๒
สวัสดีปีใหม่
สวัสดี ปีใหม่แล้ว... เสียงเพลงสวัสดีปีใหม่ ดังกังวานมาจากเสียงตามสาย ทำให้คนที่กำลังรับสายจากทางบ้านถึงกับหน้าเจื่อนลงทันที แตกต่างจากสามคนพ่อลูกที่กำลังยิ้มและหัวเราะขณะพูดคุย
“แกควรกลับบ้าน”
“แม่ก็รู้ว่าทำไมหนูไม่อยากกลับ ขอเว้นปีนี้สักปีนะแม่” บุญญาพรตอบมารดาไป
“แกต้องกลับ ทำให้พ่อแม่พี่น้องขายหน้ายังไม่พอใจอีกเหรอ ปีใหม่ก็ยังจะไม่กลับอีก”
“ก็เพราะแบบนี้ไงแม่ หนูถึงไม่อยากกลับ กลับไปก็มีแต่คนจ้องจะถาม หนูยังไม่พร้อมเจอใครทั้งนั้น”
“ฮึ! ยังมีหน้ามาพูด พวกฉันไม่ได้บังคับให้แกไปแต่งกับมันนะ แล้วนี่ปีใหม่ลูกหลานคนอื่นเขากลับบ้านกันหมด มีแกที่ไม่กลับ”
“หนูมาบ้านเพื่อน บอกแม่ไปแล้วนี่”
“แต่ฉันอยากให้แกกลับบ้าน เพื่อนแม่เขามาเยี่ยม พาลูกๆ มาด้วย”
“หนูไม่แต่ง” บุญญาพรสวนกลับไปทันที เพราะก่อนที่หล่อนจะตัดสินใจแต่งงานกับตฤณ มารดาได้ห้ามปรามเพราะไม่ชอบเขา แต่ต้องการให้แต่งงานกับลูกชายเพื่อนแม่แทน ซึ่งหล่อนก็ไม่ชอบลูกชายเพื่อนแม่เช่นกัน จึงทำให้มีปากเสียงและไม่ค่อยลงรอยกันนับแต่นั้นมา พอหล่อนทำให้ท่านต้องเสียชื่อเสียงคราวนี้ จึงถูกเพ่งเล็งและต่อว่าอย่างหนัก นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หล่อนไม่อยากกลับบ้าน
ภคภัทรลอบมองบุญญาพร เห็นร่างบางเดินหายไปหลังบ้านหลังจากรับโทรศัพท์จากทางบ้าน
“สงสัยทะเลาะกับทางบ้านอีกตามเคย” พรรษาเปรยออกมาพลางส่ายหน้า คนเป็นพี่มองน้องแล้วเอ่ยถาม
“ทำไม เรื่องไอ้ตฤณเหรอ” เจ้าของเสียงทุ้มถาม
“ก็ไม่ทั้งหมด อันที่จริงบิวไม่ค่อยลงรอยกับทางบ้านตั้งแต่ตอนที่ดื้อรั้นจะแต่งงานกับพี่ตฤณแล้ว พอดีว่าแม่เขาไม่ชอบพี่ตฤณ อยากให้บิวแต่งกับลูกชายของเพื่อนแม่มากกว่า แต่บิวมันก็ดื้อตาใสเลยแหละตอนนั้น ค้านหัวชนฝา แล้วหันมาตกลงแต่งงานกับทางนี้แทน พอมาเลิกกันก่อนแต่งแค่เดือนเดียว แม่มันก็ยิ่งโกรธ โทษว่ามันเป็นต้นเหตุให้คนทั้งบ้านต้องอับอายขายหน้า แม่เตือนไม่ยอมฟัง”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว พลางมองไปทางที่หญิงสาวหายไป
“น่าสงสารมันนะพี่ภัค”
คนเป็นพี่ไม่ได้ตอบ นอกจากรับฟังเงียบๆ ทำให้น้องสาวที่กำลังคีบหมูกระทะขึ้นมากินเอ่ยขึ้นว่า
“พี่ภัคยังไม่มีแฟนใช่ไหม”
คนเป็นพี่เหล่ตามองน้องทันที
“ทำไม”
พรรษายิ้มกริ่ม หันซ้ายแลขวาแล้วกระซิบกระซาบ
“จีบไอ้บิวสิ พรีมเป็นกองหนุนให้เอง”
ภคภัทรสะดุ้งในใจ พลางมองน้องเหมือนมองของแปลก
“ไม่มีอะไรจะเอามาคุยกันแล้วใช่ไหม เดี๋ยวโดนตะหลิวเคาะหัวเลย” เขาไม่พูดเปล่าหันไปหยิบตะหลิวขึ้นมาทำท่าจะเคาะหัวน้อง พรรษาเป็นอันต้องหลบวูบทันที
“โธ่ พรีมพูดจริงนะ บิวออกจะสวยน่ารัก ทำไมพี่ภัคไม่สนใจมันบ้าง แล้วตอนที่ปล่อยให้ไอ้พี่ตฤณจีบไปได้ พรีมล่ะโคตรจะเสียดายแทนเลย”
ชายหนุ่มนิ่วหน้า ที่น้องสาวพูดอะไรไม่เข้าท่าสักนิด
“พูดอะไรเรื่อยเปื่อย เลิกพูดเรื่องนี้ไปเลยนะ” เขาสั่งจริงจัง เพราะไม่อยากให้บุญญาพรเข้ามาได้ยิน ไม่อยากให้อีกฝ่ายมองเขาไม่ดี แต่หารู้ไม่ว่าน้องสาวตัวดีบอกกับเพื่อนรักให้จีบเขาเสียก่อนมาถึงบ้านไปแล้วด้วยซ้ำ
“โอ๊ย ป๊อดอะ ไม่ยักรู้ว่าพี่ภัคปอดแหก”
ภคภัทรถลึงตาใส่น้องสาวปากเก่ง
“พูดมาก พี่ไม่ได้กลัว แต่พี่ไม่ได้คิดกับบิวแบบนั้น”
พอพี่ชายพูดจบน้องสาวก็ทำปากยื่น บ่นเป็นหมีกินผึ้ง
“ก็ยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่คิดสักนิดเล่า ตอนนี้เพื่อน พรีมโสดแล้วด้วย จะรอให้ใครเขามาคาบไปอีก”
“ยังอีก” เขายกมือขึ้นทำท่ามะเหงก
“เฮ้อ เซ็ง มีพี่ชายกับเขาคนหนึ่งก็แสนจะซื่อบื้อ สงสัยรอแต่งงานกับผักสลัด”
ภคภัทรตวัดตามองอย่างปรามๆ พอดีกับร่างบางของ บุญญาพรกลับเข้ามา หญิงสาวยิ้มให้สองพี่น้อง
“ไง หน้าตาไม่ค่อยดี แม่ให้กลับบ้านเหรอ” พรรษาเอ่ยถาม
“ฮือ แต่ไม่มีอะไรมากหรอก แค่บ่นนิดหน่อยเท่านั้นเอง” หญิงสาวบอกปัดยิ้มๆ ไม่อยากให้ทุกคนหมดสนุกเพราะหล่อน “พ่อไปไหนแล้ว”
“พ่อไปห้องน้ำ” พรรษาตอบ อีกสักพักพ่อก็กลับมา ทั้งหมดนั่งคุยกันจนมืด พ่อจึงกลับเข้าบ้าน ยามค่ำคืนในวันปีใหม่ เพื่อนบ้านต่างจัดงานสังสรรค์ บางคนก็ติดตั้งเครื่องเสียงร้องเพลงฉลองดังลั่น อีกหลายบ้านก็เข้าไปเที่ยวในเมือง เพราะในตัวอำเภอซึ่งห่างออกไปไม่ไกลนักมีงานเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในงานมีของกินเยอะแยะมากมาย มีเครื่องดื่มและดนตรี
“อยากไปเที่ยวงานปีใหม่ที่อำเภอไหม พี่พาไปเอง” ภคภัทรหันไปถามบุญญาพรที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ส่วนพรรษากำลังติดคุยโทรศัพท์กับเพื่อน
“เปิดสิคะ” บุญญาพรบอกเขาพลางยิ้มกว้าง ดวงตาของหล่อนเป็นประกายวิบวับ ชายหนุ่มยิ้มตอบพลางเอ่ยออกมาเบาๆ“อะไรน้า” ว่าแล้วเขาก็ค่อยๆ บรรจงเปิดกล่องเล็กๆ ในมือของตนเอง พอเปิดออกเขาก็ต้องชะงักงัน หัวใจเต้นแรงรัวด้วยความรู้สึกอื้ออึง สมองพร่าเบลอไปชั่วขณะ อาการนิ่งอึ้งของเขาทำให้คนในร้านต่างเงียบพากันลุ้นว่าข้างในนั้นคืออะไรเมื่อชายหนุ่มหยิบแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ออกมา แล้วสบตาหญิงสาวด้วยสายตาเป็นคำถาม บุญญาพรจึงพยักหน้ายิ้ม เพียงแค่นั้น หัวใจของชายหนุ่มก็กระเด้งกระดอน ก่อนจะเอ่ยออกมา“ท้องจริงเหรอ”“จริงสิ ดีใจไหม” คนที่ถามแก้มแดงปลั่ง ทำให้คนที่นัยน์ตาเป็นประกายพราวยิ้มกว้าง แล้วชูแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ในมือของตนเองขึ้นสุดแขนพร้อมตะโกนออกมาด้วยความดีใจสุดขีด “เมียผมท้องแล้ว ผมกำลังจะมีลูก เย่!”สิ้นเสียงของชายหนุ่ม คนในร้านต่างตะโกนแสดงความยินดีต่อเจ้าของร้านหมูกระทะหนุ่มอย่างอื้ออึง พร้อมดนตรีที่ดังขึ้นอย่างสนุกสนานเพื่อแสดงความยินดีกับสองหนุ่มสาวเจ้าของร้านภาพสวมกอดภรรยาสาวของภคภัทรบาดตาบาดใจแม่หม้ายสาวไม่พอ เขายังจูบริมฝีปากนุ่มตอกย้ำความรักที่มีต่อภรรยาสาวเพียงผู้เดียวจนหญิงสาวตกใจหน้าแดง
หน้าหนาวมาเยือนอีกครั้ง แต่ก็เป็นหนาวที่ไม่ถึงกับหนาวจนตัวสั่นงันงก คู่รักสองคู่กำลังนั่งกินหมูกระทะอยู่บนดอยซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ผู้คนยังบางเบาเพราะแทบจะไม่ได้ทำการโพรโมต ก็เป็นเรื่องดีสำหรับคู่รักทั้งสองที่จะเที่ยวได้อย่างอิสระ ไม่ต้องเบียดเสียด แย่งกันกินแย่งกันเที่ยวเหมือนที่อื่น “มึงได้ข่าวไอ้ตฤณมั่งไหมวะ” จู่ๆ บริวัฒน์ก็เอ่ยถามขึ้น ภคภัทรสบตาเพื่อนแล้วนิ่งไปอึดใจ“ได้ข่าวว่ามันไปนอกนานแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้ข่าวมันอีก เพื่อนๆ คนอื่นก็ไม่มีใครรู้ว่ามันไปทำอะไร”ต่างคนต่างเงียบกันไปพักใหญ่ เพราะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เส้นทางเดินของตฤณนั้นไม่มีใครรู้ ทว่าพวกเขายังเอาใจช่วยให้ฝ่ายนั้นพบเจอสิ่งที่ดีเสมอ“หวังว่ามันจะโชคดี” บริวัฒน์เอ่ยออกมาอีกประโยค ขณะที่ภคภัทรหลุบตาลง ก่อนจะตัดบทเสีย “ตกลงมึงว่าไงเรื่องพรีม” ถามเพื่อนพลางมองไปยังภรรยาและน้องสาวที่กำลังยืนคุยกันอยู่ไม่ไกลนัก ดึงความคิดของบริวัฒน์กลับมาอยู่กับปัจจุบัน“กูคุยกับป๊าม้าเรียบร้อยแล้ว กลับไปถึงจะส่งข่าวอีกทีว่าวันไหน”ภคภัทรพยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ เพื่อนกำลังเตรียมแต่งขันหมากสู่ขอน้องสาวของเขา“แล้วมึ
บทพิเศษภาพในวันแต่งงานตั้งเด่นอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือในห้องนอน ทุกครั้งที่บุญญาพรมองไปหญิงสาวมักจะหยุดดูด้วยสายตาอ่อนโยน เจ้าบ่าวของหล่อนเป็นคนมีเสน่ห์ทั้งตัวจริงและในรูปภาพ ใครจะว่าหล่อนหลงสามีก็ยอม ในเมื่อสามีของหล่อนทั้งหล่อและดีขนาดนี้ใครจะไม่รักไม่หลงกันล่ะ แต่งงานได้สามเดือนหญิงสาวก็ลาออกจากงานที่ทำมานานหลายปี เพราะต้องการออกไปทำหน้าที่แม่บ้านให้กับชายหนุ่ม และมีอาชีพใหม่เป็นแม่ค้าขายผักออนไลน์ไปด้วย นอกจากขายผักแล้วหญิงสาวยังขายของแฟชั่นจุกจิก ขายดิบขายดีจนส่งแทบไม่ทันที่ตั้งใจไว้ว่าจะมีลูกกันหลังแต่งงานมีอันต้องพับโครงการไปชั่วคราว เพราะเมื่อเงินทองไหลมาเทมาก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออนาคตของเจ้าตัวน้อยในภายภาคหน้านั่นเอง“บิว”“มาแล้วจ้า” ร่างบางเดินตรงไปหาสามีที่กำลังตัดผัก“ช่วยดูให้หน่อยว่าตัวอะไรมันกัดพี่” เขาชี้นิ้วไปด้านหลังให้ภรรยาช่วยดู หญิงสาวจึงวางถาดของว่างลงบนโต๊ะตรงหน้าแล้วเปิดคอเสื้อด้านหลังของสามี ก่อนจะหยิบหมับเข้ากับมดคันไฟตัวร้าย“มดไฟน่ะ นี่แน่ะ แกกล้าดียังไงมากัดผัวฉัน ตายซะเถอะ!”ชายหนุ่มหันไปมองคนที่กำลังบี้มดคันไฟด้วยท่าทางจริงจังก่อนจะหั
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะครบรอบหนึ่งปีที่ภคภัทรกับบุญญาพรคบหากันฉันคนรัก คราวนี้เขาตามคนรักไปกราบพ่อกับแม่ของหญิงสาว และได้เจอพี่น้องของหล่อน พร้อมกับพูดคุยเรื่องสำคัญที่เขาคิดมาสักพักหนึ่งแล้ว“แน่ใจแล้วใช่ไหม ถึงมาพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่” คนเป็นมารดายังไม่ลืมว่าช่วงนี้ของปีที่แล้วลูกสาวเพิ่งยกเลิกงานแต่งกับอดีตคนรักที่คบกันมาหกปี แต่มาปีนี้กลับมีผู้ชายร่างสูงใหญ่หน้าตาดีมาขอลูกสาวกับนางและสามีแทน“แน่ใจครับ” เขาตอบว่าที่พ่อตาแม่ยาย พลางหันไปมองคนรักที่นั่งยิ้มอยู่ข้างกัน“หนูแน่ใจ” หญิงสาวบอกกับบิดามารดา พลางมองไปยังพี่ๆ น้องๆ ที่เป็นสักขีพยานอยู่ข้างๆสองสามีภรรยาหันมาสบตากัน ก่อนจะหันมาบอกว่าที่ลูกเขย“ถ้าแน่ใจ ก็พาผู้ใหญ่มาคุยกันอย่างเป็นทางการ พร้อมวันไหนก็นัดมา จากนั้นก็หาฤกษ์ หมั้นเช้าแต่งเย็นไปเลย ไม่ต้องรอนาน ตกลงไหม”เป็นการแต่งงานที่รวดเร็วทันใจวัยพร้อมมีครอบครัวอย่างภคภัทรและบุญญาพรมาก ทำให้คนทั้งสองต่างยิ้มออกมาอย่างเห็นด้วย“ตกลงครับ ผมจะกลับไปบอกกับพ่อ แล้วนัดวันที่แน่นอนอีกทีครับ”บิดาของหญิงสาวพยักหน้า พลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วพูดออกมาประโยคห
“บิวไม่สนใจแล้ว ที่ผ่านมาจะนานแค่ไหน ต้องเจออะไรบ้าง สนแค่ตอนนี้เราได้อยู่ด้วยกัน แค่นี้บิวก็พอใจ”คนฟังยิ้มกว้าง เป็นคำพูดที่เขาเองก็พอใจเช่นเดียวกัน จากนั้นหญิงสาวจึงถูกร่างสูงใหญ่อุ้มตรงเข้าไปยังห้องนอน“พี่ขอไปอาบน้ำก่อน อย่าเพิ่งหลับนะ”หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง มองร่างสูงกำยำถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว แก้มสาวร้อนผ่าวแต่ก็ไม่ยอมละสายตาไปทางอื่น ชื่นชมร่างกายของเขาด้วยความหลงใหลรักใคร่สุดใจชายหนุ่มหันมามองคนหน้ามึนที่มองเขาตาเยิ้ม ก่อนจะรูดกางเกงในออกจากสะโพก แล้วหันหน้าไปสบสายตาคู่งามอย่างท้าทาย คนมองเพิ่งรู้ว่าความรู้สึกลำคอแห้งเป็นผุยผงนั้นเป็นอย่างไรก็ตอนนี้ แต่เพียงไม่นานสิ่งยั่วเย้าตรงหน้าก็หายไปในเสื้อคลุมตัวโต“อาบน้ำด้วยกันไหม” เขาชวน ทำให้หญิงสาวหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า“บิวรออยู่นี่ดีกว่า” พูดจบก็ดึงผ้าขึ้นมาห่ม ชายหนุ่มยิ้มกริ่มก่อนจะเดินออกไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านนอก ประมาณสิบห้านาทีชายหนุ่มก็กลับเข้ามาในห้อง เขากดล็อกประตูเรียบร้อยแล้วตรงไปยังเตียงกว้างที่มีบุญญาพรนอนเล่นโทรศัพท์อยู่“เร็วจัง” หญิงสาวลดโทรศัพท์ในมือลง พลางมองคนที่ลงมานั่งข้างๆ เตียง พร้อมกับด
บทส่งท้ายภคภัทรกลับมาถึงคอนโดฯ ในเวลาห้าทุ่มเศษ ทั้งสองสาวยังไม่มีใครหลับ คนที่เปิดประตูให้ก็คือบุญญาพร หญิงสาวยิ้มกว้างพลางยื่นมือไปหมายจะคว้ากระเป๋าของชายหนุ่มไปถือ “ไม่เป็นไร พี่ถือเอง” เขาบอกยิ้มๆ พลางมองเลยไปยังน้องสาวที่กำลังมองมาเช่นกัน“กลับเร็วอะ งานไม่สนุกเหรอ”คนที่ถอดรองเท้าเสร็จก้าวตรงไปยังโซฟาที่น้องสาวนั่งอยู่ มีแมคบุ๊กวางบนตักตัวเอง“สนุกสิ แต่ตอนนี้มันเป็นเวลาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวน่ะนะ ขืนอยู่ต่อคงได้ถูกด่า” เขาขยี้ผมน้องสาวแล้วนั่งลงข้างๆ โดยมีร่างบางของบุญญาพรนั่งลงบนอาร์มแชร์ไขว่ห้างมองเขาด้วยสายตาเจือยิ้ม“แล้วนี่ยังไม่นอนกันอีก”สองสาวมองหน้ากันก่อนจะยิ้มให้พี่ชาย“เราสองคนรอพี่ภัคน่ะ อันที่จริงพรีมจะเข้านอนแล้ว แต่บิวน่ะสิยืนยันว่าจะอยู่รอพี่ภัค ก็เลยรอเป็นเพื่อน”“งั้นก็ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้านี่”“ก็ได้ งั้นไปนอนแล้วนะ” พรรษาบอกพี่ชายก่อนจะหันไปขยิบตากับเพื่อนรักแล้วเดินกลับห้อง“มีอะไรกัน” ภคภัทรเลิกคิ้วพร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกคนรัก บุญญาพรยิ้มตอบก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ“ไม่มี พรีมแค่แซวเรา”คำตอบของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มยิ้มขัน“บิวรู้ไหม ว่าพรี