Share

เฟยเถา

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-15 18:06:14

บทที่6

องค์ชชายเจียวจ้าน

องค์ชายเจียวจ้านบุตรชายคนเดียวผู้สืบทอดการครองบัลลังก์จากฮ้องเต้ ปกติแล้วองค์ชายนั้นชอบออกจากวังเป็นประจำเช่นนี้ทุกวันเพื่อเข้าไปในแต่ละหมู่อยากรู้เรื่องการเป็นอยู่ในแต่ละเดือนมีปัญหาขาดอะไรตรงไหนองค์ชายจะได้นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น วันนี้ก็เช่นกันท่านทรงเลือกมาดูที่แค้วเซี่ย แค่ได้ยินเสียงขบวนม้าทางเข้าแคว้นเซี่ยชาวบ้านส่วนใหญ่จะออกไปรอต้อนรับชายที่มีดวงตากลมโตสันกรามเห็นชัดเจนลำตัวสูงโปร่งหน้าตาดุ ๆ แต่ความจริงไม่ดุแค่เป็นคนไม่ค่อยพูดเยอะ นิสัยอกจะเย็นชาแต่ก็รับฟังทุกปัญหา

ชาวบ้าน “องค์ชายทรงเดินทางอยากจะนั่งพักก่อนหรือไม่เพคะ “

เจียวจ้าน “ไม่ต้อง “ สิ้นสุดบทสนทนาเจียวจ้านนั้นได้ขึ้นหลังม้าเพื่อสำรวจทุก ๆ บ้านเรือนและมีทหารคอยติดตามตลอดเวลา

ทหาร “องค์ชายขอรับ ที่นี่มีร้านขายของเก่าพวกของชิ้นโบราณทั้งหลายตรงไปอีก เลยไปสิบหลังคาเรือนก็จะเจอขอรับ”

เจียวจ้าน “เจ้าเคยมาชื้อของที่นี่รึ “

ทหาร “ใช่ขอรับ ข้าชื้อมาแล้วนำไปขายต่อให้คนชั้นสูงได้ราคาสูงนัก “

เจียวจ้าน “หยุด “ เจียวจ้านเกือบชนเด็กแฝดทั้งห้า ยังดีนะที่หันกลับไปมองได้ทันการณ์

เจียวจ้าน “พวกเจ้าเป็นแ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   เป็นที่โปรดปราน

    บทที่14โหย่วเฉา " ลูกเจ้าช่างรู้ความยิ่งนัก " เด็ก ๆห้าคนคำนับฮ่องเต้และองค์ชชายทันทีที่มาถึงหน้าตำหนัก ตงหยางพี่ชายคนโตไม่รู้ว่าชายทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างหน้าตนนั้นคือฮ้องเต้ ตงหยางคิดว่าเป็นเพียงผู้ดูแลเรื่องการแข่งขันเลยไม่ได้สงสัยอะไร ตงหยาง " ท่านลุงทั้งสองหิวน้ำหรือไม่เข้ามานั่งข้างในก่อนเถิด ยืนนาน ๆ คงไม่เหมาะนัก "ซูซ่าน " ตงหยางลูก "ซูซ่านไม่กล้าสบตาเจี้ยวจ้านและฮ้องเต้ในขณะนั้นเฟยเถาได้เดินออกมาจากตำหนักพอดี เฟยเถาเกิดอาการตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นฮ้องเต้ แต่นางก็พยายามเก็บท่าทีไม่ให้ผู้ใดรับรู้แม้กระทั่งซูซ่าน เฟยเถา " ถวายบังคมฝ่าบาท " ทุกอิริยาบถทุกฮ้องเต้มองจนไม่อาจละสายตาแม้กระทัั่งกลิ่นกายของนางยังคุ้นเคยจนอยากจะกระชากผ้าที่ผิดบังหน้าเฟยเถาออกมาฮ้องเต้ " เจ้าคือแม่ของซูซ่านใช่หรือไม่"เฟยเถาไม่สบตาก้มหน้าลงเล็กน้อยคล้ายเหมือนคนมีความลับบางอย่าง นางจึงได้แต่รีบตอบคำถามจากนั้นเฟยเถาก็ทำทีเหมือนมีเรื่องต้องทำอีกมากมายจึงกล่าวขออภัยฮ้องเต้ที่ไม่ได้อยู่สนธนาด้วย แต่ก่อนที่นางกำลังจะหันหลังจากไป เจี้ยวจ้านได้เรียกเฟยเถากะทันหัน เจี้ยวจ้าน " ท่านน้า ท่านทำปิ่นปักผมหล่นลง

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   ถึงวังหลวง

    บทที่13ถึงหน้าวังหลวง .08.00 ทหาร " ผู้ใดที่มาถึงแล้วอย่าลืมนำหมายเลขที่ลงทะเบียนไว้ออกมาให้ดู หากไม่มีนั้นถือว่าไม่สามารถเข้าร่วมการเเข่งขันได้ "เสียงทหารร้องเป่าประกาศให้ผู้คนได้รับทราบ อยู่ตลอดเวลานั้นทำให้เด็กแฝดทั้งห้ากวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นอาจารย์ที่สอนแต่ละคนยืนอยู่ไกล ๆ แววตามีความดุดันอย่างหน้าเกรงขาม ตงหยาง " อาจาร์ยสอนวรยุทธ์หน้าดุมาก ยืนมองมาที่ผู้คนอยู่ตลอดเวลา " ซูซ่าน " อย่ามัวแต่สนใจสิ่งอื่น ตอนนี้ต้องไปต่อแถวแล้ว " หลังจากนั้นเด็ก ๆ หลายร้อยคนได้เข้ามาที่วังหลวงกันทุกคนแล้ว ซูซ่านทำได้แค่ส่งลูก ๆ ทั้งสี่เข้าไปด้านในส่วนหน้าที่ดูแลความปลอดภัยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหล่าทหาร จนกว่าจะผลการทดสอบขั้นพื้นฐานจะประกาศออกมาถึงเวลานั้นจะได้รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป 11.00 ประผลการทดสอบเด็ก ๆ ทั้งสี่ได้ผ่านการคัดเลือกซูซ่านกับเฟยเถาดีใจมาก จึงเข้าโผเข้ากอดลูก ๆ อย่างภาคภูมิใจ เฟยเถากับซูซ่านจึงให้อาสิบนำรถม้าที่มีข้าวของเข้าวังโดยมีทหารจัดแจ้งที่พักให้ ซูฮวา " ท่านแม่นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกได้เห็นวังหลวงที่งดงามประการตาเช่นนี่ " ซูซ่าน " แม่กับท่านย่าก็เพิ่งจะเคยเห็นเช่นกัน

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   ทดสอบ

    บทที่ 12เช้าในวันถัดมา 6.30เสียงขบวนม้าแต่ละครอบครัวเริ่มออกเดินทางไปยังวังหลวงกันแต่เช้า ตงหยางพี่คนโตกำลังรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาอย่างงัวเงียนั่งไปสักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ต้องเข้าทดสอบขั้นพื้นฐานหากผู้ใดไม่ผ่านก็ไม่มีสิทธิ์ได้ฝึกต่อส่วนคนที่ผ่านขั้นพื้นฐานต้องพาผู้เป็นแม่เข้ามาอยู่ในวัง หากฝึกผ่านหนึ่งเดือนขึ้นไปแสดงว่าผู้แม่ๆ ของเด็กๆ ได้อยู่ต่ออีกประมาณสองปี และหลังจากนั้นเมื่อครบสองปี จะเป็นการฝึกที่โหดขึ้น และไม่มีคำปลอบใจใด ๆ จากคนรอบข้างเพราะแต่ละคนต้องดิ้นรนเอง ตงหยาง " น้อง ๆ ทั้งสี่ตื่นได้แล้ว " ตงหยางเขย่าตัวทุกคนให้ลืมตาอย่างเร่งรีบ จนน้อง ๆ ตื่นขึ้นมาทุกคนรู้หน้าที่จึงรีบไปอาบน้ำแต่งตัว ส่วนเสื้อผ้าได้เก็บไว้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวาน ในขณะนั้นอาสิบได้เดินทางมาถึงหน้าเรือนซูซ่านพอดี ประจวบจังหวะที่ซูซ่านกำลังตื่นนอนเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวานทำให้นางหลับไม่สนิทเลยตื่นสาย เมื่อรู้สึกตัวแล้วซูซ่านและเฟยเถารีบเข้ามาปลุกลูก ๆ พร้อมกัน แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นป๋อเหวินลูกคนที่สามกำลังแต่งตัวพร้อมพี่ชายทั้งสอง ส่วนซูฮวานั้นอยู่อีกห้องกับซูเซียว ซูซ่าน " ท่านแม่ท่

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   11

    บทที่11ท่าทางท่านเศรษฐีไม่พอใจเป็นอย่างมากอยากจะเดินเข้าไปหาเรื่องอยากให้ซูซ่านนั้นอับอายขายขี้หน้าแต่เพลานี่คงไม่เหมาะเพราะมีผู้คนเยอะแยะมากมาย ซูซ่านเองก็รู้ว่าท่านเศรษฐ์มองมาอย่างจงใจแต่นางนั้นปล่อยวางไม่อยากมีเรื่องให้มันมากความตงหยาง “ท่านแม่ท่านเศรษฐีผู้นั้นคงโกรธแค้นมาก สีหน้าเหมือนลิงร้องอดอยากอาหาร “ ตงหยางตั้งใจพูดให้ท่านเศรษฐีได้ยินชัด ๆซูซ่าน “ลูกอย่าพูดจากับผู้ใหญ่เช่นนี้ “ ซูซ่านตำหนิลูกชายเพราะว่าหวังดี นางเหลือบไปมองท่านเศรษฐีแล้วรีบพาลูก ๆ ขึ้นรถม้าทันที เมื่อซูซ่านออกไปพ้นหน้าวังหลวงแล้ว ท่านเศรษฐีจึงจ้างให้คนวิ่งขี่ม้าตามไปเพื่อหวังจะให้ชนตกคลองท่านเศรษฐี “ อย่าให้มันถึงตายเอาแต่ได้นอนปูเสื่อ สัก หนึ่ง เดือน ““ขอรับ “ชายที่ถูกหวานจ้างทั้งสองได้วิ่งม้าตามซูว่าน จนถึงทางทั้งสองฝั่งที่มีคลองอยู่ทันใดนั้นพวกมันจึงกระโจนเข้าใส่ บังคับม้าให้เร็วโดยไม่มีหยุดซูซ่าน “ท่านอาสิบ มีม้าวิ่งตามมาด้านหลัง “ อาสิบเห็นเช่นนั้นจึงเบี่ยงม้าไปฝั่งขวาอย่างชำนาญสุดท้ายเป็นพวกมันเองที่พลัดตกคลองจนได้รับบาดเจ็บ เสียงชายทั้งสองร้องตะโกนข้อร้องให้คนช่วยแต่ไม่มีผู้ใดวิ่งผ่านไปมา ณ . เว

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   ท่านเศรษฐีแค้นใจมาก

    บทที่10 ท่านเศรษฐีแค้นใจมาก ตงหยาง “เจ้าโตเป็นผู้ใหญ่มาได้อย่างไรกัน หรือว่ามารดาเจ้าไม่เคยสั่งสอน “ ตงหยางใช้คำพูดที่ทิ่มแทงดังเข็มร้อยเล่มมาอุดปากไว้ เมื่อเศรษฐีได้ยินคำนี้ตนพยายามลุกขึ้นยืนทอดสายตาที่โกรธเกรี้ยวมาที่ตงหยาง ด้านหลังตงหยางเต็มไปด้วยสายตารังเกียจทุกคนมองตาไม่กระพริบจนท่านเศรษฐีต้องหลบหน้าหนีขึ้นไปยังรถม้าดังเดิม ซูซ่าน “ ไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนแยกย้ายกลับขึ้นรถม้าของตนเถิด “ ทุกอย่างกลับมาปกติทุกคนแยกย้ายพร้อมเอ่ยสะใจ ระหว่างทางเดิน ชาวบ้าน “หึ โดนเสียก็ดี ข้าสะใจยิ่งนัก “ ชาวบ้าน “ใช่ เกิดมามีฐานะแต่นิสัยลูกแง่ ไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่ให้เด็กนับหน้าถือตา“ ชาวบ้าน “จะว่าไปหนึ่งในแฝดทั้งห้า ที่ชื่อว่าตงหยาง เก่งวรยุธรไม่เบาเลย “ ชาวบ้าน “นั้นสิแม่นางซูซ่านโชคดีเหลือเกินได้ลูกแต่ละคน รู้ความมากกว่าผู้ใหญ่เสียอีก “ ซูซ่านเร่งพาลูก ๆ ขึ้นรถม้าให้ครบหมดทุนคนตนนั้นเข้าเป็นคนสุดท้าย ทันใดนั้นขาบาง ๆ กำลังก้าวขึ้น จู่ ๆ นางก็เพิ่งนึกได้ว่านางนั้นยั

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   ถูกลัดคิวลงนาม

    บทที่9 ถูกลัดคิวลงนาม ซูซ่านรีบพาลูก ๆ กลับเรือนไปอาบน้ำแต่งตัวให้สะอาดจะได้ไม่ถูกดูหมิ่นจากเด็กที่เป็นลูกเหล่าขุนนางและผู้ที่มีฐานะร่ำรวย แต่เรื่องเช่นนี้ยังไงมันก็ต้องเกิด นี่เป็นครั้งแรกที่จะพาลูกเข้าสู่แห่งโลกความเป็นจริงเพื่อให้ประสบการณ์สอนจะได้รู้ว่าความจริงนั้นมันไม่ได้ดีเสียทุกอย่างการเอาตัวรอดคนเดียวนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ในเวลาถัดมาซูซ่านเตรียมพร้อมแล้วที่จะพาลูก ๆ ออกเดินทางแต่เพลานี่จะทันหรือไม่กลัวว่าม้าเช่าจะเต็มแล้ว ก่อนจะก้าวขาออกจากเรือนทุกคนหลับตาอธิฐานขอให้วันนี่ผ่านไปด้วยดี ชาวบ้าน “ ลูกข้าจะได้ไปหรือไม่ ม้าเช่าหมดแล้วจะทำเช่นไรดี “ .ในขณะนั้นชายแปลกหน้าก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับม้าห้าเชือกมุ่งหน้ามาที่เรือนซูว่านอย่างจงใจ “แม่หญิง เช่ารถม้าข้าก็ได้ข้าคิดไม่แพง “ ซูซ่านสังเกตท่าทางชายผู้นี่คงต้องการเงินมาก ๆ จึงตอบตกลงทันที ซูซ่าน “ได้งั้นรีบพาลูก ๆ ข้าไปหน้าวังหลวง “ ตงหยางแหงนหน้ามองดูชายหนุ่มแล้วพาน้อง ๆ ขึ้นรถม้า บ่นในใจเล็กน้อยในระหว่างการเดินทาง ตง

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   ทุกคนยอมรับ

    บทที่8ทุกคนยอมรับในฝีมือป๋อหลินทันใดนั้นป๋อหลินก็นำเข็มจี้ตามจุดร่างกาย ไม่นานนักเด็กทารกก็กลับมาหัวใจเต้นอีกครั้งพร้อมส่งเสียงร้องให้ทุกคนได้ยิน ผู้เป็นแม่ดีใจโอบอุ้มลูกขึ้นสู่อ้อมกอดอีกครัง ทุกคนต่างอวยพรให้เด็กคนนี่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วย นำด้ายสีขาวมาผูกข้อมือให้ทารกเพื่อเรียกขวัญกลับมาชาวบ้าน “รอดตายแล้วเจ้าเด็กน้อย ““ ข้าขอบใจเจ้ามากที่ช่วยชีวิตลูกข้าไว้ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเก่งถึงเพียงนี่ “ป๋อหลิน" นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ขอแค่ข้าได้ช่วยคนข้าก็ดีใจแล้ว "หลังจากนั้นซูซ่านกัยเฟยเถาได้พาป๋อหลินออกจากที่นี่เพื่อกลับเรือน ซูซ่านสงสัยว่าเหตุใดวันนี้ลูก ๆ ของนางถึงเงียบผิดปกติ จึงเร่งเปิดประตูเข้าไปดูในห้องไม่พบใครสักคนอยู่ข้างในเลย ซูซ่าน " ลูก ๆ ทั้งสี่คนของข้าหายไปไหน "ป๋อหลิน " ท่านแม่ พวกพี่ชายกับน้องหญิงคงออกไปดูป้ายประกาศรับสมัคผู้เข้าแข่งขัน วัยเจ็ดปี ที่ลานประชุมหมู่บ้านเป็นแน่ "ซูซ่าน " งั้นแม่จะออกไปดู " ป๋อหลิน " ข้าอยากไปด้วยท่านแม่ให้ข้าไปด้วยได้หรือไม่ " ซูซ่าน " ก็ได้ ๆ " ลานประชุมหมู่บ้านเหล่าแม่ ๆ ในหมู่บ้านได้พร้อมใจหันออกมาดูป้ายสมัค

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   เฟยเถา

    บทที่6 องค์ชชายเจียวจ้าน องค์ชายเจียวจ้านบุตรชายคนเดียวผู้สืบทอดการครองบัลลังก์จากฮ้องเต้ ปกติแล้วองค์ชายนั้นชอบออกจากวังเป็นประจำเช่นนี้ทุกวันเพื่อเข้าไปในแต่ละหมู่อยากรู้เรื่องการเป็นอยู่ในแต่ละเดือนมีปัญหาขาดอะไรตรงไหนองค์ชายจะได้นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น วันนี้ก็เช่นกันท่านทรงเลือกมาดูที่แค้วเซี่ย แค่ได้ยินเสียงขบวนม้าทางเข้าแคว้นเซี่ยชาวบ้านส่วนใหญ่จะออกไปรอต้อนรับชายที่มีดวงตากลมโตสันกรามเห็นชัดเจนลำตัวสูงโปร่งหน้าตาดุ ๆ แต่ความจริงไม่ดุแค่เป็นคนไม่ค่อยพูดเยอะ นิสัยอกจะเย็นชาแต่ก็รับฟังทุกปัญหา ชาวบ้าน “องค์ชายทรงเดินทางอยากจะนั่งพักก่อนหรือไม่เพคะ “ เจียวจ้าน “ไม่ต้อง “ สิ้นสุดบทสนทนาเจียวจ้านนั้นได้ขึ้นหลังม้าเพื่อสำรวจทุก ๆ บ้านเรือนและมีทหารคอยติดตามตลอดเวลา ทหาร “องค์ชายขอรับ ที่นี่มีร้านขายของเก่าพวกของชิ้นโบราณทั้งหลายตรงไปอีก เลยไปสิบหลังคาเรือนก็จะเจอขอรับ” เจียวจ้าน “เจ้าเคยมาชื้อของที่นี่รึ “ ทหาร “ใช่ขอรับ ข้าชื้อมาแล้วนำไปขายต่อให้คนชั้นสูงได้ราคาสูงนัก “ เจียวจ้าน “หยุด “ เจียวจ้านเกือบชนเด็กแฝดทั้งห้า ยังดีนะที่หันกลับไปมองได้ทันการณ์ เจียวจ้าน “พวกเจ้าเป็นแ

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   7ปีต่อมา

    บทที่5 7ปีต่อมา ณ . แคว้นเซี่ย ดินแดนทางใต้ของวังหลวงอยู่ห่างจากวังหลวงประมาณสองลี้ ซึ่งไม่ใกล้และไม่ไกลมากนัก เวลา 09.00 ณ.ร้านขายของเก่าวัตุโบราณ ตงหยาง “ท่านแม่ของเก่าแก่เหล่านี่ช่างขายดีนักขอรับ “ ซูซ่านย่อลำตัวลงจับแก้มหนุ่มๆ ของลูกชายวัยเจ็ดขวบด้วยความเอ็นดู ซูซ่าน “ แน่นอนสิลูก ต่อไปหากแม่ไม่อยู่ลูกจะต้องสืบทอดต่อจากแม่ เข้าใจหรือไม่ “ ตงหยาง “เข้าใจขอรับ “ ในขณะนั้นเสียงที่วุ่นวายของลูก ๆ ทั้งสี่ได้เข้ามาพร้อมดอกบัวเต็มไม้เต็มมือ ลำตัวเปื้อนโคลนเต็มเสื้อผ้าทั้งหน้าเห็นแค่แววตาใส ๆ เล็ก ๆกำลังแหงนหน้ามองแม่ของตัวเอง ซูซ่าน “ ป๋อหลิน ป๋อเหวิน ซูฮวา ซูเซียว แม่บอกพวกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปเล่นใกล้แม่น้ำ “ “ท่านแม่พวกข้าเห็นดอกใบบัวใกล้ฝั่งเลยเก็บมันมาด้วย แต่หากท่านแม่จะลงโทษลูกก็ยอมรับผิด “ คำพูดเสียงเล็กเสียงน้อยทำให้ซูซ่านใจอ่อนทุกทีเลย ซูซ่าน “ ลูกรู้หรือไม่หากโคลนดูดลงไปแล้วแม่จะอยู่อย่างไร ไม่สงสารแม่บ้างรึ “ ซูซ่านทำหน้างอนใส่ลูก ๆ หันหลังเดินจากไปที่หลังบ้านเพื่อทำของว่างให้ลูก ๆ นั่งกินเล่น ทันใดนั้นเด็กทั้งสี่ก็รู้ว่าแม่นั้นน้อยใจจึงวิ่งเข้าโผกอดเพื่อขอโทษ ป

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status