“แหม พี่ดินไม่ต้องคิดมากเรื่องพราวหรอก พราวมากกว่าที่น่าจะเป็นฝ่ายคิดมาก พี่ไปอยู่ที่นั่นไม่รู้จะมีสาว ๆ มาปิ๊งบ้างไหม ตัวเองยิ่งเสน่ห์แรงอยู่” เธอทำหน้ายู่ใส่เขา ชายหนุ่มยิ้มให้แล้วพูดว่า
“มีอะไรต้องคิดมากละหืม...พราวน่าจะรู้ดีที่สุดว่าพี่เป็นคนยังไง พี่ชอบกินอะไรก็จะกินอยู่แต่อย่างนั้นไม่เคยเบื่อ กับพราวก็เหมือนกัน”
พราวนภารู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันที แม้เขาจะไม่ได้บอกรักออกมาโต้ง ๆ แต่ประโยคของเขากลับฟังแล้วรู้สึกได้ถึงความหนักแน่นในหัวใจของคนพูดได้เป็นอย่างดี
นฤบดินทร์ยืนกอดอกมองแมทธิวจ้วงกำปั้นใส่กระสอบทรายรัว ๆ อย่างไม่มีแบบแผนแต่กระสอบทรายแทบไม่ขยับ เขาเริ่มรู้สึกทนมองไม่ได้จึงต้องตะโกนสั่งให้หยุดแล้วเดินเข้าไปหาพลางสวมนวมให้ตัวเองไปด้วย
“นายเหวี่ยงหมัดแบบนั้นไม่ได้เพราะจะทำให้เหนื่อยง่ายและความแรงของกำปั้นไม่เพียงพอ นายดูนี่”
ชายหนุ่มยืนแยกขาเล็กน้อย ตั้งการ์ดขึ้นแล้วพูดต่อ “ตั้งการ์ดไว้ตลอดเวลา ถ้านายถนัดขวานายต้องเอาแขนขวาไว้ข้างหลังแล้วให้แขนซ้ายอยู่ข้างหน้าเล็กน้อยเ
“พราวเชื่อข่าวพวกนั้นไหม เท่าที่พี่เห็นดูเหมือนว่าข่าวของที่นี่กับที่เมืองไทยจะไปคนละทางกันเลยนะ” ชายหนุ่มมองหน้าเธอนิ่ง เธอจึงตอบไปทันทีโดยแทบไม่ต้องคิด“ไม่เชื่อ! ไม่มีอะไรเป็นเรื่องจริงสักอย่าง คนที่ชื่อแอนนั่นจงใจใส่ร้ายพี่ แชตพวกนั้นก็ไม่ใช่ของจริง ผู้หญิงคนนั้นสร้างแชตปลอมขึ้นมาเอง นิสัยแย่มาก” เธอได้แต่แค้นแทนเขา ผู้หญิงที่ชื่ออันธิกานั่นฆ่าตัวตายไปเองแท้ ๆ แต่กลับทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้นฤบดินทร์“แค่พราวเชื่อพี่ อย่างอื่นพี่ก็ไม่สนแล้ว” เขายิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เธอกลับร้อนรนแทนเขา“ได้ยังไง พวกนั้นเข้าใจผิดแล้วก็มาด่าพี่สาดเสียเทเสียแบบนี้พราวไม่ชอบเลย พราวจะให้พวกที่ด่าพี่ได้รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร”“อย่าเชียวนะพราว ห้ามไปโพสต์อะไรในเฟซนั้นเด็ดขาด บอกคนที่บ้านด้วยว่าปล่อยเฟซนั้นไปเลยไม่ต้องเข้าไปอ่านเลยยิ่งดีจะได้ไม่ประสาทเสีย อย่าเข้าไปแสดงตัวอะไรทั้งนั้นเพราะอาจโดนหางเลขไปด้วย พี่มีวิธีจัดการของพี่ ตอนนี้แค่รอให้ตำรวจที่นี่เขาทำงานไปก่อน อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวทุกอย่างก็เปิดเผยออกมา
พราวนภามองดูนาฬิกาบนหัวเตียงแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ใกล้เที่ยงคืนแล้วแต่ยังไร้วี่แววสายเรียกเข้าจากนฤบดินทร์ ทั้งที่ปกติชายหนุ่มจะต้องวิดีโอคอลมาหาตั้งแต่ช่วงหนึ่งหรือสองทุ่มแล้วเธอไม่กล้าโทร. หาเขาก่อนเพราะไม่แน่ใจว่าเวลานี้นฤบดินทร์กำลังเข้าคลาสเรียนหรือไม่ ดังนั้นหากเป็นเวลาช่วงนี้พราวนภาจึงมักเฝ้ารอให้เขาเป็นฝ่ายโทร. มาหา เว้นเสียแต่ว่าเวลาที่บอสตันเป็นช่วงกลางคืนที่เขาไม่มีเรียน เธอถึงจะกล้าโทรศัพท์ไปหาเขา“สงสัยอ่านหนังสือจนหลับไปแล้วมั้งเนี่ย” แม้รูปลักษณ์ของนฤบดินทร์จะดูเป็นหนุ่มเสเพลเจ้าสำอาง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าความจริงแล้วชายหนุ่มเป็นคนทุ่มเทและจริงจังกับสิ่งที่ตนสนใจอย่างยิ่งยวดตอนเรียนปริญญาตรีในช่วงใกล้สอบ เขาเหมือนทำตัวสบาย ๆ ไม่แยแสเรื่องผลการเรียน ซึ่งผลก็ออกมาดีเลิศทุกครั้งจนหลายคนคิดว่าเขามีมันสมองที่ฉลาดปราดเปรื่อง แต่คนเหล่านั้นไม่รู้เลยว่านฤบดินทร์อ่านหนังสือหนักแค่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำได้ล้วนมาจากความเพียรพยายามของเขาทั้งสิ้น“เอ๊ะ! หรือจะไม่สบาย” นึกถึงเรื่องนี้ก็อดเป็นห่
จริงสินะ เขาก็ลืมไปเลยว่าพ้นเที่ยงคืนวันนี้ไปจะเป็นวันเกิดของเขา“พี่ดินอธิษฐานนะ พราวจะเป่าเทียนให้เอง”“อธิษฐานอะไรดีล่ะ อธิษฐานไปแล้วไม่ได้ตามที่ขอก็แย่น่ะสิ” เขาอดยิ้มไม่ได้ ยิ่งเห็นหน้าเธอก็ยิ่งอยากเจอตัวเป็น ๆ อยากกอดให้เต็มอ้อมแขน อยากจูบให้หายคิดถึง“แล้วพี่ดินจะอธิษฐานอะไรล่ะ” เธอถามโดยที่มือยังถือคัพเค้กไว้อย่างนั้น และเทียนก็ยังไม่ถูกเป่า“อยากให้พราวมาหาพี่ที่นี่ไง คิดว่าจะเป็นไปได้ไหมล่ะ” เขาเห็นเธอยิ้มกว้างจนหน่วยตาเรียวเล็ก“อันนี้พราวก็ไม่แน่ใจนะพี่ว่าจะสมหวังดังที่ขอไหม ต้องขึ้นอยู่กับคุณพ่อแล้วละ ถ้างั้นพราวเป่าเทียนให้พี่นะ” เธอพูดจบก็ห่อปากเป่าเทียนเล่มนั้น และช่วยไม่ได้เลยที่ผู้ชายอย่างเขาจะอดคิดลึกไม่ได้“เอาไว้กลับถึงเมืองไทยแล้วจะให้เป่าเทียนเล่มใหญ่กว่านี้”เขาพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะหัวเราะดังลั่นห้องกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของพราวนภา“เทียนพรรษารึไง ไม่เอาหรอก อันนั้นต้องใช้พัดลมเป่าแล้วมั้ง”“อันนั้นก
“แหม พี่ดินไม่ต้องคิดมากเรื่องพราวหรอก พราวมากกว่าที่น่าจะเป็นฝ่ายคิดมาก พี่ไปอยู่ที่นั่นไม่รู้จะมีสาว ๆ มาปิ๊งบ้างไหม ตัวเองยิ่งเสน่ห์แรงอยู่” เธอทำหน้ายู่ใส่เขา ชายหนุ่มยิ้มให้แล้วพูดว่า“มีอะไรต้องคิดมากละหืม...พราวน่าจะรู้ดีที่สุดว่าพี่เป็นคนยังไง พี่ชอบกินอะไรก็จะกินอยู่แต่อย่างนั้นไม่เคยเบื่อ กับพราวก็เหมือนกัน”พราวนภารู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันที แม้เขาจะไม่ได้บอกรักออกมาโต้ง ๆ แต่ประโยคของเขากลับฟังแล้วรู้สึกได้ถึงความหนักแน่นในหัวใจของคนพูดได้เป็นอย่างดีนฤบดินทร์ยืนกอดอกมองแมทธิวจ้วงกำปั้นใส่กระสอบทรายรัว ๆ อย่างไม่มีแบบแผนแต่กระสอบทรายแทบไม่ขยับ เขาเริ่มรู้สึกทนมองไม่ได้จึงต้องตะโกนสั่งให้หยุดแล้วเดินเข้าไปหาพลางสวมนวมให้ตัวเองไปด้วย“นายเหวี่ยงหมัดแบบนั้นไม่ได้เพราะจะทำให้เหนื่อยง่ายและความแรงของกำปั้นไม่เพียงพอ นายดูนี่”ชายหนุ่มยืนแยกขาเล็กน้อย ตั้งการ์ดขึ้นแล้วพูดต่อ “ตั้งการ์ดไว้ตลอดเวลา ถ้านายถนัดขวานายต้องเอาแขนขวาไว้ข้างหลังแล้วให้แขนซ้ายอยู่ข้างหน้าเล็กน้อยเ
“ก็ไม่มีนะ ทุกอย่างมันเป็นไปเองตามธรรมชาติ บางเรื่องมันไม่ต้องพูดอะไรเยอะแยะหรอก แค่มองตาก็รู้กัน” เขาไม่เคยจีบพราวนภาก่อน และเธอก็ไม่เคยจีบเขาเช่นกัน เขารู้แต่ว่าสายใยเส้นบาง ๆ ระหว่างกันยิ่งนานวันก็ยิ่งถักทอแน่นหนาขึ้นเรื่อย ๆ กว่าจะรู้ตัวอีกที พราวนภาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาไปแล้ว“เออ! พ่อคนหล่อ รีบกินเถอะย่ะ จะได้ไปคุยกับแมทธิว เขารอแกอยู่ที่ร้านเนี่ย” หญิงสาวนั่งเท้าคางกดดันให้เพื่อนรีบกิน เพราะเวลานี้แฟนหนุ่มของตนรอคุยรายละเอียดเรื่องการเรียนชกมวยกับเขาอยู่ในเวลาเดียวกัน ห้องพักของอันธิกายังคงสลัวลางเพราะเจ้าของห้องไม่ยอมรูดม่านเพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามา หญิงสาวนอนมองเพดานด้วยแววตาเลื่อนลอย ภาพในอดีตหลั่งไหลเข้ามาในหัวฉากแล้วฉากเล่ามัธยมปลาย เธอเคยเป็นดาวเด่นของโรงเรียน เพราะนอกจากหน้าตาสะสวยแล้วยังเรียนเก่งอีกด้วย เธอเคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน ไปไหนมีแต่คนมองด้วยความชื่นชม วันวาเลนไทน์มีแต่หนุ่ม ๆ มาให้ดอกไม้เธอเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศได้ บิดามารดาต่างดีใจ ญาติ ๆ และเพื่อนบ
หลังจากส่งบิดามารดาของพวกตนขึ้นรถกลับไปแล้ว อภัสราก็หันมาพูดกับพราวนภาทันทีราวกับตนเก็บคำพูดนี้ไว้นานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้พูด“พราว! นั่นพ่อเธอจริง ๆ น่ะหรือ หล่อมากกก” คำสุดท้ายเจ้าตัวลากเสียงยาวจนกาญจน์เกล้าได้แต่ยิ้มพลางส่ายหน้าไปมา“ก็จริงน่ะสิ เธอว่าหน้าฉันไม่เหมือนคุณพ่อหรือ มีแต่คนบอกว่าเหมือนจะตายไป ลักยิ้มยังมีข้างเดียวกันเลย” พราวนภาชี้ลักยิ้มของตัวเองบนแก้มซ้าย ก่อนจะพูดต่อ“ตอนหนุ่ม ๆ คุณพ่อหล่อกว่านี้อีก คุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยที่ท่านเป็นนักบินนะ สาว ๆ เพียบเลย” เธอหมายถึงแม่จันทร์เจ้าที่เป็นคนเล่าให้ฟัง เพราะตอนที่บิดาคบหากับแม่มัลลิกาแล้วนั้น ท่านถอดเขี้ยวเล็บแล้ว“เคยเป็นนักบินมาก่อนนี่เอง มิน่าละ บุคลิกคุณพ่อเธอถึงดูดีมากเลย แต่ท่านก็ยังดูหนุ่มอยู่มากจริง ๆ นะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีลูกสาววัยมหา’ลัยแบบเธอแล้วน่ะ บ้านเธอนี่หน้าตาดีกันทั้งครอบครัวเลยจริง ๆ เพราะคุณแม่เธอก็สวยแซ่บมาเชียว” กาญจน์เกล้าพูดขึ้นบ้าง ยอมรับว่าตอนแรกที่เห็นบิดามารดาของพราวนภายังอดแปลกใจไม่ได