ม" คนตรงหน้าสร้างความแปลกใจให้ผมไม่น้อย เพราะเธอเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่เดินทางมางานเดียวกัน เคยพบปะพูดคุยกันตามงานโดยไม่มีอะไรเกินเลย ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามส่งสายตาอยู่หลายครั้งก็ตาม เธอสวยแต่บอกเลยว่าไม่ใช่สเปคผมรู้จักห้องผมได้ยังไงวะ? "ครับ" ร่างสูงตอบรับด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มใดๆ "เมลพักอยู่ห้องข้างๆ นี่แหละค่ะ" "อ่อ ครับ" โลกกลมเกินไปมั้ง"คือเมลอยากชวนคุณฟิล์มไปดินเนอร์ด้วยกันค่ะ" "คือ ผมติดประชุม วันนี้คงไม่สะดวก" ผมคิดว่าการตอบปฏิเสธแบบนี้ดูสุภาพมากที่สุด เพราะคงต้องเจอกันอีกหลายงาน"งั้น ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ ห้ามปฏิเสธกันนะคะ" "อะ เอ่อ..." "จุ๊บ บายค่ะ" เธอคนนั้นกระโดดเข้ามากดจูบที่แก้มสากโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองที่อยู่ข้างกัน แต่ย
"น้องฝัน หนูได้งานนี้นะคะ" วันนี้พี่แพทขับรถมารับฉันไปทำทรีทเมนต์หน้าที่คลินิกซึ่งฉันเพิ่งเซ็นต์สัญญาไปเมื่อวันก่อนและมีคิวถ่ายรูปโปรโมทในเดือนหน้า เลยต้องมาเตรียมความพร้อมให้ผิวกันสักหน่อย"งานไหนคะพี่แพท" เพราะพี่แพทส่งโปรไฟล์ของฉันไปหลายงานมาก "ก็งานพรีเซ็นเตอร์รถหรูไงคะ" "จริงหรอคะ ดีใจจัง" เป็นอีกหนึ่งงานที่เหมือนเป็นความฝันของฉันเลยนะ ไม่คิดว่านางแบบน้องใหม่อย่างฉันจะได้งานนี้กับเขาด้วย"ดีใจ แต่หน้าหงอยมากค่ะลูกสาวแม่" หงอยหรอ? ฉันว่าปกตินะ"สรุปว่าดีใจหรือไม่ดีใจคะ" "ต้องดีใจสิคะ ดีใจม๊ากมากค่ะ" ฉันหันไปยิ้มจนตาหยีให้ผู้จัดการส่วนตัวเชื่อในคำตอบของฉันก่อนจะแยกกันไปทำทรีทเมนต์คนละห้อง เพราะพี่แพทนางอยากเติมตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ส่วนฉันขอแค่บำรุงผิวเติมวิตามินแค่นั้นพอ เดี๋ยวใครบางคนกลับมาจะจำกันไม่ได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้นอนฝันหวานไปถึงไหน"พี่แพท ไปหาที่ถ่ายรูปกันมั้ยคะ" ไหนๆ วันนี้ก็แต่งตัวน่ารักๆ ออกมาแล้ว ขอทำคอนเทนต์นิดนึงแล้วกัน"อารมณ์ไหนคะ""อารมณ์คนเหงามั้งคะ" "ถ้าน้องฝันลองเปิดใจคุยกับหนุ่มๆ ที่ไดเรคมาหาทุกวัน ก็ไม่เหงาแล้วค่ะ""ไม่
เหมือนว่าข้อตกลงระหว่างเธอกับผมมันมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยจากความเนียนของผมเองนี่แหละ เนียนเสียจนเด็กแสบไม่รู้ตัวหรือว่าอาจจะรู้แต่ทำเป็นไม่สนใจ ผมก็เดาใจเธอไม่ถูกเหมือนกัน อย่างที่บอก วาดฝันไม่เหมือนคนอื่นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปที่ว่าก็คือ จากที่ตกลงกันไว้ว่าผมกับเธอจะนอนด้วยกันสัปดาห์ละสี่วัน มาวันนี้เป็นวันที่ห้าของสัปดาห์ที่ผมอยู่ที่คอนโดเด็กแสบ เพราะสัปดาห์หน้าผมต้องบินไปดูงานต่างประเทศหลายวัน นั่นแหละเหตุผลที่ใช้เป็นข้ออ้างบอกเธอ"สวัสดีครับ คุณตริติณ" หลังจากส่งเด็กแสบที่มหาวิทยาลัยเรียบร้อย ผมก็ขับรถเลยมาคุยธุระกับเพื่อนรักก่อนไปสนามบินสักหน่อย"..." เพื่อนมาหาทั้งที แต่เจ้าของบริษัทนำเข้ารถหรูกลับต้อนรับโดยการกลอกตาบนใส่ดูเหนื่อยหน่ายที่ได้เห็นหน้าผม"หาพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ได้ยังวะ" ที่ผมมาก็เพราะไอ้ติณแชทไปปรึกษาให้ผมมาช่วยเลือกนางแบบ บอกตามตรงมันเป็นงานที่ทำให้ผมลำบากใจไม่น้อย "ยังหว่ะ""น้องกูไง" ตัวเลือกนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในหัวไอ้คนขี้หวงอย่างไอ้ติณแน่นอน"ไม่""มินิน" "ไม่" เป็นอีกหนึ่งชื่อที่ถูกคุณบอสใหญ่ปัดตก เพราะตอนที่มินินเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไอ้ติณถึงขนาด
ปึก! "โอ๊ย! นี่เธอ" สุดท้ายเธอก็ทนความเอาแต่ใจของคนนิสัยไม่ดีไม่ไหว กระแทกส้นรองเท้าลงบนรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่โตเต็มแรงและผละตัววิ่งหนีออกมาได้ ก่อนจะปรับสีหน้าและท่าทางของตัวเองไม่ให้มีพิรุธจนเพื่อนจับสังเกตได้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าริมฝีปากแดงสวยเปลี่ยนเป็นบวมเจ่ออย่างเห็นได้ชัด"ไปกัน""เดี๋ยว ปากแกไปโดนอะไรมา ฝัน" ทำไมหูตาไวอย่างนี้นะ"คือ ฉันแพ้หอยเม่นหน่ะ""ไปหาหมอก่อนมั้ย" ฉันซาบซึ้งในความเป็นห่วงของเพื่อนอยู่หรอก แต่พาฉันหนีไปจากสายตาคมเหมือนมีดที่มองมาตอนนี้ก่อนจะได้มั้ย...แองจี้"ไม่เป็นไร กลับไปกินยาแก้แพ้เดี๋ยวก็หาย""อืม"เธอเดินเข้าไปเกาะแขนเพื่อนราวกับเป็นเกาะกำบังที่ดีที่สุดในเวลานี้ จนแองจี้ทำหน้างงหันมามองอย่างสงสัย นางแบบสาวเลยต้องรีบดึงแขนพาเดินออกมาที่ลานจอดรถอ้างว่าอยากจะกลับไปกินยานอน"เฮ้อ ถึงห้องสักที" ฉันทิ้งตัวลงนอนแผ่หลากลางที่นอนสีขาว ค่อยๆ หลับตาลงพยายามลบภาพวุ่นวายที่คอยวิ่งเข้ามาในหัวรบกวนจิตใจจนรู้สึกเหนื่อย วาดฝันเหนื่อยมาก...เพราะคนนิสัยไม่ดีคนเดียวเลยพรึ่บ! "..." ทำไมอยู่ๆ ฉันถึงรู้สึกเหมือนถูกผีอำเลยละ อุตส่าห์เลือกซื้อคอนโดสร้างใหม่แล้วนะ ต้องไม่