"เธอหาคาเฟ่นั่งกัน" อยากเช็คอีเมล์สักหน่อย เพราะเลขาส่งข้อความมาให้ผมช่วยอนุมัติงานให้ด่วน เลยอยากไปหาที่นั่งอ่านเงียบๆ
"คุณลุงเหนื่อยแล้วหรอ..." สองมือเล็กประคองแก้มสากบีบเล่นเบาเบาพร้อมน้ำเสียงหยอกล้อแววตาดูซุกซนเหมือนว่าผมแก่นักแก่หนา "เดี๋ยวจะโดน" จนผมต้องใช้หลังนิ้วเคาะที่จมูกเชิดรั้นไปหนึ่งทีระบายความมันเขี้ยวที่มี "งั้นไปที่นี่กันมั้ย รอดูน้ำพุด้วย" เธอเปิดรูปในมือถือให้ผมดูสถานที่ที่เธออยากไป "อืม" ผมและเธอเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลเพราะเธออยากไปขอพรที่น้ำพุแห่งความมั่งคั่งและรอดูการแสดงน้ำพุประกอบแสงเลเซอร์และเสียงเพลงอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่เธอไม่อยากพลาดกลัวจะมาไม่ถึง "ลุง รออยู่ตรงนี้นะ" หลังจากเดินขอพรครบสามรอบ เราก็พากันมาหาที่นั่งในคาเฟ่ ซึ่งผมเลือกนั่งมุมริมกระจกจะได้มองเห็นวิวด้านนอก มาก็หลายครั้งแล้ว แต่ผมยังไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด อาจเป็นเพราะครั้งนี้มีเด็กช่างพูดอยู่เป็นเพื่อน มองอะไรก็เธอก็พาผมตื่นเต้นไปด้วยทุกอย่าง ชักอยากจะพาเธอใส่กระเป๋าไปกับผมทุกที่แล้วละซิ... "แล้วเธอ?" "จะไปซื้อของฝากให้พี่แพทหน่ะ" "อืม เอาบัตรไปรูด" ผมหยิบแบล็คการ์ดในกระเป๋าสตางค์ให้เธอไปใช้ช้อปปิ้ง เป็นใบที่ผมตั้งใจทำมาไว้ให้เด็กแสบโดยเฉพาะ "ไม่เอาอ่ะ" "อย่าดื้อ" "จะรูดให้หมดเลยคอยดู" "ตามสบายครับ" ผมพยักหน้าสบายๆ อยากรู้เหมือนกันว่าจะกล้าใช้เงินของผมเหมือนอย่างที่พูดมั้ย ปล่อยให้เด็กแสบไปช้อปปิ้งตามประสาผู้หญิง ส่วนผมก็นั่งทำงานรอเธอไปเรื่อยๆ พร้อมกับเช็คข่าวของเธอกับไอ้ติณให้แน่ใจว่าทุกเพจที่ลงข่าวก่อนหน้าได้ลบและลงบทความขอโทษเรียบร้อยแล้วหรือยัง จะได้จัดการคิดบัญชีที่เหลือต่อให้จบ แทนที่จะเอารูปโปรโมทของผมกับเธอไปทำข่าวกลับลงรูปไร้สาระแบบนั้นแทน มันน่าเผาสำนักงานทิ้งให้หมด! ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงคนตัวเล็กที่ผมรอก็กลับมาพร้อมกับถุงแบรนด์เนมใบใหญ่หนึ่งใบและถุงใบเล็กอีกหนึ่งใบทำผมขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจถึงกับต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความแจ้งเตือนยอดใช้จ่ายของบัตรเครดิตที่ส่งมาเมื่อครู่ ที่พูดทำทีเป็นจะใช้เงินให้หมดวันนี้ แต่เธอกลับรูดใช้ไปเพียงหกหลักเท่านั้น แต่จะกี่หลักผมก็จ่ายให้ได้อยู่แล้ว ค่อยทบต้นทบดอกทีหลัง 'หึ' "ได้อะไรมา" "กระเป๋าให้พี่แพท" "สวยมั้ย" เธอหยิบกระเป๋าออกจากถุงผ้าขึ้นมาอวด ก่อนจะเก็บกลับไปเหมือนเดิมเพราะกลัวทำเป็นรอย "อืม แล้วของเธอ?" "ลุงขอข้อมือหน่อยสิ" เธอไม่ตอบคำถามเพราะกำลังยุ่งอยู่กับบางอย่างในกล่องเล็ก แต่ผมก็ยื่นแขนไปตรงหน้าเธออย่างตามใจ "ทำมือเล็กๆ สิ" ทำยังไงวะ มือเล็กๆ? มือบางจับรวบนิ้วยาวที่แบอยู่ให้ติดกันแล้วจับห่อเหมือนขนมจีบ ก่อนจะหยิบกำไรหนังแบรนด์ดังสองเส้นจากกล่องขึ้นมาใส่เข้าที่ข้อมือใหญ่ ลองมองดูดีดีเป็นแบบเดียวกันกับที่ข้อมือของเธอ ทำผมเอ็นดูจนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ในชีวิตยังไม่เคยใส่อะไรแบบคู่กับใครเลย ขนาดไอ้แฝดก็ไม่เคยมีโมเมนต์แบบนี้ "พอดีเลยแฮะ" เธอยื่นข้อมือที่มีกำไรหนังแบบเดียวกันมาวางขนานกับข้อมือผม ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ "ห้ามถอดนะ" "จะถอด" "จิ๊" เด็กแสบทำหน้ามุ่ยพลิกมือเตรียมจะถอดกำไรที่เธอพึ่งใส่ให้ออก "ถอดตอนอาบน้ำครับ" จนผมต้องรีบคว้ามือนุ่มมาจับประสานไว้แน่นให้หลังมือผมวางลงบนโต๊ะหลับมือสวยๆ จะได้ไม่เป็นรอยพร้อมกับใช้นิ้วโป้งลูบหลังมือเบาเบาหวังให้เธอใจเย็น ทำเธอแก้มแดงระเรื่อหันมองออกไปนอกหน้าต่าง "หาอะไรกินก่อนมั้ย ระหว่างรอน้ำพุรอบสองทุ่ม" "อยากกินอาหารจีน" "อืม ในตึกนี้มี" คนตัวโตเก็บไอแพดลงกระเป๋าก่อนจะพาฉันเดินไปร้านอาหารจีนที่ฉันอยากกิน มื้อนี้ถึงฉันจะเป็นคนอยากกินแต่ให้เขาเป็นคนเลือกเมนูและสั่งอาหารแทนเพราะฉันไม่กล้าสั่งกลัวเลือกมาแล้วไม่ถูกปากเลยมอบหน้าที่ให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างเขาที่บอกว่าแวะมากินทุกครั้งที่มา และฉันก็คิดไม่ผิด ทุกเมนูที่เขาสั่งมาอร่อยทุกจาน เวลาได้กินของอร่อยๆ เนี่ยมีความสุขสุดสุดไปเลยนะ "นั่งดูตรงนั้นกัน" "อืม" ฉันรีบชวนเขามาจองที่นั่งก่อนถึงเวลาแสดงเพื่อจะได้มุมดีดีถ่ายรูปสวยๆ ระหว่างรอฉันก็เลยเล่นมือถือไปเรื่อย อันที่จริงก็ทำใจกล้าแอบเข้ามาดูข่าวตัวเองนั่นแหละ แต่ปรากฏว่าทุกอย่างกลับหายเกลี้ยงไม่หลงเหลือแม้แต่คำค้นหายอดฮิต เป็นเขา...คนที่นั่งตัวตรงให้ฉันพิงไหล่อยู่ข้างๆ เก่งจังเลยนะ...คุณลุงของฉันเนี่ย จนเสียงดนตรีดังขึ้นฉันเลยเก็บมือถือลงกระเป๋าสะพายใบเล็ก แต่ก็ต้องหยิบขึ้นมาใหม่อีกครั้งเพราะแสงสีเสียงตรงหน้าสวยมากจนฉันอยากจะถ่ายคลิปลงสตอรี่ไว้ "เธอ" "..." "เป็นแฟนกันป่ะ" เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับเสียงน้ำพุและจังหวะดนตรี ทำให้ฉันได้ยินที่เขาพูดไม่ค่อยชัด เลยต้องขอให้เขาพูดใหม่อีกครั้ง ให้แน่ใจว่าที่ได้ยินเมื่อครู่ฉันไม่ได้เข้าข้างตัวเอง "ห๊ะ ว่าอะไรนะ" ครั้งนี้ฉันหันไปมองหน้าหล่อๆ นั่น แล้วตั้งใจอ่านปากที่กำลังขยับ "เป็นแฟนกันมั้ย" เขาพูดว่า...? "เป็น แฟน กัน มั้ย" ปากเล็กๆ ขยับตามปากคนข้างๆ ตามที่ตัวเองจับใจความได้ "เป็นครับ" ตากลมโตเบิกกว้างทันทีที่เขาตอบประโยคที่ฉันพูดตามเขา ใจดวงน้อยเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมาข้างนอก ไม่รู้ว่าตอนนี้เสียงหัวใจของฉันหรือเสียงน้ำพุหรือเสียงดนตรีที่ดังกว่ากัน ไม่รู้ว่าสรุปใครเป็นคนขอเป็นแฟนกันแน่ เป็นเขา หรือที่จริงแล้วเป็นฉัน จุ๊บ ยังไม่ทันที่ฉันได้ตั้งสติก็เหมือนมีกฎของแรงดึงดูดผลักให้เราสองคนเข้าหากัน เป็นเขาที่กดปากลงมาจูบปากของฉันก่อน ใช่ว่าเราสองคนจะไม่เคยจูบกันมาก่อน แต่สำหรับฉัน ครั้งนี้ถือเป็นจูบแรกหลังจากที่ฉันขอเขาเป็นแฟน ไม่ใช่สิ! เขาต่างหากเป็นคนขอฉันเป็นแฟน เป็นจูบที่ไม่เอาแต่ใจ ไม่ดุดัน แต่พาให้ฉันหลงใหลไปกับรสจูบนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลย... #อ่านเพลินๆ สบายๆ ฟินๆ กันเหมือนเดิมนะคะ"เธอหาคาเฟ่นั่งกัน" อยากเช็คอีเมล์สักหน่อย เพราะเลขาส่งข้อความมาให้ผมช่วยอนุมัติงานให้ด่วน เลยอยากไปหาที่นั่งอ่านเงียบๆ"คุณลุงเหนื่อยแล้วหรอ..." สองมือเล็กประคองแก้มสากบีบเล่นเบาเบาพร้อมน้ำเสียงหยอกล้อแววตาดูซุกซนเหมือนว่าผมแก่นักแก่หนา"เดี๋ยวจะโดน" จนผมต้องใช้หลังนิ้วเคาะที่จมูกเชิดรั้นไปหนึ่งทีระบายความมันเขี้ยวที่มี"งั้นไปที่นี่กันมั้ย รอดูน้ำพุด้วย" เธอเปิดรูปในมือถือให้ผมดูสถานที่ที่เธออยากไป"อืม"ผมและเธอเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลเพราะเธออยากไปขอพรที่น้ำพุแห่งความมั่งคั่งและรอดูการแสดงน้ำพุประกอบแสงเลเซอร์และเสียงเพลงอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่เธอไม่อยากพลาดกลัวจะมาไม่ถึง"ลุง รออยู่ตรงนี้นะ" หลังจากเดินขอพรครบสามรอบ เราก็พากันมาหาที่นั่งในคาเฟ่ ซึ่งผมเลือกนั่งมุมริมกระจกจะได้มองเห็นวิวด้านนอกมาก็หลายครั้งแล้ว แต่ผมยังไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด อาจเป็นเพราะครั้งนี้มีเด็กช่างพูดอยู่เป็นเพื่อน มองอะไรก็เธอก็พาผมตื่นเต้นไปด้วยทุกอย่าง ชักอยากจะพาเธอใส่กระเป๋าไปกับผมทุกที่แล้วละซิ..."แล้วเธอ?""จะไปซื้อของฝากให้พี่แพทหน่ะ""อืม เอาบัตรไป
"จะไปไหน""ห้องน้ำ"เสียงทุ้มงัวเงียถามคนในอ้อมกอดที่ค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมแขน ก่อนจะยอมปล่อยให้เธอไปทำธุระส่วนตัว ส่วนเขาก็นอนรออยู่ที่เดิมรอเธอกลับมานอนกอดกันต่อ เพราะทั้งเขาและเธอพึ่งพากันนอนเมื่อตอนแสงพระอาทิตย์ส่องผ่านผ้าม่านมาให้เห็น"ไปคุยงานกี่โมง""สิบโมง"คนตัวเล็กกลับมามุดผ้าห่มผืนเดียวกับเขาอีกครั้ง ส่วนเขาจากที่นอนคว่ำหน้าก็พลิกตัวตะแคงเลื่อนตัวลงไปซบหน้าอกนุ่มนิ่มของคนน้องแบบที่ชอบพาดแขนแกร่งกอดเอวบางไว้แน่นมีมือเล็กคอยลูบผมเขาเล่นเพลินๆ พากันเคลิ้มจนหลับสนิท"จะออกไปเดินเล่นรึป่าว" ผมหันไปถามเด็กดื้อที่นั่งมองผมแต่งตัวตาแป๋ว"อืม ว่าไปถ่ายรูปนะ" "รอสักสองชั่วโมงได้มั้ย" เพราะผมตั้งใจว่าพอประชุมเสร็จก็จะหนีกลับมาพาเธอไปเดินเที่ยว"รอทำไมอะ" มองหน้ากวนๆ แบบนี้ คงไม่พ้นจะปั่นประสาทให้ผมหัวหมุนแน่ มีเมียเด็กทำไมมันเหนื่อยจังวะ? "ก็อยากไปถ่ายรูป?" "อ่าฮะ" เด็กแสบพยักหน้าอมยิ้ม"แล้วจะให้ใครถ่ายให้" ผมยืนท้าวเอวถามมองเธอหน้านิ่ง เล่นเป็นเพื่อนซะหน่อย ดูซิ จะยั่วโมโหอะไรอีก"ก็ต้องมีหนุ่มๆ แถวนั้นถ่ายให้บ้างละ" ลอยหน้าลอยตาพูดสุดๆ ถ้าไม่ติดว่าใกล้ถึงเวลาประชุม เธอโดนเล่น
"ไปถ่ายแบบมาเป็นยังไงบ้าง" หลังจากจบคลาสฉันกับเพื่อนสนิทอย่างแองจี้ก็พากันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือหลังมหาวิทยาลัย เพราะฉันอยากกินกากหมูเจียว"สนุกมาก แต่ฉันคงต้องรับงานให้เยอะกว่านี้แล้วแหละ" "ทำไม แกไปทำรถเขาเป็นรอย?" สมกับเป็นเพื่อนรักของฉันซะจริง"บ้าหรอ ฉันอยากได้รถสวยๆ แบบนั้นบ้างต่างหาก""หาแฟนรวยง่ายกว่า" ก็จริงนะ! แต่จะหาจากไหนละ คนรวยเขาก็มีชอบนางเอกแถวหน้ากันทั้งนั้นแหละ ใครจะมามองนางแบบตัวเล็กตัวน้อยอย่างเรากัน"หรือมีแล้ว?""มะ มีอะไร ไม่มี" ไม่ดูมีพิรุธใช่มั้ยนะ"หรือจะเป็นนายแบบที่ถ่ายกับแก ได้ข่าวว่าโปรไฟล์เริ่ดไม่ใช่?" ทำไมวันนี้แองจี้พูดเยอะจังนะ"เฉยๆ นะ" ก็ไม่ได้เริ่ดอะไรมาก แค่มีซิกแพคแน่นๆ ผิวขาวใสเหมือนอาบน้ำวันละสิบรอบจมูกโด่งเป็นสัน ขนตางอนยาวเป็นแพร เป็นเจ้าของธุรกิจมากมายและขับรถหรู เท่านั้นเองคุณลุง : ได้ยินตายแล้ว! ฉันลืมไปเลยว่าค้างสายตาลุงไว้ตั้งแต่ในคลาสก็ตั้งแต่เช้านั่นแหละ เพราะเขาบินไปสิงคโปร์ด่วนตั้งแต่เมื่อวาน มาวันนี้ก็โทรมาปลุกฉันแต่เช้าและไม่ยอมวางอีกเลย จนฉันต้องเปิดบลูทูธเชื่อมต่อกับแอร์พอดแล้วเก็บมือถือไว้ในกระเป๋าสะพาย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนท
"หืม ใครอะ" ตัวเล็กยืนเอนไปเอียงมาจนเขาต้องโอบเอวบางไว้แน่นจนใกล้กันมากพอให้เธอยกมือมาดึงแก้มสากให้ยืดออกเหมือนเป็นพิซซ่าขอบชีส พยายามปรือตามองหน้าอย่างสงสัย"ผัวมั้ง" ส่วนเขาก็เหล่ตามองตัวเล็กพร้อมกับตอบทีเล่นทีจริง อยากรู้ว่าเด็กขี้เมาจะโวยวายหรือจะยอมรับเขาง่ายๆ"ผัวหรอ" นิ้วสวยๆ เคาะลงบนแก้มสากของเขาเบาเบาอย่างใช้ความคิด เหมือนจะใช่คนนี้หรือว่าไม่ใช่กัน"อืม" "มั่วๆๆๆ ผัวฉันหล่อกว่านี้" จะมีใครหล่อกว่านี้อีกวะ? มือเล็กโบกตรงหน้าไปมาปฏิเสธสถานะที่เขายัดเยียดให้ แล้วผละตัวออกทำเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า มือใหญ่เลยต้องรีบคว้าเอวบางเข้ามาใกล้จนอะไรต่อมิอะไรของเขาและเธอแนบแน่น และใช้แขนแกร่งอีกข้างล็อคสะโพกมนเอาไว้ไม่ให้เธอดิ้นจนเซล้ม"มีผัวแล้ว? " คิ้วเข้มขมวดเป็นปมกัดฟันแน่น ไม่เคยมีใครทำเขาหงุดหงิดได้เท่านี้มาก่อน"ช่ายยย" "ผัวชื่ออะไร" จะลองให้โอกาสอีกครั้ง ถ้าตอบได้ดีเขาก็จะไม่ทำโทษเธอที่ทำให้เขาโมโหมาค่อนวัน"ลุง ฟิล์ม" หน้าสวยซบลงแนบอกแกร่งตอบคำถามอย่างแผ่วเบา แต่เขาได้ยินชื่อคุ้นหูนี้ชัดเจนติ๊ง! ผมย่อตัวช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นบนสุดคอนโดของผม ก่อนจะ
หลังจากทีมงานเตรียมความพร้อมด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งสัญญาณผ่านเลขาไอ้ติณให้ผมกับเพื่อนเดินออกไป แน่นอนว่าใครบางคนที่อยู่ห้องข้างๆ ก็กำลังเปิดประตูออกมาเหมือนกัน และที่ทำให้ผมหัวร้อนขึ้นมาจนแทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก็เพราะชุดเดรสหนังเงาๆ สีดำที่มันรัดคนตัวเล็กซะจนผมหายใจไม่ออกสายก็เส้นเล็กไหนจะก้อนกลมๆ ที่โผล่พ้นขึ้นมาให้เห็นอีก เดินทีซิปแทบจะปริอยู่แล้ว"ร้อนหรอวะ""อืม" ไอ้ติณถามเพราะเห็นหน้าบึ้งตึงของผม จนทีมงานไม่กล้าเข้ามาใกล้"โทษทีหว่ะ กูขอสามรูปสวยๆ พอ" เพื่อนถึงกับตบไหล่ผมเบาเบาให้ผมใจเย็น และหันไปบรีฟทีมงานให้รีบถ่ายให้เสร็จ พร้อมกับให้เลขาเอาร่มมากางและพัดลมมาเป่าให้ผม"อืม"เพื่อให้งานของเพื่อนราบรื่น ผมพยายามปรับอารมณ์และสีหน้าเป็นปกติที่สุด เดินไปยืนรอที่รถสีเมทัลลิครอร่างบางที่กำลังเดินตามมาฟังบรีฟจากทีมงานอีกครั้ง"น้องฝันขา พี่ขอพริกสิบเม็ดเลยนะคะ""ได้ค่ะ"'อะไรคือพริกสิบเม็ดวะ' คำถามที่เกิดขึ้นในหัวถูกตอบเป็นท่าโพสต์โดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว คนที่ทำให้ผมหงุดหงิดก็จัดแจงจัดท่าทางให้ผมยืนพิงกระโปรงรถก้าวเข้ามายืนตรงหน้า โพสต์ท่าเหมือนกำลังถอดแจ๊คเก็ตหนังของผมแล้วหันไป
"ลุงจะกลับเลยมั้ย""ไล่?" เป็นคนแก่ขี้งอนอย่างแท้ทรู"ไม่ได้ไล่ วันนี้ฉันมีถ่ายงานทั้งวัน""...""หรือจะไปส่ง" นี่ฉันง้อแล้วนะ เห็นแก่คนแก่นั่งหน้างอตาดำดำ"วันนี้ฉันมีธุระ" เขาพูดเท่านั้นก็ลุกจากที่นอนพาร่างสูงเปลือยเปล่าเดินเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉย ทำฉันที่ยืนอยู่หน้ากระจกร้อนวูบวาบจนแก้มเปลี่ยนสีทั้งที่ยังไม่ได้ปัดบลัชออน หลังจากที่ฉันกับเขาสั่งของมากินรองท้องเบาเบาของเขาเป็นอเมริกาโน่เย็นกับครัวซองค์แฮมชีส ส่วนของฉันเป็นมัทฉะเย็นกับเบเกิ้ลแสนอร่อย เราสองคนก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง และนัดกลับมาเจอกันที่คอนโดทำมื้อเย็นง่ายๆ กินด้วยกัน บอกตามตรงฉันติดใจฝีมือทำอาหารของเขาเข้าอย่างจัง"น้องฝัน วันนี้เป็นงานคู่นะคะ" พี่แพทถือร่มยืนรอเตรียมบรีฟงานให้ฟังทันทีที่ฉันลงจากรถ"งานคู่? ไม่เห็นบอกกันก่อนเลยค่ะ" "ทางลูกค้าพึ่งส่งบรีฟมาให้พี่เมื่อคืนเองค่ะ""คู่กับใคร พี่แพทรู้มั้ยคะ""เหมือนจะเป็นนักธุรกิจหนุ่มเพื่อนของคุณตริติณนะคะ""โห ฝันเริ่มเกร็งแล้วสิ" ลำพังถ้าเป็นคนในอาชีพเดียวกันฉันคงไม่ต้องกังวลอะไรมาก"พี่เชื่อว่า คุณน้องทำได้ค่ะ"งานในวันนี้เป็นงานถ่ายแบบคู่กับรถหรูราคาหลายสิ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เธอ รอแป็บนะ" ผมบอกคนในสายที่กำลังนั่งตาปรืออยู่คุยเป็นเพื่อนผม"อืม"เขาวางแมคบุ๊คลงบนที่นอน และพาร่างสูงเหมือนนายแบบเดินไปส่องตาแมวที่ประตูห้องพักด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่ได้โทรไปสั่งอาหารหรือของแต่อย่างใด จะว่าเลขา รายนั้นก็พึ่งส่งข้อความมาบอกว่าขอออกไปช้อปปิ้งเมื่อครู่"สวัสดีค่ะ คุณฟิล์ม" คนตรงหน้าสร้างความแปลกใจให้ผมไม่น้อย เพราะเธอเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่เดินทางมางานเดียวกัน เคยพบปะพูดคุยกันตามงานโดยไม่มีอะไรเกินเลย ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามส่งสายตาอยู่หลายครั้งก็ตาม เธอสวยแต่บอกเลยว่าไม่ใช่สเปคผมรู้จักห้องผมได้ยังไงวะ? "ครับ" ร่างสูงตอบรับด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มใดๆ "เมลพักอยู่ห้องข้างๆ นี่แหละค่ะ" "อ่อ ครับ" โลกกลมเกินไปมั้ง"คือเมลอยากชวนคุณฟิล์มไปดินเนอร์ด้วยกันค่ะ" "คือ ผมติดประชุม วันนี้คงไม่สะดวก" ผมคิดว่าการตอบปฏิเสธแบบนี้ดูสุภาพมากที่สุด เพราะคงต้องเจอกันอีกหลายงาน"งั้น ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ ห้ามปฏิเสธกันนะคะ" "อะ เอ่อ..." "จุ๊บ บายค่ะ" เธอคนนั้นกระโดดเข้ามากดจูบที่แก้มสากโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองที่อยู่ข้างกัน แต่ย
"น้องฝัน หนูได้งานนี้นะคะ" วันนี้พี่แพทขับรถมารับฉันไปทำทรีทเมนต์หน้าที่คลินิกซึ่งฉันเพิ่งเซ็นต์สัญญาไปเมื่อวันก่อนและมีคิวถ่ายรูปโปรโมทในเดือนหน้า เลยต้องมาเตรียมความพร้อมให้ผิวกันสักหน่อย"งานไหนคะพี่แพท" เพราะพี่แพทส่งโปรไฟล์ของฉันไปหลายงานมาก "ก็งานพรีเซ็นเตอร์รถหรูไงคะ" "จริงหรอคะ ดีใจจัง" เป็นอีกหนึ่งงานที่เหมือนเป็นความฝันของฉันเลยนะ ไม่คิดว่านางแบบน้องใหม่อย่างฉันจะได้งานนี้กับเขาด้วย"ดีใจ แต่หน้าหงอยมากค่ะลูกสาวแม่" หงอยหรอ? ฉันว่าปกตินะ"สรุปว่าดีใจหรือไม่ดีใจคะ" "ต้องดีใจสิคะ ดีใจม๊ากมากค่ะ" ฉันหันไปยิ้มจนตาหยีให้ผู้จัดการส่วนตัวเชื่อในคำตอบของฉันก่อนจะแยกกันไปทำทรีทเมนต์คนละห้อง เพราะพี่แพทนางอยากเติมตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ส่วนฉันขอแค่บำรุงผิวเติมวิตามินแค่นั้นพอ เดี๋ยวใครบางคนกลับมาจะจำกันไม่ได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้นอนฝันหวานไปถึงไหน"พี่แพท ไปหาที่ถ่ายรูปกันมั้ยคะ" ไหนๆ วันนี้ก็แต่งตัวน่ารักๆ ออกมาแล้ว ขอทำคอนเทนต์นิดนึงแล้วกัน"อารมณ์ไหนคะ""อารมณ์คนเหงามั้งคะ" "ถ้าน้องฝันลองเปิดใจคุยกับหนุ่มๆ ที่ไดเรคมาหาทุกวัน ก็ไม่เหงาแล้วค่ะ""ไม่
เหมือนว่าข้อตกลงระหว่างเธอกับผมมันมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยจากความเนียนของผมเองนี่แหละ เนียนเสียจนเด็กแสบไม่รู้ตัวหรือว่าอาจจะรู้แต่ทำเป็นไม่สนใจ ผมก็เดาใจเธอไม่ถูกเหมือนกัน อย่างที่บอก วาดฝันไม่เหมือนคนอื่นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปที่ว่าก็คือ จากที่ตกลงกันไว้ว่าผมกับเธอจะนอนด้วยกันสัปดาห์ละสี่วัน มาวันนี้เป็นวันที่ห้าของสัปดาห์ที่ผมอยู่ที่คอนโดเด็กแสบ เพราะสัปดาห์หน้าผมต้องบินไปดูงานต่างประเทศหลายวัน นั่นแหละเหตุผลที่ใช้เป็นข้ออ้างบอกเธอ"สวัสดีครับ คุณตริติณ" หลังจากส่งเด็กแสบที่มหาวิทยาลัยเรียบร้อย ผมก็ขับรถเลยมาคุยธุระกับเพื่อนรักก่อนไปสนามบินสักหน่อย"..." เพื่อนมาหาทั้งที แต่เจ้าของบริษัทนำเข้ารถหรูกลับต้อนรับโดยการกลอกตาบนใส่ดูเหนื่อยหน่ายที่ได้เห็นหน้าผม"หาพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ได้ยังวะ" ที่ผมมาก็เพราะไอ้ติณแชทไปปรึกษาให้ผมมาช่วยเลือกนางแบบ บอกตามตรงมันเป็นงานที่ทำให้ผมลำบากใจไม่น้อย "ยังหว่ะ""น้องกูไง" ตัวเลือกนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในหัวไอ้คนขี้หวงอย่างไอ้ติณแน่นอน"ไม่""มินิน" "ไม่" เป็นอีกหนึ่งชื่อที่ถูกคุณบอสใหญ่ปัดตก เพราะตอนที่มินินเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไอ้ติณถึงขนาด