Share

บทที่ 10 สงสัยว่าพระเอกมีชู้

last update Dernière mise à jour: 2024-12-06 18:21:58

"จะ เจ้าเหตุใดถึงแต่งกายเช่นนี้เล่า" เปาอี้ส่วงไม่ได้ตกใจที่นางจับได้ว่าเขาโกหก แต่เขาสนใจร่างกายกึ่งเปลือยของนางมากกว่า

สวีอี้ฝานแค่นเสียงหึออกมาในลำคอ ก่อนจะรวบชุดคลุมขึ้นมาห่อหุ้มกายเอาไว้เช่นเดิม หากนางไม่ทำเช่นนี้เขาคงไม่มีวันยอมรับสินะ ท่านแม่ทัพเปาเป็นพวกบ้ากามชัดๆ

"ข้าไม่รู้ว่าท่านโกหกทุกคนไปเพื่อเหตุใด แต่ข้าหรือฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนในครอบครัวของท่านแท้ๆแต่ท่านกลับไม่ไว้ใจ ท่านมันเป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ" สวีอี้ฝานตำหนิออกไปตามตรง ไม่เพียงแค่นางเท่านั้นที่ตกใจ แต่ถ้าหากฮูหยินผู้เฒ่ารู้ก็คงจะเสียใจไม่น้อยเลยทีเดียว

เปาอี้ส่วงขบกรามแน่นจนเห็นสันนูนเด่นชัด ตั้งแต่ฮูหยินผู้เฒ่าจวบจนถึงท่านพ่อและท่านแม่ของเขาในยามที่พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ยังไม่เคยตำหนิเขามาก่อน ทว่านางกล้าดีอย่างไรถึงได้เอ่ยปากตำหนิเขาเช่นนี้

"ข้ามีเหตุผลของข้า"

"เหตุผลอะไรหรือเจ้าคะ" นางถามกลับทันควัน แต่งเป็นสามีภรรยากันแล้วก็ไม่ควรมีความลับต่อกันและกันสิ หากเป็นเรื่องสำคัญนางจะได้ช่วยส่งเสริมเขาอย่างไรเล่า

"เจ้าเป็นฮูหยินของข้าก็ทำหน้าที่ดูแลจัดการเรื่องราวต่างๆภายในจวนให้ดีเถิด เรื่องอื่นให้เป็นหน้าที่ของข้าก็พอแล้ว"

หัวคิ้วเรียวย่นเข้าหากันด้วยความไม่พอใจนัก แม้จะรู้ว่าที่เขาพูดมานั้นเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ดี แต่สำหรับนาง แม้จะเกิดเป็นสตรีแต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าบุรุษ สิ่งใดที่บุรุษทำได้ สตรีอย่างนางก็ทำได้เช่นกัน

"หากท่านพี่ต้องการเช่นนั้นก็ย่อมได้ ท่านพี่อยากทำอะไรก็ตามใจเถิด ข้าไปล่ะ" สวีอี้ฝานเอ่ยตัดบท เพราะรู้ว่าดึงดันไปเปาอี้ส่วงก็คงไม่ยอมบอกนางง่ายๆ

ช่างเถิด... เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา เพราะอย่างไรเสีย หากเขากับนางเอกหยวนเสี่ยวหงรักใคร่กันแล้ว สักวันหนึ่งนางก็จะกลายเป็นคนนอกอยู่ดี

หญิงสาวหมุนกายหันหลังทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง แต่มือบางกลับถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน สวีอี้ฝานจึงหมุนกายหันหน้ากลับมาตามสัญชาตญาณ ตวัดฝ่ามือลงไปบนสันจมูกของเขาอย่างรวดเร็ว

"โอะ!" ชายหนุ่มผงะไปทางด้านหลังด้วยความตกใจเล็กน้อย มองร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างตกตะลึง ในขณะที่สวี้ฝานเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เป็นเพราะในยามที่ยังอยู่ในฐานะองครักษ์เงาของหวางจื่อชางอ๋อง นางต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลาทำให้นิสัยเดิมๆติดมาแม้จะมาอยู่ในร่างใหม่แล้วก็ตาม

"เจ้าทำร้ายข้า!" เปาอี้ส่วงกล่าวเสียงกร้าว มือหนายกมือขึ้นบีบจมูกเพราะตอนนี้โลหิตสีแดงไหลซึมออกมามากกว่าเดิมเสียอีก

"ท่านพี่ เลือด!" สวีอี้ฝานรีบควานหาผ้าเช็ดหน้า เดินเข้าไปหมายจะช่วยประคบให้ แต่เปาอี้ส่วงกลับคว้าคนตัวเล็กมาไว้ในอ้อมแขนและผลักให้นางนอนลงบนเตียงโดยมีเขาทาบทับอยู่ด้านบน

"ท่านพี่จะทำอะไรข้า"

"ข้าจะเข้าหอกับเจ้า" ดวงตาคมกวาดมองไปทั้งกายสาวที่บัดนี้เสื้อคลุมของนางเปิดอ้าออกเผยให้เห็นเรือนกายแสนเย้ายวนในชุดผ้าน้อยชิ้น

"คนบ้ากาม" นางทำหน้ายุ่ง แม้จะไม่พอใจเท่าใดนัก แต่ก่อนแต่งงานก็ทำใจมาบ้างแล้วว่าอย่างไรเสียสักวันหนึ่งเขาก็ต้องร่วมรักกับนาง เรื่องบนเตียงนั้นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญสำคัญคนเป็นสามีภรรยาอยู่แล้ว

นางงดงามออกปานนี้ หากเขาไม่จับนางกิน เขาคงเป็นพวกตายด้านแล้วล่ะ!

เปาอี้ส่วงไม่เห็นคนใต้ร่างทักท้วงอันใดก็ยิ่งได้ใจ มือหนากระชากเสื้อคลุมตัวนอกออกอย่างใจร้อนเผยให้เห็นทรวงอกอิ่มที่มีตู้โตวสีขาวห่อหุ้มเอาไว้ ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลงไปหมายจะซุกไซ้ความนุ่มหยุ่นให้หนำใจ ทว่ายังไม่ทันที่ปลายจมูกจะได้สัมผัสกับเนินเนื้อขาวอวบ ของเหลวหนืดข้นสีแดงก็หยดแมะลงไปเสียก่อน

'บัดซบ! เขาจะเข้าหอกับนางแต่เลือดกำเดากลับไหลออกมาไม่หยุด'

"ท่านพี่หยุดเลือดที่จมูกของท่านก่อนดีกว่าหรือไม่" เสียงหวานๆดังขึ้นขัดจังหวะ สวีอี้ฝานมองโลหิตสีแดงที่ไหลออกมาจากปลายจมูกของเขาอย่างระอา เห็นแบบนี้แล้วนางไม่มีอารมณ์พิศวาสร่วมกับเขาหรอกนะ

เปาอี้ส่วงถอนหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด สุดท้ายจึงยอมตัดใจผละออกจากร่างบางแสนเย้ายวนของนาง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องส่งเสียงเรียกหลูเผิงให้มาประคบจมูกให้

หนิงเชาเดินไปตามระเบียงที่ทอดยาวไปถึงเรือนเล็ก ก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง ไม่นานประตูก็ถูกผลักให้เปิดออก หญิงวัยกลางคนจึงรีบเร่งฝีเท้าเดินไปข้างในด้วยความรวดเร็ว

"เป็นอย่างไรบ้าง ส่วงเอ๋อร์หลานชายของข้าเอ่ยปากตำหนิบุตรสาวสกุลสวีหรือไม่" ทันทีที่เห็นหน้าบ่าวรับใช้คนสนิท จางเข่อซินรีบยิงคำถามใส่ทันที นางหมายถึงเรื่องเฉียวเฉียวกับเพ่ยหลิน เนื่องด้วยยังไม่รู้ว่ายามนี้เปาอี้ส่วงสั่งลงโทษสาวใช้สองคนนั้นแล้ว แต่เมื่อเห็นหนิงเชาส่ายศีรษะไปมา สีหน้าของนางก็ปรากฏความผิดหวังขึ้นมา

"บ่าวไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพตำหนิบุตรสาวสกุลสวีหรือไม่ แต่สิ่งที่บ่าวเห็นร้ายแรงกว่านั้นหลายเท่าเลยเจ้าค่ะ"

"ร้ายแรงกว่างั้นหรือ? เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน" ฮูหยินผู้เฒ่าเผลอตัวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยความสงสัย

"เจ้าค่ะ บ่าวเห็นท่านแม่ทัพกับบุตรสาวสกุลสวีหายเข้าไปในห้องหอ ครู่ใหญ่ก็เห็นท่านแม่ทัพเดินออกมา ใบหน้าอาบชุ่มไปด้วยเลือด บ่าวคิดว่าท่านแม่ทัพต้องโดนบุตรสาวสกุลสวีทำร้ายมาแน่ๆเจ้าค่ะ"

"ตายจริง!" ฮูหยินผู้เฒ่ายกมือขึ้นมาบอก อุทานเสียงสูงด้วยความตกใจ นางมีหลานชายเพียงคนเดียว ประคบประหงมเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังแบเบาะ ไม่เคยแม้สักครั้งที่คิดจะทำร้ายด่าทอหรือทุบตี แต่สตรีผู้นั้นเป็นใครกัน กล้าดีอย่างไรถึงมาทำร้ายหลานชายสุดที่รักของนางได้

"น่าสงสารท่านแม่ทัพเหลือเกินเจ้าค่ะ บุตรสาวสกุลสวีนั่นก็เหลือเกิน บ่าวไม่เคยเห็นภรรยาบ้านไหนทำร้ายสามีตนเองจนเลือดตกยางออกขนาดนั้นเลยเจ้าค่ะ" หนิงเชาเห็นท่าทางกรุ่นโกรธของฮูหยินผู้เฒ่าก็รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจแทนไม่น้อย หารู้ไม่ว่าคำพูดของนางกลับยิ่งทำให้เพลิงโทสะของจางเข่อซินโหมกระหน่ำมากขึ้นกว่าเดิม

"ไม่ได้การแล้ว เห็นทีว่าข้าต้องทำอะไรสักอย่าง"

"ฮูหยินผู้เฒ่ามีแผนอันใดหรือเจ้าคะ" หนิงเชายื่นหน้าเข้าไปถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

จางเข่อซินโคลงศีรษะไปมาเล็กน้อยอย่างใช้ความคิด ก่อนที่ปากบางแต้มชาดสีแดงสดจะค่อยๆแย้มยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

เช้าวันใหม่ สวีอี้ฝานตื่นนอนด้วยความสดชื่น เป็นวันที่สามแล้วที่นางได้นอนหลับเต็มอิ่ม หลังจากหนีมานอนที่หอนอนส่วนตัวที่เปาอี้ส่วงยกให้ ตลอดทั้งคืนเปาอี้ส่วงไม่ได้มาวอแวกวนใจของนางอีก สวีอี้ฝานจึงคิดว่าเขาคงรู้สึกเสียหน้าเรื่องเมื่อวานกระมัง

'สมน้ำหน้า' หญิงสาวคิดในใจพลางยิ้มเยาะ แต่เมื่อเดินออกมาจากหอนอนเห็นพ่อบ้านหลิวเดินเข้ามาหาจึงเอ่ยปากถามหาคนเป็นสามี

"ท่านแม่ทัพออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับมาขอรับ"

นางร้องอ้าวออกมาเบาๆ ที่แท้แล้วเขาก็ไม่อยู่ที่จวนเองหรอกหรือ หญิงสาวคิดด้วยความสงสัย ระยะหลังมานี้เปาอี้ส่วงหายไปจากจวนในตอนกลางคืน หากไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็ต้องแอบไปหาใครบางคนเป็นแน่ เขาทำตัวลับๆล่อๆเช่นนี้ทำให้นางอดคิดไม่ได้จริงๆว่า...

ท่านแม่ทัพเปามีชู้เป็นแน่!

มือบางยกขึ้นปิดปาก ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะหึๆออกมาในลำคอ ตามกฎของแคว้นฮั่น หากผู้ใดได้รับสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้ คนทั้งสองจะลงชื่อหย่าจากกันได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายยินยอมพร้อมใจด้วยกัน ไม่ใช่เป็นเพราะความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น

หากเปาอี้ส่วงคบชู้จริงๆก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี นางจะได้หาเรื่องขอหย่ากับเขาเสียเลย จากนั้นเขาจะไปพบเจอกับนางเอกหยวนเสี่ยวหงหรือจะทำอะไรก็ช่างเขา แต่นางขอแค่ให้ได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ที่จวนสกุลสวีเช่นเดิมก็เพียงพอแล้ว

"เปาฮูหยิน"

ในขณะที่กำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ สวีอี้ฝานก็ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากทางด้านหลัง เมื่อหันไปมองจึงพบว่าเป็นสาวใช้คนสนิทของฮูหยินผู้เฒ่านั่นเอง

"เดือนหน้าจะมีงานเลี้ยงฉลองวันพระราชสมภพครบสี่สิบพรรษาของซือฮองเฮา ฮูหยินผู้เฒ่าสั่งว่าให้ฮูหยินไปหาของขวัญที่เหมาะสมที่จะถวายให้ซือฮองเฮามาให้นางดู" ขณะที่พูดหนิงเชาก็เชิดหน้าขึ้นไปด้วย พร้อมสบตากับคนตรงหน้าอย่างไม่หวั่นเกรง พอพูดจบก็หมุนกายทำท่าจะเดินจากไป

ท่าทางของนางทำให้สวีอี้ฝานรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อยเลยทีเดียว

"เดี๋ยว"

หนิงเชาชะงักฝีเท้าอยู่กับที่ หันกลับมาตามเสียงเรียก แต่ยังคงท่าทีหยิ่งผยองเช่นเดิม เพราะรู้ว่าตนมีฮูหยินผู้เฒ่าคอยหนุนหลังอยู่จึงไม่เกรงกลัวบุตรสาวสกุลสวี

"เหตุใดเจ้าถึงพูดกับข้าอย่างไม่มีหางเสียง"

"หึ ฮูหยินเพิ่งมาอยู่ไม่นานคงจะยังไม่รู้ว่าบ่าวก็เป็นของบ่าวเช่นนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว"

"อ้อ เข้าใจแล้ว ที่จวนสกุลเปาคงไม่เคร่งครัดเรื่องมารยาทสินะ"

หนิงเชาหน้าตึงไปเล็กน้อย ส่งสายตามองไปยังสวีอี้ฝานอย่างไม่พอใจนัก รู้สึกอับอายไม่น้อยที่โดนตำหนิต่อหน้าทุกคนเช่นนี้

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 2 ยั่วสามี

    หลายเดือนต่อมาสวีอี้ฝานได้ให้กำเนิดบุตรชายฝาแฝดแก่เปาอี้ส่วง สร้างความปีติยินดีให้แก่คนสกุลเปาและคนสกุลสวีอย่างมากเจ็ดวันหลังจากที่เจ้าก้อนแป้งคลอด สวีอี้ฝานก็ได้รับของขวัญที่ถูกส่งมาจากหวางจื่อชางอ๋อง นับตั้งแต่ที่เขาจากไปท่องยุทธภพ นางก็ไม่ได้พบเจอกับเขาอีกเลย เปาอี้ส่วงจัดการเปิดห่อของขวัญอย่างระมัดระวังพบว่ามันคือป้ายหยกสลักลวดลายมงคลหาใช่สิ่งของที่ใช้เกี้ยวสตรีอย่างที่เขานึกกลัวจึงค่อยโล่งใจไปบ้างแม้ตัวของหวางจื่อชางอ๋องจะจากไป แต่เปาอี้ส่วงรู้ว่าอย่างไรเสียคนผู้นั้นไม่มีทางตัดใจจากสวีอี้ฝานได้โดยง่าย เขาจึงยังมีความหวาดระแวงเกรงว่าหวางจื่อชางอ๋องจะกลับมาแย่งชิงสวีอี้ฝานไปจากเขาอยู่ยามนี้เจ้าเด็กแฝดทั้งสองคนอายุได้หนึ่งหนาวแล้ว เป็นเด็กอ้วนท้วนรูปร่างแข็งแรง พวกเขามีชื่อว่าเปาอี้เฉิงและเปาอี้หาน ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งได้เห็นพัฒนาการทางด้านหน้าตาทำให้ได้รู้ว่าเด็กๆทั้งสองคนถอดแบบจากคนเป็นพ่อแม่มาคนละครึ่ง ดูเป็นความแตกต่างที่สร้างสรรค์กันอย่างลงตัว คนที่ดูจะดีใจพอๆกับเปาอี้ส่วงที่เจ้าก้อนแป้งทั้งสองได้ถือกำเนิดขึ้นดูจะไม่พ้นเป็นฮูหยินผู้เฒ่า นับตั้งแต่ตอนที่เด็กๆเกิดมาจนถึงตอนนี้ ฮูห

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 1 อยากกินของเปรี้ยว

    ยามนี้สวีอี้ฝานตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว หน้าท้องกลมนูนขยายใหญ่ออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ตอนที่ส่องกระจกทองเหลืองนางได้แต่ทอดถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ไม่นึกเลยว่าการตั้งครรภ์ช่างลำบากยากเข็ญยิ่งนัก นอกจากรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากแล้ว เวลาจะเดิน นั่งหรือนอนก็ไม่รวดเร็วเหมือนเมื่อก่อน ดีแต่ว่าเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น อาการแพ้ท้องที่มีค่อยๆทุเลาลงไปมากแล้ว จากเดิมที่มักจะคลื่นเหียนเวลาที่ได้กลิ่นอาหาร แต่ตอนนี้นางกลับเจริญอาหารมากกว่าเดิมเพราะตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ เปาอี้ส่วงจึงสั่งห้ามไม่ให้นางออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีเขาไปด้วย ทุกๆวันสวีอี้ฝานจึงได้แต่นั่งๆนอนๆอยู่ที่จวนสกุลเปาอย่างเบื่อหน่าย ยังดีที่ว่าหลี่อ้ายซีผู้เป็นมารดากับสวีหยางโปผู้เป็นบิดามักจะแวะเวียนมาเยี่ยมนางอยู่บ่อยๆ"ฮูหยินเจ้าขา ผลไม้มาแล้วเจ้าค่ะ" หลิงหลิงเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ในมือถือถาดใส่อาหารเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะกลม สวีอี้ฝานที่นอนเล่นอยู่บนเตียงค่อยๆหยัดกายลุกขึ้น "หลิงหลิงเอามาให้ข้าที่เตียง" นางเอ่ย หลิงหลิงจึงรีบยกมาให้ตามคำบอก ร่างบางกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง บนตักวางถาดใส่ผลไม้พลางหยิบมันเข้าปากทว่ากินไปได้ไม่ก

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทส่งท้าย

    ระหว่างที่สวีอี้ฝานกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นปานใจจะขาด ประตูห้องที่ปิดสนิทลงในตอนแรกก็ถูกเปิดออก ร่างสูงของเปาอี้ส่วงก้าวเข้ามาร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ดขาวของหิมะ"ทุกคนมาทำอะไรที่ห้องของข้าขอรับ" ชายหนุ่มถามด้วยความงุนงง ก่อนจะรีบสาวเท้าก้าวเข้าไปหาภรรยา เมื่อได้เห็นหยาดน้ำตาของนาง หัวใจของเขาราวถูกบีบรัดอย่างรุนแรง"ฝานฝานเป็นอะไรไป ใครรังแกเจ้า" เขาถามพลางหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่ากับหนิงเชา"ข้าเปล่านะ" จางเข่อซินรีบส่ายศีรษะไปมา ก่อนจะหันไปพยักเพยิดกับหนิงเชาเดินออกไปจากห้องเพื่อปล่อยให้สามีภรรยาได้อยู่ด้วยกันตามลำพังสวีอี้ฝานปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ มองสามีอย่างงอนๆ เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเขาพลางส่งสายตามองสำรวจทั่วตัว"ท่านพี่ท่องยุทธภพกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ""ท่องยุทธภพอะไรกัน" คิ้วกระบี่ขมวดเข้าหากัน เปาอี้ส่วงถามด้วยความไม่เข้าใจ"ท่านพี่หนีข้ามาจากจวนสกุลสวีเพราะจะออกไปท่องยุทธภพมิใช่หรือเจ้าคะ""ใครบอกเจ้ากัน""หมิงหมิงบอกเจ้าค่ะ"เปาอี้ส่วงได้ยินเช่นนั้น เขาเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นด้วยความขบขัน เขาบอกสวีชางหมิงว่าจะไปส่งหวางจื่อชางอ๋องไปท่องเที่ยวทั่วยุทธภพต่างหากไ

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทที่ 34 จะกินเต้าหู้หรือกินข้า​

    "ฝานฝานไม่ต้องกินเต้าหู้ก็ได้ เปลี่ยนมากินข้าแทนเถิด" เขาจัดการพลิกคนร่างบางให้นอนหงาย ก้มหน้าลงหมายจะจุมพิตที่ปากจิ้มลิ้มอีกหน ทว่าสวีอี้ฝานกลับอาศัยจังหวะที่เขาเผลอ ทันทีที่ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงมาใกล้ นางก็ใช้มือดันใบหน้าของเขาออกห่าง จากนั้นจึงตวัดกายลุกขึ้นนั่งคร่อมหยิบหมอนใบใหญ่มากระหน่ำฟาดไปยังคนใต้ร่าง"ข้ากำลังโกรธท่านอยู่มิใช่หรือ ไยถึงได้ยังกล้าทำตัวลามกอีกเล่า""โอ๊ยๆ ฝานฝานให้อภัยข้าเถิด ข้าไม่ได้ตั้งใจแต่ข้าสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ไหวจริงๆ" มือหนายกมือขึ้นปัดป้อง สวีอี้ฝานจัดการเขาด้วยหมอนใบใหญ่จนเหนื่อยหอบ นางจึงหยุดพักนั่งหอบหายใจสะท้านโดยที่ยังนั่งคร่อมคนตัวโตอยู่"อึ่ก!" สวีอี้ฝานรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ดุนดันออกมาผ่านเนื้อผ้าและตอนนี้มันกำลังทิ่มแทงไปที่กลางกายของนาง"ฝานฝาน ข้า..." เปาอี้ส่วงขานเรียกชื่อคนตัวเล็กเสียงเบา ดวงตาจับจ้องไปยังแก่นกลางกายที่นางกำลังนั่งทับอยู่สวีอี้ฝานก้มลงมองตามสายตาของเขาจึงได้เห็นแท่งหยกอันใหญ่ตั้งแข็งชี้โด่ขึ้น"ว้าย!" หญิงสาวอุทานร้องลั่นรีบปีนลงจากตัวเขาวิ่งไปหยุดยืนอยู่ข้างโต๊ะกลมเปาอี้ส่วงหยัดกายลุกขึ้นตาม เขาเดินตามเข้ามาใกล้

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทที่ 33 แกล้งสามี

    ข่าวเรื่องจอมโจรชุดดำแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง สีหน้าของบรรดาเหล่าชาวเมืองต่างเต็มไปด้วยความสุข พวกเขาต่างพากันเปล่งวาจาชื่นชมแม่ทัพเปาอี้ส่วงอย่างไม่ขาดปาก จอมโจรชุดดำเปรียบเสมือนหนามยอกตำใจของชาวเมืองแคว้นฮั่นมาหลายปี พวกเขาต้องคอยอยู่อย่างหวาดผวาเพราะกลัวจอมโจรชุดดำออกอาละวาด ทว่ายามนี้ไม่ต้องคอยอยู่อย่างหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อหัวหน้าจอมโจรชุดดำถูกจับตัวได้แล้ว อีกทั้งแหล่งกบดานของพวกมันยังถูกแม่ทัพเปาอี้ส่วงทำลายจนไม่เหลือซากฉีกังหรืออดีตท่านอาจารย์ฉีคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหล่าจอมโจรชุดดำนี้ เมื่อทุกคนรู้ว่าเขาเป็นใครต่างพากันตกใจไม่น้อย ไม่นึกว่าคนที่สุภาพเปี่ยมไปด้วยความรู้และคุณธรรมอย่างท่านอาจารย์ฉีจะกลายเป็นคนร้ายตัวจริงไปเสียได้ ทว่าคนผิดก็ต้องได้รับโทษ หลักฐานที่มีมัดตัวฉีกังจนดิ้นไม่หลุด ยามนี้เขาถูกคุมขังไว้ที่คุกมืดเพื่อรอการตัดสินโทษต่อไปหวางฮ่องเต้พระราชทานรางวัลมากมายให้เปาอี้ส่วง ทว่าเขาไม่ขอรับความดีความชอบนี้ไว้เพียงผู้เดียว เพราะสวีชางหมิงก็มีส่วนช่วยให้เขาปราบจอมโจรชุดดำได้สำเร็จเช่นกันวันนี้ที่จวนสกุลสวีจึงมีรถม้าคันใหญ่หลายคันทยอยเข้าออก เบื้องหน้า

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทที่ 32 ช่วยสามี

    เช้ามืดเปาอี้ส่วงได้เคลื่อนกำลังพลไปยังป่ามืดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองหลวง เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วยามก็ไปถึงแหล่งกบดานของพวกจอมโจรชุดดำ เปาอี้ส่วงสั่งให้กองกำลังซุ่มอยู่บริเวณแนวเขารอบๆ ก่อนจะจัดการยิงธนูไฟไปที่กระโจมของพวกมันจนไฟติดพรึ่บฟ้ายังไม่ทันสางดีก็บังเกิดเปลวเพลิงขนาดใหญ่โหมกระหน่ำไปทั่วกระโจมของพวกมัน เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายดังขึ้น บรรดาจอมโจรชุดดำต่างวิ่งวุ่นพากันช่วยดับไฟ เปาอี้ส่วงอาศัยช่วงจังหวะชุลมุนส่งสัญญาณให้กองทัพเคลื่อนลงไปโจมตีพวกมันในขณะที่กองทัพของแม่ทัพเปาอี้ส่วงกำลังเป็นต่อกลับมีกองกำลังของคนอีกกลุ่มหนึ่งปรี่เข้ามาห้อมล้อมคนของเปาอี้ส่วงเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง เปาอี้ส่วงจำได้ว่าหัวหน้ากองกำลังผู้นั้นคือบ่าวรับใช้ผู้ติดตามของท่านอาจารย์ฉีกัง"คิดไว้ไม่มีผิดจริงๆ แท้ที่จริงแล้วท่านอาจารย์ฉีก็เป็นหัวหน้ากลุ่มโจรชุดดำจริงๆ""รู้แล้วท่านแม่ทัพจะทำอย่างไรได้ ป่านนี้ท่านอาจารย์ฉีคงพาพวกบรรดาเหล่าคุณชายไปถึงไหนต่อไหนแล้ว" ซุนเชากล่าวอย่างยิ้มเยาะในทุกๆปีท่านอาจารย์ฉีกังจะทำการคัดเลือกบรรดาคุณชายสกุลต่างๆไปที่วัดบนภูเขาอันเป็นแหล่งกบดานชั้นดีอีกที่หนึ่ง โดยนำวิชา

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status