หน้าหลัก / แฟนตาซี / 5/B ห้างร้างต้องคำสาป / การเดินทางกลับสู่จุดซ่อนตัว

แชร์

การเดินทางกลับสู่จุดซ่อนตัว

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-31 22:53:19

คาซิมิใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีรวบรวมเทียนไขและเทียนหอมจากชั้นวางจนได้ครบ 99 เล่ม เธอห่อมันรวมกันไว้ในผ้าเก่าๆ ที่พบในแผนก แล้วเริ่มเดินกลับไปยังห้องเก็บของที่ซ่อนเคนตะไว้ การต่อสู้กับผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียนได้ทำให้ร่างกายของเธออ่อนแอถึงขีดสุด การหายใจแต่ละครั้งเป็นไปด้วยความเจ็บปวด และพลังอาคมที่เหลืออยู่ก็แทบจะไม่พอสำหรับการร่ายคาถาป้องกันพื้นฐานเลย

“ต้องเร็ว...ฉันต้องไปให้ถึงเคนตะให้เร็วที่สุด” คาซิมิกระซิบกับตัวเอง พยายามเร่งฝีเท้าที่สั่นเทา

เธอเดินผ่านทางเดินที่เพิ่งจะต่อสู้อย่างดุเดือด เศษแก้วที่แตกกระจาย และซากของชั้นวางที่ล้มลงเป็นเครื่องยืนยันถึงความรุนแรงของการปะทะ เธอเดินผ่านซากของปีศาจลูกสมุนที่ถูกทำลายไปแล้ว และรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองจากทุกซอกมุมของห้างร้างที่กลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง

ขณะที่เธอกำลังเดินผ่านบริเวณที่เคยเป็นร้านเสื้อผ้าชั้นสูง จู่ๆ เท้าของเธอก็เหยียบเข้ากับอะไรบางอย่างที่เย็นและเหนียวเหนอะหนะ ที่พื้น

แคว๊ก!

เสียงนั้นฟังดูน่ารังเกียจเหมือนเหยียบหนังสัตว์ที่เน่าเปื่อย คาซิมิรีบชักเท้าออก แต่ก็สายเกินไป!

ทันใดนั้นเอง! ภาพเบื้องหน้าของเธอก็บิดเบือนไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง!

ผนังห้างที่เคยเป็นคอนกรีตสีเทาพลันเปลี่ยนเป็น ลวดลายที่หมุนวน อย่างรวดเร็ว พื้นที่เคยเป็นกระเบื้องแตกๆ ก็กลายเป็น กระจกนับพันบาน ที่สะท้อนภาพของเธออย่างผิดเพี้ยน ตัวของเธอเองดูเหมือนจะยืดออกและบิดเบี้ยวในภาพสะท้อนเหล่านั้น

“นี่มันอะไรกัน...” คาซิมิยกมือขึ้นกุมศีรษะที่ปวดร้าวอย่างรุนแรง ความจริงและความลวงปะปนกันจนเธอแยกไม่ออก

การปรากฏตัวของปีศาจแห่งการบิดเบือน

ท่ามกลางภาพที่บิดเบือนทั้งหมดนั้น ปีศาจแห่งการบิดเบือน (The Distortion Demon) ก็ปรากฏตัวขึ้น

บอสย่อย: มิลเลอร์เมจ (The Mirror Mage)

ลักษณะ/ขนาด: ปีศาจที่ดูเหมือนเงาของคาซิมิเอง แต่งกายด้วยชุดสีขาวโพลนแทนสีดำ มีรูปร่างผอมบางและสูงกว่าคาซิมิเล็กน้อย ผิวหนังของมันปกคลุมไปด้วยรอยแตกของกระจกเงา

ความสามารถหลัก: สามารถควบคุมและสร้าง ภาพสะท้อนที่บิดเบือน เพื่อโจมตีทางจิตใจและทำให้เหยื่อสูญเสียสัมผัสของความเป็นจริง

“ยินดีต้อนรับสู่โลกของข้า...แม่มดน้อย” เสียงของมิลเลอร์เมจเย็นชาและกังวาน ราวกับเสียงของกระจกที่แตก “เจ้าคิดจะช่วยคนรักของเจ้าด้วยการทิ้งข้าไว้ข้างหลังงั้นหรือ? ไม่ได้หรอก...ข้าจะไม่ยอมให้ความเป็นจริงที่สวยงามนั้นคงอยู่”

ภาพบิดเบือนที่ 1: ความผิดหวัง

ทันใดนั้นเอง ภาพของเคนตะที่สลบอยู่ในห้องเก็บของก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคาซิมิ แต่เคนตะในภาพนั้นไม่ใช่เคนตะที่อ่อนแอ แต่เป็น เคนตะที่ฟื้นคืนชีพอย่างสมบูรณ์ เขายืนอยู่ข้างๆ ผ้ายันต์แห่งดินที่ถูกทำลาย

“ทำไมเธอถึงทิ้งฉันไว้คนเดียวคาซิมิ? ทำไมเธอถึงไม่เชื่อใจในพลังของฉันเลย?” เคนตะในภาพกล่าวด้วยสีหน้าผิดหวังอย่างที่สุด

“ไม่จริง! เคนตะไม่เคยพูดแบบนี้!” คาซิมิร้องออกมา เธอรู้ว่านี่คือภาพลวงตา แต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็เข้ากัดกินหัวใจเธออย่างรุนแรง

มิลเลอร์เมจยิ้มอย่างพึงพอใจ “หึหึ...ความจริงแล้ว...เขาก็แค่เครื่องมือของเจ้าไม่ใช่รึ? เจ้าใช้พลังของเขามาตลอด”

ภาพบิดเบือนที่ 2: ความกลัวในอดีต

ภาพเบื้องหน้าของคาซิมิเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เธอกลับไปอยู่ใน ห้องลับใต้ดิน ที่เธอเคยฝึกอาคมอย่างโดดเดี่ยว เธอมองเห็นตัวเองในวัยเด็กที่กำลังร้องไห้เพราะไม่สามารถควบคุมพลังอาคมได้

“พลังของเจ้ามันไร้ประโยชน์ คาซิมิ!” เสียงเยาะเย้ยของลุงซาโตรุดังก้องขึ้น “เจ้าเป็นแค่หมอผีที่ไม่มีใครต้องการ! เจ้าไม่คู่ควรกับพลังของตระกูล!”

ความกลัวและความไม่มั่นใจในตัวเองที่เคยถูกผนึกไว้ในใจก็ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง คาซิมิทรุดตัวลง น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม

“ไม่...ฉันไม่ใช่คนอ่อนแอคนนั้นแล้ว!” เธอพยายามปฏิเสธ แต่ภาพเหล่านั้นก็รุนแรงเกินกว่าจะต้านทาน

การหาทางออกจากกับดัก

คาซิมิรู้ว่าเธอต้องหาทางออกจากภาพลวงตานี้ให้ได้ก่อนที่จิตใจของเธอจะถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิง เธอพยายามใช้ คาถา ‘นิมิต’ เพื่อมองทะลุภาพลวงตา แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะบิดเบือนไปหมด

“นิมิต...จงเปิดเผยความจริง!” คาซิมิร่ายคาถาด้วยเสียงที่สั่นเครือ

เมื่อเธอใช้ ‘นิมิต’ โลกที่บิดเบี้ยวรอบตัวเธอก็สั่นไหวเล็กน้อย สิ่งที่เธอเห็นด้วยนิมิตไม่ใช่ภาพจริง แต่เป็น พลังงานอาคมที่บิดเบี้ยว เหมือนสายรุ้งที่ผิดเพี้ยน

“เจ้าไม่มีทางหาทางออกได้หรอก!” มิลเลอร์เมจคำราม พลางปล่อยคลื่นพลังงานเงาเข้าใส่คาซิมิ

คาซิมิกลิ้งตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด เธอจำคำสอนของลุงซาโตรุได้: “ปีศาจแห่งภาพลวงตาที่แข็งแกร่งที่สุด มักจะซ่อนจุดอ่อนไว้ในสิ่งที่มันพยายามปกปิดอย่างที่สุด”

“มันไม่ใช่ภาพสะท้อน! มันคือ การบิดเบือนความเป็นจริง!” คาซิมิเริ่มเข้าใจ เธอต้องหา รอยแยก ของพลังงานที่มันสร้างขึ้น

คาซิมิใช้คาถา ‘นิมิต’ อย่างเต็มกำลัง มองไปที่พลังงานที่บิดเบี้ยวของมิลเลอร์เมจ เธอพบว่าพลังงานที่ถูกบิดเบือนนั้นเป็นเหมือนผืนผ้าที่ถูกฉีกขาด มี จุดศูนย์กลางจุดหนึ่ง ที่พลังงานนั้นบิดเบี้ยวรุนแรงกว่าจุดอื่น เหมือนกับเป็น หัวใจของภาพลวงตา ทั้งหมด

“ตรงนั้น!” คาซิมิเห็นจุดนั้นอยู่ไกลออกไปราว 10 เมตร ทางด้านขวามือของเธอ

มิลเลอร์เมจรู้ทัน! มันสร้างภาพลวงตาของ กำแพงเพลิง ขึ้นมาขวางทางคาซิมิ

“อย่าคิดว่าจะหนีพ้น! ไฟแห่งความสิ้นหวังจะเผาผลาญเจ้า!”

คาซิมิไม่มีพลังอาคมเหลือพอที่จะดับไฟ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก! เธอตัดสินใจ พุ่งตัวผ่านกำแพงเพลิง โดยไม่ลังเล

“ฉันจะต้องช่วยเคนตะ!” คาซิมิร้องออกมา

ซู่!

เมื่อเธอพุ่งผ่านกำแพงเพลิง ร่างกายของเธอรู้สึกถึงความร้อนที่รุนแรง แต่เมื่อออกมาอีกด้าน เธอก็พบว่า ไม่มีรอยไหม้ใดๆ บนร่างกายของเธอเลย

“เป็นแค่ภาพลวงตาจริงๆ ด้วย!” คาซิมิเข้าใจ

มิลเลอร์เมจโกรธเกรี้ยว “เจ้ากล้าดียังไงถึงมองข้ามพลังของข้า!”

คาซิมิวิ่งไปยังจุดศูนย์กลางที่เธอเห็นด้วย ‘นิมิต’ พลังงานที่บิดเบี้ยวยังคงรุนแรง แต่เมื่อเธอเข้าใกล้จุดนั้น เธอก็สังเกตเห็นว่า พื้นตรงนั้นมีรอยแตกขนาดเล็ก ที่แสงสว่างจ้าจากโลกภายนอกเล็ดลอดเข้ามาได้

“รอยแยกแห่งความจริง!” คาซิมิรู้ทันที!

จุดอ่อนและการโจมตีสุดท้าย

มิลเลอร์เมจพุ่งเข้ามาหาคาซิมิอย่างรวดเร็ว มันยื่นมือที่เต็มไปด้วยรอยแตกของกระจกออกมาหมายจะคว้าตัวเธอ

“เจ้าต้องอยู่ในโลกของข้าตลอดไป!”

คาซิมิไม่มีเวลาเหลือแล้ว เธอทิ้งถุงเทียนไว้ข้างๆ แล้วคว้ามีดอาคมของเคนตะขึ้นมาอีกครั้ง เธอรวบรวมพลังอาคมที่แสนจะเบาบางของตัวเองไว้ที่ปลายมีด แล้วพุ่งมีดลงไปที่ รอยแตกบนพื้น อย่างสุดแรง!

“สลาย!” คาซิมิกรีดร้องพร้อมกับส่งพลังอาคมที่เหลืออยู่เข้าสู่รอยแตกนั้น

แคว๊ก!

เกิดเสียงดังรุนแรงเหมือนกระจกบานใหญ่นับพันบานแตกออก! พลังงานอาคมที่บิดเบี้ยวทั้งหมดก็พลันสลายไปในทันที!

ภาพบิดเบือนหายไปอย่างรวดเร็ว โลกของห้างสรรพสินค้าที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพังกลับมาอยู่เบื้องหน้าของคาซิมิอีกครั้ง

มิลเลอร์เมจกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ร่างกายที่ทำจากกระจกของมันเริ่มแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และมันก็ถูกดูดกลับเข้าไปในรอยแตกบนพื้น!

“ไม่! ข้าไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!”

คาซิมิไม่รอช้า เธอรีบหยิบขวดกักเก็บวิญญาณขึ้นมาแล้วเปิดปากขวด! ฟุ่บ! วิญญาณของมิลเลอร์เมจถูกกักเก็บอย่างรวดเร็ว

คาซิมิล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงอีกครั้ง แต่ในที่สุด เธอก็ทำลายภาพลวงตาและจัดการปีศาจแห่งการบิดเบือนได้สำเร็จ!

พิธีพลีกรรมแห่งแสง

คาซิมิลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เธอรีบเก็บถุงเทียนแล้ววิ่งไปยังห้องเก็บของที่ซ่อนเคนตะไว้

เมื่อเข้าไปในห้อง เธอก็รู้สึกโล่งใจที่เคนตะยังคงอยู่ในสภาพเดิมตามที่เธอจากมา ม่านอาคมพรางตา ที่เธอสร้างไว้ยังคงทำงานอยู่

คาซิมิวางถุงเทียนลงบนพื้น เธอรีบจัดวางเทียน 99 เล่มเป็นวงกลมขนาดใหญ่สามชั้นตามที่ตำราระบุไว้ การจัดเรียงต้องสมบูรณ์แบบตามหลักอาคมโบราณ

เมื่อจัดวางเทียนเสร็จ เธอก็หยิบมีดอาคมของเคนตะออกมาแล้วร่ายคาถาเพื่อให้ปลายมีดเกิดประกายไฟเล็กๆ เธอใช้ไฟนั้น จุดเทียนทั้ง 99 เล่ม อย่างรวดเร็ว

แสงเทียนสีส้มทองเริ่มส่องสว่างขึ้นทีละดวง ความสว่างไสวของเทียน 99 เล่มได้ขับไล่ความมืดมิดในห้องเก็บของจนหมดสิ้น แสงไฟเหล่านี้ดูอบอุ่นและให้พลังงานอย่างประหลาด

คาซิมิทรุดตัวลงนั่งตรงกลางวงเทียน เธอวางเคนตะไว้ตรงหน้า แล้วเริ่มร่าย คาถาฟื้นฟูชีวิตและจิตวิญญาณขั้นสูง

“อิติปิโส...นฤชา กุติปัญจลือ...” เสียงของเธอแผ่วเบา แต่ก็หนักแน่นด้วยความมุ่งมั่น

พลังอาคมของเธอเริ่มหมุนวนช้าๆ และดึงเอา แสงสว่างจากเทียนทั้ง 99 เล่ม เข้ามาหลอมรวมกัน แสงเทียนสีส้มทองนั้นแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างของเคนตะอย่างต่อเนื่อง การฟื้นฟูนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง

คาซิมิต้องร่ายคาถาต่อเนื่องนานนับชั่วโมง เธอต้องใช้สมาธิอย่างหนักเพื่อควบคุมพลังงานมหาศาลจากแสงเทียนที่กำลังหลอมรวมเข้ากับพลังอาคมของเธอเพื่อไปซ่อมแซม แกนพลังงานอาคม ที่ถูกทำลายของเคนตะ

หลังจากเวลาผ่านไปยาวนาน ในที่สุด แสงเทียนก็เริ่มมอดดับลงทีละดวง คาซิมิร่ายคาถาบทสุดท้ายด้วยเสียงที่อ่อนล้าจนเกือบจะหายไป

เมื่อเทียนเล่มสุดท้ายดับลง! เคนตะก็ลืมตาขึ้น!

“คาซิมิ...” เคนตะเรียกชื่อเธอเสียงแผ่ว ใบหน้าของเขายังคงซีดเซียว แต่ดวงตาของเขากลับมามีประกายแห่งชีวิตชีวาอีกครั้ง

“เคนตะ! คุณฟื้นแล้ว!” คาซิมิปล่อยโฮออกมาด้วยความโล่งใจ เธอโผเข้ากอดเคนตะอย่างแน่นหนา

เคนตะกอดตอบอย่างอ่อนโยน เขารู้สึกถึงพลังอาคมที่ไหลเวียนในตัวอีกครั้ง แม้จะยังไม่เต็มที่ แต่ก็มากพอที่จะใช้ต่อสู้ได้แล้ว

“เธอทำอะไรลงไปคาซิมิ...ฉันรู้สึกได้ว่า...เธอเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยฉัน” เคนตะมองไปยังซากของเทียนไข 99 เล่มที่ดับแล้ว

คาซิมิยิ้มทั้งน้ำตา “เราคือทีมเดียวกันค่ะ...เคนตะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

    หลังจากที่เคนตะกำจัดราชันย์แห่งวิญญาณบาปได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็ยืนอยู่หน้า ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ สีทองอร่าม มันลอยอยู่เหนือพื้นเบื้องหน้ารอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ผ้ายันต์ผืนนี้ไม่ได้แผ่พลังธาตุที่รุนแรงเหมือนผืนอื่น แต่มันแผ่ ความสงบและความว่างเปล่า ที่น่าขนลุกออกมาเคนตะเดินเข้าไปใกล้ผ้ายันต์อย่างระมัดระวัง เมื่อเขาแตะมัน พลังอาคมจากผ้ายันต์ทั้งสี่ผืน ที่เขาครอบครองอยู่ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!> เคนตะ: “คาซิมิ...ฉันรู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดกำลัง หลอมรวม กัน! มัน...สมบูรณ์แล้ว!”> ทันใดนั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็เรืองแสงจ้าขึ้น แล้ว เสียงทุ้มลึก ก็ดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา!> เสียงปริศนา: “ยินดีต้อนรับ...ผู้แสวงหาพลังแห่งการผนึก...แต่พลังแห่งวิญญาณนี้...ไม่สามารถถูกนำไปได้โดยง่าย”> การปรากฏตัวของผู้พิทักษ์จากรอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ร่างโปร่งใส ก็ปรากฏตัวขึ้น มันดูเหมือนมนุษย์ แต่ร่างกายของมันหมุนวนราวกับ ฝุ่นดาวและแสง ที่ถูกบิดเบือน!ผู้พิทักษ์: มิธรัส (Mithras - The Guardian of Null)ลักษณะ/ขนาด: ร่างโปร่งแสงที่สูงประมาณ 2 เมตร ไม่มีเพศที่ชัดเจน ร่างกายประกอบด้วยแสงที่สั่นไหว มีดวงตาสองดวงท

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุด

    เคนตะและคาซิมิใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงในการปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า พวกเขาใช้ พลังแห่งลม (ผ้ายันต์ที่ 4) เพื่อเพิ่มความว่องไว และ พลังแห่งเงา (คาซิมิ) เพื่อหลีกเลี่ยงปีศาจที่ลาดตระเวนอยู่ตามทางเมื่อพวกเขามาถึง ห้องควบคุมระบบศูนย์กลาง ที่ชั้นบนสุด พวกเขาก็ต้องหยุดชะงัก ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ถูกทำลายจนหมดสิ้น กลางห้องมี รอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ที่แผ่พลังงานมหาศาลออกมา!และที่ด้านหน้าของรอยแยกมิตินั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็กำลังเรืองแสงอย่างเจิดจ้า!แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไป กลิ่นอายของพลังปีศาจที่รุนแรงที่สุด ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา!“คาซิมิ! ระวัง!” เคนตะคำรามจากเงามืดและซากปรักหักพัง ปีศาจทั้งหมด 15 ตัว ก็พุ่งเข้าล้อมพวกเขาไว้! พวกมันคือ อสุรกายที่ถูกส่งมาโดยตรงจากมิติปีศาจ เพื่อปกป้องผ้ายันต์แห่งวิญญาณ!การปะทะครั้งใหญ่: การหลอมรวมเพื่อเอาชีวิตรอดเคนตะและคาซิมิอยู่กลางวงล้อม ปีศาจ 15 ตัวที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าล้วนมีความสามารถที่ซับซ้อนและแข็งแกร่งกว่าปีศาจตัวก่อนๆ ที่เคยเจอมา> เคนตะ: “คาซิมิ! ใช้ นิมิต หาจุดอ่อนที่ซับซ้อนที่สุดของพวกมัน!

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การฟื้นตัวด้วยแร่รัตนากาล

    ทันทีที่คาซิมิและเคชิกลับมาถึงที่ซ่อน ป้าซาเอะก็เริ่มพิธีรักษาเคนตะทันที ป้าซาเอะใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของเธอเพื่อหลอมรวมแร่รัตนากาลเข้ากับพลังอาคมฟื้นฟูแสงสีทองอ่อนๆ ห่อหุ้มร่างของเคนตะ บาดแผลไฟไหม้ที่แขนของเขาค่อยๆ สมานตัวลงอย่างรวดเร็ว พลังอาคมที่เคยแห้งเหือดก็กลับมาเติมเต็มอีกครั้งในอัตราที่น่าอัศจรรย์หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เคนตะก็ลืมตาขึ้น เขาขยับแขนขวาได้อย่างคล่องแคล่วและรู้สึกแข็งแกร่งกว่าเดิม> เคนตะ: “ฉันรู้สึกดีกว่าที่เคยเป็นมา...นี่คือพลังของแร่รัตนากาลสินะ”> คาซิมิ: “ใช่ค่ะเคนตะ...คุณต้องขอบคุณเคชิและป้าซาเอะ”> เคนตะมองไปที่คาซิมิที่ใบหน้ายังซีดเซียว และเคชิที่เหนื่อยล้า “ขอบคุณมากจริงๆ ฉันจะไม่ทำให้การเสียสละของพวกคุณสูญเปล่า”คำสั่งสุดท้ายก่อนการเดินทางเมื่อเคนตะฟื้นตัวเต็มที่ ป้าซาเอะก็เรียกเขากับคาซิมิมาพบอีกครั้ง> ป้าซาเอะ: “ตอนนี้เจ้ามีพลังอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลเจ้าแล้วเคนตะ และหนูคาซิมิ...ก็มีพลังจิตที่ได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด”> ป้าซาเอะ: “แต่การต่อสู้ที่รอพวกเจ้าอยู่ข้างหน้าคือ การต่อสู้ทางกายภาพที่แท้จริง! ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การรักษาที่วิกฤต

    เคนตะและคาซิมิกลับมาถึงที่ซ่อนของผู้รอดชีวิตในสภาพที่ย่ำแย่ คาซิมิอ่อนล้าจากการใช้พลังอาคมคนเดียว ส่วนเคนตะก็ทรุดหนักจากการบาดเจ็บที่แขนขวาและภาวะพลังงานอาคมพร่องป้าซาเอะรีบเข้าตรวจอาการเคนตะทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด> ป้าซาเอะ: “บาดแผลไฟไหม้ที่แขนขวาของเคนตะลึกมาก...มันไม่ใช่แค่ไฟธรรมดา แต่เป็นการกัดกินของ พลังงานอาคมร้อน ที่ทำลายแกนพลังงานของเขา”> คาซิมิ: “แล้วเราจะทำยังไงดีคะป้าซาเอะ?”> ป้าซาเอะ: “ข้าสามารถเยียวยาบาดแผลภายนอกได้ แต่การซ่อมแซมแกนพลังงานที่เสียหายนั้น...ต้องใช้ แร่รัตนากาล (Chronos Ore)”> แร่รัตนากาลเป็นแร่ในตำนานที่เชื่อกันว่ามีพลังในการฟื้นฟูอาคมบริสุทธิ์และสามารถเร่งการเติบโตของพลังงานอาคมได้> เคชิ: “แร่รัตนากาล...ผมจำได้! มันเป็นแร่ที่ถูกใช้ตกแต่งใน ห้องจัดแสดงอัญมณี ของห้างสรรพสินค้า! มันอยู่ในกล่องนิรภัยเหล็กกล้าที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์!”> ป้าซาเอะ: “ใช่! แต่การจะสกัดแร่นั้นออกมาใช้ได้ ต้องใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของข้า...และเราต้องมีแร่นั้นก่อน”> ทุกคนรู้ดีว่าห้องจัดแสดงอัญมณีเป็นพื้นที่เปิดกว้างและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในห้าง> คาซิมิ: “ฉันจะไปเองค่ะ! ฉันยัง

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   บาดแผลและการล่าถอย

    เคนตะและคาซิมิออกจากห้องเตาหลอมพร้อมกับ ผ้ายันต์แห่งลม ในมือ แม้จะได้รับชัยชนะ แต่เคนตะก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถ่ายโอนพลังป้องกันในช่วงท้ายของการต่อสู้ แขนขวาของเขาถูกไอความร้อนกัดกินจนเป็นรอยไหม้พุพอง และร่างกายของเขาก็อ่อนแรงจากการใช้ธาตุคู่เกินขีดจำกัด“เราต้องกลับไปหาเคชิเดี๋ยวนี้เคนตะ!” คาซิมิกล่าวด้วยความเป็นห่วง เธอพยุงร่างของเคนตะไว้เคนตะกัดฟันแน่น “ฉันไหวคาซิมิ...รีบไปกันเถอะ ก่อนที่ปีศาจตัวอื่นจะได้กลิ่นเลือดของเรา”ทั้งคู่ใช้พลังอาคมที่เหลืออยู่ของคาซิมิสร้าง เกราะพรางตัว (Stealth Cloak) ที่มองไม่เห็นและปราศจากกลิ่น เพื่อพยายามหลบหนีออกจากชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยอันตราย พวกเขาเดินตามทางที่เคชิเคยให้ไว้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลออกไป แต่ปลอดภัยที่สุดกับดักที่คาดไม่ถึงพวกเขาเดินทางผ่านซอกหลืบของโกดังสินค้าที่มืดมิดและเย็นชื้นอย่างเงียบๆ คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ สแกนทุกตารางนิ้วของการเดินทาง เธอรู้ดีว่าในสภาพที่เคนตะบาดเจ็บ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้วเมื่อพวกเขามาถึงทางแยกสุดท้ายก่อนจะถึงทางเข้าลับของที่ซ่อน คาซิมิก็หยุดชะงักทันที!“เคนตะ...หยุดค่ะ” เธอสั่งเสียงกระซิบอย่างตื่นตร

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การเข้าสู่แดนเพลิง

    เคนตะและคาซิมิมาถึงหน้าห้องเตาหลอมที่ลึกที่สุดของห้างสรรพสินค้า ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดอยู่แผ่รังสี ความร้อนที่แผดเผา ออกมาอย่างรุนแรงเคนตะใช้ผ้ายันต์แห่งดิน (ผืนที่ 1) แตะที่ประตูเหล็ก ครืนนน! พลังแห่งดินทำให้ประตูเหล็กเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟและไอร้อน * สภาพแวดล้อม: ห้องโถงนี้ดูเหมือนเป็นโรงงานเก่าที่ถูกทิ้งร้าง มีเตาหลอมขนาดมหึมาสามเตาตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งส่งแสงสีส้มแดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง อากาศร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้และกำมะถัน * เป้าหมาย: ผ้ายันต์แห่งลม (ผืนที่ 4) คาดว่าจะถูกซ่อนอยู่ใน แกนควบคุมความดัน ที่อยู่เหนือเตาหลอมกลาง“ความร้อนสูงมากเคนตะ!” คาซิมิกล่าวพลางใช้มือป้องใบหน้าจากความร้อนเคนตะหยิบผ้ายันต์แห่งน้ำ (ผืนที่ 2) ออกมา เขารวบรวมพลังอาคมแล้วร่าย คาถา ‘ม่านไอน้ำเย็น’ อย่างรวดเร็ว ฟู่! ไอน้ำเย็นก่อตัวเป็นม่านบางๆ รอบตัวพวกเขา ทำให้ความร้อนที่เข้ามาบรรเทาลงได้ชั่วคราว“เราต้องเร็วคาซิมิ! ม่านไอน้ำจะอยู่ได้ไม่นานในความร้อนขนาดนี้!”การต้อนรับของอสุรกายแห่งความร้อนทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในห้องโถง เสียงโหยหวน ก็ดังขึ้นจา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status