5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ

5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ

last updateLast Updated : 2025-05-28
Language: Thai
goodnovel12goodnovel
Not enough ratings
3Chapters
25views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เมื่อฮารุและอิจินักเรียนอีกคนของห้องม.5/B ถูกให้รับมอบหมายไปกำจัดเงาปีศาลที่เมืองร้างที่หายสาปสูญไปนับร้อยปี...พวกเขาจะเอาชีวิตรอดกลับมาได้หรือไม่

View More

Chapter 1

ก้าวสู่เมืองที่สาปสูญ

ประตูมิติที่เรืองแสงสีม่วงหม่นอยู่เบื้องหน้าบิดเบี้ยวคล้ายภาพสะท้อนในกระจกที่แตกละเอียด ฮารุในชุดนักเรียนที่ดูคล่องตัวไม่ต่างจากชุดผจญภัย จ้องมองช่องว่างแห่งมิติด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือข้างหนึ่งกระชับกล้องถ่ายรูปที่ห้อยอยู่ข้างตัว อีกข้างหนึ่งพร้อมที่จะหยิบขวดกักเก็บวิญญาณที่เหน็บไว้กับเข็มขัด

ข้างๆ กัน อิจิเองก็มีสีหน้าเคร่งขรึมไม่แพ้กัน ดวงตาสีเข้มของเขาจับจ้องไปยังความว่างเปล่าเบื้องหลังประตู พลางกำด้ามมีดอาคมที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้ออย่างมั่นคง แม้ความกลัวจะเกาะกุมอยู่ในใจ แต่ในฐานะเพื่อนและผู้ร่วมภารกิจ เขาจะไม่ยอมถอยเด็ดขาด

"พร้อมนะฮารุ" อิจิเอ่ยเสียงเรียบ พยายามระงับความประหม่า

ฮารุพยักหน้าเล็กน้อย "กว่าจะมาถึงที่นี่ได้ ไม่พร้อมก็บ้าแล้วล่ะ" เธอกล่าวพร้อมกับฉีกยิ้มบางๆ ที่มุมปากเพื่อคลายความตึงเครียด "ไปกันเลย!"

ไม่รอช้า ฮารุก็ออกก้าวแรก ทะลวงผ่านผืนอากาศที่บิดเบี้ยวของประตูมิติ ตามมาด้วยอิจิที่ก้าวตามหลังทันที ราวกับมีแรงดูดมหาศาลดึงพวกเขาเข้าไป

ทันทีที่ก้าวพ้นจากประตู มิติแห่งกาลเวลาก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ทุกสิ่งรอบกายเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

พวกเขายืนอยู่ท่ามกลาง เมืองร้างที่หายสาบสูญไปนับร้อยปี บรรยากาศเงียบสงัดราวกับสุสานขนาดมหึมา แสงอาทิตย์ที่ควรจะเจิดจ้ากลับถูกบดบังด้วยม่านเมฆหนาทึบสีเทาหม่น ทำให้ทุกอย่างดูมืดครึ้มราวกับยามพลบค่ำตลอดเวลา ลมหนาวเย็นยะเยือกพัดหวีดหวิว พากลิ่นอับชื้นของซากปรักหักพังและความเงียบงันที่กดดันเสียดแทรกเข้าสู่โสตประสาทและผิวหนัง

รอบกายคือซากอาคารบ้านเรือนที่ผุพัง ทรุดโทรมด้วยกาลเวลา ผนังที่เคยเป็นสีสันสดใสบัดนี้เหลือเพียงอิฐเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมอสส์และเถาวัลย์ หน้าต่างทุกบานไร้บานกระจกเหลือเพียงช่องโหว่สีดำสนิทที่มองไม่เห็นแม้แต่เงาของอดีต และที่น่าตกใจที่สุดคือ รูปปั้นหิน ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นกลางถนน ในซอกตึก หรือแม้แต่บนหลังคา รูปปั้นเหล่านี้ไม่ได้เป็นรูปปั้นธรรมดา แต่เป็นรูปปั้นของมนุษย์ที่ถูกตรึงอยู่ในท่าทางต่างๆ ราวกับถูกหยุดเวลาไว้ขณะที่พวกเขากำลังทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน บางคนกำลังวิ่ง บางคนกำลังยืนคุยกัน บางคนกำลังก้มหน้ามองพื้น ดวงตาของรูปปั้นทุกรูปเบิกโพลง แสดงออกถึงความหวาดกลัวสุดขีดก่อนที่ร่างจะกลายเป็นหิน

ฮารุและอิจิมองไปรอบๆ อย่างสำรวจด้วยสายตา ฮารุหยุดมองรูปปั้นหินของหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังยืนพนมมือราวกับกำลังสวดภาวนา ดวงหน้าของหญิงชราถูกฉาบด้วยความหวาดผวา

"นี่หรอ...เมืองโบราณที่หายสาบสูญ" ฮารุเอ่ยเสียงแผ่ว พลางถอนหายใจยาว พยายามขจัดความรู้สึกอึดอัดที่เริ่มก่อตัวขึ้นในอก เธอหยิบกล้องถ่ายรูปที่พกมาด้วยขึ้นมาเล็ง ก่อนจะกดชัตเตอร์รัวๆ เก็บภาพของเมืองแห่งความตายนี้ไว้

อิจิส่ายหน้าเบาๆ พลางปรายตามองเพื่อนที่ดูจะเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพท่ามกลางบรรยากาศวังเวงเช่นนี้ "ยังมีเวลามาถ่ายรูปอีกนะ" เขาพูดกลั้วหัวเราะเล็กน้อย พยายามทำให้เสียงของตัวเองดูเบาที่สุด เพื่อไม่ให้ความเงียบที่น่ากลัวนี้ถูกทำลายมากเกินไป

"เราไม่ได้มาที่แบบนี้บ่อยๆ ก็ต้องถ่ายเก็บไว้เป็นธรรมดา" ฮารุตอบอย่างไม่ยี่หระ เธอเก็บกล้องกลับเข้าที่ พลางยกนาฬิกาอาคมบนข้อมือขึ้นมาดูด้วยความคาดหวัง

"แล้วนี่นาฬิกาไม่ขึ้นแจ้งเตือนบ้างหรอ?" อิจิถาม สีหน้าของเขากลับมาเคร่งขรึมอีกครั้งเมื่อเห็นว่านาฬิกาของฮารุยังคงเงียบสนิท

ฮารุขมวดคิ้วเล็กน้อย "ไม่มีเลย สงสัยพวกมันไม่ได้อยู่แถวนี้" เธอเอ่ยพลางส่ายข้อมือไปมา แต่เข็มนาฬิกาก็ยังคงนิ่งสนิท ไม่มีสัญญาณใดๆ จากเงาปีศาจใกล้เคียง

"งั้นเราลองไปตรงอื่นกันเถอะ" อิจิเสนอ พลางยื่นมือข้างหนึ่งมาให้ฮารุจับไว้ เขาไม่ได้ต้องการจับมือเพราะคิดว่าเธอเป็นเด็ก แต่เป็นสัญชาตญาณของการป้องกันภัยที่บอกให้เขาอยู่ใกล้เพื่อนร่วมทีมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้

ฮารุชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเบะปากเล็กน้อย "ฉันไม่ใช่เด็กนะ ไม่เห็นต้องจับมือเลย" เธอพึมพำ แต่ก็ไม่ได้ถอยห่าง

"เอาน่าฮารุ เอามือมาเถอะ ดีกว่าหลงกัน" อิจิพูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดขึ้น พลางไม่รอให้ฮารุตัดสินใจ เขาคว้ามือเล็กของเธอมาจับไว้แน่น ก่อนจะพากันเดินลึกเข้าไปยังส่วนในของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมถนน

ยิ่งพวกเขาเดินลึกเข้าไปในหมู่บ้าน ความหนาวเย็นก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ราวกับมีม่านหมอกเยือกแข็งที่มองไม่เห็นปกคลุมอยู่ เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องกังวานไปทั่วถนนที่เต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง เสียงลมหวีดหวิวกลายเป็นเสียงคร่ำครวญเบาๆ ที่เสียดแทรกเข้ามาในโสตประสาท ทำให้ขนลุกชันไปทั้งตัว

บ้านเรือนที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยบัดนี้กลายเป็นโครงกระดูกที่น่าขนลุก ทะลุปรุโปร่งเห็นภายในที่ว่างเปล่า ไร้ซึ่งชีวิตและร่องรอยของการอยู่อาศัยมานับร้อยปี ผนังบ้านบางหลังถูกปกคลุมไปด้วยเชื้อราสีดำสนิทที่ดูเหมือนจะกำลังเคลื่อนไหวช้าๆ ยามลมพัดผ่าน บางหลังก็มีรอยขีดข่วนขนาดใหญ่ราวกับถูกกรงเล็บของสัตว์ประหลาดกระโจนเข้าใส่ ประตูทุกบานเปิดอ้าออก เผยให้เห็นความมืดมิดที่ไร้จุดสิ้นสุดภายใน ราวกับกำลังเชื้อเชิญให้บางสิ่งบางอย่างที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาสิงสถิต

ฮารุรู้สึกเหมือนมีสายตาหลายคู่กำลังจ้องมองมาจากความมืดมิดเหล่านั้น แม้จะรู้ว่าไม่น่าจะมีใครอยู่ที่นี่ แต่ความรู้สึกกดดันก็ทำให้เธอต้องกระชับขวดกักเก็บวิญญาณในมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

"หนาวชะมัด" ฮารุบ่นพึมพำ ฟันกระทบกันเบาๆ แม้จะสวมเสื้อกันหนาวที่ค่อนข้างหนาแล้วก็ตาม "อิจิ... นายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?"

อิจิกำมือของฮารุแน่นขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจ ก่อนจะตอบด้วยเสียงที่ลอดไรฟัน "รู้สึกสิ...รู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในตู้แช่แข็งขนาดใหญ่เลยล่ะ" เขาพูดติดตลกเล็กน้อย พยายามผ่อนคลายบรรยากาศที่หนักอึ้ง "แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าคือความเงียบนี่แหละ ปกติถ้ามีเงาอยู่ใกล้ๆ นาฬิกาของเธอต้องเตือนแล้วสิ"

"นั่นแหละที่ฉันสงสัย" ฮารุพูดพลางมองนาฬิกาอีกครั้ง เข็มยังคงนิ่งสนิท "หรือว่าพวกมันซ่อนตัวได้เก่งกว่าที่เราคิด? หรือ...มันไม่ได้อยู่บนพื้นผิวแบบนี้?"

ทันใดนั้น เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นมาจากซอกตึกด้านหน้า เป็นเสียงที่เบามาก แต่ก็ชัดเจนพอที่จะทำให้ทั้งคู่หยุดชะงัก มันไม่ใช่เสียงลม ไม่ใช่เสียงความเงียบ แต่เป็นเสียงคล้าย เสียงกรีดร้องแหบพร่า ที่ดังแว่วมาเพียงชั่วครู่ แล้วก็หายไปอย่างรวดเร็วราวกับไม่เคยมีอยู่จริง

ทั้งคู่มองหน้ากัน ฮารุมีสีหน้าหวาดระแวง ส่วนอิจิก็ยกมือข้างที่ไม่ได้จับมือฮารุขึ้นไปกุมมีดอาคมที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้ออย่างระมัดระวัง

"นายได้ยินไหม...?" ฮารุถามเสียงกระซิบ

"ได้ยิน" อิจิตอบ ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วบริเวณ "เตรียมพร้อมไว้ฮารุ...ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม"

นาฬิกาของฮารุยังคงเงียบสนิท แต่สัญชาตญาณบางอย่างบอกกับพวกเขาว่า สิ่งที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ในเมืองแห่งนี้ อาจจะไม่ใช่แค่เงาปีศาจธรรมดาๆ ที่พวกเขาเคยเจอมา...

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
3 Chapters
ก้าวสู่เมืองที่สาปสูญ
ประตูมิติที่เรืองแสงสีม่วงหม่นอยู่เบื้องหน้าบิดเบี้ยวคล้ายภาพสะท้อนในกระจกที่แตกละเอียด ฮารุในชุดนักเรียนที่ดูคล่องตัวไม่ต่างจากชุดผจญภัย จ้องมองช่องว่างแห่งมิติด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือข้างหนึ่งกระชับกล้องถ่ายรูปที่ห้อยอยู่ข้างตัว อีกข้างหนึ่งพร้อมที่จะหยิบขวดกักเก็บวิญญาณที่เหน็บไว้กับเข็มขัดข้างๆ กัน อิจิเองก็มีสีหน้าเคร่งขรึมไม่แพ้กัน ดวงตาสีเข้มของเขาจับจ้องไปยังความว่างเปล่าเบื้องหลังประตู พลางกำด้ามมีดอาคมที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้ออย่างมั่นคง แม้ความกลัวจะเกาะกุมอยู่ในใจ แต่ในฐานะเพื่อนและผู้ร่วมภารกิจ เขาจะไม่ยอมถอยเด็ดขาด"พร้อมนะฮารุ" อิจิเอ่ยเสียงเรียบ พยายามระงับความประหม่าฮารุพยักหน้าเล็กน้อย "กว่าจะมาถึงที่นี่ได้ ไม่พร้อมก็บ้าแล้วล่ะ" เธอกล่าวพร้อมกับฉีกยิ้มบางๆ ที่มุมปากเพื่อคลายความตึงเครียด "ไปกันเลย!"ไม่รอช้า ฮารุก็ออกก้าวแรก ทะลวงผ่านผืนอากาศที่บิดเบี้ยวของประตูมิติ ตามมาด้วยอิจิที่ก้าวตามหลังทันที ราวกับมีแรงดูดมหาศาลดึงพวกเขาเข้าไปทันทีที่ก้าวพ้นจากประตู มิติแห่งกาลเวลาก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ทุกสิ่งรอบกายเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงพวกเขายืนอยู่ท่ามกลาง เมือง
last updateLast Updated : 2025-05-28
Read more
ผู้คนที่ยังหลงเหลือ
เสียงกรีดร้องแหบพร่าเมื่อครู่ยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของฮารุและอิจิ ทั้งคู่ยืนนิ่ง สายตาจับจ้องไปยังซอกตึกมืดมิดที่มาของเสียง ความเงียบที่กลับคืนมาดูเหมือนจะหนักอึ้งกว่าเดิม บรรยากาศกดดันจนสัมผัสได้ถึงหยาดเหงื่อเย็นๆ ที่ผุดขึ้นบนแผ่นหลังของอิจิ"เมื่อกี้...มันอะไรกัน" ฮารุถามเสียงกระซิบ มือยังคงกำขวดกักเก็บวิญญาณแน่นอิจิส่ายหน้าช้าๆ "ไม่รู้สิ...แต่นาฬิกาของเธอก็ยังไม่เตือนเลยนะฮารุ"ทันใดนั้นเอง...ฟิ้ว!เสียงบางอย่างเคลื่อนผ่านด้านหลังพวกเขาไปอย่างรวดเร็วราวกับสายลม กระแสลมเย็นวาบที่ปะทะกับแผ่นหลังของทั้งคู่ทำให้พวกเขาถึงกับสะดุ้งเฮือก มันไม่ใช่เสียงลมพัด แต่เป็นเสียงของการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วว่องไวเกินมนุษย์"อะไรน่ะ?!" ฮารุอุทานด้วยความตกใจ หันขวับไปมองด้านหลังทันทีแต่ก่อนที่ฮารุจะทันได้เห็นสิ่งใด อิจิก็ตอบสนองเร็วกว่าสัญชาตญาณ เขาไม่ได้หันไปมองด้านหลัง แต่ใช้เท้าทั้งสองข้างถีบพื้นออกตัวพุ่งทะยานไปข้างหน้าทันทีราวกับจรวด ด้วยความเร็วของนักกีฬาที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก ร่างของเขาพุ่งเข้าไปในซอกตึกที่มืดมิดซึ่งเป็นทิศทางที่เสียงนั้นเคลื่อนผ่านไป"อิจิ! เดี๋ยว!" ฮารุร้องเรียกด้ว
last updateLast Updated : 2025-05-28
Read more
เราจะผ่านมันไปด้วยกัน
ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ประดับประดาด้วยดวงดาวนับล้านกลับถูกฉีกกระชากด้วยเงาที่ดำมืดกว่ารัตติกาล เงาร่างนั้นพุ่งทะยานลงมาจากเบื้องบนด้วยความเร็วที่เหนือการมองเห็นของมนุษย์ปกติ เป้าหมายชัดเจน… ฮารุฮารุกำลังเดินเคียงข้างอิจิ สายตาเหม่อมองดวงจันทร์สีนวลอย่างเพลินเพลิน ทันใดนั้น ความรู้สึกผิดปกติก็แผ่ซ่านเข้ามาในประสาทสัมผัสของเธอ อากาศรอบกายเย็นเยียบลงอย่างกะทันหัน ราวกับมีบางสิ่งดึงเอาความร้อนทั้งหมดออกไปจากชั้นบรรยากาศ“อิจิ…” ฮารุพึมพำ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ชอบมาพากลยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ เสียงคำรามต่ำลึกก็ฉีกผ่านความเงียบสงัด คลื่นเสียงนั้นไม่ใช่เสียงจากสัตว์ป่าบนโลก แต่เป็นเสียงที่มาจากห้วงลึกของความมืดมิด… เสียงของบางสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่จริงอิจิไม่รอช้า สัญชาตญาณนักรบของเขาพลุ่งพล่าน เขาเห็นเงาขนาดมหึมาที่กำลังทิ้งตัวลงมา รูปร่างคล้ายสัตว์ร้าย แต่บิดเบี้ยวและเต็มไปด้วยหนามแหลมคม มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เขารู้จัก ไม่ใช่ภูตผีธรรมดาที่เคยเผชิญหน้า“หลบ!” อิจิตะโกนลั่น พร้อมกับตวัดแขนออกไปคว้าเอวของฮารุ กระชากร่างบอบบางให้พุ่งหลบออกไปจากจุดที่เงาปีศาจกำลังจะพุ่งลงมาอย่างเฉียดฉิว พื
last updateLast Updated : 2025-05-28
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status