แชร์

42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)
42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)
ผู้แต่ง: Luna of The Sea

บทที่ 1.โลกที่ไม่ใจดีกับฮันน่า

ผู้เขียน: Luna of The Sea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 21:25:03

ปี 1985

“ฮันน่า..ฮันน่า!”เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อเด็กน้อยดังลอยมาจากในบ้านแต่ฮันน่ายังคงก้มหน้าก้มตาเล่นของเล่นอยู่บนพื้นดินหน้าบ้านอย่างไม่สนใจ ใบหน้าเล็กๆ ของเธอเต็มไปด้วยความสุขและจินตนาการที่ไร้ขอบเขตในโลกส่วนตัวของเธอเองตามประสาเด็กอายุ 4 ปี

เดือน ลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่าฮันน่าหลายปีปลุกเธอจากความสนุกเล็กๆ น้อยๆ นั้น "ฮันน่า แม่เรียกแล้วนะ" ฮันน่าหันไปมองยังไม่ทันขานรับเสียงใดๆ ทันใด หญิงสาวคนหนึ่งเดินตรงมาด้วยท่าทางมั่นใจอายุราว 20 ปีแต่งตัวด้วยเสื้อตัวใหม่สีสดใส ชายเสื้อถูกเก็บเข้าในกางเกงยีนเอวสูงอย่างเนี้ยบ ริมปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดใบหน้าของเธอเรียบเฉยจนแทบจะไร้อารมณ์ ท่าทางของเธอดูเคร่งขรึมและจริงจัง และนั่นก็คือ จูเลีย แม่ของฮันน่า

“ไปกันได้แล้วนะ ฮันน่า ไหนชิ้นไหนของลูก เอาไปเล่นที่นู่นด้วยนะ”จูเลีย พูดพลางหยิบของเล่นที่ฮันน่าถืออยู่ในมือเก็บใส่ลงกระเป๋าข้างในนั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าของลูกสาวที่พับอย่างระมัดระวังแล้ว เธอจูงมือเล็กๆ ของลูกสาวออกไปด้วยสายตาเย็นชา

"แต๊ก... แต๊ก... แต๊ก..." เสียงมอไซค์คันเก่า เสียงนั้นดังสนั่นเหมือนเสียงคำรามที่แทรกผ่านความเงียบในทุ่งนากว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นข้าว และกลิ่นหอมของดินที่เพิ่งรดน้ำใหม่ เสียงรถดังไปถึงหัวบ้านจนใคร ๆ ในหมู่บ้านก็หันมามองตามเป็นตาเดียว เสียงนั้นดังก้องไปถึงท้ายบ้าน กระทั่งรถหยุดลงตรงหน้าบ้านไม้เก่า ๆ หลังหนึ่ง

เจ้าของบ้านต่างยื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างและประตูที่เปิดค้างไว้ตามเสียงมอเตอร์ไซค์ที่ดังมา ใบหน้าทั้งคู่แก่ชราเสื้อผ้าของพวกท่านเป็นเสื้อผ้าเก่าๆ ที่ดูอ่อนล้าไปตามกาลเวลา หยาดเหงื่อเล็กๆ ผุดขึ้นตามหน้าผากของยาย ขณะที่ตายืนจมอยู่ในความคิดของตัวเองไปสักพักก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ "กลับมาอีกแล้วสินะ..." เสียงนั้นเบาหวิวราวกับสะท้อนจากอดีตที่ยังไม่เคยเลือนหายไปจากใจ

จูเลีย รีบยกกระเป๋าลงจากที่แขวนหน้ารถแล้วทิ้งประโยคสั้นๆ ว่า “ อยู่กับพ่อนะฮันน่า ” จูเลียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแห้งแล้ง ไร้อารมณ์อย่างสิ้นเชิง น้ำเสียงนั้นแทบจะเหมือนไม่มีความหมายอะไรเลย เธอหมุนตัวไปพร้อมกับเสียงเกียร์รถที่ดังขึ้นเสียงเครื่องยนต์เริ่มทำงานและเพิ่มความเร็วขึ้นทีละน้อย ก่อนที่ล้อของมันจะหมุนพาเธอออกไปจากที่ตรงนั้น เสียงนั้นค่อย ๆ ลดลงจนสุดท้ายก็หายไปจนเงียบงัน.. ทิ้งลูกสาวของเธอให้ยืนตัวสั่นด้วยน้ำตาคลอ …

ฮันน่ายืนนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้านข้อมือเธอกำแน่นที่ขอบกระเป๋า เธอมองไปยังผู้คนที่เธอไม่เคยรู้จัก ราวกับพวกเขาคือคนจากโลกอีกใบหนึ่ง การเริ่มต้นใหม่ที่เธอไม่เคยตั้งตัวพร้อมกับครอบครัวที่ไม่คุ้นเคย ครอบครัวของบิดาที่เธอไม่เคยเห็นหน้าและนี่คือปู่ย่า ที่เธอต้องมาอาศัยอยู่

5 ปีผ่านไป

"แม่มันไม่เคยส่งข่าวคราวมาเลยตั้งแต่วันนั้น... ผู้หญิงใจดำ เงินก็ไม่เคยส่งเสียลูก" คำพูดนั้นวนเวียนอยู่ในหัวของฮันน่าเสมอ แม้แต่ในยามที่เธอพยายามที่จะปล่อยให้มันหลุดไปจากใจ แต่เสียงนั้นก็กลับมาดังก้องในหัวเหมือนกับเสียงสะท้อนที่ไม่มีวันสิ้นสุด อาจเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดหลายปี ทั้งภาระที่แบกรับแต่เพียงลำพัง และฐานะที่ฝืดเคืองจนแทบจะหายใจไม่ออก

การจากไปของปีเตอร์ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีกเพราะปีเตอร์คือ พ่อของฮันน่าเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุจากการทำงานเป็นช่างก่อสร้างในเมืองกรุงโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว และแม้ว่าความเสียใจจะเจือปนไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง แต่ความรู้สึกว่างเปล่าก็ยิ่งลึกลงไปในใจจนเธอแทบไม่รู้ว่าจะหันไปพึ่งใคร

ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ฮันน่าและครอบครัวต้องช่วยกันทำงานหนักในไร่ ข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวจากทุ่งกว้างถูกนำมาเก็บในโรงเก็บของหลังบ้าน ข้าวโพดบางส่วนถูกส่งไปขายเพื่อให้ได้เงินมาหมุนเวียนในบ้านที่ฝืดเคือง ส่วนการทำไร่ทำสวนก็เป็นกิจวัตรที่ต้องทำในวันหยุด เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีเวลาหยุดพัก หากไม่ทำงานหนักทุกวัน ก็จะไม่มีพอกิน ไม่มีพอใช้

แต่สำหรับฮันน่าแล้ว วันเสาร์อาทิตย์ที่ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายกลับไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย เมื่อการทำไร่ทำสวนเสร็จสิ้น การทำงานกลับเข้ามาแทนที่ด้วยการช่วยเหลือคนอื่นในบ้าน แม้จะมีช่วงเวลาที่สามารถนั่งดูรายการทีวีบ้าง หรือเล่นตามประสาเด็กบ้านนอก แต่สิ่งที่เธอเลือกจะทำจริงๆ คือการอยู่เงียบๆ อยู่ลำพัง เธอไม่ค่อยชอบที่จะรวมกลุ่มกับคนอื่น

เธอเลือกที่จะเงียบและใช้เวลาว่างเขียนนิทานในสมุดเล่มเก่าๆ ที่เธอขูดขีดด้วยดินสอ ในโลกของนิทานที่ฮันน่าสร้างขึ้น เธอได้เป็นตัวละครที่เธออยากเป็นไม่ใช่เด็กสาวที่ต้องทำงานหนักในไร่ แต่เป็นเจ้าหญิงที่มีอำนาจและอิสระ เป็นคนที่สามารถหลีกหนีจากโลกที่โหดร้ายนี้ได้ ทุกเรื่องราวที่เธอเขียนมักจะเต็มไปด้วยฝันและความหวัง เรื่องราวที่ไม่เคยเป็นจริงแต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่บนโลกใบนี้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่33.ริมฝั่งทะเลและคำสัญญา

    อาดัมเชื่อว่า... อาการป่วยของฮันน่าไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาเพียงอย่างเดียว มันต้องการบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น คือ ความรัก และ หัวใจ เขาเชื่ออย่างยิ่งว่าเขาจะเป็นคนที่เยียวยาเธอได้ ไม่ใช่ด้วยคำพูดหวานหูหรือคำสัญญาที่เลื่อนลอย แต่ด้วยการอยู่เคียงข้างเธอทุกวัน ทุกวินาที คอยประคองเธอขึ้นจากความเจ็บปวด ให้เธอเห็นว่าโลกใบนี้ยังมีที่ให้เธอยืนอยู่ได้ …………….. แสงแรกของพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามา กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกวางรออยู่กลางห้อง รอคอยการเดินทางครั้งสำคัญที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวออกไปจากที่นี่ ฮันน่ามีบางสิ่งที่ต้องเผชิญ บางสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ ประตูห้องน้ำเปิดกว้าง... ฮันน่ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ขวดยาในมือถูกกำไว้แน่นจนฝ่ามือสั่นระริก เธอค่อยๆ เปิดฝาขวด เทเม็ดยาสีขาวจำนวนมากลงบนมือ เธอจ้องมันนิ่งงัน หัวใจเต้นแรง ความลังเลและความกลัวตีตื้นขึ้นมา นี่คือสิ่งที่เธอพึ่งพามาตลอด… สิ่งที่ช่วยให้เธอหลับในคืนที่ฝันร้าย สิ่งที่กดเสียงในหัวให้เงียบลง แต่วันนี้ เธอจะปล่อยมันไป เธอหันมองอาดัม เขายืนอยู่ข้างๆ ดวงตาของเขาส่งผ่านความมั่นใจและความเข้าใจ ไม่มี

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่32.ระหว่างความมืดมนและแสงแรกของวัน

    สามเดือนผ่านไป.. ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ฮันน่าอาศัยอยู่กับอาดัม แม้จะยังต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัวเอง และต้องทานยารักษาอาการทางจิตควบคู่ไปด้วย เธอก็ยังคงไปพบแพทย์ตามนัด โดยมีอาดัมคอยดูแลอยู่ไม่ห่างแม้กายจะค่อยๆ ฟื้นตัว แต่หัวใจของเธอยังคงกลัวและหวาดระแวง... เงาของ "ลินลี่" และคำขู่ในวันนั้นยังตามหลอกหลอนเธอเสมอ ทำให้บางคืนเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก พร้อมกับเสียงหายใจหอบหนักแต่ไม่ว่าเมื่อไรที่เธอตื่นขึ้นมา เธอมักจะพบว่า อาดัมยังอยู่ตรงนั้นเขาไม่เคยห่างไปไหนเธออาจจะยังลังเลและหวาดกลัว แต่สำหรับอาดัม… ยิ่งวันเวลาผ่านไป เขากลับแน่ใจมากขึ้น"เขารักเธอเข้าแล้ว..."กลางดึกที่เงียบสงัด ความเงียบโรยตัวไปทั่วทั้งบ้าน“กรี๊ดดด!!”เสียงกรีดร้องดังลั่น ทำลายความสงบในชั่วพริบตาฮันน่าสะดุ้งตื่นขึ้นมา ดวงตาเบิกกว้าง ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นสาย ลมหายใจของเธอหอบหนักราวกับขาดอากาศ เงาของฝันร้ายยังคงตามหลอกหลอน ภาพเลือนรางจากอดีตซ้อนทับเข้ามาไม่หยุดเธอพยายามควบคุมตัวเอง สูดลมหายใจลึกแม้จะไม่ช่วยอะไรเลยเธอเอื้อมไปจับไม้พยุง ก่อนค่อยๆ พยุงร่างกายที่อ่อนแรงไปยังห้องน้ำ ก้า

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่31.มือนำทาง

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมพัดแผ่วเบาลอดผ่านหน้าต่างห้องของอาดัม เขายืนถือโทรศัพท์ไว้แนบหู ปลายสายนั้นคือวิน เพื่อนสนิทที่โทรมาจากต่างแดน เพราะหลังจากเหตุการ์ณ์ที่เกาะทองคำวันนั้นวินได้บินกลับไปอย่างกระทันหัน "นายแน่ใจเหรอ...อาดัม?" เสียงของวินชัดเจนผ่านใบหูของอาดัมในขณะที่ทั้งสองได้คุยกันมาได้สักพักแล้วจนมาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะวางสายลง “แน่ใจสิ…”อาดัมตอบกลับด้วยความมั่นใจขณะที่ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววความแน่วแน่มั่นคง ถึงแม้เขาจะรู้จักเธอแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ตาม แต่บางอย่างในตัวเธอทำให้เขาตัดสินใจได้โดยไม่ลังเล เมื่อวินได้ยินคำตอบที่ราวกลั่นออกมาจากหัวใจของอาดัมแล้ว เขาก็เอ่ยด้วยด้วยน้ำเสียงแห่งความยินดี “เมื่อนายมั่นใจและเชื่อมั่นแล้ว ฉันก็เชื่อในตัวนายเช่นกันว่านายนั้นทำได้ดี” วินตอบกลับแล้วหันมองดูเวลาบนข้อมือที่ใกล้เข้ากะทำงานไปทุกที“ ไว้คุยกันใหม่ ฉันต้องเข้าทำงานแล้ว ขอพระเจ้าอวยพร นายกับฮันน่า นะ" “ขอบใจมากเพื่อน ..วิน! แล้วเจอกัน ” .. ตุ๊ด.. ตุ๊ด.. ตุ๊ด..………….เมื่อวางสายไปแล้ว อาดัมถอนหายใจออกมาช้าๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี แสงดาวระยิบระยับสะท้อ

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่30.แสงแห่งคำอธิษฐาน

    ยามหัวค่ำในห้องพักฟื้น อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ซ่านลึกเข้าไปถึงกระดูก ฮันน่า นอนนิ่งอยู่บนเตียง แม้ร่างกายยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลที่ยังไม่หายดี แต่ถึงกระนั้นความเจ็บปวดจากร่างกายนั้นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่กัดกินเธออยู่ภายในความกลัว ที่เหมือนเงาดำซึ่งคืบคลานเข้ามารัดแน่นจนหายใจแทบไม่ออกเธอรู้ดีว่าการหนีจาก ลินลี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย... ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนอย่างเธอ นี่คือเมืองที่ลินลี่ครอบครองทุกสิ่งหญิงผู้มีอิทธิพล ผู้ทรงพลังยิ่งกว่ากฎหมายและความยุติธรรม ไม่มีมุมใดของเมืองนี้ที่จะหลบพ้นสายตาของเธอได้หัวใจของฮันน่าเต้นแรงในอก ดวงตาจ้องมองเงาตรงประตูหน้าห้องที่ดูเหมือนจะขยับเคลื่อนไหวตามเสียงฝีเท้าในจินตนาการของเธอ ทุกวินาทีราวกับกำลังรอคอยหายนะที่จะมาถึงโดยไม่มีวันเลี่ยงได้เธอไม่ได้หวังปาฏิหาริย์อีกต่อไป... ในเมืองของลินลี่ คนที่หนีไปได้ มีเพียงเงา หรือซากศพตึก... ตึก...ตึกเสียงรองเท้าส้นสูงดังสะท้อนก้องมาตามทางเดินยาวนอกห้อง ทุกก้าวการเดินนั้นราวกับกำลังย้ำเตือนถึงชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง ทุกก้าว ยิ่งกระชั้นชิด เสมือนเสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่น

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่29..เคียงข้าง...แม้วันอ่อนแอ

    ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล บรรยากาศเงียบงัน แสงไฟนวลตาส่องกระทบผนังสีขาวสะอาดตา ทว่ากลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว อากาศอบอวลด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจาง เตียงคนไข้ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ม่านสีขาวกั้นเป็นสัดส่วน อาดัมก้าวเข้ามาอย่างช้าๆสายตาของเขามองไปยังหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ผ้าพันแผลสีขาวพันรอบศีรษะของเธอ และขาของเธอถูกดามไว้อย่างแน่นหนา ร่องรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำปรากฏให้เห็นบนผิวกายซีดเซียว ร่างกายของเธอดูเปราะบางราวกับอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อ เสียงลมหายใจแผ่วเบาของเธอยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด อาดัมรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ กดทับอยู่ในอก ราวกับแบกรับความรู้สึกผิดที่มองไม่เห็น เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ สายตาไล่มองไปตามร่างของเธอ พลางครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องเจ็บหนักขนาดนี้ เขารู้ว่าเธอรอดมาได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะผ่านมันไปได้โดยง่าย เสียงฝีเท้าของเขาเบาลงขณะก้าวถอยหลัง สุดท้ายอาดัมเลือกจะหมุนตัวเดินออกจากห้องแม้ความกังวลยังคงฝังแน่นอยู่ในใจ... เขาตรงกลับมาบ้านที่อบอุ่นเสียงฝีเท้าดังก้องทั่วห้องโถ่งทางเด

  • 42 คำอธิษฐานบนถนนหลากสี (42 Prayers on the Rainbow Road)   บทที่28.เงาแห่งโชคชะตา

    กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เรือสปีดโบ๊ทแล่นตัดผ่านเกลียวคลื่นอย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์คำรามกลบความเงียบของท้องฟ้ายามเย็นที่กำลังมืดลง อาดัมนั่งเงียบอยู่ข้างฮันน่า ดวงตาของเขามองไปยังใบหน้าของฮันน่าที่เปื้อนไปด้วยเลือด เธอดูอ่อนล้าและไร้เรี่ยวแรงและในแววตาของเธอนั้นช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด“คุณ…เข้มแข็งไว้นะ” อาดัมเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง ขณะที่นันย์ตาเขามองเธอราวกับต้องการส่งกำลังใจทั้งหมดที่เขามีให้กับเธอ ปลายนิ้วของเขาแตะลงบนแขนของเธอเบา ๆ สัมผัสแผ่วเบาที่ไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้เผชิญกับสิ่งนี้เพียงลำพัง ฮันน่ามองอาดัม ก่อนพยักหน้าแม้ไม่มีคำพูดใดออกมา แต่แววตาของเธอนั้นรับรู้ถึงความห่วงใยของเขา และเธอจะพยายามอดทน ให้ถึ่งฝั่งเรือสปีดโบ๊ทเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความเร่งด่วน ไฟสีแดงของรถพยาบาลที่จอดรออยู่ที่ท่าเรือสะท้อนบนผิวน้ำ ราวกับประกาศความสำคัญของชีวิตที่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายทันทีที่เรือจอดเทียบที่ท่า คนขับเรือและเจ้าหน้าที่รีบเข้ามาช่วยอาดัมพยุงฮันน่าขึ้นไปยังรถพยาบาล เสียงไซเรนดังก้องเมื่อรถพุ่งออกจากท่าเรือ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status