LOGINเมื่อนางแบบชื่อดัง ต้องมาอยู่ในร่างของ ท่านหญิงผู้อ่อนโยน ที่ถูกสามีมองข้าม เมื่อเขาว่านางร้ายกาจ เช่นนั้นนางจะแสดงให้เขาได้เห็น ว่าสตรีร้ายกาจที่แท้จริงเป็นเช่นไร
View Moreหลังงานเดินแบบที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดแห่งปี ‘หลี่ถิง’ นางแบบเบอร์หนึ่งของฮ่องกง เธอมีความเพียบพร้อม ในทุก ๆ ด้านเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นชาติตระกูลดี ร่ำรวย สวย เรียนเก่ง จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยดังในยุโรป เป็นสาวมั่นแห่งยุค นอกจากการเดินแบบถ่ายโฆษณา เธอยังรับเล่นหนังแนวแอคชั่นและย้อนยุค
ส่วนเรื่องความรักของเธอก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบจนใคร ๆ ต้องอิจฉาที่เธอได้สามีทั้งหล่อ รวย เป็นผู้ชายในฝันของหญิงสาวมากมาย ทั้งคู่แต่งงานกันได้สองปี แต่ยังไร้ซึ่งทายาท แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรักจืดชืดแม้แต่น้อย เมื่อมีคนถามหลี่ถิงและราฟาเอล คำตอบของสามีภรรยาแห่งปีจะตอบเช่นทุกครั้งคือ ทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ อีกอย่างคือเขาและเธอยังคงสนุกกับงานที่ทำอยู่ด้วย
หลังงานแฟชั่นโชว์จบลง หลี่ถิงรีบเก็บของลงในกระเป๋าพร้อมส่งยิ้มให้กับทีมงานและเพื่อน ๆ นางแบบด้วยกัน หลี่ถิงแม้จะสวย รวย เก่ง แค่ไหน แต่นิสัยของเธอกลับน่ารัก มีมารยาท ไม่เรื่องมาก ไม่หยิ่งหรืออวดร่ำอวดรวย เหมือนลูกเศรษฐีส่วนมากที่มักไม่ก้มมองคนต่ำต้อยกว่าตนเอง ความมีน้ำใจของหญิงสาวทำให้เธอเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานทุกคนเสมอ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย มือบางหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายบนบ่า
เมซี่ผู้มีหน้าที่จัดหางานและดูแลเหล่านางแบบเดินยิ้มหวานเข้ามาหาหญิงสาวที่มีสไตล์หลุดโลก เมซี่ยืนขวางหลี่ถิงเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยเย้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ถิงถิง…วันนี้ คุณสามีไม่มารับเหรอคะ”
“ไม่ค่ะ พี่เมซี่ วันนี้ ถิงถิงกะว่าจะไปซื้อของขวัญครบรอบวันแต่งงานให้ราฟก่อนน่ะค่ะ”
“น่าอิจฉาที่สุดคู่นี้ ถ้างั้น…ค่อยเจอกันในงานต่อไปนะคะ บายค่ะ ถิงถิง”
“บายค่ะ พี่เมซี่”
หลี่ถิงเดินเข้าไปสวมกอดเมซี่ เพราะอีกฝ่ายอ้าแขนรออยู่ก่อนแล้ว เมซี่โอบกอดหญิงสาวที่เธอรักเหมือนน้องสาวอีกคนเอาไว้แน่น แต่ความรู้สึกใจหายอยู่ ๆ ก็เกิดขึ้น แขนเรียวจึงรัดตัวหลี่ถิงแน่นขึ้นอีก ซึ่งมันเหมือนกับว่าโอกาสเช่นนี้จะไม่มีอีกแล้ว ใจของหญิงสาวรุ่นพี่รู้สึกเบาหวิวอย่างไม่มีสาเหตุจนคนในอ้อมกอดขยับตัวยุกยิก เมซี่จึงได้คลายวงแขนออก
“ถิงถิง…เอ่อ! เดินทางระวังด้วยล่ะ พี่เป็นห่วง”
เมซี่พูดเสียงเบาหวิว รอยยิ้มกว้างเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แต่อีกฝ่ายคงไม่ทันได้สังเกตอาการของเธอนัก เพราะหลี่ถิงยังส่งยิ้มกว้างมาให้เธอพร้อมพยักหน้าหงึก ๆ เป็นการตอบรับ
“ค่ะ…พี่เมซี่ อย่าห่วงเลยค่ะ วันนี้คนขับรถคุณพ่อมารับ ถิงถิงไม่ได้
ขับเอง รับรองได้เลยค่ะ ว่าไม่มีซิ่ง! แน่นอนคร้า พี่สาวคนสวย”
พูดจบร่างบางของนางแบบสาวก็เดินตัวปลิวออกจากห้องแต่งตัว ตรงไปยังลานจอดรถ ตลอดทางเดินเมื่อผ่านคนที่รู้จักหรือทีมงาน รอยยิ้มหวานจะปรากฏให้ทุกคนได้เห็น
เมื่อถึงประตูทางออก มีชายหนุ่มในชุดสูทสีดำยืนรออยู่ พร้อมเปิดประตูให้แก่เธอ ก่อนจะเดินตามหลังนางแบบสาวไปยังรถคันหรูที่จอดรอ
เมื่อถึง ชายหนุ่มรีบวิ่งนำเจ้านายสาว เพื่อไปเปิดประตูรถด้านหลังให้แก่เธอ ก่อนที่ตัวเขาจะขึ้นไปนั่งคู่กับคนขับ
“ไปห้างฯ ก่อนนะคะ แล้วค่อยไปส่งฉันที่คอนโดฯ”
“ได้ครับ คุณหนู”
พรุ่งนี้คือวันครบรอบแต่งงานของเธอกับราฟาเอล วันนี้ หลังเที่ยงคืน เธอต้องการที่จะเซอร์ไพรส์สามี โดยมอบของขวัญแต่งงานให้ก่อนที่จะไปดินเนอร์กันในคืนพรุ่งนี้
เธอบอกราฟาเอลเอาไว้ ว่าวันนี้จะค้างที่บ้านของคุณพ่อ แต่จริง ๆ แล้วเธอจะแอบกลับเข้าไปรอเขาที่คอนโดฯ เพราะวันนี้ราฟาเอล จะกลับถึงบ้านราวห้าทุ่ม หรือเที่ยงคืนอย่างช้า เขาไปร่วมงานเลี้ยงกับคู่ค้า ยังไง เธอก็กลับถึงคอนโดฯ ก่อนเขาอยู่ดี
คอนโดฯ ของหลี่ถิง…
ภายในคอนโดฯ หรูใจกลางเมือง ร่างบางที่จัดการอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนอนแสนสวยสุดเซ็กซี่เพื่อรอเซอร์ไพรส์สามี พร้อมฉีดพรมน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่เย้ายวนกว่าเคยทั่วร่างกาย ก่อนจะเดินนวยนาดไปนั่งชมวิวยังริมหน้าต่างห้องนอนสุดหรูของเธอ เพื่อทอดอารมณ์ไปตามความรู้สึกที่แสนโรแมนติก เมื่อคิดถึงสีหน้าแปลกใจของสามีเมื่อเห็นเธออยู่ที่นี่ไม่ใช่บ้านของพ่ออย่างที่เธอบอกเขาไปในครั้งแรก
แก๊ก!
เสียงไขกุญแจประตูห้องด้านหน้าทำให้คนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างรีบวิ่งเข้าไปแอบอยู่ในห้องแต่งตัวของเธอที่เป็นส่วนแยกกับของสามี ทำให้เธอซ่อนตัวได้สบาย ๆ เพราะราฟาเอลจะไม่เข้ามาในห้องนี้อย่างแน่นอน มันจึงเหมาะจะซ่อนตัวที่สุด
เวลาผ่านไปไม่นาน เพราะเสียงอาบน้ำเงียบลงแล้ว และตอนนี้
ก็เลยเที่ยงคืนมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะเซอร์ไพรส์ชายหนุ่มเสียที เท้าเปล่าเปลือยค่อยก้าวชิดประตู ก่อนจะแนบหูฟังว่าเขาขึ้นเตียงนอนหลับไปหรือยังหญิงสาวค่อย ๆ เลื่อนประตูห้องแต่งตัวออกเพียงเล็กน้อย มือบางหยุดชะงักค้างเมื่อรู้สึกถึงสิ่งที่ผิดปกติ
“อะ….อ๊า….อื้มมม”
หลี่ถิงยังคงยืนนิ่งกับที่ ไม่ได้เลื่อนเปิดประตูออกต่อ
เสียงจากเตียงนอนมันคืออะไรกัน? ทำไมถึงเหมือนกับว่าสามีไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
“อ๊า….เร็วอีกค่ะพี่ราฟ จะ…เจสจะไม่ไหวแล้ว อะ….อืม”
“พะ….พี่จะเสร็จแล้วเจส อ่า…เจส พี่มีความสุขจังเลย”
พูดจบชายหนุ่มได้กดจูบหนัก ๆ ที่หน้าผากของหญิงสาว ก่อนจะเลื่อนลงมายังแก้มที่ชื้นเหงื่อ และมาหยุดอยู่ตรงซอกคอที่เขารับรู้ถึงการเต้นของชีพจรและเสียงหายใจหอบถี่จากเกมรักที่เพิ่งจบลงอย่างสุขสม และ
มันกำลังจะเริ่มอีกครั้งในไม่ช้า
“เจสก็มีความสุขที่สุดเลยค่ะ พี่ราฟ แต่เราต้องแอบทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนคะ เจสเบื่อแล้วที่ต้องรอให้พี่ถิงถิงไม่อยู่ เราถึงมีอะไรกันในห้องนี้ได้”
หญิงสาวทำน้ำเสียงกระเง้ากระงอดด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ทำให้ชายหนุ่มขยับตัวรวบกอดร่างอวบอิ่มเข้าแนบอกมากขึ้น ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเส่า
“แบบนี้แหละจ้ะ…พี่ชอบมันตื่นเต้นดี” พูดจบ ราฟาเอลก้มลงจูบปากเย้ายวนนั้นอีกครั้ง เพลงรักของทั้งคู่เกิดขึ้นอีกรอบ และครั้งนี้ดูเหมือนจะเร่าร้อนกว่าหลายเท่าตัว
ทุกคำพูดและการกระทำมันตกอยู่ภายใต้สายตาเจ้าของห้องตัวจริงที่ยืนมองอยู่เงียบ ๆ ภายใต้เงามืด โดยคนบนเตียงไม่ได้ทันสังเกตเห็น เพราะกำลังมีความสุขกับบทรักอันร้อนแรงกันอยู่ จนไม่นึกถึงสิ่งที่กระทำอยู่นั้นมันถูกหรือผิด
ภายในจวนสกุลเชี่ยดูจะสงบเงียบกว่าที่เคย แต่ถึงกระนั้นก็มิใช่เรื่องที่คนภายนอกจะรับรู้ได้ เจ้าของบ้านสองสามีภรรยากำลังดื่มด่ำกับการจิบชาชั้นยอด พร้อมการสนทนากันตามประสา ซึ่งทำให้แขกผู้มาเยือนถึงกับส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับลีลาการเฝ้ารอศัตรูของคนสกุลใหญ่ หากนางปรากฏกายต่อหน้าทั้งสองคนนั้น เพียงครู่คงมีทหารในจวนโผล่ออกมาล้อมรอบ‘หึ ๆ’ นางมีดีกว่านั้น“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว เงียบ ๆ มันดูมิตื่นเต้นเท่าใดนัก พวกเจ้าช่วยปลุกพวกเขาให้ตื่นกันเลยจะดีกว่า”จบคำพูดจากการแฝงตัวในเงามืด เพื่อเฝ้ารอเวลาลงมือ กลับเปลี่ยนเป็นการลงมืออย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำวางกำลังไว้อีกชั้นเพื่อการเก็บกวาด“อ๊ากก!”เพียงครึ่งก้านธูป เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็เกิดขึ้น ทหารในจวนแท้จริงคือนักฆ่ารับจ้าง ทว่า จอมโจรผู้บุกรุกก็คือกลุ่มมือสังหารชั้นยอดเช่นกัน การมาปล้นในครั้งนี้ ผู้นำมิคิดที่จะนำคนมาเพียงหยิบมือเสียเมื่อไหร่กัน การจบหมากกระดานเล็กให้สิ้นซากก็คือทุบกระดานหมากให้แหลกคามือเท่านั้น“มิต้องเชิญข้า ใต้เท้าเชี่ย ฮูหยินเชี่ย ข้าดื่มกินมาอิ่มหนำสำราญมาจากบ้านแล้ว”“กำแหงนัก กล้าบุกรุกบ้านขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ช่างรนหาที่ตายโดยแท
“พวกเจ้ามันปีศาจ คนสกุลโม่ช่างไร้ความเมตตา ข้ามิทัน...อัก!”พูดได้เพียงเท่านั้น ลำคอกลับมีเลือดพุ่งออกมามากมาย โดยมิได้ถูกตัวหยวนฟางสักนิด ความเร็วดุจสายลมทำให้ร่างสูงออกมายืนอยู่ห่างพอสมควรโดยในมือมีบางสิ่งติดมาด้วย ก่อนที่ชายหนุ่มจะกางมือออก สิ่งนั้นจึงร่วงลงสู่พื้นดิน“คิดจะกลืนกินคนของข้า มิเจียมตน สกุลโม่หรือไร้เมตตา หึ! ไม่คิดบ้างหรือว่ากว่าจะทำให้แผ่นดินนี้เป็นปึกแผ่นได้ คนสกุลโม่ต้องแลกมาด้วยสิ่งใดบ้าง เพื่อรักษาชีวิตของประชาชนทั้งแคว้นเอาไว้ ปู่ข้าต้องตายเพื่อปกป้องขอทานเพียงคนเดียว เพราะนั่นคือประชาชนของพระองค์ แล้วพวกเจ้าตายเพื่อปกป้องใครบ้าง”หนึ่งในคนร้ายถึงกับตาค้าง เพราะสิ่งที่ร่วงจากมือของโม่หยวนฟาง มันคือหลอดลมของชายชุดดำ คนร้ายที่ยังมีลมหายใจอยู่เพียงหนึ่งถึงกับตัวสั่นงันงก ด้วยความหวาดกลัว คนแรกว่าอำมหิตแล้ว แต่อ๋องน้อยผู้นี้มันปีศาจชัด ๆ ชายชุดดำขยับตัวหวังจะหลบหนีฉึก! ร่างสูงของคนร้ายทรุดลงกับพื้นก่อนจะทันได้ก้าวขา“คิดจะแทงข้างหลัง! คนเช่นโม่หยวนฟาง เจ้าควรคิดให้ดีก่อน”หากมีผู้ใดมาได้ยินคำพูดของโม่หยวนฟางคงอยากตายไปสักพันครั้ง คนร้ายคิดหนี แต่ท่านอ๋องน้อยกลับกล
“จะบุรุษหรือสตรี หากรู้จักการพลิกแพลงสถานการณ์ มิใช่เรื่องยากที่จะคว้าชัยในสนามรบ อ๊ะ!”โม่ฟางเล่อหมุนกายออกห่างจากคู่ต่อสู้ เมื่อรับรู้ถึงการจู่โจมจากทางด้านหลัง แม้จะเพียงเฉียดผ่าน ทว่ากระบี่ของศัตรูก็ได้ดื่มเลือดของนางเสียแล้ว โม่ฟางเล่อกลับมิได้สนใจบาดแผล หญิงสาวรีบล้วงขวดหยกใบเล็กออกมาจากอก ก่อนจะรีบกลืนสิ่งที่อยู่ในขวดลงไปอย่างรวดเร็ว นางยังไม่เชี่ยวชาญเรื่องพิษ แต่การป้องกันเอาไว้ก่อนเป็นเรื่องที่ผู้เป็นอาจารย์คอยกำชับและย้ำเตือนนางอยู่บ่อยครั้ง“การที่มั่นใจเกินไป มันก็มิใช่สิ่งที่ควรทำ ไม่ใช่รึท่านหญิงโม่ ฮา ๆ”“สุนัขก็ยังเป็นสุนัขอยู่วันยังค่ำ ต่อให้พยายามทำตัวดั่งราชสีห์ เจ้าก็มิอาจเป็นได้ดั่งใจหมาย”จากรอยยิ้มกลับกลายเป็นใบหน้าบึ้งตึงด้วยความขุ่นเคืองใจกับคำพูดของหญิงสาว“หลีกไป ข้าจะจัดการนางด้วยตนเอง”เชี่ยหยาโถวคว้าแขนของผู้คุ้มกันออกจากการบังเขาจากหญิงสาวตรงหน้า เขาถูกสตรีอ่อนแอหยามเกียรติจนไม่เหลือชิ้นดี อย่างไรเสียวันนี้ เขาจะพิสูจน์ให้นางได้เห็นว่าคำพูดพล่อย ๆ ของสตรีเช่นนางนั้นมิใช่ความจริง“มาจบเรื่องกันเถอะ คุณชาย อย่าถ่วงเวลาพวกข้าให้มากไปกว่านี้อีกเลย”มือบางใช
คล้อยหลังโม่หยวนฟางไปเพียงครู่เดียว ร่างสูงของชายหนุ่มในชุดสีขาวได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของคนที่กำลังสั่นระริกไปทั้งร่างด้วยความรู้สึกอันหลากหลายที่ถาโถมเข้ามา เขาพ่ายแพ้ได้อย่างน่าอับอายเป็นที่สุด การต่อสู้เพียงแค่เวลาสั้น ๆ เขากลับกลายเป็นคนพิการ และรอเพียงเวลาถูกลงทัณฑ์จากผู้เป็นนายที่แท้จริง“หึ ๆ คนเก่งของท่านพ่อ ไยตอนนี้ถึงกลายมาเป็นเพียงคนไร้ค่าเช่นนี้ เจ้าก็ดีแต่ปาก หลงเป่า”“คนที่ดีแต่ปาก ข้าว่าน่าจะเป็นเจ้ามากกว่า หึ ๆ นึกว่าผู้ใดกัน แท้จริงก็เป็นคุณชายขี้โรคจากสกุลเชี่ยนี่เอง เชี่ยหยาโถว”ขวับ! ชายหนุ่มในชุดสีขาว หันกลับไปตามเสียงในทันที ทว่ากลับไร้วี่แววของเจ้าของเสียง ก่อนจะหันกลับมายังร่างของหลงเป่าที่ตอนนี้ถูกจับตัวเอาไว้โดยโม่หยวนฟาง“เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เห็นทีคงมิอาจปล่อยท่านอ๋องน้อยให้มีลมหายใจต่อไปไม่ได้แล้วสินะ”“ฮา ๆ ปล่อยให้ข้ามีลมหายใจรึ ช่างกล้าพูดนะ คุณชายเชี่ย เจ้าไม่ใช่ตั้งใจจะกำจัดข้าอยู่ก่อนแล้วหรืออย่างไรกัน คนที่ขี้ขลาดแท้จริงคือตัวเจ้า อย่าได้โทษใครอื่นอีกเลย”“อย่าพูดให้มากความท่านอ๋องน้อย ข้ามาถึงขนาดนี้ย่อมต้องมีของพิเศษรอต้อนรับท่านอ๋องอยู่ก่อนแล
reviews