หน้าหลัก / แฟนตาซี / 5/B ห้างร้างต้องคำสาป / การฟื้นตัวและแรงใจที่กลับมา

แชร์

การฟื้นตัวและแรงใจที่กลับมา

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-31 23:01:09

แสงอาทิตย์ยามเช้าที่เล็ดลอดผ่านช่องแตกบนผนังของห้างสรรพสินค้า ได้สาดส่องลงมาต้องร่างของเคนตะที่ลุกขึ้นยืนได้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง แม้ว่าสีหน้าของเขาจะยังคงมีร่องรอยความเหนื่อยล้า แต่ดวงตาของเขากลับมาคมกริบและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

“เธอทำได้ยังไงคาซิมิ...ฉันรู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ” เคนตะพูด พลางมองไปที่ซากเทียนไข 99 เล่มที่มอดดับ

คาซิมิพิงกำแพงอย่างอ่อนแรง เธอยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน “พิธีพลีกรรมแห่งแสงมันดึงพลังงานบริสุทธิ์ของแสงอาคมเข้ามาซ่อมแซมแกนพลังงานของคุณโดยตรงค่ะ แต่...ฉันก็ใช้พลังอาคมของตัวเองไปเกือบหมดแล้ว”

เคนตะเดินไปนั่งข้างๆ เธอ เขาจับมือเธอไว้แน่น “ฉันรู้ว่าเธอต้องเสี่ยงมากแค่ไหนเพื่อฉัน คาซิมิ” เขาหยุดไปครู่หนึ่ง “ต่อไปนี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอสู้คนเดียวอีกแล้ว เราจะจบภารกิจนี้ไปพร้อมกัน”

คาซิมิพยักหน้า “แน่นอนค่ะเคนตะ”

หลังจากพักฟื้นและกินเสบียงเล็กน้อยเพื่อประคองร่างกาย ทั้งคู่ก็ออกจากห้องเก็บของที่เต็มไปด้วยซากเทียน พวกเขาตัดสินใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ต้องมุ่งหน้าไปยังชั้นดาดฟ้าเพื่อค้นหา ผ้ายันต์แห่งน้ำ

การจู่โจมจากความจริง

การเดินทางไปยังบันไดที่มุ่งสู่ชั้นดาดฟ้าเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เคนตะเดินนำหน้าโดยมีมีดอาคมเตรียมพร้อมตลอดเวลา คาซิมิเดินตามหลังอย่างระแวดระวัง แต่เธอพยายามใช้ ‘นิมิต’ เพื่อตรวจจับพลังงานปีศาจที่อาจจะซุ่มโจมตี

พวกเขาเดินไปตามทางเดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพังอย่างเงียบๆ ครืด...

ทันใดนั้น! ก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นก็ถูกปาเข้าใส่กำแพงข้างๆ เคนตะ!

ปัง!

เคนตะและคาซิมิสะดุ้งสุดตัว! เคนตะรีบหันขวับไปทางทิศทางที่ก้อนหินถูกปามา มีดอาคมของเขาชี้ไปในความมืดทันที

“ใครอยู่ตรงนั้น!” เคนตะคำรามเสียงดัง

ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง มีเพียงเสียงหยดน้ำที่หยดลงจากเพดานที่รั่วเท่านั้น

ฟุ่บ!

อีกก้อนหินหนึ่งถูกปาเข้าใส่พื้นด้านหน้าของคาซิมิ! มันเป็นก้อนหินธรรมดาๆ ที่ถูกเก็บมาจากซากปรักหักพัง แต่การโจมตีนี้ไม่มีไอปีศาจใดๆ เลย

เคนตะมองไปที่จุดที่หินถูกปามาอย่างระมัดระวัง คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ เพื่อตรวจจับ แต่ก็ไม่พบพลังอาคมชั่วร้ายใดๆ

“นี่! ตามฉันมา!”

เสียงแหบห้าวของชายวัยกลางคนดังมาจากซอกหลืบของบันไดหนีไฟที่อยู่ห่างออกไปราว 20 เมตร!

ทั้งเคนตะและคาซิมิหันไปมองตามเสียงอย่างตกตะลึง!

ในความมืดสลัวนั้น มี ชายวัยกลางคนคนหนึ่งสวมชุดพนักงานทำความสะอาดของห้างสรรพสินค้าที่เก่าและสกปรก ยืนอยู่ เขาโบกมือให้พวกเขาด้วยท่าทีเร่งรีบ ดวงตาของเขามีร่องรอยของความหวาดกลัวแต่ก็มีความมุ่งมั่นบางอย่างซ่อนอยู่

เคนตะและคาซิมิประสานสายตากันด้วยความประหลาดใจอย่างที่สุด

“มนุษย์?” เคนตะกระซิบเสียงเบา “เขายังรอดอยู่ได้ไง?”

“ฉันไม่เห็นเขานะเคนตะ...ไม่เห็นใน ‘นิมิต’ ด้วย” คาซิมิพูดอย่างไม่แน่ใจ

เคนตะเก็บมีดอาคมลงเล็กน้อย แต่ก็ยังพร้อมที่จะชักมันออกมาทุกเมื่อ พวกเขาเดินไปหาชายคนนั้นอย่างระมัดระวัง

เมื่อพวกเขาเดินไปถึงบริเวณบันไดหนีไฟ ชายคนนั้นก็ก้าวออกมาจากเงามืด เผยให้เห็นใบหน้าที่มีร่องรอยของความเครียดและเคราที่ไม่ได้โกนมานานหลายวัน

“สวัสดี...ฉันชื่อ เคชิ” ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า แต่ดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่เคนตะและคาซิมิอย่างพิจารณา

“พวกนาง...คงเป็นผู้ถูกเลือกสินะ”

คำพูดของเคชิทำให้ทั้งคู่ตกใจยิ่งกว่าเดิม!

“คุณรู้ได้ยังไงว่าเราคือใคร?” เคนตะถามด้วยความสงสัย

เคชิไม่ตอบคำถามนั้นทันที เขายกมือขึ้นห้ามอย่างเร่งรีบ “ไม่มีเวลาแล้ว! ตามฉันมา!”

เส้นทางลับและชุมชนผู้รอดชีวิต

เคนตะมองหน้าคาซิมิ คาซิมิพยักหน้าเล็กน้อย เป็นการบอกว่าเธอเชื่อในสัญชาตญาณของเคนตะว่าจะตัดสินใจถูก

“ไปกันเถอะ” เคนตะกล่าว

ทั้งคู่เดินตามเคชิเข้าไปในบันไดหนีไฟ เคชิพาพวกเขาลงไปยังชั้นใต้ดินที่มืดมิดที่สุด ซึ่งเป็นโซนที่ถูกระบุว่าเป็น ‘ห้องควบคุมเครื่องทำความเย็นและระบบท่อน้ำ’ ซึ่งเต็มไปด้วยความชื้นและเสียงท่อส่งน้ำที่ดังอื้ออึง

เคชิเดินไปที่ผนังคอนกรีตที่ดูธรรมดาที่สุด แต่เขาก็ใช้มือเคาะผนังตามจังหวะแปลกๆ สามครั้ง แล้วบิดวาล์วน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง

ครืดดดด!

ผนังคอนกรีตขนาดใหญ่ที่ดูเป็นทางตันก็ค่อยๆ เลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น ทางเข้าลับ ที่นำไปสู่แสงสว่างที่อบอุ่นกว่า

“เข้าไปข้างในซะ” เคชิกระตุ้น

เคนตะและคาซิมิเดินเข้าไปในทางเข้าลับนั้น เมื่อเข้าไปถึง พวกเขาก็ต้องตกใจจนแทบหยุดหายใจ!

เบื้องหน้าของพวกเขาคือ ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เคยเป็นห้องเก็บของใต้ดิน แต่ตอนนี้มันถูกดัดแปลงให้เป็น ชุมชนของผู้รอดชีวิต!

* ภาพที่เห็น: มีผู้คนประมาณ 30-40 คน อาศัยอยู่ที่นี่ มีเด็กและคนชราด้วย ทุกคนดูสะอาดและมีอาหารกินพอสมควร มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าฉุกเฉินอย่างง่ายๆ มีเตียงชั่วคราว มีการทำครัวเล็กๆ และมีแสงสว่างจากหลอดไฟที่ถูกต่อสายไฟไว้อย่างดี

* เสียงที่ได้ยิน: เสียงพูดคุยที่แผ่วเบา เสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่เงียบกว่าปกติ และเสียงการทำงานของเครื่องปั่นไฟที่ดังเบาๆ

ผู้คนในห้องโถงหันมามองเคนตะและคาซิมิด้วยแววตาแห่งความหวังและความตื่นเต้น ราวกับว่าพวกเขากำลังรอคอยการมาถึงของทั้งสองคนมานานแล้ว

“นี่คือ...ความจริงงั้นเหรอ?” คาซิมิกระซิบด้วยความตกใจ “มีคนรอดชีวิตอยู่จริงเหรอ?”

การเปิดเผยความลับของห้างร้าง

เคชิเดินเข้าไปในห้องโถง เขาโบกมือให้ทุกคนเงียบเสียง แล้วหันมาหาเคนตะและคาซิมิ

“นั่งลงก่อนเถิด ผู้ถูกเลือก” เคชิผายมือไปยังเก้าอี้ที่ทำจากลังไม้

เคนตะและคาซิมินั่งลงอย่างงงงัน ความคิดมากมายไหลเข้ามาในหัวของพวกเขา

“ฉันต้องถาม” เคนตะเริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พวกคุณ...มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ที่นี่มันเต็มไปด้วยปีศาจ...และพวกมันบุกเข้ามาในห้างได้อย่างไร?”

เคชิถอนหายใจยาว สายตาของเขามองไปที่พื้นด้วยความเศร้าสร้อย เขาเริ่มเล่าเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด

1. การบุกรุกของปีศาจ: รอยแยกในห้องน้ำ

“ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ ‘การถูกทิ้งร้าง’ ตามที่พวกนายเห็น” เคชิกล่าวอย่างช้าๆ “เมื่อประมาณสามเดือนก่อน...จู่ๆ ก็เกิดปรากฏการณ์แปลกๆ ขึ้น มี รอยแยกมิติ เล็กๆ ปรากฏขึ้นที่ ห้องน้ำรวมชั้นบนสุด”

คาซิมิเบิกตากว้าง “ห้องน้ำรวม...ผ้ายันต์แห่งน้ำ!”

เคชิพยักหน้า “ตอนแรกมันเป็นแค่รอยแยกเล็กๆ ที่เหมือนน้ำเน่าสีดำไหลออกมาจากโถส้วมหรืออ่างล้างมือ แต่แล้ว...วันหนึ่ง ประตูมิติก็เปิดออกอย่างสมบูรณ์ ที่นั่น”

> เคชิ: “มันเป็นช่วงที่ห้างกำลังจะปิด ผู้คนไม่มากนัก แต่ฉันอยู่แถวนั้น...ฉันเห็นพวกมัน...ปีศาจเงาตัวแรกที่โผล่ออกมามันเหมือนกับ โครงกระดูกที่ทำจากน้ำมันดิน มันกรีดร้องแล้วโจมตีทุกคนที่ขวางหน้า”

> เคนตะ: “แล้วพวกคุณรอดมาได้อย่างไร?”

>

2. ปาฏิหาริย์ของห้องใต้ดิน

เคชิชี้ไปที่เพดานของห้องโถง “โชคดีที่ฉันทำงานเป็นช่างซ่อมบำรุงของห้างนี้มานานกว่า 20 ปี ฉันรู้ทุกซอกทุกมุม ฉันรู้ว่าห้องนี้...ห้องควบคุมระบบท่อและทำความเย็นใต้ดิน...ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับ วัสดุที่ป้องกันการรั่วซึมและการสั่นสะเทือนที่หนาเป็นพิเศษ”

> เคชิ: “มันถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำและความเย็นจากภายนอก แต่...ด้วยอำนาจของปีศาจ...มันกลับกลายเป็นที่ที่พลังงานอาคมของพวกมันเข้าถึงได้ยากที่สุด ฉันรวบรวมคนงานบางส่วนและลูกค้าที่เหลือรอดที่ฉันสามารถช่วยได้ แล้วพาพวกเขามาซ่อนตัวอยู่ที่นี่”

> คาซิมิ: “พวกปีศาจไม่สามารถหาพวกคุณเจอได้เลยเหรอคะ?”

>

3. การดำรงชีวิตและการป้องกัน

เคชิยิ้มอย่างขมขื่น “พวกมันตามกลิ่นพลังงานและกลิ่นความกลัว! แต่ที่นี่...เป็นเหมือน หลุมกำบังทางจิตวิญญาณ ด้วยการปิดตายประตูทางเข้าและระบบระบายอากาศทั้งหมด พวกเราจึงใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วย น้ำจากถังเก็บฉุกเฉิน และ เสบียงอาหารที่ถูกเก็บไว้ในห้องเย็น”

> เคชิ: “พวกเราอยู่รอดได้ด้วยความเงียบและ... ปฏิทิน”

> เคนตะ: “ปฏิทิน?”

> เคชิ: “ใช่! ฉันสังเกตว่าพวกปีศาจจะมี วงจรการโจมตี ที่แน่นอน พวกมันจะสงบในบางช่วงเวลา และจะบ้าคลั่งในบางช่วงเวลา...ซึ่งก็คือช่วงที่ประตูมิติเปิดกว้างขึ้น ฉันต้องระบุเวลาที่พวกมันจะบุกรุกเพื่อที่พวกเราจะเตรียมตัวให้พร้อม”

>

4. การรอคอย “ผู้ถูกเลือก”

เคนตะมองเคชิอย่างลึกซึ้ง “แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าเราคือ ‘ผู้ถูกเลือก’?”

เคชิหันไปมองหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังนั่งเย็บผ้าอยู่มุมห้อง “ป้าซาเอะ...เธอคือ หมอผีเฒ่า คนสุดท้ายของตระกูลที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มานานหลายสิบปี”

หญิงชราคนนั้นเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้โบราณ

> ป้าซาเอะ: “เมื่อประตูมิติเปิดออก ข้าก็รู้ทันที...ข้ารับรู้ถึง โชคชะตาที่ผูกพัน กับสถานที่นี้”

> ป้าซาเอะ: “ข้าเห็นในนิมิตว่า จะมี นักรบแห่งอาคม (เคนตะ) และ ผู้รวบรวมพลัง (คาซิมิ) เดินทางมายังที่แห่งนี้ เพื่อ ผนึกรากฐานแห่งปีศาจ ด้วยผ้ายันต์ทั้งห้าผืน”

>

คาซิมิมองไปที่เคนตะ “พวกเขาเชื่อในสิ่งที่เราทำเคนตะ”

คำเตือนและคำแนะนำ

เคนตะยกผ้ายันต์แห่งดินออกมาให้เคชิและป้าซาเอะดู “เราได้ผ้ายันต์ผืนแรกมาแล้ว คือผ้ายันต์แห่งดิน ตอนนี้เรากำลังตามหา ผ้ายันต์แห่งน้ำ ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะอยู่ที่ห้องน้ำรวมหรือสระน้ำบนดาดฟ้า”

ป้าซาเอะมองผ้ายันต์ด้วยความเคารพ “ท่านมาถูกทางแล้ว ผ้ายันต์แห่งน้ำอยู่ที่นั่นจริงๆ...แต่ระวังเถิด”

> ป้าซาเอะ: “ผ้ายันต์แห่งน้ำ ถูกผนึกไว้โดย ราชันย์เงาแห่งสายน้ำ (The Shadow King of the Water) มันไม่ใช่แค่ปีศาจตัวเดียว...มันเป็น ตัวตนที่รวมกัน ของความกลัวและความสกปรกทั้งหมดที่ไหลเวียนอยู่ในระบบท่อน้ำของห้างแห่งนี้”

> ป้าซาเอะ: “และการที่จะไปถึงที่นั่นได้นั้น พวกท่านจะต้องผ่าน ห้องระบบระบายน้ำขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วย อสุรกายจากท่อน้ำ (The Sewer Ghouls) พวกมันเร็วและมีจำนวนนับไม่ถ้วน”

>

เคชิเดินไปที่ผนังห้อง แล้วดึงแผนที่เก่าๆ ของห้างสรรพสินค้าออกมา “ฉันวาดเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดไว้ให้แล้ว มันคือ ท่อระบายอากาศฉุกเฉิน ที่จะพาพวกนายขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้าได้โดยไม่ต้องผ่านทางเดินหลัก”

> เคชิ: “แต่มันแคบและอันตรายมาก! และก่อนที่นายจะไป...เคนตะ! ฉันมีของบางอย่างจะให้”

>

เคชิเดินไปที่มุมห้อง แล้วหยิบ ท่อเหล็กสั้นๆ ที่ถูกดัดแปลง ออกมา มันดูเหมือนกระบองขนาดสั้น

> เคชิ: “มันทำจากเหล็กกล้าที่ใช้ในห้องทำความเย็นของห้าง ฉันใช้พลังอาคมจากป้าซาเอะเคลือบมันไว้เล็กน้อย มันอาจจะไม่เหมือนมีดอาคมของนาย แต่ฉันหวังว่ามันจะช่วย กระจายแรงกระแทก ได้ดีกว่า”

>

เคนตะรับกระบองเหล็กนั้นมา “ขอบคุณมากเคชิ”

ข้อตกลงและคำปฏิญาณ

เคนตะมองไปที่ผู้รอดชีวิตทั้งหมดที่มองพวกเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง เขาเข้าใจถึงภาระอันหนักอึ้งที่อยู่บนบ่าของพวกเขา

“เราจะไปที่ชั้นดาดฟ้า” เคนตะกล่าวด้วยเสียงที่ก้องกังวานและหนักแน่น “เราจะหาผ้ายันต์แห่งน้ำให้ได้ และเราจะกลับมาเพื่อผนึกประตูมิติแห่งนี้อย่างสมบูรณ์”

เขาหันไปมองคาซิมิ “คาซิมิ...เธอไหวไหม?”

คาซิมิยิ้มอย่างมุ่งมั่น “ถึงพลังอาคมของฉันจะเหลือไม่มาก...แต่ฉันจะใช้ ‘นิมิต’ เพื่อนำทางคุณ และฉันจะคอยปกป้องคุณจากทุกสิ่งที่มองไม่เห็นค่ะ”

เคชิและป้าซาเอะมองทั้งคู่อย่างชื่นชม

> เคชิ: “ขอให้โชคดีผู้ถูกเลือก ความหวังของพวกเราอยู่ที่พวกนายแล้ว!”

>

เคนตะและคาซิมิลุกขึ้นยืน พวกเขาเดินทางกลับไปยังบันไดหนีไฟ แล้วเปิดประตูเหล็กบานหนึ่งที่เคชิชี้ให้ดู ประตูนั้นนำไปสู่ ระบบท่อระบายอากาศฉุกเฉิน ที่มืดมิดและคับแคบ

“ถึงเวลาไปหาผ้ายันต์แห่งน้ำแล้วคาซิมิ” เคนตะกล่าว

“ค่ะเคนตะ” คาซิมิกล่าวตอบ

ทั้งคู่คลานเข้าไปในท่อระบายอากาศอย่างระมัดระวัง เพื่อมุ่งหน้าสู่ชั้นดาดฟ้า สถานที่ที่ผ้ายันต์แห่งน้ำถูกซ่อนอยู่ และที่ที่ราชันย์เงาแห่งสายน้ำรอพวกเขาอยู่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

    หลังจากที่เคนตะกำจัดราชันย์แห่งวิญญาณบาปได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็ยืนอยู่หน้า ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ สีทองอร่าม มันลอยอยู่เหนือพื้นเบื้องหน้ารอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ผ้ายันต์ผืนนี้ไม่ได้แผ่พลังธาตุที่รุนแรงเหมือนผืนอื่น แต่มันแผ่ ความสงบและความว่างเปล่า ที่น่าขนลุกออกมาเคนตะเดินเข้าไปใกล้ผ้ายันต์อย่างระมัดระวัง เมื่อเขาแตะมัน พลังอาคมจากผ้ายันต์ทั้งสี่ผืน ที่เขาครอบครองอยู่ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!> เคนตะ: “คาซิมิ...ฉันรู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดกำลัง หลอมรวม กัน! มัน...สมบูรณ์แล้ว!”> ทันใดนั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็เรืองแสงจ้าขึ้น แล้ว เสียงทุ้มลึก ก็ดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา!> เสียงปริศนา: “ยินดีต้อนรับ...ผู้แสวงหาพลังแห่งการผนึก...แต่พลังแห่งวิญญาณนี้...ไม่สามารถถูกนำไปได้โดยง่าย”> การปรากฏตัวของผู้พิทักษ์จากรอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ร่างโปร่งใส ก็ปรากฏตัวขึ้น มันดูเหมือนมนุษย์ แต่ร่างกายของมันหมุนวนราวกับ ฝุ่นดาวและแสง ที่ถูกบิดเบือน!ผู้พิทักษ์: มิธรัส (Mithras - The Guardian of Null)ลักษณะ/ขนาด: ร่างโปร่งแสงที่สูงประมาณ 2 เมตร ไม่มีเพศที่ชัดเจน ร่างกายประกอบด้วยแสงที่สั่นไหว มีดวงตาสองดวงท

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุด

    เคนตะและคาซิมิใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงในการปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า พวกเขาใช้ พลังแห่งลม (ผ้ายันต์ที่ 4) เพื่อเพิ่มความว่องไว และ พลังแห่งเงา (คาซิมิ) เพื่อหลีกเลี่ยงปีศาจที่ลาดตระเวนอยู่ตามทางเมื่อพวกเขามาถึง ห้องควบคุมระบบศูนย์กลาง ที่ชั้นบนสุด พวกเขาก็ต้องหยุดชะงัก ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ถูกทำลายจนหมดสิ้น กลางห้องมี รอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ที่แผ่พลังงานมหาศาลออกมา!และที่ด้านหน้าของรอยแยกมิตินั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็กำลังเรืองแสงอย่างเจิดจ้า!แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไป กลิ่นอายของพลังปีศาจที่รุนแรงที่สุด ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา!“คาซิมิ! ระวัง!” เคนตะคำรามจากเงามืดและซากปรักหักพัง ปีศาจทั้งหมด 15 ตัว ก็พุ่งเข้าล้อมพวกเขาไว้! พวกมันคือ อสุรกายที่ถูกส่งมาโดยตรงจากมิติปีศาจ เพื่อปกป้องผ้ายันต์แห่งวิญญาณ!การปะทะครั้งใหญ่: การหลอมรวมเพื่อเอาชีวิตรอดเคนตะและคาซิมิอยู่กลางวงล้อม ปีศาจ 15 ตัวที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าล้วนมีความสามารถที่ซับซ้อนและแข็งแกร่งกว่าปีศาจตัวก่อนๆ ที่เคยเจอมา> เคนตะ: “คาซิมิ! ใช้ นิมิต หาจุดอ่อนที่ซับซ้อนที่สุดของพวกมัน!

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การฟื้นตัวด้วยแร่รัตนากาล

    ทันทีที่คาซิมิและเคชิกลับมาถึงที่ซ่อน ป้าซาเอะก็เริ่มพิธีรักษาเคนตะทันที ป้าซาเอะใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของเธอเพื่อหลอมรวมแร่รัตนากาลเข้ากับพลังอาคมฟื้นฟูแสงสีทองอ่อนๆ ห่อหุ้มร่างของเคนตะ บาดแผลไฟไหม้ที่แขนของเขาค่อยๆ สมานตัวลงอย่างรวดเร็ว พลังอาคมที่เคยแห้งเหือดก็กลับมาเติมเต็มอีกครั้งในอัตราที่น่าอัศจรรย์หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เคนตะก็ลืมตาขึ้น เขาขยับแขนขวาได้อย่างคล่องแคล่วและรู้สึกแข็งแกร่งกว่าเดิม> เคนตะ: “ฉันรู้สึกดีกว่าที่เคยเป็นมา...นี่คือพลังของแร่รัตนากาลสินะ”> คาซิมิ: “ใช่ค่ะเคนตะ...คุณต้องขอบคุณเคชิและป้าซาเอะ”> เคนตะมองไปที่คาซิมิที่ใบหน้ายังซีดเซียว และเคชิที่เหนื่อยล้า “ขอบคุณมากจริงๆ ฉันจะไม่ทำให้การเสียสละของพวกคุณสูญเปล่า”คำสั่งสุดท้ายก่อนการเดินทางเมื่อเคนตะฟื้นตัวเต็มที่ ป้าซาเอะก็เรียกเขากับคาซิมิมาพบอีกครั้ง> ป้าซาเอะ: “ตอนนี้เจ้ามีพลังอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลเจ้าแล้วเคนตะ และหนูคาซิมิ...ก็มีพลังจิตที่ได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด”> ป้าซาเอะ: “แต่การต่อสู้ที่รอพวกเจ้าอยู่ข้างหน้าคือ การต่อสู้ทางกายภาพที่แท้จริง! ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การรักษาที่วิกฤต

    เคนตะและคาซิมิกลับมาถึงที่ซ่อนของผู้รอดชีวิตในสภาพที่ย่ำแย่ คาซิมิอ่อนล้าจากการใช้พลังอาคมคนเดียว ส่วนเคนตะก็ทรุดหนักจากการบาดเจ็บที่แขนขวาและภาวะพลังงานอาคมพร่องป้าซาเอะรีบเข้าตรวจอาการเคนตะทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด> ป้าซาเอะ: “บาดแผลไฟไหม้ที่แขนขวาของเคนตะลึกมาก...มันไม่ใช่แค่ไฟธรรมดา แต่เป็นการกัดกินของ พลังงานอาคมร้อน ที่ทำลายแกนพลังงานของเขา”> คาซิมิ: “แล้วเราจะทำยังไงดีคะป้าซาเอะ?”> ป้าซาเอะ: “ข้าสามารถเยียวยาบาดแผลภายนอกได้ แต่การซ่อมแซมแกนพลังงานที่เสียหายนั้น...ต้องใช้ แร่รัตนากาล (Chronos Ore)”> แร่รัตนากาลเป็นแร่ในตำนานที่เชื่อกันว่ามีพลังในการฟื้นฟูอาคมบริสุทธิ์และสามารถเร่งการเติบโตของพลังงานอาคมได้> เคชิ: “แร่รัตนากาล...ผมจำได้! มันเป็นแร่ที่ถูกใช้ตกแต่งใน ห้องจัดแสดงอัญมณี ของห้างสรรพสินค้า! มันอยู่ในกล่องนิรภัยเหล็กกล้าที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์!”> ป้าซาเอะ: “ใช่! แต่การจะสกัดแร่นั้นออกมาใช้ได้ ต้องใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของข้า...และเราต้องมีแร่นั้นก่อน”> ทุกคนรู้ดีว่าห้องจัดแสดงอัญมณีเป็นพื้นที่เปิดกว้างและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในห้าง> คาซิมิ: “ฉันจะไปเองค่ะ! ฉันยัง

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   บาดแผลและการล่าถอย

    เคนตะและคาซิมิออกจากห้องเตาหลอมพร้อมกับ ผ้ายันต์แห่งลม ในมือ แม้จะได้รับชัยชนะ แต่เคนตะก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถ่ายโอนพลังป้องกันในช่วงท้ายของการต่อสู้ แขนขวาของเขาถูกไอความร้อนกัดกินจนเป็นรอยไหม้พุพอง และร่างกายของเขาก็อ่อนแรงจากการใช้ธาตุคู่เกินขีดจำกัด“เราต้องกลับไปหาเคชิเดี๋ยวนี้เคนตะ!” คาซิมิกล่าวด้วยความเป็นห่วง เธอพยุงร่างของเคนตะไว้เคนตะกัดฟันแน่น “ฉันไหวคาซิมิ...รีบไปกันเถอะ ก่อนที่ปีศาจตัวอื่นจะได้กลิ่นเลือดของเรา”ทั้งคู่ใช้พลังอาคมที่เหลืออยู่ของคาซิมิสร้าง เกราะพรางตัว (Stealth Cloak) ที่มองไม่เห็นและปราศจากกลิ่น เพื่อพยายามหลบหนีออกจากชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยอันตราย พวกเขาเดินตามทางที่เคชิเคยให้ไว้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลออกไป แต่ปลอดภัยที่สุดกับดักที่คาดไม่ถึงพวกเขาเดินทางผ่านซอกหลืบของโกดังสินค้าที่มืดมิดและเย็นชื้นอย่างเงียบๆ คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ สแกนทุกตารางนิ้วของการเดินทาง เธอรู้ดีว่าในสภาพที่เคนตะบาดเจ็บ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้วเมื่อพวกเขามาถึงทางแยกสุดท้ายก่อนจะถึงทางเข้าลับของที่ซ่อน คาซิมิก็หยุดชะงักทันที!“เคนตะ...หยุดค่ะ” เธอสั่งเสียงกระซิบอย่างตื่นตร

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การเข้าสู่แดนเพลิง

    เคนตะและคาซิมิมาถึงหน้าห้องเตาหลอมที่ลึกที่สุดของห้างสรรพสินค้า ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดอยู่แผ่รังสี ความร้อนที่แผดเผา ออกมาอย่างรุนแรงเคนตะใช้ผ้ายันต์แห่งดิน (ผืนที่ 1) แตะที่ประตูเหล็ก ครืนนน! พลังแห่งดินทำให้ประตูเหล็กเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟและไอร้อน * สภาพแวดล้อม: ห้องโถงนี้ดูเหมือนเป็นโรงงานเก่าที่ถูกทิ้งร้าง มีเตาหลอมขนาดมหึมาสามเตาตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งส่งแสงสีส้มแดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง อากาศร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้และกำมะถัน * เป้าหมาย: ผ้ายันต์แห่งลม (ผืนที่ 4) คาดว่าจะถูกซ่อนอยู่ใน แกนควบคุมความดัน ที่อยู่เหนือเตาหลอมกลาง“ความร้อนสูงมากเคนตะ!” คาซิมิกล่าวพลางใช้มือป้องใบหน้าจากความร้อนเคนตะหยิบผ้ายันต์แห่งน้ำ (ผืนที่ 2) ออกมา เขารวบรวมพลังอาคมแล้วร่าย คาถา ‘ม่านไอน้ำเย็น’ อย่างรวดเร็ว ฟู่! ไอน้ำเย็นก่อตัวเป็นม่านบางๆ รอบตัวพวกเขา ทำให้ความร้อนที่เข้ามาบรรเทาลงได้ชั่วคราว“เราต้องเร็วคาซิมิ! ม่านไอน้ำจะอยู่ได้ไม่นานในความร้อนขนาดนี้!”การต้อนรับของอสุรกายแห่งความร้อนทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในห้องโถง เสียงโหยหวน ก็ดังขึ้นจา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status