เช้านี้มาร์ตินตื่นมาด้วยอาการเมาค้าง หลังจากที่เมื่อคืนกว่าจะกลับมาที่คฤหาสน์ไมโลเวอร์ได้ก็ปาเข้าไปเกือบตีสามแล้ว นอกจากเขาจะไปดื่มกินที่นั่นเขายังต้องไปเคลียร์ปัญหาที่ลูกค้ามีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอีกด้วย เขาได้บอกผู้เป็นพี่ชายอย่างมาคัสแล้ว แต่มันก็ไม่สนใจอยากนอนกอดเมียอยู่ที่บ้านจนเป็นเขาที่ต้องตามเก็บปัญหาให้อย่างเช่นเคย เมื่อเขาเดินลงมาที่โต๊ะกินข้าวก็พบกับพ่อแม่แล้วก็พี่ชายพร้อมกับพี่สะใภ้คนสวยและหลานอีกสามคน เจ้าไคเลอร์กับคาร์ลอสพร้อมกับคริสตัลหลานสาวคนเล็ก
" อามาร์ติน " เป็นคริสตัลหลานสาวคนเล็กที่วิ่งเข้ามากอดเขา เด็กสาวคนนี้ติดเขามากกว่าพ่อของตัวเองซะอีก เพราะเขาชอบตามใจหลานสาวอยากได้อะไรก็ซื้อให้หมด จนตอนนี้ตุ๊กตาเต็มห้องไปหมดแล้วเพราะเขาเป็นคนซื้อให้แทบจะไม่มีของที่พ่อซื้อให้เลยสักชิ้น เขาแย่งซื้อไปจนหมดแล้ว เพราะเขาเป็นเจ้าของห้าง ซื้อของให้หลานสาวแค่นี้เหมาหมดห้างยังได้เลย " ว่าไงคะหลานอา วันนี้ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเลยนะครับ " มาร์ตินเอ่ยทักทายกับทุกคนพร้อมกับอุ้มหลานสาวตัวน้อยมาวางที่โต๊ะกินข้าวพร้อมกับเขาที่นั่งลงข้างๆหลานสาว " หน้าตาแกอิดโรยมากเลยนะเจ้าน้องชายเมื่อคืนหนักมากเลยหรอ " มาคัสมองหน้าน้องชายที่สภาพแทบจะมองไม่ได้ ดูท่าเมื่อคืนคงจะเมาจนหัวราน้ำ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ามันมีเมียมันจะออกมาสภาพไหน " ป้าครับขอกาแฟดำสักแก้วนะครับ " มาร์ตินไม่ตอบพูดเป็นพี่ชายแต่หันไปสั่งกาแฟดำกับแม่บ้านแทน และหันมาพูดกับแม่ของตัวเอง " แม่เรียกผมกลับบ้านมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าปลายฝันท้องลูกคนที่สี่แล้ว " มาร์ตินยังไม่วายพูดหยอกเย้าพี่สะใภ้ของเขาที่ตอนนี้อายฉันก้มหน้างุดลงไปแล้ว " หยุดแซวเมียกูเลยนะไอ้น้องเวร นี่เมียกู " " หึ! หึงไม่เข้าเรื่องอีกแล้วนะมึง มึงเป็นพี่กูกูไม่แย่งเมียมึงหรอกนะ " " สองคนนี้เจอกันทีไรก็กัดกันเป็นหมาตลอดเลยเจ้าลูกสองคนนี้ ที่แม่เรียกแกมามาร์ตินเพราะว่าแม่อยากจะคุยกับแก เรื่องครอบครัวของแก " คุณหญิงฤทัยเอ่ยขึ้นส่วนมาร์ตินได้แต่ทำหน้างงงวย ครอบครัวอะไรกันเขาก็มีแค่ครอบครัวที่นี่และยังไม่ได้มีครอบครัวที่ไหนอีก ไม่ได้ซุกเมียไว้เหมือนพี่ชายสักหน่อย " ครอบครัวอะไรกันครับแม่ ผมไม่ได้ซุกลูกซุกเมียไว้ที่ไหนสักหน่อย " " ฉันรู้ว่าแกไม่ได้ซุกลูกซุกเมียเอาไว้ แต่ที่ฉันจะพูดคืออยากให้แกมีลูกมีเมียได้แล้ว อายุอานามก็ 40 เข้าไปแล้ว ไม่คิดจะมีใครเป็นตัวเป็นตนบ้างหรอลูก " คุณหญิงฤทัยโยนหินถามทาง ถ้าหากผู้เป็นลูกชายมีคนในใจอยู่แล้วเธอก็จะไม่บังคับ แต่ถ้าหากว่ายังไม่มีใคร เธอก็อยากให้ทำความรู้จักกับลูกของเพื่อนสนิทเอาไว้ " ไม่จำเป็นต้องมีใครนี่ครับแม่ ผมอยู่คนเดียวก็สบายใจดีจะทำอะไรก็ได้ ผมไม่หาบ่วงมาคล้องคอหรอกครับ สมัยนี้อายุสี่สิบก็ยังฟิตปั๋งก็ถมเถไป " มาร์ตินบอกกับผู้เป็นมารดาอย่างไม่สนใจสำหรับเขาอายุเป็นเพียงตัวเลข เพราะตัวเขาเองยังรู้สึกแข็งแรงอยู่เลย " แต่แม่อยากอุ้มหลานแล้ว แล้วก่อนตายก็อยากเห็นแกเป็นฝั่งเป็นฝาด้วย " " ตอนนี้คุณแม่ก็มีหลานตั้งสามคน อุ้มไม่พอหรอครับ " " เจ้ามาร์ติน " คุณหญิงฤทัยเอ็ดลูกชายคนเล็ก เธอปวดหัวกับลูกชายคนนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ลื่นเป็นพ่อปลาไหลเลย แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เธอจะได้อุ้มหลานจากลูกชายคนเล็กกันเล่า " แม่หมายถึงแม่อยากอุ้มหลานที่เกิดจากลูกของแก " " คุณแม่กำลังจะพูดอะไรครับ พูดมาเลยดีกว่า แต่ผมบอกไว้ก่อนนะว่าอย่าจับผมคลุมถุงชนเหมือนไอ้มาคัส เพราะผมไม่มีทางยอมแน่ " มาร์ตินดักทางของผู้เป็นแม่อย่างรู้ทัน เพราะจากเรื่องราวของพี่ชายผู้เป็นแม่ยังไม่เข็ดอีกหรือไง " เรื่องนั้นแหละที่แม่จะคุยกับแก แม่จะพาแกไปดูตัวกับลูกสาวของเพื่อนแม่ ชื่อหนูเนยหวานคนนี้เป็นคนดีแม่รับประกันได้ " " ชื่อก็น่ากินดีนะครับแม่ แต่ผมเสียใจด้วยผมไม่นิยมกินของที่ผมไม่ได้เลือกเอง และผมก็จะไม่ยอมให้แม่จับคลุมถุงชนเด็ดขาด ไอ้มาคัสมันอาจจะยอมแม่ แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน คนที่จะมาเป็นเมียผมต้องเป็นคนที่ผมเลือกเท่านั้น " " แล้วแกเลือกสักทีไหมล่ะ แม่ไม่เห็นแกเลือกใครมาเลยสักคน แล้วแม่ก็กลัวว่าสักวันแกจะเลือกผู้หญิงไม่ดีเข้าบ้าน ไม่รู้ล่ะ! ยังไงแกก็ต้องไปกับแม่ ให้มันรู้ไปสิว่าแกจะขัดใจแม่จริงๆ ใช่สิ! โตแล้วนี่ แม่คนนี้ก็คงไม่มีความหมายคงมีความคิดเป็นของตัวเองกันหมดแล้วสินะ ฉันก็คงเป็นได้แค่หัวหลักหัวต่อนี่แหละ " คุณหญิงฤทัยทำท่าทางงอนผู้เป็นลูกชายเธอเป็นแม่ทำไมจะไม่รู้ว่าทำยังไงให้ลูกชายใจอ่อน ลูกชายทั้งสองคนรักแม่ยิ่งกว่าอะไร เธอเล่นละครนิดหน่อยลูกชายก็ยอมแล้ว " เฮ้อ!!! แม่ก็มามุขนี้ตลอดแหละ ผมไปก็ได้แต่ผมไม่รับปากนะ เรื่องแม่เนยหวานอะไรนั่น ถ้าผมไปแล้วผมรู้สึกไม่ถูกชะตาผมก็จะไม่แต่ง " มาร์ตินคิดว่าจะยอมทำตามที่แม่พูดไปก่อนพอไปดูตัวแล้วเขาคงปฏิเสธผู้เป็นแม่ทีหลังก็ยังไม่สาย " แกเห็นน้องแล้วแกจะไม่พูดแบบนี้ " " อย่างนั้นเลยหรอครับแม่ ถ้าเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานเหมือนที่แม่พูดไม่ใช่สเปคผมเลยสักนิด ไม่มีทางที่ผมจะตกหลุมรักผู้หญิงแบบนั้นได้ลง " มาร์ตินบอกผู้เป็นแม่ ผู้หญิงของเขาที่ผ่านมาคือผู้หญิงเซ็กซี่สวยแซ่บและเก่งเรื่องบนเตียงเท่านั้น ไอ้ประเภทเรียบร้อยอ่อนหวานเป็นแม่บ้านแม่เรือนไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลยสักนิดเพราะมันไม่ถึงใจ " ไอ้มาคัสมึงก็ไม่คิดจะช่วยกูพูดเลยนะ " มาร์ตินมองค้อนผู้เป็นพี่ชาย ทีเรื่องของพี่ชายเขาช่วยจะแทบหัวชนฝา ขัดแม่ทุกเรื่องทีเรื่องของเขาพี่ชายกลับเงียบ " ก็กูเห็นด้วยกับแม่นี่หว่า น้องเค้าน่ารักกูก็รู้จักเขา กูว่าเหมาะกับเสืออย่างมึงแล้วล่ะ เกลียดอะไรก็ได้แบบนั้นก็แล้วกัน แล้วอย่ามาหวงน้องทีหลังนะมึง กูจะกระทืบให้ " " ไอ้พี่เวร! แทนที่จะช่วยน้องกลับส่งเสริมแม่เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะมึง รู้งี้ไม่น่าช่วยมึงหรอกตอนนั้นน่ะ " มาคัสได้แต่ส่งยิ้มมุมปากไปให้กับผู้เป็นน้องชาย ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะมีนิสัยโหดเหี้ยมเหมือนกัน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันเลยคือมาคัสไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้ เพียงแค่เป็นมาเฟียสุดโหดแค่นั้น แต่มาร์ตินนอกจากมันจะโหดแล้วมันยังเจ้าชู้ไม่เลือกด้วย ซึ่งอาจจะเป็นข้อนี้ที่ทำให้แม่ของเขากลัวว่ามันจะพลาดเข้าให้สักวันและแล้วก็มาถึงสุดสัปดาห์ที่เขารอคอยก็มาถึงเพราะวันนี้เขาได้พาภรรยาตัวน้อยพร้อมกับลูกสาวอย่างมะนาวแล้วก็เด็กอีกชายอีกสองคนที่อยู่ในท้องของเธอที่เขาเสกเข้าท้องเอาไว้ไว้เรียบร้อยแล้วและรู้ผลว่าเป็นลูกชายเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากวันนั้นที่ได้กินข้าวด้วยกันเวลาผ่านมาห้าเดือนแล้ว ตอนนี้ท้องของเนยหวานใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติวันนี้เขาเลยพาเธอมาพักผ่อน เราสองคนได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจะมีลูกเพียงแค่สามคนเท่านั้น หากเด็กชายสองคนนี้เกิดขึ้นมาเท่าไหร่เขาก็จะยอมทำหมันทันที ภรรยาของเขาให้เหตุผลว่าน้องชายสองคนก็เพียงพอสามารถปกป้องพี่สาวอย่างมะนาวได้แล้ว เขาจึงไม่ขัดใจภรรยาอีก ในเมื่อเธออยากมีแค่สองคนเขาก็พอใจแล้วเหมือนกัน ความสุขของเราคือการที่ได้หัันหน้าคุยกัน ไม่ชอบอะไรก็พูดกันตรงๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต่างคนต่างคิดไปเองจนเรื่องราวมันเลยเถิดใหญ่โตเกือบกลับมารักกันไม่ได้อีก " บรรยากาศดีมากเลยนะครับที่รักว่าไหม หลายเดือนแล้วนะที่ผมไม่ได้พาคุณมาที่นี่ ผมรู้ว่าคุณชอบทะเลแต่งานของผมก็เยอะเหลือเกิน ต่อไปนี้ผมจะพยายามหาเวลาว่างสำหรับครอบครัวเรามากขึ้นนะครับ เมื่อไหร่นะที่เจ้าสองแฝดนี่จะโตสักทีผมจะได้วางมือแ
เวลาผ่านไปสามปีกว่าตอนนี้หนูน้อยมะนาวอายุได้สามขวบแล้วและกำลังจะเข้าเตรียมอนุบาล หนูน้อยซนมากๆได้คุณพ่อมาเต็มๆทำเอาคุณแม่ปวดหัวอยู่ไม่น้อย " คุณแม่ขาวันนี้คุณพ่อกลับมาหรือยังคะ หนูคิดถึงคุณพ่ออยากขี่คอคุณพ่ออีกค่ะ " ผู้เป็นแม่ถึงกับส่ายหน้าเหนื่อยใจ เธอไม่น่าให้สามีตั้งชื่อลูกว่ามะนาวเลยจริงๆเพราะเปรี้ยวซ่าสมชื่อ ไม่มีความหวานอยู่ในตัวเลยแม้แต่นิดเดียว " โถ่ลูก เบาๆลงบ้างนะคะกับการเล่นผาดโผนเนี่ย เดี๋ยวจะเจ็บตัวเอา เราเป็นผู้หญิงควรที่จะเรียบร้อยไว้บ้างนะลูก " เนยหวานเอ็ดลูกสาวหลังจากที่ตอนนี้เจ้าตัวมองหาแต่ผู้เป็นพ่อที่ออกไปทำงานจนตอนนี้ก็ไกล้จะได้เวลาที่จะกลับเข้าบ้านมาแล้ว กริ่ง กริ่ง กริ่ง เสียงกดออดหน้าบ้านเป็นนิ่มสาวใช้ที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่บ้านหลังแรกจนตอนนี้กลายมาเป็นพี่เลี้ยงของยัยหนูมะนาวเรียบร้อยแล้ว เดินออกไปเปิดประตูเมื่อมีแขกมาหาผู้เป็นเจ้านาย แล้วเธอก็ต้องดีใจที่วันนี้คุณตากับคุณยายมาหาหลานสาวถึงที่บ้านพร้อมกับหอบของกินมามากมายเช่นเคย " คุณตา คุณยาย น้องมะนาวคิดถึงจังเลยค่ะ " เด็กน้อยพูดเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมกับวิ่งไปกอดกับคุณตาและคุณยาย คุณตาก้มลงอุ้มหลานสาวขึ้นม
ปัก! ปัก! ปัก! ปัก! ปัก! เสียงเนื้อกระทบเนื้ออยู่ภายในห้องนอนกว้างใหญ่ที่เป็นคฤหาสน์หลังใหม่เรือนหอของมาร์ตินและเนยหวาน หลังจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ได้ทำการขายบ้านหลังนั้นเป็นที่เรียบร้อย เรือนหอเก่าของเขาและเธอเพราะเขามองว่ามันเล็กเกินไปและอาจไม่เพียงพอสำหรับทายาทไมโลเวอร์ที่กำลังจะเกิดมา " อื้อ....อ๊ะ...บะ เบาหน่อยค่ะที่รัก "เสียงครางหวานในห้องเก็บเสียงอย่างดีของร่างบอบบางที่ตอนนี้โดนกระแทกอย่างเอาเป็นเอาตายจากคนตัวโตที่ไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย แม้ตอนนี้อายุครรภ์ของเธอใกล้จะคลอดเต็มทีเขาก็ยังให้เหตุผลว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะคลอดและเขาจะไม่มีโอกาสได้รังแกเธอแบบนี้ไปอีกสักพักใหญ่ แต่การทิ้งทวนครั้งสุดท้ายของเขาก็ทำเอาเธอหมดแรงเป็นอย่างมาก ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! สะโพกสอบกระแทกแก่นกายใหญ่โตตามฉบับหนุ่มลูกครึ่งเข้าไปในท่าหันหลังแล้วโก่งโค้งมือหนาของเขาก็จับหน้าท้องของเธอเพื่อพยุงเอาไว้อย่างดี ท่านี้เข้าลึกมากเป็นคนตัวเล็กที่ร้องครางระงมออกมาไม่เป็นภาษา รวมทั้งตัวเขาด้วย ร่างอวลอัดที่ตอนนี้เต็มไม้เต็มมือจับไปตรงไหนก็รู้สึกเร่าร้อนไปหมด " โอ้ววว!!! ซี๊ดดด...ดีเหลือเ
เวลาผ่านไปอีกราวๆสองชั่วโมงกว่า คุณหมอก็ได้ออกมาจากห้องผ่าตัดท่ามกลางบรรยากาศความลุ้นระทึกของบรรดาญาติทุกคนรวมถึงเพื่อนสนิทของมาร์ตินที่ตอนนี้มากันครบทุกคนเพื่อมารอดูอาการของมัน เพื่อนแท้ย่อมไม่ทิ้งกันจริงๆ" คุณหมอคะ สามีของฉันเป็นยังไงบ้างคะ " ร่างบอบบางพูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำกับคำว่าสามีเมื่อคุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัดนั้น " คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ โชคดีที่กระสุนไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ บวกกับคนไข้ใจสู้มาก เดี๋ยวรอดูอาการอีกสักคืนแล้วหมอจะให้ไปนอนพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยนะครับ คนไข้นอนที่โรงพยาบาลอีกซักสองสัปดาห์ก็กลับบ้านได้แล้วครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมขอตัวก่อนนะครับ "" เอ่อ คุณหมอคะขอดิฉันเข้าไปเยี่ยมเค้าได้ไหมคะ "" ถ้าเป็นตอนนี้หมออยากให้คนไข้ได้พักผ่อนก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้เช้าญาติคนไข้ก็เข้าเยี่ยมได้แล้วครับ " ทุกคนที่ได้ฟังคำวินิจฉัยของคุณหมอแล้วทำเอาโล่งใจแล้วเนยหวานก็น้ำตาร่วงออกมาอย่างไม่มีเหตุผล เธอทั้งดีใจอย่างบอกไม่ถูก ดีใจที่เขากลับมาอยู่กับเธอและลูกอีกครั้งไม่ปล่อยให้เธอต้องอยู่กับลูกเพียงลำพัง " พี่เค้าปลอดภัยแล้วนะลูก หายห่วงได้แล้ว ส่วนตัวเราก็กลับไปพักผ่อนเถอะ
มาร์ตินเขารีบมาดังโกดังร้างแถวนี้ตามที่ลูกน้องของเขาด้วยแจ้งพิกัดเอาไว้ พอมาถึงก็ถึงกับหัวใจกระตุกวูบไปถึงตาตุ่ม เพราะเมียตัวน้อยของเขาถูกมัดติดเอาไว้กับเก้าอี้อย่าน่าสงสาร พร้อมกับไอ้เชนที่นอนเหมือนคนตายอยู่บนพื้นไปแล้ว และก็นีน่าที่มีอาการเหมือนคนบ้านีน่าหันไปเจอมาร์ตินก็เกิดอาการตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะตามเธอมาถึงที่นี่ได้ในเวลารวดเร็วขนาดนี้ เธอคิดว่าเธอจะจัดการกับนังเนยหวานเสร็จก่อนเขาจะมาด้วยซ้ำ แต่เธอทำมาถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่มีทางถอยหลังกลับเด็ดขาดตายเป็นตาย" หึ! ไหนๆ ฉันก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าฉันจะต้องตายฉันก็จะเอาอีนางนี่ไปด้วย "นีน่าเล็งปืนไปทางเนยหวานที่ตอนนี้เธอนั่งตัวแข็งทื่ออยู่" อย่านะนีน่าอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ "มาร์ตินใจแทบขาดเหงื่อออกตามกรอบหน้าด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ถ้าปกติแล้วเขาจะเด็ดขาดกว่านี้ แต่ตอนนี้เขาทำไม่ได้จริงๆ" หึ! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณรักมันจริงๆ ไหม ลองคุกเข่าดูสิ คุกเข่าต่อหน้าฉัน บางทีฉันอาจจะใจดีก็ได้ แต่อาจจะเท่านั้นนะจะลองเสี่ยงคุกเข่าดูไหมล่ะ "เธอรู้ดีว่าคนอยากมาร์ตินไม่เคยคุกเข่าให้ใคร กับแม่นี่ก็คงจะเช่นกัน แต่มันกลับผิดคาดเมื่อมาร์ติ
เชนจับตัวของเนยหวานมาไว้ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งแถวชานเมืองที่ปลอดผู้คน โดยที่เนยหวานตอนนี้ได้สลบไปแล้วเนื่องจากรู้สึกตกใจ เขาจับเธอมัดแขนไว้กับเก้าอี้อย่างแน่นหนา แม้เธอจะตัวเล็กแค่นี้แต่เธอฉลาดไม่น้อยเลย พร้อมกับต่อสายหานีน่าทันที เพราะเขาอยากไปจากที่นี่แล้ว " ฉันจัดการจับเนยหวานมาได้แล้ว ทีนี้เธอก็โอนค่าแรงของฉันมาได้แล้วแล้วฉันจะได้รีบไป " เชนรู้สึกกลัวแปลกๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจึงรีบขอค่าจ้างและจะรีบออกไปจากที่นี่เพราะอำนาจของมาร์ตินเขารู้ว่าไม่นานมันจะต้องตามมาที่นี่แน่นอน เพราะฉะนั้นการหนีให้ไวที่สุดจะเป็นผลดีกับเขามากที่สุด " ไม่ต้องห่วงหรอก นายได้แน่ เดี๋ยวรออยู่ตรงนั้น ฉันจะกดเงินสดไปให้ ไม่นานหรอกนายได้ไปสมใจอยากแน่ " นีน่าที่คิดไม่ซื่อ เธอกะว่าพอไปถึงเธอจะจัดการกับเชนซะเธอไม่ยอมเสียเงินไปฟรีๆหรอกนะมันทำงานให้แค่นี้จะเอาเงินหลักแสนไปจากเธอ เธอไม่มีวันให้มันเด็ดขาด " งั้นก็รีบๆมา ฉันจะได้รีบไป " หลังจากวางสายจากนีน่าเขาก็มีท่าทางร้อนรนจนรออยู่เกือบชั่วโมงนีน่าก็มาถึงพอดี" ไหนล่ะเงินที่เธอบอกจะให้ รีบๆเอาออกมาซะสิฉันจะได้รีบไป " " หึ! ไม่ต้องห่วงหรอกยังไงแกก็จะได้ใ