เขาตอบเหมือนเดิมพลางมองไปรอบๆ หญิงสาวมองตาม เห็นผู้หญิงหลายคนแอบมองชายหนุ่มแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บางคนที่รู้จักก็ถึงกับเข้ามาทักทายและพูดคุยกับชายหนุ่มนานสองนาน ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าข้างๆ เขามีหล่อนอยู่ด้วย บุญญาพรรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างหน้าตาดี อาจไม่หล่อเหลาเท่าตฤณแต่บุคลิกที่ตราตรึงใจและอะไรหลายอย่างที่รวมเป็นเขานั้นมีเสน่ห์ดึงดูดใจสาวๆ ได้ไม่ยาก จนหญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าหากเขาทำท่าว่าสนใจหล่อนขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกับที่ตฤณแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนใจหล่อน หล่อนจะเลือกใครระหว่างผู้ชายนิ่งขรึม ดูเป็นผู้ใหญ่ จริงจังกับงาน กับผู้ชายอีกคนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์พราว ร่าเริงสนุกสนาน ดึงดูดสายตาใครต่อใครได้ในทันทีที่พบหน้า
หญิงสาวหลุบตาลง แล้วบอกตนเองว่าเพ้อเจ้อ จากนั้นก็เงยหน้ามองคนข้างๆ แล้วเอียงคอน้อยๆ อย่างครุ่นคิด เมื่อฝ่ายนั้นหันมาหญิงสาวก็ยิ้มให้เขาแล้วเอ่ยถามออกไปตรงๆ
“พี่ภัคกับพี่อุ่นยังคบกันอยู่ไหมคะ” หญิงสาวแกล้งถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว และชายหนุ่มเองก็มั่นใจว่าหล่อนรู้ดีว่าเขากับอุ่นไม่ได้คุยกันมานานนับปีเช่นกัน
“เปล่า ห่างกันไปสักปีเห็นจะได้” เขาตอบตรงๆ อันที่จริงสถานภาพของเขากับอุ่นนั้นยังไม่เรียกว่าคนรักด้วยซ้ำ เรียกว่าคนคุยน่าจะถูกกว่า เขาเองเมื่อต้องกลับมาอยู่บ้านก็บอกหล่อนไปตามตรงว่าเขาอาจไม่มีเวลาให้หล่อนเหมือนเดิม หลังจากนั้นต่างคนต่างห่างกัน และในที่สุดอุ่นก็เป็นคนบอกเลิกความสัมพันธ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นด้วยการบอกเขาว่าหล่อนจะต้องหมั้นกับคนที่พ่อกับแม่หาให้ เขาไม่ว่าอะไรและอวยพรหล่อนไป จากนั้นก็จบกัน
บุญญาพรนั่งฟังพลางกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเอ่ยถามเขาอย่างที่ไม่เคยคิดจะถามมาก่อน
“แล้วพี่ภัคไม่เหงาบ้างเหรอคะ อันที่จริง อายุเท่าๆ พี่เขาพากันมีครอบครัวไปหมดแล้วนะ”
หากเป็นคนอื่นมาถามซอกแซกแบบนี้ภคภัทรคงไม่เต็มใจตอบนัก ไม่ก็อาจจะเดินหนีไปดื้อๆ แต่ท่าทางเอียงคอเท้าคางของหญิงสาวดูน่ารักไม่น้อยในสายตาของชายหนุ่ม เสียงหวานใสรื่นหู ทำให้เขาเต็มใจตอบหล่อนไปโดยไม่รู้สึกว่าเป็นการละลาบละล้วงเลยสักนิด
“ก็มีบ้าง แต่เวลาส่วนใหญ่พี่หมดไปกับงาน กับการดูแลพ่อ” เขาตอบตรงๆ “อีกอย่าง การจะหาคนที่ตรงกับความต้องการของเรามันยากนะ บางทีเขาตรงใจเราแต่เราอาจไม่ตรงใจเขามันก็เท่านั้น”
สายตาคมกริบมองมายังคนถามนิ่ง ทำให้คนที่เท้าคางมองเขาอยู่นั้นขนลุกกับสายตาอบอุ่นที่ดูจะร้อนแรงขึ้นอย่างประหลาด พลันร่างกายคล้ายจะชาวาบ จึงขยับตัวนั่งตรงแล้วยิ้มปูเลี่ยนรู้สึกใจเต้นแรงกับสายตาของเขา พร้อมกับยกมือขึ้นเกาแถวโคนผมบริเวณต้นคอของตนเองด้วยอาการคันยุบยิบขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ชายหนุ่มมองท่าทางของหญิงสาวแล้วมองตรงไปข้างหน้า แต่ดวงตามีรอยยิ้มขบขันซ่อนเร้นเช่นเดียวกับมุมปากที่ยกขึ้น
“เราจะอยู่เคานต์ดาวน์กับพวกเขาไหมคะ” บุญญาพรร้องถามแข่งเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มหลังจากเดินออกมาจากหน้าเวที ชายหนุ่มที่เดินเคียงข้างผ่านร้านรวงต่างๆ จนไปถึงร้านปาโป่งจึงหยุด
“บิวอยากอยู่ไหมล่ะ ถ้าอยากอยู่ก็อยู่” เขายิ้มก่อนจะตรงไปยังแม่ค้าที่ยืนรอแล้วซื้อลูกดอกมาถือไว้ หญิงสาวเดินตามไปหยุดข้างๆ เขา พลางมองอย่างตื่นเต้น ชายหนุ่มยิ้มพลางถาม “อยากลองปาโป่งไหม”
หญิงสาวยิ้มกว้างพร้อมพยักหน้า ชายหนุ่มจึงส่งลูกดอกให้หญิงสาว จากนั้นคนตัวเล็กก็เริ่มปา แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่โดนเลยสักลูก
“โหย ไม่โดนสักกะลูก” หญิงสาวบ่นอุบ
ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ อย่างขบขันแกมเอ็นดูกับความตั้งใจที่ล้มเหลว
“ลองใหม่ไหม” เขาเลิกคิ้วถาม แต่หญิงสาวส่ายหน้า
“ไม่แล้วดีกว่าค่ะ ปาไปก็ไม่ถูก เสียดายตังค์” หญิงสาวบอก ชายหนุ่มจึงหันไปบอกกับแม่ค้าว่าเขาจะซื้ออีกชุด จากนั้นก็ขยับตัวตั้งท่าพลางหันมาพูดกับหญิงสาว
“เดี๋ยวดูเป็นขวัญตานะน้อง”
คำพูดของชายหนุ่มกับสายตาเจิดจ้าที่มองมาทำให้หญิงสาวนึกถึงเด็กชายตัวโตที่เป็นหัวโจกพาทำเรื่องร้ายๆ ลับหลังผู้ใหญ่ แต่กลับทำให้หล่อนรู้สึกสนิทใจกับเขาราวกับผูกพันกันมาเนิ่นนาน
แล้วภคภัทรก็ทำให้บุญญาพรรู้ว่าการปาโป่งที่ถูกต้องและแม่นยำนั้นเป็นเช่นไร
ชึบ! ลูกดอกลูกสุดท้ายปักลงตรงกลางลูกโป่งจนแตกโพละ เสียงตบมือดังมาจากคนที่ยืนมองพร้อมกับแม่ค้าที่เดินกลับมาพร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวโตที่สุดในร้าน
ชายหนุ่มหันกลับมาพร้อมตุ๊กตาตัวใหญ่ เขายิ้มให้หล่อนก่อนจะยื่นตุ๊กตาให้จนคนตัวเล็กนิ่งอึ้ง ทำหน้าเหวอไปชั่วขณะ พลันแก้มเห่อร้อนตามลำดับ
“เอ่อ”
“พี่ให้”
“เปิดสิคะ” บุญญาพรบอกเขาพลางยิ้มกว้าง ดวงตาของหล่อนเป็นประกายวิบวับ ชายหนุ่มยิ้มตอบพลางเอ่ยออกมาเบาๆ“อะไรน้า” ว่าแล้วเขาก็ค่อยๆ บรรจงเปิดกล่องเล็กๆ ในมือของตนเอง พอเปิดออกเขาก็ต้องชะงักงัน หัวใจเต้นแรงรัวด้วยความรู้สึกอื้ออึง สมองพร่าเบลอไปชั่วขณะ อาการนิ่งอึ้งของเขาทำให้คนในร้านต่างเงียบพากันลุ้นว่าข้างในนั้นคืออะไรเมื่อชายหนุ่มหยิบแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ออกมา แล้วสบตาหญิงสาวด้วยสายตาเป็นคำถาม บุญญาพรจึงพยักหน้ายิ้ม เพียงแค่นั้น หัวใจของชายหนุ่มก็กระเด้งกระดอน ก่อนจะเอ่ยออกมา“ท้องจริงเหรอ”“จริงสิ ดีใจไหม” คนที่ถามแก้มแดงปลั่ง ทำให้คนที่นัยน์ตาเป็นประกายพราวยิ้มกว้าง แล้วชูแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ในมือของตนเองขึ้นสุดแขนพร้อมตะโกนออกมาด้วยความดีใจสุดขีด “เมียผมท้องแล้ว ผมกำลังจะมีลูก เย่!”สิ้นเสียงของชายหนุ่ม คนในร้านต่างตะโกนแสดงความยินดีต่อเจ้าของร้านหมูกระทะหนุ่มอย่างอื้ออึง พร้อมดนตรีที่ดังขึ้นอย่างสนุกสนานเพื่อแสดงความยินดีกับสองหนุ่มสาวเจ้าของร้านภาพสวมกอดภรรยาสาวของภคภัทรบาดตาบาดใจแม่หม้ายสาวไม่พอ เขายังจูบริมฝีปากนุ่มตอกย้ำความรักที่มีต่อภรรยาสาวเพียงผู้เดียวจนหญิงสาวตกใจหน้าแดง
หน้าหนาวมาเยือนอีกครั้ง แต่ก็เป็นหนาวที่ไม่ถึงกับหนาวจนตัวสั่นงันงก คู่รักสองคู่กำลังนั่งกินหมูกระทะอยู่บนดอยซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ผู้คนยังบางเบาเพราะแทบจะไม่ได้ทำการโพรโมต ก็เป็นเรื่องดีสำหรับคู่รักทั้งสองที่จะเที่ยวได้อย่างอิสระ ไม่ต้องเบียดเสียด แย่งกันกินแย่งกันเที่ยวเหมือนที่อื่น “มึงได้ข่าวไอ้ตฤณมั่งไหมวะ” จู่ๆ บริวัฒน์ก็เอ่ยถามขึ้น ภคภัทรสบตาเพื่อนแล้วนิ่งไปอึดใจ“ได้ข่าวว่ามันไปนอกนานแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้ข่าวมันอีก เพื่อนๆ คนอื่นก็ไม่มีใครรู้ว่ามันไปทำอะไร”ต่างคนต่างเงียบกันไปพักใหญ่ เพราะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เส้นทางเดินของตฤณนั้นไม่มีใครรู้ ทว่าพวกเขายังเอาใจช่วยให้ฝ่ายนั้นพบเจอสิ่งที่ดีเสมอ“หวังว่ามันจะโชคดี” บริวัฒน์เอ่ยออกมาอีกประโยค ขณะที่ภคภัทรหลุบตาลง ก่อนจะตัดบทเสีย “ตกลงมึงว่าไงเรื่องพรีม” ถามเพื่อนพลางมองไปยังภรรยาและน้องสาวที่กำลังยืนคุยกันอยู่ไม่ไกลนัก ดึงความคิดของบริวัฒน์กลับมาอยู่กับปัจจุบัน“กูคุยกับป๊าม้าเรียบร้อยแล้ว กลับไปถึงจะส่งข่าวอีกทีว่าวันไหน”ภคภัทรพยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ เพื่อนกำลังเตรียมแต่งขันหมากสู่ขอน้องสาวของเขา“แล้วมึ
บทพิเศษภาพในวันแต่งงานตั้งเด่นอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือในห้องนอน ทุกครั้งที่บุญญาพรมองไปหญิงสาวมักจะหยุดดูด้วยสายตาอ่อนโยน เจ้าบ่าวของหล่อนเป็นคนมีเสน่ห์ทั้งตัวจริงและในรูปภาพ ใครจะว่าหล่อนหลงสามีก็ยอม ในเมื่อสามีของหล่อนทั้งหล่อและดีขนาดนี้ใครจะไม่รักไม่หลงกันล่ะ แต่งงานได้สามเดือนหญิงสาวก็ลาออกจากงานที่ทำมานานหลายปี เพราะต้องการออกไปทำหน้าที่แม่บ้านให้กับชายหนุ่ม และมีอาชีพใหม่เป็นแม่ค้าขายผักออนไลน์ไปด้วย นอกจากขายผักแล้วหญิงสาวยังขายของแฟชั่นจุกจิก ขายดิบขายดีจนส่งแทบไม่ทันที่ตั้งใจไว้ว่าจะมีลูกกันหลังแต่งงานมีอันต้องพับโครงการไปชั่วคราว เพราะเมื่อเงินทองไหลมาเทมาก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออนาคตของเจ้าตัวน้อยในภายภาคหน้านั่นเอง“บิว”“มาแล้วจ้า” ร่างบางเดินตรงไปหาสามีที่กำลังตัดผัก“ช่วยดูให้หน่อยว่าตัวอะไรมันกัดพี่” เขาชี้นิ้วไปด้านหลังให้ภรรยาช่วยดู หญิงสาวจึงวางถาดของว่างลงบนโต๊ะตรงหน้าแล้วเปิดคอเสื้อด้านหลังของสามี ก่อนจะหยิบหมับเข้ากับมดคันไฟตัวร้าย“มดไฟน่ะ นี่แน่ะ แกกล้าดียังไงมากัดผัวฉัน ตายซะเถอะ!”ชายหนุ่มหันไปมองคนที่กำลังบี้มดคันไฟด้วยท่าทางจริงจังก่อนจะหั
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะครบรอบหนึ่งปีที่ภคภัทรกับบุญญาพรคบหากันฉันคนรัก คราวนี้เขาตามคนรักไปกราบพ่อกับแม่ของหญิงสาว และได้เจอพี่น้องของหล่อน พร้อมกับพูดคุยเรื่องสำคัญที่เขาคิดมาสักพักหนึ่งแล้ว“แน่ใจแล้วใช่ไหม ถึงมาพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่” คนเป็นมารดายังไม่ลืมว่าช่วงนี้ของปีที่แล้วลูกสาวเพิ่งยกเลิกงานแต่งกับอดีตคนรักที่คบกันมาหกปี แต่มาปีนี้กลับมีผู้ชายร่างสูงใหญ่หน้าตาดีมาขอลูกสาวกับนางและสามีแทน“แน่ใจครับ” เขาตอบว่าที่พ่อตาแม่ยาย พลางหันไปมองคนรักที่นั่งยิ้มอยู่ข้างกัน“หนูแน่ใจ” หญิงสาวบอกกับบิดามารดา พลางมองไปยังพี่ๆ น้องๆ ที่เป็นสักขีพยานอยู่ข้างๆสองสามีภรรยาหันมาสบตากัน ก่อนจะหันมาบอกว่าที่ลูกเขย“ถ้าแน่ใจ ก็พาผู้ใหญ่มาคุยกันอย่างเป็นทางการ พร้อมวันไหนก็นัดมา จากนั้นก็หาฤกษ์ หมั้นเช้าแต่งเย็นไปเลย ไม่ต้องรอนาน ตกลงไหม”เป็นการแต่งงานที่รวดเร็วทันใจวัยพร้อมมีครอบครัวอย่างภคภัทรและบุญญาพรมาก ทำให้คนทั้งสองต่างยิ้มออกมาอย่างเห็นด้วย“ตกลงครับ ผมจะกลับไปบอกกับพ่อ แล้วนัดวันที่แน่นอนอีกทีครับ”บิดาของหญิงสาวพยักหน้า พลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วพูดออกมาประโยคห
“บิวไม่สนใจแล้ว ที่ผ่านมาจะนานแค่ไหน ต้องเจออะไรบ้าง สนแค่ตอนนี้เราได้อยู่ด้วยกัน แค่นี้บิวก็พอใจ”คนฟังยิ้มกว้าง เป็นคำพูดที่เขาเองก็พอใจเช่นเดียวกัน จากนั้นหญิงสาวจึงถูกร่างสูงใหญ่อุ้มตรงเข้าไปยังห้องนอน“พี่ขอไปอาบน้ำก่อน อย่าเพิ่งหลับนะ”หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง มองร่างสูงกำยำถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว แก้มสาวร้อนผ่าวแต่ก็ไม่ยอมละสายตาไปทางอื่น ชื่นชมร่างกายของเขาด้วยความหลงใหลรักใคร่สุดใจชายหนุ่มหันมามองคนหน้ามึนที่มองเขาตาเยิ้ม ก่อนจะรูดกางเกงในออกจากสะโพก แล้วหันหน้าไปสบสายตาคู่งามอย่างท้าทาย คนมองเพิ่งรู้ว่าความรู้สึกลำคอแห้งเป็นผุยผงนั้นเป็นอย่างไรก็ตอนนี้ แต่เพียงไม่นานสิ่งยั่วเย้าตรงหน้าก็หายไปในเสื้อคลุมตัวโต“อาบน้ำด้วยกันไหม” เขาชวน ทำให้หญิงสาวหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า“บิวรออยู่นี่ดีกว่า” พูดจบก็ดึงผ้าขึ้นมาห่ม ชายหนุ่มยิ้มกริ่มก่อนจะเดินออกไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านนอก ประมาณสิบห้านาทีชายหนุ่มก็กลับเข้ามาในห้อง เขากดล็อกประตูเรียบร้อยแล้วตรงไปยังเตียงกว้างที่มีบุญญาพรนอนเล่นโทรศัพท์อยู่“เร็วจัง” หญิงสาวลดโทรศัพท์ในมือลง พลางมองคนที่ลงมานั่งข้างๆ เตียง พร้อมกับด
บทส่งท้ายภคภัทรกลับมาถึงคอนโดฯ ในเวลาห้าทุ่มเศษ ทั้งสองสาวยังไม่มีใครหลับ คนที่เปิดประตูให้ก็คือบุญญาพร หญิงสาวยิ้มกว้างพลางยื่นมือไปหมายจะคว้ากระเป๋าของชายหนุ่มไปถือ “ไม่เป็นไร พี่ถือเอง” เขาบอกยิ้มๆ พลางมองเลยไปยังน้องสาวที่กำลังมองมาเช่นกัน“กลับเร็วอะ งานไม่สนุกเหรอ”คนที่ถอดรองเท้าเสร็จก้าวตรงไปยังโซฟาที่น้องสาวนั่งอยู่ มีแมคบุ๊กวางบนตักตัวเอง“สนุกสิ แต่ตอนนี้มันเป็นเวลาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวน่ะนะ ขืนอยู่ต่อคงได้ถูกด่า” เขาขยี้ผมน้องสาวแล้วนั่งลงข้างๆ โดยมีร่างบางของบุญญาพรนั่งลงบนอาร์มแชร์ไขว่ห้างมองเขาด้วยสายตาเจือยิ้ม“แล้วนี่ยังไม่นอนกันอีก”สองสาวมองหน้ากันก่อนจะยิ้มให้พี่ชาย“เราสองคนรอพี่ภัคน่ะ อันที่จริงพรีมจะเข้านอนแล้ว แต่บิวน่ะสิยืนยันว่าจะอยู่รอพี่ภัค ก็เลยรอเป็นเพื่อน”“งั้นก็ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้านี่”“ก็ได้ งั้นไปนอนแล้วนะ” พรรษาบอกพี่ชายก่อนจะหันไปขยิบตากับเพื่อนรักแล้วเดินกลับห้อง“มีอะไรกัน” ภคภัทรเลิกคิ้วพร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกคนรัก บุญญาพรยิ้มตอบก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ“ไม่มี พรีมแค่แซวเรา”คำตอบของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มยิ้มขัน“บิวรู้ไหม ว่าพรี