รุ่งเช้ามาเยือนพร้อมกับสายฝนพรำโปรยปรายลงมายังลอนดอน ไอหมอกจางๆ ปกคลุมไปทั่วบ้านพักของเอดิสัน บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นดูเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย เมื่อแสงแดดยามเช้าส่องกระทบใบหน้าของเมรี่ เฟรเดอริค อเล็กซานเดอร์ และเลดี้อลิซาเบธ ฮาร์ทเวลล์"เราต้องไปที่บ้านพักของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์ให้เร็วที่สุดค่ะ" เลดี้อลิซาเบธกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "ฉันแน่ใจว่าต้องมีเบาะแสบางอย่างที่ตำรวจมองข้ามไป""ผมเห็นด้วยครับ" อเล็กซานเดอร์พยักหน้า "เราจะเริ่มจากที่นั่น"เอดิสันกางแผนที่ลอนดอนบนโต๊ะ "บ้านพักของลอร์ดเจมส์อยู่ในย่านที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองมากนัก"เมรี่ที่ต้นแขนยังคงมีผ้าพันแผลอยู่ มองไปที่แผนที่ "คุณเอดิสันคะ เราจะเข้าไปในบ้านโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็นได้อย่างไรคะ? ตำรวจน่าจะยังคงเฝ้าอยู่""ผมได้เตรียมการไว้แล้วครับ" เอดิสันยิ้มเล็กน้อย "ผมรู้จักใครบางคนที่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของตำรวจได้ชั่วคราว"พวกเขาออกเดินทางไปยังบ้านพักของลอร์ดเจมส์ ฮาร์ทเวลล์ ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่สไตล์จอร์เจียที่ดูโอ่อ่าแต่กลับมีบรรยากาศที่เงียบเหงาเกินไป
รถยนต์ของเอดิสันแล่นฝ่าความมืดของค่ำคืนในลอนดอน เสียงเครื่องยนต์เป็นจังหวะเดียวกับเสียงเต้นของหัวใจที่ยังคงตื่นเต้นจากการไล่ล่าอันดุเดือด เมรี่ เฟรเดอริค และอเล็กซานเดอร์นั่งเงียบอยู่ในรถ แต่ละคนจมอยู่ในความคิดของตัวเอง พินัยกรรมลับของโรเบิร์ต แบล็ควู้ด ซึ่งเป็นเบาะแสสำคัญสู่ 'ขุมทรัพย์แห่งความรู้' และความจริงเกี่ยวกับ 'ปรมาจารย์แห่งเงา' อยู่ในกระเป๋าของเอดิสัน บาดแผลที่ต้นแขนของเมรี่ยังคงปวดจี๊ด แต่ความมุ่งมั่นของเธอกลับเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ"เราจะไปที่ไหนกันต่อคะคุณเอดิสัน?" เมรี่ถามขึ้นทำลายความเงียบ"บ้านพักของผมอีกแห่งครับ" เอดิสันตอบ "เป็นบ้านที่ปลอดภัยกว่า และเราจะได้วางแผนกันอย่างละเอียด"ไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงบ้านพักอีกแห่งของเอดิสัน เป็นบ้านเก่าแก่สไตล์วิกตอเรียนที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกเงียบๆ ของย่านเชลซี บรรยากาศภายในบ้านอบอุ่นกว่าที่คิด มีเตาผิงที่กำลังลุกโชน แสงไฟสลัวๆ ส่องสว่างไปทั่วห้องนั่งเล่น"ก่อนอื่น เราต้องรักษาบาดแผลให้เมรี่ก่อนครับ" อเล็กซานเดอร์กล่าว "แล้วเราค่อยมาคุยเรื่องพินัยกรรมกัน"เอดิสันพาเมรี่ไปยังห้องเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นห้องพยาบาลย่อมๆ เขามีอุปกรณ์ปฐมพยาบ
พวกเขาวิ่งออกจากห้องเก็บเอกสารลับ โดยมีศาสตราจารย์มาร์ตินช่วยเปิดทางให้ เสียงฝีเท้าของคนร้ายดังไล่ตามมาติดๆ เมรี่รู้สึกเจ็บปวดที่ต้นแขน แต่เธอก็ต้องวิ่งต่อไปเพื่อชีวิตและเพื่อความลับที่พวกเขาเพิ่งค้นพบ"ไปทางนี้ครับ!" เอดิสันตะโกน เขาพาพวกเขาเลี้ยวเข้าสู่ทางเดินแคบๆ ที่ทอดยาวไปในความมืดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด กระสุนกระทบกับผนังใกล้ๆ พวกเขา เมรี่รู้สึกถึงลมร้อนจากกระสุนที่เฉียดผ่านศีรษะไป"พวกมันมากันเยอะมากเลยนะคะ!" เมรี่หอบหายใจ"เราต้องหาทางออก!" เฟรเดอริคกล่าวพวกเขาพยายามวิ่งไปตามทางเดินที่ซับซ้อนราวกับเขาวงกต เสียงฝีเท้าของคนร้ายดังไล่ตามมาไม่ห่าง อเล็กซานเดอร์พยายามคุ้มกันเมรี่และเฟรเดอริค"มีทางขึ้นตรงนั้นครับ!" เอดิสันชี้ไปที่บันไดเหล็กเก่าๆ ที่ทอดยาวขึ้นไปสู่แสงสลัวๆพวกเขารีบปีนบันไดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เมรี่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ต้นแขน แต่เธอก็พยายามกัดฟันปีนต่อไปเมื่อขึ้นมาถึงด้านบน พวกเขาก็พบว่าตัวเองมาโผล่ในห้องเก็บของเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยลังไม้และอุปกรณ์ที่ถูกทิ้งร้าง มันเป็นส่วนหนึ่งของหอจดหมายเหตุที่ไม่มีใครรู้จัก"เราปลอดภัยแล
ศาสตราจารย์มาร์ตินนำเมรี่และคณะเดินไปยังส่วนที่ลับที่สุดของหอจดหมายเหตุ พวกเขาเดินลงบันไดวนที่ทอดยาวลงไปใต้ดิน กลิ่นเก่าของกระดาษและฝุ่นคละคลุ้งในอากาศ"ที่นี่คือที่เก็บเอกสารลับส่วนบุคคลของบุคคลสำคัญในอดีตจ้ะ" ศาสตราจารย์มาร์ตินกล่าว "รวมถึงเอกสารของพวก องค์กรลับ ด้วย"พวกเขาเดินผ่านชั้นวางเอกสารที่สูงเสียดเพดาน เอกสารนับล้านชิ้นถูกจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่ก็ดูเหมือนเขาวงกตที่ไม่มีที่สิ้นสุด"เราจะหารหัสลับเจอได้อย่างไรคะ?" เมรี่ถาม"รหัสลับบอกว่า 'ที่ที่ความลับถูกเปิดเผย' " ศาสตราจารย์มาร์ตินกล่าว "นั่นน่าจะหมายถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' โดยตรง"เอดิสันหยิบรหัสลับชิ้นที่สองออกมาพิจารณาอีกครั้ง "รหัสลับนี้ไม่ได้ระบุชื่อเอกสารโดยตรงครับ แต่มันมีสัญลักษณ์บางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็น ตราประทับของตระกูลแบล็ควู้ด"เมรี่ อเล็กซานเดอร์ และเฟรเดอริคมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ"เป็นไปได้อย่างไรคะ?" เมรี่ถาม "คุณพ่อของพวกเราเกี่ยวข้องกับ 'เงาแห่งลอนดอน' ด้วยหรือคะ!""ไม่หรอกจ้ะหนู" ศาสตราจารย์มาร์ตินกล่าว "คุณพ่อของพวกหนูเป็นนักสืบที่ต่อส
แสงอาทิตย์ยามสายสาดส่องเข้ามาในรถที่กำลังแล่นไปตามถนนในลอนดอน เมรี่นั่งพิงเบาะด้วยใบหน้าซีดเผือด ต้นแขนของเธอยังคงปวดแปลบจากบาดแผลมีดของมิสเตอร์คลาร์ก เอดิสันได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว แต่เมรี่รู้ว่าเธอต้องการการรักษาที่เหมาะสมกว่านี้"ไหวไหมเมรี่?" อเล็กซานเดอร์ถามด้วยความเป็นห่วง"ไหวค่ะพี่" เมรี่ตอบพยายามยิ้ม "แค่เจ็บนิดหน่อย"เฟรเดอริคกุมมือเมรี่ไว้แน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "เราจะไปที่หอจดหมายเหตุเลยใช่ไหมคะคุณเอดิสัน?""ใช่ครับ" เอดิสันตอบ "เราต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด ก่อนที่พวก 'เงาแห่งลอนดอน' จะตามรอยเราเจออีกครั้ง"พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหอจดหมายเหตุแห่งชาติ อาคารเก่าแก่ที่ดูเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เมรี่รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ ที่ซึ่งความลับนับไม่ถ้วนถูกเก็บรักษาไว้"คุณเอดิสันคะ เราจะเข้าไปได้อย่างไรคะ?" เมรี่ถาม"หอจดหมายเหตุเป็นสถานที่สาธารณะครับ" เอดิสันตอบ "แต่ส่วนที่เราต้องการเข้าไปน่าจะเป็นส่วนที่ต้องได้รับอนุญาตพิเศษ"พวกเขาเดินเข้าไปในหอจดหมายเหตุ บรรยากาศภายในเงียบสงบ มีเพียงเสียงกระดาษพลิกไปมาและเสียงผู้คนกระซิบกระซา
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างรุนแรง เสียงหมัดกระทบเนื้อดังสนั่นไปทั่วหอนาฬิกา อเล็กซานเดอร์ใช้ทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่าในการรับมือกับมิสเตอร์คลาร์ก แต่มิสเตอร์คลาร์กก็แข็งแกร่งและว่องไวไม่แพ้กันในขณะเดียวกัน เฟรเดอริคก็กำลังต่อสู้อย่างยากลำบากกับลูกสมุนอีกคน แม้ร่างกายของเขาจะเริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่เขาก็ยังไม่แข็งแรงเต็มที่นัก ลูกสมุนคนนั้นใช้จังหวะที่เฟรเดอริคพลาดท่า ถีบเข้าที่ท้องของเขาอย่างแรง เฟรเดอริคล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด"พี่เฟรเดอริค!" เมรี่ร้องเรียกด้วยความตกใจ เธอวิ่งเข้าไปหาพี่ชายทันทีลูกสมุนคนนั้นฉวยโอกาสที่จะซ้ำเติมเฟรเดอริค แต่เอดิสันก็พุ่งเข้ามาขวางไว้ เขาจัดการกับลูกสมุนคนนั้นได้อย่างรวดเร็ว"พี่เฟรเดอริคเป็นอะไรไหมคะ!" เมรี่ถามด้วยความเป็นห่วง เธอช่วยประคองพี่ชายขึ้นมาเฟรเดอริคกัดฟันด้วยความเจ็บปวด "ไม่เป็นไรเมรี่ แค่จุกนิดหน่อยเท่านั้น"ในขณะที่มิสเตอร์คลาร์กกำลังต่อสู้กับอเล็กซานเดอร์อย่างดุเดือด เขาก็เหลือบไปเห็นเมรี่และเฟรเดอริค เขายิ้มเหยียด แล้วโยนมีดสั้นเล่มเล็กๆ ออกไปอย่างรวดเร็ว มีดเล่มนั้นพุ่งตรงไปยังเมรี่!"เมรี่! ระวัง!" เ