ช่วงเวลาบ่ายของวันเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัย KK อาคาร 12 สาขาการออกแบบภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ห้องสำนักงานคณะ เมย์ที่มาพร้อมกับผู้ชายที่อยู่ๆ ก็โผล่เข้ามาที่ร้านคาเฟ่ในวันนั้น ลุกซ์จำเขาได้ดี เพราะเขาคือ มัตสึโมโตะ อคิราห์ ประธานบริษัทแลนด์เพาเวอร์พร็อพเพอร์ตี้จำกัด เมย์ไม่ได้บอกว่าเธอจะมากับใคร เขานึกว่าจะมากับลดาเพื่อนรักของเธอเอง แต่ลุกซ์ก็กล่าวทักทายตามมารยาทและเก็บความรู้สึกสงสัยเอาไว้ก่อน “สวัสดีครับเมย์ ... ไม่ทราบว่าเมย์จะมากับ ...คุณมัตสึโมโตะ” “สวัสดีค่ะพี่ลุกซ์ ... อือ ...” เมย์ที่ไม่รู้ว่าจะบอกออกไปดีหรือเปล่า แต่เมื่อเธอเห็นหน้าตาที่ดูจะไม่เป็นมิตรของคิระเธอคงต้องบอกตามความจริง เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรบ้าๆ ออกไปบ้าง ผู้ชายคนนี้ยิ่งเอาแต่ใจ และเดาใจยาก “คือคุณเล็ก เขาเป็นสามีเมย์เองคะพี่ลุกซ์” เมย์ที่พูดตามความจริง แต่หน้าของเธอหลังจากพูดดูจะอึดอัดไม่เบา คิระที่ดูจะรู้อยู่บ้างว่าเธอไม่อยากพูดอะไรในทำนองนี้ แต่ก็รู้สึกดีที่เธอบอกว่าเขาเป็นสามีของเธอ “ครับผมสามีของเมย์ ยินดีที่ได้รู้สึกอย่างเป็นทางการนะครับคุณลุ
“ต้องใช้ด้วยหรือคะ?” เมย์สงสัย เพราะปกติบริษัทอื่นไม่ต้องใช้เอกสารของคู่สามี “ทางเรามีสวัสดิการสำหรับครอบครัวที่แต่งงานและจดทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมายครับ จึงจำเป็นต้องใช้” นิติกรแก้ตัว “เมย์ไม่ได้เตรียมมาเลยค่ะ ไม่ทราบว่าต้องใช้ด้วย” “อือ ... ครับ วันหลังค่อยนำมาให้ผมก็ได้ครับ” ก่อนเข้ามาในห้องนี้ เขมิกาได้บอกเกี่ยวกับเอกสารที่ต้องขอเพิ่มเติมจากคุณเมย์ หากคุณเมย์ติ๊กในช่องที่ระบุว่าสมรสแล้ว ก็ให้ขอเอกสารการจดทะเบียนสมรสจากเธอ เพื่อที่จะได้จัดสวัสดิการสำหรับครอบครัวของพนักงานบริษัท แต่ปกติบริษัทไม่ได้มีการตรวจสอบเอกสารของคู่สมรสแต่อย่างใด ถึงคุณชนินทรจะสงสัยแต่ก็ไม่ได้กล่าวถามอะไรเพิ่มเติม คิระ กระแอมในลำคอเบาๆ ทำเอาเมย์หันไปมองหน้าของผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามกับเธอทันที “คุณชนินทร ... เอกสารสมรสของคุณเมย์เดี๋ยวผมเอามาให้ตอนนี้เลย” คิระพูดในสิ่งที่ทำเอาเมย์ร้องชื่อเขาออกมาโดยไม่รู้ตัว “คุณเล็ก!!!” คิระมองเมย์ แต่ ... เขาก็หันไปทางนิติกร ... ฮึฮึฮึ มีหรือที่คิระจะหยุด แผนของเขายังไม่เสร็จสมบูรณ์!!! “นี่ทะเบียนสมรสของคุณเมย์”
“ผมขอให้ทุกคนเอ็นดูเธอด้วยนะครับ เธอคงจะมาทำงานกับพวกเราอีกยาวเลย” ตอนนี้คิระยิ้มให้เธอด้วยดวงตา ที่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดีสำหรับเธอ พนักงานชายหญิงก็เห็นสายตาที่ไม่ธรรมดาของเจ้านายของพวกเขา แต่เมย์พยายามพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าพาฉันออกไปได้แล้ว ส่วนพนักงานหญิงคนอื่นๆ ที่เห็นแววตาของเจ้านาย “แกๆๆๆๆ ดูคุณคิระสิแก ๆๆๆ ... มองคุณเมย์ยังกะจะกินเข้าไปทั้งตัว” คิระที่ยั้งยิ้มให้กับเมย์ ก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังพนักงานคนอื่นๆ “ผมยังมีอีกเรื่องที่จะแจ้งให้ทุกคนทราบ ...” พนักงานเริ่มเบาเสียงลง เมื่อเจ้านายเริ่มเข้าสู่ประเด็นอีกครั้ง ทุกคนใจจดใจจ่อว่าเจ้านายของพวกเขาจะพูดอะไร “อาทิตย์หน้าเราจะจัดงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัท เป็นวันศุกร์ที่ 12 ม.ค. นี้ที่โรงแรมเดอะแลนด์หลักสี่ แล้วเจอกันนะครับ ผมหวังว่าทุกคนจะมาร่วมงานเลี้ยงของบริษัทเรา เรามีรางวัลให้กับพนักงานทุกคนเลยนะครับ” เมย์ที่ได้ยินชื่อโรงแรมก็ตกใจ มองไปที่ผู้ชายที่กำลังบอกว่าจะมีงานเลี้ยงบริษัทในอาทิตย์หน้า และยังจะจัดที่โรงแรมนั้นอีก!!!! เสร็จกิจที่คิระประกาศเรื่องเมย์จะมาเป็นพนักงานของที
เช้าวันใหม่ คิระตื่นขึ้นมาในห้องของลูกชายตัวเอง โดยมีเด็กชายวันใหม่นอนอีกเตียงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา ทั้งคู่ตื่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน ตามองไปที่กันและกัน มันให้ความรู้สึกแปลกๆ พิกล เหมือนมองตัวเองในวัยเด็ก และมองตัวเองในวัยผู้ใหญ่ แต่ก็อบอุ่นดี ส่วนเมย์ที่ไม่ได้นอนกับลูกชายมานาน เธอก็รู้สึกดี เพราะเธอได้นอนกอดลูกชายตอนตื่นนอน ตั้งแต่เด็กๆ อายุได้ 7 ขวบ พวกเขาก็ขอแยกห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว เธอกับลูกๆ จึงไม่ได้นอนด้วยกันตั้งแต่นั้นมา สำหรับเมย์ที่ตื่นก่อนพวกเขาสามคน เธอตื่นมาทำอาหารเช้าให้พ่อลูก มันเป็นอาหารเช้าสไตล์อเมริกันเบรคฟัส ง่ายๆ ลูกๆ ของเธอวันนี้ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรพิเศษ แต่คิระยังต้องไปทำงาน และเธอต้องไปลงนามในสัญญาการทำงานที่บริษัทของคิระในช่วงเช้า ช่วงบ่ายเธอก็นัดกับอาจารย์ลุกซ์เพื่อเซ็นสัญญาการจ้างงานของบริษัทเขา และสัญญาจ้างอาจารย์พิเศษด้วย คิระจึงให้เธอเดินทางไปกับเขา ส่วนเด็กๆ ขออยู่บ้านเพื่อจัดเตรียมเอกสารในการเปิดเรียนในสัปดาห์หน้า “คุณแม่ไม่ต้องห่วงพวกผมครับ พวกเราอยู่ได้ คุณแม่ไปทำธุระเถอะครับ” เจ้าปีบอกแม่ของเขาช่วงที่ทั้งสี่คนทานอาห
“อือ ... ผมจะดูแลเด็กๆ ในฐานะพ่อ ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน” คิระรับทราบ และรับปากในฐานะของพ่อคนหนึ่ง “ฉันจะรับรองเรื่องการจดทะเบียนรับรองบุตร คุณว่างวันไหนก็บอกฉันได้ ฉันจะได้บอกเด็กๆ ให้เตรียมตัวด้วย” เรื่องที่ 2 ที่เมย์ยืนยันกับเขา “อือ ... งั้นวันจันทร์นี้คุณเตรียมเอกสารของเด็กๆ และคุณให้พร้อม” คิระมองไปที่เมย์ เธอพยักหน้ารับทราบวันที่คิระนัดหมาย “อีกเรื่อง” เมย์หยุดพูดนิดหนึ่ง มองไปที่คิระ “ยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอ? ... อือ เรื่องอะไรครับ” คิระทำเป็นมองเธอด้วยความสงสัย “ถึงแม้ว่าเราสองคนจะจดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย แต่เราสองคนไม่ได้ ... อือ ... ฉัน ...” เมย์พยายามกลั่นกรองคำพูดเพื่อให้เขาไม่เข้าใจเธอผิดในเรื่องที่เธอยอมจดทะเบียนสมรสกับเขา เธอไม่ได้ต้องการใช้ลูกผูกมัดเขาไว้ “อือ ... ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดี ต้องการรับผิดชอบฉันและลูก ดังนั้นคุณไม่ต้องห่วง ฉันไม่จำกัดอิสระของคุณ หากคุณมีคนที่คุณรักจริงๆ ฉันพร้อมที่หย่าและเปิดโอกาสให้คุณเสมอ” คิระเมื่อได้ยินประโยคที่เมย์พูดออกมา เขาก็ดูหน้าตึงขึ้นมาทันตาเห็น เธอไม่รู้ว่าการแสดงทางสีหน้าของเขาหมา
“ก่อนกลับเมืองไทยครับ ... ผมบังเอิญเห็นกล่องของคุณแม่” เจ้าวันพูดขึ้น “จากนั้นล่ะ?” เธอถามต่อ “ผมอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงได้ทิ้งคุณแม่และพวกผมไป และไม่เคยที่จะมาดูแลเราเลย ผมจึงติดต่อเขาเพื่อถามเรื่องนี้ครับ” เจ้าปีบอกเหตุผล เมย์ที่ได้ฟังเหตุผลของลูกๆ ก็เข้าใจ ถึงแม้พวกเขาสองคนจะมีภาวะที่เป็นผู้ใหญ่เกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่พวกเขาก็ยังเป็นเด็กที่ต้องการครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อแม่ลูก และเธอเองที่ไม่เคยบอกอะไรพวกเขาเลย บอกเพียงว่าพ่อไม่อยู่แล้ว แต่เมื่อเด็กๆ รู้ว่าพ่อของพวกเขาเป็นใคร พวกเขาย่อมอยากรู้เหตุผลว่าเพราะอะไรแม่กับพ่อถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือเพราะอะไรพ่อถึงจากพวกเขาไป “เขาให้ลูกพบแต่โดยดี?” เมย์ตั้งประโยคเสียงสูงที่เป็นเชิงคำถาม “ก็ไม่เชิงครับ พวกผมแค่ก่อกวนเขานิดหน่อย เพื่อให้เขามาพบพวกผม พวกเราแค่ถามเขาว่า ทำไมเขาถึงทิ้งพวกเราไปก็เท่านั้นเองครับ” เจ้าวันทำหน้าละห้อยเล่าความจริงออกมาเป็นบางส่วน “พวกลูกก่อกวนอะไรเขา?” เมย์ที่รู้สึกว่า แค่คำว่าก่อกวนของลูกชายเธอนี้น่าจะไม่ธรรมดา!!! “ผมแค่แฮ็กระบบบริษัทเขานิดหน่อยเองครับ ... แต