หลังจากจริญญาวางสายไปแล้วรัญรวีก็นอนไม่หลับเธอจึงหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเพราะทุกครั้งที่อ่านหนังสือก็จะทำให้รู้สึกง่วงแต่คืนนี้มันแปลกไปจากเดิมแม้จะอ่านไปหลายหน้าอาการง่วงก็ยังไม่มีสักนิด
เธอคิดว่าอาจเป็นเพราะกาแฟเมื่อตอนบ่ายเลยทำให้นอนไม่หลับแต่พอคิดดูอีกทีมันก็ไม่น่าจะเพราะกาแฟเนื่องจากที่ผ่านมาไม่ว่าดื่มกาแฟไปมากแค่ไหนแต่พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตายทุกครั้ง
ขณะกำลังคิดหาสาเหตุเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่คนที่โทรมาไม่ใช่จริญญาอย่างที่คิด
“สวัสดีค่ะ”
“ผมเองนะ”
“ค่ะ โทรหาฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คนเป็นเพื่อนกันก็ต้องโทรหากันเป็นปกติ”
“แต่เราเพิ่งจะเจอกันไม่นานคงไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันหรอกใช่ไหมคะ”
“ผมว่าคุณคิดผิดแล้วล่ะเนย ยิ่งเพิ่งเจอกันเพิ่งได้รู้จักกันก็ต้องคุยกันให้มาก จะได้ทำความรู้จักกันได้ดีขึ้นสถานะเพื่อนจะได้เปลี่ยนเป็นแฟนเร็วๆ”
“ฉันไม่เคยเจอใครเหมือนคุณเลยนะคุณกันต์ เจอกันไม่กี่ครั้งก็ขอเป็นแฟน พอฉันปฏิเสธแทนที่คุณจะโกรธหรือถอยแต่คุณกลับทำตรงกันข้าม”
“เพราะไม่ได้คิดจะจีบคุณเล่นๆ นี่ครับ”
“ถ้าเกิดผ่านไปเป็นปีๆ ฉันก็ยังไม่ยอมใจอ่อนคุณจะไม่เสียเวลาแย่เหรอคะ”
“ถ้ามันนานขนาดนั้นจริงๆ คนที่จะเสียเวลาคือคุณนะครับ คุณอย่าลืมนะครับว่าผู้ชายมีข้อได้เปรียบเรื่องอายุ”
“ฉันรู้ค่ะ แต่คนเราจะเรียนรู้กันก็ต้องใช้เวลานะคะ จะให้ฉันตกลงคบกับคุณทั้งที่เพิ่งเจอเพิ่งได้คุยกันก็ยากอยู่ เวลาจะพิสูจน์เองว่าคุณจริงใจกับฉันหรือแค่อยากเอาชนะเท่านั้น”
“ผมยินดีให้คุณพิสูจน์ขอแค่คุณไม่ตัดโอกาสของผม”
“ฉันไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้นหรอกนะคะ”
“เนย ผมลืมถามคุณอย่างหนึ่ง”
“อะไรคะ”
“ผมลืมถามว่าคุณมีแฟนหรือคนรักหรือยัง”
“คุณไม่กลัวคำตอบเหรอคะ”
“ไม่ครับ ถึงผมจะชอบคุณและอยากให้คุณมาเป็นแฟนมากแค่ไหน ผมก็ไม่อยากไปแทรกกลางความรักของใคร คุณยังไม่มีแฟนใช่ไหม” พีรกันต์ตั้งใจแต่จะจีบเธอมาเป็นแฟนจนลืมถามเรื่องสำคัญ เขาใจเต้นแรงระหว่างรอคำตอบของรัญรวี
“เคยมีค่ะ”
“ค่อยโล่งใจหน่อย ขอถามต่ออีกได้ไหม”
“ถามเยอะไปหรือเปล่าคะ”
“อีกข้อเดียวครับ” พีรกันต์ไม่เคยเซ้าซี้ใครแบบนี้มาก่อนเลยแต่เพราะอยากรู้จักเธอจริงๆ เขาเลยต้องถาม
“ได้ค่ะ แต่ข้อสุดท้ายแล้วนะคะ”
“ผมอยากรู้ว่าที่ไม่ยอมเป็นแฟนกับผมเพราะความรักครั้งก่อนจบไม่สวยใช่ไหม”
“มันจบไม่สวยอย่างที่คุณพูดนั่นแหละค่ะ แต่ที่ฉันไม่ยอมตกลงเป็นแฟนคุณเพราะฉันคิดว่าเราเพิ่งรู้จักกัน มันไม่เกี่ยวกับความรักครั้งก่อนหรอกค่ะ เพราะคุณไม่ใช่เขา”
“แค่เพราะเราเพิ่งรู้จักกันจริงๆ เหรอ หรือมีเหตุผลอื่น”
“คุณบอกว่าจะถามอีกแค่ข้อเดียวนะคะ”
“อีกข้อก็ไม่ได้เหรอมันเป็นคำถามต่อเนื่องนะครับ”
“ไม่ค่ะ ถ้าอยากถามอะไรเพิ่มก็รอครั้งต่อไป”
“คุณคงไม่ว่าอะไรถ้าผมจะโทรหาคุณบ่อยๆ ผมรู้ว่างานคุณน่าจะยุ่ง คุณไม่จำเป็นต้องรับโทรศัพท์หรือตอบไลน์ผมทุกครั้งนะเนย ว่างตอนไหนค่อยตอบผมจะไม่ทำให้คุณอึดอัด แต่อาจจะทำให้รำคาญบ้าง แต่ทุกอย่างที่ทำก็เพราะผมชอบคุณและอยากเป็นแฟนคุณจริงๆ” พีรกันต์บอกชอบเธอเป็นครั้งที่เท่าไหร่เขาเองก็ลืมนับแต่คิดว่าคนฟังก็น่าจะใจอ่อนบ้าง
“ขอบคุณที่เข้าใจงานขอฉันนะคะ” รัญรวียิ้มกับตัวเองเมื่อได้ฟังคำพูดของเขา เธอไม่รู้หรอกว่าที่เขาพูดเพราะอยากจะให้เธอยอมเป็นแฟนเขาง่ายๆ หรือเพราะนิสัยของเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ
หญิงสาวอดเปรียบเทียบพีรกันต์กับคนรักเก่าไม่ได้ ธีรยุทธคนรักเก่าของเธอเป็นพนักงานออฟฟิศ เขาทำงานเป็นเวลาเข้างานเช้า เลิกงานตอนเย็นและมีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เวลาของเธอและเขาไม่ลงตัวเท่าไหร่ บางครั้งเขาโทรศัพท์มาขณะที่เธอกำลังทำงานหรือบางครั้งก็ชวนเธอไปเที่ยวในวันหยุดตามเทศกาลแต่รัญรวีไปด้วยไม่ได้ทุกครั้ง ทั้งสองทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมากจนเธอไม่อยากทนคบกับเขาต่อเพราะทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาก็โทษว่าเป็นความผิดของเธอ แม้เธอจะพยายามขอโทษและอธิบายแต่เขาก็ไม่เคยจะทำความเข้าใจเลย
“เนยทำไมคุณเงียบไปง่วงแล้วเหรอครับ”
“นิดหน่อยค่ะ”
“ผมไม่กวนเวลาพักผ่อนของคุณแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะโทรหานะหวังว่าเราจะได้เจอกันตอนเย็น” แม้อยากจะคุยกับเธอต่อแต่พีรกันต์ก็ไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของหญิงสาว
รัญรวีกำลังสับสนอย่างหนักเธอไม่เคยเจอผู้ชายที่รุกหนักแบบนี้มาก่อน พีรกันต์ไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่เธอเคยรู้จัก เขาดูเจ้าชู้แต่เวลาพูดสีหน้าและท่าทางกลับดูจริงจังจนเธอแยกไม่ออกว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ เธอรู้สึกระแวงนิดหน่อยแต่อีกใจหนึ่งก็อยากรู้จักเขาให้มากขึ้น เธอคิดว่าจะลองให้โอกาสเขาสักหน่อยแต่ถ้าเขาทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยเธอก็จะถอยออกมาเอง
หญิงสาวนอนคิดเรื่องตนเองกับพีรกันต์จนถึงเวลาที่จริญญาลงเวรมาเคาะประตูห้อง
“ดีใจนะที่เนยยังไม่นอน ง่วงหรือยัง”
“ยังเลย จุ๋มล่ะเพิ่งลงเวรมาไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อน”
“อย่ารีบนอนนะ ถ้าจุ๋มกลับมาแล้วเนยหลับไปก่อนจุ๋มจะโกรธจริงๆ ด้วย”
“ไม่หลับหรอกให้เวลาอาบน้ำสระผม 20 นาทีนะถ้าเกินนั้นก็ไม่แน่”
“แค่ 15 นาทีก็พอ” พูดจบจริญญาก็รีบเดินไปยังห้องของตนเองที่อยู่ถัดไปอีกสามห้อง
ยังไม่ถึง 15 นาทีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง จริญญามาด้วยชุดนอนและบนศีรษะยังมีผ้าขนหนูพันอยู่
“ขอพัดลมเบ่าผมหน่อย”
“เอาไดร์ดีกว่าไหมดึกแล้วเดี๋ยวไม่สบายนะ”
“ไม่เป็นไรเอาพัดลมก็พอจุ๋มจะได้ฟังเนยเล่าเรื่องผู้ชายคนนั้นด้วยถ้าใช้ไดร์เสียงมันดัง”
“ถ้าเนยไม่เล่าจุ๋มคงโกรธมากใช่ไหม”
“แน่นอนสินี่ลงเวรก็รีบวิ่งมาเลยกลัวเนยจะหลับไปแล้ว”
“เนยนอนไม่หลับ”
“ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า”
“ก็เรื่องผู้ชายคนนั้น”
“เล่ามาเลย เล่าให้ละเอียดนะบางเรื่องถ้าได้เล่าออกมาแล้วอาจจะสบายใจขึ้น จุ๋มจะเป็นผู้ฟังที่ดี”
“ไม่กลัวไปทำงานสายเหรอ”
“ไม่เป็นไรหรอกพรุ่งนี้จุ๋มเวรเช้าอย่างเดียว”
เมื่อเพื่อนยืนยันจะฟังรัญรวีก็เริ่มเล่าตั้งแต่เขาโทรศัพท์มาหาเมื่อตอนหัวค่ำ
“จุ๋มว่าเขาเอาจริงนะ”
“เนยไม่แน่ใจเท่าไหร่ เขาอาจจะอยากชนะก็ได้นะ”
“แบบนี้คงต้องดูกันยาวๆ ถ้านิสัยเขาดี หน้าตาก็ดีและเขาจริงใจอย่างที่พูดจริงๆ เนยก็ลองศึกษานิสัยกันไปก่อน”
“เนยก็คิดว่าจะลองดูคุยกับเขาดูถ้า ถ้าเวลาผ่านไปสักสามเดือนเขาไม่ถอดใจก็ค่อยว่ากันอีกที”
“ไม่คิดว่านานไปเหรอเนย”
“ไม่หรอก เวลาสามเดือนเผลอแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว” รัญรวีอยากลองดูสักครั้งเพราะตอนนี้เธอเองก็ยังไม่มีใครคุยด้วยการได้คุยกับพีรกันต์ก็น่าจะทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น
เกินจะทน (ตอบจบ)พีรกันต์เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะเขาเองก็เคยคิดเรื่องนี้แต่เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกอีกจึงยอมปล่อยเลยตามเลย“ถ้าเขาไม่ยอมให้ตรวจมึงก็แอบตรวจสิ เป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเรื่องแค่นิคิดไม่ได้”“แต่มันผิดกฎหมายนะ” นุกูลทนายหนุ่มพูดขึ้น“กูถามมึงหน่อยนะไอ้นุถ้ามึงเป็นไอ้กันต์มึงอยากจะรู้ไหมว่าเด็กที่เรียกว่าลูกน่ะเป็นลูกของมึงจริงๆ หรือเปล่า”“เป็นใครก็ต้องอยากรู้”“งั้นมึงก็เงียบไปเลยนะ” ธนวินท์หันมาทำตาดุใส่เพื่อน“ถ้ายังไม่อยากตรวจDNAก็ตรวจแค่กรุ๊ปเลือดก่อนก็ได้ มึงรู้ไหมน้องข้าวหอมกรุ๊ปเลือดอะไร”“กูไม่รู้แต่น่าจะมีในผลตรวจเลือด” เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีเมลที่ทางโรงพยาบาลส่งให้เมื่อครั้งก่อนพอเห็นกรุ๊ปเลือดของลูกสาวแล้วก็หน้าซีด“ไหนกูขอดูหน่อย” เมฆาคว้าโทรศัพท์ในมือเพื่อนไปดูจากนั้นก็เงยหน้ามองพีรกันต์แล้วนิ่ง“มึงเลือดกรุ๊ปอะไร”“AB” เขาตอบเหมือนคนไร้วิญญาณเพราะถ้าเขาเลือดกรุ๊ปABก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ข้าวหอมจะมีเลือดกรุ๊ปO“นั่นมึงจะไปไหนกันต์” อธิษถามเห็นพีรกันต์ลุกขึ้น“กูจะไปถามหลินให้รู้เรื่อง”“ใจเย็นก่อน” เมฆาที่นั่งอยู่ใกล้ฉุดมือของพีรกันต์ให้นั
การอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวไม่ง่ายเลยสำหรับพีรกันต์เพราะนอกจากเขาจะคอยดูแลข้าวหอมแล้วยังต้องคอยหลบหลีกลินรดาที่มักจะเข้าใกล้และยุ่งกับการใช้ชีวิตของเขามากกว่าที่คุยกันไว้“นี่มันดึกแล้วนะกันต์จะออกไปไหนอีก”“หน้าที่ของผมคือเล่านิทานและพาลูกเข้านอนตอนนี้ผมก็ทำหน้าที่ของผมเสร็จแล้วผมจะไปไหนมันก็เรื่องของผม” พีรกันต์ตอบอย่างหัวเสีย“หลินอยากคุยกับคุณ ขอเวลาหลินได้ไหมเราไปคุยกันที่ห้องนะคะ”“เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีก”“ก็เรื่องของเรา”“ระหว่างผมกับคุณมีแค่เรื่องของลูก ไม่มีเรื่องของเราหรอกนะ”“คุณชวนหลินมาอยู่ที่บ้านแต่คุณไม่เคยสนใจหลินเลยนะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ คุณไม่มีใครหลินก็ไม่มีใครทำไมเราไม่ลองคุยกันอีกสักครั้ง”“ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะว่าจะเป็นแค่พ่อของข้าวหอมที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อลูก ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณเลย”“คุณจะกลับไปหาผู้หญิงที่ชื่อเนยเหรอคะ คุณคิดว่าเธอจะรอคุณเหรอ”“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเนยเพราะถึงไม่มีเนยผมก็คิดจะกลับไปคบกับคุณ อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ ผมอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีของข้าวหอมเรื่องอื่นผมไม่อยากคิด”“หลินทำผิดอะไรคุณถึงไม่คิดจะกลับมาเป
“พี่กานต์มีเบอร์อาจารย์หมอศาสตราไหมขอผมหน่อยสิ”“มีสิ นายจะเอาไปทำอะไรหรือจะจ้างอาจารย์มาตรวจพี่ว่าอย่าเสียเวลาเลยพี่เคยชวนท่านหลายครั้งแล้ว”“เปล่าครับ”“แล้วจะเอาเบอร์ไปทำไมหรือมีใครป่วย”“ผมอยากปรึกษาท่าน”“กันต์มีอะไรหรือเปล่า หรือลูกไม่สบาย” เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กมีสีหน้าเครียดคนเป็นมารดาก็ร้อนใจ“เปล่าครับแม่ คนที่ใม่สบายคือข้าวหอม”“อะไรนะ หลานแม่ป่วยเป็นอะไร”“เนยบอกผมว่าข้ามหอมเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวครับแม่”“ป่วยถึงขั้นไหนแล้วตรวจเจอนานหรือยังรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ต้องให้คีโมหรือเปล่า”“ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากครับวันนี้ว่าจะพาข้าวหอมไปหาอาจารย์หมอ”“น่าสงสารจังตัวแค่นั้นก็ป่วยแล้ว กันต์ต้องดูแลลูกดีๆ”“ครับแม่”“คนที่บอกนายว่าข้าวหอมป่วยคือเนยเหรอ”“ครับพี่ เนยบอกผมเมื่อคืน”“แปลกดีนะทำไมคนที่บอกไม่ใช่แม่ของข้าวหอมล่ะ แล้วเนยไปรู้มาได้ยังไง”“ผมมัวแต่ตกใจเลยลืมถามเรื่องนี้ไปเลย แต่ก็ช่างมันเถอะจะรู้จากใครความจริงก็คือความจริง”“ถ้าต้องไปดูแลข้าวหอมบ่อยๆ กันต์ก็คุยกับหนูเนยให้เข้าใจนะลูก แบ่งเวลาให้ดี” เพราะคนหนึ่งก็หลานสาวอีกคนก็ว่าที่ลูกสะใภ้“คงไม่ต้องแล้วล่ะครับแม่”“ก
เพราะมีข้าวหอมมาอยู่ด้วยที่บ้านพีรกันต์เลยไม่คิดมากเรื่องรัญรวีเท่าไหร่จนกระทั่งผ่านไปสามวันหญิงสาวก็ยังไม่ติดต่อกลับมาพีรกันต์ไม่อยากรออีกต่อไปแล้ววันนี้เขาจึงมาดักรอหญิงสาวตรงทางเดินระหว่างโรงพยาบาลกับคอนโดมิเนียม“เนย”“พี่กันต์” รัญรวีตกใจเพราะจู่ๆ เขาก็โผล่ออกมาจากมุมถนน“พี่ขอคุยด้วยหน่อย”“เอาไว้คุยวันหลังดีไหมคะ ตอนนี้มันดึกแล้ว”“พี่ไม่อยากรอแล้วนะ สามวันมานี้เนยไม่ติดต่อพี่มาเลย”“เนยงานยุ่งค่ะ”“ไปนั่งคุยกันในรถก่อน”“แต่เนยจะกลับไปพักแล้ว”“จะไปดีๆ หรือจะให้พี่อุ้มไปละเนย"เพราะคำขู่ของเขารัญรวีเลยยอมเดินตามมาที่รถ เธอขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งเดิมที่เคยนั่งแต่ความรู้สึกแปลกออกไปเพราะตอนนี้คนข้างกายของเธอไม่ใช่คนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยอีกต่อไปแล้ว“พี่กันต์จะคุยอะไรคะ”“เนยเป็นอะไร โกรธอะไรพี่หรือเปล่า พี่ทำอะไรผิดเหรอเนยถึงไม่ติดต่อพี่เลยแล้วยังเก็บของพี่ออกจากคอนโด”“พี่กันต์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ เนยเองที่ผิด ผิดที่ไปรักคนมีเจ้าของอย่างพี่”“กำลังพูดเรื่องอะไรพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“ก็พี่กับครอบครัวของพี่”“ครอบครัวของพี่ก็คือเนย เราจะแต่งงานและร่วมสร้างมันด้วยกัน”“พี่กันต์ค่ะ
รัญรวีตื่นขึ้นมาในตอนสายเธอในขณะที่พีรกันต์ออกไปทำงานแล้ว หญิงสาวมองสภาพห้องนอนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความสุขที่เขามอบให้เมื่อคืนมันยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ คำบอกรักที่เขากระซิบข้างหูเธอจำมันได้อย่างดีและจะจดจำมันไปตลอดว่าตนเองเคยมีความสุขมากแค่ไหนหญิงสาวเข้าห้องน้ำมองตัวเองในกระจกร่างกายเต็มไปด้วยรอยรักที่เขาฝากไว้ มันตอกย้ำว่าเธอและเขาผ่านเรื่องบนเตียงมาแล้วอย่างเร่าร้อนแต่มันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเพราะรัญรวีไม่คิดจะนอนกับใครอีกแล้ว การอยู่ตัวคนเดียวมันอาจเหงาแต่ที่ผ่านมาเธอก็เคยอยู่คนเดียวมาตลอดหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วหญิงสาวก็เก็บของใช้ของพีรกันต์ลงกระเป๋าก่อนะจะเอาไปฝากไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ด้านล่างและสั่งไว้แล้วว่าห้ามเขาขึ้นมาบนห้องเธออีก รหัสที่ประตูหน้าห้องถูกเปลี่ยน รัญรวีตัดการติดต่อทุกช่องทางเพราะกลัวว่าถ้าได้ยินเสียงของเขาเธอจะตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้หญิงสาวใช้เวลาว่างตลอดวันจัดห้องใหม่เพราะถ้าอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ก็จะคิดถึงเขา กว่าทุกอย่างจะเข้าที่ก็เป็นเวลาเย็น เธอทำอาหารจากของสดที่เหลืออยู่ในตู้จากนั้นก็นั่งทานคนเดียวเงียบๆโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าดังขึ้นรีญ
พีรกันต์กอดกระชับร่างที่หอบเหนื่อยรอจนเธอหายใจเป็นปกติจากนั้นก็รีบอาบน้ำและเช็ดตัวให้เธอก่อนจะอุ้มมาวางบนเตียง“เนยจ๋า พี่ไม่ไหวขออีกคืนนี้ขอแรงหน่อยไหม” เพราะท่าทางยั่วยวนและลีลารักเมื่อครู่มันปลุกความดิบเถื่อนในกายเขาจนต้องเอ่ยขอ“เนยตามใจพี่กันต์ทุกอย่าง” เพราะนี่จะเป็นคืนสุดท้ายเธอก็อยากให้เขาทำทุกอย่างไปตามใจปรารถนา รัญรวีอยากเก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาขึ้นไว้เป็นความทรงจำเมื่อเธอพูดออกมาแบบนั้นพีรกันต์ก็เริ่มบทรักอีกครั้ง ปากร้อนจูบไปทั่วใบหน้าซอกคอดูดแรงจนขึ้นรอย รัญรวีทั้งเจ็บทั้งเสียวจนได้แต่ครางหวาน“อื้อ...พี่กันต์ขาจูบเนยหน่อยได้ไหม”ลิ้นร้อนสอดเข้าโพรงปากนุ่มตวัดรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน เธอเองก็จูบกลับไปอย่างถึงพริกถึงขิงทำให้เขาครางอย่างพอใจหญิงสาวหูอื้อตาลายไปกับปากร้อนที่จูบเบียดแนบชิด เธอปล่อยกายปล่อยใจไปตามแรงปรารถนาพีรกันต์จูบจนพอใจก็ยอมให้ปากเล็กเป็นอิสระ เขาลากไล้ความเปียกชื้นมาตามผิวนุ่มขบเม้มแทะเล็ม ฝากรอยประทับไว้ทั่วเนินอกอิ่ม ตาคมมองยอดถันที่ชูชัน ลิ้นร้อนลากวนอย่างปลุกเร้าก่อนจะครอบครองเข้าอุ้งปากร้อน ดูดแรงอย่างคนกระหาย ยิ่งเธอแอ่นโค้งเข้าหาเ