ตอนที่ 4 : จวนราชครู :
จวนราชครู
“ฮูหยินคุณหนูใหญ่กลับมาแล้วเจ้าค่ะ”
สาวใช้นางหนึ่งของจวนราชครูวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องของรั่วฮูหยินกลางดึกเพื่อรายงานเรื่องสำคัญ
รั่วฮูหยินปิงเซียวหลันตาเบิกโต มือไม้สั่นด้วยความดีใจเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก ยังดีที่มีทิงโยสาวใช้คนสนิทช่วยเตือนสติให้ออกไปต้อนรับรั่วอิงเหยา
“ฮูหยินรีบไปหาคุณหนูใหญ่เถิดเจ้าค่ะ”
รั่วฮูหยินได้สติว่าต้องทำอะไรจึงรีบปรี่ออกไปยังเรือนด้านหน้าเพื่อพบบุตรสาวที่เกิดจากสายเลือดตน
“เหยาเอ๋อร์ เหยาเอ๋อร์กลับมาแล้ว”
รั่วฮูหยินเห็นบุตรสาวก้าวผ่านประตูเรือนเข้ามายังไม่ถึงห้าก้าวน้ำตานางก็ไหลพรากด้วยความดีใจ
ตั้งแต่ได้ข่าวว่ารั่วอิงเหยาทำอะไรลงไปจนถูกขังคุก รั่วฮูหยินแถบจะกินนอนไม่ได้ ยิ่งเวลาผ่านมาเกือบสามชั่วยามรั่วอิงเหยายังไม่ถูกปล่อยตัว หัวอกคนเป็นมารดาแทบแตกสลาย
ตุบ!
ทันทีที่เห็นมารดาเดินเข้ามาพร้อมนัยน์ตาเอ่อนองด้วยม่านใส รั่วอิงเหยายิ่งรู้สึกผิดรีบทิ้งตัวคุกเข่าหน้าผากโขกกับพื้นเย็นเยียบพร้อมกล่าว
“เหยาเอ๋อร์เลอะเลือนเผลอทำร้ายน้องหญิง เป็นลูกอกตัญญูทำให้บุพกรีหลั่งน้ำตา ท่านแม่โปรดลงโทษลูกด้วยเจ้าค่ะ”
รั่วฮูหยินได้ยินคำสารภาพผิดของบุตรสาว ม่านน้ำตาที่เอ่อนองในนัยน์ตาคู่นั้นอยู่แล้วกลิ้งหล่นบนแก้มทั่งสองข้างราวธารน้ำหลาก นางรีบถลาย่อลงเพื่อพยุงรั่วอิงเหยาขึ้นจากพื้นที่เปียกปอนจากหิมะที่เริ่มละลาย
“เป็นความผิดแม่เอง แม่ผิดเองที่ตามใจเจ้าจนเสียคน”
แม้ปากจะตำหนิตนเองแต่รั่วฮูหยินกลับรวบบุตรสาวเข้ามาสวมกอดรั่วไว้มั่น น้ำตาที่ไหลราวน้ำป่าหลากเปียกปอนอาภรณ์ของบุตรสาวจนชุ่ม
รั่วอิงเหยาเกิดมาในตระกูลมั่งคั่งมีทุกอย่างเพียบพร้อมจนใคร ๆ ต่างอิจฉา แต่อีกมุมหนึ่งที่คนนอกไม่รู้คือนางนั้นเหมือนคนอาภัพ ได้รับความรักจากมารดา แต่กลับไร้อ้อมกอดจากผู้เป็นบิดา
นั่นเพราะตอนที่นางเจ็ดขวบ รั่วอิงเหยาเป็นคนที่ทำให้รั่วเชียนชิงน้องสาวต่างมารดาต้องสูญเสียมารดาไปตลอดชีวิต
วันวานนั้นนางเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสา เห็นขนมน่าอร่อยจึงนำไปให้อนุเฉียวมารดาของรั่วเชียนชิงกิน หากแต่รั่วอิงเหยาในวัยนั้นไม่รู้ว่าขนมนั้นมีส่วนผสมของน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ที่อนุฉินแพ้อย่างรุนแรง เมื่อกินเข้าไปหนึ่งคำอาการจึงกำเริบไร้หนทางเยียวยา
หากแต่ครานั้นรั่วหนานเฉินผู้เป็นบิดาปิดหูปิดตาไม่ฟังเหตุผล ไม่สนว่าบุตรีคนโตที่เพิ่งจะเจ็ดขวบจะไปรู้เรื่องอาการแพ้อาหารของอนุภรรยาตนได้อย่างไร
ตั้งแต่นั้นมา รั่วหนานเฉินตั้งแง่เกลียดชังรั่วอิงเหยาที่ทำให้ตนสูญเสียรักครั้งแรกที่กลายเป็นอนุภรรยาไปอย่างไม่หวนกลับ
มีเพียงปิงเซียวหลันมารดาที่เบ่งคลอดนางมาที่รักและเลี้ยงดูรั่วอิงเหยามาเพียงลำพังในจวนราชครู ปิงเซียวหลันทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้รั่วอิงเหยารู้สึกขาดความรัก นางใช้การตามใจรั่วอิงเหยาทุกอย่าเพื่อชดเชยอ้อมกอดของบิดา
และการตามใจบุตรสาวจนเคยตัวในวันนั้นกลายเป็นทำร้ายนางในเวลานี้ จะไม่ให้ปิงเซียวหลันรู้สึกผิดและเสียใจได้เยี่ยงไร
“ท่านแม่เลิกโทษตัวเองเถิดเจ้าค่ะ”
รั่วอิงเหยาลูบแผ่นหลังมารดาที่ยังสวมกอดกันอยู่เพื่อเป็นการปลอบประโลมให้นางเลิกโทษทุกอย่างเป็นความผิดตนเองสักที
‘อิงอิงเอ๊ย! นี่แกใจร้ายกับรั่วอิงเหยาในนิยายมากเกินไปสิะ’
เมื่อมาอยู่ในร่างนางร้ายที่เขียนขึ้นมาเองทำให้นางรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
‘ไม่เป็นไรนะเสี่ยวรั่ว ฉันอยู่ในร่างเธอแล้ว ฉันจะชดใช้ความใจร้ายของตัวเองที่สร้างเธอมาให้เจ็บปวดจนกลายเป็นคนนิสัยเสีย ต่อแต่นี้ไปฉันจะเปลี่ยนเธอเป็นคนใหม่เอง’
“ฮูหยินเจ้าคะ ด้านนอกอากาศเริ่มเย็นขึ้นแล้ว พาคุณหนูใหญ่เข้าไปพักในห้องดีหรือไม่เจ้าคะ”
ทิงโยสาวใช้คนสนิทของรั่วฮูหยินรีบเตือนสตินายหญิงของนาง
“แม่ไม่ได้เรื่องอีกแล้ว ไป! เข้าไปคุยกันต่อในห้องอุ่น ๆ กันเถอะ”
“ไม่ได้เจ้าค่ะ”
ทันทีที่รั่วอิงเหยาขืนตัวไม่เดินตามแรงจูงของมารดาพร้อมเอ่ยขัดคำชวนนั้น รั่วฮูหยินหันมามองด้วยใบหน้างุนงงพร้อมเอ่ยถาม
“มีอะไรรึ เหตุใดถึงไม่เข้าไปด้านใน”
รั่วอิงเหยาไม่อยากให้เสียเวลาสำคัญไปมากกว่านี้จึงรีบบอกเหตุผลที่นางกลับมายังจวนราชครู
“เหยาเอ๋อร์มาที่นี่ครั้งนี้มิได้กลับมาอยู่เรือนเจ้าค่ะ แต่เหยาเอ๋อร์มาเผื่อขอยืมคนผู้หนึ่ง”
รั่วฮูหยินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อฟังคำของบุตรสาวจบ
“ลูกจะยืมผู้ใด”
“องครักษ์หยียน เหยียนตู้เจ้าค่ะ”
รั่วฮูหยินไม่แปลกใจหากบุตรสาวต้องการใช้งานเหยียนตู้เพราะทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นดั่งพี่กับน้อง
“หยุดนะ เจ้าสี่ขา!”เสียงใสเอ่ยตะโกนไล่ตามสุนัขขนปุกปุยที่วิ่งล่อให้วิ่งตามไม่หยุด แต่ดูเหมือนคำสั่งนั้นจะไร้ผล เจ้าสี่ขากลับเร่งฝีเท้าเห่าใส่ คล้ายจะเรียกร้องให้นางไล่ตามมันไป“พี่หญิง ระวังหน่อยเจ้าค่ะ!”เชียนชิงที่นั่งอยู่บนม้านั่งใต้ต้นเหมยเอ่ยเตือนด้วยความห่วงใยภายในจวนซื่อจื่อแห่งหนานโจวเมื่อไม่กี้วันมานี้เต็มไปด้วยความครึกครื้น เนื่องด้วยเหล่าญาติจากฉีโจวเดินทางมาเยี่ยมเยือน“พระชายา เสวยโอสถบำรุงครรภ์ก่อนเพคะ”สาวใช้นาม ฮุ้ยซู ยกถ้วยโอสถวางลงบนโต๊ะหินอ่อนอย่างนอบน้อมกาลเวลาล่วงเลยไปหนึ่งปีนับจากเทศกาลโคมลอยในปีนั้น รั่วเชียนชิงอภิเษกสมรสกับหลัวอี้เฟิง และบัดนี้ตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว วันนี้ทั้งสองตัดสินใจเดินทางมายังหนานโจวด้วยความคิดถึงญาติผู้พี่ที่อยู่ห่างไกล“ชิงเอ๋อร์ ระวังร้อนหน่อย”รั่วอิงเหยาหัวเราะเบา ๆ หลังจากวิ่งเล่นกับเจ้าสี่ขาจนเหนื่อยจึงกลับมานั่งพักพลางจิบชาคลายร้อน“สองคนนั้นหายไปไหนเสียแล้ว เจ้าเห็นหรือไม่” นางเอ่ยถามน้องสาวด้วยความสงสัยนับจากที่สองพี่น้องสกุลหลัวออกไป ก็หายไปครึ่งชั่วยามแล้ว แต่ป่านนี้ยังไร้วี่แววว่าจะกลับมา“คงไปแข่งขี่ม้า ล่าสัตว์อีกกระ
ฟิ้ว~ลมเย็นพัดมาได้เวลารั่วอิงเหยาคิดสิ่งหนึ่งออกพอดีจึงเอ่ย"หม่อมฉันยังทำคำสัญญาที่ให้ซื่อจื่อไม่แล้วเสร็จเพคะ""เจ้าหมายถึงเรื่องนั้น""เพคะ"พอเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อยนึง"วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะทำเรื่องนั้นให้สำเร็จ""เจ้ามีแผนการอะไรอีก"รั่วอิงเหยายิ้มแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ทำเอาคนอยากรู้อยากรู้ใจจะขาด"พาหม่อมฉันกลับไปหาชิงเอ๋อร์แล้วจะบอกเพคะ"น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยขึ้นหลัวฉางเฟิงชอบเวลาที่รั่วอิงเหยามีแผนการในหัว มันทำให้นางเป็นคนน่าค้นหา"ได้ ข้าจะพาเจ้ากลับไป แต่หลังจบเรื่องนั้นแล้ว เจ้าต้องตอบคำถามนั้น"รั่วอิงเหยาไม่ตอบ นางทำเพียงพยักหน้าเป็นการตกลงศาลาเจาอวี่กว่าจะหากลุ่มรั่วเชียนชิงเจอใช้เวลาไปหนึ่งเค่อ สุดท้ายก็พบกันที่ศาลาเจาอวี่ที่ตั้งอยู่นอกงานทว่าทิวทัศน์ริมแม่น้ำงดงามกว่าในงานมาก"พี่หญิงคิดจะทำอะไรเจ้าคะ"เชียนชิงถามพี่สาว เมื่อเห็นบุรุษสองคนที่ใครต่างก็รู้ว่าไม่เป็นมิตรกันยืนอยู่ในศาลาเจาอวี่"พวกเจ้ารออยู่ที่นี่แหละ"รั่วอิงเหยากำชับทั้งสามคนที่มีฉินเส้ามาร่วมวงด้วยเสร็จก็เดินเข้าไปหาสองบุรุษในศาลาทันที"อะแฮ่ม"เดินเข้ามาธรรมดาโลกไม่จำกระมั
"ท่านพาข้ามาที่นี่ด้วยเหตุใด รู้หรือไม่ข้ากำลังสนุกกับร้านค้าในงานนั้น สนุกกับสีสันที่ไม่เคยเห็น สนุกกับการวิ่งไปร้านนั้น เข้าร้านนี้ราวกับกลับเป็นเด็กอีกครั้ง สนุกกับ..."เสียงหวานร่ายยาวจนไม่มีโอกาสให้อีกคนตอบ จึงก้มลงไปฉกชิมริมฝีปากนั้นเพื่อหยุดนางเอาไว้รั่วอิงเหยาตัวเกร็งเมื่อถูกจู่โจม ใบหน้างามร้อนผ่าวเมื่อถูกอีกคนจุมพิตราวหิวกระหาย"อื้อ"นางพยายามขัดขืนแต่อีกคนกลับบดเบียดริมฝีปากนุ่มนั้นไม่ปล่อยผลัก!สุดท้ายจึงรวบรวมแรงทั้งหมดผลักอีกคนออกไป"ท่าน...!"มีคำด่าทอมากมายในหัว ฝ่ามือน้อยยกขึ้นหมายตะบันหน้าสักหน ทว่าครั้นเห็นรอยยิ้มบนใบหน้ารูปงามที่ส่งมาแล้วกลับลงโทษเขาไม่ลง"เจ้าทำให้ข้าเป็นเช่นนี้""หม่อมฉัน?" นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเอง"ข้าอุตส่าห์รีบกลับมาจากภารกิจ แต่กลับพบเจ้าอยู่ที่ตำหนักชมจันทร์กับอี้เฟิงสองต่อสอง ซ้ำร้ายวันนี้หนีเที่ยวยังไม่ชวนข้าสักคำ พอพบหน้ากันกลับเอาแต่จ้องหน้าญาติผู้พี่ข้า จะไม่ให้น้อยใจได้อย่างไร"คนที่พูดน้อยกลับระบายความในใจออกมาจนหมดเปลือกมุมปากบางคลี่ยิ้มออกมาก่อนเอ่ย"ซื่อจื่อหึงหม่อมฉันหรือเพคะ"คนถูกจับได้เอียงหน้าหลบ แต่บนแก้มนั้นกลับเปลี่ยนสี
"นี่ ๆ เรามาสวมหน้ากากไม่ให้ใครจำได้ดีหรือไม่"รั่วอิงเหยาวิ่งไปยังแผงขายหน้ากากริมทาง สายตาระริกระรี้มองหน้ากากไม้นั้นที อันนี้ที อย่างตื่นเต้น"อันนี้เหมาะกับชิงเอ๋อร์ของพี่"หน้ากากเทพธิดาสีขาวบริสุทธิ์ถูกหยิบมาทำท่าสวมบนใบหน้าให้น้องสาว"คุณหนูรองจิตใจดีมีเมตตา เหมาะกับหน้ากากเทพธิดาเจ้าค่ะ" ถิงอูยกย่องอีกเสียง"ชิงเอ๋อร์อ่อนโยนมีเมตตาเหมาะกับหน้ากากเทพธิดา แล้วข้าเล่า คงไม่ได้เหมาะกับ..."รั่วอิงเหยาเหลือบหางตามองหน้ากากที่หน้าเกลียดหน้ากลัว จมูกแหลมคม มีเขี้ยวสองข้างพรึ่บ!ยังไม่ทันมีใครได้ตอบคำถามนั้น ร่างเล็กก็ถูกรวบหมุนรอบหนึ่งก่อนจะมีอะไรเย็น ๆ สวมปิดครึ่งหน้า"เจ้าเหมาะกับหงส์เพลิง"หน้ากากครึ่งหน้าลวดลายหงส์เพลิง มีขนนุ่ม ๆ ประดับตกแต่งราวปีกนกถูกสวมลงบนใบหน้างดงามของรั่วอิงเหยาส่วนอีกคนที่เอาแต่ยัดเยียดสวมหน้ากากให้นางกลับมีหน้ากากครึ่งหน้าลายพยัคฆ์ขาวปกปิดอยู่"คารวะซื่อจื่อ"เชียนชิงกับถิงอูเห็นแล้วว่าเป็นผู้ใดกล้าแตะเนื้อต้องตัวกับรั่วอิงเหยาจึงรีบทำความเคารพ"ท...ท่านมาได้อย่างไร"รีบถอยห่างออกไปสองก้าวเมื่อรู้สึกว่ามีสายตามากมายจ้องมาที่นาง"ข้าไม่ได้มาผู้เดียว"หล
"ซื่อจื่อมาที่นี่ได้อย่างไรเพคะ""ถิงอูรายงาน แต่เหตุใดเจ้าต้องมาที่นี่คนเดียว"หลังจากจัดการกวาดล้างสำนักอวี้เหมินเสร็จ หลัวฉางเฟิงก็รีบควบม้าเร็วล่วงหน้ามาก่อนทหารนายอื่น หากแต่พอไปถึงจวนสกุลรั่ว สาวใช้ที่ให้ติดตามรั่วอิงเหยากลับรายงานว่า นางมาพบหลัวอี้ฟิงที่นี่เพียงลำพัง จะไม่ให้เขาร้อนรนเร่งรุดบุกตำหนักชมจันทร์ได้อย่างไร"หม่อมฉันแค่นำของบางอย่างมาให้องค์ชายใหญ่""ของอะไร เหตุใดต้องมอบให้ด้วยตนเอง"เจอหน้ากันครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้นก็กลายเป็นทะเลาะกันเสียได้"ความลับเพคะ"หลัวฉางเฟิงรีบรั้งข้อมือน้อยที่เดินหนีเอาไว้"หม่อมฉันเจ็บ"แววตาเคล้าน้ำตาของนางทำเอาหลัวฉางเฟิงได้สติ ปล่อยมือเล็กนั้นช้า ๆ พร้อมเอ่ย"ข้าขอโทษ"ดูเหมือนรั่วอิงเหยาจะโกรธเขามาก นางสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างไม่ใยดี แถมยังเดินกลับไปหาหลัวอี้เฟิงราวหยามหน้าเขาอย่างไรอย่างนั้นจวนสกุลรั่วรั่วอิงเหยาเสร็จภารกิจมอบจี้แทนใจให้เจ้าของร่างเสร็จแล้วก็รีบกลับจวนทันที โดยไม่สนใจบุรุษที่ควบม้าตามรถม้าของนางมาอย่างช้า ๆ"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ"ปิงเซียวหลันเห็นบุตรสาวทำหน้าบูดบึ้ง เดี๋ยวก็ถอนหายใจ เดี๋ยวก็ทำหน้าเบื่หน่า
:: อาการหึงหวง ::"เดี๋ยว นั่นเจ้าจะไปไหน"เสียงร้องห้ามของหลัวอี้เฟิงนางได้ยิน แต่ตอนนี้ต้องหาหญ้าแดงมาบดใส่แผลน้ำร้อนลวกนี้ก่อนไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นแผลพุพองจนกลายเป็นแผลเป็น"เจอแล้ว"หญ้ากอแดงที่ต้องการอยู่ตรงหน้า หากแต่รั่วอิงเหยาไม่ทันสังเกตให้ดีว่ามีอสรพิษร้ายกำลังพลางกายอยู่ใกล้หญ้านั้นฉึก!รั่วอิงเหยาส่งเสียงร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็มีมีดสั้นเล่มหนึ่งปักลงตรงหน้านาง ตามมาด้วยอ้อมกอดของใครสักคนที่รั้งนางออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว"ข้าไม่อยู่เพียงแค่สิบวัน เจ้าก็ไม่รักชีวิตตนเองแล้วหรือ"คำตำหนิมาพร้อมแรงโอบกอดจากทางด้านหลัง เสียงที่คุ้นหู สัมผัสที่คุ้นเคย ทำให้รั่วอิงเหยารู้แล้วว่าเขาคือใคร ค่อย ๆ แกะมือหนาที่โอบรวบเอวคอดออกช้า ๆ"อ๊ะ!"แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ยอมปล่อย เขาออกแรงหมุนเล็กน้อยให้รั่วอิงเหยาหันกลับมาประจันหน้าอย่างเอาแต่ใจ"ผลักไสข้า...เพราะมีอดีตคนรักมองอยู่หรือ"คำถามนั้นช่างข่มต่ำ แววตาที่มองมาเหมือนกำลังน้อยเนื้อต่ำใจระคนขึงโกรธ"ปล่อยเพคะ"รั่วอิงเหยาเหลือบมองไปทางตำหนักที่มีอีกคนยืนมองอยู่"ฝ่าบาทพระราชทานวันสมรสของพวกเขาแล้ว เจ้ายังไม่ยอมปล่อยวางอีกหรือ"นี่เ