공유

บทที่ 128

작가: อี้ซัวเยียนอวี่
ในคืนนั้น ขบวนเสด็จมาเยือนตำหนักหลิงเซียว

ใบหน้ากุ้ยเฟยเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ท่วงท่าอรชร ใช้ผงแป้งกลบทับรอยแผลบนหน้า จนมองไม่เห็นจุดบกพร่อง นางจึงมั่นใจในความงามของตนเองเพิ่มอีกหลายส่วน

“ฝ่าบาท ท่านทรงงานอย่างหนัก ต้องพักผ่อนมากกว่านี้นะเพคะ

“หากท่านเหนื่อย หม่อมฉันคงเจ็บปวด”

เซียวอวี้รับอาหารที่นางคีบมาให้ แล้วเงยหน้ามองนาง

“เรื่องเช่นนี้เจ้าไม่ต้องทำด้วยตนเอง นั่งเป็นเพื่อนเราทานอาหารดี ๆ พอ”

คำพูดของเขาแสดงความห่วงใย สำหรับฮ่องเต้ผู้เลือดเย็นแล้ว นับเป็นความอ่อนโยนที่หาได้ยาก

หัวใจของกุ้ยเฟยเหมือนถูกชโลมด้วยน้ำผึ้ง แม้แต่ลมหายใจก็ยังหอมหวาน

“หม่อมฉันเต็มใจปรนนิบัติรับใช้ฝ่าบาทเพคะ”

หลังจากงานเลี้ยงต้อนรับ เป็นครั้งแรงที่ฝ่าบาทเสด็จมาที่นี่

หลังจากเสวยพระกายาหารเสร็จ เซียวอวี้ก็ออกคำสั่ง

“คืนนี้เราจะค้างที่ตำหนักหลิงเซียว”

กุ้ยเฟยได้ยินเช่นนั้น พลันดีใจลิงโลด รีบให้ชุนเหอไปเก็บกวาดแท่นบรรทม

เป็นเช่นนี้อีกสองวันติดต่อกัน ฝ่าบาทยังคงเสด็จมาที่ตำหนักหลิงเซียวตั้งแต่เช้า เสวยอาหารกับกุ้ยเฟยเสร็จ ก็อยู่ค้างคืนต่อ

กุ้ยเฟยได้ร่วมบรรทมสามวันติดต่อกัน ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเปล่
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (7)
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
กุ้ยเฟยคงลีลาเด็ดฮ่องเต้ถึงหลงงงายแม้แต่สืบหาความจริงก็ไม่จริงจังไม่ละเอียดถึงจะระแวงก็แค่นิดเดียวมีสนมในวังตั้งมากมายแต่หลงและโปรดอยู่คนเดียวจนกุ้ยเฟยหลงในอำนาจอยากฆ่าและทำร้ายใึรก็ทำอย่างง่ายดายแถมฮ่องเต้มองนางเป็นคนดีบ้าบอ
goodnovel comment avatar
Kamonwan Tipaksorn
ไปตายซะฮ่องเต้มีไว้ทำเพื่อ?
goodnovel comment avatar
Ben Saengpeng
รำคาญฮ่องเต้มากๆ
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 129

    หลังจากบ่ายลมพัดแรงโหมกระหน่ำ เมฆครึ้มดำรวมตัวกันบนอากาศในบริเวณตำหนักหลิงเซียว พลอยทำให้คนรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ทั่วท้องกุ้ยเฟยปวดหัวอย่างรุนแรง กลับไม่มียาบรรเทาความเจ็บปวดนี้นางนอนบนเตียง  ร้องโอดโอยไม่หยุดดีที่ไม่นานนัก นางก็ไม่ปวดหัวแล้ว แต่กลับแน่นหน้าอกอย่างไม่มีสาเหตุ ทรมานอย่างยิ่งนางไม่มีอารมณ์รับชมการแสดงของคณะงิ้วอีกต่อไปแต่เหล่าข้าหลวงกลับรับชมอย่างใจจดใจจ่อเจ้านายได้รับความโปรดปราน เหล่าคนรับใช้ก็สุขสบายณ ตำหนักหย่งเหอ ซุนหมัวมัวเริ่มพร่ำบ่นอีก“คนในตำหนักหลิงเซียวกำลังดูการแสดงงิ้ว แต่เรากลับต้องมาปัดกวาดเช็ดถูอยู่ที่นี่ พูดออกไป ผู้ใดจะเชื่อว่าพวกเราคือข้ารับใช้ในตำหนักของฮองเฮา?”ไม่เพียงแค่ตำหนักหย่งเหอ เหล่านางสนมและคนรับใช้ของแต่ละตำหนัก ต่างก็อิจฉาตำหนักหลิงเซียวกันทั้งนั้นหนิงเฟยมานั่งเล่นพูดคุยกับเสียนเฟย“ท่านพี่เสียนเฟย คนเรานี่วาสนาต่างกันเหลือเกิน ข้าไม่เป็นอะไร แต่ท่านพี่กับกุ้ยเฟย ต่างก็คล้ายคลึงกับหรงเฟย ไฉนไม่เห็นฝ่าบาทโปรดปรานเจ้าเช่นนั้นบ้างล่ะ?”เสียนเฟยไม่คิดเช่นนั้น“ฝ่าบาทจะทรงโปรดปรานใคร ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของฝ่าบาท”หนิงเฟยย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 130

    กุ้ยเฟยไม่คิดเลยว่า ฝ่าบาทจะตามสืบเรื่องของนางมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา ฝ่าบาทดูโปรดปรานนางมากกว่าเดิมมิใช่หรือ?วันนี้ยังเชิญคณะงิ้วเข้าวังมาแสดงให้นางรับชม“ฝ่าบาท หม่อมฉัน…” กุ้ยเฟยยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็สะอึกพูดอะไรไม่ออกเพราะสิ่งที่สายตาของนางเห็นในตอนนี้ คือสีหน้าเย็นชาสุดขีดของชายหนุ่มเขาสืบเจอหลักฐานทั้งหมดแล้ว หากนางยังแก้ตัวต่อไปไม่ยอมรับ ก็มีแต่จะทำให้เขาไม่พอใจและผิดหวังมากกว่าเดิมอีกอย่าง เรื่องมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน นางเหมือนตกจากสวรรค์ลงไปยังก้นเหว ไม่มีเวลาคิดหาวิธีรับมือด้วยซ้ำเฟิ่งจิ่วเหยียนประสานมือคารวะเซียวอวี้“ฝ่าบาท เรื่องที่กุ้ยเฟยร่วมมือกับราชทูต มีหลักฐานครบถ้วนทุกอย่าง“แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นสนมคนโปรดของท่าน หากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป คงไม่เป็นผลดีแก่ความมั่นคงทางทหาร ดังนั้น หม่อมฉันแนะนำว่า ควรหาข้ออ้างอย่างอื่น นำตัวนางเข้าตำหนักเย็น”ก่อนความจริงของคดีเวยเฉิยจะถูกเปิดเผย นางจะไม่ยอมให้กุ้ยเฟยตายแบบง่าย ๆ แน่นอน อีกอย่างเซียวอวี้ก็น่าจะยังทำใจไม่ได้ดังนั้น สู้นางสร้างบุญคุณให้อีกฝ่ายดีกว่านางต้องการหาบันทึกของจ้าวเฉียนในตำหนักหลิงเซีย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 131

    ชุนเหอยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร เดิมคิดว่าคืนนี้พระนางจะได้ถวายการรับใช้ฝ่าบาท ตัวนางเองย่อมได้รับรางวัลไปด้วย นึกไม่ถึงว่าฝ่าบาทจะมีพระดำรัสสั่งให้ลดตำแหน่งพระนางเป็นกุ้ยเหริน ทั้งยังให้ย้ายออกจากตำหนักหลิงเซียวที่เป็นสัญลักษณ์ของความโปรดปรานอย่างล้นเหลืออีกเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้...ชุนเหอที่ยังอยู่ในสภาวะตื่นตระหนกคุกเข่าลงอย่างรีบร้อน หัวหน้าขันทีหลิวซื่อเหลียงเดินออกมาประกาศพระราชดำรัสด้วยเสียงก้องกังวาล“ฝ่าบาทมีรับสั่ง ให้หลิงกุ้ยเหรินย้ายไปพำนักที่ตำหนักชิงซวี ข้าหลวงเดิมของตำหนักหลิงเซียวจะถูดจัดสรรไปยังตำหนักอื่น ไม่อนุญาตให้ติดตามไปด้วย!”ตำหนักชิงซวี?นั่นแทบไม่ต่างอะไรกับการไปตำหนักเย็นเลยเชียวนะ!ครั้นชุนเหอฟังพระประสงค์ของฝ่าบาทเสร็จ สมองของนางก็มืดมิดไปหมดพระนางถูกลงโทษ แม้แต่ข้าหลวงเหล่านี้ก็ยังถูกแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ต้องการตัดแขนขาของพระนาง!อารมณ์ตื่นตระหนก สับสน หวาดกลัว...ความรู้สึกกระวนกระวายใจทุกรูปแบบล้วนผสมปนเปกันไปหมดท้องฟ้ายามราตรีปรากฎฟ้าแล่บฟ้าร้อง พายุฝนพลันซัดโหมลงมาชุนเหอเงยหน้ามองอย่างระมัดระวัง กลับเห็นพระนางนั่งค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 132

    คนในตำหนักหลิงเซียวต่างหวาดกลัวนางข้าหลวงหลายคนมาล้อมวงถกเถียงพูดคุยกันด้วยสีหน้าเป็นกังวล“พระนางกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมไม่ได้แล้วจริง ๆ หรือ?”“ดูท่าจะจริง! เมื่อครู่พี่ชุนเหอกลับมาคนเดียว ได้ยินว่าพระนางถูกส่งไปตำหนักชิงซวีโดยไม่ให้นำสิ่งใดติดตัวไปด้วยเลย!”ในขณะเดียวกัน ณ ตำหนักชิงซวีหลังจากหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ถูกนำตัวมาส่ง ก็มีข้าหลวงมาคอยปรนนิบัติ ทว่าล้วนไม่ใช่คนที่นางเรียกใช้อยู่เป็นประจำ แม้แต่ชุนเหอก็ไม่อยู่ที่นี่!การที่คนอื่นไม่อาจติดตามนางมาที่ตำหนักชิงซวีได้นั้นเป็นเรื่องปกติ ทว่าชุนเหอเป็นสาวใช้ข้างกายของนาง มีความสัมพันธ์นายบ่าวกับนางอย่างเหนียวแน่น!หลิงเยี่ยนเอ๋อร์รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันทีฝ่าบาททรงพิโรธนางแล้วจริง ๆ ทรงส่งคนข้างกายนางทั้งหมดให้แยกย้ายกันไป ทิ้งให้นางอยู่ที่นี่อย่างโดดเดี่ยว ไร้คนให้ใช้งาน...เมื่อตระหนักได้ถึงความรุนแรงของบทลงโทษในครั้งนี้ หลิงเยี่ยนเอ๋อร์สะบัดศีรษะ พุ่งตรงไปข้างประตูพร้อมตะโกนเสียงดัง“ข้าต้องการเข้าเฝ้าฝ่าบาท!“ฝ่าบาท! หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะ”ผ่านไปไม่นาน เสียงของนางก็แหบแห้งแต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้ นางพยายามฝ่าออกไปท่าม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 133

    เหลียนซวงนำพระราชเสาวนีย์ไปยังตำหนักหลิงเซียว ชุนเหอนำกลุ่มข้าหลวงมารับ แสร้งแสดงท่าทีเคารพนบนอบ ทว่าในใจกลับตรงกันข้ามพวกเขาส่วนใหญ่คิดว่ากุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้จะถูกลงโทษให้ไปอยู่ตำหนักเย็น อีกไม่นานย่อมสามารถกลับมาอยู่ตำแหน่งสูงส่งเช่นเดิมได้ฮองเฮาทำพฤติกรรมคอยซ้ำเติมเช่นนี้ ไม่เหลือทางถอยให้ตนเองเอาเสียเลยเหลียนซวงไม่สนใจว่าพวกเขาจะคิดยังไง นางแสดงมาดอย่างที่นางข้าหลวงข้างกายฮองเฮาควรจะมี แล้วออกคำสั่ง“ฮองเฮาทรงมีพระราชเสาวนีย์ ช่วงนี้มีคดีลักเล็กขโมยน้อยในวังอยู่บ่อยครั้ง ตำหนักหลิงเซียวเกิดเรื่องบ่อยที่สุด ทรงรับสั่งให้ย้ายพวกเจ้าทั้งหมดไปยังกรมราชทัณฑ์ ไม่อนุญาตให้พกสิ่งของใดติดตัวไปทั้งสิ้น! นอกจากนี้หากแจ้งเบาะแสจะมีรางวัลให้!”กรมราชทัณฑ์?นั่นเป็นที่ไต่สวนข้าหลวงที่ทำความผิดร้ายแรง!พวกเขาทำอะไรผิดกัน?กุ้ยเฟยเพิ่งจะถูกลงโทษไป ฮองเฮาก็ตามมาสร้างความลำบากให้กับข้ารับใช้อย่างพวกเขาเสียแล้ว ไม่มีมาดของมารดาแผ่นดินแม้แต่น้อย กลับเห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงกิ้งก่าได้ทองเท่านั้น!เหล่าข้าหลวงต่างมองไปที่ชุนเหอเมื่อพระนางไม่อยู่ ชุนเหอก็เป็นใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 134

    เฟิ่งจิ่วเหยียนคว้าตัวเหลียนซวงไว้ แววตาคมกริบฉายแววอันตราย“อย่าส่งเสียง”“แต่ว่านี่...นี่ท่านถูกคนวางยาพิษชัด ๆ นี่เพคะ!” เหลียนซวงตกใจกลัวจนสติเตลิดเปิดเปิงนี่ไม่ควรเรียกหมอหลวงมาหรือไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบเลือดบริเวณข้างริมฝีปาก สายตาลึกล้ำ“ไม่ถึงตายหรอก ข้ารู้ตัวเองดี”พิษที่นางโดนนี้คือ‘พิษแดนฝัน’ที่เซียวอวี้เป็นคนวางหากเรียกหมอหลวงมาย่อมมีความเสี่ยงที่จะเป็นการเปิดเผยร่องรอยออกไปปกติพิษนี้จะกำเริบทุกสิบวันครั้งนี้ยังไม่ถึงสิบวันก็กำเริบแล้ว ต้องเป็นเพราะก่อนหน้านี้ที่นางใช้ยาถอนพิษในปริมาณน้อยเกินไปเป็นแน่สายตานิ่งลึกของเฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปยังข้างหน้าต่างไม่รู้ว่าซ่งหลีปรุงยาถอนพิษสำเร็จหรือไม่...ณ สนามม้าหลวงขณะที่เซียวอวี้และรุ่ยอ๋องกำลังขี่ม้ายิงธนูกันอยู่นั้น หลิวซื่อเหลียงก็เดินมาด้านหน้า“ฝ่าบาท คนของทางตำหนักชิงซวีมาบอกว่า กุ้ย... หลิงกุ้ยเหรินอดอาหารประท้วง ตะโกนลั่นว่าจะขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”รุ่ยอ๋องหันไปมองฮ่องเต้ที่ทรงประทับอยู่ข้าง ๆ เห็นเพียงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความทะมึนมืดของเขาเซียวอวี้ง้างสายคันธนูในมือจนสุด สีหน้าท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 135

    ถึงแม้จะเคยมาแค่ครั้งเดียว แต่มองแค่แว่บเดียวเฟิ่งจิ่วเหยียนก็จำได้แล้ว ที่นี่คือสถานที่ที่นางประมือกับเซียวอวี้เป็นครั้งที่สอง ห้องลับใต้ดินของตำหนักหวาชิง!เตียงหยกหลังนั้นยังอยู่ที่นี่ยามนั้นเซียวอวี้นั่งขับพิษอยู่บนเตียงหยกหลังนี้แม้กระทั่งบนกำแพงยังมีร่องรอยจากตอนที่พวกเขาต่อสู้กันทิ้งเอาไว้ดังนั้นไม่ผิดแน่ที่นี่ก็คือตำหนักหวาชิง!เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วแน่น ทว่าเหตุใดตำหนักหลิงเซียวถึงได้มีทางเชื่อมทะลุถึงตำหนักหวาชิงได้?ถึงแม้นางจะสงสัยเรื่องนี้ แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นการหาบันทึกของจ้าวเฉียนให้เจอด้วยเหตุนี้นางจึงรีบออกจากที่นี่ โดยเดินย้อนกลับไปทางเดิมตำแหน่งที่จ้าวเฉียนซ่อนบันทึกอำพรางไว้ได้ดีมากจนถึงยามนี้ยังไม่เจอเบาะแสเลยแม้แต่น้อย ราวกับการงมเข็มในมหาสมุทรเลยทีเดียวทว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นใครกัน?ไม่ว่าความหวังจะเลือนรางขนาดไหนก็ต้องค้นหาต่อไป ไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ โดยเด็ดขาดหลังจากผ่านไปสี่คืน ในที่สุดนางก็เจอบันทึกอยู่ใต้แผ่นอิฐแผ่นหนึ่งที่กองฟืนมุมหนึ่งในห้องครัวเล็กในบันทึกฉบับนี้จดเรื่องที่จ้าวเฉียนทำงานให้หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ตลอดหลายปีมานี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 136

    เฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากตำหนักชิงซวี ตรงไปที่กรมราชทัณฑ์ ห้องทรมานของกรมราชทัณฑ์ทั้งมืดและชื้น พวกหนูชื่นชอบนัก มวลอากาศอวลกลิ่นเหม็นเน่าและคาวโลหิต ชุนเหอและพวกข้าหลวงแม้ถูกจองจำ ทว่าไร้การถูกสอบสวนใด ๆ แม้วันนี้ถูกกุมตัวสู่ห้องทรมาน ใจนางก็มิสั่นสะท้าน เสมือนรู้ชัดว่าไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายตน เพียงได้เห็นหน้าของฮองเฮา สีหน้าของนางพลันแปรเปลี่ยน “บ่าวถวายบังคมฮองเฮา!” ชุนเหอโค้งคำนับ รักษากิริยาแบบสาวใช้ในตำหนักหลิงเซียว ไม่นอบน้อมหรือเย่อหยิ่ง ในห้องทรมานนี้มีเพียงนางสองคน เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนในเงามืด ใบหน้ามืดครึ้มยากประเมิน นางโยนสำเนาบันทึกของจ้าวเฉียนใส่ชุนเหอ “ดูเอง” ชุนเหอไม่ทราบเหตุผล แต่เปิดมันด้วยความระแวดระวัง หลังจากอ่านเนื้อหาของสำเนาบันทึกจบ สีหน้าของชุนเหอเปลี่ยนไปอีกครา จ้าวเฉียนบันทึกเรื่องเหล่านี้ไว้ตั้งแต่เมื่อใด! เขาต้องการกระทำสิ่งใด! อีกทั้ง สิ่งนี้ไปอยู่ในมือฮองเฮาได้อย่างไร... ชุนเหอวางตัวอึดอัด เงยหน้าจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน “ฮองเฮา บ่าว บ่าวไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

최신 챕터

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1234

    กล่าวถึงทางด้านรุ่ยอ๋อง เมื่อได้รับข่าวของเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็รีบร้อนจะมุ่งหน้าไปที่เป่ยเยี่ยนโดยเร็วหร่วนฝูอวี้มาพบกับเขากลางทาง ก็เอ่ยตัดพ้อกับเขา“ตอนที่ข้ากลับไปถึงหนานเจียง อาการป่วยของอาจารย์ก็ไม่มีปัญหาแล้ว อาจารย์ท่านก็คิดแต่จะให้ข้าสืบทอดวิชา ต้องการให้ข้าอยู่ที่นั่น“โชคดีที่คนของเจ้ามา มิเช่นนั้นข้าคงไปไหนไม่ได้จริง ๆ“ใช่แล้ว ฮ่องเต้ฉีทรงถูกจับไปที่เป่ยเยี่นจริงหรือ?”สีหน้าของรุ่ยอ๋องดูคร่ำเคร่ง“ตามที่ได้ยินมาเป็นเช่นนั้น”หร่วนฝูอวี้แค่นเสียงเย้ยหยัน“เขามิใช่อวดอ้างว่าตนมีวิทยายุทธ์สูงส่งหรอกหรือ ข้างกายก็มีองครักษ์คุ้มกันตั้งมากมาย เหตุใดถึงตกไปอยู่ในมือของชาวเป่ยเยี่ยนได้เล่า?”หากอ่อนแอเพียงนี้ แล้วจะปกป้องซูฮ่วนได้อย่างไร?กลับกลายเป็นซูฮ่วนต้องปกป้องเขาแล้วทว่านางก็รู้ว่ารุ่ยอ๋องมีความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ลึกซึ้งต่อฮ่องเต้ จึงเอ่ยปลอบเขา: “วางใจเถอะ ในเมื่อซูฮ่วนไปถึงเป่ยเยี่ยนแล้ว ก็คงไม่มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นเป็นแน่”รุ่ยอ๋องพยักหน้า ทว่าความกังวลที่ปรากฏบนหว่างคิ้ว แทบจะกลืนกินความสงบนิ่งอันน้อยนิดของเขาไปหมดขณะที่หร่วนฝูอวี้กำลังลำบากใจไม่รู้ควรเอ่ยสิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1233

    การลังเลของอาจือ หาใช่ว่ายังคงต้องการจะเป็นสนมของฮ่องเต้ฉีจริง ๆน้ำเสียงของนางสั่นเครือ เอ่ยอย่างยากลำบาก“บ่าว...บ่าวไม่ต้องการเป็นสาวใช้”ขณะที่เฟิ่งจิ่วเหยียนคิดจะเอ่ยบางอย่าง เซียวอวี้ก็เอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“เราจะให้คนส่งเจ้าไปหนานฉี พร้อมกับจะมอบเงินให้เจ้าหนึ่งหมื่นตำลึง”เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออกมา ก็เท่ากับไม่ให้นางเข้าวังอีกต่อไปถึงแม้อาจือจะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง ทว่านี่ก็เป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดที่สามารถไขว่คว้าได้นางรู้ดีว่า หากปรารถนาจะได้มากกว่านี้ จุดจบของนางจะน่าเศร้าอย่างมาก“เพคะ บ่าวขอบพระทัย...”จู่ ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็เอ่ยเสริมอีกประโยคหนึ่ง“เงินหนึ่งหมื่นตำลึง ทั้งเป็นการตอบแทนบุญคุณ และยังเป็นค่าปิดปากด้วย”แววตาของนางดูเหมือนสงบไร้คลื่น แท้จริงแล้วกลับซ่อนความเฉียบคมหลังจากอาจือประสานกับสายตานั้น ก็เข้าใจความหมายของการเตือนในนั้นทันทีก็จริงผู้นำแคว้นหนึ่งถูกจับตัวไป ก็คงไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้เรื่องนี้ โดยเฉพาะรายละเอียดของเหตุการณ์ เพราะนี่จะทำลายเกียรติของจักรพรรดิ“เพคะ บ่าวจะต้องปิดปากสนิทอย่างแน่นอน”ภายนอกห้องหยิ่นลิ่วดึงตัวอู๋ไป๋มาและถา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1232

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้เพียงว่าเซียวอวี้ถูกจับตัวมาที่เป่ยเยี่ยน ทว่าไม่รู้ชัดเจนว่าเขาพบเจอสิ่งใดบ้าง โดยเฉพาะการตามรังควานขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ ตอนนี้ยังมีสาวใช้อาจือโผล่มาอีก นางจึงอดคิดมากไม่ได้“คนผู้นี้เป็นใคร?” นางถามเซียวอวี้ตรง ๆเซียวอวี้มีสีหน้าเคร่งขรึม มองไปข้างหน้า“ตอนเราถูกขังอยู่ที่จวนองค์หญิง โชคดีที่ได้นางช่วยเหลือ”เฟิ่งจิ่วเหยียนนึกถึงพู่หยกนั่น จึงถามต่อ: “พู่หยกนั่น ก็คงเป็นนางที่ขายไปกระมัง”เซียวอวี้มิได้ปฏิเสธขณะเดียวกันก็รู้สึกประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่านางจะเห็นพู่หยกนั่นจริง ๆมิน่าเล่านางถึงมาที่จวนองค์หญิงได้ทันเวลาเฟิ่งจิ่วเหยียนมิใช่คนใจคอคับแคบ นางจึงเสนอความเห็นออกมาตรง ๆ“ไปพบนางเถิด หม่อมฉันจะไปกับท่าน”นางคิดจะไปขอบใจด้วยตัวเองเซียวอวี้กลับลังเลไม่กล้าเอ่ย“เราไปคนเดียว...ช่างเถอะ พวกเราไปด้วยกัน”เฟิ่งจิ่วเหยียนสังเกตเห็นท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อยของเขา จึงมองเขาอย่างจริงจัง พลางเอ่ยกึ่งหยอกล้อ: “ทำไมเพคะ มีสิ่งใดปิดบังหม่อมฉันหรือ?”หลังจากเซียวอวี้รีรออยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะปล่อยเลยตามเลย พร้อมเอ่ยเบา ๆ “เพื่อให้สาวใช้ผู้นั้นรับปากที่จะช่ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1231

    องค์ชายสี่มองไปที่เซียวอวี้อย่างงวยงง เขาหลุดปากถามโดยไม่ทันคิด “เป็นไปได้อย่างไร...พวกเจ้า...มีทหารเพียงสามพันนายมิใช่หรือ...และพวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่า ฮ่องเต้ฉีถูกคุมขังอยู่ใน...” เขามองเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างร้อนรน ราวกับนางได้ทรยศต่อตนเอง เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่างไม่แสดงสีหน้าใด ๆ “ข้าไม่เคยบอกว่านำคนมาเพียงสามพัน เป็นองค์ชายที่เข้าใจผิดเอง” ที่ปรึกษาข้างกายขององค์ชายสี่เป็นคนแรกที่ตอบสนอง รีบลดเสียงเอ่ยเตือน “องค์ชาย จักปล่อยพวกเขาไปไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายสี่ได้เตรียมการไว้แล้วเช่นกัน เขาจึงออกคำสั่งทันที ก็มีทหารกลุ่มหนึ่งเคลื่อนตัวออกมา คนเหล่านี้ เป็นกลุ่มคนที่ถูกเขายุยงให้ก่อกบฏไว้ก่อนหน้านี้ เดิมก็ใช้เพื่อสังหารหลังจากหมดประโยชน์ เมื่อบังคับให้ฮ่องเต้สละบัลลังก์สำเร็จก็ให้จับกุมชาวฉีเหล่านี้ทันที องค์ชายสี่ยังคิดว่าตนถือไพ่เหนือกว่า “ช่วยฮ่องเต้ฉีได้แล้วอย่างไร! เมื่อเดินเข้าสู่พระราชวังเป่ยเยี่ยน พวกเจ้าไม่มีทางออกไปได้! ทหาร รีบจับพวกมันไว้!” ช่วงเวลาต่อมา หยิ่นเอ้อร์ไม่ต่างจากวิญญาณ ที่โผล่มาอยู่ทางด้านหลังขององค์ชาย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1230

    ฉับ! ศีรษะร่วงลงบนพื้น ฮ่องเต้ในรัชสมัยหนึ่ง สิ้นพระชนม์ด้วยน้ำมือของพระโอรสแท้ ๆ องค์ชายสี่ลงมือสังหารด้วยดวงตาแดงก่ำ มือถือดาบใหญ่ หายใจหอบถี่ แฮกแฮก—— หน้าอกของเขากระเพื่อมอย่างแรง หัวใจเต้นแรงแทบจะหลุดออกมา เขา สังหารเสด็จพ่อ เขาสังหารเสด็จพ่อที่ลำเอียงพระองค์นั้น! ตาเฒ่าคนนี้ ในที่สุดก็ตายแล้ว! มือของเขายังไม่หายสั่น ขณะเดียวกัน เขาคิดว่าตนเองแข็งแกร่งกว่าเสด็จพี่รอง เสด็จพี่รองคนนั้นยังใจอ่อนนัก และเขา...ไม่โหดเหี้ยมไม่นับเป็นชายชาตรี! “ถ่ายทอดราชโองการ เสด็จพ่อสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน!” “พ่ะย่ะค่ะ!” ยามนี้ องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกหวาดกลัวนัก นางล้มลงกับพื้น โดยไม่เชื่อเลยว่า เสด็จพี่สี่จะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้! ไม่สิ ไม่ถูกต้อง ล้วนแต่เกิดจากการยุยงของนังสารเลวเฟิ่งจิ่วเหยียนนั่น! ที่ผ่านมาเสด็จพี่สี่เป็นคนดีมาก! เฟิ่งจิ่วเหยียน ล้วนเป็นเพราะเฟิ่งจิ่วเหยียน! องค์หญิงเซี่ยนอี๋พยายามจะลุกขึ้น คิดอยากจะหนีออกไปจากที่แห่งนี้ นางหวาดกลัวนัก ทว่า บัลลังก์ที่องค์ชายสี่ได้ครอบครองอย่างผิดวิธี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1229

    เมื่อเทียบกับถูกพระโอรสบังคับให้สละราชบัลลังก์ ฮ่องเต้เยี่ยนมิอาจทนต่อการสมคบร่วมคิดกับศัตรูต่างแคว้นมากกว่า! เดิมคิดว่าเจ้าสี่มีความฉลาดขึ้นบ้างแล้ว ใช้ทหารเพียงสามพันนายบังคับฮ่องเต้ให้สละราชบัลลังก์สำเร็จ พอมีความสามารถอยู่บ้าง ผู้ใดจะรู้... ผู้ใดจะรู้ว่าเป็นเฟิ่งจิ่วเหยียนที่บงการอยู่เบื้องหลัง! ฮ่องเต้เยี่ยนโกรธจนเจ็บหัวใจ เขาถลันกายลุกขึ้นยืน ชี้นิ้วไปที่องค์ชายสี่พลางด่าทอ “เจ้าโง่สมองมีแต่หนอง! “เราให้กำเนิดคนโง่เช่นเจ้าได้อย่างไร! “สารเลว! ไอ้สารเลว!! “เจ้าโง่ถึงขนาดที่ยอมร่วมมือกับชาวฉี เจ้า เจ้ามัน...” ฮ่องเต้เยี่ยนโกรธเกรี้ยวอย่างหนัก จนกระอักโลหิต “พรวด” เต็มปาก “เสด็จพ่อ!” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้แต่ยืนมอง และร้องไห้อย่างช่วยไม่ได้ นางก็ถูกลูกธนูยิงเช่นกัน ใครจะมาช่วยนางได้! “เสด็จพี่สี่! ท่านจะเป็นอย่างไร ก็มิควรร่วมมือกับชาวฉี!” องค์ชายสี่หาได้สนใจไม่ พ่อและลูกสาวคู่นี้ช่างไร้สมอง พวกเขาหารู้ไม่ว่า เขาเพียงหลอกใช้ชาวฉีเท่านั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนตามหาฮ่องเต้ฉีไม่พบ ย่อมจะถูกเขาควบคุม ถึง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1228

    องค์หญิงเซี่ยนอี๋คงไม่เข้าใจ เฟิ่งจิ่วเหยียนผู้นี้เป็นบ้าอะไร ถึงได้รนหาที่ตายเองเช่นนี้นังสารเลวนี่ หลังจากช่วยฮ่องเต้ฉีได้ ไม่คิดที่จะเผ่นหนี กลับคิดที่จะเข้าไปในวังแทน!แถมยังพาองค์หญิงเช่นนางร่วมทางไปด้วย!เซียวอวี้เองก็แปลกใจเช่นเดียวกันทว่า เขาเชื่อมั่นในทุกการตัดสินใจของนางเมื่อมาถึงประตูวัง องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็ร้องขอความช่วยเหลือเสียงดัง“ข้าอยู่นี้! รีบมาจับพวกเขาซะ!”ทว่า เหล่าองครักษ์ที่เฝ้าประตูวังอยู่ไม่สนใจนาง กลับหันไปทำความเคารพเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้แทน“ถวายบังคมฝ่าบาทและฮองเฮา!”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ตกตะลึง“พวกเจ้า…พวกเจ้าเรียกพวกเขาว่าอะไรนะ? นี่พวกเจ้าบ้าไปแล้วหรือไร!”หรือว่านางกำลังฝัน? ทุกอย่างดูแปลกไปหมด!เซียวอวี้จำได้ ในบรรดาองครักษ์ที่เฝ้าประตูวัง มีคนคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ผู้หนึ่งคนผู้นี้ก็คืออู๋ไป๋อู๋ไป๋ใส่เครื่องแบบของชาวเป่ยเยี่ยน ดูกลมกลืนอย่างมากความจริงแล้ว องครักษ์คนอื่นล้วนเป็นกองทัพอินทรีเหินของเฟิ่งจิ่วเหยียนเช่นเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงทำหูทวนลมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือขององค์หญิงเซี่ยนอี๋องค์หญิงเซี่ยนอี๋ไม่เข้าใจเรื่องรา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1227

    กำลังคนที่เฟิ่งจิ่วเหยียนพามาด้วยมีมากพอ ด้วยเหตุนี้นางจึงไร้กังวลในขณะนี้ในที่สุดนางก็ตามหาเซียวอวี้เจอภายใต้ชายคา นางกอดเซียวอวี้ไว้แนบแน่น มีเพียงความรู้สึกแท้จริงเช่นนี้ นางจึงสามารถดึงตัวเองออกมาจากความหวาดหวั่นได้“ลูกอยู่ที่วัง รอเรากลับไปหา” นางเสียงแหบพร่าเซียวอวี้ถอนหายใจอย่างโล่งอกการที่พวกนางสองแม่ลูกปลอดภัย คือความปรารถนาอันสูงสุดของเขา มีค่ามากกว่าความเป็นความตายของตัวเขาเองด้วยซ้ำน่าเสียดาย ที่ไม่สามารถไปเจอลูกในทันทีได้เขาไม่ได้ซักถามสิ่งใดมากมาย เพียงตกอยู่ในภวังค์แห่งความดีใจในการพบเจอกันอีกครั้ง จึงยกแขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ กอดตอบเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับไปได้กลับมาเจอเขาอีกครั้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนตื้นตันเป็นอย่างมากเพียงแต่ว่า นิสัยเดิมย่อมแก้ยาก ด้วยความที่นางเป็นคนไม่อ่อนไหวกับสิ่งใดง่าย ๆ แม้นในใจจะมีมวลคลื่นก่อตัวรุนแรงเพียงใด เบื้องหน้ายังคงควบคุมอาการไว้ได้ตามสัญชาตญาณกล่าวให้ถูกต้องคือ นางที่ไม่ค่อยแสดงสีหน้า ขณะอยากใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้า จึงค่อนข้างดูฝืนสีหน้าของนางในตอนนี้เหมือนร้องไห้ก็ไม่ใช่ยิ้มให้ก็ไม่เชิงเดิมทีก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว พอมาเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1226

    เหล่าองครักษ์ลับตามมาช่วยได้ทัน ล้อมเซียวอวี้ไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัย“คุ้มกันฝ่าบาทกลับไปก่อน!”พวกเขามีเพียงไม่กี่คน ไม่สามารถจัดการกับคนเป่ยเยี่ยนเหล่านี้ได้ขณะนี้เอง หยิ่นเอ้อร์ที่จับองค์หญิงเซี่ยนอี๋เป็นตัวประกันไว้ก็กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น “บอกให้พวกเขาหยุดซะ”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ไม่รู้ว่าคนผู้นี้คือใคร ทว่านางมั่นใจ ต้องเป็นคนของแคว้นหนานฉี ที่มาช่วยฮ่องเต้ฉีเป็นแน่นางกัดริมฝีปาก“พวกเจ้าจะจับข้าไปก็ไร้ประโยชน์! การสังหารเขา คือคำสั่งของเสด็จพ่อข้า!”นางพูดความจริงแววตาของหยิ่นเอ้อร์พลันเย็นชาจากนั้น เขาก็ลากองค์หญิงเซี่ยนอี๋มาที่ลานกว้าง ให้นางปรากฏตัวท่ามกลางอันตรายเหล่ามือธนูเห็นเช่นนั้น จึงลังเลหากยิงองค์หญิงตาย โทษของพวกเขาก็คงหนักทว่าขณะนี้เอง หัวหน้ามือธนูก็ส่งเสียงอย่างเด็ดขาด“ยิงต่อไป! ห้ามหยุด!”เขามองไปยังองค์หญิงเซี่ยนอี๋ด้วยแววตาไร้ความรู้สึกองค์หญิงแล้วอย่างไร ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ไม่สามารถมาขัดขวางการจับตัวฮ่องเต้ฉีไปได้ยิ่งไปกว่านั้น เพราะคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ ก็ทำให้ฝ่าบาททรงฆ่าองครักษ์ไปหลายคนแล้วในเมื่อคิดว่าชีวิตของพ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status