Share

บทที่ 13

Author: แสงอรุณฤดูใบไม้ผลิ
เจี่ยงหรูหันไปมองจี้อี่หนิง "หลายวันมานี้เธอได้ความรู้อะไรจากห้องปฏิบัติการไปบ้าง?"

"ฉันเคยสังเกตค่ะ ตอนนี้สิ่งที่ห้องปฏิบัติการกําลังทําคือการวิจัยพัฒนายารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ปัจจุบันการวิจัยและพัฒนายาคืบหน้าประมาณ 50% และกําลังเตรียมที่จะใช้หนูทดลองเป็นขั้นตอนการทดลอง"

สีหน้าของเจี่ยงหรูที่ได้ยินดังนั้นก็ดีขึ้นมาหน่อย พร้อมกับแววตาที่หันไปมองจี้อี่หนิงก็แฝงไปด้วยความชื่นชม

"ดีมาก สำหรับการใช้เครื่องมือทดลอง เธอได้เรียนรู้เป็นยังไงบ้าง?"

"ก็ศึกษาจนพอได้หมดแล้วค่ะ"

หลิ่วอี๋หนิงที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วหันไปมองจี้อี่หนิง "อี่หนิง ฉันรู้ว่าเธอต้องการที่จะทำการทดลองด้วยตัวเองโดยเร็วที่สุด แต่เธอต้องรู้ว่าการทดลองเป็นสิ่งที่เข้มงวดมาก อีกทั้งมีเครื่องมือหลายชนิดที่ช่วงนี้เรายังไม่เคยใช้ ทำไมเธอถึงพูดว่าเธอศึกษาจนพอได้หมดแล้วล่ะ?"

สีหน้าของจี้อี่หนิงนั้นสงบนิ่ง "เครื่องมือพวกนี้สมัยเรียนมหาวิทยาลัยฉันเคยใช้หมดแล้ว"

"เธอเองก็บอกว่าเรียนในมหาวิทยาลัย เธอไม่ได้เข้าห้องปฏิบัติการมาหลายปีแล้ว ต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น สิ่งที่เราทําคือการพัฒนายา จะประมาทไม่ได้แม้แต่น้อยเลยนะ"

"คุณรู้ได้ยังงไงว่าฉันไม่ได้เรียนรู้ตั้งแต่ต้นใหม่?"

หลิ่วอี๋หนิงกัดริมฝีปาก มองเธอด้วยสีหน้าผิดหวัง "หลายวันมานี้เธอยุ่งอยู่กับงานจิปาถะของห้องปฏิบัติการ เธอว่างเรียนตอนไหน? จะโกหกเพราะอยากแสดงความสามารถต่อหน้าพี่หรูไม่ได้นะ"

จี้อี่หนิงหัวเราะ "ที่แท้คุณก็รู้ว่า ฉันมัวแต่ยุ่งกับงานจิปาถะที่ถูกจัดไว้ให้ฉันจนฉันไม่มีเวลาเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมือทดลองเลย?"

สีหน้าของหลิ่วอี๋หนิงแข็งทื่อ จิกเล็บในฝ่ามือโดยไม่รู้ตัว

เธอประมาทจี้อี่หนิงเกินไป!

"อี่หนิง...นี่เธอกำลังสงสัยว่าฉันจงใจแกล้งเธอ ไม่ให้เธอเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมือเหรอ?"

"จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะ ฉันซาบซึ้งใน 'ความดูแล' ของคุณหลิ่วมากเลยนะคะ"

หลิ่วอี๋หนิงยังอยากจะพูดต่อ เจี่ยงหรูที่อยู่ด้านข้างก็พูดขัดเธอ

"เอาล่ะ ในเมื่อเธอบอกว่าศึกษาจนพอได้หมดแล้ว พอดีการทดลองในวันนี้มาถึงขั้นตอนการสกัด เธอมาดำเนินขั้นตอนนี้"

จี้อี่หนิงพยักหน้า เดินไปที่เครื่องมือเพื่อเริ่มต้นการทำงาน

ในตอนแรกหลิ่วอี๋หนิงยังวางแผนที่จะรอให้เธอทําผิดพลาดเพื่อฉวยโอกาสทําให้เจี่ยงหรูเกลียดเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าจี้อี่หนิงจะทําได้แม่นยําและสมบูรณ์แบบทุกขั้นตอน

จนกระทั่งเสียงชื่นชมของเจี่ยงหรูดังขึ้นในหู หลิ่วอี๋หนิงจึงสติได้ พร้อมกับความตื่นตระหนกที่หายไปนานก็ผุดขึ้นในใจ

เมื่อก่อนตอนที่บ้านของจี้อี่หนิงยังไม่ได้ล้มละลาย เธอยังต้องตามหลังจี้อี่หนิง คนอื่นก็จะเห็นแต่จี่จี้อี่หนิงจนมองข้ามเธอ

ตอนนี้ เธอมักจะรู้สึกว่าเธอกลับไปใช้ชีวิตที่ถูกออร่าของจี้อี่หนิงปกคลุมอีกครั้ง

หรือว่าเธอจะอยู่ใต้เงาของจี้อี่หนิงตลอดชีวิตเหรอ?

เธอไม่ยอม!

เมื่อเอ่ยชมจี้อี่หนิงเสร็จ เจี่ยงหรูก็เรียกเธอเข้าไปในห้องทํางานของเธอทันที พร้อมกับส่งเอกสารฉบับหนึ่งให้เธอ

"บริษัทเตรียมวิจัยและพัฒนายารักษาโรคหอบหืด นักวิจัยคนอื่น ๆ ล้วนมีงานทำตอนนี้ ฉันจึงตั้งใจจะมอบโปรเจ็กต์นี้ให้เธอ เธอมั่นใจไหม?"

จี้อี่หนิงตะลึงไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเจี่ยงหรูจะมอบงานสำคัญขนาดนี้ได้เร็วขนาดนี้

เธอพลิกดูข้อมูลเสร็จ ก็หันไปมองเจี่ยงหรูพร้อมกับเอ่ยว่า "พี่หรู ฉันไม่สามารถทำงานนี้ให้เสร็จคนเดียวได้ค่ะ"

"ฉันรู้ งานของหลิ่วอี๋หนิงจะสิ้นสุดลงในอีกหนึ่งหรือสองเดือน เมื่อถึงเวลานั้นให้ทีมของเขามาช่วยเธอ"

พอได้ยินชื่อหลิ่วอี๋หนิงสามคำนี้ จี้อี่หนิงก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

ตามความเกลียดชังของหลิ่วอี๋หนิงที่มีต่อเธอ จะไม่มีทางช่วยเธออย่างเด็ดขาด ไม่แน่ว่าอาจจะแอบคํวางแผนทำร้ายด้วย

แต่ว่าพวกเธออยู่ห้องปฏิบัติการเดียวกัน อีกฝ่ายจะจัดการกับเธอจริง ๆ หนีก็ไม่มีประโยชน์

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จี้อี่หนิงก็พยักหน้า "ค่ะ ฉันทราบแล้วค่ะพี่หรู"

"ดี ตั้งใจทำงาน ต่อไปจะต้องมารายงานความคืบหน้ากับฉันทุกสัปดาห์ เธอไปเตรียมตัวเถอะ"

เมื่อออกจากห้องทำงานของเจี่ยงหรู จี้อี่หนิงเพิ่งกลับถึงหน้าห้องปฏิบัติการ ก็ถูกหลิ่วอี๋หนิงขวางเอาไว้

"จี้อี่หนิง เธอจงใจใช่ไหม?"

สีหน้ากรุ่นโกรธของอีกฝ่าย แต่สีหน้าของจี้อี่หนิงกลับไม่มีความผันผวนแม้แต่น้อย

"เธอกำลังพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ"

หลิ่วอี๋หนิงแสยะยิ้ม "หลายวันมานี้ฉันวางแผนงานจิปาถะให้เธอพวกนั้น เธอไม่ต่อต้านสักคำ ก็ต้องการให้ตอนที่พี่หรูมา จากนั้นก็วางแผนทำให้เธอรู้ว่าฉันตั้งใจแกล้งเธอไม่ใช่เหรอ?"

เดิมทีจี้อี่หนิงไม่อยากคุยกับเธอ แต่เห็นเธอมั่นใจขนาดนี้ สายตาก็มืดมนลง

"หรือว่าเธอไม่ได้จงใจแกล้งฉัน?"

"ถึงแม้ว่าฉันจะจงใจแกล้งเธอแล้วจะเป็นยังไง มีคนที่มาใหม่คนไหนบ้างที่ไม่ได้ทำเหมือนเธอ เธอคงไม่นึกว่าเธอยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลจี้ โลกจะหมุนรอบตัวเธอหรอกนะ?"

ขณะที่มองดูท่าทางของหลิ่วอี๋หนิงที่พูดจากระแนะกระแหน จี้อี่หนิงก็รู้สึกเพียงว่าเมื่อก่อนตัวเองตาบอด ว่าตัวเองกลับมองเธอเป็นเพื่อนจริง ๆ

"ฉันไม่ใช่คนใหม่ที่กล้ำกลืนฝืนใจ อย่ามาคิดว่าจะทำอะไรกับฉันก็ได้ เรื่องเมื่อก่อนก็ช่างมันเถอะ วันหลังถ้ายังวางแผนมาแกล้งฉันอีก ฉันก็จะไม่นึกมิตรภาพในวันวานอีก"

เดิมทีหลิ่วอี๋หนิงอยากจะโต้แย้งเธอ แต่หลังจากที่สบเข้ากับนัยน์ตาที่เย็นชาของจี้อี่หนิง กลับรู้สึกใจลอยขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะหนึ่ง สิ่งที่ตั้งจะพูดก็ลืมไปหมดแล้ว

จี้อี่หนิงไม่ได้สนใจเธออีกต่อไป หมุนตัวหันหลังจากไปทันที

พอเลิกงานกลับมาถึงบ้าน หลังจากที่จี้อี่หนิงต้มบะหมี่แบบง่าย ๆ ก็เริ่มตรวจสอบหาข้อมูลเพื่อเตรียมการพัฒนายา

ขณะที่ค้นหาอยู่นั้น ความง่วงก็ถาโถมเข้ามา เธอจึงฟุบหลับลงบนคอมพิวเตอร์

ขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับนั้น ก็รู้สึกว่ามีคนอุ้มเธอขึ้นมาวางบนเตียงในห้องนอน

จี้อี่หนิงพลิกตัวกำลังจะนอนต่อ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าอยู่คนเดียว จึงตกใจตื่นขึ้นมากะทันหัน

เธอลืมตาขึ้นมาอย่างแรง สายตาก็เห็นหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาและปลายคางของเสิ่นเยี่ยนจือ ในขณะที่ใจโล่งใจอย่างรุนแรง ความกรุ่นโกรธก็พรั่งพรูเข้ามา

"คุณเข้ามาได้ยังไง?!"

เธอลุกขึ้นนั่งและมองเสิ่นเยี่ยนจือด้วยสีหน้าเย็นชา ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ

"อี่หนิง ผมไม่ได้นอนมาแล้วสามวันสามคืน เพื่อให้ทันกลับมาก่อนกำหนด ให้ผมพักก่อนสักหน่อยได้ไหม?"

น้ำเสียงของเขาแหบพร่า เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

ตอนนี้จี้อี่หนิงถึงได้พบว่า ผมสั้นที่ปกติเขามักจะหวีอย่างพิถีพิถันนั้นยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดวงตาทั้งคู่ของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ตอเคราสีเขียวจํานวนมากก็โผล่ออกมาจากคางของเขา ดูแล้วน่าเวทนาเล็กน้อย

ถ้าเป็นเมื่อก่อน จี้อี่หนิงจะสงสารเขา แต่ตอนนี้เธอแค่รู้สึกเบื่อหน่าย

สาเหตุที่เขารีบกลับมาก่อนกําหนด ไม่ใช่เพราะอยากเจอเธอเร็ว ๆ แต่กลัวเธอจะเอาเรื่องที่ฉินจืออี้ท้องไปบอกที่บ้านเดิม ส่งผลกระทบต่อสถานะของเขาในเสิ่นซื่อกรุ๊ป

"ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกตำรวจ"

ทันทีที่พูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมา

เพิ่งจะศูนย์ได้ตัวเดียว โทรศัพท์ก็ถูกแย่งไปแล้ว

เสิ่นเยี่ยนจือมองเธอด้วยสีหน้าเศร้าโศก ราวกับว่าเธอเพิ่งจะทำเรื่องอะไรที่ชั่วร้ายลงไป

"อี่หนิง คุณรังเกียจผมขนาดนี้เลยเหรอ?"

จี้อี่หนิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ตัวเองสงบลง "คำถามแบบนี้ไม่มีความหมายเลยสักนิด คุณไปเถอะ ฉันไม่อยากเห็นคุณ"

"ผมไม่ไป คุณเป็นเมียของผม คุณอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ที่นั่น!"

จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว ขณะที่กำลังจะพูด โทรศัพท์ที่เสิ่นเยี่ยนจือถืออยู่ในมือก็ดังขึ้น

เมื่อเห็นว่าเป็นสายมาจากโรงพยาบาล เสิ่นเยี่ยนจือก็รับสายอย่างไม่ลังเล

"คุณจี้คะ รบกวนคุณรีบมาที่นี่ พ่อของคุณเป็นลมกะทันหันค่ะ!"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 340

    จี้อี่หนิงแววตาเต็มไปด้วยความรำคาญ “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ และก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นตัวอันตรายอะไร สำหรับฉัน เธอก็แค่คนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้นเอง”เสิ่นเยี่ยนจือสีหน้าเจือความจนใจเล็กน้อย “เธอไม่ต้องดื้อขนาดนี้ก็ได้ เราก็เคยรักกันมาก่อน ถึงแม้ตอนนี้จะเลิกกันไปแล้ว ผมก็ยังอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น แค่อาเล็กของผม เขาไม่เหมาะกับเธอเลยจริงๆ”จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระพวกนี้ หลบไป!”วันนี้เธอเจอหลี่เหวิน เดิมทีก็อารมณ์ดีอยู่แล้ว ไม่นึกว่าจะมาเจอเสิ่นเยี่ยนจือเลยทำให้อารมณ์ดีๆ หายหมดฉินจืออี้ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะ “เยี่ยนจือ เธอไม่ต้องพูดแล้ว ปล่อยให้เธออยากเป็นเมียน้อยเถอะ ยังไงคนที่น่าอับอายสุดท้ายก็ไม่ใช่เธออยู่ดี”เดิมทีจี้อี่หนิงไม่คิดจะสนใจพวกเขาแล้ว แต่พอได้ยินแบบนี้ก็อดหันไปมองฉินจืออี้ไม่ได้“พูดถึงเรื่องเป็นเมียน้อย คุณฉินน่าจะมีประสบการณ์นะ ก็ในเมื่อเธอเองก็ได้ขึ้นแท่นภรรยาจากการเป็นเมียน้อยนี่ไม่ใช่เหรอ?”ใบหน้าฉินจืออี้เปลี่ยนสีทันที ตะโกนว่า “จี้อี่หนิงเธอพูดบ้าอะไร?! ฉันกับเยี่ยนจือจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ตอนนี้ฉันคือคุณนายเสิ่นอย่างถู

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 339

    หลังจากที่รุ่นพี่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอก็ไปเรียนต่อที่เมืองเป่ย์เฉิง ส่วนจี้อี่หนิงกลับมาที่เมืองเซิน นับๆ ดูแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 4 ปีแล้วจี้อี่หนิงตอบกลับข้อความ จากนั้นก็ถามว่าโรงแรมของรุ่นพี่อยู่ที่ไหน แล้วก็หาร้านอาหารท้องถิ่นใกล้โรงแรมไว้หนึ่งแห่งตอนหกโมงเย็นกว่าๆ จี้อี่หนิงเพิ่งเดินเข้าไปในร้านอาหาร ก็เห็นผู้หญิงผมสั้น หน้าเหมือนตุ๊กตาคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่างโบกมือให้เธอ“อี่หนิง นี่!”เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของรุ่นพี่แล้ว จี้อี่หนิงก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย มุมปากของเธอก็เผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัวชื่อของรุ่นพี่คือหลี่เหวิน เป็นผู้เรียนเก่ง พอเรียนต่อก็สอบเข้าเรียนปริญญาเอกโดยไม่ต้องสอบอีกครั้ง ครั้งนี้มาเข้าร่วมงานสัมมนาพร้อมอาจารย์ที่ปรึกษาหลังจากจี้อี่หนิงนั่งลง หลี่เหวินก็พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “อี่หนิง เธอแทบไม่เปลี่ยนไปจากสมัยเรียนเลยนะ”“รุ่นพี่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย พอเห็นพี่ก็ทำให้นึกถึงตอนที่พี่พาหนูทำการทดลองสมัยเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ"“อย่าเลย... พี่ไม่กล้ารับคำชม หลังๆ ก็เป็นเธอที่คอยช่วยพี่ด้วยซ้ำ ว่าแต่ สามีเธอล่ะ?

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 338

    ไม่นาน ซุนสิงก็กลับมา"ประธานเสิ่นครับ เช้านี้คุณจี้มีปากเสียงกับพนักงานของชิงหงที่หน้าประตูลิฟต์ คุณจี้ถูกผลักจนล้ม เวินลี่เจ๋อน่าจะพาคุณจี้ไปโรงพยาบาลครับ"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีการปะทะกัน?"ซุนสิงลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยความระมัดระวัง "ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่คุณกับคุณฉีกลับมาคบกัน... นี่คือวิดีโอจากกล้องวงจรปิด คุณดูเองเลยครับ"เสิ่นซื่อรับแท็บเล็ตจากมือซุนสิง แล้วเปิดดูวิดีโอ กลับพบว่าหน้าตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก"ไล่ออกพนักงานที่ก่อเรื่องคนนั้น""ประธานเสิ่นครับ อย่างนี้จะไม่ดีเหรอครับ? เพราะว่าคุณจี้ก็ยังตบพนักงานคนนั้นเหมือนกัน"เสิ่นซื่อมองไปที่ซุนสิงด้วยสีหน้าที่เย็นชา "ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยประกาศว่าในบริษัทห้ามพูดถึงเรื่องส่วนตัวของผม"เมื่อเห็นดวงตาของเขามีความโกรธ ซุนสิงก็รีบพูดว่า "ครับ ผมจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้ครับ"ไม่นาน ข่าวการถูกไล่ออกของพนักงานคนนั้นก็แพร่กระจายไปในบริษัท พร้อมกับประกาศฉบับหนึ่ง【พนักงานทุกคนของชิงหง หากมีใครพูดถึงเรื่องส่วนตัวของประธานบริษัท หรือสร้างปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะถูกไล่ออกทันที!】พนักงานคนอื่นๆ ที่เคยพูดถ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 337

    "เธอกับเธอเป็นอะไร ทำไมต้องช่วยเธอ?"ผู้หญิงพยายามจะสะบัดมือเขาออก แต่ไม่สำเร็จ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ"ผมกับเธอเป็นอะไรไม่จำเป็นต้องบอกเธอ พฤติกรรมที่เธอผลักเธอลงไปเมื่อกี้ถูกกล้องวงจรปิดจับได้หมดแล้ว เดี๋ยวผมจะพาเธอไปตรวจอาการ บิลค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายทางจิตใจ ผมจะให้ทนายคุยกับเธอ""ฮ่ะๆ เธอก็ไม่ได้ตบฉันเหรอ? ตรวจอาการ ใครๆ ก็ทำได้! ฉันก็จะไปตรวจ!"เวินลี่เจ๋อมีแววความเย็นชาในตา เขาเข้าใกล้ผู้หญิงและพูดเสียงต่ำที่มีแค่สองคนฟังได้: "เธอควรอธิษฐานให้เธอไม่มีอะไร มิฉะนั้นผมจะฆ่าเธอ!"เสียงของเขาเย็นชาและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทำให้ผู้หญิงรู้สึกหนาวเยือกในใจเธอมีลางสังหรณ์ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ขู่เธอ เขากำลังพูดจริง!ขณะที่เธอยืนอึ้งไปด้วยความกลัว เขาก็ปล่อยมือเธอและหันหลังเดินไปทันที โดยอุ้มจี้อี่หนิงขึ้นและเดินเร็วไปที่ประตูจี้อี่หนิงไม่คิดว่า เมื่อคืนนี้ที่เธอพูดกับเวินลี่เจ๋อเขาจะช่วยเธอในวันนี้จนกระทั่งออกจากประตู เธอถึงได้สติและรีบพูดว่า: "ปล่อยฉันลงก่อน ฉันเดินเองได้ และก็ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ"ถึงแม้จะล้มแรง แต่คงไม่กระทบกระดูกอ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 336

    เสียงแตรดังขึ้นจากข้างหลัง จี้อี่หนิงหันกลับไปและรีบขับรถไปจอดข้างทางเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของเธอสั่นสายยังคงเชื่อมต่ออยู่ เสียงของสือเวยที่เต็มไปด้วยความกังวลดังออกมาจากโทรศัพท์"อี่หนิง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่มีอะไรใช่ไหม? เธอกำลังขับรถไปทำงานใช่ไหม? ฉันมันโง่จริงๆ ไม่ควรบอกข่าวนี้ตอนนี้เลย!"จี้อี่หนิงเช็ดน้ำตาที่มุมตาแล้วพูดเสียงเบาๆ "ไม่มีอะไร แค่โทรศัพท์หลุดจากมือไป""ถ้าไม่มีอะไรฉันก็โล่งใจ... ฉันไม่ควรโทรหาตอนนี้จริงๆ..."เสียงของสือเวยเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอเห็นข่าวนั้นเธอโกรธมากจนไม่ได้คิดอะไร รีบโทรหาจี้อี่หนิงตอนนี้คิดแล้วรู้สึกเสียใจสุดๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับจี้อี่หนิง เธอคงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้!"อืม ฉันต้องขับรถแล้ว เอาไว้คุยทีหลัง"พูดจบ จี้อี่หนิงก็วางสายเธอสูดหายใจลึก เปิดเว็บค้นหาเกี่ยวกับเสิ่นซื่อและฉีรั่วอวี่ข่าวทั้งหมดที่ปรากฏคือพวกเขาประกาศกลับมาคบกัน【รอแฟนเก้าห้าปี CEOชิงหง เสิ่นซื่อในที่สุดก็สมหวัง!】【เปิดเผยสาเหตุที่เสิ่นซื่อโสดมานาน เพราะรอแฟนเก่าไปเรียนต่อต่างประเทศ!】【เผยข่าวเสิ่นซื่อกับแฟนเก่ากลับมาคบกัน ทั้งค

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 335

    เสิ่นซื่อสีหน้าเย็นชา "วันนั้นที่เธอกลับมาประเทศ"เหนียเว่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย เขาสูดหายใจลึกก่อนพูดอย่างช้าๆ: "ที่เธอเลิกกับจี้อี่หนิงแล้วกลับไปอยู่กับรั่วอวี่ก็เพราะเธอเหลือเวลาแค่สามเดือนใช่ไหม?"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "ผมไม่ได้กลับไปคบกับเธอ"เขาแค่สัญญาว่าจะอยู่กับเธอในช่วงสามเดือนนี้ แต่ไม่ได้ตั้งใจจะกลับไปคบกัน"งั้น... เธอไม่รักรั่วอวี่แล้วจริงๆ เหรอ?""ตั้งแต่วันที่เธอเลือกจะไปต่างประเทศ พวกเราก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว"มือที่ลงข้างลำตัวของเหนียเว่ยชิงกำแน่นทันที สีหน้าก็เริ่มตื่นเต้น "แต่รั่วอวี่รักเธอมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนเลย และตอนนี้รั่วอวี่เหลือเวลาแค่สามเดือน เธอช่วย... หลอกรั่วอวี่สักหน่อยไม่ได้เหรอ?""ไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมกับจี้อี่หนิง"เขาให้เธอรอเขาสามเดือน และก็เคยให้สัญญาว่าจะไม่กลับไปคบกับฉีรั่วอวี่แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อ เขาก็จะไม่ลืมคำสัญญานั้น"อะไรที่ไม่ยุติธรรมล่ะ?รั่วอวี่ต้องการแค่สามเดือน หลังจากนั้นเธอก็สามารถกลับไปหาจี้อี่หนิงได้ นี่คือคำขอสุดท้ายของรั่วอวี่ ถึงแม้เธอจะไม่รักรั่วอวี่แล้ว แต่ครั้งหนึ่งพวกเธอก็เคยรักกัน เธอจะใจแข็งปล่อยให้รั่วอวี่จากไปอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status