Share

ตอนที่7 หลบหนี

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-12 09:27:50

จ้าวหลี่เชี่ยนวิ่งฝ่าสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ไม่สนใจว่ามันอาจจะทำให้นางล้มป่วย นางขอเพียงแค่ไปให้พ้นจากคนผู้นั้นโดยเร็วที่สุดก็พอแล้ว

หัวใจของนางเจ็บปวดและบอบช้ำอย่างหนัก นางรู้สึกสับสนไปหมด ไม่อาจที่จะสลัดคนผู้นั้นออกจากความคิดได้เลย

ฝ่ามือเล็กกอบกุมหัวใจที่ปวดร้าวจนเจ็บแน่น นางไม่อาจทนแบกรับความผิดหวังและเสียใจนั้นได้ไหว เพียงก้าวเข้ามาในเรือน ร่างบอบบางก็อ่อนปวกเปียกทรุดฮวบลงกับพื้นรอบกายมืดมนไปหมด นางหมดสติไปด้วยความโศกเศร้าที่ท่วมท้นหยาดน้ำตายังคงนองใบหน้า

เมื่อฟื้นคืนสติจ้าวหลี่เชี่ยนพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในเรือนของนางเอง แต่ทันทีที่ลืมตาขึ้นเสียงที่คุ้นเคยก็เอ่ยเรียกนางพร้อมกับสัมผัสอบอุ่นเข้ามากอบกุมมือของนางเอาไว้

"คุณหนูฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ"

ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนตรงหน้าทำให้น้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วไหลออกมาอีกครั้ง ความรักความห่วงใยและร่องรอยความโศกเศร้าในดวงตาของอีกฝ่ายทำให้นางรู้สึกผิด

"แม่นมผิง ข้าขอโทษเจ้าค่ะที่ทำให้ท่านต้องทุกข์ใจ"

จ้าวหลี่เชี่ยนลุกขึ้นนั่งตามการประคองของสตรีที่ใบหน้ายังคงมีร่องรอยของความเหนื่อยล้า ใบหน้าซีดขาวนั้นดูหม่นหมอง นั่นยิ่งทำให้นางยิ่งรู้สึกผิด จึงโผเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นที่นางใช้เป็นที่พักพิงเสมอยามรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแอและโดดเดี่ยว

"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะคุณหนู ท่านอย่าได้คิดมากนะเจ้าคะ ขอให้ท่านรู้เอาไว้ว่าท่านไม่ได้อยู่เพียงผู้เดียว ท่านยังมีบ่าวและถิงถิง ไม่ว่าอย่างไรบ่าวคนนี้ก็จะอยู่ข้างกายคุณหนูเสมอ"

แม่นมผิงโอบกอดผู้เป็นนายเอาไว้แน่น น้ำตาของอีกฝ่ายทำให้นางปวดใจ ฝ่ามืออุ่นลูบแผ่นหลังบอบบางอย่างต้องการปลอบประโลม เหตุใดนางจะไม่รู้ว่าคุณหนูของนางนั้นเจ็บปวดเพียงใดกับความรักที่ไม่สมหวัง ความรักมันช่างมีอานุภาพร้ายแรงเหลือเกิน ทำร้ายและทำลายคนที่นางรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างสั่นเทาในอ้อมแขนของนางในตอนนี้ไม่ต่างกับผู้เป็นมารดาในอดีต เพราะเหตุใดกันนะดวงใจของนางทั้งสองจึงถูกคำว่ารักทำร้ายอยู่เสมอ สวรรค์ลิขิตให้อาภัพในรักหรืออย่างไร

"ขอบคุณเจ้าค่ะ ขอบคุณจริงๆ"

เมื่อร้องไห้จนพอใจจึงได้เอ่ยออกมา เสียงของนางแทบไม่ต่างจากเสียงกระซิบ ในขณะนั้นที่นางรู้สึกหมดสิ้นความหวัง ทำให้นางหลงลืมว่ายังมีคนที่รักและห่วงใยนาง นางช่างเห็นแก่ตัวที่ปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองทำร้ายคนที่รักและหวังดีกับนางที่สุด

เมื่อจิตใจสงบลงนางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงบุรุษผู้นั้น คิดทบทวนถึงความโง่เขลาของตัวเอง หากมองย้อนกลับไปถึงความสัมพันธ์ของนางกับเขา นางก็ตระหนักว่านางพยายามเพิกเฉยกับการกระทำน่าสงสัยบางอย่างของเขา นางเลือกที่จะมองข้ามความจริงระหว่างคนผู้นั้นกับพี่สาวของนาง เป็นนางที่พยายามหลอกตัวเองมาตลอด โดยหวังว่าความรักที่นางมีต่อเขาจะเพียงพอที่จะเอาชนะอุปสรรคต่างๆได้ แต่ตอนนี้นางไม่สามารถปฏิเสธความจริงนั้นได้อีกต่อไป

จ้าวหลี่เชี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึก นางไม่ต้องการรักคนผู้นั้นอีก นางจะต้องเกลียดเขา เกลียดเขาที่โกหกหลอกลวงนาง และเกลียดเขาที่ทำให้นางเชื่อในความรักที่ไม่เคยมีอยู่จริง เกลียดเขาที่ทรยศความรักของนาง

นางบอกตัวเองว่าจะไม่มีวันยกโทษให้คนผู้นั้น นางจะทิ้งความทรงจำเกี่ยวกับความรักที่มีต่อเขา นางควรจะเลิกโศกเศร้าเสียใจกับการหลอกลวงของคนผู้หนึ่งเสียที สักวันหนึ่งความเจ็บปวดเหล่านี้จะต้องทุเลาลงและนางจะลืมมันได้ในที่สุด ชีวิตของนางยังคงต้องเดินต่อไป นางยังมีสิ่งให้ต้องกังวลมากกว่าเจ็บปวดอยู่กับคนที่ไร้ใจ

"คุณหนู"

ถิงถิงเอ่ยเรียกผู้เป็นนายอย่างยินดีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นรู้สึกตัวแล้ว เดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยน้ำแกงที่มีควันลอยกรุ่นส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย เข้ามานั่งลงข้างๆ คนทั้งสอง

"บ่าวคิดว่าคุณหนูตื่นขึ้นมาคงจะหิวจึงต้มน้ำแกงมาให้เจ้าค่ะ"

"ขอบใจนะถิงถิง"

จ้าวหลี่เชี่ยนรับน้ำแกงถ้วยนั้นมาดื่มจนหมด เห็นอีกฝ่ายนำห่อผ้าออกมาจากใต้เตียงนั่นทำให้นางมองอย่างไม่เข้าใจ

"คุณหนูหนีออกไปจากที่นี่กันเถอะนะเจ้าคะ"

คำพูดนั้นของถิงถิงทำให้จ้าวหลี่เชี่ยนตกตะลึง หันไปมองสตรีอีกนางที่เลี้ยงดูพวกนางมา อีกฝ่ายนั้นคล้ายจะรอคำตอบจากนางอยู่เช่นกัน 

ความเจ็บปวดในดวงตาของผู้เป็นนาย ท่าทางราวกับไร้ชีวิตนั้นสร้างความเจ็บปวดให้บ่าวผู้ซื่อสัตย์ทั้งสองเสียยิ่งกว่า พวกนางจึงคิดที่จะพาผู้เป็นนายหนีออกไปจากที่นี่และพวกนางได้วางแผนการหลบหนีเอาไว้แล้ว

"แม่นมผิงแต่ท่านกำลังไม่สบายนะเจ้าคะ"

จ้าวหลี่เชี่ยนเอ่ยออกมาอย่างกังวล การที่จะหลบหนีออกไปจากที่แห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

"บ่าวยังไหวเจ้าค่ะคุณหนู ไปจากที่นี่กันเถอะนะเจ้าคะ"

น้ำเสียงอ่อนโยนและมั่นใจเอ่ยบอกผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ

แม่นมผิงผู้ที่ไร้ปากเสียงมาตลอด นางก้มหน้าก้มตาเลี้ยงดูคุณหนูผู้เป็นดวงใจโดยไม่เคยปริปากเอ่ยถึงเรื่องที่อยู่ภายในใจนับหมื่นล้านคำ แต่ตอนนี้นางไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป นางยอมไปตายเอาดาบหน้า ดีกว่าให้ผู้เป็นที่รักของนางต้องตกนรกทั้งเป็น

การที่เด็กสาวผู้หนึ่งต้องแต่งเป็นภรรยาของชายแก่อีกทั้งยังไร้ซึ่งความรัก มันต้องรู้สึกทุกทรมานมากมายเพียงใด การที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ตัวเองไม่รักมันคือการมีชีวิตอยู่ที่เจ็บปวดที่สุด ซึ่งนางเคยเห็นมันมาแล้วกับตาตัวเอง นางจะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านั้นต้องเกิดขึ้นมาอีกครั้ง

ผู้คนต่างก็รู้ว่าฮ่องเต้ผู้นั้นจิตใจโหดเหี้ยมเพียงใด อีกทั้งเขาเป็นผู้ที่คุณหนูของนางไม่ควรที่จะยุ่งเกี่ยวด้วยมากที่สุด คนผู้นั้นบ้าไปแล้วจึงคิดจะส่งคุณหนูไปที่นั่น

"แล้วท่านพ่อเล่าเจ้าคะ หากข้าหนีไปทุกคนในตระกูลจ้าวจะต้องเดือดร้อน การขัดราชโองการอาจมีโทษถึงประหารชีวิต"

ดูเอาเถอะ แม้จะถูกทำร้ายจิตจนถึงขนาดนี้ คุณหนูของนางก็ยังคงกังวลและห่วงใยคนเหล่านั้น ทั้งที่คนผู้นั้นไม่เคยมองเห็นค่า ทั้งกำลังจะส่งตนเองไปยังขุมนรก คุณหนูของนางช่างมีชีวิตที่น่าเวทนาเหลือเกิน

"คุณหนูฟังบ่าวนะเจ้าคะ ท่านไม่จำเป็นต้องใส่ใจคนเหล่านั้นแม้แต่น้อย ไม่จำเป็นต้องให้ค่าเลยด้วยซ้ำ เชื่อบ่าวนะเจ้าคะ ท่านไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด"

แววตาของหญิงชราเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่นางมองแล้วรู้สึกหวาดหวั่น ความกลัวสายหนึ่งแล่นขึ้นมากลางใจ มีเรื่องหนึ่งที่รบกวนจิตใจนางมาตลอด

"แม่นมผิง ท่านต้องการจะบอกอะไรข้ากันแน่ ท่านมีบางอย่างปิดบังข้าอยู่ใช่หรือไม่"

"เรื่องบางเรื่องเราไม่รู้เป็นดีที่สุด แต่หากเป็นลิขิตสวรรค์สักวันหนึ่งคุณหนูก็จะรู้ แต่ตอนนี้คุณหนูเชื่อบ่าวนะเจ้าคะ หนีไปให้พ้นจากที่นี่"

เมื่อท้องฟ้าภายนอกมืดมิดไปแล้ว แสงสว่างเดียวในห้องมาจากดวงจันทร์ที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง หลังจากดับตะเกียงสตรีทั้งสามที่เวลานี้ควรจะเข้านอนกลับยังนั่งอยู่ตรงโต๊ะกลมกลางห้อง พวกนางคิดจะหนีออกจากที่นี่ในคืนนี้หลังจากที่รวบรวมของมีค่าได้จำนวนหนึ่ง

หากยังชักช้าคงจะไม่ทันการณ์พวกนางต้องหนีก่อนที่ราชโองการจะมาถึง

ไร้เสียงพูดคุยของคนทั้งสาม พวกนางนั่งรอเวลาด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ จนกระทั่งเวลาล่วงถึงยามจื่อ(23.00-24.59) เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนในจวนหลับสนิท จึงได้ลอบออกจากเรือนเหลียนฮวาอย่างเงียบเชียบ เดินเรียบไปตามกำแพงซึ่งมีประตูเล็กซ่อนอยู่ โดยใช้แสงจันทร์นำทาง ใช้ความมืดของเงาต้นไม้กำบังกาย

ทั้งสามรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวแรงอยู่ในอก สายตากวาดมองรอบบริเวณอย่างระมัดระวัง ทุกฝีก้าวเต็มไปด้วยความหวาดระแวง หากก้าวผิดครั้งเดียวก็จะถูกจับได้ นั่นหมายถึงชีวิตของพวกนางต้องมืดดับลง มือเย็นเฉียบจับกันเอาไว้แน่น

จนในที่สุดก็สามารถมาถึงประตูเล็กด้านหลังจวน ทั้งสามมองหน้ากันด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังและความยินดี แต่ทันทีที่เปิดประตูบานนั้นร่างกายของพวกนางก็แข็งทื่อ ผู้ที่พวกนางพยายามหลีกหนีและไม่อยากเจอที่สุดกลับมายืนอยู่ตรงหน้านั่นทำให้ทั้งสามรู้สึกถึงความสิ้นหวัง

เพียงพริบตาเดียวเหล่าองครักษ์ก็เข้าจับตัวพวกนางเอาไว้

พวกเขารู้อยู่แล้วว่าพวกนางกำลังจะหนี

เสนาบดีจ้าวจ่งชิวผู้เป็นบิดาจ้องมองนางด้วยใบหน้าถมึงทึง หากสามารถฆ่านางได้เขาคงลงมือโดยไม่ลังเล ด้านหลังของผู้เป็นบิดานั้นคือ คุณหนูใหญ่จ้าวเสวี่ยเฟย ที่กำลังใช้สายตามองนางอย่างเยาะหยัน

อิสระที่โหยหาและชีวิตของพวกนางจบสิ้นลงแล้ว

"นำตัวคุณหนูสามกลับเรือน แล้วเฝ้าเอาไว้อย่าให้คลาดสายตา มดปลวกแม้แต่ตัวเดียวก็อย่าให้เล็ดลอดเข้าไปได้"

"ไม่นะ ปล่อยคุณหนูไป จ้าวจ่งชิว หากเจ้าไม่รักษาสัญญาเช่นนั้นก็อย่าโทษข้าหากข้าจะไม่รักษาสัญญาเช่นกัน"

แม่นมผิงตวาดใส่ผู้มีอำนาจอย่างเกรี้ยวกราด นางจ้องมองอีกฝ่ายอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

เพี๊ยะ!!!

"นังบ่าวสารเลว คิดจะขู่ข้าเช่นนั้นรึ"

ร่างชราของแม่นมผิงล้มลงทันทีหลังจากที่เสนาบดีจ้าวปราดเข้ามาตบหน้านางอย่างแรง นั่นทำให้จ้าวหลี่เชี่ยนตื่นตะลึงแล้วกรีดร้องออกมาเสียงสั่น

"ท่านพ่อ แม่นมผิง อย่าเจ้าค่ะท่านพ่อ อย่าทำร้ายนาง ได้โปรด ลูกยอมแล้วเจ้าค่ะ ลูกยินยอมแล้ว"

"คุณหนู ไม่นะเจ้าคะ"

ถิงถิงแม้จะพยายามดิ้นรนออกจากการจับกุม แต่ก็ไม่อาจที่จะทำได้ จึงได้แต่ส่ายหน้านองน้ำตา

"ลากตัวบ่าวสารเลวสองคนนี้ไปโบยให้ตาย"

เสนาบดีจ้าวออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ทั้งที่เขาอยากจะฟาดฟันมันให้ตายเสียตรงนี้ แต่เขายังต้องใช้ประโยชน์จากพวกมันทั้งสอง

"ท่านพ่อได้โปรดปล่อยพวกเขาไปเถอะนะเจ้าคะ เป็นลูกที่ผิดเอง เป็นลูกที่ให้พวกนางพาหนี โปรดละเว้นพวกนางแล้วลูกจะทำตามคำสั่งท่านทุกอย่าง"

ใบหน้าบุรุษวัยสามสิบแปดที่ยังคงหล่อเหลายกยิ้มขึ้นเมื่อทุกอย่างเป็นดั่งใจคิด หันมาเอ่ยกับเด็กสาวที่กำลังร้องขอความเมตตาต่อเขาอย่างอ่อนโยน

"ได้สิพามันทั้งสองไปขังเอาไว้ก่อน"

"ไม่นะเจ้าคะคุณหนู ไม่นะเจ้าคะ"

แล้วค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและวุ่นวายก็ผ่านพ้นไป แสงสว่างแห่งเช้าวันใหม่กำลังจะมาเยือน แต่แสงสว่างในชีวิตของเด็กสาวผู้หนึ่งกลับมืดมนและริบหรี่ลงจนแทบมองไม่เห็นปลายทาง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่33 บทส่งท้าย

    ดวงอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้า เปล่งแสงสีทองอันอบอุ่นผ่านหน้าต่างห้องนอนของจวนขนาดกลางที่ตั้งอยู่บนเนินเขาอันเงียบสงบ จวนซึ่งมีความทรงจำในวัยเยาว์ของหญิงสาว ขณะที่คู่สามีภรรยานั่งด้วยกันอยู่บนตั่งริมหน้าต่าง ชื่นชมบรรยากาศยามเย็นของธรรมชาติเบื้องหน้า เสียงวิหคที่พากันโบยบินกลับรวงรังร้องขับขานดังเป็นท่วงทำนองอ่อนหวานก้องอยู่บนท้องนภา ช่อดอกไม้สีสันสดใสที่ประดับอยู่ในแจกันส่งกลิ่นหอมหวานไปทั่วห้อง ในสถานที่อันเรียบง่ายแห่งนี้ คือสถานที่อันแสนสุขของทั้งสอง เหอไป๋เหยียนตระกองกอดเรือนร่างหอมกรุ่นของภรรยาที่เอนซบไออุ่นจากอกแกร่งของเขาด้วยความรักใคร่ทะนุถนอม ข้างๆ กันนั้นมีเปลนอนเด็กอ่อนที่ด้านในนั้นทารกเพศหญิงใบหน้ากลมป้อมวัยห้าเดือนกำลังนอนหลับตาพริ้ม ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีแดงสดตัดกับผิวขาวผ่องฟูนุ่มคลี่ยิ้มน้อยๆ ราวกับว่าแม่หนูน้อยคนงามกำลังหลับฝันดี ช่างดูน่ารักน่าชังจนผู้เป็นบิดาจ้องมองด้วยความรักใคร่หลงใหล มือใหญ่ของผู้เป็นบิดาคอยแกว่งไกวเบาๆ ยามนี้บริเวณรอบๆ จวน โคมไฟสีเหลืองนวลถูกจุดให้ความสว่าง สองสามีภรรยาที่ยังคงตระกองกอดกันอยู่จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาว มือของพวกเขาประ

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่32 วันวานมิอาจหวนคืน วันหน้านึกเสียดาย

    เรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดได้ผ่านพ้นไปแล้ว นับจากนี้ต่อไปคงมีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้น บ้านเมืองที่เดิมนั้นชาวบ้านชาวเมืองยากไร้อดอยากคงจะค่อยๆ ทุเลาลง เมื่อฝ่าบาท องค์รัชทายาทและเหล่าขุนนางที่เหลือเพียงขุนนางน้ำดีต่างร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไขปัญหานั้นอย่างเร่งด่วน ทรัพย์สมบัติที่ยึดมาจากเหล่าขุนนางชั่วช้า โกงกิน ที่ร่วมกับฝั่งกบฏถูกยึดเข้าท้องพระคลังทั้งหมด ก่อนจะถูกแบ่งสันปันส่วนไปตามหัวเมืองต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน เหล่าชาวบ้านที่ไร้อาชีพและไร้ที่ทำกินจะมีการจัดสรรที่ดินทำกินให้อย่างยุติธรรม และหากตรวจพบว่ามีการทุจริตก็มีข้อกำหนดโทษเอาไว้สูงสุดและไม่มีข้อยกเว้น การปราบกบฏครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการชำระล้างอำนาจมืด ขุดรากถอนโคน คนโกง คนชั่วครั้งใหญ่ แม้ว่าจะไม่หมดไปทั้งหมด แต่ก็เรียกได้ว่าคนเหล่านั้นต่างเก็บมือเก็บไม้ ไม่โผล่หางออกมาระรานผู้คนส่วนเรื่องราวภายในวังหลวงตอนนี้ องค์หญิงใหญ่เฉินหลี่เชี่ยน ก็กลับมาแข็งแรงดังเดิมแล้วแม้ตอนนี้นางจะคืนสู่ฐานันดร แต่นามของนางยังคงเดิม เปลี่ยนก็เพียงแค่แซ่เท่านั้น เพราะนามหลี่เชี่ยนเป็นนามที่มารดาเป็นผู้ตั้งให้ นางมีเพียงสิ่งนี้ที่ให้ระลึกถึงมารด

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่31 ความเจ็บปวดที่ไม่อาจรับไหว

    ความจริงที่ได้รับรู้สร้างความตกตะลึงให้กับเหอไป๋เหยียนเป็นอย่างมาก เขาได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดไปอย่างไม่น่าอภัย นางได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานมามากมาย แต่เขากลับยังซ้ำเติมใจร้ายใจดำกับนาง ทำร้ายจิตใจนางครั้งแล้วครั้งเล่า"เฉิงซีหมิง เจ้าอย่าได้คิดว่าจะได้บุตรสาวเจ้ากลับคืน ข้าจะให้เจ้าลิ้มรสความทุกข์ทรมานจากการสูญเสีย ทนมองสายเลือดของเจ้าขาดใจตายไปต่อหน้า ข้าจะพานางไปพบกับมารดาของนาง จะพานางไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับว่านจื่อในปรโลก""จ่งชิว ได้โปรดอย่าทำเช่นนั้น ปล่อยนางไป หากเจ้าปรารถนาชีวิตของข้า ข้าก็จะให้เจ้า"ฮ่องเต้เฉิงซีหมิงตรัสออกมาด้วยความเจ็บปวด อ้อนวอนขอต่อผู้ที่เคยเป็นสหาย มองดูสายเลือดของตนอย่างรู้สึกผิดที่ไม่สามารถปกป้องนางได้"ฮ่าฮ่าฮ่า เฉิงซีหมิงความตายสำหรับเจ้านั้นมันง่ายดายเกินไป ข้าปรารถนาให้เจ้าอยู่อย่างทุกข์ทรมานมากกว่า"จ้าวจ่งชิวดึงกริชรูปทรงงดงามล้ำค่าที่เขาเตรียมเอาไว้สำหรับการนี้ออกมา หันปลายแหลมคมของมันเข้าหาตำแหน่งหัวใจของสตรีที่เขาเฝ้ามองนางมาตั้งแต่เล็ก ดวงตาแข็งกร้าวนั้นแดงก่ำจนดูน่ากลัวจ้าวหลี่เชี่ยนร่ำไห้ตัวสั่นเทา มองปลายกริชวาววับนั้นด้วยความหวาดกลัว จิตใจขอ

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่30 เรื่องราวในอดีต

    จ้าวจ่งชิวหันมาเผชิญหน้ากับบุรุษสูงศักดิ์ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสหายของเขา แต่ตอนนี้ระหว่างเขากับคนผู้นี้ไม่อาจที่จะยืนอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันได้อีกแล้ว"พอได้แล้วจ้าวจ่งชิว เจ้าแค้นเคืองเกลียดชังข้าก็ไม่ควรดึงผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง"ฮ่องเต้เฉินซีหมิงเอ่ยกับคนตรงหน้า สายพระเนตรเต็มไปด้วยความรู้สึกเศร้าเสียใจจ้าวจ่งชิวแสยะยิ้มให้กับคำกล่าวนั้น เขากระชากร่างเล็กของสตรีที่ยืนสั่นเทาร่างกายโงนเงนเข้าหาตัว ฝ่ามือหยาบยกขึ้นบีบปลายคางเล็กๆ นั้นให้หันไปทางบุรุษทั้งสองที่ทำลายชีวิตเขาจนพังพินาศภาพนั้นสร้างความเจ็บปวดใจให้คนทั้งสองที่กำลังจ้องมองนางอย่างเป็นห่วง แต่ไม่อาจบุ่มบ่ามเข้าไปช่วยเหลือเหอไป๋เหยียนกำมือเข้าหากันแน่น ลอบส่งสัญญาณให้คนของเขารอจังหวะจู่โจมอีกฝ่าย สายตานั้นไม่ได้ละไปจากใบหน้าซีดขาว จ้องมองนางด้วยความเจ็บร้าวในอก บอกนางผ่านแววตาให้นางอดทน ให้นางเชื่อมั่นในตัวเขา"ผู้ใดกันที่ไม่เกี่ยวข้อง เด็กคนนี้หรือ"ฮ่าฮ่าฮ่า"เด็กที่เกิดจากการทรยศของพวกเจ้าน่ะหรือที่ไม่เกี่ยวข้อง"จ้าวจ่งชิวหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตด้วยความเจ็บปวดเขาและว่านจื่อนั้นเติบโตมาด้วยกันและเป็นเพื่อนเล่นกันม

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่29 ดวงใจตกอยู่ในกำมือศัตรู

    ทางฝั่งของบุรุษนั้นก็มีการปะทะเกิดขึ้นเช่นกัน มีนักฆ่าบุกเข้ามาเพื่อที่จะสังหารฮ่องเต้ แต่ทุกอย่างกลับถูกควบคุมเอาไว้ได้อย่างรวดเร็วเหอไป๋เหยียนให้ทหารองครักษ์คุ้มครองฝ่าบาทและองค์รัชทายาทกลับไปยังที่พักอย่างปลอดภัย ส่วนเขานั้นเข้าปะทะกับเหล่านักฆ่าและสังหารพวกมันจนหมดสิ้นสายตาคมกล้ากวาดมองซากศพด้วยความเคร่งเครียด เขายังคงไม่คลายความระมัดระวังลง สัญชาตญาณบอกกับเขาว่าทุกอย่างมันดูง่ายดายเกินไป นักฆ่าที่ถูกส่งมานั้นไร้ฝีมือจนถูกกำจัดได้โดยง่ายจนน่าฉงน อีกทั้งจ้าวจ่งชิวยังคงไม่ปรากฏตัว ราวกับว่าการลอบสังหารในครั้งนี้เป็นการถ่วงเวลาเสียมากกว่า แต่มันต้องการถ่วงเวลาจากสิ่งใดกันแต่แล้วเสียงฝีเท้าม้าที่มุ่งตรงมาทางพวกเขาทำให้ความคิดทั้งหมดหยุดชะงักลง ใบหน้าขององครักษ์ผู้นั้นทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบเพราะคนผู้นี้คือองครักษ์ที่เขาส่งไปคุ้มครองจ้าวหลี่เชี่ยน"ท่านแม่ทัพขอรับ""เสนาบดีจ้าวจ่งชิวจับตัวคุณหนูจ้าวและคุณหนูตู้ไปขอรับ"ฟังคำรายงานทั้งหมดของอีกฝ่ายทำให้หัวใจของเขาเย็นเยียบราวกับถูกแช่แข็ง สตรีนางนั้นร่วมมือกับบิดาของนางเพื่อจะหลบหนีไป หรือว่านางถูกจับตัวไปด้วยความไม่เต็มใจ แต่จ้าวจ

  • ในห้วงฝันแห่งรักร้าย   ตอนที่28 พิธีล่าสัตว์

    "ยังไม่มีคนจากในวังติดต่อมาหรือ""เอ่อ ไม่มีขอรับ" ฝ่ามือใหญ่กำเข้าหากันแน่น ผ่านไปร่วมเดือนแล้วที่เขาเฝ้าถามคำถามนี้ สตรีนางนั้นเมินเฉยต่อคำขอของเขา ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีคำกล่าวใดจากปากนาง ไม่แม้แต่จะยอมพบหน้ากัน เขาคิดว่าความสัมพันธ์ของเขากับนางมันจะเป็นไปได้ด้วยดีแล้วเสียอีก นางกล่าวว่าเขาใจร้าย แต่นางเองก็ใจร้ายกับเขาเช่นกัน เขายอมนางถึงเพียงนี้แล้ว นางยังเมินเฉยต่อเขา ไม่คิดจะกลับมาหาเขา ไม่คิดจะมีเขาร่วมทาง"ท่านแม่ทัพขอรับ คนเสนาบดีจ้าวมีความเคลื่อนไหวขอรับ"คำรายงานนั้นทำให้แผ่นหลังกว้างเหยียดเกร็งขึ้น รับกระดาษแผ่นเล็กจากคนสนิทเหอไป๋เหยียนกวาดตามองจดหมายฉบับนั้น ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเย็น ดวงตาคมกริบทอประกายโหดเหี้ยม ที่แท้เจ้าคนเจ้าเล่ห์ผู้นั้นก็รอที่จะลงมือในพิธีล่าสัตว์ที่กำลังจะมาถึง แม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์ใด แต่คิดหรือว่าเขาจะยอมปล่อยให้มันผู้นั้นกระทำตามใจ"เตรียมคนเอาไว้ให้พร้อม"ขบวนเสด็จเคลื่อนตัวออกจากวังหลวงมุ่งหน้าสู่สถานที่ที่ใช้ในการจัดพิธีล่าสัตว์ที่จะถูกจัดขึ้นในทุกปีตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ซึ่งถือเป็นฤกษ์มงคลในการออกเดินทาง ผู้คนต่างเบียดเสียดกันออกมาเพื่อต

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status