เสียงฝนปรอยเบา ๆ กระทบขอบหน้าต่างในยามเช้า ราวกับเคาะประตูหัวใจที่ยังเปิดค้างไว้ คิมินั่งอยู่บนพื้นห้องใต้ห่มผ้านวมบาง ๆ มือยังจับแก้วโกโก้ที่อุ่นเพียงน้อย แต่กลับไม่ได้ยกดื่ม เธอเอาแต่จ้องหน้าจอโน้ตบุ๊กที่กำลังเปิดโปรเจกต์ตัดต่อเสียงพากย์นิยายเสียงเรื่อง รักวุ่น ๆ ของจริงใจ ตอนล่าสุดอยู่
เสียงของเธอที่พากย์เป็น “จริงใจ” ดังแผ่วในห้อง
“รูปถ่ายเก่า ๆ มันไม่ได้แค่บันทึกภาพ แต่มันบันทึกใจ บันทึกวันเวลาที่... ไม่ย้อนกลับมาแล้ว”
เธอกดหยุดเสียงพากย์ตรงจุดนั้น หัวใจเหมือนถูกดึงกลับไปในอดีตพร้อมเสียงของตัวเอง ภาพในหัวไม่ได้เป็นฉากนิยาย แต่เป็นภาพของเธอ…เมื่อหลายปีก่อน
คิมิถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้น เดินตรงไปยังมุมหนึ่งของห้อง ที่ตรงนั้นเธอไม่เคยแตะต้องมันมานาน ตู้ไม้เก่าใบหนึ่งที่เธอใช้เก็บของที่ “ไม่จำเป็นตอนนี้” ไว้
เธอเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุด หยิบกล่องพลาสติกเก่า ๆ ออกมาวางบนพื้น แล้วไล่เปิดดูของด้านใน
กล่องที่มีทั้งกล่องดินสอเก่าๆ, กล้องฟิล์มที่ใช้ไม่ได้แล้ว, สมุดโน้ตจดคำพูดของเพื่อน ๆ ในห้องเรียน และสิ่งหนึ่งที่อยู่ล่างสุด — หนังสือรุ่นของ ม.6
เธอหยิบมันขึ้นมา รูดฝุ่นออกอย่างเบามือ ปกของหนังสือรุ่นซีดจางลงจากสีม่วงสดกลายเป็นสีลาเวนเดอร์หม่น ๆ กลิ่นของกระดาษเก่าลอยเข้าจมูก บางอย่างในใจของเธอคล้ายจะเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
“เปิดออกมาดูโดยไม่ตั้งใจว่าจะได้เจอรูปเก่า...”
เธอพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง พร้อมฮัมท่อนหนึ่งของเพลง หนังสือรุ่น เพลงที่เธอฟังตอนจบ ม.6 แล้วร้องไห้อยู่คนเดียวในห้องนอน
เธอเปิดหน้าหนังสือรุ่นไปอย่างช้า ๆ ทีละหน้า
หน้าแรก – ภาพรวมโรงเรียน
หน้าถัดไป – รายชื่อครูประจำชั้น ภาพกิจกรรม – ค่ายลูกเสือ ทัศนศึกษา รับน้อง หน้าของห้อง ม.6/3 – ภาพกลุ่มเพื่อนในห้องที่หัวเราะ ยิ้ม หยอกล้อกันเสียงหัวเราะ เสียงแกล้งกัน เสียงเถียงเรื่องซีรีส์จีนเรื่องโปรด ยังดังอยู่ในหัวอย่างจาง ๆ
กระทั่งมาถึงหน้ากลางของหนังสือ เธอเห็นรูปหนึ่ง... แล้วหยุดนิ้วทันที
ภาพนั้นมี “น้ำ” และ “ฟ้า”
น้ำยิ้มกว้างในรูป ผมยาวตรงมีลอนเล็กน้อยตรงปลาย สีน้ำตาลอ่อนดูเป็นธรรมชาติ เธอนั่งข้างคิมิ กำลังเอียงหัวมาทางกันอย่างสนิทใจ ส่วนฟ้ายืนอยู่ด้านหลัง ยิ้มบาง ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยนแบบที่คิมิจำได้
“ภาพเดิม ๆ ก็หวนมา เปลี่ยนเวลากลับไปวันนั้น ใจก็เหมือนสั่น ๆ...”
คิมิหลับตาลงช้า ๆ
เธอจำได้ดี...“น้ำ เธอชอบซีรี่ส์จีนเรื่องนั้นจริงเหรอ?”
“ใช่สิ สนุกจะตาย ฉันดูซับจีนด้วยนะ อยากลองเรียนภาษาจีนเลยล่ะ!” น้ำหัวเราะแล้วเอามือขยี้ผมเธอเบา ๆ “จริงดิ…เก่งจัง…” “ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่เวลาอยู่กับเธอ ฉันไม่ต้องเก่งก็ได้ เป็นตัวเองพอแล้ว”ตอนนั้นเธอไม่เคยรู้ว่าเรียกสิ่งที่รู้สึกว่าอะไร
คิมิรู้แต่ว่าเวลาน้ำอยู่ใกล้ ๆ หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ โลกทั้งใบเหมือนถูกย้อมด้วยสีชมพูจาง ๆ ที่ไม่มีใครมองเห็นนอกจากเธอ
“คิมิ ชอบน้ำเหรอ?”
เสียงฟ้าในตอนนั้นยังชัดอยู่ในหัวเธอ
“ไม่รู้สิ…ฉันไม่แน่ใจว่าใช่ความรักรึเปล่า...”
ฟ้าพยักหน้า “ไม่เป็นไรหรอก แค่รู้ว่าคิมิยิ้มได้ตอนอยู่กับน้ำ ก็พอแล้ว”ฟ้าไม่เคยถามอะไรต่อ เธอแค่ยิ้ม แล้วเดินไปหยิบโกโก้มาให้คิมิ พร้อมคำพูดว่า “เห็นเธอชอบกินเวลาทำงาน อย่าลืมพักบ้างนะ”
น้ำกับฟ้า คือสองคนที่อยู่ข้างเธอเสมอในช่วงชีวิตหนึ่งที่สวยงาม…และผ่านไปแล้ว
“ต่างเดินกันไปตามทางของใคร แยกไปค่อย ๆ ไกลห่าง...”
หลังจบ ม.6 น้ำย้ายกลับโคราช ฟ้าเรียนต่อที่คณะครุศาสตร์ ส่วนคิมิก็หันหลังให้ทุกอย่างในโลกจริง แล้วก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ เธอเปิดช่อง VTuber ในนาม คิมิ.ฟุกุ.ยุเมะ ช่องที่เล่านิยายเสียงด้วยเสียงของเธอเอง สร้างตัวละครชื่อ “จริงใจ” ที่มีหัวใจเหมือนกันกับเธอ…หัวใจที่เคยรักใครบางคนโดยไม่รู้ตัว
และ “น้ำ” ค่อย ๆ หายไปจากการติดต่อ
วันนี้…เหมือนทุกอย่างย้อนกลับมาอีกครั้ง
คิมิหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอปอินสตาแกรม เลื่อนไปยังบัญชีของ “น้ำ” ที่เธอแอบกดติดตามอยู่ตลอด แม้ไม่เคยกดไลก์หรือคอมเมนต์เลยสักครั้ง
โพสต์ล่าสุด – รูปแมวสีขาวนอนบนหนังสือ
โพสต์ก่อนหน้า – ดอกพุดซ้อนในแก้วกาแฟ รีวิวซีรีส์จีนเรื่องใหม่ – พร้อมแคปชัน “อยากให้ใครสักคนดูด้วย :)”เธอวางนิ้วที่ช่องคอมเมนต์
พิมพ์ว่า “ยังดูซีรี่ส์จีนอยู่เลยนะ :)” …แล้วก็ลบออกเธอกลัวว่า “น้ำ” อาจจะลืมเธอไปแล้ว
“อยู่ดี ๆ วันนึงก็จางหาย ขาดกันโดยไม่รู้ตัว…”
เธอวางโทรศัพท์ลง มองกลับไปที่หนังสือรุ่นอีกครั้ง
ภาพนั้น…น้ำยังยิ้มเหมือนวันเก่า ๆเธอหยิบโพสต์อิทสีม่วงอ่อนมา เขียนด้วยลายมือที่ยังคงเหมือนตอนเรียน
“รูปเธอยังยิ้ม ข้างเธอคือฉัน เพ่งมองดูนาน ๆ น้ำตาก็มาคลอ ๆ…”
โพสต์อิทถูกแปะไว้ด้านในหน้ารูปถ่ายนั้น คิมิไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอแค่อยากเขียน อยากเก็บไว้…ให้ความทรงจำมันชัดขึ้นอีกครั้ง
เธอลุกขึ้นจากพื้น เดินไปที่คอมพิวเตอร์ กดเปิดหน้าโปรเจกต์นิยายเสียงขึ้นมาใหม่
เธอเริ่มพิมพ์สคริปต์ด้วยเสียงในหัว
“ตอนหน้า – จริงใจเปิดหนังสือรุ่น...แล้วเจอใครบางคนที่ทำให้ใจยังสั่น แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่”
ตัวละคร “น้ำ” ในเรื่อง…ยังคงชื่อเดิม
ยังคงเป็นคนที่ทำให้ “จริงใจ” หัวใจเต้นแรงและในโลกความจริง…
คิมิเองก็ยังไม่เคยลืมเลยหากเรื่องราวในหนังสือรุ่นเป็นเพียงภาพถ่ายหนึ่งใบที่ถูกกดชัตเตอร์ไว้ในอดีต...
คิมิก็หวังว่า เสียงของเธอในนิยายเสียงจะเป็นบทบรรยายที่ทำให้เรื่องราวนั้น...ยังไม่จบง่าย ๆ
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี
หัวใจที่สั่นไหว…ยังคงอยู่
ตอนที่ 9: อีกไกลแค่ไหนคือใกล้ (วันที่ 2 ของ 21 วัน) ประกอบเพลง: ไกลแค่ไหนคือใกล้ – Getsunova“วันนี้มีเวลาไหม เราอยากคุยกับแก”ข้อความจากคิมิส่งผ่านแชท LINE ไปยังน้ำในช่วงค่ำวันเสาร์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือสว่างวาบขึ้นในห้องที่มีเพียงเสียงพัดลมตั้งโต๊ะหมุนเอื่อย ๆ กับลมหายใจเบา ๆ ของคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงคิมิส่งข้อความไปแล้วก็กอดเข่าตัวเองแน่น ก้มหน้าหลบสายตาจอโทรศัพท์ราวกับกลัวมันจะตอบกลับมาด้วยความเงียบ ความเงียบนั่นแหละ...ที่เธอกลัวที่สุดแต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา...&ldqu
(แรงบันดาลใจจากเพลง “เธอ ๆ เพื่อนเราชอบ”)“มันจะมีเพื่อนคนนึงที่พอไปรักใคร ก็ไม่เคยทักไป มันจะมีเพื่อนคนนึงที่กินแห้วมาตลอด มันจะมีเพื่อนคนนึงที่เธอไม่สนใจ ที่เธอมองข้ามไป เพื่อนคนนี้ไม่เคยจะอยู่ในสายตาเธอเลย…”เสียงจากนิยายเสียงดังแผ่วเบาผ่านไมค์คอนเดนเซอร์สีพาสเทลที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ในห้องนอนของคิมิ เธอกำลังบันทึกตอนใหม่ในช่อง YouTube ชื่อ Kimi.Fuku.Yumeเสียงของเธอในนิยายเสียงตอนนั้น ไม่ได้อ่านจาก
ตอนที่ 7 – หนังสือรุ่นของเราเสียงฝนปรอยเบา ๆ กระทบขอบหน้าต่างในยามเช้า ราวกับเคาะประตูหัวใจที่ยังเปิดค้างไว้ คิมินั่งอยู่บนพื้นห้องใต้ห่มผ้านวมบาง ๆ มือยังจับแก้วโกโก้ที่อุ่นเพียงน้อย แต่กลับไม่ได้ยกดื่ม เธอเอาแต่จ้องหน้าจอโน้ตบุ๊กที่กำลังเปิดโปรเจกต์ตัดต่อเสียงพากย์นิยายเสียงเรื่อง รักวุ่น ๆ ของจริงใจ ตอนล่าสุดอยู่เสียงของเธอที่พากย์เป็น “จริงใจ” ดังแผ่วในห้อง“รูปถ่ายเก่า ๆ มันไม่ได้แค่บันทึกภาพ แต่มันบันทึกใจ บันทึกวันเวลาที่... ไม่ย้อนกลับมาแล้ว”เธอกดหยุดเสียงพากย์ตรงจุดนั้น หัวใจเหมือนถูกดึงกลับไปในอดีตพร้อมเสียงของตัวเอง ภาพในหัวไม่ได้เป็นฉากนิยาย แต่เป็นภาพของเธอ…เมื่อหลายปีก่อนคิมิถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้น เดินตรงไปยังมุมหนึ่งของห้อง ที่ตรงนั้นเธอไม่เคยแตะต้องมันมานาน ตู้ไม้เก่าใบหนึ่งที่เธอใช้เก็บของที่ “ไม่จำเป็นตอนนี้” ไว้เธอเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุด หยิบกล่องพลาสติกเก่า ๆ ออกมาวางบนพื้น แล้วไล่เปิดดูของด้านในกล่องที่มีทั้งกล่องดินสอเก่าๆ, กล้องฟิล์มที่ใช้ไม่ได้แล้ว, สมุดโน้ตจดคำพูดของเพื่อน ๆ ในห้องเรียน และสิ่งหนึ่งที่อยู่ล่างสุด — หนังสือรุ่นของ ม.6เธอหยิบมันขึ้นมา
ตอนที่ 6: กล่องหนึ่งใบ กับความทรงจำที่ยังไม่ลบเลือนเสียงฝนโปรยปรายลงบนกระจกหน้าต่างห้องนอนราวกับกำลังเคาะเรียกหัวใจใครบางคนในยามเย็น คิมิยกแก้วโกโก้ร้อนจิบเบา ๆ กลิ่นหอมหวานคุ้นเคยอวลคลุ้งอยู่รอบตัว แต่กลับไม่สามารถอุ่นหัวใจเธอได้ทั้งหมด หัวใจของเธอ...เหมือนกำลังเรียกร้องบางอย่าง บางอย่างที่เธอไม่ได้แตะต้องมานานหลายปีเธอวางแก้วลง ก่อนจะเดินตรงไปยังมุมห้องที่ไม่ได้แตะต้องมานาน มือเลื่อนเปิดตู้เสื้อผ้าไม้เก่า ล้วงผ่านผ้าห่มหนาที่พับทับกันอยู่ด้านล่างสุด แล้วหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งออกมา กล่องธรรมดาใบเล็กที่ฝุ่นจับหนาจนบอกเวลาได้ แต่สิ่งที่สะดุดตาคือ...ลายมือแบบเด็ก ๆ บนฝา“กล่องความทรงจำของคิมิ”เธอวางกล่องลงบนเตียงช้า ๆ ใช้ฝ่ามือลูบฝาเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เปิดมัน กลิ่นเก่าของกระดาษเก่า ๆ ลอยขึ้นแตะปลายจมูกสิ่งแรกที่เ
ตอนที่ 5“แค่เพื่อนที่ไม่ควรมีหัวใจ”“ถ้าเป็นได้แค่เพื่อนเธอ... ทำไมไม่บอกฉันตอนนั้น” เสียงเพลงที่ดังแผ่วจากลำโพง บาดลึกลงตรงกลางหัวใจ เธอก็แค่เพื่อน... ที่ไม่ควรหวั่นไหวไปกับรอยยิ้มของเธอคิมินั่งอยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่มืดสลัว มีเพียงแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดหน้าโปรเจกต์นิยายค้างไว้เหมือนเดิม สมุดบันทึกเล่มเดิมวางอยู่ข้าง ๆ กล่องโกโก้ที่ละลายไปครึ่งแก้ว เธอมองมันราวกับจะใช้มันเป็นข้ออ้างไม่ให้เขียนต่อวันนี้... เธอเขียนไปเพียงไม่กี่ประโยค แต่กลับใช้เวลาเกือบชั่วโมง“จริงใจยืนอยู่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ มองเงาไม้ทอดบนพื้นหญ้า
ตอนที่ 4: คนที่ไม่ใช่แรงบันดาลใจจากเพลง “คนที่ไม่ใช่” – โอปวีร์เสียงฝนตกกระทบหลังคาดังเป็นจังหวะค่อย ๆ เนิบช้าเหมือนหัวใจของเธอที่กำลังแหลกช้า ๆ ในห้องเงียบ ๆ ที่มีแค่แสงจากหน้าจอมอนิเตอร์ คิมิเอนตัวพิงเก้าอี้เกมเมอร์ สวมหูฟังพร้อมไมค์ จ้องหน้าจอเกม ROV ที่กำลังแข่งแบบจัดอันดับอย่างจริงจัง“คิมิ! มึงจะป้อมแตกแล้ว! ถอยดิ๊!”เสียงของ สานฝัน ดังแว่วจากดิสคอร์ด น้ำเสียงคมชัดจนเหมือนแทงเข้าหัวใจคิมิ เกมรอบนี้ดูจะจริงจังกว่าปกติ ฝันเฟื่อง กับ พอล ยังคงอยู่ในทีม ส่วน ปาย ก็อยู่ด้วย แม้จะไม่พูดอะไรเลยตลอดทั้งเกมคิมิเหลือบดูมินิแมพแล้วกดวาร์ปกลับฐานในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ก่อนที่ตัวละครของเธอจะตายเป็นรอบที่สี่ในเวลาแค่สิบห้านาที“ขอโทษ...” คิมิพึมพำเบา ๆ น้ำเสียงราบเรียบเหมือนหัวใจที่ว่างเปล่า“เฮ้อ พี่คิมิ เล่นอย่างนี้ทุกเกมเลย ไม่ไหวอ่ะ”ฝันเฟื่อง บ่นเสียงหงุดหงิด น้ำเสียงไม่ได้รุนแรงเท่าพี่สาว แต่กลับเจ็บลึกไม่แพ้กันคิมิพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่ไม่มีใครเห็น แล้วเงียบลง นิ้วชะงักไม่แตะมือถืออีกต่อไป สายตาเธอเลื่อนลอยไปที่ภาพตัวละครในเกมที่ยืนอยู่เฉย ๆ อย่างไร้จุดหมาย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลัง