Home / อื่น ๆ / เส้นทางเชื่อมใจ / บทที่ 5 สะพานไม้สุดท้ายก่อนล้ม

Share

บทที่ 5 สะพานไม้สุดท้ายก่อนล้ม

Author: Bosskerr
last update Last Updated: 2025-06-13 00:06:08

ชีวิตในแต่ล่ะวันของแทนไทยังคงเป็นไปตามปกติ เขายังคงไปทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างเหมือนเดิม และพอตกเย็นเลิกงานก็ตรงกลับบ้านทันที นิสัยของแทนไทไม่ค่อยเหมือนกับคนส่วนมากที่อยู่วัยเดียวกัน เขาไม่เคยเถลไถลไปที่อื่น เวลาวันหยุดหรือวันเงินเดือนก็ไม่เคยไปสังสรรค์ต่อที่ไหน แทนไทมักปฏิเสธตลอด จนทุกคนนั้นเป็นอันรู้กันและต่างก็เลิกชวนไปโดยปริยาย แต่ถึงอย่างนั้นแทนไทก็ยังคงเป็นที่รักใคร่ของทั้งเจ้านายและบรรดาเพื่อนฝูง ด้วยความที่เป็นคนขยันขันแข็งทำงาน หนักเอาเบาสู้ เวลาใครใช้ให้ช่วยเหลือหรือหยิบจับอะไรก็ไม่เคยบ่ายเบี่ยง น้ำใจของแทนไทนั้นเป็นที่ประจักษ์ในสายตาของทุกคนมานานแล้ว

“เฮ้ย! แทน เดี๋ยววันนี้พี่วานหน่อยได้ไหมวะ เลิกงานแล้วช่วยข้ามฝั่งเอาข้าวเอายาไปให้เมียพี่ที่บ้านพี่หน่อย” ชาญยุทธ์ เดินเข้ามาหาแทนไทในช่วงเวลาที่กำลังใกล้จะเลิกงาน

“พอดีวันนี้นายสั่งให้พี่เข้าไปรับวัสดุในเมือง ของมันขาด เมียพี่ท้องแก่มากแล้ว พี่ไม่อยากให้ออกมาเอง”

“อ๋อ ได้สิพี่ยุทธ์ เดี๋ยวผมเอาไปให้พี่พรเองครับ” เพราะรู้จักกับชาญยุทธ์มานานจึงค่อนข้างสนิทกับภรรยาของคนพี่ด้วย แถมยังเคยไปฝากท้องกินข้าวที่บ้านของชาญยุทธ์อยู่ 2-3 ครั้ง

“เออ ขอบใจมากนะ ฝากบอกพรมันด้วยว่าคืนนี้พี่น่าจะกลับมาดึกหน่อย ไม่ต้องให้มันอยู่รอ นอนไปก่อนได้เลย” ชาญยุทธ์เอ่ยสำทับอีกเล็กน้อย

“ได้ครับ”

หลังจากเลิกงานแล้วแทนไทก็ตรงไปที่บ้านของชาญยุทธ์ทันที เขาแวะซื้อกับข้าวเพิ่มเข้าไปให้พี่พรอีก 1-2 อย่าง คนท้องคนไส้แบบนี้บำรุงเยอะ ๆ หน่อยก็น่าจะดี

บ้านของชาญยุทธ์นั้นอยู่หมู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับหมู่บ้านของแทนไท ซึ่งสามารถไปได้ 2 ทาง... ทางแรกคือทางถนนปกติแต่ต้องอ้อมนิดหน่อย ส่วนอีกทางคือทางข้ามสะพานไม้เก่า ๆ ที่ใกล้ผุพังไป ด้านล่างนั้นคือสระบัวสีชมพูที่ออกดอกสวยงาม สะพานไม้แห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก เป็นสะพานไม้ขนาดเล็กค่อนไปถึงกลาง สามารถสัญจรได้แค่รถคันเล็กอย่างจักรยานและจักรยานยนต์เท่านั้น รถใหญ่ไม่สามารถผ่านได้ และแทนไทเองก็เลือกใช้เส้นทางนี้เพราะว่าเขาไม่มีรถ

ตลอดทางที่เดินผ่านนั้นแทนไทถูกคนร้องทักทายตลอด มีทั้งที่เขารู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง ดูท่าว่าเรื่องที่เขาช่วยซ่อมถนนด้วยเงินส่วนตัวกับซ่อมท่อประปาแตกของชุมชนให้โดยไม่คิดเงินคงจะถูกเล่าปากต่อปากไปจนทั่วแล้ว

“อ้าวแทน มาได้ยังไง เข้ามาก่อน ๆ” พี่พรเมื่อเห็นแทนไทก็รีบเอ่ยทักพร้อมกับเชื้อเชิญให้เข้ามาข้างใน

“สวัสดีครับพี่พร” แทนไทกมือไหว้หญิงสาว

“พอดีพี่ยุทธ์ฝากให้ผมมาส่งข้าวให้ พี่ยุทธ์แกติดธุระต้องเข้าไปรับพวกวัสดุให้เถ้าแก่ที่ในเมืองครับ อาจจะกลับมาค่ำหน่อย พี่ยุทธ์ฝากบอกว่าไม่ต้องรอนะครับ ให้พี่กินข้าวเสร็จก็รีบพักผ่อนเลย”

พี่พรถือขันน้ำสะอาดมาวางไว้ตรงหน้าแทนไท “ดื่มน้ำดื่มท่าก่อน น้ำฝนเย็น ๆ”

“ขอบคุณครับ”

“ที่จริงแล้วเดี๋ยวพี่ออกไปหาซื้ออะไรกินเองก็ได้ เลยต้องลำบากแทนเลย ขอบใจมากนะจ๊ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่พร ไม่ได้ลำบากอะไรเลย อีกอย่างก็ใกล้แค่นี้ด้วย” แทนไทพูดยิ้ม ๆ สายตาก็มองท้องของพี่พรที่โตออกมา

“นี่กี่เดือนแล้วครับพี่พร”

“8 เดือนแล้วจ่ะ เดือนหน้าก็คลอดแล้วล่ะ” หญิงสาวใช้มือลูบที่ท้องของตัวเองเบา ๆ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจ

  แทนไทพยักหน้า “ไว้รอหลานคลอดออกมาแล้วผมจะเอาของมารับขวัญนะครับ”

“โอ๊ย ไม่เป็นไรเลยแทน แค่มาเยี่ยมดูหน้าหลานพี่ก็ดีใจแล้ว”

ในระหว่างนั้นเองก็มีเสียงของชาวบ้านสองคนที่กำลังเดินพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติผ่านหน้าบ้านของพี่พร เมื่อเห็นหญิงสาวคนพวกนั้นก็หยุดเดิน

“นี่พร เอ็งน่ะอย่าเที่ยวไปเดินผ่านสะพานไม้นั่นล่ะ ทางมันไม่ค่อยดีแล้ว เมื่อกี้ก็มีคนเกือบตกลงไป”

หญิงวัยกลางคนร่างสูงคนหนึ่งร้องบอกพี่พรทันที และก็ตามด้วยหญิงวัยไล่เลี่ยที่เดินมาด้วยกันก็รีบสมทบต่อ

“ใช่ ๆ ข้าเห็นเอ็งชอบเดินข้ามไปซื้อของฝั่งโน้น เอ็งน่ะยิ่งท้องแก่แล้วด้วย เดี๋ยวหกล้มหกท่าไปเป็นเรื่องเลยนะ”

“เกิดอะไรขึ้นเหรอจ๊ะป้า” พี่พรยังคงมีท่าทางงง ๆ

“ก็ไอ้สะพานไม้ใกล้ผุพังข้ามคลองนั่นน่ะสิ เมื่อกี้มีคนเดินผ่านปรากฏว่าพื้นมันหักทะลุลงไป ดีนะที่ขาแค่ติดไม่ตกลงไปในคลองบัว”

“ตายจริง” พี่พรเมื่อได้ยินก็ยกมือทาบอก “แล้วเป็นอะไรมากไหมจ๊ะ”

“แค่ขาเคล็ดกับขาถลอกนิดหน่อย” หญิงคนแรกที่เล่าส่ายหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ไอ้สะพานนี่ก็นะ แจ้งไปทางหน่วยงานหลายทีแล้วให้มาช่วยดูหน่อย จนป่านนี้ก็ยังไม่เคยโผล่หัวมา ต้องรอให้มันหักพักไปทั้งสะพานก่อนล่ะมั้ง”

“แกก็รู้นะยายเล็กว่าไอ้พวกนี้มันไม่เคยสนใจเรื่องเดือนร้อนของชาวบ้านตาดำ ๆ หรอก บอกให้แต่รอ ๆ ให้รออะไรแม่งไม่รู้ของมัน” อีกคนที่เดินมาด้วยกันก็พยักหน้างึกงักอย่างเห็นด้วย พูดคุยกันต่ออีกสองสามประโยคจากนั้นคนทั้งสองก็เดินจากไป

“แทนเดินกลับทางนั้นใช่ไหม ยังไงก็เดินระวัง ๆ ด้วยล่ะ” พี่พรเอ่ยบอกแทนไท

“ครับพี่ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ” และไม่นานแทนไทเองก็ขอตัวกลับบ้านด้วยเหมือนกัน

ตอนที่แทนไทเดินข้ามสะพานไม้เขาก็สังเกตเห็นแผ่นไม้กลางทางแผ่นหนึ่งที่หักและทะลุลงไป และเมื่อสำรวจให้ดีก็จะเห็นว่าแผ่นอีก ๆ ก็เก่ามาก ๆ แล้วเช่นกัน

สะพานไม้แห่งนี้มีระยะทางประมาณ 50 เมตร ทางกว้างประมาณ 2.50 เมตร เป็นสะพานไม้โล่งไม่มีอะไรกั้น แม่บอกว่าสะพานไม้แห่งนี้มีมาตั้งแต่รุ่นตายาย และถึงแม้ว่าเขาไม่รู้ว่าสะพานแห่งนี้มีอายุเท่าไหร่กันแน่ แต่เท่าที่แทนไทจำได้ก็คือเขาเห็นสะพานที่ไม่มีชื่อเรียกแห่งนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว

“อันตรายจริง ๆ ด้วยแฮะ” แทนไทบ่นงึมงำเหมือนพูดกับตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นตลอดทางที่เดินกลับบ้านในหัวของเขากลับมีความคิดบางอย่าง

“เฮ้ยแทน ทำอะไรอยู่วะ ป่านนี้ยังไม่กลับบ้านอีก”

ชาญยุทธ์เอ่ยถามแทนไทเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังทำท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่แถวบริเวณกองไม้ด้านหลังไซต์งาน

“พี่ยุทธ์นี่เอง ผมตกใจหมด” แทนไทสะดุ้งเล็กน้อย

“ก็พี่เองสิวะจะใคร แล้วนี่ทำไมยังไม่กลับบ้านกับช่องอีก ป่านนี้พวกไอ้วิทย์มันไปกลับถึงบ้านไปตั้งวงเหล้ากันแล้วมั้ง”

ชาญยุทธ์เอ่ยหยอกก่อนจะพูดต่อ “เออ เมื่อวานนี้ขอบใจมากนะที่เอากับข้าวไปให้เมียพี่ แถมยังซื้อเผื่ออีก รบกวนเอ็งแล้ว”

“ไม่เป็นเลยพี่ เล็กน้อย”

“แล้วสรุปนี่เอ็งทำอะไรอยู่ มาหาอะไรแถวเศษซากไม้พวกนี้ล่ะ”  ชาญยุทธ์ถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยก่อนหน้านี้

“ไม้พวกนี้จะทิ้งเหรอครับพี่ ยังดี ๆ อยู่เลย” แทนไทเอ่ยถามชาญยุทธ์

“ใช่ มันใช้งานอะไรไม่ได้แล้วล่ะ เดี๋ยวอีก 2-3 วันก็จะให้พวกรับซื้อไม้มาชั่งกิโลไป”

แทนไทเงียบไปพักหนึ่ง “พี่ครับ ถ้าผมอยากจะซื้อต่อไม้พวกนี้เองล่ะครับ ต้องทำยังไง”

“แล้วเอ็งจะเอาไม้พวกนี้ไปทำอะไรล่ะ” เขายังคงสงสัยว่าไม้พวกนี้จะเอาไปใช้ทำอะไรได้

“ซ่อมสะพานครับ”

“ซ่อมสะพาน?”

“ครับ” ถึงแม้จะบอกว่ามันเป็นเพียงแค่เศษไม้ แต่สำหรับแทนไทแล้วกองไม้ที่วางพะเนินตรงหน้านั้นกลับไม่ได้เป็นเพียงแค่เศษไม้... ไม้พวกนี้เป็นส่วนเกินที่ถูกตัดออกมาจากสิ่งก่อสร้าง มันมีทั้งชิ้นส่วนขนาดใหญ่และเล็กประปรายกันไป และที่สำคัญคือมันยังใหม่มาก แทนไทคิดจะใช้เศษไม้พวกนี้ไปซ่อมทางเดินบนสะพาน อีกทั้งเขายังคิดออกแบบเพิ่มเติมให้มันปลอดภัยมากกว่านี้

“เอ็งหมายถึงสะพานไม้ทางเชื่อมข้ามคลองของหมู่บ้านเราน่ะเหรอ” ชาญยุทธ์ถามต่อ

“เมื่อวานนี้เมียพี่ก็เพิ่งบอกว่ามีคนเกือบตกสะพานไป”

“ใช่ครับ เท่าที่ผมดูแล้วพวกฐานและโครงสร้างยังคงแข็งแรงอยู่ ผมคิดว่าถ้าแค่ซ่อมพื้นสะพานในส่วนที่มันผุพังและก็ต่อเติมราวให้แข็งแรงปลอดภัยอีกหน่อยก็น่าจะดีครับ” แทนไทพยักหน้า

ชาญยุทธ์มองแทนไทด้วยแววตาชื่นชมแวบหนึ่ง “เอ็งเนี่ยนะ ถ้าไม่เป็นคนดีมีน้ำใจมากเกินไปก็เป็นพวกประเภทที่ชอบหาเรื่องเหนื่อย”

แทนไทหัวเราะ “ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ผมทำได้ครับ”

“เอาเถอะ เดี๋ยวพี่จะคุยกับเถ้าแก่ให้เรื่องไม้ ส่วนเรื่องซ่อมแซมสะพานพี่ก็จะหาคนมาช่วยด้วย เอ็งบอกพี่มาแล้วกันว่าจะให้พี่ทำอะไรบ้าง”

แทนไทได้ยินแบบนั้นก็ดีใจ “ขอบคุณนะครับพี่”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร ยังไงสะพานนั่นก็ถือว่าเป็นของหมู่บ้านเรา เอ็งไม่ต้องห่วง มีอะไรก็บอกได้เลย”

และเพราะแบบนั้นในอีก 1 อาทิตย์ต่อมาการซ่อมแซมสะพานไม้ของแทนไทจึงเกิดขึ้นมาจริง ๆ มีการแจ้งเตือนชาวบ้านล่วงหน้าและปิดถนนเพื่อซ่อมแซมสะพาน และยิ่งเถ้าแก่เจ้าของไซต์งานได้ทราบเรื่องจากชาญยุทธ์ถึงสิ่งที่แทนไทจะทำก็ยังช่วยสมทบทุนค่าวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาเพิ่มอีก แถมยังส่งคงงานมาช่วยแทนไทด้วย

สะพานไม้ที่ถูกออกแบบโดยแทนไทค่อย ๆ ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในที่สุด พื้นทางเดินถูกเปลี่ยนใหม่หมดอีกทั้งยังเสริมรั่วกั้นขึ้นมาอย่างแน่นหนาด้วย จนกระทั่งจากสะพานไม้เก่า ๆ ที่ใกล้จะผุพังกลายมาเป็นสะพานไม้ทาด้วยสีฟ้าใหม่เอี่ยม... และสะพานไม้แห่งนี้ก็ถูกตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่า ‘สะพานแห่งน้ำใจ’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 21 เส้นทางสุดท้ายที่เดินร่วมกัน

    สายลมยามเย็นพัดผ่านต้นไม้ใหญ่ที่ยังคงยืนหยัดอยู่ในสนามบอลชุมชน แสงแดดสีทองทอผ่านใบไม้สาดกระทบใบหน้าของแทนไท เขายืนอยู่ตรงระเบียงชั้นสองของบ้านไม้สองชั้นหลังเก่า ที่บัดนี้ได้รับการรีโนเวทใหม่ให้แข็งแรงและอบอุ่นขึ้น แต่ยังคงเก็บรายละเอียดเดิมไว้ทุกอย่าง ตั้งแต่ไม้กระดานที่เคยเดินเล่นกับแม่ ยันชานบ้านที่เขาเคยหอบเสื่อ มุ้ง หมอนมามองท้องฟ้าในวัยเยาว์แทนไทในวัย 65 ปี หัวใจยังเต็มเปี่ยมเหมือนวัยหนุ่ม แม้จะไม่สามารถปีนขึ้นลงชั้นสองได้คล่องเหมือนเดิมแล้ว แต่วันนี้เขาก็ยังรู้สึกอยากมองวิวจากมุมเดิม มุมที่เขาเคยนั่งอยู่กับแม่ มองถนนเส้นเล็ก ๆ ด้านล่างถนนเส้นเดิมที่แม่ของเขาเคยเดินผ่านเพื่อหาบขนมหวานไปขายแล้วตกหลุมบ่อจนปาดเจ็บ ถนนเส้นนั้นที่เขาได้เป็นคนซ่อมแซมมัน ถนนเส้นนั้นที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเขา“เขาเป็นใครกันเหรอแม่” เสียงเด็กชายคนหนึ่งถามขณะวิ่งผ่านหน้าบ้านไปพร้อมกลุ่มเพื่อน“นั่นแหละ คนที่ทำให้หนูเดินไปโรงเรียนได้ง่ายขึ้นทุกวันนี้ไงลูก” เสียงแม่ของเด็กคนนั้นตอบกลับอย่างภูมิใจแทนไทได้ยินประโยคนั้นแผ่วเบา แต่กลับชัดเจนในหัวใจ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอดรับ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 20 สร้างถนน สร้างเส้นทางมั่นคงของหัวใจ

    เสียงเปิดแฟ้มเอกสารดังแผ่วเบาภายในห้องประชุมของกรมทางหลวง แทนไทนั่งเงียบอยู่ตรงหัวโต๊ะ สายตาอ่านผ่านเอกสารฉบับหนึ่งไปยังอีกฉบับด้วยความตั้งใจอย่างไม่ลดละ ด้านข้างของเขาคือแผนที่ที่ถูกขีดเขียนวางแนวเส้นทางจนลายเส้นหนาทึบเหมือนชั้นหินทับซ้อน“นี่คือโครงการที่รัฐบาลอนุมัติล่าสุดนะแทนไท” เสียงของหัวหน้ากองวางแผนโครงสร้างพื้นฐานเอ่ยขึ้น พร้อมส่งเอกสารอีกชุดหนึ่งให้เขาแทนไทเงยหน้าขึ้น พยักหน้าช้าๆ เขารับแฟ้มมาก่อนจะเปิดดู หน้าปกระบุชื่อโครงการว่า “มอเตอร์เวย์สายตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ”“ทางด่วนสายใหม่นี้จะเชื่อมจากชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกทะลุไปถึงจังหวัดทางเหนือ ใช้ตัดผ่านถึง 7 จังหวัด กินระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมด 4 ปี มีคุณเป็นผู้ควบคุมโครงการโดยตรง” หัวหน้ากองวางแผนโครงสร้างพื้นฐานอธิบายแทนไทนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคง“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”นับจากวันนั้น เขาเริ่มเข้าสู่การทำงานอย่างเต็มรูปแบบในโครงการระดับชาตินี้ แม้จะใช้เวลาก่อสร้างนานถึงสี่ปี แต่ในทุกปี ทุกเดือน และทุกสัปดาห์ของการทำงาน เขาไม่เคยผ่อนแรงหรือปล่อยผ่านรายละเอียดเลยแม้แต่น้อยภายในไซต์งานกลางหุบเ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 19 ความสำเร็จที่มามาพร้อมกับคำขอบคุณ

    เช้าตรู่ของวันจันทร์ แสงแดดอ่อน ๆ สาดลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ ที่หน้าต่างห้องพักของแทนไท เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงไม่ต่างจากวันแรกที่ยืนต่อหน้ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อเสนอโครงการครั้งแรก มือของเขาลูบผ่านปกเสื้อเชิ้ตที่แขวนไว้ข้างเตียงอย่างเบามือ ทุกอย่างต้องพร้อม ทุกอย่างต้องเป๊ะในวันนี้ วันประชุมใหญ่ประจำเดือนของกรมทางหลวงที่สำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯแทนไทนั่งอยู่ในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่จากหลากหลายแผนกและตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ห้องประชุมกว้างใหญ่เงียบกริบเมื่อเสียงประธานเปิดการประชุมจบลง และแทนไทก็ได้รับเชิญให้ขึ้นไปนำเสนอในลำดับแรก“ผมขอเริ่มต้นด้วยโครงการเส้นทางตัดผ่านจากหมู่บ้านปากคลองสำราญไปยังโรงเรียนบ้านทุ่งหญ้าคา จังหวัดพัทลุงครับ” แทนไทกล่าว พลางคลิกเปิดสไลด์ที่เตรียมไว้ภาพแผนที่ถูกฉายขึ้นหน้าจอพร้อมกับกราฟิกที่แสดงเส้นทางที่เด็ก ๆ ต้องนั่งเรือข้ามคลองไปโรงเรียนทุกวัน เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังขึ้นจากบางมุม“ปัจจุบัน เด็ก ๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการเดินทางไปโรงเรียนในแต่ละวัน ต้องพึ่งเรือโดยสารที่มีอยู่เพียงสองลำ ซึ่งหากฝน

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 18 ทางเลือกในมือเรากับแสงดาวในหัวใจ

    หลังจากกลับจากหมู่บ้านบนดอย แทนไทเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกอบอุ่นจากรอยยิ้มและคำขอบคุณของชาวบ้านยังคงติดตรึงอยู่ในใจของเขา กลิ่นหอมของอาหารพื้นเมือง คำพูดที่แสนจริงใจของผู้ใหญ่บ้าน เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ที่รับขนมจากมือของเขา และสายตาแห่งความหวังจากคนทั้งหมู่บ้าน มันหล่อหลอมใจเขาจนแน่นหนา เขารู้เพียงว่าจะต้องไม่ยอมแพ้ทันทีที่กลับมาถึง เขาจัดโต๊ะทำงาน เปิดโน้ตบุ๊ก และเริ่มลงมือเขียนโครงการเส้นทางลัดจากหมู่บ้านบนดอยสู่ตัวอำเภออย่างจริงจังที่สุดเท่าที่เคยทำมา ทำมันด้วยความรอบคอบมากกว่าครั้งไหน ๆ เขาอ่านเอกสารอ้างอิงซ้ำไปซ้ำมา นั่งวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเทคนิค ทบทวนเส้นทางบนแผนที่ที่เขาศึกษาไว้ทั้งคืนจนกระทั่งดวงตาเริ่มพร่ามัวแต่ในขณะที่เขากำลังจะพักสายตา เขาก็นึกถึงภาพหนึ่งที่ยังคงติดอยู่ในใจตอนที่เขาไปเที่ยวพักร้อนภาคใต้ในช่วงนั้น ภาพของหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ริมคลองใกล้กับตัวเมืองก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำ เด็ก ๆ ในหมู่บ้านแห่งนั้นต้องล่องเรือข้ามคลองเพื่อไปเรียนหนังสือในโรงเรียนอีกฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ ทุกเช้าและเย็นเด็ก ๆ ต้องนั่งเรือไปกลับ บางครั้งน

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 17 ก้าวเดินด้วยหัวใจและความตั้งใจ

    เสียงเครื่องยนต์รถกระบะสีขาวคู่ใจของแทนไทดังกระหึ่มไปตามถนนที่ลัดเลาะผ่านเนินเขาและหุบเหว เขากำลังเดินทางกลับขึ้นสู่หมู่บ้านบนดอยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยเดินทางมาเมื่อหลายเดือนก่อนเพื่อศึกษาสภาพพื้นที่และฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านด้วยตัวเอง ครั้งนี้เขามาพร้อมกับความหวังใหม่และแผนงานที่วางไว้อย่างรอบคอบกว่าเดิม พร้อมกับคำมั่นในใจว่า จะต้องทำให้โครงการถนนเส้นทางลัดเชื่อมหมู่บ้านบนดอยกับตัวอำเภอเป็นจริงให้ได้ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม“อาแทนไท!” เสียงเด็กน้อยกลุ่มหนึ่งที่ยืนรออยู่ริมทางหน้าศาลาหมู่บ้านร้องเรียกด้วยความดีใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มผู้คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง แทนไทยิ้มกว้างก่อนจะจอดรถ เขาเปิดประตูลงมาและหยิบถุงขนมหลายถุงออกจากกระบะหลัง แจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ อย่างที่เคยทำ“อ้าว มาเร็วเด็ก ๆ ทั้งหลาย ยังจำอาได้กันอยู่ไหมเนี่ย” เขาถามพร้อมเสียงหัวเราะ เด็ก ๆ พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น บ้างก็ยื่นมือไปรับขนม บ้างก็โผเข้ากอดเอวเขาไว้แน่น“คราวนี้อามาพร้อมของสำคัญด้วยนะ” แทนไทหยิบแฟ้มเอกสารหนาออกมาจากรถ“จะให้พ่อ ๆ แม่ ๆ ของทุกคนช่วยเซ็นชื่อสนับสนุนโครงการถนนที่จะสร้างตัดผ่านหมู่บ้านของเราไ

  • เส้นทางเชื่อมใจ   บทที่ 16 ถนนที่แม่ไม่เคยเห็น

    แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนในบ้านไม้สองชั้นหลังเดิมของวิไล หญิงร่างเล็กในวัยชราเดินออกมายังระเบียงหน้าบ้าน หยิบวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเก่าที่เปิดฟังเป็นประจำมานั่งฟังข่าวยามเช้า ท่ามกลางเสียงไก่ขัน เสียงลมพัดผ่านยอดไม้ วิไลทอดสายตามองไปยังถนนดินเล็ก ๆ ที่ทอดยาวออกจากหมู่บ้าน ผู้เป็นแม่เฝ้ามองอยู่ทุกวัน ไม่ใช่เพราะเธอคาดหวังจะเห็นลูกชายกลับบ้านโดยไม่บอกกล่าว แต่เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่ลูกชายของเธอเคยใช้ก้าวออกไปสู่โลกกว้าง“แทน เอ็งสู้ไหวไหมลูก..” วิไลพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองหน้าจอแชตกับลูกชายคนเดียวที่เธอรักที่สุดแทนไท ในวัยสามสิบปลาย ๆ เจ้าหน้าที่วิศวกรชำนาญการพิเศษของกรมทางหลวง หลังจากถูกตักเตือนอย่างเป็นทางการด้วยเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว เขากลับไม่ได้เสียขวัญ หากแต่เขาได้นำเอาเหตุการณ์นั้นกลับมาเป็นบทเรียนสำคัญที่หล่อหลอมวิธีคิดและการวางแผนของเขาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นเช้าวันนี้ แทนไทนั่งอยู่ในห้องทำงานเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยแผนที่ภูมิประเทศ กระดาษโน้ต และหนังสือวิชาการเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา เขาหยิบแผนที่เดิมขึ้นมาดูอีกครั้ง เส้นทางสายที่เขาอยาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status