“น่าสนใจนะ”
“ใช่ บรรยากาศคล้ายงานวัดนั่นแหละ” เขาบอก ดวงตาคมสบตาคู่สวยนั้นมีรอยยิ้ม ทำให้คนมองรู้สึกอุ่นในใจอย่างประหลาด จนต้องเสมองไปทางเพื่อน
“ไปด้วยกันไหมพรีม”
คนที่เพิ่งวางสายจากเพื่อนเลิกคิ้วขึ้นอย่างงงๆ
“เราคุยกันว่าจะไปเที่ยวงานปีใหม่ในอำเภอ”
“อืม” พรรษาทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะเหลือบตามองไปยังเพื่อนรัก “ง่วงอะ บิวไปกับพี่ภัคสองคนได้ไหม”
ภคภัทรหันไปมองตาบุญญาพรราวกับนัด และเป็นฝ่ายหลังที่ต้องหลบสายตาคมนั้นไปเสีย ด้วยความรู้สึกแปลกๆ อาจเป็นเพราะหล่อนคอยแต่จะคิดถึงเรื่องที่คุยกับพรรษาเมื่อช่วงเย็น จนทำให้มองตาเขาได้ไม่สนิทนัก
“ว่าไงบิว ยังอยากไปอยู่ไหม” ภคภัทรเอ่ยถาม
พรรษามองเพื่อนที่ทำท่าลังเล จึงตัดบท
“โอ๊ย ไปเถอะบิว นานๆ จะได้เดินเล่นงานวัดงานบ้านๆ สักครั้ง”
“แต่พรีมง่วงแล้วนี่ ใครจะไปเป็นเพื่อนล่ะ” บุญญาพรอิดออด
“อ้าว ก็พี่ภัคน่ะสิ ไปกันเถอะ นะ ไปเปิดหูเปิดตา”
บุญญาพรสบตาเพื่อนอย่างรู้ทัน แต่ฝ่ายนั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เช่นเดียวกับภคภัทรที่รู้ทันเหลี่ยมน้องสาว ว่ากำลังวางแผนให้เขากับเพื่อนรักอยู่ด้วยกันตามลำพัง แต่เขาก็ทำเฉยเสีย ไม่ได้แสดงออกว่ารู้สึกเช่นไร...
“ไปไหมบิว ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะ” ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ แววตาคู่นั้นมีเพียงความบริสุทธิ์ใจ ทำให้หญิงสาวจำต้องยิ้มตอบ
“งั้นพรีมนอนคนเดียวไปก่อนนะ บิวจะไปเที่ยวกับพี่ภัค” หญิงสาวหันไปยักคิ้วกับเพื่อน ฝ่ายนั้นหัวเราะคิกพลางบอก
“เที่ยวให้สนุกน้า”
ว่าแล้วสองหนุ่มสาวก็เตรียมตัวออกไปเที่ยวงานฉลองวันปีใหม่ โดยที่เพื่อนรักเลือกที่จะนอนอยู่บ้าน
ทั้งสองมาถึงงานในอำเภอโดยใช้เวลาไม่นานนัก เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไร
เมื่อมาถึงก็พบว่ามีผู้คนมากมาย บรรยากาศครึกครื้นจนนึกเสียดายที่เพื่อนรักไม่ได้มาด้วย
“คนเยอะจังเลยนะคะ ร้านรวงก็เยอะ”
คนตัวสูงที่เดินเอามือซุกกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่ง อีกข้างปล่อยแนบลำตัวเหลือบตามองคนตัวบางยิ้มๆ แววตากลมโตของหล่อนเป็นประกายเหมือนเด็กที่นานๆ สักครั้งจะได้ออกมาเที่ยวงานวัดอย่างไรอย่างนั้น
“ก็แบบนี้ทุกปี ส่วนใหญ่เป็นคนที่กลับมาเยี่ยมบ้าน” เขาบอก พลางมองตามสายตาของหญิงสาวที่มองไปยังร้านขายน้ำ ร่างสูงจึงฉวยจูงมือเรียวและเดินเบียดผู้คนเข้าไปยังร้านนั้น ทำให้คนตัวเล็กที่ถูกจับจูงโดยไม่ทันตั้งตัวใจกระตุก แต่ก็ยอมเดินตามเขาเข้าไปอย่างว่าง่าย เหมือนตุ๊กตาตัวงามที่ถูกไขลานให้ทำตามใจเจ้าของอย่างไรอย่างนั้น
“บิวอยากกินน้ำอะไร”
หญิงสาวที่มองเขาจนลืมตัวหน้าร้อนวูบเมื่อชายหนุ่มหันมามอง เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นอาการงุนงงของหล่อนเข้า
“เอ่อ ขอน้ำมะพร้าวก็ได้ค่ะ”
ชายหนุ่มพยักหน้า แล้วหันไปสั่งกับแม่ค้า
“พี่ครับ ขอน้ำมะพร้าวสองแก้วครับ”
บุญญาพรหลุบตาลงมองมือข้างที่ถูกกุมเอาไว้อย่างถือวิสาสะ แถมทำเนียนราวกับว่าการจับจูงมือหล่อนนั้นเป็นเรื่องปกติ พลางขบเม้มริมฝีปากด้วยความรู้สึกใจสั่นไหวกับเขาเป็นครั้งแรก แล้วเต้นแรงรัวจนกลัวคนข้างๆ จะรู้ นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกับหล่อนนะ
“ได้แล้ว” เขาหันกลับมา พร้อมกับส่งน้ำให้หญิงสาวและปล่อยมือหล่อนในที่สุด ดวงตาคู่งามมองตามมือใหญ่ไปอย่างลืมตัว แววตาคู่นั้นแฝงความเสียดายจนเจ้าของมือใหญ่อมยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวอุบอิบบอกพลางดูดน้ำมะพร้าวหวานชื่นใจ จากนั้นชายหนุ่มก็พาหล่อนเดินเล่นไปในงาน ก่อนจะไปนั่งพักยังหน้าเวทีที่มีการแสดงต่างๆ
“บิวไม่ได้มาเที่ยวงานแบบนี้นานมากแล้ว รู้สึกดีจังเลยค่ะ” หญิงสาวกล่าวออกมาจากใจจริง ชายหนุ่มหลุบตามองคนข้างกายแล้วบอก
“พี่เองก็คิดเหมือนกับบิวทุกครั้งที่กลับมาเยี่ยมบ้าน” เขาตอบพลางเลื่อนสายตาไปยังเวทีที่มีการแสดงของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ
“พี่ภัคเคยคิดจะกลับไปทำงานประจำอีกไหมคะ”
ชายหนุ่มถอนหายใจ เขายิ้มให้หล่อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดูดอีกครั้งจนได้ยินเสียงดูดน้ำจนหมด
“ไม่หรอก ตอนลาออกพี่คิดดีแล้ว แล้วที่นี่ก็มีอะไรให้พี่ทดลองทำเยอะแยะ บิวก็เห็นว่าตอนนี้พี่มีอาชีพใหม่แล้ว” เขาหันมายิ้มให้คนถาม ท่าทางมีความสุขมาก “อีกอย่าง พี่ทิ้งพ่อไปไม่ได้”
หญิงสาวนิ่งเงียบไปอึดใจใหญ่จึงเอ่ยถามขึ้น
“พรีมเคยเปรยกับบิวว่าอยากกลับบ้านเหมือนกัน ถ้าบิวกลับบ้านมีคนช่วยดูแลพ่อแล้ว พี่ภัคจะกลับไปทำงานที่เดิมไหม บิวเคยเล่าให้ฟังว่าบริษัทเคยตามตัวพี่กลับไปทำงานใหม่ แล้วยังจะเลื่อนขั้นเพิ่มเงินเดือนให้อีกด้วย”
คนฟังยิ้ม เงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนตอบ
“คงไม่กลับไปแล้ว”
“เปิดสิคะ” บุญญาพรบอกเขาพลางยิ้มกว้าง ดวงตาของหล่อนเป็นประกายวิบวับ ชายหนุ่มยิ้มตอบพลางเอ่ยออกมาเบาๆ“อะไรน้า” ว่าแล้วเขาก็ค่อยๆ บรรจงเปิดกล่องเล็กๆ ในมือของตนเอง พอเปิดออกเขาก็ต้องชะงักงัน หัวใจเต้นแรงรัวด้วยความรู้สึกอื้ออึง สมองพร่าเบลอไปชั่วขณะ อาการนิ่งอึ้งของเขาทำให้คนในร้านต่างเงียบพากันลุ้นว่าข้างในนั้นคืออะไรเมื่อชายหนุ่มหยิบแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ออกมา แล้วสบตาหญิงสาวด้วยสายตาเป็นคำถาม บุญญาพรจึงพยักหน้ายิ้ม เพียงแค่นั้น หัวใจของชายหนุ่มก็กระเด้งกระดอน ก่อนจะเอ่ยออกมา“ท้องจริงเหรอ”“จริงสิ ดีใจไหม” คนที่ถามแก้มแดงปลั่ง ทำให้คนที่นัยน์ตาเป็นประกายพราวยิ้มกว้าง แล้วชูแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ในมือของตนเองขึ้นสุดแขนพร้อมตะโกนออกมาด้วยความดีใจสุดขีด “เมียผมท้องแล้ว ผมกำลังจะมีลูก เย่!”สิ้นเสียงของชายหนุ่ม คนในร้านต่างตะโกนแสดงความยินดีต่อเจ้าของร้านหมูกระทะหนุ่มอย่างอื้ออึง พร้อมดนตรีที่ดังขึ้นอย่างสนุกสนานเพื่อแสดงความยินดีกับสองหนุ่มสาวเจ้าของร้านภาพสวมกอดภรรยาสาวของภคภัทรบาดตาบาดใจแม่หม้ายสาวไม่พอ เขายังจูบริมฝีปากนุ่มตอกย้ำความรักที่มีต่อภรรยาสาวเพียงผู้เดียวจนหญิงสาวตกใจหน้าแดง
หน้าหนาวมาเยือนอีกครั้ง แต่ก็เป็นหนาวที่ไม่ถึงกับหนาวจนตัวสั่นงันงก คู่รักสองคู่กำลังนั่งกินหมูกระทะอยู่บนดอยซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ผู้คนยังบางเบาเพราะแทบจะไม่ได้ทำการโพรโมต ก็เป็นเรื่องดีสำหรับคู่รักทั้งสองที่จะเที่ยวได้อย่างอิสระ ไม่ต้องเบียดเสียด แย่งกันกินแย่งกันเที่ยวเหมือนที่อื่น “มึงได้ข่าวไอ้ตฤณมั่งไหมวะ” จู่ๆ บริวัฒน์ก็เอ่ยถามขึ้น ภคภัทรสบตาเพื่อนแล้วนิ่งไปอึดใจ“ได้ข่าวว่ามันไปนอกนานแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้ข่าวมันอีก เพื่อนๆ คนอื่นก็ไม่มีใครรู้ว่ามันไปทำอะไร”ต่างคนต่างเงียบกันไปพักใหญ่ เพราะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เส้นทางเดินของตฤณนั้นไม่มีใครรู้ ทว่าพวกเขายังเอาใจช่วยให้ฝ่ายนั้นพบเจอสิ่งที่ดีเสมอ“หวังว่ามันจะโชคดี” บริวัฒน์เอ่ยออกมาอีกประโยค ขณะที่ภคภัทรหลุบตาลง ก่อนจะตัดบทเสีย “ตกลงมึงว่าไงเรื่องพรีม” ถามเพื่อนพลางมองไปยังภรรยาและน้องสาวที่กำลังยืนคุยกันอยู่ไม่ไกลนัก ดึงความคิดของบริวัฒน์กลับมาอยู่กับปัจจุบัน“กูคุยกับป๊าม้าเรียบร้อยแล้ว กลับไปถึงจะส่งข่าวอีกทีว่าวันไหน”ภคภัทรพยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ เพื่อนกำลังเตรียมแต่งขันหมากสู่ขอน้องสาวของเขา“แล้วมึ
บทพิเศษภาพในวันแต่งงานตั้งเด่นอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือในห้องนอน ทุกครั้งที่บุญญาพรมองไปหญิงสาวมักจะหยุดดูด้วยสายตาอ่อนโยน เจ้าบ่าวของหล่อนเป็นคนมีเสน่ห์ทั้งตัวจริงและในรูปภาพ ใครจะว่าหล่อนหลงสามีก็ยอม ในเมื่อสามีของหล่อนทั้งหล่อและดีขนาดนี้ใครจะไม่รักไม่หลงกันล่ะ แต่งงานได้สามเดือนหญิงสาวก็ลาออกจากงานที่ทำมานานหลายปี เพราะต้องการออกไปทำหน้าที่แม่บ้านให้กับชายหนุ่ม และมีอาชีพใหม่เป็นแม่ค้าขายผักออนไลน์ไปด้วย นอกจากขายผักแล้วหญิงสาวยังขายของแฟชั่นจุกจิก ขายดิบขายดีจนส่งแทบไม่ทันที่ตั้งใจไว้ว่าจะมีลูกกันหลังแต่งงานมีอันต้องพับโครงการไปชั่วคราว เพราะเมื่อเงินทองไหลมาเทมาก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออนาคตของเจ้าตัวน้อยในภายภาคหน้านั่นเอง“บิว”“มาแล้วจ้า” ร่างบางเดินตรงไปหาสามีที่กำลังตัดผัก“ช่วยดูให้หน่อยว่าตัวอะไรมันกัดพี่” เขาชี้นิ้วไปด้านหลังให้ภรรยาช่วยดู หญิงสาวจึงวางถาดของว่างลงบนโต๊ะตรงหน้าแล้วเปิดคอเสื้อด้านหลังของสามี ก่อนจะหยิบหมับเข้ากับมดคันไฟตัวร้าย“มดไฟน่ะ นี่แน่ะ แกกล้าดียังไงมากัดผัวฉัน ตายซะเถอะ!”ชายหนุ่มหันไปมองคนที่กำลังบี้มดคันไฟด้วยท่าทางจริงจังก่อนจะหั
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะครบรอบหนึ่งปีที่ภคภัทรกับบุญญาพรคบหากันฉันคนรัก คราวนี้เขาตามคนรักไปกราบพ่อกับแม่ของหญิงสาว และได้เจอพี่น้องของหล่อน พร้อมกับพูดคุยเรื่องสำคัญที่เขาคิดมาสักพักหนึ่งแล้ว“แน่ใจแล้วใช่ไหม ถึงมาพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่” คนเป็นมารดายังไม่ลืมว่าช่วงนี้ของปีที่แล้วลูกสาวเพิ่งยกเลิกงานแต่งกับอดีตคนรักที่คบกันมาหกปี แต่มาปีนี้กลับมีผู้ชายร่างสูงใหญ่หน้าตาดีมาขอลูกสาวกับนางและสามีแทน“แน่ใจครับ” เขาตอบว่าที่พ่อตาแม่ยาย พลางหันไปมองคนรักที่นั่งยิ้มอยู่ข้างกัน“หนูแน่ใจ” หญิงสาวบอกกับบิดามารดา พลางมองไปยังพี่ๆ น้องๆ ที่เป็นสักขีพยานอยู่ข้างๆสองสามีภรรยาหันมาสบตากัน ก่อนจะหันมาบอกว่าที่ลูกเขย“ถ้าแน่ใจ ก็พาผู้ใหญ่มาคุยกันอย่างเป็นทางการ พร้อมวันไหนก็นัดมา จากนั้นก็หาฤกษ์ หมั้นเช้าแต่งเย็นไปเลย ไม่ต้องรอนาน ตกลงไหม”เป็นการแต่งงานที่รวดเร็วทันใจวัยพร้อมมีครอบครัวอย่างภคภัทรและบุญญาพรมาก ทำให้คนทั้งสองต่างยิ้มออกมาอย่างเห็นด้วย“ตกลงครับ ผมจะกลับไปบอกกับพ่อ แล้วนัดวันที่แน่นอนอีกทีครับ”บิดาของหญิงสาวพยักหน้า พลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วพูดออกมาประโยคห
“บิวไม่สนใจแล้ว ที่ผ่านมาจะนานแค่ไหน ต้องเจออะไรบ้าง สนแค่ตอนนี้เราได้อยู่ด้วยกัน แค่นี้บิวก็พอใจ”คนฟังยิ้มกว้าง เป็นคำพูดที่เขาเองก็พอใจเช่นเดียวกัน จากนั้นหญิงสาวจึงถูกร่างสูงใหญ่อุ้มตรงเข้าไปยังห้องนอน“พี่ขอไปอาบน้ำก่อน อย่าเพิ่งหลับนะ”หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง มองร่างสูงกำยำถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว แก้มสาวร้อนผ่าวแต่ก็ไม่ยอมละสายตาไปทางอื่น ชื่นชมร่างกายของเขาด้วยความหลงใหลรักใคร่สุดใจชายหนุ่มหันมามองคนหน้ามึนที่มองเขาตาเยิ้ม ก่อนจะรูดกางเกงในออกจากสะโพก แล้วหันหน้าไปสบสายตาคู่งามอย่างท้าทาย คนมองเพิ่งรู้ว่าความรู้สึกลำคอแห้งเป็นผุยผงนั้นเป็นอย่างไรก็ตอนนี้ แต่เพียงไม่นานสิ่งยั่วเย้าตรงหน้าก็หายไปในเสื้อคลุมตัวโต“อาบน้ำด้วยกันไหม” เขาชวน ทำให้หญิงสาวหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า“บิวรออยู่นี่ดีกว่า” พูดจบก็ดึงผ้าขึ้นมาห่ม ชายหนุ่มยิ้มกริ่มก่อนจะเดินออกไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านนอก ประมาณสิบห้านาทีชายหนุ่มก็กลับเข้ามาในห้อง เขากดล็อกประตูเรียบร้อยแล้วตรงไปยังเตียงกว้างที่มีบุญญาพรนอนเล่นโทรศัพท์อยู่“เร็วจัง” หญิงสาวลดโทรศัพท์ในมือลง พลางมองคนที่ลงมานั่งข้างๆ เตียง พร้อมกับด
บทส่งท้ายภคภัทรกลับมาถึงคอนโดฯ ในเวลาห้าทุ่มเศษ ทั้งสองสาวยังไม่มีใครหลับ คนที่เปิดประตูให้ก็คือบุญญาพร หญิงสาวยิ้มกว้างพลางยื่นมือไปหมายจะคว้ากระเป๋าของชายหนุ่มไปถือ “ไม่เป็นไร พี่ถือเอง” เขาบอกยิ้มๆ พลางมองเลยไปยังน้องสาวที่กำลังมองมาเช่นกัน“กลับเร็วอะ งานไม่สนุกเหรอ”คนที่ถอดรองเท้าเสร็จก้าวตรงไปยังโซฟาที่น้องสาวนั่งอยู่ มีแมคบุ๊กวางบนตักตัวเอง“สนุกสิ แต่ตอนนี้มันเป็นเวลาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวน่ะนะ ขืนอยู่ต่อคงได้ถูกด่า” เขาขยี้ผมน้องสาวแล้วนั่งลงข้างๆ โดยมีร่างบางของบุญญาพรนั่งลงบนอาร์มแชร์ไขว่ห้างมองเขาด้วยสายตาเจือยิ้ม“แล้วนี่ยังไม่นอนกันอีก”สองสาวมองหน้ากันก่อนจะยิ้มให้พี่ชาย“เราสองคนรอพี่ภัคน่ะ อันที่จริงพรีมจะเข้านอนแล้ว แต่บิวน่ะสิยืนยันว่าจะอยู่รอพี่ภัค ก็เลยรอเป็นเพื่อน”“งั้นก็ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้านี่”“ก็ได้ งั้นไปนอนแล้วนะ” พรรษาบอกพี่ชายก่อนจะหันไปขยิบตากับเพื่อนรักแล้วเดินกลับห้อง“มีอะไรกัน” ภคภัทรเลิกคิ้วพร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกคนรัก บุญญาพรยิ้มตอบก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ“ไม่มี พรีมแค่แซวเรา”คำตอบของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มยิ้มขัน“บิวรู้ไหม ว่าพรี